.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :17/8/2009
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :20/8/2018
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :1926447
เข้าสู่เว็บ sabuyjaishop.com
เข้าสู่เว็บhttp://www.sabuyjaishop.com/shop/magic-ibeauty/default.aspx?page=product&url=magic-ibeauty&category=
ไม่อยากแก่(ก่อนวัย)
บทความ ณ. วันที่ : 22/10/2010        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 2579 ครั้ง   

 

 

แสงแดดที่เราสัมผัสกันเป็นประจำอยู่ทุกวันนี้ประกอบด้วย

 

 

 

  1. รังสีอัลตราไวโอเลต (UVA) เป็นรังสีสำคัญที่ทำให้เกิดการ สร้างเม็ดสีของผิวหนังมากขึ้น
  2. รังสีอัลตราไวโอเลตบี (UVB) เป็นรังสีที่มีพลังงานสูง ทำให้เกิด การไหม้ของผิวหนัง ความเข้มของรังสี จะขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างดวงอาทิตย์และพื้นโลก
  3. รังสีอินฟาเรด (infrared) เป็นรังสีที่ให้พลังงานความร้อน
  4. แสงที่ช่วยในการมองเห็น (visible light) เป็นแสงสว่างที่ทำให้ เกิดการมองเห็น

 

 

แสงแดดนี้อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือเป็นปัจจัยเสริมทำให้ภาวะ ของโรคบางอย่างทางผิวหนังกำเริบขึ้นได้ดังนี้

 

  1. มะเร็งผิวหนัง
  2. ฝ้า, กระ
  3. กลากน้ำนม
  4. ริ้วรอยเหี่ยวย่น
  5. โรคไวต่อแสงแดด เช่น โรคเอสแอลอี (S.L.E.)
  6. เริม
  7. สิว ฯลฯ

 

 

 

ในที่นี้จะกล่าวถึงเรื่องของ ริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร และฝ้า กระ จุดด่างดำที่ไม่พึงประสงค์

 

 

 

โฟโต้เอจจิ้ง (Photoaging)

 

 

 

คือ สภาพผิวที่ถูกทำลาย โดยรังสีอัลตราไวโอเลต เนื่องมาจากถูกแสงแดดบ่อย ๆ วันละเล็กน้อย เป็นเวลานาน ๆ หลายปี ซึ่งแสงแดดนี้จะค่อย ๆ ทำลายเซลล์ผิวหนัง และเนื้อเยื่อคอลลาเจน จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในผิว ทำให้สูญเสียการจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ และสามารถสังเกตเห็นได้จากลักษณะภายนอกผิวดังนี้

 

  1. จุดกระดำ สีน้ำตาลเข้ม (mottled hyperpigmentation)
  2. ริ้วรอยเหี่ยวย่น (wrinkles)
  3. ผิวหยาบกระด้าง (roughness)
  4. ผิวหย่อนยาน (laxity)

 

 

ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้ จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนจากบริเวณที่โดน แสงแดดบ่อย ๆ เช่น ใบหน้า, คอ, แขนด้านนอก, หลังมือ เป็นต้น เชื่อว่าท่านผู้อ่านทุกท่าน คงไม่มีใครอยากแก่ก่อนวัยอันควรทั้งนั้นนะคะ แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีนะ

 

 

 

ข้อแนะนำ

 

  1. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด ในช่วงเวลากลางวัน 11.00-14.00 น. เพราะช่วงเวลานี้แสงแดดจะมีความเข้มสูง
  2. ถ้าหลีกเลี่ยงแสงแดดไม่ได้ ให้สวมใส่เสื้อผ้าแขนยาว ใส่หมวก ถือร่มบังแดด สวมใส่แว่นตากันแดด ที่สามารถกรองแสงอัลตราไวโอเลตได้
  3. ทายากันแดด ที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป ทุกวันก่อนตากแดด ถ้า แพ้ยากันแดด ควรปรึกษาแพทย์

 

 

 

วิธีการรักษา

 

 

 

1. การลอกหน้า

 

 

 

สมัยก่อนนี้ นิยมการลอกหน้ากันมาก เรียกว่าเป็นแฟชั่นกัน เลยนะคะ แบบเดียวกับที่เรียกว่า ทำเบบี้เฟซ ซึ่งการลอกหน้าด้วยกรดนี้ ถ้าไม่ได้ทำโดยแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญแล้ว อาจจะเกิดผลเสียได้ กลายเป็นหน้าไหม้ ยับเยินแทนที่จะเป็นเบบี้เฟซก็กลายเป็นโอลเดอร์เฟซแทนได้ ต้องระวังให้ดี นะคะ

 

 

 

2. การทายากลุ่มกรดผลไม้

 

 

 

ปัจจุบันจะมียาทา ครีม เครื่องสำอาง นิยมใส่กรดผลไม้ที่เรียก AHA (alpha hydroxy acid) ซึ่งช่วยให้ผิวดูสวยสดใสเปล่งปลั่ง นิ่มนวลขึ้น เพราะกรดผลไม้นี้ จะไปช่วยเร่งการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังชั้นนอก แต่ในแง่ของการลบริ้วรอยเหี่ยวย่น จะต้องใช้เวลานานมาก อาจเห็นผลได้ไม่ชัดเจน

 

 

 

3. การทายากลุ่มกรดวิตามิน เอ

 

 

 

ยากลุ่มนี้ คือ ตัวยา เทรทิโนอิน (tretinoin) มีใช้กันมานานแล้ว สมัยก่อนมีชื่อการค้าว่า เรติน เอ (Retin-A) แต่ปัจจุบันมียาตัวใหม่ ซึ่งกำลังมาแรง และทำท่าว่าจะจ๊าบกว่าตัวเก่า มีชื่อทางการค้าว่า รีโนวา (Renova) ซึ่งประกอบด้วยตัวยา เทรทิโนอิน (tretinoin) สามารถให้ผลการรักษาจากภายในโครงสร้างผิวหนังชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการอาหาร และยาประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าสามารถใช้ในการรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น ตีนกา ผิวหนังหยาบกระด้าง และจุดกระสีดำ น้ำตาล ที่เกิดจากแสงแดดได้ผล แต่ทั้งนี้ต้องใช้ระยะเวลา ต้องมีความอดทน อาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 เดือน จึงจะเห็นผลในการรักษา ช่วงระยะแรกอาจเกิดการระคายเคืองบ้างเล็กน้อย ผิวอาจแดงลอกเล็กน้อย แต่จะเป็นเพียงชั่วคราว

 

 

 

                สนับสนุนบทความดี ..ดี www.magic-ibeauty.com