ล่าหัวใจ เขียนโดย "นภาลัย ไผ่สีทอง" (อารัมภบท ) พ่อของหล่อนขโมยสินค้านับล้านมาจากเขา.. ตัวหล่อนจึงถูกยึดไว้เป็นประกัน..เขา.. ไม่เพียงแต่จะตามล่าของที่สูญหายไปเท่านั้น..แต่เขาตามล่าหาหัวใจของหล่อนด้วย...... ตอนที่ 1 "เร็วเข้าครับคุณแก้ว.....เราไม่มีเวลามากนัก..." เสียงเตือนเบา ๆ มาข้างหลังทำให้รวงแก้วรีบยกมือทำความเคารพซีสเตอร์ผู้ดูแลหอพักนักเรียนแห่งนั้น ๆ หันมาคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กเดินตามร่างท้วมเตี้ยของ "ลุงเบน" ที่หิ้วกระเป๋าใบใหญ่ลิ่ว ๆ ไปแล้ว..... พ่อของหล่อนรออย่ในรถข้างนอก..หลังจากพบแม่อธิการหรือครูใหญ่ของโรงเรียนที่รวงแก้วใช้เวลาเรียนมาถึงสิบสองปีเรียบร้อย รวงแก้วเข้าเรียนตอนเข้าเกณฑ์ 7 ขวบพอดี กว่าจะจบชั้นเตรียมอุดมหรือมอหกในปัจจุบันก็ปาเข้าไปเกือบสิบเก้า กำแพงและระเบียบอันเข้มงวดมาตลอดกับเด็กค่อนข้างเงียบขรึมอย่างรวงแก้วไปกันได้ดี พ่อมาให้รวงแก้วเห็นหน้าปีละครั้งได้กระมัง...แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไป...... รวงแก้วจึงคุ้นเคยกับ " ลุงเบน " มากที่สุด... ลุงเบนเป็นทั้งคนสนิทของพ่อและเพื่อนของรวงแก้ว มาคราวนี้.... พ่อต้องการพารวงแก้วไปด้วย เพราะไม่มีชั้นเรียนจะให้รวงแก้วเรียนต่ออีกแล้ว.....ซีสเตอร์ประจำหอพักซึ่งรักรวงแก้วเหมือนลูกชักชวนให้รวงแก้วไปสอบเอ็นทรานซ์ต่อ เพราะรวงแก้วหัวดี แต่ พ่อ กลับปฏิเสธที่จะให้รวงแก้วเรียนในเมืองไทย....พ่อ บอกรวงแก้วว่า " ไปต่อนอกกันเถอะลูก คราวนี้พ่อจะอยู่กับแก้วตลอดเวลาไม่ทิ้งให้แก้วเหงาอีกต่อไปแล้ว " รวงแก้วเชื่อว่าพ่อจะพอรวงแก้วไปนอกแน่... แต่ไม่เคยเชื่อเลยว่าพ่อจะไม่ทิ้งให้รวงแก้วเหงาอีกต่อไป เพราะพ่อ พูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว... ก็ไม่เคยเป็นไปได้สักครั้ง รวงแก้วจำได้ว่าพ่อพูดครั้งแรก เมื่อ รวงแก้ว อายุสิบขวบ...พูดครั้งต่อมาเมื่อรวงแก้วอายุสิบสอง... และพูดอีกครั้งตอนวันเกิดของรวงแก้วครบสิบห้า และก็ตอนอายุสิบเจ็ดจนรวงแก้วไม่อยากเชื่อพ่อแล้ว รวงแก้วสวยเหมือนแม่..... พ่อบอกอีกเหมือนกัน... รวงแก้วสูงโปร่ง...บอบบาง..... ผิวสีชมพู.. ผมดำขลับยาวสยายที่รวงแก้วมักจะถักเปียเอาไว้เสมอจนเคยชิน จากเปียสองข้าง.. ก็เหลือเพียงเปียด้านหลัง...เปิดดวงหน้ารูปไข่ขายผ่อง.. อวดคิ้วเรียวโค้งราวกับวงพระจันทร์... จมูกโด่งงามกระจุ๋มกระจิ๋มและริมฝีปากสีชมพูเต็มอิ่มสีแดงจัดโดยไม่ต้องอาศัยลิปสติก...เคยมีซีสเตอร์หลายท่านคิดว่ารวงแก้วทาปาก แต่พอเช็ดเข้าจริง ๆ ก็ไม่มีอะไรติดออกมาเลย.. หนำซ้ำยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งแดงยิ่งขึ้น... แม่อธิการเคยมองรวงแก้วอยู่นาน... แล้วพูดเปรยว่ารวงแก้วเหมือนเทพธิดาที่จุติลงมาจากสวรรค์สวยสดงดงามและบริสุทธิ์ผุดผ่องราวหยาดน้ำค้าง.... ครูทุกคนในคอนแวนต์รักรวงแก้ว...... เพราะรู้ว่ารวงแก้วไม่มีใคร... และอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่รวงแก้วจากไป...ทุกคนจึงพร้อมใจกันมาส่งและให้ปัจฉิมโอวาทโดยทั่วถึงกัน พ่อ มองดูรวงแก้วเดิมมาขึ้นรถด้วยสายตาระแวดระวังตามเคย.... และรวงแก้วก็เคยชินกับท่าทางแบบนี้ของพ่อเสียแล้ว... สาวน้อยเดินขึ้นไปนั่งคู่กับลุงเบนด้านหลัง ขณะที่พ่อนั่งคู่กับคนขับทางด้านหน้า เมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่ออก..รวงแก้วต้องหันไปมองรั้วโรงเรียนที่ให้แต่ความรักและความอบอุ่นมาตลอดอย่างอาวรณ์.... ถึงรวงแก้ว จะขาดแม่.... แต่ซีสเตอร์ทุกคนก็ทำตัวเหมือนแม่ของรวงแก้ว ต่อจากนี้ไป...จะไม่มีใครคอยแนะนำตักเตือนให้รวงแก้วละสิ่งไม่ดีและไขว่คว้าแต่สิ่งดีงามอีกต่อไปแล้ว อนาคตในภายหน้าของรวงแก้ว..อยู่ในมือของรวงแก้วเอง...และโชคชะตาอันไม่แน่นอนจะพาไป... ชั่วขณะที่รวงแก้วมองอาคารเรียนและหอนอนที่เริ่มลดต่ำลงกลายเป็นจุดเล็ก ๆ น้ำตาใส ๆ ..ก็เอ่อขึ้นมาล้นขอบตา ลุงเบนดึงผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดขึ้นมาส่งให้รวงแก้วตามเคย... และรวงแก้วก็รับมันมาเช็ดน้ำมูกน้ำตาอย่างที่เคยทำมาทุกครั้งที่เห็นหน้าต้องจากกันเช่นกัน..... " นั่นเป็นความทรงจำที่ดี่...และประทับใจที่สุดนะคุณแก้ว... จะจำไว้จนตายก็คงไม่เป็นไร " ลุงเบนพูดราวกับรู้ใจ รวงแก้วพยักหน้าแล้วหันตัวกลับมาตามเดิม... มองพ่อ... แล้วก็เปลี่ยนสายตาออกำปสำรวจธรรมชาติและบรรยากาศภายนอกรถ... พ่อจะพารวงแก้วไปไหน... รวงแก้วไม่อยากรู้..เพราะสภาพจิตใจของรวงแก้วตอนนี้เป็นเด็กกำลังพลัดบ้านช่องพลัดที่อยู่อาศัยอันอบอุ่นมาตลอดไม่มีผิด... รถคันนั้นพารวงแก้วค่อย ๆ ผ่านการจราจรอันแออัดของเมืองหลวงออกไปเรื่อย ๆ จากชั่วโมง.. เป็นสอง... และสามต่อกันไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีใครสนใจจะสั่งให้หยุดรถ หรือลงไปเดินยืดแข้งยืดขาหรือแม้แต่พักรับประทานอาหาร... กล่องอาหารสำเร็จรูปเล็ก ๆ ถูกส่งมาถึงมือรวงแก้ว แล้วตามมาด้วยแก้วน้ำ... ทุกคนได้เหมือนกันหมด.. ยกเว้นคนขับซึ่งต้องขับรถไปก็จะรับประทานอาหารไปพร้อมกัน การเดินทางครั้งแรกในชีวิตของรวงแก้วเป็นไปอย่างยาวนานจนน่าเบื่อ จากช่วงเย็น ผ่านเข้าเวลาค่ำของราตรีกาล... จนในที่สุดก็ผ่านเข้ามาทิวาของวันใหม่อีกครั้ง รวงแก้วรู้สึกเมื่อยขบไปทั้งตัว...และเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียอย่างบอกไม่ถูกทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย... เพียงแต่นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ มาตลอดเท่านั้น และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องหยุดพัก คนขับเบนหัวรถเข้าไปยังปั้มที่ใกล้ที่สุด..เพื่อเติมน้ำมันรถ รวงแก้วรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำล้างหน้า และทำธุระส่วนตัวเป็นกำลัง " พ่อคะ.. แก้วไปห้องน้ำนะคะ.." หล่อนบอกบิดาพลางก้าวลงมาจากรถ คำรณหันไปมองเบนก็พยักหน้าให้ตามไปเป็นเพื่อน... เรื่องนี้รวงแก้วไม่แปลกใจ.. เพราะไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือลุงเบน...ก็ต่างเป็นบุคคลปลอดภัยสำหรับหล่อนทั้งคู่ ขณะที่รวงแก้วเดินเข้าห้องน้ำ..พนักงานปั้มเติมน้ำมันเสร็จ.. รถเก๋งขนาดใหญ๋สีน้ำเงินก็เลี้ยวพรวดเข้ามาด้วยความเร็ซ.. และเหยียบเบรคดังสนั่น คำรนซึ่งกำลังยืนพิงประตูรถด้านที่นั่งหันขวับไปเบิกตากว้างอย่างตกใจ.. และหมุนตัวเข้ารถอย่างรวดเร็ว " ไป..เร็วที่สุด.." คนขับของเขาทะยานขึ้นรถแล้วสตาร์ทรถออกอย่างรวดเร็วตามคำสั่ง.. เบนซึ่งเดินตามหลังรวงแก้วไปหยุดอยู่หน้าห้องน้ำหมุนตัวกลับมาอย่างตกใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เสียแล้ว รถที่คำรนขึ้นนั่งแล่นพ้นบริเวณนั้นไปแล้วในขณะที่เก๋งสีน้ำเงินคันนั้นแล่นตามไปอย่างกระชั้นชิด.. คนสนิทของคำรนหรี่ตาลง.. หน้าเผือดสีเมื่อเห็นคนที่ถูกทิ้งเอาไว้ถนัดง. หนึ่งในสามนั่น.. กำลังเดินยิ้มเข้ามาหาเขาอย่างใจเย็น ลูกน้องอีกสองคนตามหลังมาด้วยท่าทางแบบเดียวกัน..ทุกคนต่างมีอาวุธอยู่ในมือทั้งสิ้นยกเว้นคนแรก ซึ่งยังคงซุกมืออยู่ในอกเสื้อ.. จนกระทั่งเข้ามาหยุดยืนประจัญหน้ากับเบน " แย่จังเบน..เราไม่อยากได้ตัวนายเลย " เบนมองร่างสูงตระหง่านเลยศีรษะเขาไปร่วมสองฟุตจังงังอยู่ชั่วครู่ " คุณมล " เบนพึมพำด้วยเสียงราวกับกระซิบ กมลภพ ถอนใจยาว..ก่อนจะดึงมือออกมาพ้นอกเสื้อ..พร้อมกับคนของเขาอีกสองคนที่จ่อปลายกระบอกปืนเข้ากับขมับของเบน และลงมือค้นไปทั่วร่างเตี้ย ๆนั้น.มีดและปืนของเบนถูกยึดไปจากตัว..ก่อนที่จะถูกผลักเข้าข้างฝาแล้วมัดมือไขว้หลังด้วยเชือกพลาสติก ขณะนั้นเอง..ประตูห้องน้ำก็เปิดออก เบนหันขวับอย่างตกใจ..ปฏิกิริยานั้นทำให้ "คุณมล " มองตามและตะลึงงัน เมื่อเห็นคนที่ก้าวออกมาถนัด รวงแก้วยิ้มหวานกับ ลุงเบน โดยไม่ทันได้มองใคร " ขอโทษนะจ๊ะลุง..แก้วช้าไปหน่อย " หล่อนหลีกเบนเผื่อจะเดินไปยังรถแล้วก็ต้องตกใจ.." พ่อล่ะจ๊ะลุง..พ่อไปไหน.. " ดวงตาคู่สวยของหล่อนบ่งบอกถึงความเดือดร้อนให้เห็นอย่างถนัด.. ขณะที่เบนยืนนิ่ง เพราะถูกปืนกระทุ้งอยู่ข้างหลัง รวงแก้วมองเบนแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อคนสนิทของพ่อถูกประกบด้วยชายหน้าตาน่ากลัวสองคน...มีสายตาเย็นชาอย่างบอกไม่ถูก สาวน้อยเบนสายตาไปยังร่างที่สูงที่เดินตรงมาหาหล่อนเป็นอันดับต่อมา...อะไรบางอย่างในดวงตาคมกริบของคน ๆ นั้น บอกให้รวงแก้วหันหลังวิ่งหนีโดยอัตโนมัติ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าหนีทำไม คนงานปั้ม..สองสามคนต่างยืนตะลึงไม่กล้าขยับ ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งกับปืนมีกระสุนที่จ้องกราดมาทั่วนั่น...ขณะนั้นเอง.. รถเก๋งสีน้ำเงินก็แล่นกลับมาอีกครั้งแทบจะเสยเข้ามาหาร่างบางที่กำลังวิ่งหัวซุกหัวซุนออกมายังทางออก..และเป็นจังหวะให้คนที่ก้าวยาว ๆ ตามาคว้าร่างระหงของหล่อนไว้ได้ทันที.. รวงแก้วกรีดร้องเต็มเสียง..แต่ไม่มีใครได้ยิน เพราะมือใหญ่ของคนที่รั้งเอวหล่อนจนลอยจากพื้นนั้น ตะปบหมับลงมาบนปากทันควัน...เบน ถูกคุมตัวขึ้นนั่งด้านหน้า.. ในขณะที่รวงแก้วถูกลากขึ้นไปด้านหลัง สาวน้อยดิ้นจนสุดฤทธิ์.. เล่นเอาคนที่ลากหล่อนขึ้นรถถึงกับจุ๊ปากอย่างขัดใจ.. ก่อนจะตัดใจเสยหมัดลุ่น ๆ เข้าที่กระโดงคางเล็ก ๆ เป็นการยุติการต่อสู้ดิ้นรนทั้งปวงลง... " เฮ้อ. ค่อยยังชั่วหน่อย " ลูกน้องที่นั่งคู่มาด้วยรำพึงเมื่อเห็นสาวน้อยตัวอ่อนเข้าอิงอกลูกพี่ สายตาของมันกวาดไปตามใบหน้างดงาม และเรือนร่างระหงอย่างพออกพอใจ.."ไม่น่าเชื่อเลยคุณมลว่านายคำรนจะมีลูกสาวสวยขนาดนี้ " "อย่าแตะต้องเธอนะ.." เบนซึ่งนั่งอยู่ทางด้านหน้าห้ามออกมาเสียงเข้ม "ปล่อยเธอไปเถอะคุณมล..คุณแก้วเธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วย..เธออยู่แต่ในโรงเรียน..ไม่รู้หรอกว่าพ่อทำอะไรมั่ง" " แล้วพาออกมาที่นี่น่ะเรียนจบแล้วหรือ " กมลภพถามเรื่อย ๆ ขณะหลบเปลือกตามองคนในอ้อมแขน " จบแล้ว กรุณาเถอะคุณมล ปล่อยเธอไปเถอะ " น้ำเสียงของเบนเจือวิงวอนอย่างที่ไม่มีใครเคยได้ยิน... ทุกคนรู้จักคำรน..และทุกคนก็รู้จักเบนดี คำรน..กะล่อน..ปลิ้นปล้อนขนาดไหน..ทุกคนรู้พอกับที่รู้นิสัยเบนเช่นเดียวกัน...เบนเป็นผู้เคร่งขรึมไม่ยอมก้มหัวให้ใคร..แม้เขาจะตัวเล็ก..แต่ทุกคนก็รู้ว่าเบนนั้นเล็กพริกขี้หนู คนที่ปรามาสเขา..แสบมาหลายคนแล้ว.... แต่เบน ก็ยังให้เกียรติ คุณมล และเชื่อว่าเขาคือผู้ที่จะชี้ชะตา รวงแก้ว ได้..แม้ กมลภพ จะไม่ใช่ " นาย " แต่ "นาย " ก็เกรงใจอยู่มาก.. จนทุกคนที่ร่วมงานต่างรู้โดยทั่วถึงกัน "คุณมล" สั่งอย่างไหน.. "นาย" ..มักไม่ขัด... เช่นเดียวกับที่ "นาย" ว่ายังไง ..คุณมล..ก็มักทำจนสำเร็จเรียบร้อยไปด้วยดีเสมอ ...เรียกได้ว่า คุณมล ต้องพึ่ง นาย และนายก็ต้องพึ่งคุณมล คำรนและเบนคือผู้ที่ผ่านเข้ามาร่วมงาน ด้วยและฉกฉวยเอาสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ไป.. ดังนั้น นาย จึงให้ คุณมล ตามเอากลับมาทั้งคน และ ของ อันหมายถึงเงินมูลค่านับล้าน ๆ ชายหนุ่ม ปรายตามองลูกน้องที่เลื่อนมือขึ้นไปแตะปลีน่องขาวสะอาดของหล่อนด้วยสายตาดุ ๆ เจ้านั่นสบตากับลูกพี่แล้วก็ยิ้มแหะ ๆ ก่อนจะรามือไปทันที เขาถอนใจยาว..ขยับตัวให้มั่นคงขึ้นเพื่อให้ หล่อนอิงได้เต็มที่..ขณะที่มืออุ่น ๆ ไล้ไปตามต้นแขนขาวนวลนุ่มนิ่มอย่างเผลอไผล " นายคำรนจะไปไหน " เขาถามเสียงเรียบต่อไป..โดยไม่สนใจกับคำขอร้องของอีกฝ่ายสักนิด... " ปล่อยเธอไป..แล้วผมจะบอก " เบนเกี่ยงงอนเพื่อแลกเปลี่ยน... "นายคงไม่คิดให้เราทำโง่ ๆ แบบนั้นจริง ๆ ไม่ใช่หรือเบน.. " คุณมลพูดต่อ แล้วยกมือข้างที่โอบต้นแขนหล่อนขึ้นไล่ลูกผมเล็ก ๆ ที่ปลิวมาติดข้างแก้มบางใสนั้นไปให้พ้น..เปียผมของหล่อนพาดไปตามลำแขนแข็งแรงเป็นมัดกล้ามตึงแน่นของเขา ปลายนิ้วของชายหนุ่ม..ไต่ไปตามผมที่ถักมัดกันแน่น ขณะที่ดวงตาคมกริบจ้องไปยังกระจกส่องหลังหน้ารถ..เพื่อมองเบนด้วยสายตานิ่งแน่ว และเอาจริง " บอกมาดีกว่า คำรนไปไหน " เบนเงียบกริบ ซึ่ง คุณมล ก็รู้ว่าถึงจะเอาใบมืดเชือดคอเบนก็จะไม่พูด " นายบอกว่าเธอพึ่งออกมาจากโรงเรียนไม่ใช่หรือ " เขาเปลี่ยนเรื่อง "นายคงไม่อยากให้นักเรียนคนสวยนี่ตกใจถ้าฉันจะโยนเธอลงไปในบ่อหนูหรอกใช่ไหม " "บ่อ หนู " คือที่ ๆ ทุกคนรู้จักดี มันคือที่ชุมนุมของหนูตัวโต ๆ ที่อ้วนพี เพราะเนื้อมนุษย์และอดโซ เพราะไม่มีเนื้อมนุษย์ "บ่อ หนู " คือที่ลงทัณฑ์ของคนทรยศมากมายจนนับไม่ถ้วน..บางคนก็แค่สั่งสอน.บางคนก็ ตาย ไปเลย "ลองนึกดูนะเบนว่าเนื้อขาว ๆ อย่างนี้..บริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับน้ำค้างกลางหาวแบบนี้ ถ้าโดนหนูมันแทะทั้งตัวนะจะเป็นยังไง" " ผมไม่คิดว่าคุณจะทำ " เบนพูด " ก็อย่าพยายามบังคับเราให้ทำสิเบน.. บอกมาว่าคำรนไปไหน " กมลภพพูด เบนยังเงียบกริบ.. เขาต้องการถ่วงเวลาให้คำรนหนีไปไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ "คุณห่วงคำรนมากกว่าสาวน้อยคนนี้จริง ๆ หรือเบน " คุณมล ถามต่ออย่างใจเย็น.. แล้วก้มลงปรายตามองหน้าเนียนที่ซบอยู่แนบซอกคออย่างครุ่นคิด..สายตาของเขาเบนออกไปนอกหน้าต่างรถ แล้วชายหนุ่มก็สั่งสารถีด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทตามแบบของเขา "จอดโรงแรมที่ใกล้ที่สุด..แห่งแรกที่เห็น " คำสั่งนั้น.เล่นเอาคนฟังตัวเย็นวาบ.. ขณะที่ลูกน้องต่างชายตามองเจ้านายอย่างนึกสนุก..และชักตื่นเต้นไปด้วย..ใคร ๆ ก็รู้ว่า คุณมล มักมีวิธี รีด ความจริงจากใครต่อใครแปลก ๆ เสมอ และคราวนี้ เขาก็กำลังจะเล่นเกมส์ที่ไม่ใครเดาออกอีกตามเคย โรงแรมแห่งแรกที่คนรถมองเห็น.. มองดูแล้วเหมือนเป็นบ้านพักกลาย ๆ มากกว่า..คนที่มาใช้บริการก็ไม่ค่อยมี..และค่อนข้างเงียบเหงา เมื่อรถจอดสนิทและลูกน้องคนหนึ่งลงไปติดต่อ คุณมล หรือ กมลภพ กมลาสน์ ยกมือขึ้นดูนาฬิกา..ครึ่งชั่วโมงแล้ว..ที่คำรนหนีพ้นไปได้ ชายหนุ่มรู้ว่าเบนต้องการถ่วงเวลาให้ถึงที่สุด..และเขาก็ไม่เดือดร้อนกระไรนักเมื่อมีตัวต่อรองอยู่ในมือแบบนี้ ขณะนั้น...สาวน้อยในอ้อมแขน เริ่มรู้สึกตัว..ศีรษะได้รูปที่ซุกเงียบข้างซอกไหล่เขานานาเริ่มขยับออกห่าง กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนร่างระหงระเหยเข้ามากระทบบนปราสาทของคนที่นั่งกอดหล่อนมาหลายเพลา เขาถอนใจยาว..เมื่อรู้ว่าอารมณ์ชนิดหนึ่งกำลังถูกปลุกให้ตื่นตัวโดยไม่ตั้งใจ เรือนร่างนุ่มนิ่ม...หอมกรุ่นกำซาบ..ที่เขารู้ดีว่าใสสะอาดปานน้ำค้างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเคลื่อนไหวเบา ๆ แนบอกกว้าง "พ่อคะ" เสียงพึมพำ ดังออกมาจากริมฝีปากสีเรื่อได้รูปสวย ชายหนุ่มมองเบนนิ่งอย่างลืมตัวไปชั่วขณะ "พ่อคะ..อย่าทิ้งแก้ว" หล่อนพึมพำเบา ๆ และเขาก็ได้ยินชัดเจน..ก่อนที่จะเงียบไปอีก "กรุณาเถอะคุณมล" เบนพูดเบา ๆ มาจากเบาะหน้า "นายจะเอาเปรียบฉันสองอย่างไม่ได้หรอกเบน ต้องเลือกเอาอย่างหนึ่ง" กมลภพตัดบท พร้อมกับสะกดอารมณ์ส่วนตัวลงอย่างรวดเร็ว "ไม่ผู้หญิงคนนี้ก็พ่อของหล่อน " เขาบอกสั้น ๆ พร้อมกับมองดูลูกน้องที่กำลังเดินตรงออกมา "บ้านหลังที่เก้าพี่..ค่อยห่างผู้คนหน่อย" เจ้าคนนั้นบอกทันทีที่โดดขึ้นรถมาพร้อมกับกุญแจบ้าน อึดใจต่อมาคนทั้งหมดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้นกระทัดรัด น่าอยู่ กมลภพสอดแขนเข้าไปใต้ขาพับของหล่อนแล้วช้อนร่างบางออกจากรถด้วยตัวเอง "อย่าคุณมล..อย่าทำอะไรเธอ" เบนส่งเสียงห้าม..ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างถูกใจของเหล่าลูกน้องของกลมภพที่มองตามลูกพี่อย่างพอรู้ใจ "ลูกพี่เขาพาไปกล่อมให้หลับต่อเท่านั้นน่ะลุง..ตื่นเต้นไปได้ " ใครคนหนึ่งขัดคอขึ้น "แล้วก็คงส่งต่อมาถึงพวกเราถ้าหากลุงยังจะปากแข็งมาก ๆ นะ นึกดูให้ดีนา..จะช่วยพ่อหรือช่วยลูกเดี๋ยวมันจะสายเกินแก้" เบนสะบัดตัวเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมเต็มแรง แต่ก็ถูกสกัดไว้ด้วยความแรงพอ ๆ กันจนต้องนั่งลงไปใหม่ "บนนั้นน่ะจะกลายเป็นเรือนหอรอรักแน่ ถ้าลุงยังไม่ยอมพูดน่ะ" ลูกน้องอันธพาลทั้งหลายต่างพากันกระเซ้าเบน เป็นที่สนุกครึกครื้นเมื่อมองลูกพี่พาร่างไม่ได้สติของหญิงสาวขึ้นบันไดหายเข้าไปในห้องนอนที่ถูกเปิดรอไว้แล้ว กมลภพค่อย ๆ วางร่างบางลงบนที่นอนอย่างระวัง..ท่าทางของเขาแม้จะเรื่อยเฉื่อยคุ้นตาลูกน้องอยู่..แต่กิริยาทะนุถนอมสตรีที่ได้มาอย่างไม่คาดคิดทำให้คนมองตามมาพากันยักคิ้วหลิ่วตาให้กันและกัน..แล้วหลีกออกไปเงียบ ๆ "อิจฉาฉิบ..ทำไมเราไม่โชคดีอย่างนี้มั่งวะ " คนหนึ่งบ่นพึมพำ ขณะเดินลงบันไดมา "เฮ้ย..อย่าอิจฉาเขาเลย..เมียเอ็งมันจะฉีกเนื้อเอา" "ก็ ของฟรี..ใครว่าไม่ชอบ " "เอ็งนึกรึว่าของดีขนาดนั้นเจ้านายจะปล่อยไปง่าย ๆ นอกจากกินจนอิ่มแล้วนั่นแหละ..อาจจะเผื่อมาถึงเรามั่งแต่นายมลก็ไม่มีนิสัยแบบนั้น..นังอะไรต่อนังอะไรของนายน่ะให้ท่าจะตายพ่อยังไม่ยอมแตะ.." คงถูกใจเข้าน่ะ....หวงตั้งแต่เห็ฯหน้าเชียว..มึงไม่เห็นเรอะ คนฟังทำท่าถอนใจ..แล้วมองไปยังรถที่จอดอยู่ "ดูท่าทางมันจะยอมเสียเด็กผู้หญิงคนนี้แทนลูกพี่มันจริง ๆ ว่ะ พอหลังแตะความเย็นของที่นอนไม่กี่นาที รวงแก้วก็รู้สึกตัวเต็มที่..หล่อนถอนใจยาว พร้อมกับลืมตาขึ้นอย่างมึนงง แต่พอเห็นใบหน้าเข้มคมของคนที่นั่งมองอยู่ข้าง ๆ สาวน้อยก็พลิกตัวหนีอย่างรวดเร็ว กมลภพมองดูร่างที่ตะเกียกตะกายไปจนมุมหน้าตาตื่นอยู่ที่หัวเตียงแล้วถอนใจแรง เขามองหน้าหล่อนอย่างพินิจพิจารณา ก่อนจะละสายตามาตามช่วงคอระหง..อกอวบงามที่ซ๋อนอยู่ใต้เสื้อไล่ลงมาตามเอวคอดจนถึงช่วงขาขาวเนียนและฝ่าเท้าบอบบางได้รูปงดงาม ชายหนุ่มต้องยอมรับกับตัวเองว่าเขาเห็นผู้หญิงมามากแต่..ผู้หญิงตรงหน้านี้เป็นคนแรกที่ทำให้ตนเองมีความรู้สึกอยากจูบหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าไม่เว้นแม้แต่ตารางนิ้ว..... ดวงตาคมเข้มมองละกลับไปอีก..คราวนี้ผ่านไปตามปลายนิ้วราวลำเทียนไล่ขึ้นไปตามลำแขนกลมกลึงจนถึงดวงตากลมโตที่เขม่นมองมายังเขาอย่างไม่ยอมหลบพร้อมทั้งตั้งท่าราวจะโดดหนีทันทีที่เขาขยับ "คุณเป็นใคร...คะ.." น้ำเสียงของหล่อนหวานใสยาวกับระฆังกังสดาลที่นำแต่ความรู้สึกเยือกเย็น..และแจ่มใสมาให้คนได้ยิน ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวผู้หญิงคนนี้ เพียงแต่มองด้วยตาก็สัมผัสได้กับความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา..ห่างไกลจากมลทินทั้งปวง แล้วเขาจะทำอย่างที่ทุกคนคิดได้ยังไง... ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบคำถามของหล่อนเสียงของลูกน้องก็แว่วขึ้นมาจากข้างล่าง... "ลูกพี่..นายเบนเขาจะพูดด้วยแล้ว" คำบอกเล่านั้นทำให้เขา เบนความสนใจไปจากหล่อนทันที กมลภพลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตนเอง..แล้วถอยห่างจากเตียงไปก้าวหนึ่ง " อย่าพยายามหนีนะคนสวย..มีลูกน้องของฉันรอเธออยู่ข้างล่าง..เขาฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ แน่" เขาตั้งกองขู่เอาไว้..ก่อนจะก้าวยาว ๆ ไปที่ประตูแล้วเปิดออกไป เบน..ถูกลากมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านพอดี.... " ว่าไงเบน" กมลภพเท้ามือกับลูกกรงระเบียงโน้มตัวลงไปถาม " ตามที่เราวางแผนเอาไว้......" เบนว่า "เราจะออกนอกเขตแดนทางรถโดยสารประจำทาง" เขาหยุดเว้นระยะนิดหนึ่ง "นายคำรนเช่ารถรอไว้ที่......" ยังไม่ทันที่เบนจะพูดจบ ร่างระหงของรวงแก้วก็วิ่งพรวดออกมาตะโกนอยู่หน้าห้อง "อย่าบอกเขาลุง " กมลภพหันขวับไปมองหล่อนตาลุกวาบ..... รวงแก้วเห็นดวงตาคู่นั้น แล้วหัวใจแทบหยุดเต้น..ก่อนที่เขาจะหรี่เปลือกตาลงบังมันไว้เกือบครึ่ง..แล้วหันไปสั่งลูกน้องที่ยืนคุมอยู่ห่าง ๆ นั่น "พาเธอเข้าไปข้างใน " "อย่านะลุง..อย่าบอกเขา..เขาจะทำร้ายพ่อ...อย่าบอก" รวงแก้วตะโกนห้ามขณะถูกลากเข้าไปในห้องอย่างไม่ปราณีปราศรัย... กมลภพหันมาหาเบนใหม่.. "พูดให้จบสิเบน " "ไม่มีประโยชน์หรอกคุณมล..ยังไงตอนนี้นายคำรนก็ยังไม่ไปที่นั่น " เบนขัดคอ... "เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว..ในเมื่อลูกสาวซึ่งเป็ฯดวงใจอยู่ที่นายคำรนจะไปไกลได้สักแค่ไหน.. แต่ฉันต้องการรู้จุดนัดพบ" "เราจะไปพบกันที่ปาดัง..." "ตรงไหน..." "คุณปล่อยเธอแล้วผมจะบอก" "ตรงไหนเบน...นายไม่มีสิทธิ์เกี่ยงงอนแล้ว..." เขาตัดบท "ปล่อยเธอเถอะ..." กมลภพไม่ตอบ แต่ถอยหลังห่างจากระเบียงไปทีละก้าว.... เบนก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับส่งเสียงชัดเจน... "คุณไม่มีนิสัยแบบนั้น...อย่าทำคุณแก้ว.." กมลภพไม่ฟังเสียง....เขาหันหลังกลับเดินเข้าไปในห้อง.. แล้วไล่ลูกน้องออกมาพร้อมกับปิดประตูลงกลอน... รวงแก้วถอยหลังกรูดไปติดข้างฝาอีกด้วย......จ้องมองร่างสูงที่เดินเข้ามาใกล้หล่อนทีละก้าวอย่างหวาดกลัว..... ชายหนุ่มยื่นมือไปข้างหน้า...หล่อนก็หลบวูบลอดแขนเขาไป...แต่ไม่พ้นปลายนิ้วของเขาคว้าได้คอเสื้อขอบหล่อน...แล้วกระชากเต็มแรง ผ้าขาดดังแคว่ก..ร่างของรวงแก้วหมุนคว้าง...หล่อนกรีดเสียงร้องกรี๊ดอย่างตกใจสุดขีด เสียงร้องนั้นเงียบลง..เมื่อถูกอุดปากในทันที กมลภพห้ามเสียงร้องของหล่อนด้วยริมฝีปากของเขา ร่างที่หมุนคว้างเข้ามาในอ้อมแขนถูกกอดรัดไว้แนบแน่น ปลายลิ้นอุ่นซ่าน...แซกเข้าไปควานหาความหวานราวมธุรสในริมฝีปากนุ่มอย่างจงใจ...และหมดความควบคุมตนไปชั่วขณะ.. รวงแก้วตกใจ..ระคนกับรู้สึกวาบหวามไปทั่วตัว..ขาดสติจะต่อต้านหรือโต้ตอบไปโดยสิ้นเชิง..ทุกอย่างรวมตัวลอยควับจนคุมไม่ติด "เจ้านาย..เบนบอกว่าร้านไพ่ริมทางรถไฟ.." เสียงตะโกนผ่านประตูของลูกน้องที่ผ่านเข้ามาในหูทำให้ทั้งคู่ตื่นจาภวังค์... กมลภพถอนริมฝีปาก..แล้วมองตามริมฝีปากนุ่มที่แดงแจ้ดขึ้นมาทันตาเห็นและสั่นระริกจนเจ้าของต้องรีบขบเอาไว้ เขามองปาก...แล้วก็มองตาหล่อนเห็ฯแต่แววตื่นตระหนก..และหวาดหวั่นเหมือนนางกวางระแวงภัย..ด้วยความรู้สึกใคร่ปลอบโยน ฝ่ามือใหญ่อบอุ่นถูกยกขึ้นแนบแก้มนวลอย่างบรรจง.... "อยู่เงียบ ๆ .....อย่าดื้อ..ฉันไม่อยากทำร้ายเธอหรือแม้แต่จะทำให้ตกใจ เพราะฉะนั้น..อย่าบังคับให้ฉันทำ" น้ำเสียงของเขาทั้งอ่อนโยนและเฉียบขาด...และรวงแก้วก็หวาดกลัวจนเหลือจะกล่าว ร่างบางระหงสั่นระริกอยู่ในอ้อมแขนจนเขารู้สึกได้ถนัด..มือใสอ่อนปวกเปียก..แข้งขาพาลไม่มีแรงแม้แต่จะทรงตัวยืน...น้ำหนักตัวทั้งหมดของรวงแก้วจึงถ่ายลงไปหาเขาเต็มที่... โดยที่ร่างสูงนั้นไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อยเหมือนกำแพงศิลาแข็งกระด้างไม่มีผิด "คุณมล" เสียงของเบนดังลั่นตามา.. แต่กมลภพไม่สนใจอีกต่อไป สาวน้อยในอ้อมแขนทำให้เขาไม่อยากแยกห่างจากหล่อน...แม้จะไม่คิดทำลายในเวลานี้ แต่กมลภพก็ไม่อาจปล่อยให้คนอื่นรู้ได้.... อะไรบางอย่างในใจทำให้ตัดสินใจสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ทุกคน.....แม้แต่เบน... ปลายนิ้วแข็งแรงเลื่อนไปยังเปียผมของหล่อนกระตุกนิดเดียว..วีลาสติกที่ผูกผมอยู่ก็หลุดตามออกมา.. เรือนผมนุ่มสลวย..คลายตัวของมันเองโดยฉับพลันประกอบกับมือของเขาช่วยด้วย วินาทีต่อมา..มันก็สยายเต็มหลังของหล่อน รวงแก้วยืนตัวแข็ง....กลัวเสียจนร้องไม่ออก..มองเขาอย่างหวาดหวั่นและไม่ไว้ใจขณะที่ชายหนุ่มดึงหล่อนออกไปสุดลำแขนเพื่อพินิจดวงหน้าในกรอบผมยาวสลวยนั่น..ความงามหนึ่งไม่มีสองที่ปรากฏให้เห็นจับตาทำให้กมลภพถึงกับมือสั่น ขณะที่เลื่อนไปสัมผัสปอยผมนุ่มราวใยไหมของหล่อน ร่างสูงเพรียวของเขาเริ่มขยับเดินพิศหล่อนไปทั่วตัว..ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าอีกครั้ง..แล้วถอนใจลึก ๆ ระงับอารมณ์หนุ่ม..เลือดแรงร้อนลงไปอย่างเต็มที่...วิสัยของเขา ไม่ชอบเอเปรียบหรือทำร้ายคนอ่อนแอกว่าอยู่แล้ว ยิ่งเป็นผู้หญิงบอบบางราวจะแตกได้ทุกเมื่อหากหนักมือไปสักนิดอย่างหล่อนเขายิ่งทำไม่ลง..... "คุณ...จะทำอะไรพ่อฉันคะ..." หลังจากยืนเงียบอยู่นาน..รวงแก้วก็ถามขึ้นเบา ๆ "ต้องการของคืนจากเขาเท่านั้น" กมลภพตอบสั้น ๆ ขณะที่ลูบสายตาลงไปตามช่วงสะโพกและปลีน่องของหล่อน "พ่อเอาอะไรไปจากคุณคะ..." "ของสำคัญ.....มีราคามหาศาล....." รวงแก้วเบิกตากว้างอย่างงุนงง...แล้วก็พยักหน้าอย่างพอเข้าใจ "ถ้าพ่อคืนให้คุณ...คุณคงปล่อยเราไปใช่ไหมคะ...." คำถามนี้ อีกฝ่ายไม่ตอบเพราะสายตาจับอยู่ที่ช่วงหลังได้รูปขาวเนียนที่ปรากฏกับตาเพราะเสื้อถูกดึงขาดแล้วเสียครึ่งตัว ดีที่พวงผมยาวของหล่อนบังไว้เสียเกือบครึ่ง...แต่ก็ต้องไม่น่าดูนักหากจะออกไปข้างนอกสภาพนี้ จะพูดว่าไม่น่าดูคงไม่ใช่......แต่จะดึงดูดสายตาใครต่อใครล่ะว่าไม่ถูก สาวน้อยสะดุ้งสุดตัว เมื่อมือของเขาแตะที่ช่วงหลังพร้อมกับมองหาชิ้นผ้าที่ขาดไป....แล้วตัดสินใจถอดแจ็กเก็ตสีดำสนิทของตนเองให้หล่อนสวม... รวงแก้วรับเสื้อมาสวมไว้อย่างงง ๆ และเวลานี้ก็ได้โอกาสสังเกตเขาเงียบ ๆ เช่นกัน.....ผู้ชายที่อยู่กับหล่อนลำพังเวลานี้หน้าตาดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ..หากจะเปรียบกันแล้ว ก็เกือบเป็นผู้ชายในฝันของรวงแก้วเลยก็ได้ รูปร่างของเขาสูงแข็งแรง..ปราดเปรียว...ท่วงท่ามั่นคง...เสื้อตัวในของเขาเป็นเชิ้ตแขนยาวสีขาวตึงแนบไปกับบ่ากว้าง หล่อนมองเห็ฯซองปืนซึ่งคาดเอาไว้ใต้รักแร้..และสายหนังของมันก็ดึงเสื้อให้แนบไปกับอกตึงเห็ฯกล้ามเนื้อบริเวณนั้นถนัด เอวของเขาสอบลง...คาดด้วยเข็มขัดหนังอย่างดีรับกับช่วงสะโพกเพรียว...และช่วงขายาวในกางเกงผ้าเนื้อหนาสีดำสนิท รวงแก้วเกือบสะดุ้ง..กระพริบตาปริบ ๆ เมื่อเขาหันมาสบตาหล่อนอย่างจัง...ก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมองเวลา "คุณยังไม่ตอบฉันเลยค่ะ...ถ้าพ่อเอาของมาคืนคุณจะปล่อยเราไปไหมคะ..." "ให้เขามาพบเราแล้วเอาของมาคืนก่อนดีกว่า..." เขาตัดบท..พร้อมกับรวงแวค่ะย ๆ ขยับตัวอย่างขลาด ๆ "ฉันจะบอกพ่อให้ไงคะ.." ข้อเสนอของหล่อนทำให้เขาถึงกับเลิกคิด้วดำสนิทขึ้นสูงอย่างสงสัย "จะไปบอกยังไงล่ะ " "ก็..คุณปล่อยฉันไป.." กมลภพเกือบยิ้ม..ขณะที่โน้มใบหน้าลงเกือบชิดหน้าหล่อน ริมฝีปากห่างกันไม่ถึงคืบ " ไม่ได้.." เขาตอบก่อนจะฉกหมับเข้าหาปากนุ่มของหล่อนหนัก ๆ อย่างอดใจไม่ไหว รวงแก้วตาโต..โดดหนีไปสามสี่ก้าว..พอเห็นเขายืนมองเฉยไม่ตั้งใจจะตามลวนลามก็หยุด.. "ทำไมล่ะคะ.." หล่อนตั้งสติเพื่อจะถามเขาต่รอทั้ง ๆ ที่ใจหวิว ๆ กับรอยจูบนั้นอย่างบอกไม่ถูก "รอให้พ่อเธอมาหาเราดีกว่า" "พ่อไม่มาหรอกค่ะ" "ทำไม...." ตอนที่ 2 " พ่อคิดว่าฉันอยู่กับลุงเบนต้องปลอดภัยแล้วน่ะสิคะ..พ่อหนีโดยไม่ห่วง... " " ไม่จริงหรอกมั้ง " " จริงค่ะ..ไม่เชื่อถามลุงเบนสิคะ..พ่อไม่มาหรอกพ่อไปแล้วจริง ๆ ..." "เดี๋ยวค่อยถาม.. " เขาว่าพลางดึงบุหรี่ออกมาจุดสูบเพื่อระงับอารมณ์หลายหลากของตนเอง กมลภพไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนเลย...แต่สำหรับหล่อนเขาต้องพยายามห้ามใจไว้อย่างมาก เขาขยับเข้าไปใกล้หล่อน..ขณะที่รวงแก้วทำท่าจะโจนหนี "รู้ไหมว่าเราเข้ามาอยู่ในนี้กันทำไม.." เขาถามสั้น ๆ มองหล่อนอย่างมีความหมาย รวงแก้วมองตาเขา..แก้มแดง..แล้วพยักหน้าหงึกหงัก " คุณ..คงไม่ใจร้ายกับฉันอย่างนั้นไม่ใช่หรือคะ.." "ค่ะ.." รวงแก้วรับคำอย่างลิงโลดและรวดเร็ว "แต่ตอนนี้..... ทุกคนกำลังคิดว่าเราเป็นอะไรกันแล้วและฉันก็ต้องการให้คิดอย่างนั้น.." "ทำไมล่ะคะ" หล่อนถามอ้อมแอ้ม..ไม่กล้าสบตากับเขาด้วยซ้ำ "อย่าถาม" "ค่ะ" หล่อนรับคำอย่างว่าง่าย นึกแต่ว่าเขาไม่ทำอะไรก็บุญโขแล้ว "คราวนี้ก็อยู่ในนี้เงียบ ๆ เดี๋ยวฉันจะออกไปคุยกับเบนข้างนอก..แล้วอย่าพยายามหนีเข้าใจไหม..ฉันห้ามตัวเองได้.. แต่ห้ามคนอื่นไม่ให้รุมเล่นงานเธอไม่ได้นะ..." เขาขู่เอาไว้ก่อน..พลางทอดตามองหน้าใส ๆ ตาแจ๋ว ๆ นั้นอย่างเผลอตัวจนนับครั้งไม่ถ้วนเข้าไปแล้ว... กมลภพยกมือขึ้นดูนาฬิกาอีก..เห็นเป็นเวลาพอสมควรจะเลิกเล่นละครก็ยอมือขึ้นขยี้ผมตัวเองให้ยุ่ง ตาคมกริบเหลือบไปมองดวงตาคู่สวยที่จ้องเขม็งเอียงคอมองเขาอย่างไม่เข้าใจนัก... เปลือกตาชายหนุ่มหรี่ลงบังประกายตาอย่างก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาหล่อน..แล้วใช้แรงที่มีมากกว่ารั้ง ใบหน้านวลเข้าไปหา.แล้วก้มหาจุมพิตริมฝีปากอิ่มแรง ๆ บดเคล้าหนักหน่วงจนรวงแก้วต้องครางเบา ๆ เพราะ เจ็บระบมไปหมด..มือบางพยายามยกขึ้นเพื่อดันเขาไปให้พ้นดูจะไม่มีประโยชน์ และเมื่อได้เริ่ม จะหยุดลงในฉับพลันก็ไม่ได้..ร่างกายจึงถูกกอดรัดเข้าไปหาอกกว้างของเขาอีก..ฝ่ามืออุ่นลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและบ่าไหล่บอบบาง คราวนี้..รวงแก้วกระทำการอย่างหนึ่งเป็ฯการตอบรับสัมผัสของเขาโดยไม่รู้ตัว..เล่นเอากมลภพสะท้านไปทั้งร่างอย่างนึกไม่ถึง..สติขาดผึงไปทันที... เขาหมุนตัวหล่อนลอยขึ้นจากพื้น..วางลงบนเตียงแล้วทางร่างสูงเบียดตามกระชับลงไปอย่างแนบแน่น...พอแผ่นหลังสัมผัสก็งดงามเป็นของผ้าปูที่นอนอเข้าเท่านั้นสาวน้อยก็ดิ้นอีกอักด้วยความกลัวขึ้นมาทันที... "อย่าดิ้นซิ" เขาดุ "ก็อย่าทำอย่างนี้สิคะ..ไหนว่าจะไม่ทำอะไรไงคะ..." "แล้วคิดว่าฉันจะทำอะไร.." "ก็...คุณ....จะ...ปล้ำฉัน.." "ใครบอก.." "อย่างนี้ไม่ใช่อีกหรือคะ.." คำย้อนถามของหล่อนทำเอาคนได้ยินอยากหัวเราะ.. "ยังอีกตั้งนาน...นี่แค่แสดงความ.." กมลภพเงียบกริบไปทันควันเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะพูดอะไร เขามองดวงหน้าที่เงยแหงนอยู่บนที่นอนด้วยสายตาหมกมุ่นก่อนจะใช้ศอกดันตัวเองขึ้นมองหล่อนให้ถนัด... รวงแก้วได้ยินเขาสบถอะไรในลำคอเบา ๆ ก่อนจะสะบัดตัวลุกห่างไปจากหล่อนในทันที.... ประตูห้องถูกเปิดออกแล้วปิดลงในเวลาต่อมา..ปล่อยให้สาวน้อยนั่งมึนงงอยู่กับเหตุการณ์ฉุกละหุก..ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ซึ่งเกิดขึ้นกับตัวหล่อนรวดเร็วจน ตั้งหลักไม่ถูกอยู่เพียงลำพัง.......... เบนเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่ก้าวลงบันไดด้วยประกายตาเจ็บปวด..เคียดแค้นอย่างไม่ปิดบัง กมลภพเห็นดวงตาคู่นั้นแล้วรู้ทันทีว่าเบนเป็นอิสระเมื่อไหร่คงไม่รีรอที่จะเชือดคอเขาแม้แต่วินาที...ชายหนุ่มให้สัญญาณลูกน้องที่นั่งบ้างยืนบ้างอยู่แถวนั้นให้ถอยออกไปห่าง ๆ "อย่าให้ฉันรอดไปได้นะ..." เบนคำราม "ฉันเป็นคนรับผิดชอบนะเบน..ไม่มักง่ายอย่างที่คิด..." กมลภพสวนออกไปทั้ง ๆ ที่เบนยังพูดไม่จบ ..... "เด็กคนนั้นเป็นของฉัน..และฉันจะดูแลเธอเองไม่มีการระเหเร่ร่อนไปเป็นเหยื่อของใครได้อีก..มันเป็ฯการแลกเปลี่ยนด้วยความยุติธรรมแล้วไม่ใช่หรือ..." "คุณแก้วเธอดีเกินไปดีเกินกว่าคนอย่างคุณ.." เบนตวัดเสียงรับมาอย่างฉุนเฉียว.. "เอาอะไรมาวัดล่ะ" กมลภพย้อน "ยังไงมันก็ศายเกินแก้แล้วล่ะ..และข้อสำคัญแกก็ควรรู้นิสัยของ "นาย" ดีนะ..." เมื่อพูดมาถึงเรื่องนี้ทำให้ทุกคนเงียบกริบ ทุกคนรู้ดีว่า "นาย" ชอบ "ผู้หญิง" ขนาดไหนถ้าถูกใจขึ้นมาแล้ว..."นาย" แทบไม่ยอมเว้น.... เบนรู้ดีว่าถ้านายเห็นรวงแก้วเมื่อไหร่..สาวน้อยแสนบริสุทธิ์ผู้นั้นเป็นไม่พ้นมือแน่ แต่เมื่อ "คุณมล" เก็บเอาไว้เอง และเอ่ยปากรับผิดชอบ..ก็ทำให้เบาใจลงได้ประการหนึ่ง แต่กระนั้น เมื่อนึกถึงสิ่งที่ต้องสูญเสียไปโดยไม่ควรที่เบนก็ต้องห่อไหล่ลู่ลงอย่างเสียใจและเสียดายจนบอกไม่ถูก "นายคำรนไปแล้วใช่ไหม.." เขาถามต่อ..ขณะที่เบนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเข้มคมสมชายนั่นเขม็ง "คิดว่าไงล่ะ.." "ไม่ห่วงลูกเลยหรือไง" กมลภพถามต่อ "นายคำรนไม่เคยห่วงใครมานานแล้ว..." "แล้วแกอยู่กับเขาได้ยังไงนะเบน.." เบนไม่ตอบคำถามนี้ "นาน ๆ จะเจอมนุษย์แบบคำรนซะที...ตามธรรมดาหมามันก็ยังรักลูก" กมลภพพึมพำ..แล้วลากเก้าอี้มาคร่อมนั่งวางแขนพาดกับพนักหันหน้าเข้ามาอีกฝ่าย เบนกระพริบตามองบุรุษหนุ่มตรงหน้าอยู่นานราวกับจะถอดเขาออกมาสำรวจทุกชิ้น.. ความคิดอย่างหนึ่งแว่บเข้ามาในสมองของเบนอย่างไม่น่าเชื่อ..บางที..ในอ้อมแขนของกมลภพ รวงแก้วอาจจะปลอดภัยกว่าอยู่กับคำรนเสียด้วยซ้ำ สาวน้อยจะหมดโอกาสเพียงอย่างเดียว คือการได้เรียนต่อและเปิดตากับโลกกว้างสักปีสองปีแล้วก็เริ่มมีครอบครัวอย่างปกติ แต่เส้นทางชีวิตของหล่อนก็หักเหเสียแล้ว พรหมลิขิตผลักดันให้สาวน้อยหลุดเข้าไปอยู่ในมือของกมลภพอย่งไม่คาดคิด และเบนก็รู้จักลูกผู้ชายอย่างเขาพอสมควร.... กมลภพมีอะไรบางอย่างในตัว..แตกต่างกับคนพวกนั้นมานานแล้ว..และเบนก็สังเกตเห็น..เขาเอาจริงเอาจัง.และไม่ใช่คนเหลาะแหละทุกอย่างที่เป็นของกมลภพถูกดูแล..ทะนุถนอม เป็นอย่างดีเสมอและใครจะอาจเอื้อมมาแตะโดยเจ้าของไม่อนุญาติไม่ได้เด็ดขาด และบัดนี้...รวงแก้วก็กลายเป็นของชิ้นนั้นไปแล้ว เบนถอนใจยาวอย่างไม่รู้ตัวโล่งใจ...หรือเสียใจกันแน่...ที่ไม่มีโอกาสช่วยเหลือสาวน้อยได้.... "เราจะไปตามที่นายบอกนะเบน..." "คุณไม่รักษาคำพูด..." เบนต่อว่า "ใครว่า...ฉันให้เวลาแกแล้วต่างหาก... แกจะให้ฉันถอยหลังทั้ง ๆ ที่กำลังเดินหน้า...ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ..." คำพูดของกมลภพมีความหมายล้ำลึก..จนเบนต้องขบกรามโกรธ ๆ ..เขาเองก็เป็นผู้ชายและเข้าใจอารมณ์ผู้ชายด้วยกันดี... "ตอนนี้มีเรื่องเดียว... ต้องตามคำรนให้ทันก่อนคนอื่น..." "หมายความว่าไง" เบนขมวดคิ้ว "แกคงไม่คิดว่านายส่งพวกฉันสี่ห้าคนนี่มาถามเท่านั้นไม่ใช่หรือ..กลุ่มอื่นก็มี...สายอื่นก็มี..ใคร ๆ ก็อยากได้รางวัล.." "คุณคงไม่ตามมา เพราะรางวัลหรอก..." เบนแย้ง "ก็ใช่.. มันเป็นหน้าที่... คำรนขโมยจากฉัน..ฉันก็ต้องตามและขโมยจากคำรนมั่ง...ยุติธรรมดีแล้วนี่น่า" "คุณคิดว่าขโมยคุณแก้วจากคำรนคุ้มหรือ..." คำถามของเบน ทำให้ชายหนุ่มสบตากับเขานิ่งอยู่นาน.... ก่อนจะลุกขึ้นโดยไม่ตอบคำถามนั้น "เราจะไปกันต่อ..." กมลภพตัดบทในที่สุด "แล้วคุณแก้ว..." เบนถามอย่างเป็นห่วง "ไปด้วย...เธอจะช่วยได้มาก ถ้าเจอคำรนจริงไหม.." อีกฝ่ายหันมาตอบแล้วเดินจากไปเงียบ ๆ รวงแก้วเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เดินผ่านเข้ามาในห้องใหม่ด้วยท่าทางระวังตัวเต็มที่ตามเดิม "เราจะไปกันแล้ว.." เขาบอกเมื่อมาหยุดยืนตรงหน้า หญิงสาวเงยหน้ามองเขาแล้วทรงตัวขึ้นช้า ๆ "คุณจะพาฉันไปไหนคะ" "ตามหาพ่อของเธอ..หันหลังมาซิ" รวงแก้วมองเขาอย่างสงสัย..แต่ก็หันหลังให้อย่างลังเล.... เสื้อด้านหลังของหล่อนยังขาดแล่งเหลืออยู่ตรงช่วงต่อเอวพาดลงมาตามชายกระโปรงเป็นหาง..... ชายหนุ่มจัดการดึงแรง ๆ อีกทีสองทีก็ขาดเสมอกันหมด...เขาจัดชายเสื้อกันลมให้คลุมตะโพกหล่อนโดยเรียบร้อย..แล้วหมุนร่างงามหันเข้าหา ดวงตาคมกริบจ้องนิ่งไปยังใบหน้างดงามอย่างพินิจ.... "เธอชื่อเต็มว่าอะไร" "รวงแก้ว...ค่ะ" "ฉันชื่อกมลภพ...จะเรียกคุณมลอย่างคนอื่นก็ได้" "รู้ไหมว่าสิ่งที่พ่อเธอขโมยจากความรับผิดชอบของฉันไปน่ะมีราคาเท่าไหร่" รวงแก้วส่ายหน้า "มันมีราคานับล้าน...แต่ไม่มีค่าเท่าเธอเลยแม้แต่นิดเดียว" เขาพูดในสิ่งที่รวงแก้วไม่เข้าใจนัก "แต่ถึงยังไง...ฉันก็ต้องตามมันให้เจอ...เราจะต้องเดินทางด้วยกันนับตั้งแต่นี้ไป...กระโปรงที่ฉันทำขาด..จะซื้อให้ใหม่..จะซื้อของจำเป็นให้ด้วย..และขอสัญญาอย่างหนึ่ง.." เขาหยุด..มองหน้าหล่อนนิ่งอยู่อึดใจ "อย่าหนีนะแก้ว.....ได้ยินไหม" เขาห้ามพร้อมกับกุมต้นแขนหล่อน..เอาไว้กระชับ "ถ้าเธอไม่หนี..ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรพ่อเธอเลย...ถ้าหาเขาพบ..แต่ถ้าเธอหนี.." เขาหยุด เว้นระยะให้รวงแก้วคิดเอาเอง สาวน้อยเบิ่งตาโต.ก่อนจะขยับเข้าใกล้เขาแล้วอ้าปากวิงวอน "กรุณาเถอะค่ะ..อย่าทำอะไรพ่อฉัน..ฉันสัญญาค่ะ..สัญญาจะไม่หนีจริง ๆ" "แน่นะ.." "ค่ะ" "ดีมาก" เขาเชยคางหล่อนขึ้นบีบเบา ๆ ก่อนจะหลุบเปลือกตาลงมองริมฝีปากนุ่มที่ยังติดใจอยู่ อาการขืนตัวหนีของหล่อนทำให้เขารู้สึกตัวแล้วถอนใจเฮือก...กมลภพสะบัดศีรษะแรง ๆ บอกไม่ถูกว่าตัวเองเป็นยังไงที่ทำท่าเหมือนจะคุมตัวเองไม่ได้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้หล่อน... "ไปกันเถอะ..." เขาบอกเบา ๆ พร้อมทั้งคว้ามือบางนุ่มนิ่มขึ้นจับจูงให้เดินตาม เบน เงยหน้าขึ้นมองหลานสาวที่ก้าวตามร่างสูงลงมาด้วยสายตาพิจารณา...ผสมความเสียใจอย่างลึกซึ้ง แม้ทุกอย่างดูเผิน ๆ จะไม่ผิดปกติ..แต่ริมฝีปากรวงแก้วที่แดงก่ำ..และบวมนิด ๆ กับปอยผมสลวยที่สยายแผ่เต็มหลังก็บอกให้เบนรู้อยู่กับอก.. เขาอยากจะพุ่งเอาหัวตัวเองชนเสาปูนใกล้ ๆ ให้มันแตกได้เลือดไปนักที่ไม่สามารถปกป้องหล่อนได้ตลอดรอดฝั่ง... กมลภพสบตากับเบนนิดหนึ่งก่อนจะกระชับอุ้งมือนุ่มของหล่อนแน่นขึ้นขณะจับจูงขึ้นนั่งด้านหน้ารถ.....คราวนี้...เบนถูกกระหนาบด้วยลูกน้องของเขาอีกสามคนอยู่ทางด้านหลัง..และรถก็จุได้โดยไม่มีปัญหา คนขับ พารถพุ่งตรงไปยังจุดหมายหลายทางเบื้องหน้าตามคำสั่ง... ในตอนแรก กมลภพก็นั่งตัวตรงดีอยู่ แต่ครู่ใหญ่ ๆ ก็เอนหลังพิงประตูรถ..แล้วสอดแขนเข้าโอบเอวเล็กดึงให้เอนเข้าหาอกกว้าง.......เหมือนจะกอดหล่อนไว้กลาย ๆ เบนมองภาพตรงหน้า...แล้วขมวดคิ้ว..มีความรู้สึกไม่พอใจกึ่งกังขาขึ้นพร้อม ๆ กัน... รวงแก้วโอนอ่อนเข้าหาบุรุษหนุ่มตรงหน้าง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ...ทั้ง ๆ ที่เบนสาบานว่าความรู้สึกของหล่อนที่ควรมีต่อคนทำลายพรหมจรรย์นั้นควรจะแข็งกระด้างและรุนแรงกว่านี้..... เบนคราง..สาวน้อยก็ทอดสายตาข้ามบ่าของเขามองลุงเบนแล้วยิ้มให้อย่างปลอบใจ เบนมองสายตาใสกระจ่างดังเกล็ดแก้ของหล่อนแล้วก็งงไปอีก.. รวงแก้วทำเหมือนกำลังอยู่กับใครที่สามารถไว้ใจได้เต็มที่กระนั้น..หรือเป็นไปได้ไหมว่า..เพราะกมลภพเป็นผู้ชายคนแรกของหล่อน สาวน้อยจึงพยายามจะเกาะเขาเอาไว้แทนพ่อและแทนทุกสิ่งทุกอย่าง หล่อนอาจจะตกใจหรือเสียใจกับสิ่งที่สูญเสียไปอย่างช่วยตัวเองไม่ได้..แต่กมลภพก็ฉลาดพอจะอ่อนโยนและพยายามเอาชนะใจหล่อน เบน ถอนใจยาวเมื่อคิดมาถึงตอนนี้...กมลภพฉลาดเกินกว่าที่เขาจะคาดถึงเสียแล้ว...เพียงไม่กี่ชั่วโมง..เขาใช้เสน่ห์แห่งความเป็นชายชาตรีผูกพันทั้งร่างกายและจิตใจของสาวน้อยไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก้าวต่อไปข้างหน้า... คำรนก็ต้องเข้ามาหาเขาจนได้พูดง่าย ๆ ก็คือกมลภพ กำลังล่อสาวน้อยไว้ด้วยรสสวาทที่หล่อนไม่เคยพานพบ...รอให้พ่อของหล่อนเข้ามาติดกับโดยไม่ต้องตามให้ยาก..... "เราจะต้องหาที่พักให้ปลอดภัยกว่านี้....." คำพูดของกมลภพทำให้คนขับรถเงี่ยหูฟังทันที.... "แวะที่บ้านนะ...เราจะลงที่นั่น" ใคร ๆ ก็รู้ว่าบ้านของกมลภพอยู่ที่ไหน...กระท่อมขนาดใหญ่หุบเขาเตี้ย ๆ ที่กำลังจะผ่านไปนี่เอง เบน เองก็รู้ เพราะเคยทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่ง.. ชายหนุ่มสั่งแล้วก็นั่งเงียบไปอีก...ส่วนรวงแก้วเริ่มง่วง เพราะแอร์เย็นสบาย และรถก็นั่งได้สบายพอควร ชั่วโมงต่อมาหล่อนก็ซบหลับไปกับไหล่ของเขาตลอดทาง.. คนขับ เปลี่ยนหน้าที่กันเป็นระยะความเร็วของรถจึงสม่ำเสมอไปเรื่อยจนเข้าเขตจังหวัด และไม่นานต่อมาก็ถึงอาณาจักรของกมลภพ ทันทีที่ผ่านเข้าไป..เบน ก็เห็นคนปรากฏตัว แล้วเดินกลับหายไป..บ้างก็ยืนอยู่ให้เห็นวอบแวบตลอดเวลา เมื่อเขารู้ว่าใครมา..คนเหล่านั้นก็ถอยกลับไปทำงานตามหน้าที่ "คุณจะขังเราไว้ที่นี่หรือ.." เบนถาม เมื่อรถผ่านกลางหุบเขาตระหง่านเข้าไปจอดหน้าเรือนเตี้ย ๆ แต่กว้างขวางหลังใหญ่ "เปล่า..ฉันจะปล่อยนายไป" คำตอบของกมลภพเล่นเอาเบน งันไปชั่วขณะ... "แก้วอยู่กับฉัน..แต่นายต้องไปกับพวกนี้ไปบอกคำรนว่าให้รีบมาหาฉันเร็ว ๆ " เขาพูดง่าย ๆ สั้น ๆ แต่เบน เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของมันดี..กมลภพยึดเอารวงแก้วเป็นตัวประกันแล้วปล่อยให้เขาไปบอกคำรน... "ไม่จำกัดเวลาเลยเบน...นานเท่าไหร่..ตามใจแก" เขาเกทับอย่างใจป้ำ ขณะสบตาคมกริบกับดวงตาขุ่นมัวของเบน "ระวังแล้วกันว่า ถ้าคนอื่นมันเจอ..จะยุ่ง..ค่าหัวแกกับคำรนตอนนี้เป็นล้าน.." "น่าเสียดายที่คุณไม่เอาไว้เอง.." เบนประชด ขณะที่กมลภพนิ่งเฉยอยู่เป็นนานอย่างไม่อยากปลุกคนในอ้อมแขนให้ตื่นเลยสักนิด..เขามองหล่อนแล้วตอบว่า "ฉันได้ที่มีค่ากว่านั้นแล้ว...." คำตอบของผู้อ่อนวัยกว่าเล่นเอาเบนเงียบกริบ กมลภพหันไปสั่งคนของเขา "พาเบนไปตามหานายคำรนแล้วระวังตัวให้ดีทุกคน..ที่แกกำลังพาไปด้วยนี่ไม่ใช่หมาแก่ ๆ แต่เป็นเสือเฒ่าทีเดียว" คำเตือนของเขาบอกให้เป็นที่รู้ว่ากมลภพไม่เคยปรามาสเขาเลย..... "ขอพูดกับคุณแก้วสักหน่อยเถอะ" เบนวางไพ่ใบสุดท้าย..แต่กมลภพส่ายหน้าทันที "เสียใจ" ประตูรถของเขาถูกเปิดออกแล้วชายหนุ่มก็อุ้มหล่อนออกไปนอกรถแทนที่จะปลุกให้รู้สึกตัว แล้วพยักหน้าให้คนรถถอยรถออกไปทันที เบน พยายามมองตาม..แต่ถูกสะกัดไว้อย่างมั่นคง รวงแก้วตื่นขึ้น..เงยหน้าขึ้นมองเขา..แล้วก็ขยับตัว กมลภพ วางหล่อนลงพื้นแล้วสอดปลายนิ้วหัวแม่มือเข้าเกี่ยวกระเป๋ากางเกงมองดูรถที่ถูกถอยออกไป...รวงแก้วมองตามอย่างงุนงงในตอนแรกก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร... "ลุงเบน.." หล่อนกรีดเสียงเรียกแล้วก้าวตาม... กมลภพก้าวตามไปดึงหล่อนเอาไว้ "คุณให้เขาเอาลุงเบนไปไหนคะ..เอาลุงของฉันไปไหน..." "เบนไปตามหาพ่อของเธอและเราจะรอกันอยู่ที่นี่..." คำบอกเล่าของชายหนุ่ม แม้ว่ารวงแก้วจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง..แต่ก็ทำให้ประกายตา..และท่าทางเดือดร้อนของหล่อนค่อย ๆ ซาลง "มานี่เถอะ" ชายหนุ่มดึงหล่อนให้เดินตามเข้าไปในบ้านไม้ที่ตกแต่งทันสมัยงดงามและกว้างขวางน่าสบาย รวงแก้ว ๆกวาดตามองไปรอบ ๆ บ้านเพื่อสำรวจความสวยงามและมองหาใครสักคนไปด้วย หล่อนเห็นเด็กผู้ชาย...และเด็กสาวรุ่น ๆ หลบกับว็อบแว็บ "เด็กรับใช้..ดูแลความสะอาดที่นี่" กมลภพบอก ขณะจูงหล่อนผ่านห้องโถงกว้างเข้าไปด้านในจนถึงประตูห้อง ๆ หนึ่ง "นี่ห้องพักของเธอ" เขาบอก พร้อมกับเปิดประตูกว้าง..แล้วรั้งร่างที่ขืนตัวไว้นิด ๆ นั้นเข้าไปจนได้ รวงแก้ว กวาดตาดูห้องกว้าง ซึ่งตกแต่งอย่างดีค่อนข้างขรึมเครียด เพราะสีของไม้อย่างพอใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออก "รับรองความปลอดภัยได้..ตราบใดที่อยู่ในบริเวณนี้...และเธอมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้..ยกเว้นออกไปนอกเขตภูเขาที่เราผ่านเข้ามาโน่น" สาวน้อยไม่ตอบ แต่ค่อย ๆ พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขาแล้วเคลื่อนตัวสำรวจไปทั่วห้อง.... "เดี๋ยวสักพักใหญ่ ๆ จะให้เขาเอาเสื้อผ้ามาให้ไม่ต้องห่วง ยังห่วงอยู่อีกหรือเปล่า.." คำถามของเขาและความต้องการอยู่เพียงลำพังทำให้รวงแก้วพยักหน้าทันที "งั้นก็...นอนพักไปก่อนแล้วกัน..เดี๋ยวกับข้าวเรียบร้อยค่อยออกไป" พอเขาพูดถึงอาหาร.. รวงแก้ว ก็หิวขึ้นมาทันที หญิงสาวเกือบลืมว่าตั้งแต่เมื่อเย็นวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้องสักอย่าง วิกฤตการณืที่ผ่านมาน่าจะทำให้หล่อนเป็นลมไป เพราะความหิวแล้ว แต่ไม่ยักเป็นอย่างนั้น ชายหนุ่มสายตาคมมองหล่อนนั่งอยู่ชั่วครู่ ก็เดินหายไปจากประตูห้อง และปิดให้เรียบร้อย เบน นั่งครุ่นคิดอยู่ตลอดทางที่รถแล่นออกจากหุบเขา "ปล่อยฉันเสียทีสิ..ยังไงตอนนี้ก็ต้องร่วมงานกันแล้วนี่.." เขาบอคนที่นี่งกระหนาบอยู่ทั้งสองข้าง "ขอหลับให้สบายสักงีบเถอะ..แล้วพอถึงค่อยว่ากันใหม่" คนของกมลภพมองหน้ากัน...แล้วยักไหล่ ก่อนที่จะจัดการให้ตามที่เบนเรียกร้อง พอมือไม้เป็นอิสระ เขาก็ถอนใจยาวก่อนจะขยับตัวตั้งท่าจะหลับ ทั้งหมดรู้ดีว่าต้องเดินทางอีกไกล,,กว่าจะถึงจุดนัดพบที่คำรนรออยู่ เบน เริ่มทำให้ทุกคนนีกว่าเขาหลับจริง ๆ ชั่วโมงต่อมา..คนที่คุมอยู่ข้าง ๆ เขาก็เริ่มสับประหงกมั่ง ส่วนอีกคนก็นั่งพาดมือไปตามพนักอย่างไม่ระวังตัวเท่าที่ควร ด้ามปืนของมันตุงออกมาจากซอกรักแร้เห็นได้ถนัด พวกนี้พกปืนตามแบบลูกพี่แทบทุกคน ทั้งหมดมีถึงสี่...รวมทั้งคนขับรถในขณะที่เขาตัวคนเดียวทุกคนเคยร่วมงานกันมาทั้งนั้น..และเบน ไม่อยากฆ่าเลย ถ้าเขาทำอะไรตอนนี้..จะต้องมีคนตายแน่นอนและตัวเขาเองก็ไม่แน่ว่าจะรอด เบนคิดกลับไปกลับมาหลายตลบ อีกอย่างหนึ่ง คนพวกนี้ก็จงรักภักดีกับลูกพี่........ส่วนกมลภพก็เป็ฯคนรักลูกน้อง รวงแก้ว อยู่ในมือของเขา ถ้าหากลูกน้องเป็นอะไรไปสักคนเบนก็กังวลถึงคนรับเคราะห์แทน...ภาพสาวน้อยสวยสะอาดผ่านเข้ามาในมโนนึกต้องทำให้เบนถอนใจยาว เขาไม่อาจเสี่ยงอะไรได้อีกต่อไปแล้ว รวงแก้ว หลุดไปอยู่ในมือของกมลภพ เพราะความคิดไม่ถึงและเสี่ยงโดยไม่เข้าเรื่องของเขาก่อนแท้ ๆ เบน จำเป็นต้องไปพูดกับคำรนให้รู้เรื่อง เพื่อปรึกษากันให้รอบคอบกว่านี้ เขาหลบเปลือกตาลงบังประกายเศร้าหมอง เจ็บปวดในดวงตาของตนเองอีกครั้ง ก่อนจะถอนใจยาวสะดุดเป็นห้วง ๆ ออกมา..... เด็กสาวรุ่นหน้าตาดีมาเคาะปรตูห้องของรวงแก้วพร้อมกับผ้าลายและเสื้อผ้าป่านสีขาวสะอาดสะดุดตา "นายมล...ให้นำมาให้คุณค่ะ" หล่อนพูดชัดเจน พร้อมกับมองหน้ารวงแก้วอย่างชื่นชมอยากรู้อยากเห็นโดยไม่ปิดบัง สายตาเช่นนั้นทำให้หญิงสาวต้องยิ้มนิด ๆ กอ่นจะรับของที่ถูกนำมาให้แล้วกล่่าวขอบใจ ครึ่งชั่วโมงต่อมาปรตูห้อง รวงแก้วก็ถูกเคาะอีก และคนเคาะก็เปิดผลัวะเข้ามาทันทีอย่างถือสิทธิ์ เล่นเอาร่างที่ยืนสางผมอยู่หน้ากระจกสะดุ้งหันหลังขวับมามองอย่างตกใจ... รวงแก้ว ยืนนิ่งมองเขาอย่างฉุน ๆ มือที่กำลังหวีผมอยู่แกร่งขึ้นโดยอัตโนมัติ ร่างสูงของชายหนุ่มก้าวเข้ามาแล้วหยุดมองหล่อนอย่างพอใจ...... เสื้อผ้าป่านสีขาวเข้ารูปเอวก่อนจะผายออกไปตามความกว้างของสะโพกแขนยาว..รับกันได้ดีกับผ้าปาเต๊ะลายสวย รูปทรงอรชร..แบบบางของหล่อนส่งให้เสื้อชุดนั้นสวยสะดุดตาจนประมาณไม่ได้ ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองหล่อนต้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยประกายตาวาบวามหลายความหมาย หญิงสาวก็เห็นเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเช่นกัน..สวมกางเกงผ้าผืดสีน้ำเงินเข้มสบาย ๆ และเสื้อลายขาวน้ำเงินสลับกับปลายขัดเข้าไปในขอบกางเกงแล้วคาดเข็มขัด หล่อนมองหาอาวุธที่เขามีประจำตัวอยู่ตลอดเวลามาตั้งแต่ได้เห็นหน้าแต่หาไม่พบ "ทานข้าวกันเถอะ" ชายหนุ่มเอ่ยชวน... "เดี๋ยวค่ะ...ขอรวบผมเดี๋ยวเดียว" หล่อนพูดพลางหันหลังให้ พร้อมกับวางหวี...เขาก้าวยาว ๆ เข้ามาประชิดตัวเสียก่อน "ไม่ต้องหรอกอย่างนี้น่ะสวยดีแล้ว" เจ้าของร่างสูงเข้ามายืนซ้อนหลังหล่อนในระยะกระชั้นชิดอยู่ในกระจก...อะไรบางอย่างในดวงตาของชายหนุ่ม และไออุ่นรอบตัวเขาที่กระจายมากระทบหลังโดยไม่ได้แตะกันแม้แต่ปลายเล็บทำให้รวงแก้วรีบขยับตัวห่างทันที "ก็ได้ค่ะ...ไปเดี๋ยวนี้" มือใหญ่อบอุ่นถูกยกขึ้นรั้งต้นแขนหล่อนไว้เงียบ ๆ รวงแก้ว หยุดชะงักใจเต้นระรัวราวกับตีกลองขึ้นมาทันที...เหลือบตาลงมองปลายนิ้วสะอาดที่รวบอยู่แนบต้นแขนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก กมลภพยึดตัวหล่อนเอาไว้แล้วออกแรงดึงเข้ามาหาโดยไม่พูด "อย่าค่ะ.." หล่อนห้ามเบา ๆ "กรุณาอย่าทำกับฉันอย่างนี้" "ทำไม" เขาถามเสียงนุ่มโดยไม่คิดจะปล่อยมือ "คุณทำให้ฉันคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงไร้ค่า..ผู้ชายจะหยิบฉวยเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจชอบ" "ใครสอนให้คิดแบบนั้น" "การกรทำของคุณ กรุณาเถอะค่ะ...อย่างแตะต้องฉันแบบนี้เลย" "คิดไม่เข้าเรื่อง" เขาเอ็ดพร้อมกับพยายามสอดแขนเข้าสวมกอดหล่อน..รั้งร่างนุ่มเบียดเข้ามาหาอย่างจงใจ...รวงแก้วพยายามขืนตัว..แก้มแดงจัด..ก้มหน้ายันหน้าผากไว้กับอกกว้างอย่างไม่ยอมให้เขาทำอะไรมากกว่านั้น "แค่นี้ฉันก็ดูถูกตัวเองมากอยู่แล้วค่ะ..อย่าทำฉันเหมือนกับผู้หญิงข้างทางเลยค่ะ" "ไม่เคยคิดสักที.." เขาตอบพร้อมกับบรรจงรวบพวงผมสลวยที่กระจายลงปิดหน้าตาของหล่อนไปไว้ข้างหลัง แล้วก้มหน้าลงไปหา รวงแก้วเบี่ยงหน้าหนี ทั้งจมูกและปากของกมลภพจึงฝังเข้ากับปอยผมหอมแรุ่นเต็มที่... "อย่าค่ะ...อย่า" หล่อนห้ามเขาเสียงสั่น..ตัวก็สั่น..ทั้งกลัวและหวาดหวั่นจนบอกไม่ถูก "ไหนคุณสัญญาว่าจะไม่รังแกฉันไงคะ" "สัญญาว่าจะไม่ข่มขืน" เขาแก้ให้ตรงจุด..พร้อมกับใช้ัฝ่ามือประคองดวงหน้าหวานละมุนเอาไว้อย่างอ่อนโยน แต่มั่นคง... "ให้เลือกแค่สองอย่าง..ถ้าไม่อยากให้ลากขึ้นเตียงก็ต้องยอมอย่างนี้" อย่างนี้ของกมลภพก็คือจุมพิตอันดื่มด่ำหนักหน่วงเสียจนคนได้รับตัวสั่น..และมีความสำนึกว่าอาจจะถูกเขากลืนกินเสียในวินาทีใดวินาทีหนึ่งข้างหน้า เนื้อตัวหล่อนหอมกรุ่น..อบอุ่น...ริมฝีปากได้รูปเต็มอิ่ม..นุ่มละมุน..และหวานหอมไม่มีใดเปรียบ กมลภพบอกตัวเองว่าหล่อน ทำให้เขาเปลี่ยนใจตามคำรนเสียดื้อ ๆ เขาอยากอยู่ใกล้ชิด และใช้เวลาที่เป็นอิสระชั่วคราวนี้กับหล่อนให้นานที่สุด รวงแก้ว เหมือนหยดน้ำใสที่ไหลรดลงบนหัวใจที่แห้งผากมานาน ความสะอาดเอี่ยมน่าถนอดของหล่อนทำใ้ห้เขาไม่กล้าดื่มกินให้สมความกระหาย..นอกจากจะค่อย ๆ ลิ้มชิมไปทีละนิดตามแบบของตนเอง อะไรบางอย่างใต้จิตสำนึก..บอกไม่ให้กมลภพบุ่มบ่ามเอาแต่ใจในเรื่องนี้ ผู้หญิงอย่างรวงแก้ว ต้องให้เวลาและใช้เวลากับหล่อน แค่นี้หล่อนก้แตกตื่น...ตกใจ..ผวาแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าเขาอยู่แล้ว ขืนบุกเข้ารุกรานเอาอย่างที่คิดอยากทำล่ะก็....คงไม่มีหวังได้หัวใจหล่อนมาครอบครองเป็นแน่แท้ ชายหนุ่มถอนริมฝีปากอย่างฉับพลันตกใจกับความคิดของตนเอง รวงแก้ว งงที่จู่ ๆ เขาก็มีปฏิกิริยาแปลก ๆ ขึ้นมา ผลักหล่อนออกห่างแล้วมองด้วยสายตาหมกมุ่นอ่านไม่ออก ก่อนจะดึงมือหญิงสาวให้เดินตามออกไปเงียบ ๆ โต๊ะอาหารกลางวันตั้งอยู่ที่ริมระเบียงด้านนอก ไอแดดเข้าไม่ถึง....เพราะนับจากชายคาออกไปห่างพอควรเป็นเรือนไม้เลี้อยแน่นหนา..ประกอบกับกระแสลมที่พักผ่านไปมาตลอดเวลาทำให้รู้สึกเย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ "คุณทำงานอะไรกันคะ" หล่อนถามเรื่อย ๆ เมื่อต่างทานอาหารกันเสร็จ "ก็...ค้าขาย" "ขายอะไรกันคะ.." "หลายอย่าง" "เช่นอะไรบ้างล่ะคะ" "จะรู้ไปทำไม" "ก็..เพราะอยากรู้ว่าพ่อเอาอะไรของคุณมา..." กมลภพ มองหล่อนก่อนจะหลุบเปลือกตาลงมองซองบุหรี่...หยิบออกมาใส่ปากแล้วจุดสูบพ่นควันขโมงก่อนจะเบนสายตาออกไปยังอนวไม้ดอกที่ปลูกขึ้นเป้นกลุ่มเป็นดงทั่วบริเวณหลังบ้าน "ไม่ต้องรู้นะดีแล้ว" "ถ้าเผื่อฉันไปพบ..จะได้เอามาคืนให้แทนไงคะ" "ไม่มีโอกาสได้พบหรอกน่ะ" "ไม่แน่นะคะ..ใครจะรู้อนาคต" ประโยคสุดท้านทำให้ดวงตาคมกริบของเขาปรายมามองหล่อนใหม่ "พ่อจะพาไปไหนล่ะนี่" เขาถามบ้าง "จะไปเรียนต่อค่ะ..พ่อจะให้ไปต่อนอก" "จะเรียนอะไรต่อ" "อยากเรียนดนตรีสิคะ" "ดนตรี" เขาถามเสียงสูง "ค่ะ..ความฝัน" หล่อนพูดพลางเบนสายตาไปยังสวนไม้ดอกธรรมชาติดที่ถูกจัดแต่งใหม่จนงดงามจับตาอย่างสบายใจ "ชอบอะไรล่ะ...เครื่องดนตรีน่ะ" "หลายอย่างค่ะ" "เปียโนล่ะ" "ชอบสิคะ" "แล้วเล่นได้ไหม" รวงแก้วพยักหน้าเป้นคำตอบ ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วพยักหน้าชวนหล่อน "มานี่สิ" ห้องที่เขาพาเข้าไปไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย...นอกจากเปียโนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง..มีผ้าคลุมไว้อย่างดี..แสดงว่าไม่ค่อยได้ใช้งานนัก รวงแก้วมองดูเปียโน..แล้วก็หันไปมองคนยืนอยู่ตรงหน้า "ลองหน่อยเป็นไง" เขาบอกอนุญาติแล้วหันไปดึงม่านให้เปิดออกกับเปิดหน้าต่างให้ลมโกรกเข้ามาภายในด้วย รวงแก้วเปิดผ้าคลุมพรมนิ้วไล่เลียงอยู่หลายอึดใจกว่าจะเริ่มเพลงประทับใจของหล่อนง..ซึ่งเป็นเพลงไทยสากลเก่าแก่ในอดีต..นานมาแล้ว ดนตรี..ทำใ้ห้ลืมเวลา เมื่อเริ่มเพลงแรก...ก็มีเพลงที่สอง.....สาม.....และสี่ตามมาเรื่อยโดยไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าคนที่ยืนฟังอยู่ด้วยนั้น...ไปหลบมุม...ณ.....ที่ใด เวลาผ่านไป...นานเท่านาน...ที่ต่างตนต่างตกอยู่ในภวังค์ความฝัน...และอดีตของตนเอง จนในที่สุด..ท่อนสุดท้ายของเพลงสุดท้ายก็จบลง ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ รวงแก้ว หันไปมองหาเขา ร่างสูงของชายหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างหน้าต่างนั่นเอง..สบตานิ่งมายังหล่อนไม่กระพริบ วิธีมองแบบนั้นทำให้คนถูกมองแก้มเป็นสีเรื่อขึ้นทันตาเห็น "คุณเล่นได้ดีทีเดียว.....เพราะมาก" "ซีสเตอร์ในคอนแวนต์สอนให้น่ะค่ะ" "คอนแวนต์" เขาทวนคำพร้อมกับเลิกคิ้ว สาวน้อยพยักหน้ารับอย่างเขิน ๆ และหลุบเปลือกตาหลบสายตาคมกริบค้นคว้าของอีกฝ่ายเสียทันที... "คุณอยู่ในโรงเรียนกินนอนยังงั้นหรือ" "ค่ะ..สิบสองปีเต็ม" "พ่อไปเยี่ยมบ้างหรือเปล่า" "ค่ะ...ปีละครั้ง" "แล้วเวลาที่เหลือก็อยู่แต่กับเพื่อน...กับครู" "ค่ะ" รวงแก้วรับคำ พลางเหลือบมองปลายขากางเกงของเขาที่ค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้อย่างระวัง "เหงามากสิใช่ไหม" เขาถามด้วยน้ำเสียงอาทรฟังได้ถนัด "ก็......ค่ะ...คิดถึงพ่อมากด้วย...แต่พ่อไม่มีเวลาให้ฉันเลย...มีแต่งาน ๆๆๆ ตลอดเวลา" "คำรนเขาทำอะไรกับลูกสาวน่ารักอย่างคุณนะนี่" ตอนที่ 3 กมลภพพึมพำอย่างไม่เข้าใจ...มือใหญ่ทำท่าจะยกขึ้นประคองดวงหน้าของหล่อนแต่รวงแก้วขยับหนีเสียทันควัน "เปียโนนี่ของคุณหรือคะ" หล่อนเปลี่ยนเรื่อง อีกฝ่ายก็ลดมือลงมองหล่อนอย่างรู้ทัน "ของแม่ฉัน" "คุณแม่คุณหรือคะ..ท่านชอบเหมือนกันหรือคะ" "ท่านชอบมาก...ชอบเป็นชีวิตจิตใจทีเดียว.....ท่านกล่อมฉันด้วยไอ้นี่แหละ..ตี้งแต่เล็กจนโต...หลายครั้งที่ท่านเล่น.แล้วฉันก็นอนหลับอยู่บนพื้นข้างๆ" "คุณชอบเพลงอะไรเป็นพิเศษล่ะคะ" "มีหลายเพลง...แต่เล่นไม่เป็นหรอกนะ" "อ้าว" "ท่านตายเสียก่อนจะไ้ด้สอนและหลังจากนั้นฉันก็ไม่มีเวลาได้ฟังมั้นอีก...นานเต็มทีเหมือนกัน" เสียงของเขาลดต่ำลงราวกับจะรำพึงกับตนเอง ใบหน้าคมสัน..งามคมคายแบบบุรุษทรนง...เป็นด้านข้างให้รวงแก้ว......พุ่งสายตาออกไปนอกหน้าต่างไกลลิบ ๆ สาวน้อยลุกขึ้นมองตามเขาอย่างเบลอ ๆ "แล้วคุณพ่อคุณล่ะคะ" เมื่อถามถึงเรื่องนี้..อีกฝ่ายกระพริบตา....เงียบกริบไปนานกว่าจะตอบออกมาว่า... "ฉันไม่เคยเห็นหน้า" คำตอบสั้น ๆ บรรจุไว้ด้วยความหมายมากมายเล่นเอาบรรยากาศรอบ ๆ ตัวมัวซัวลงไปทันใจ..ก่อนที่รวงแก้จะวางมือบางลงบนท่อนแขนที่ซุกมือเอาไว้ในกระเป๋าของเขาอย่างตั้งใจจะปลอบใจ "ก็คล้ายฉันสิคะ....ฉันก็ไม่เคยเห็นหน้าแม่เหมือนกัน" กมลภพมองหล่อนนิ่งอยู่นานก่อนจะยิ้มบาง ๆ "เที่ยวปลอบใจคนอื่นน่ะ..ตัวเองกลัวจะแย่แล้วหรือเปล่า" เขาถามตรง ๆ เล่นเอาอีกฝ่ายต้องหัวเราะอย่างใจดีสู้เสือ "ก็.....คุณสัญญาแล้วนี่คะว่าปลอดภัย" "สัญญาตอนไหน" เขาแกล้งไขสือ..เล่นเอาหล่อนผละห่าง...หน้าแดงขึ้นมาทันควัน ชายหนุ่มรีบตะครุบมือบางเอาไว้ทันที "อย่ากลัว.....ล้อเล่นน่ะ" รวงแก้วเกือบจะบอกว่าคำปลอบใจของเขาไม่ได้ผลหรอกตราบใดที่ตัวของเขายังวนเวียนไม่ยอมห่างหล่อนแบบนี้...และแตะต้องลวนลามหล่อนอยู่บ่อย ๆ เช่นนี้ด้วย รวงแก้วกลัวเหลือเกิน...กลัวว่าสักวันเขาจะเปลี่ยนใจ...เขาอาจจะไม่พอใจกับการได้กอดหรือจูบหล่อนเฉย ๆ และพยายามไขว่คว้าให้ได้มากกว่า... หากถึงเวลานั้นขึ้นมาจริง ๆ รวงแก้วจะทำยังไง...จะสู้เขายังไงไหวแล้วจะหนีไปไหนพ้น ข้อสำคัญ..รวงแก้วไม่มีปัญญาจะเอาชนะหรือต่อสู้กับเขาได้หรอก ผู้ชายตรงหน้าหล่อนมีพลังดึงดูดอะไรบางอย่างอยุ่ในตัว...ที่คอยจะทำให้รวงแก้วอ่อนไหวไปทั้งหัวใจ..ไม่มีแรงแม้จะต่อต้านเมื่อเขาเข้ามาใกล้ แม้ใจจะไม่ยินยอม...แต่ร่างกายของหล่อนมันก็คงจะทรยศเสียเป็นแน่แท้ และถ้าถึงวันนั้นจริง ๆ รวงแก้วคงเสียใจและมีชีวิตอยู่อย่างหมดความหมาย รวงแก้ว็เหมือนผู้หญิงทั้งหลายที่อยากจะเป็นของใครสักคนด้วยความรักและอยากให้เขารักหล่อนด้วยเช่นกัน...หล่อนไม่อยากเป็นเพียงนางบำเรอ...หรือผู้หญิงที่เขามีไว้ผ่าน รวงแก้คงไม่อยากทนและทนไม่ได้่ที่จะต้องเป็นเช่นนั้นด้วย "เอาเป็นว่าเราคล้ายกันแล้วล่ะนะ....เธอขาดแม่...ฉันขาดพ่อ....ลูกกำพร้าทั้งคู่" เขาล้อเลียนพลางยกมือขึ้นเหนี่ยวต้นคอหล่อนพาเดินออกจากห้องดนตรีไปตามระเบียงบ้านด้วยกัน... หญิงสาวบอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไรเมื่อถูกชายหนุ่มพาเดินกอดคอกันไปรอบ ๆ บ้านราวกับเป็นคู่รักอย่างนั้น "อีกนานไหมคะ..กว่าลุงเบนจะตามพ่อเจอ" หลอ่นถามออกมาจนได้เมื่อพากันไปหยุดนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้าน "หลายวันมั้ง" กมลภพตอบ พลางขยับตัวนั่งให้สบายใต้ต้นพวงชมพูในยามบ่าย "เป็นไง...ไม่อยากอยู่แล้วหรือที่นี่" เขาถามพร้อมปรายตามองหล่อน รวงแก้วหลบตาแล้วลอบกลืนน้ำลาย "ฉัน....อยากอยู่กับพ่อค่ะ..เราไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนัก...ท่านต้องไปทำงานไกล ๆ เสมอ...คราบนี้พ่อก็สัญญาจะไม่ทิ้งฉันไปอีก...แต่แล้ว...ก็ต้องทิ้งตามเคย" หล่อนพึมพำ ทำให้ตัวเองฟัง ด้วยความรู้สึกอันอ้างว้างหดหู่จนบอกไม่ถูก... ขณะนั่นรวงแก้ว นั่งพับเพียบอิงหลังกับต้นไม้ใหญ่บนหญ้านุ่มหนาเขียวขจี ลมเย็น ๆ พักผ่านไปเป็นระยะ ๆ ชายหนุ่มฟังหล่อนอยู่เงียบ ๆ ไม่มีความเห็น "คุณจำเป็นต้องเอาตัวฉันไว้อย่างนี้ด้วยหรือคะ" รวงแก้วถาม ต่อเสียงเรียบ "ฮื่อ" เขาตอบในลำคอสั้น ๆ ขณะที่กวาดสายตาไปทั่วดวงหน้าของหล่อนอย่างเผลอ ๆ "เอาไว้ต่อรอง....เป็นตัวประกันใช่ไหมค่ะ" กมลภพ..ไม่ตอบคำถามนี้ "ถ้าพ่อไม่มา...ไม่ยอมคืนของให้คุณ..คุณจะฆ่าฉันไหนคะ" "ไม่" เขาตอบทันทีแทบไม่ต้องคิด...สั้น...และหนักแน่นตามความรู้สึก "แต่ฉันไม่มีประโยชน์แล้วนี่คะ" "ใครว่า" เขาตอบ...พร้อมหลุบเปลือกตาลงจับเรียวปากอิ่มเย้ายวนของหล่อน "ถ้าคำรนไม่มา...เธอก็ต้องอยู่กับฉันตลอดไป" "เป็นตัวแลกเปลี่ยนใช่ไหมคะ" กมลภพไม่ตอบคำถามนั้นอีก "คุณคง..กักฉันไว้เป็นนางบำเรอใช่ไหมคะ" คำถามที่หลุดออกมาจากริมฝีปากสีเรื่อทำให้เขาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ "พูดแบบนั้นทำไม" "คุณตั้งใจทำให้ใคร ๆ เข้าใจแบบนั้นอยู่แล้วนี่คะ..จับฉันไว้กักฉันเอาไว้...ทำให้ใคร ๆ เข้าใจผิดไปหมด" เขาเฉยอีก...ขณะที่รวงแก้วมองใบหน้าคมเข้มที่อยู่ไม่ห่างนั้นอย่างค้นคว้า "ฉัน...ต้องชดใช้แทนพ่อนานสักเท่าไหร่คะ..กว่าคุณจะยอมให้เป็นอิสระ" รวงแก้วไม่รู้เลยว่าคำถามของหล่อนทำให้คนฟังเริ่มรู้สึกหงุดหงิด "ตลอดชีวิต" เขาตอบสั้น ๆ คล้ายจะตัดบท..เล่นเอาคนถามถึงกับผงะ "ไม่ยุติธรรมเลยนี่คะ..ทำไมต้องพาลขนาดนั้นด้วยล่ะ...คุณจะแกล้งทรมานฉันไปทำไม..เห็นใจกันบ้างสิคะ" "จะรีบไปไหนล่ะ" "ทุกคนที่เกิดมาน่ะอยากมีอิสระในการดำเนินชีวิตของตนเองทั้งนั้น...ไม่มีใครอยากเป็นนักโ่ทษตลอดชีวิตหรอกค่ะ" กมลภพหันมามองหล่อนด้วยสายตาเครียดดุ "เลิกพูดทีได้ไหมเรื่องนี้" เขาเอ็ดเสียงเครียด "ก็บอกมาก่อนสิคะว่าจะขังไปนานเท่าไหร่" "ทรมานนักหรือไงที่ต้องอยู่กับฉัน" เขาถามวนมาอีก "ไม่มีใครอยากอยู่ที่ไหนโดยถูกบังคับหรอกค่ะ" "ไม่ได้จับขัง..หรือบังคับ..ทารุณกรรมสักหน่อยให้อยู่สบาย ๆ แท้ ๆ" "ให้ทำงานเสียดีกว่านะคะ...ยังไม่อึดอัดเท่านี้" "แปลกนี่...มีแต่คนเขาอยากอยู่สบาย ๆ แต่นี่อยากทำงาน" รวงแก้ว ไม่พูดแต่หลบตา เขาเลย..ไม่กล้าบอกว่าที่หล่อนอยากทำงานนั้น เพราะอยากอยู่ห่างเขาสักหน่อยอย่างน้อยช่วงที่ทำงานก็ไม่ต้องถูกคุมแจ... ข้อสำคัญคนคุมหล่อนนี่ก็มักจะมองตาวาววาบอยู่เสมอ...ทำให้รวงแก้วใจสั่งบ่อย ๆ ทั้งกลัวและไม่ค่อยไว้ใจเขาเสียเลย "คุณจะกักฉันไว้แบบนี้ไม่รำคาญหรือคะ" กมลภพไม่ตอบคำถาม..แต่เบนสายตามองทัศนียภาพรอบ ๆ ตัวเสีย "ฉันไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณหรอกค่ะ" "ใครบอก" เขาค้านพร้อมกับมองหล่อนด้วยดวงตาชอบกล...... "อย่างน้อย..ก็ให้ความชื่นชูใจบ้างล่ะ..ใครไม่ชอบอยู่ใกล้คนสวยล่ะ" สายตาของเขาเปล่งประำกายประหลาดขณะลูบโลมหล่อนไปทั่วร่างเล่นเอารวงแก้วชักรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาทันที "คุณ....จะ....เอ้อ.." หล่อนอึกอัก..หน้าเป็นสีชมพูเรื่อ กมลภพรู้ทันแต่เฉยเสีย..ชำเลืองมองและคอยฟังให้หล่อนพูดออกมาเอง..แต่รวงแก้วก็เลือกที่จะไม่พูดซะงั้นแหละ หล่อนพอจะรู้ชะตาตัวเอง..ว่าถ้าถูกขังไว้นานขนาดนั้นคงไม่พ้นมือของเขาแน่นอน เพียงแค่นี้ เผลอเป็นไม่ได้เขาเข้าถึงตัวได้ทุกนาทีและทุกครั้งที่รวงแก้วเผลอเสมอ.... "รับรองว่าจะเลี้ยงดูอย่างดี...ไม่ให้หิวไม่ให้ลำบาก....ขออย่างเดียว" เขาพูดออกมาเรื่อย ๆ เหมือนจะให้หล่อนรับรู้รับฟังไว้ "ขออย่างเดียว...ตามใจฉันแค่นั้นล่ะ" กมลภพสรุปง่าย ๆ และมองหล่อนด้วยนัยตาพราวเต็มไปด้วยความหมาย รวงแก้วมองเขานิ่ง..และสีหน้าก็ค่อย ๆ แดงขึ้นเรื่อย ๆ ชายหนุ่มยิ้มให้หล่อน..เลิกคิ้วให้นิดหนึ่งก่อนจะค่อย ๆ เอนตัวลงหนุนตักนุ่มของหล่อนซึ่งนั่งพับเพียบอิงต้นไม้อยู่ใกล้ ๆ อย่างถือสิทธิ์ รวงแก้วรีบยกมือหนี..ปล่อยให้ศีรษะได้รูปปกคลุมไปด้วยผมดำสลวยวางลงบนตักอย่างมึนงงตัดสินใจไม่ถูก เขาหลับไปนาน....นานจนขาของรวงแก้วเป็นตะคริวชาจนไม่รู้สึก หญิงสาวนั่งมองหน้าคนที่นอนนิ่งเกยศีรษะขึ้นมาบนตักหล่อนอย่างค้นคว้า เขาเป็นคนแปลกเหลือเกิน...และทำอะไรลึกลับจัง รวงแก้วพยายามคุยและถามเขาหลายอย่าง แต่ที่รู้ก็ไม่ตรงกับที่ต้องการสักนิด ทุกอย่างดูเป็นความลับ และเขาก็ไม่คิดจะบอกหล่อน ความจริงรวงแก้วน่าจะใช้อะไรหนัก ๆ ทุบหัวเขาให้สลบเวลานี้นะแล้วก็ค่อยหนีไป แต่จะหนีไปไหนล่ะ รวงแก้วไม่คุ้นกับโลกอันวุ่นวายยุ่งเหยิงภายนอกนี่เลย และข้อสำคัญ....รวงแก้วสัญญากับเขาแล้วว่าจะไม่หนี..ถ้ารวงแก้วหนี แล้วเขาหาตัวพ่อเจอ..เขาคงฆ่าพ่อแน่ เห็นใจดี...พูดง่ายอย่างนี้ก็เถอะ แต่รวงแก้วก็รู้ว่าความเด็ดขาดของเขาแฝงอยู่ลึก ๆ ไม่งั้นคงไม่มีใครฟังคำสั่ง..และมีท่าทีกลัวเกรงเขาอย่างเห็นได้ชัดหรอก แต่ถ้าเขาตามพ่อไม่เจอล่ะ..แล้วจะเอาตัวรวงแก้วไว้จริง ๆ รวงแก้วจะยอมล่ะหรือ เขาก็บอกแล้วว่าเอาตัวรงแก้วเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ลมแรงพัดกรรโชกมาพาให้ปอยผมของชายหนุ่มละมาปรกที่หน้าผากพร้อมกับใบไม้..และกลิ่นดอกไม้บาง ๆ รวงแก้วยกมือขึ้นบรรจงหยิบมันออกอย่างแผ่วเบา และปัดปอยผมเขาให้เข้าที่ หลังจากนั้น ก็เผลอลูบเลยไปตามเส้นผมสลวยดำขลับได้รูปของเขาเท่านั้นไม่พอ..ปลายนิ้วสะอาด..หอมกรุ่น..ยังเลื่อนไปตามสันจมูก..และแตะแต้มลงบนริมฝีปากสีจัดได้รูปนั้นอย่างเผลอไผล... ใบหน้างดงามโน้มลงเพ่งพิศดู..ใบหน้าคมของเขาในยามหลับอย่างทึ่ง ๆ ในยามหลับนั้นความดุเครียดบนใบหน้าหล่อ ๆ นั่นจางหายไปอย่างประหลาด..เหลือแต่เพียงความอ่อนโยน...เงียบสนิทไร้พิษภัยให้หล่อนได้ลอบมองได้อย่างสบายใจ รวงแก้วไม่รู้หรอกว่าตัวเองก้มหน้าลงไปใกล้จนอีกฝ่ายรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่าลงมาสัมผัส เ้ส้นผมยาวสลวยของหล่อนทอดลงไปกองอยู่กับอกเสื้อของเขา ฝ่ามือนุ่มนิ่มเผลอวางลงบนอกกว้างข้างหนึ่งแล้วเที่ยวลูบไล้ไปทั่วใบหน้าของเขาอย่างพอใจอีกข้างหนึ่ง หญิงสาวแทบสะดุ้ง..เมื่อจู่ ๆ ดวงตาของคนที่หล่อนคิดว่าหลับสนิทไม่รู้เรื่องนั่นเปิดกว้างขึ้นมองหล่อนเต็มตา ศีรษะเล็ก ๆ ของรวงแก้ว ผงะจะหนีแต่ถูกตรึงไว้แน่นด้วยฝ่ามือของอีกฝ่าย.... กมลภพมองหล่อนนิ่ง..มองตา..แล้วก็มองปากไม่ยอมพูดอะไร แต่ด้วยกิริยาที่แสดงออกและกำลังฝ่ามือที่บังคับให้หน้าของรวงแก้วโน้มลงไปหาคือคำตอบที่ดี รวงแก้วหลับตาเมื่อเขาผงกศีรษะขึ้นประทับริมฝีปากกับเรียวปากหล่อน..ก่อนจะพลิกร่างตามขึ้นมาช้า ๆ ใช้ปากไล่ไซร้ซอนรวงแก้วจนหงายหน้าขึ้นรับจุมพิตอย่างเต็มที่ เมื่อหล่อนพยายามถอยหนี..เขาก็ขยับตามจนติดต้นไม้ใหญ่และก็หล่อนเอาไว้เช่นนั้น...ไม่ให้หนีไปไหนได้ หัวใจของรวงแก้วเต้นโรจน์แรง..พร้อมกับเผลอครางในลำคอเบา ๆ ด้วยพิษของจุมพิตกำซาบนั้น.... กมลภพขยับเข้าประชิดตัวหล่อน..สอดแขนเข้ามารอบเอวและรั้งเข้าไปหา..ก่อนจะกดให้เอนร่างลงบนพื้นหญ้านุ่ม... รวงแก้วบอกตนเองว่ากำลังจะสำลักกับความรู้สึกดื่มด่ำกับอารมณ์ลึกลับที่เขาพยายามปลุกมันขึ้นมาอย่างเต็มความสามารถ...เรียวแขนกลมกลึงสลักเสลาของหญิงสาวถูกยกขึ้นโอบกอดไปรอบคอเขาโดยไม่มีใครสอน..และตอบโต้การรุกรานอันอ่อนหวานนั้นด้วยความอ่อนหวาน...ซับความเร่าร้อนเกือบเท่าเทียมกัน.... หล่อนไม่รู้ตัวว่ามันเป็นไปได้ยังไง แต่มันก็ทำให้กมลภพถอนใจยาว...ถาโถมเข้ากอดรัดหล่อนไว้อย่างแนบแน่น ลืมตัวและซุกไซร้ริมฝีปากของตนดื่มความหวาน..สัมผัสความนุ่มไปทั่ว กระดุมเสื้อผ้าป่านสีขายนั้นเป็นกระดุมแป๊ะธรามดา..ถูกปลดออกอย่างง่ายดาย..ขณะที่คนใส่แทบตั้งตัวไม่ติดอยู่นั่น...จมูกและปากร้อน ๆ เอนซบลงหาความหอมกรุ่นหยุ่นนุ่มอย่างไม่เกรงใจ ขณะที่ปลายนิ้วของเขา..ไล่ไปตามแนวสีข้างลงมาจนถึงสะโพกแล้วสอดหายเข้าไปสัมผัสผิวเื้อในด้วยความเบาในอารมณ์ ไม่ช้าไม่นานบราเซียร์ตัวน้อยก็ถูกปลดให้พ้นเนื้อนุ่มแล้วมืออุ่นก็เคลื่อนเข้ามาครอบครองแทน... ดวงแก้วมีความรู้สึกเหมือนลอยอยู่ในวังน้ำวน...อยากจะถอยแต่ทำไม่ได้รู้อย่างเดียวว่าบัดนี้..หล่อนไม่มีความกลัวอะไรหลงเหลืออยู่..และไม่มีความรังเกียจเดียดฉันท์ใด ๆ กับร่างของบุรุษที่กำลังกอดก่ายเฟ้นฟอนหาความสุขอยู่บนกายหล่อน ใบหน้าได้รูป..รกไปด้วยเีคราเขียวซุกจุมพิตเลียไล้ไปทั่วทรวงอกอวบหยุ่นอย่างพอใจ หล่อนผวาขึ้นทั้งตัว เมืื่อเขาทำท่าราวกับจะกลืนกินมันเสียให้ได้ แต่แล้วท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำจนเรือน้อยเช่นรวงแก้วแทบคว่ำไม่เป็นท่าแล้วนั่น กมลภพก็หยุด..ซบหน้าลงกับอกอวบงามทอดอกบัวตูมนั้นนิ่ง..ค่อย ๆ ถูใบหน้าสากระคายของตนเองเสียดสีไปกับยอดอกหล่อนเล่นไปมาเบา ๆ แล้วเหลือบสายตาขึ้นมองใบหน้าแดงก่ำลงมาตลอดจนถึงลำคอของสาวน้อยในอ้อมแขน หล่อนยังเด็กอ่อนต่อโลก..และบริสุทธิ์นักไม่มีมายาและไม่รู้จักที่จะเสแสร้ง...อารมณ์ลึก..ถูกปลุกขึ้นอย่างง่ายดาย...และไม่มีปัญญาจะสงบมันลงได้ด้วยกำลังใจของตนเอง ชายหนุ่มขยับใบหน้าขึ้นตรงกับหน้าหล่อน..วางศอกไว้ข้าง ๆ ศีรษะได้รูปแล้วบรรจงปัดเส้นผมที่ระไปตามใบหน้า...และลำคอของหล่อนไปให้พ้น...ช่วยดึงบราเซียร์ให้เข้าที่...แล้วสอดมือเข้าไปติดตะขอให้ก่อนจะทอดตามองมือเรียวบางสั่นระริกติดกระดุมเสื้อให้ตัวเอง
รวงแก้ว อายเขาจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี..ในขณะที่อีกฝ่ายหรี่ตามองหล่อนนิ่ง...เหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะทำอย่างนั้น เขาและหล่อนอยู่ท่ามกลางผืนหญ้าและช่อดอกไม้สูงเป็นฟุตรอบตัว...และไกลจากตัวบ้านพอควร...
กมลภพรู้ดีว่าไม่มีใครย่างกรายเข้ามาใกล้เด็ดขาดในที่ ๆ เขาและหล่อนไป..จนกว่าจะมีสัญญาณเรียก หล่อนหลบตาเขาและพยายามทรงตัวลุกขึ้นหนี แต่เขาก็ใช้กำลังที่มีมากกว่าดึงหล่อนให้นอนหนุนท่อนแขนตัวเองอยู่กับที่ขณะที่เขาใช้แขนข้างเดียวกันนั้นทรงตัวขึ้นตะแคงมองหล่อน
“อยากแต่งงานกับฉันไหม” เขาถามเสียงเรียบ...ขณะที่รวงแก้วกระพริบตาปริบ ๆ ตอบไม่ได้
“ยังไม่รู้เลยสินะว่าตัวเองรู้สึกยังไง...รัก..หรือไม่รัก...” เขาเดาต่อ พร้อมกับเกลี่ยนิ้วไปทั่วเรียวปากนุ่ม
“รู้ตัวบ้างไหมแก้วว่าตัวเธอน่ะสวย..สะอาดขนาดไหน..ความสวยแบบนี้น่ะที่ทำให้อารมณ์ผู้ชายกระเจิดกระเจิงคุมไม่ได้เสียคนมานักต่อนักแล้ว” รวงแก้วอยากจะถามเหลือเกินว่ารวมทั้งตัวเขาด้วยหรือเปล่า
“จำไว้นะแก้ว.....เลิกคิดที่จะไปจากฉันได้..เลิกคิดที่จะไปมีอิสระกับไอ้หน้าไหนอีก..เธอต้องอยู่กับฉัน และเป็นของฉันคนเดียวแก้ว..ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปให้ไอ้หน้าไหนมันแตะแม้แต่ปลายเล็บ” น้ำเสียงของเขาเครียดเข้ม..เอาจริงเอาจังเสียจนน่ากลัว ประกอบกับดวงตาที่จ้องนิ่งมายังดวงตาของรวงแก้วอีก แต่รวงแก้วกลับไม่กลัวเขาเท่าทีควร..หล่อนกระพริบตามองใบหน้าเข้มคมคายของเขาอยู่ชั่วครู่ก็หลุบเปลือกตาลง.. พ่อจะว่าไงมั่งนี่...ถ้ารู้ว่ารวงแก้วรู้สึกยินดีไปกับสัมผัสรัดรึงของเขา จะว่าเต็มใจ...ก็เกือบไม่ผิดเลยทีเดียว..เต็มใจอย่างไม่มีข้อแม้อะไรด้วย รวงแก้วใจง่ายใช่ไหมนี่..ที่่ยอมให้ผู้ชายแปลกหน้าสัมผัสแตะต้องเอาตามใจชอบอย่างไม่มีตระแหน่แง่งอนอะไรเลย แม้ว่าจะกลัวเขาอยู่มากในตรอนแรก..แต่พอเอาเข้าจริง ๆ รวงแก้วก็ตัวอ่อนปวกเปียก..ไม่มีปัญญาหรือความคิดแม้แต่จะต่อต้าน ทว่าก่อนที่จะพูดอะไรกันต่อไป..จากที่นอนกันอยู่ก็ได้ยินเสียงรถดังเป็นขบวนตรงมายังบ้าน..กมลภพขมวดคิ้ว..แล้วทรงตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว...
“อยู่นี่นะแก้ว...อย่าไปไหนเด็ดขาด”
ร่างสูงเพรียวของกมลภพเคลื่อนไหวได้รวมเร็วอย่างไม่น่าเชื่อไม่ถึงอึดใจเขาก็ถึงตัวบ้าน...และลับหายไปจาำกสายตา พอกมลภพพ้นตาหล่อนไปได้..รวงแก้วก็เห็นนของเขาเดินตรงมาหาหล่อน
คน ๆ นี้เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีชื่อ ประทีป... ประทีป เดินเข้ามาหยุดใกล้พอมองเห็นหล่อนแล้วกวาดตาหาที่นั่งของตนเองใกล้ ๆ นั่นเอง
บุคคลที่มาถึง..ทำให้กมลภพหน้าเครียดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก...
“สวัสดีครับคุณมล” โกษากล่าวทักทาย ลูกน้องฝีมือเยี่ยมที่สุดของ “นาย”
โกษาทำหน้าที่เหมือนคนรับใช้สนิท...ในขณะที่กมลภพเหมือนมือขวา..ซึ่งต่างกินกันอยู่ในที่เสมอมา
“มีอะไร...มาถึงนี่...” กมลภพถามเสียงเรียบ ขณะยกมือขึ้นสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตที่เพิ่งดึงออกมาสวม ฝ่ามือของเขาสอดเข้าไปตรวจดูสิ่งที่นอนสงบอยู่ภายในอย่างไม่ประมาท
“เจ้านายได้ข่าวว่าคุณได้ตัวคำรน”
“เกือบได้..” ชายหนุ่มแก้ให้ถูก
“อ้อ” โกษาทำน้ำเสียงเข้าใจพร้อมกับกวาดสายตาสำรวจไปทั่วบ้าน ที่นี่เป็นอาณาจักรของกมลภพและเขาเป็นผู้มาเยือน..จึงต้องระวังตัวเป็นธรรมดา ลูกน้องของโกษาซึ่งมากันเต็มคันรถค่อยๆ ทยอยกันลงมายืดแข้งยืดขา
“นาย” ล่ะ ชายหนุ่มถามถึงบุคคลที่เขามักจะพบคู่กับโกษาเสมอ
“จะตามมาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี่ล่ะครับ”
“จะพักที่นี่หรือเปล่า”
“เห็นนายว่างั้นนะ” โกษาตอบสั้น ๆ พร้อมกับเดินขึ้นบ้านหลีกร่างสูงของกมลภพไปทางหนึ่ง ชายหนุ่มเดินตามไปหยุดอยู่กลางห้อง ขณะที่โกษาตรงไปยังบาร์เหล้าและจัีดการช่วยตัวเอง
“เอาหน่อยไหม” ฝ่ายมาเยือนหันมาถาม
“ไม่” เจ้าบ้านตอบสั้น ๆ ขณะกวาดสายตามองคนของโกษา ซึ่งพากันกระจัดกระจายไปรอบ ๆ บ้าน ขณะเดียวกันคนของกมลภพก็เริ่มเคลื่อนเข้ามาคุมเชิงให้เจ้านายของตนเอง ทุกอย่างดูจะราบเรียบไม่มีปัญหา..จนกระทั่งร่างบางของรวงแก้วเดินผ่านเข้าประตูด้านหลังเข้ามาพร้อมกับประทีป
โกษาหันมามองแล้วหยุดตะลึงอยู่กับที่เหมือนโดนนะจังงัง คนอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันก็ไม่ถูกยกเว้น....สายตาทุกคู่ต่างพุ่งเข้ามาหาร่างอรชร..แบบบางเย้ายวนหวานเยิ้มไปทั้งเนื้อทั้งตัวด้วยท่าทางเหมือนไม่เชื่อตาตนเอง
รวงแก้ว ไม่รู้เลยว่าประกายตาเจิดจ้า..แวววาวของหล่อนเสริมให้ใบหน้าหวานละมุลนั้นมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว... กมลภพนิ่งขึง เมื่อหล่อนมาหยุดยืนมองใครต่อใครด้วยดวงตาตระหนกจนเห็นได้ชัด
“ไม่นึกว่ามีเทพธิดาซ่อนอยู่ในหุบเขานี่เลยนะนี่” โกษารำพึงยิ้ม ๆ เป็นเชิงล้อเลียนกมลภพ
“นี่ถ้าเจ้านายมาเห็เข้าจะว่าไง” เขาพูดค้างไว้แค่นั้น เมื่อสบตาดุกระด้างของกมลภพที่ส่งมาหาอย่างไม่เกรงใจ “รวงแก้วเป็นของฉัน....ขอให้ทุกคนรับรู้ไว้ด้วย” คำรับรองนั้นสั้นและชัดเจนยิ่งกว่าชัด โกษาทอดตานิ่งไปที่รวงแก้วอีกครั้งก่อนจะขยับตรงเข้าไปหา...
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณรวงแก้ว..มาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือครับ”
“เราเพิ่งมาถึง” กมลภพตอบซะเอง พร้อมกับพยักหน้าเรียกให้รวงแก้วเดินเข้าไปหาเขา เขายกมือขึ้นโอบเอวหล่อนรั้งให้นั่งลงบนเท้าแขนเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ ดวงตาคมกริบ..สบตากับหญิงสาวเป็นเชิงเตือนให้ระวังตัว...
รวงแก้วเบียดสะโพกเข้าแนบไหล่กว้างของเขาตามแรงดึง..และรู้สึกถึงไออุ่นของมือใหญ่ที่วางนิ่งอยู่รอบเอวและเคลื่อนลูบไล้ไปมาเบา ๆ พอรู้สึก
หญิงสาวรู้โดยสัญชาตญาณว่าดวงตาของโกษาที่มองตามทุกก้าวนั้นเหมือนดวงตาของหมาป่าที่จ้องมองลูกแกะ มันกวาดไปทั่วเรือนร่างหล่อน..ราวกับจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าทุกชิ้นออกด้วยดวงตานั้นและรวงแก้วก็บอกตัวเองว่าไม่ชอบเลยสักนิด
สาวน้อยรู้สึกตัวเหมือนหลงเข้ามาอยู่ในดงเสือ...สิงห์กระทิง....แรดแท้ ๆ ดวงตาแต่ละคู่ที่มองมาเหมือนอยากจะฉีกหล่อนกินเป็นภักษาหารทั้งนั้น
โกษามองหล่อนไม่วางตาเลยทีเดียว ใคร ๆ ก็รู้ว่าผู้หญิงของ “นาย” แทบทุกคนไม่พ้นมือโกษา.. ”นาย” เองก็รู้แต่ไม่สนใจนัก เด็กรับใช้โผล่เข้ามาบอกว่าอาหารที่เตียมไว้ต้อนรับเสร็จเรียบร้อยแล้ว กมลภพกล่าวเชิญโกษาและลูกน้องของเขาตามมารยาทก่อนที่จะดึงรวงแก้วลุกขึ้นเดินแยกมาเสียทางหนึ่ง...
“ใครคะ..” “คู่แข่ง...คนของเขาก็ออกตามหาพ่อของเธอ” เขาอธิบายเมื่อจูงหล่อนตรงไปยังห้องนอนตัวเอง
“นี่ไม่ใช่ห้องฉันนี่คะ”
“ห้องของฉันเอง” เขาบอกพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปดึงหล่อนเข้าไปด้วย รวงแก้วหน้าตาตื่น..และขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเห็นเสื้อผ้าของหล่อนซึ่งรวมกันไว้ในตะกร้าถูกคว้ามายัดใส่ไว้ในห้องของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่...
“ห้องเธอต้องจัดเป็นห้องพักแขก..เดี๋ยวเขาจะมา” กมลภพบอกพร้อมกับขยับร่างหล่อนให้หันไปประจัญหน้าเขา
“คนที่กำลังจะมาเรียกว่า “นาย” คน ๆ นี้คือคนที่มีอิทธิพลต่อเราพอควร..ข้อสำคัญ..เขามีจุดอ่อนอยู่ที่ “ผู้หญิง” ฉันจึงต้องเตือนเธอเอาไว้....อยู่ให้ห่างเขาที่สุด”
“พวกคุณมีจุดอ่อนที่ผู้หญิงทั้งนั้นเท่าที่ฉันสังเกต” รวงแก้วดักคอ...
“งั้น...แม้แต่ฉัน..” กมลภพถาม
“ค่ะ..โดยเฉพาะคุณ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของหล่อนที่ตอบโต้เขาทำให้ชายหนุ่มหัวเราะ
“อย่างฉันน่ะไม่ใช่หรอกแก้ว..ผู้หญิงทุกคนไม่ใช่จุดสนใจฉัน” เขากล่าวแก้สั้น ๆ โดยไม่อธิบายให้มากกว่านั้น
“บางคนเท่านั้นที่ทำให้คุณสนใจ..และเผอิญฉันอยู่ในจำนวนบางคนนั่นใช่ไหมล่ะคะ” เขาหันมาปรายตามองหล่อนอย่างแปลกใจที่รวงแก้วกล้าถามออกมา
“หัดประชดเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตอนนี้กระมังคะ..ตอนที่รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะกลายเป็นสินค้าแล้ว..ไม่ใช่คน” คำพูดของหล่อนทำให้เขาส่ายหัวดิก...ขณะนั้นประตูก็ถูกเคาะและเด็กรับใช้วัยรุ่นที่เอาเสื้อผ้ามาให้รวงแก้วก็โผล่เข้ามา
“ของนายผู้หญิงมาถึงแล้วค่ะ”
“เอามาจัดให้เข้าที่เข้าทางซะเลย” กมลภพสั่งมาจากมุมหนึ่งของห้องริมหน้าต่างเขาแยกไปยืนอยู่ตรงนั้น แล้วกอดอกมองหล่อนซึ่งยืนอยู่กลางห้่องด้วยสายตาสงบนิ่ง
หีบเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ของหล่อนซึ่งสั่งมาจากในเมืองถูกนำเข้ามาจัดใส่ตู้เสื้อผ้ากว้างขวางอย่างรวดเร็ว เด็กรับใช้เข้ามาวิ่งวุ่นกันอยู่ไปถึงสองชั่วโมงก็เรียบร้อย ขณะนั้น..เสียงรถไปต่ำกว่าสองคันก็ทยอยเข้ามาจอดหน้าบ้านอีก ห้องนอนของกมลภพอยู่ทางปีกบ้านด้านหนึ่งและเขาก็ืยืนมองอยู่พอดี
“นายมาแ้ล้ว” เขาพึมพำเบา ๆ รวงแก้วยืนนิ่ง..มือเย็น..และถ้ามองไม่ผิดเด็กสาวรุ่น ๆ ในห้องทั้งสามนั้นต่างชะงักมือเกือบพร้อมกัน
“เราสามคน...พอเสร็จธุระแล้วกลับบ้านได้ และไม่ต้องโผล่เข้าอีกจนกว่าเขาจะไปกันหมด..เข้าใจใช่ไหม” รู้สึกว่าทุกคนจะเข้าใจได้ดีโดยไม่มีการถามซ้ำหรือทำให้ต้องเสียเวลาอธิบาย ร่างสูงของเขาเดินเข้ามาใกล้หล่อน..ยกมือขึ้นกอบเส้นผมสลวยขึ้นมองอยู่อึดใจก่อนจะบอกว่า...
“รวบผมซะเถอะ.....สิ....ฉันจะคอย...” รวงแก้วมองหน้าเขา..แล้วก็เดินไปหยุดนิ่งตรงหน้ากระจกซึ่งตอนนี้มีเครื่องใช้ผู้หญิงวางเต็มไปหมด หล่อนจัดการกับตัวเองในเวลาไม่กี่นาทีด้วยการถักผมเป็นเปียแล้วขมวดเป็นมวยตรึงไว้้ด้วยกิ๊บไม่กี่ตัว...
ตลอดเวลาหล่อนเห็นเขาจ้องเอาชนิดไม่วางตาจนหล่อนมือสั่นติดกิ๊บผิด ๆ ถูก ๆ อยู่หลายครั้ง เมื่อเสร็จเรียบร้อย..กมลภพก็เดินมาหา...ยกมือขึ้นกระชับต้นคอของหล่อนแล้วดึงให้เดินออกไปรับ “นาย” ด้วยกัน
อย่างแรกที่หญิงสาวมองเห็นในห้องรับแขกกว้าง ซึ่งแคบเข้าไปทันควันด้วยจำนวนคนที่มาใหม่ทั้งหญิงและชาย รวงแก้วกระพริบตาอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อหล่อนเห็นผู้หญิงห้าหกคนในเครื่องแต่งกายแพรวพราวเฟี้ยวฟ้าวระยับไปด้วยเครื่องประดับทั้งจริงและปลอมเต็มตัวไปหมด ถ้าจะว่ากันแล้ว..เวลานี้...ในห้องโถงนี่มีคนของ “นาย” และโกษารวมกันอยู่สักยี่สิบคนกระมัง..แซมด้วยคนของกมลภพนิดหน่อย..เพราะส่วนใหญ่ถูกสั่งให้อารักขาอยู่แค่รอบ ๆ บ้าน
ทุกคนต่างเงียบกริบไปหมด..เมื่อเขาและหล่อนปรากฏตัวขึ้น..เสียงหัวเราะเสียงคุยและเสียงกรี๊ดกร๊าดสงบลงพร้อมกับทางเดินที่ถูกเว้นเป็นช่องเพื่อให้มองเห็นคน ๆ หนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางห้อง..
รวงแก้วมองตามสายตาของกมลภพ..ไปสบตานิ่งกับผู้ชายวัยกลางคนที่ทุกคนต่างเรียกเขาว่า “นาย” อายุราว “ห้าสิบ” เห็นจะได้กระมัง..ผมดำแต่ไม่สนิท และมีหงอกประปรายอยู่ทั่วบริเวณจอนหูเต็มไปหมด
หญิงสาวมองหน้าของ “นาย” แล้วให้รู้สึกเหมือนว่าเคยเห็นหน้าคุ้น ๆ อย่างนี้ที่ไหน หล่อนสบตากับดวงตาคมวาวนั้นนิ่ง และเห็นว่มันหรี่ลงกราดไปทั่วตัวหล่อน..ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเลยก็ว่าได้ หล่อนมองเห็นโกษายืนอยู่ไม่ห่างนัก...และกำลังกระซิบกระซาบอะไรเบา ๆ อยู่ข้างหู
รวงแก้วเห็น...นาย...เลิกคิ้วสูงขึ้นอย่างประหวาดใจก่อนจะปรายตามองเลยหล่อนไปที่กมลภพราวจะล้อเลียน..ไม่อยากเชื่อ..
คนที่ยืนนิ่งเคียงข้างหล่อนลดมือลงจากต้นคอบางระหง....ละเรื่อยลงไปตามแผ่นหลังนุ่มนิ่มจนถึงเอวคอด...แล้วรั้งให้เดินเข้าไปเชิญหน้ากับผู้ที่นั่งอยู่
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าที่โกษาพูดเป็นความจริงใจ” นายเอ่ยปากขึ้นด้วยนำ้เสียงที่รวงแก้วบอกตัวเองว่าค่อนข้างคุ้นหูตามเคย..
“จริงครับ....รวงแก้วนี่..”นาย”ของเรา..”
กมลภพรับคำแล้วหันมาแนะนำหล่อน..รวงแก้วยกมือขึ้นไหว้โดยอัตโนมัติแล้วหลบตาคมของ “นาย” ที่มองตามหล่อนไม่คลาดสายตา...สาวน้อยรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก..นี่อีกคนที่มองหล่อนเหมือนมองเหยื่ออันโอชะ....
“ได้ข่าวว่าประกบตัวคำรนได้รึ”
“นายหูไว..ตามเคย...” กมลภพถอนใจพร้อมกับหยักหน้า ขณะที่ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว โดยมีรวงแก้วนั่งลงเคียงข้าง
ขณะนั้น..มีผู้หญิงคนหนึ่งในจำนวนห้าหกคนนั้นขยับเข้ามาเบียดลงบนพนักเก้าอี้ที่นายนั่ง...แล้วสอดแขนโอบบ่ากว้างของนายไว้อย่างคุ้นเคย
ใบหน้าของหล่อนจัดว่าสวยถ้าไม่แต่งจนเข้มจัดอย่างนั้น...รูปร่างก็อวบอัดสะบัดไปทุกส่วนสัดตั้งแต่อกจรดสะโพก หล่อนสวมกระโปรงผ่าข้างซึ่งพอนั่งเช่นนั้นก็เปิดช่วงขายาวเรียวให้เห็นถนัดตา
รวงแก้วเห็นโกษาปรายตามองอย่างไม่เกรงใจและไม่ปิดบังความกระหายในดวงตาเสียด้วย สาวน้อยหลุบเปลือกตาเมินหน้าหนีเสียทันที ขณะที่ได้ยินกมลภพตอบ..นายว่า
“ไม่ได้หรอกครับ...แต่กำลังตามตัวอย่างกระชั้นชิด”
“ถ้าฉ้ันได้ตัวก่อนล่ะจะว่าไง” นายถาม....กมลภพยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“ยังไงก็รอผมด้วยแล้วกัน”
“รอได้ยังไง..เงินเป็นสิบ ๆ ล้านรอได้ที่ไหน” นายทำเสียงไม่จริงจังเท่าใดนัก
“ยังไงก็รอแล้วกันครับ..ผมอยากได้ของคืนพอกับนาย...”
“ฉันกลัวมันจะขายซะก่อน”
“ไม่มีเวลาหรอกครับ...เราตามล่อหลังไปขนาดนั้น”
“ถ้านายตามเองล่ะฉันเชื่อ...แต่ให้ลูกน้องนายตามน่ะไม่ค่อยเชื่อหรอกนายคำรนมันไม่ใช่หมู”
ตลอดเวลาที่คุยกันเรื่องพ่อหล่อน...รวงแก้วหูผึ่ง กมลภพปรายตามองคนที่นั่งข้างอย่างระวัง....กลัวว่าหล่อนจะรู้มากเกินไปและหากพูดขึ้นมาจะวุ่น แต่รวงแก้วยังนั่งเฉยในช่วงนั้น
“ทีแรกก็สงสัยอยู่ว่าทำไมนายไม่ไหตามเอง แต่พอมาเห็นแบบนี้ก็ชักเห็นใจ..” นายพูด เป็นเชิงเย้า..พร้อมกับปรายตามองมายังรวงแก้ว
“ถ้าฉันเจอแบบนี้ก็เห็นต้องพักไว้ก่อนเหมือนกัน..แลกกันไหมสักคืน”
รวงแก้วกระพริบตาอย่างตกใจ..หันขวับไปมองกมลภพ..เห็นเขายิ้มเหมือนไม่เดือดร้อน พร้อมกับตวัดตามอง..สาวสวยข้างตัวนายที่มองสบตามาอย่างท้าทาย ตอนที่่ 4
รวงแก้วหน้าร้อนผ่าว...เมื่อสบดวงตาที่แสดงความต้องการเปิดเผยของ “นาย” ซึ่งมองตรงมายังหล่อนอย่างสำรวจตรวจตราไปทั่ว... กมลภพนิ่งไปนานจนรวงแก้วใจไม่ดี..หันไปมองใบหน้าคมสันด้านข้างของเขาอย่างอึดอัดว้าวุ่นจนแทบระงับไม่ได้...
“เห็นจะไม่ล่ะครับ” แล้วเขาก็ตอบออกมาอย่างใจเย็น...พร้อมกับหัวเราะขัน ๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“ก็ว่างั้น” นายต่อให้อย่างรู้ใจขณะยกเหล้าในมือขึ้นจิบ
“แล้วเบนล่ะ..นายเอาไปไว้ไหน” คำถามประโยคนี้เล่นเอารวงแก้วเย็นวาบไปทั่วไขสันหลัง....ขณะที่กมลภพนั่งเฉยตามเดิม
“ส่งไปด้วย..” “งั้น” นายถามเสียงสูง
“อย่าบอกว่านายทำให้เบนหันมาเป็นพรรคพวกได้นะ..”
“เปล่า” กมลภพส่ายหน้า
“ผมเพียงมีข้อต่อรองที่ดี” “นั่นสิ...ฉันก็ว่างั้น” นายพูดยิ้ม ๆ แล้วถามต่อ
“คิดจะรออีกกี่วัน” “สักสามวัน” กมลภพตอบ
“ถ้าสามวันไม่ได้เรื่องล่ะ” “ผมจะไปเอง” “ก็ดี..ค่อยแน่ใจได้หน่อยจำไว้ว่าต้องได้ทั้งคนและของหลังจากนั้นก็ฝังซะ”
“อย่านะคะ” เสียงที่พูดแซงขึ้นอย่างตื่นตระหนกทำให้ทุกคนชะงักงัน
“นาย” ปรายตามองรวงแก้วอย่างสงสัยแถมแปลกใจ ส่วนกมลภพ..นั่งนิ่ง..เงียบกริบ..คลึงแก้วเหล้าในมือเฉย “นาย” หรี่ตาลงมองรวงแก้วอย่างพินิจยิ่งขึ้น.....และเวลานั้นโกษาก็ขยับตัว..เดินอ้อมมาหยุดอยู่เบื้องหลังเก้าอี้ที่กมลภพนั่งอยู่
รวงแก้วรู้ในนาทีนั้นว่าได้ทำสิ่งโง่เขลาลงไปแล้วจนได้ ชายหนุ่มเองก็รู้ดีว่า..เขาพลาดไปแล้ว ๆ ที่พาหล่อนออกมานั่งด้วย ตอนนี้รวงแก้วรู้สึกว่าไม่ใช่เพียงหล่อนเท่านั้นที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมแต่ได้รวมเอากมลภพไปด้วย....
“หล่อน...มีส่วนอะไรในเรื่องนี้ด้วย”
“นาย” ถามเสียงเรียบ มองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างจริงด้วยสายตาที่เห็นแล้ว..รวงแก้วรู้โดยสัญชาตญาณเลยว่าผู้ชายตรงหน้าสามารถทำสิ่งเลวร้ายได้ทุกชนิดโดยไม่คิดจะใส่ใจหรืออินังขังขอบต่อปฏิกิริยาที่จะตอบโต้กลับมาไม่ว่าจะเป็นอะไร กมลภพปรายตากลับมามองรวงแก้วเต็มตาก่อนจะค่อย ๆ ยกปลายนิ้วขึ้นเชยคางหล่อนขึ้นสูงจนตึงไปทั่วลำคอระหง....
“เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของคำรน” ทันทีที่เขาพูดจบ...ในห้องก็เงียบ นาย มองรวงแก้วอย่างเด่งพิศกว่าเดิมกว่าจะหันมามองกมลภพนิ่งนานอย่างเดาใจไม่ออก...ในที่สุด..”นาย” ก็หัวเราะออกมาพร้อมกับยื่นแก้วมาชนกับแก้วของเขาดังกริ๊ง
“เด็ด ๆๆๆๆ...เด็ดขาดจริง ๆ นายมันแผนสูงไม่น่าเชื่อ..แบบนี้ไม่ต้องไปวิ่งตามคำรนมันให้เสียเวลาจริงไม๊..รออยู่ตรงนี้ล่ะ..มีความสุขให้เต็มอิ่ม..แล้วรอ..อย่างเดียว..ฉันทึ่งแกมากขึ้นทุกทีแล้ว..”นายมล” แกนี่ใช้ได้...ใช้ได้..เชื้อไม่ทิ้งแถวเลย” วลีสุดท้ายของนายทำให้กมลภพขมวดคิ้ว..เขม่นตามอง “นาย” อย่างสงสัย
“นาย” เองก็ทำท่าจะรู้ตัว..เสแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด..แล้วหันไปเช็ดปากกับ “ทรวงอก” ของผู้หญิงในอ้อมแขนนั่นเอง รวงแก้วถึงกับกระพริบตา..แก้มแดงเถือกขึ้นมาทันควัน...แล้วก็ตกใจเมื่อลำคอถูกเหนี่ยววูบเข้าไปหาคนข้าง ๆ บ้าง
เขาจูบหล่อนหนัก ๆ อวดชาวบ้านเสียดื้อ ๆ งั้นแหละ....เล่นเอารวงแก้วโกรธแว่บขึ้นมาทันที ดวงตากลมใสกระจ่างที่มองเขาขุ่นมัว....เอาเรื่องกมลภพทำเหมือนไม่เห็น นี่เขาเห็นหล่อนเหมือนผู้หญิงเหล่านั้นเลยรึนี่..อยากจะทำอะไรก็ได้ต่อหน้าใครก็ได้
รวงแก้วได้ยินเสียงนายหัวเราะอย่างถูกใจ...แล้วแม่สาวคนนั้นก็ถูกรั้งลงมาบนตักนาย...กระโปรงเปิดไปถึงไหนต่อไหนอย่างไม่สนใจจะปกปิด
บรรยากาศตึงเครียดในห้องเมื่อครู่เปลี่ยนไปอยางไม่น่าเชื่อ กมลภพยังคงรั้งต้นคอหล่อนเอาไว้่เช่นนั้น...ตาของเขามองเลยนายไปสบกับดวงตาโกษาที่จ้องนิ่งมายังรวงแก้วอย่างไม่ยอมกระพริบ..
“อย่างนั้น...หล่อนก็เป็นของกลางเป็นของใครก็ได้..” วาจาของโกษาเล่นเอาบรรยากาศในห้องแปรเปลี่ยนไปอีก
ทุกคนเงียบกริบ..หันไปมองโกษาที มองกมลภพที ใคร ๆ ก็รู้ว่ามือขวาและมือซ้ายของนายคู่นี้..กินลึก..กันมาตลอด และส่วนใหญ่ “คุณมล” มักจะรามือไม่อยากมีเรื่องด้วย แต่จะหมายความว่า “กลัว” โกษาก็หาไม่..ทุกคนรู้ว่า “คุณมล” หลีกเต็มที่เสมอ..แม้แต่เรื่องผู้หญิงที่โกษามักตัดหน้าเอาไปหลายครั้ง “คุณมล” ก็ไม่สน..หากคราวนี้ “รวงแก้ว” ไม่ใช่ผู้หญิงอื่นที่อาจจะมองข้ามไปได้ ทุกคนที่เห็นหล่อน..ก็เห็นค่าของหล่อนโดยไม่ต้องแจงให้เสียเวลา กมลภพยิ้มเกือบเป็นแสยะเมื่อได้ยินโกษาพูดแบบนั้น..
“ฉันได้ตัวเธอมา..และไม่คิดจะแบ่งให้ใคร”
“ถึงกับยอมรับเป็นเมียออกหน้าออกตาเชียวเรอะ”
“ก็เป็นแล้วและยังไม่คิดเซ้งด้วย..ตอนนี้” มือที่กุมอยู่ที่ต้นคอขาว ๆ บีบลงหนัก ๆ
“นายคำรนก็เป็นหนี้นายเหมือนกันนะ..เพราะฉะนั้นลูกสาวก็ควรเป็นของนายครึ่งหนึ่ง”
โกษาทำท่าไม่ยอมรามือง่าย ๆ ดังคิด...เมื่อแย่งไม่ได้ด้วยตัวเองก็โยนไปให้..”นาย” แทนอย่างรู้ใจอยู่เหมือนกัน กมลภพชายตาแว่บไปสบตาคมของ “นาย” ทันที ดวงตาสองคู่..สบกันนาน
รวงแก้วมองตา..แล้วกระพริบตาขมวดคิ้ว เมื่อตระหนักในสิ่งที่เห็น ความคล้ายคลึงของกมลภพกับ “นาย” มีอยู่มากแทบไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะดวงตาของคนทั้งสองยามจ้องมองกันอย่างเอาเชิงอย่างนี้
หล่อนนึกออกทันทีว่าเสียงห้าวทุ้ม..บางครั้งนุ่ม..บางคร้งแข็งของกมลภพนั้นคล้ายใคร ทำไม..ไม่มีใครฉุกคิดบ้างรึไงว่า ทำไมกมลภพกับ “นาย” จึงเหมือนกันนัก หรือว่าเขารู้กัน..แล้วไม่พูด รวงแก้วมองตากมลภพแล้วหันไปมอง “นาย” ด้วยดวงตาหวาดหวั่น
“เฮ้ย..เรื่องเล็ก..เมื่อเขาหวงฉันก็ไม่ยุ่ง..ปล่อยไปเถอะ..หาเอาใหม่ได้เยอะแยะ”
“นาย” ปัดซะดื้อ ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ โกษาขบกราม..มองตามอย่างไม่คิดจะเลิกราใน ขณะที่กมลภพลอบถอนใจยาวอย่างโล่งอก..เมื่อรั้งร่างบางให้เดินตามกันตรงไปยังห้องพัก รวงแก้วรีบก้าวตามอย่างไม่มีแง่งอน
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา..ทำให้หล่อนพอจะเลือกได้อย่างหนึ่...นั่นคืออยู่ในมือของเขา...ก็ดีกว่าตกไปอยู่ในมือของนาย หรือของโกษา เพราะคนเหล่านั้น..คงแร่เนื้อรวงแก้วออกมาจนไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน..ทันทีที่ได้ตัวหล่อนไป
พอก้าวพ้นประตูห้องของเขาเข้าไปได้เรียบร้อยหญิงสาวก็ถอนใจยาวอย่างโล่งอก..เิดินไปทรุดลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง หล่อนนึกไม่ถึงเลยว่ามนุษย์เพศตรงข้ามนั้นจะร้ายกาจ...แลเห็นฝ่ายที่อ่อนแอกว่าเป็น “เหยื่อ” ได้ลงคอเช่นนี้ ดวงตากมลโตคู่งาม..ชำเลืองมองว่าร่างสูงที่ตรงไปยังห้องเก็บเสื้อผ้าเขาหายไปชั่วครู่ แล้วออกมาพร้อมกับปืนในมือ
รวงแก้วมองตามอย่างตกใจ..จนกระทั่งเขาเอาไปวางเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงแล้วหันมาสบตากับหล่อน “อาบน้ำซะสิ..เดี๋ยวออกไปกินข้าวเย็นกัน”
“ไม่ออกไปได้ไหมคะ” ข้อต่อรองของหล่อนทำให้เขาเลิกคิ้ว..ก่อนจะเดินตรงมาหา ตอนนี้กมลภพถอดเสื้อแจ็กเก็ตแล้ว...เหลือเพียงเสื้อยืดตัวสวยรัดบ่ากว้างและอกตึงให้เห็นถนัด...ร่างสูงเปรียว..แข็งแรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าหล่อนก่อนจะทรุดลงทรงตัวบนส้นรองเท้า..วางมือทั้งคู่ทาบมาแนบต้นขาทั้งสองของรวงแก้ว ใบหน้าของเขาห่างรวงแก้วไม่ถึงฟุต
“กลัวหรือ” “ค่ะ” หล่อนรับตรง ๆ
“ฉันไม่ชอบถูกมองแบบนั้นเลย..และไม่สบายใจด้วย”
“นั่นคือเหตุผลว่าเธอควรระวังตัวให้มาก หากต้องอยู่คนเดียว..หรือห่างฉัน”
“คุณจะไปไหนคะ..” “ยังไม่รู้..แต่ก็ไม่แน่”
“ถ้านายสั่งหรือคะ” “คงงั้น”
“เอาฉันไปด้วยไม่ได้หรือคะ” หล่อนถามเขาด้วยสีหน้าเดือดร้อนไม่สบายใจ ชายหนุ่มมองหล่อนนิ่ง แล้วยิ้มอย่าล้อเลียน
“เอาไปอยู่กันอย่างนี้น่ะหรือ” เมื่อรู้ว่าเขาหมายความว่ายังไง..รวงแก้วก็ชักตอบไม่ออก..เพิ่งระลึกได้ว่าขณะนี้หล่อนกับเขาอยู่ในห้องกันตามลำพัง..และคงต้องอยู่กันไปตลอดคืนและตลอดวันต่อไปก็ได้..ตราบใดที่ “นาย” ยังอยู่...และพ่อของหล่อนยังไม่มา
ฝ่ามืออุ่นใหม่ของเขาถูกยกขึ้นแนบใบหน้าหล่อน “เธอคิดว่าฉันจะทนได้ยังไง..แค่ไหน” คำถามของเขาทำให้รวงแก้วนั่งเงียบ..ตอบไม่ได้
“คุณสัญญาแล้วนี่คะ” หล่อนเถียง
“สัญญาว่าจะไม่ข่มขืนน่ะหรือ” เขาถามพลางยิ้มที่มุมปาก..แล้วไล้ปลายนิ้วจากแก้มลงมาหยุดที่ปลายคางหล่อนเพียงแรงจากนิ้วมอืนิ้วเดียว.เขาก็ทำให้ริมฝีปากของรวงแก้วเผยอจนเห็นไรฟันขาวสะอาดได้ไม่ยาก หล่อนนั่งนิ่งเหมือนจะยืนยันว่าเขาต้องทำเช่นนั้น
“เธอคิดว่าฉันต้องข่มขืนเธอเท่านั้นใช่ไหม..ถึงจะได้เธอ” เขาถามเสียงเรียบ ขณะปรือตาหลบมองหล่อนด้วยนัยน์ตาชอบกล
“แน่ละค่ะ..และคุณก็สัญญาแล้วว่าจะไม่ทำ” คำตอบของหล่อนเล่นเอาคนฟังเกือบหัวเราะ..ดวงตาคมกริบเป็นประกายวาววามเมืื่อสบตาลงมาในดวงตาของหล่อน
“สาวน้อย..รวงแก้ว....รวงแก้วผู้บริสุทธิ์..โธ่เอ๊ย..” รวงแก้วนั่งมองเขาอย่างไม่เข้าใจ..กมลภพถอนใจเฮือกเมื่อถอยห่างไปจากหล่อนทั้ง ๆ ที่ยังยิ้ม
“อาบน้ำสิ..แล้วฉันจะได้อาบบ้าง...เร็วเข้า...หรือจะอาบด้วยกัน” คำถามสุดท้ายกระตุ้นให้รวงแก้วลุกพรวดอย่างรวดเร็ว..และไม่กี่นาทีต่อมาหล่อนก็หอบเสื้อ..หอบผ้าเช็ดตัวเดินลิ่ว ๆ เข้าห้องน้ำไปใครไม่ยองมองเขาอีกแม้แต่แว่บเดียว
ชายหนุ่มสังเกตเห็นฤทธิ์เดชของหล่อนที่เพิ่มขึ้นทีละน้อยอย่างขัน ๆ หล่อนหายเข้าห้องน้ำไปครู่ใหญ่ ๆ ก็เดินออกมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ซึ่งเป็นเสื้อจับจีบตรงอกแล้วพองลงไปกับข้อเท้าสีหวานไปทั้งตัว..ผมยาวถูกสยายลงประบ่า...เปิดให้เห็นใบหน้านวลผ่องรูปไข่หวานละมุล
กมลภพกำลังถือบุหรี่อยู่ในมือกำลังจะใส่ปากหันมามองตาค้าง ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าหล่อนสวยขนาดไหน..แต่พอเห็นเข้าทีไรก็อดตะลึงมองหล่อนไม่ได้ซะทุกที..เรียกได้ว่ามองเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม..ยิ่งพิศิย่งงามกลมกลึงน่ารักน่าพิศวาสไปทั้งเนื้อทั้งตัวครานั้น
กมลภพบอกตัวเองว่าเห็นทีจะบ้า..กับแค่ผู้หญิงคนเดียว... ที่เผอิญสวยสะดุดตากว่าคนอื่นแต่ทำไมมีอิทธิพลให้เขาขาดสติบ่อย ๆ ได้ไม่รู้ หรืออาจจะเป็น เพราะหล่อนยังใหม่กระมัง..ยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสานัก และเขาก็ไม่แตะต้องผู้หญิงประเภทนี้อยู่แล้ว นอกจากพวกสมัครใจซึ่งหาได้ง่าย ผู้ชายอย่างกมลภพ..ผู้หญิงมองหาเขาแทนที่เขาจะมองหาผู้หญิงเสียด้วยซ้ำ
เขาหันไปคว้าผ้าขนหนูแล้วเดินสวนกับหล่อนเข้าห้องน้ำ ครู่ใหญ่ก็เดินออกมาใหม่..กวาดสายตาหาหล่อน รวงแก้วนั่งอยู่หัวเตียง ด้านที่เขาวางปืนยื่นมือลงไปในลิ้นชักเมื่อครู่และขณะนี้ในมือของหล่อนมีปืนกระบอกนั้นอยู่ด้วย ลมหายใจของชายหนุ่มถูกกักไว้แค่นั้น..มองตาคู่สวยของหล่อนที่สบมาเขม็ง..ก่อนจะเลื่อนลงไปตามมือที่กำลังกุมอาวุธอยู่..
“เล่นอะไรนั่นน่ะ..วางซะ” เขาเด็ด...ขณะบังคับหล่อนไว้ด้วยสายตาคม..แล้วหย่อนร่าตนเองลงบนที่นอนอด้านตรงข้ามกับที่รวงแก้วนั่งอยู่
“อย่าดื้่อนะแก้ว...เก็บซะ....มันอันตรายนะ” รวงแก้วทำเหมือนไม่ได้ยิน..ปลายนิ้วของหล่อนเริ่มขยับเข้าหาโกร่งไก.. กมลภพตัวแข็ง..แทบลืมหายใจ..นึกตำหนิความเลินเล่อของตนเอง
“แก้ว” เขาตบที่นอน...หล่อนสะดุ้ง..แต่ยังไม่ยอมถอนสายตาจากเขา กมลภพใจหายวาบเมื่อหล่อนลุกพรวดขึ้นแล้วถอยห่างไปจากเขาพร้องปืนกระบอกนั้น
“ฉันไม่คือนหรอกค่ะ..จะเก็บมันไว้” “ไม่ได้” เขาเอ็ดพร้อมทั้งขยับตัวลุกขึ้นยืนใหม่ช้า ๆ
“มันอันตราย..อาจเกิดลั่นโป้งป้างขึ้นมาได้..คือนมาให้ฉัน”
เขาพูดพลางเดินอ้อมเตียงมาเผชิญหน้ากับหล่อน รวงแก้วยกปืนหรา...ทำให้อีกฝ่ายชะงักกึก
“ทำไมต้องคืนด้วยล่ะคะ..ทำไมต้องคืนให้คุณ..ทำไมต้องอยู่กับคุณ..ในเมื่อตอนนี้ฉันใช้มันเป็นใบเบิกทางไปจากนี่ได้” คำพูดของหล่อนทำให้ดวงตาของเขาลุกวาบด้วยความโกรธ
“เธอสัญญาแล้วนะว่าจะไม่หนี”
“สัญญาที่ถูกบังคับน่ะหรือคะ” คำย้อนตอบทำให้อีกฝ่ายหรี่ตาลงมองหล่อนอย่างเอาเรื่อง
“แก้วอย่าลูกไม้....และอย่าทำอะไรที่ไม่ฉลาดหน่อยเลย”
หล่อนยิ้ม ...ยิ้มครั้งแรกให้เขาเห็นกมลภพครางอยู่ในอกแล้วรู้สึกโกรธตัวเองเป็นกำลัง เขาประมาทกระต่ายตัวน้อยนี่เกินไป..ที่หล่อนสงบมาตลอดเพื่อรอจังหวะเท่านั้นหรือนี่ กรามทั้งสองข้างของกมลภพขบเข้าหากัน..ดวงตาคมวาวหรี่ลงอีกอย่างเอาเรื่อง รวงแก้ว...เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสั่งสอนหล่อน...
“แต่งตัวสิคะ...แล้วพาฉ้ันออกไปจากที่นี่” คำสั่งของหล่อนทำให้เขา่แทบเต้น...กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังสีทองเต้นระริกเมื่อเจ้าของเริ่มโกรธ มือของเขาเผลอกำเข้าหากันแล้วคลายออก ร่างสูงตระหง่านไหล่กว้างยืนประจัญหน้าอยู่กับหล่อนในระยะไม่ห่างมากนัก..แต่ก็ไม่ใกล้จนทำให้เขาคิดทำอะไรได้ กมลภพถอนใจเฮือกก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ....
“ก็ได้...ไปเอาเสื้อผ้าให้ทีสิ” เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นเท้าเอวบอกหล่อน..รวงแก้วส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ.....คุณไปหยิบเองสิคะ” เขามองหล่อนอยู่แค่อึดใจก็พยักหน้า
“ก็ได้” กมลภพหันหลังให้เดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าติดผนังดึงโน่นดึงนี่ออกมาโยนไปบนเตียงซึ่งบัดนี้สาวน้อยเผลอตัวขยับเข้ามาหยุดอยู่จนชิดขอบเตียงของเขา..หล่อนหารู้ไม่ว่าในตู้เสื้อผ้านั้น...มีซองปืนพร้อมอาวุธแขวนไว้ในลักษณะพร้อมใช้...
กมลภพมองมันแล้วก็ถอยหลังเดินออกไปอย่างไม่สนใจ...แถมปิดประตูตู้เสียเลย...ปืนกระบอกนั้นไม่มีประโยชน์กับเรา... เพราะชายหนุ่มไม่ประสงค์จะใช้มันกับหล่อน สิ่งที่เขาต้องทำและต้อทำให้ได้คือยึดปืนในมือหล่อนคืนมาแล้วก็สั่งสอนแม่สาวน้อยให้เข็ด แต่เขาจะทำยังไง เขาหันกลับมาหยุดเผชิญหน้าหล่อนใหม่..คราวนี้ใกล้กว่าครั้งแรกและรวงแก้วไม่ทันรู้สึก
กมลภพ เสยผมดำสนิทที่เปียกน้ำลีบไปกับศีรษะขับให้ใบหน้าเข้มคมสันเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด..เขามองตาหล่อน..พร้อมกับคีบสองนิ้วไปยังกางเกงในชูให้หล่อนดู...
“จะมองฉันแต่งตัวได้รึ” คำถามนั้นทำให้คนฟังหน้าแดง...แต่ยังดื้อที่จะทำตามความคิดตัวเองอยู่..หล่อนยืนมองเขายกปืนขึ้นขู่อย่างคนไม่รู้วิธีใช้....นิ้วทั้งสั่นกำอยู่ที่ด้ามปืนทั้งนั้น..ปลายนิ้วที่ไปป้วนเปี้ยนที่โกร่งไกก็ลดลงด้วยโดยไม่รู้ตัว
“จำเป็นนี่คะ...เร็วค่ะ..เดี๋ยวเราจะไปออกประตูหลัง”
“โอ้โฮ..วางแผนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาทำใจเย็นถามหล่อน..ทั้ง ๆ ที่ดวงตาจับนิ่งไปที่มือหล่อนไม่ยอมขยับ
“ช่างเถอะค่ะ..แต่งตัวเร็วสิคะ”
“ก็ได้....” กมลภพยิ้ม..แล้วกระตุกผ้าขนหนูผืนเดียวที่หุ้มกายอยุ่ทิ้งทันที รวงแก้วตกใจหลับตาปี๋..ขณะที่ร่างสูงปราดเปรียวก้าวพรวดเดียวถึงตัวหล่อนดันมือที่ถือปืนขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว....อีกมือหนึ่งที่ว่างตวัดรัดเอวหล่อนไว้แน่น...
หญิงสาวดิ้นอึกอัก..ไม่ยอมปล่อยมือจากปืนง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่มือของเขาที่กดทับลงมานั้นบีบจนเจ็บร้าวไปหมดทั้งกระดูก ชายหนุ่มหมุนร่างหล่อนให้หันชนของเตียงแล้วเสียหลักล้มไปบนฟูกด้วยกัน...แรงโถมและน้ำหนักตัวของเขาที่ทาบลงมาทำให้รวงแก้วแทบหายใจไม่ออก ไม่ช้า...ปืนในมือก็ถูกเขายึดกลับไปอย่างง่ายดาย
กมลภพยืดตัวยัดมันลงในลิ้นชักแล้วหันมาเล่นงานร่างที่เขาทิ้งน้ำหนักทับเอาไว้ทันทีนั้นอย่างรวดเร็ว ฝ่ามืออุ่นถูกสอดเข้ารองรับท้ายทอยและเอวบาง......รัดหล่อนขึ้นไปแนบอก ริมฝีปากร้อนรุมถูกกดลงหาเรียวปากนุ่มอิ่มและชอนไซร้เคล้าคลีึงเอาอย่างหนักหน่วง สะโพกและต้นขาแข็งแรงเบียดแทรก..แนบเข้าหาสะโพกของหล่อนแนบแน่น รวงแก้วสั่งไปทั้งตัว..รู้ทันทีว่าเขาจะลงโทษหล่อนแบบไหน ฝ่ามือบางป่ายเปะปะผลักดันบ่าไหล่ทั้งกว้างและหนักออกไปห่าง..แต่ดูเหมือนยันกำแพงซะมากกว่า เขาไม่กระเทือน...เลยสักนิด...ไม่รู้สึกเสียด้วยซ้ำ..หล่อนพยายามเปลี่ยนมือขึ้นผลักดันใบหน้าเข้มคมนั่นแทน...ฝ่ามือถูกหนวดเคราของเขาบาดเอา
หล่อนเบี่ยงใบหน้าหนีสำเร็จ..แต่จุมพิตนั้นก็ไล่ต่ำลงไปต่อ ไม่มีวี่แววว่ากมลภพจะหยุดเลยแม้แต่น้อย รวงแก้วหอบหายใจถี่...แล้วเริ่มใหม่..แต่คราวนี้มือทั้งสองกับถูกยึดไว้แน่นดึงขึ้นไปตรึงไว้บนศีรษะของหล่อน
“อย่าค่ะ...ไม่” หล่อนห้าม....และเขาไม่คิดจะฟัง เนื้อตัวเปล่าเปลือยแข็งแรงของเขาที่แนบเข้ามาหาหล่อนทำให้หญิงสาวกลัวจนบอกไม่ถูก...
“อย่านะคะ...ไหนสัญญาแล้วไงคะ” “ไม่มีสัญญาอะไรแล้ว” เขาว่าพลางไซร้จมูกปากลงไปจนทั่วบริเวณทรวงอกนุ่มที่คลุมด้วยเสื้อเนื้อบาง...
“มีสิคะ” “เธอทำลายแล้ว...เมื่อกี้นี้เอง”
“เปล่าค่ะ....ฉัน” รวงแก้วพูดไม่ทันจบก็ถูกเขาปิดปากด้วยจุมพิตหนักหน่วงเสียก่อน
สาวน้อยพยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการดิ้นรนสุดฤทธิ์แต่ไม่สำเร็จ..ฝ่ามือรัดขาของเขาไต่ไปทั่วร่างระหงงดงามอย่างไม่เกรงใจ..ชายกระโปรงตัวสวยถูกรั้งดึงขึ้นสูงไปเรื่อย ๆ ฝ่ามืออุ่นโลมไล้ไปทั่วเนื้อเนียนสะอาดทุกตารางนิ้วที่ผ่านขึ้นไปนั่น
“คิดแต่จะหนีใช่ไหมหนีทุกนาทีเลย” เขาคำรามอยู่ติดริมฝีปากหล่อน
“รู้ไหมว่าไปไม่รอดหรอกง...แล้าถ้าถูกจับได้ล่ะจะทำยังไง...ตัวเองน่ะแหละที่จะไม่มีชิ้นดี..ไม่รู้รึไงว่ามันจ้องจะงาบกันทั้งนั้น” เขาดุเสียงขุ่นแล้วจูบหล่อนจนรวงแก้วเริ่มอ่อนปวกเปียก
“อย่าค่ะ..ไม่..กรุณา..อย่าทำฉันแบบนี้” หล่อนพึมพำ ขอร้องเมื่อเขารุกรานหนักมือขึ้นและหล่อนก็ดิ้นไม่หลุด
“ไม่เอาแล้ว...ไม่เก็บไว้แล้ว” คำคาดโทษของเขาทำให้รวงแก้วเบิกตากว้างอย่างตกใจ...ลงแรงดิ้นเป็นครั้งสุดท้ายเต็มเหนี่ยว เขาตรึงหล่อนไว้กับที่นอนด้วยร่างสูงเปรียว...หนักแน่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว อารมณ์ลึกที่กมลภพพยายามกดดันและควบคุมเอาไว้ระเบิดออกมาในที่สุด
เขาตลบกระโปรงตัวสวยดึงรวดเดียวหลุดออกมาจากศีรษะหล่อน..รวงแก้วอ้าปากจะร้อง..เขาก็ปิดปากหล่อนไว้ใหม่..และคราวนี้เรียกร้องหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม
รวงแก้วหมดแรงจะสู้...หมดกำลังทั้งกายและใจดื้อ ๆ ในที่สุดเวลาที่หล่อนรอคอยด้วยความกลัวมาตลอดก็มาถึงจริง ๆ หล่อนทำใ้ห้เขาคลั่ง..ไม่ไว้ใจ..ไม่เชื่อใจ
ท่ามกลางความกดดันของอำนาจเถื่อนเบื้องนอกเขาพยายามปกป้องหล่อน..แต่ก็เพื่อจะทำลายเสีเองด้วยความหวงแหนที่ซ่อนเอาไว้ รวงแก้วหยุดดิ้น..ปล่อนให้น้ำตาไหลออกมาคลอดวงตาและกลิ้งตกลงไปบนหมอน ทรวงอกของหล่อนสะท้อนขึ้นลงตามแรงกดดันของอารมณ์
ใบหน้าคร้ามคม...ที่ซุกไซ้ไล่ลงไปหาความหยุ่นอวบของทรวงอกนุ่มก็รู้สึกถึงแรงสะอื้นครั้งนี้ เขาพยายามไม่สนใจ....ระดมจมูกปากคลุกเคล้าไปทั่วอย่างเมาอารมณ์ แต่ในที่สุด...สติที่มีติดตัวอยู่เสมอ..และมีมากกว่าก็ทำให้กมลภพหยุดทุกสิ่งทุกอย่างลง เขาขืนใจหล่อนไม่ได้จริง ๆ ทำไม่ได้ ศีรษะนุ่ม ๆ ของชายหนุ่มถูกยกขึ้นมองดวงหน้าหวานแอร่มซึ่งบัดนี้นอนปิดเปลือกตานิ่ง...ร้องไห้เงียบ ๆ
“อย่าร้องไห้ได้ไหม” เขาถามเบา ๆ พร้อมกับจุมพิตซับน้ำตาที่หยดลงเป็นทางให้อย่างทะนุถนอม รวงแก้ว ส่ายหน้าแล้วร้องหนักยิ่งกว่าเดิม..ไม่รู้เลยว่าสภาพทรวงอกในบราเซียร์ตัวน้อยที่สะท้อนขึ้นลงถี่ ๆเอวคอดกิ่ว..หน้าท้องแบนราบรับกับตะโพกผ่ายกลมกลึงที่ซับในตัวนิด ๆ ปิดบังอยู่นิดเดียวตรงหน้าเขานั้นเป็นภาพน่าดูขนาดไหน
กมลภพกลืนน้ำลาย..ถอนสายตามาด้วยความลำบาก...ขณะที่แตะปลายนิ้วลงไปบนหน้าท้องหล่อนใหม่เบา ๆ รวงแก้วสะดุ้ง...เบิกตากว้างขึ้นสบดวงตาคมวาวซ่อนประกายลึกลับอ่านไม่ออกของเขานิ่งอยู่นาน
“สัญญา...จะไม่ข่มขืน...ถ้าไม่เต็มใจ..จะไม่ทำเด็ดขาด” เขาก้มลงมากระซิบบอกกับริมฝีปากของหล่อนก่อนจะกดตามลงมาหนักหน่วง....เขาไม่ข่มขืน แต่ไม่ยอมเลิกราที่จะปลุกเร้าอารมณ์หล่อน
รวงแก้วสั่งไปทั้งตัว...เมื่อโดนจุมพิตที่เรียกร้องเร่าร้อนขนาดนั้น..และไม่เพียงแต่ปาก..มืออุ่นของเขาที่พรมปลายนิ้วไปทั่วร่างของหล่อนอีกเล่า หญิงสาวพยายามจะดึงตัวเองให้พ้นไปจากวังน้ำวนที่เขากำลังฉุดกระชากหล่อนลงไป
เมื่อครู่นี้..หล่อนยังไม่พร้อมและคิดว่าถูกเขาทำโทษเอาแน่แล้ว แต่ตอนนี้ กมลภพบอกว่าจะไม่ข่มขืน..แต่ไม่หยุดทำเช่นนี้เขาจะรอให้หล่อนยินยอมไปด้วยหรือไฉน เมื่อคิดมาถึงตอนนี้...อนุสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของรวงแก้วก็พ่ายแพ้เสียแล้ว..
สาวน้อยสวมกอดเขาแนบแน่น..ลำแขนเรียวโอบล้อมไปรอบคอรั้งเขาเข้ามาหาอย่างลืมตัว..ริมฝีปากนุ่มหวานจุมพิตตอบเขาอย่างดื่มด่ำพอกัน...จะว่าหล่อนไม่เคยก็ไม่ได้ เพราะเขานี่แหละที่เป็นครูสอนมาตั้งแต่ต้น..สอนให้อย่างนุ่มนวลและประทับใจมาตลอด
นานเท่านานที่ต่างแลกเปลี่ยนจุมพิตและสัมผัสอันอ่อนหวานแก่กัน รวงแก้วเกือบถอนสะอื้น เมื่อรู้ว่าตนเองรู้สึกเช่นไรกับเขาแล้ว นับตั้งแต่เห็นหน้า...และเริ่มเข้าใจถ่องแท้ขึ้นในตอนนี้เอง เพราะรวงแก้วชอบเขา..จึงไม่คิดรังเกียจเลยเมื่อเขาเข้ามาใกล้ กมลภพทำได้อย่างที่ว่าจริง ๆ เขาไม่จำเป็นต้องข่มขืน..แต่หล่อนนั่นแหละจะยินยอมพร้อมใจเอง
เสียงเคาะประตูหนัก ๆ ทำให้ร่างสองร่างที่กำลังกอดกันกลมอยู่บนเตียงหยุดกึก..กมลภพ เงยหน้าแล้วควานมือเข้าไปในลิ้นชักอย่างรวดเร็ว..ในขณะที่สาวน้อยในอ้อมแขนยังมีท่าทีไม่ตื่นจากภวังค์รัก แต่เสียงเคาะปรตูครั้งที่สองดังขึ้นอีก..รวงแก้เริ่มกระพริบตาหน้าตื่น
ชายหนุ่มมองหล่อนอยู่ด้วยประกายตาเอ็นดูลึกซึ้ง..เกือบไปแล้วสินะ..สาวน้อยผู้น่ารัก..เกือบอยู่แล้ว กมลภพปรายตามองหล่อนก่อนจะลุกขึ้นคว้าผ้ามาพันกาย..อีกมือถือปืนเดินไปหยุดที่ประตู
“ใคร..” เขาถามเสียงเรียบ “ทีป.....พี่” เสียงประทีปตอบเข้ามา
“มีอะไรหรือ” “นายเชิญที่ห้องพักแน่ะ...ให้พี่ไปคนเดียว”
“รอเดี๋ยว” เขาสั่งลูกน้องแล้วหมุนตัวกลับมายืนอยู่หน้าเตียงก้มลงหยิบเสื้อผ้ามาสวมใหม่..ดวงตาคมกริบมองรวงแก้วยิ้ม ๆ
“จะให้ประทีปเอาข้าวมาให้..อยู่ในนี้นะอย่าออกไปไหนเด็ดขาดรู้ไม๊” สาวน้อยพยักหน้าหงึกหงัก..ไม่ยอมสบตากับเขาเลย..อายจนพูดไม่ถูกและไม่รู้เลยว่า เมื่อครู่ใหญ่ ๆ ตอนลืมตัวนั้นทำอะไรออกไปบ้าง..กมลภพปัดปืนเข้าซอกรักแร้กระบอกหนึ่งอีกกระบอกใส่ไว้ด้านหลัง..ก่อนจะอ้อมปลายเตียง..เข้ามาหาหล่อน
“แต่งตัวให้เรียบร้อยง.ฉันไม่อยากให้ใครเข้ามาเห็นเธอแบบนี้ตบะมันจะแตกซะก่อน..ฉันยังไม่อยากฆ่าใครตอนนี้ซะด้วย” ฝ่ามืออุ่นแทรกเข้ามาที่ซอกคอ..แล้วช้อนใบหน้าหล่อนขึ้นรับจุมพิตหนัก ๆ เขามองหล่อนแล้วนึกถึงเวลาที่สาวน้อยเผลอตัวตอบสนองเขาเมื่อครู่แม้มันจะแค่เริ่มต้น..ไม่ได้ไปแค่ไหนแต่รวงแ้ก้วก็แสดงออกมาแล้วว่า “อารมณ์รัก” ที่จะตอบสนองเขานั้นมีพอตัว
หล่อนไม่เย็นชาดังกิริยาที่แสดงออกมแ้แต่น้อยตรงกันข้ามหล่อนเกือบเป็น “ไฟ” ดี ๆ นี่เองถ้าถูกจุดด้วยคนที่ถูกใจและถูกวิธี กมลภพบอกตัวเองว่าต้องระวังเพิ่มขึ้นอีกอย่างซะแล้วในตอนนี้
เมื่อชายหนุ่มและคนสนิทพ้นไปจากประตูห้อง..เงาของใครคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเีงียบ ๆ โกษา..มากับลูกน้องอีกสองคน..และให้ใครคนหนึ่งเคาะประตู รวงแก้แต่งตัวเสร็จบนเตียง..รีบตะกายลุกมาทันที...หล่อนมายืนละล้าละลังอยู่หน้าห้อง..แล้วก็ถามออกไป
“ใครจ๊ะ” “ประทีปครับ” เสียงที่ตอบมาทำให้หล่อนนึกได้ว่ากมลภพจะให้คนเอาข้าวมาให้...ทำไมเร็วนักไม่รู้..แต่รวงแก้วก็เปิดประตูให้
คนที่กรูเข้ามาเร็วเสียจนหล่อนตั้งหลักไม่ทันนั่นทำให้รวงแก้ถอยกรุดไม่เป็นกระบวน หญิงสาวเปิดตากว้างอย่างตื่นตระหนกเมื่อเห็นใบหน้าของโกษา
“คุณเข้ามาทำไม” หล่อนตวาดแว๊ด..แต่โกษากลับยิ้มเฉย..กวาดตามองไปทั่วร่างในชุดอยู่บ้านสีหวาน ๆ นั้นอย่างไม่ปิดบังควารู้สึก
“ก็เข้ามาหาเธอน่ะสิ...นายมลมันจะเก็บไว้กินคนเดียวน่ะรึ...ไม่มีทาง..ฉันแย่งมันไปแล้วหลายคน..ไม่เห็นมันว่าอะไรสักที..คราวนี้ก็อาจโมโหนิดหน่อย..แต่ก็คงเหมือนอย่างเคยล่ะน่ะ..ใจเย็น ๆ คนสวน..ฉันมีอะไรสนุก ๆ เล่นเยอะแยะ....เพลินกว่าอยู่กับนายมลนั่นซะอีก” รวงแก้วถอยกรูดติดข้างฝา..หวาดกลัวสุดหัวใจ
กมลภพเดินเข้าไปในห้องเจ้านายแล้วคว้าเก้าอี้มานั่ง “นาย” ยืนนิ่งอยู่ข้างหน้าต่าง...หันมามองเขาด้วยสายตาครุ่นคิด
“เราคิดว่านายคำรนมันจะกลับมาไหม” “ก็จะรอไงครับตามที่บอก..สองสามวัน”
“เงินมันไม่คอยใครน่ะสิ..ฉันกลัวมันจะไม่กลับ” “ลูกสาวเขาอยู่ที่นี่”
“บางที....มันก็มีความหมายไม่เท่าเงินยี่สิบสามสิบล้านหรอกน่ะ” คำพูดของนายทำให้แวตาของคนฟังสลดลงเมื่อตระหนักถึงความจริงที่ตนเองเผชิญอยู่
บางที...ลูกในไส้....ก็มีความหมายน้อยกว่าเงินจริง ๆ ไม่งั้น...เขาคงไม่ถูกทิ้งให้อยู่กับแม่ในสภาพของลูกไม่มีพ่อแบบนี้ และรวงแก้วก็คงมีสภาพไม่แตกต่างกันนัก
“ฉันอยากให้แกไปซะเอง.....นายมล...ไปให้เร็วที่สุด” คำขอร้องแกมบังคับทำให้กมลภพเงียบกริบ..เปลือกตาหลุบลงมองเมินฝ่าความมืดออกไปนอกห้อง
“ส่วนผู้หญิงคนนั้น” “ผมจะพาเธอไปด้วย” เขาตัดบททันทีอย่างไม่ยอมฟังเสียง..
ผู้เป็นนายหรี่ตาลงอย่างพินิจ “เอางั้นเรอะ.....ไม่หาเอาใหม่ไม่ดีเหรอ...”
ชายหนุ่มนั่งเฉย..ไม่ตอบรับข้อเสนอใหม่ “เออ..หวงจริง ๆ แฮะ..โกษามันท่าจะเก็งผิดงวดนี้” คำพูดของนายทำให้กมลภพตาลุกวาบ..ผุดลุกขึ้นทันที
“มันเตรียมขโมยของนายอย่างที่เคยขโมยมาทุกครั้งนะสิ” “นาย” ยังพูดไม่จบ..ร่างของกมลภพก็พ้นประตูห้องไปแล้วปล่อยให้ผู้สูงวัยกว่ามองตามไปอย่างครุ่นคิด ดวงตาคมกริบเจ้าเล่ห์ของ “นาย” หรี่ลงด้วยความคิดระแวดระวังอย่างถี่ถ้วน...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โกษาแย่ง “ผู้หญิง” ของกมลภพ ทุกครั้งที่ผ่านมา..กมลภพมักจะเฉย..อยากได้ก็เอาไป..แต่คราวนี้ “นายมล” เต้นผาง..อย่างไม่ฟังเสียงหน้าไหน...เหตุการณ์บีบบังคับให้ชายหนุ่มต้องเผยจุดอ่อนของตนเอย่างไม่ควรที่เลยทีเดียว
ประทีปงง..เมื่อเคาะประตูแล้วคนข้างในเงียบ คนสนิทของกมลภพขมวดคิ้ว...ไม่เข้าใจ..ก่อนจะถอยหลังไปวางถาดอย่างรวดเร็ว ถ้าประทีปโง่สักหน่อย..กมลภพคงไม่เลือกที่จะพาไปไหนมาไหนด้วย
ตอนที่ 5
เมื่อครู่ตอนเขาตามเจ้านายตนเองออกไปประทีปเห็นลูกน้องสองคนของนายโกษาเอ้อระเหยสวนเข้ามา ตอนนั้นเขาไม่สนใจนัก...แต่ตอนนี้ชักสงสัย
รวงแก้วดิ้นอึกอึกอักอยู่บนเตียง..พวกมันหิ้วปีกหล่อนโยนลงไปบนนั้นอย่างไม่ปราณีปราศรัย..หญิงสาวพยายามช่วยตัวเองสุดความสามารถทั้งถีบ..ทั้งช่วยและกัดแต่ดูจะไม่มีทางยุติความตั้งใจเลวร้ายของคนเหล่านี้ได้..มันกดหล่อนลงบนหมอนปิดปากเอาไว้แน่น ขณะที่อีกคนกระชากเสื้อหล่อนดังแควกรวดเดียวหลุดออกไปจากร่าง รวงแก้วดิ้นพราดร้องไม่ออก..หล่อนเห็นนายโกษายืนเท้าสะเอวมองร่างเกือบเปลือยของหล่อนด้วยสายตาหวาม..
“มิน่า..นายมลมันถึงได้หวงนักหวงหนา..เธอมันสวยไปทั้งตัวนี่เอง..ตั้งแต่ศีรษะจรดเท่า..ไม่มีที่ติ..จริง ๆ” ื มันพูดพลางยื่นมือมาลูบคลำฝ่าเท้าได้รู)บอบบางอย่างพอใจ..ก่อนจะเลื่อนสูงขึ้นเรื่อย ๆ
“ให้ตาย..มันคงเหมือนขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นจริง ๆ นะนี่” มันพึมพำด้วยสายตาหื่นกระหายเมื่อกวาดสายตาสำรวจหล่อนไปทั่วทุกส่วนบนร่างกาย...
“นายมลมันเข้าใจเลือก..เข้าใจเลือกจริง ๆ” โกษาขยับขึ้นมาหาหล่อน..มือของมันลูบคลำสูงขึ้นมาเรื่อย เสียงเคาะประตูทำใ้ห้คนทั้งหมดหยุดกึก...โกษาหันขวับไปมองประตูและจุ๊ปากให้ลูกน้องเงียบกริบ
ประทีปเคาะประตูอีกครั้ง..พร้อมกับขมวดคิ้ว..ดึงปืนออกมาจากซองแล้วถอยไปตั้งหลัก วินาทีต่อมาประตูทั้งบานก็แทบทลายลงด้วยฝีตีนของลูกน้องกมลภพ..เล่นเอาทุกคนที่กำลังช่วยกันจับร่างรวงแก้วขึงไว้กลางเตียงแตกฮือ แล้วคนของกมลภพที่เตร่อยู่ไม่ห่างก็พากันวิ่งตามมายังต้นเสียงแทบทันที มันเหมือนกับเกิดการโกลาหลย่อย ๆ ขึ้นในห้องนั้น...และบริเวณใกล้เคียง
โกษาและคนของมันยืนนิ่ง..เมื่อเห็นว่าขืนดึงดันจะเอาชนะคงเดือดร้อน..การมีเรื่องในบ้านของกมลภพ..ท่ามกลางลูกน้องมือดีทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องน่าลอง
“มีอะไรกัน” โกษายกไหล่ถามหน้าตาย
รวงแก้ว ผุดลุกขึ้นตวัดผ้าห่มคลุมร่างของตนอย่างตกใจ..เลือดแล่นขึ้นทั้งตัวจนแดงก่ำด้วยความอาบอย่างบอกไม่ถูก..ผู้ชายห้าหกคน..โผล่เข้ามาปืนจังก้าประจัญหน้ากันด้วยอาวุธปืนราวกับจะประหัตประหารกันให้ตกตายไปข้างหนึ่งตรงหน้าหล่อน
“แค่ผู้หญิงคนเดียว...ต้องเล่นปืนด้วยหรือนี่” โกษาถามเสียงเรียบ
“นี่ไม่ใช่ผู้หญิงของนาย” ประทีปตอบสั้น ๆ จ้องตากับโกษาไม่กระพริบ
“และนี่ก็เป็นห้องของ..”คุณมล”ด้วย..ไม่อนุญาตให้ใครเข้า” ก่อนที่ประทีปจะพูดอะไรต่อกมลภพก็ก้าวพรวดเข้ามา นัยต์ตาของเขากวาดควับไปยังรวงแก้วก่อนอื่นพอเห็นสภาพของหล่อนก็มีอาการเหมือนเลือดขึ้นหน้า
เขาเดินผ่านประทีปและคนของตัวเองเข้าไปเผชิญหน้ากับโกษา คนทั้งคู่..ยืนประจัญหน้ากันอย่างท้าทาย..และเอาเรื่อง
“ออกมาข้างนอก” กมลภพพูดสั้น ๆ ก่อนจะเดินนำออกไปอย่างรวดเร็ว..ทุกคนพอจะเดาได้ว่า..คนทั้งคู่จะทำอะไรกัน..จึงต่างกรูกันเดินตามอย่างนึกสนุก ประทีปรอจนทุกคนออกไปหมดจึงหันมาถามรวงแก้ว
“คุณแก้ัวยังไม่เป็นไรใช่ไหม” รวงแก้วพยักหน้าทั้ง ๆ ที่หน้าแดงก่ำ..ประทีปพยักศีรษะเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะก้าวออกไป..ชั่วครู่ก็เข้ามาใหม่พร้อมทั้งถาดอาหาร..
“เขาออกไปไหนกัน” หล่อนถามอย่างอยากรู้
“ฟากปากกันนะครับ..คราวนี้นายมลไม่ยอม”
“เขาเคยฟาดปากนายโกษามาบ่อยหรือ” “ไม่เคยครับ”
“อ้าว” “ครั้งนี้เป็นครั้งแรก..เพราะนายโกษาบังอาจมาแตะคุณแก้วทั้ง ๆ ที่คุณมลก็ประกาศห้ามไว้แล้ว” ประทีปอธิบายแล้วเดินออกไปจากห้อง
กลางสนามหน้าบ้าน..ซึ่งบัดนี้ก็มีทั้งหญิงชายลงไปคอยดูมวยคู่ใหญ่ที่ได้แต่ฮึ่ม ๆ ใส่กันมานาน..และกำลังจะซัดกันในขั้นแตกหัก “นาย” มองออกจากหน้าต่างห้องด้วยดวงตาเฉยเมย..ในอ้อมแขนมีอีหนูอยู่หนึ่งคน....
“ผู้หญิงคนเดียว...มันกำลังถึงกับจะฆ่ากัน” เขาพึมพำกับตนเองอย่างไม่ใคร่พอใจนัก
โกษาปรารถนามานานแล้วที่จะได้ซัดกับกมลภพตัวต่อตัว เพราะถือตัวเองมาตลอดว่ามีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร..เขาลืมไปถนัดว่ากมลภพไม่ใช่แค่ลูกน้อง “นาย” ธรรมดา ถ้าไม่ดีจริง..เขาคงมีอาณาจักรของตนเองไม่ได้และเชิดคออยู่อย่างทรนงตลอดมาไม่ได้
ถึงแม้โกษาจะชำนาญการต่อสู้อยู่มาก..แต่การสู้โดยไม่ใช้สมองทำให้เพลี่ยงพล้ำได้ง่าย..อีกทั้งยุทธวิธีที่งัดขึ้นมาต่อสู้่กัน
กมลภพ..ใช้วิธีการต่อสู้หลายชนิดมาประยุกต์รวมเข้าด้วยกัน..ทุกวินาที..ทุกท่าทาง ทั้งคมกริบ..ฉับไว..และหนักหน่วง ร่างกายของคนทั้งคู่..พอฟัดพอเหวี่ยงกันไม่ว่าส่วนสูงและความแข็งแรง แต่จะมาหลาดเอาก็ตอนนี้เอง..ที่กมลภพมีความชำนาญยิ่งกว่า ไม่ช้า..โกษาก็ล้มลุกคลุกคลานจนตั้งตัวไ่ม่ติด แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าจะหยุด..เขาตั้งใจจะซัดมันให้หมอบ.. ให้คลาน..ให้ต้องจดจำไปนานเลยทีเดียว และก็ทได้จริง..แม้ว่าตัวเองจะโดนสวนกลับมาไม่ใช่น้อย
เหนื่อย..และเจ็บพอกัน..แต่ก็ยังทรงตัวอยู่ได้ ชายหนุ่มยกแขนขึ้นป้ายเหงื่อ..และเช็ดเลือดจากริมฝีปาก..ใบหน้ามอมแมม..บวมปูดหลายแห่ง..เสื้อขาด.... แต่โกษา..ไม่กระดุกกระดิกแล้ว..และมีสภาพยับเยินยิ่งกว่า เขาหันหลังเดินแหวกใครต่อใครเข้าบ้าน...ตรงกลับไปยังห้องตัวเอง
รวงแก้วนั่งคอยอยู่แล้ว..ข้าปลากินไม่ลง หล่อนถลาเข้าไปหาเขา..แล้วประคองมานั่งลงที่ปลายเตียงอย่างตกใจวิ่งหายเข้าห้องน้ำไปชั่วครู่ก็กลับออกมาใหม่พร้อมผ้าขนหนู..และขันน้ำ
กมลภพนั่งนิ่งปล่อยให้หล่อนบรรจงเช็ดหน้าให้จนทั่ว..เห็นได้ชัดเลยว่าหางคิ้วแตก...โหนกแก้มบวมหนุ่ยเขียวขึ้นมาทันตาเห็น..มุมปากด้านหนึ่งก็แตกยับพอกัน.. เช็ดหน้าเขาเสร็จหล่อนก็ปลดดุมเสื้อออก เพราะมันขาดกระจุยไปทั่ว
รวงแก้วดึงเสื้อเขาพ้นตัวไปทางหนึ่ง....พอหันกลับมาก็ถูกรวบเอวไว้แน่น..ร่างระหงถูกรั้งแนบไปกับอกกว้าง..ใบหน้าคมเข้มซุกลงกับอกนุ่ม
หญิงสาวยกมือขึ้นกอดคอเขาไว้เพื่อพยุงตัวเอง..พร้อมกับแนบหน้าลงกับกลุ่มผมสลวยของเขา
“ไม่เป็นไรใช่ไหม” เขาถามหล่อน
“ค่ะ..แต่คุณสิคะ...แตกทั้งหน้าเลย”
“ช่างมันเถอะเป็นการเตือนมันเอาไว้..คราวหน้าฉันจะฆ่ามันเลย” เขาขบฟันตอบอย่างไม่คลายโมโห “ประทีป...เข้ามาทันใช่ไหม” เขาถามอีก..หล่อนพยักหน้า
กมลภพลูบมือไปตามลำแขนกมลกลึงที่โอบไปรอบคอเขาและสำนึกอยู่เต็มหัวอกว่าหวงหล่อยเหลือเกิน....หวงจนแทบทนไม่ได้เมื่อรู้ว่ามีใครพยายามจะแตะ...
ชายหนุ่มรั้งหล่อนให้นั่งลงบนตัก...มองดวงหน้าอิ่มที่เงยแหงนอยู่กับซอกไหล่..แล้วก้มลงจุมพิต..เขาสะดุ้งเหมือนกัน..ด้วยความเจ็บแผลของตัวเอง แต่มนต์เสน่ห์ในตัวของหล่อนมีอยู่มากจนกมลภพยอมทนเพื่อไขว่คว้าหาความสุขส่วนตัว คืนนี้..หมดเวลากับความวุ่นวายเพียงแค่นี้..เขาจะไม่ออกไปไหนให้ห่างหล่อนอีกแล้ว...
“คุณกำลังเจ็บนะคะ” รวงแก้วเตือนเบา ๆ เมื่อเขาพยายามรั้งหล่อนลงบนที่นอน
“ช่างเถอะ” กมลภพไม่สนอะไรอีก....นอกจาร่างระหงนุ่มนิ่มที่ตัวอ่อนเข้าหาเขาอย่างไม่คิดจะหวงตัวหรือต่อต้านอีกต่อไป เขากอดหล่อนไว้แนบอก..และจูบหล่อนอย่างเว้าวอนดูดดื่ม ไม่ต้องบอก..รวงแก้รู้ตัวว่าถึงอย่างไรคืนนี้ก็ไม่พ้นมือเขาแน่ แต่ถึงกระนั้น หล่อนก็ไม่หวาดกลัวอะไรเลยไม่เหมือนกับที่เห็นหน้าโกษา และแทบช๊อคตายกับการข่มขู่รุกรานของมัน
รวงแก้วตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า...หากจะต้องเป็นของใครสักคน..หล่อนก็เลือกที่จะเป็นของเขา และเป็นของเขาเพียงคนเดียวตลอดชีวิต ปลายนิ้วอุ่นบรรจงปลดกระดุมเสื้อตัวใหม่ของหล่อนลงมาเรื่อย ๆ เสื้อคอจีน..ติดกระดุมหน้าตลอดแถว...มาจนถึงหัวเข่า..แขนสั้น..หลุดออกไปจากตัวรวงแก้วในไม่ช้า...
ตามติดมาด้วยบราเซียร์และซับในชิ้นนิด ๆ ส่วนตัวเขานั้น..ใช้เวลาไม่ถึงนาที..ก็ปอกเปลือกตัวเองได้หมดโดยไม่หยุดจูบหล่อนสักนาทีด้วยซ้ำ จากนั้นก็ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะมาขวางกั้นอารมณ์รักและพิศวาสที่กมลภพมีต่อสตรีผู้นี้อย่างท่วงท้นได้อีกต่อไป
เสียงไก่ขัน.และเสียงนกที่ร้องเจื้อยแจ้วอยู่นอกหน้าต่าง....ปลุกให้รวงแก้วตื่นจากนิทราอันยาวนาน..ร่างนุ่มนิ่ม..อุ่นละมุน..พลิกตะแคงหนีไปจากอกกว้างที่ซุกเงียบมาทั้งคืน....ทำให้อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมองตาม
มืออบอุ่นเอื้อมตามไปรั้งเอวเล็ก...แล้วออกแรงดึงไม่มากหล่อนก็เลื่อนเข้ามาใกล้ใหม่..ศีรษะก่ายเกยขึ้นมาบนต้นแขนแข็งแรงที่ทอดออกรองรับ ขณะที่ร่างสูงใหญ่แข็งแรงพลิกเข้าแนบติดหล่อนทางเบื้องหลังแน่นกระชับไปทุกตารางนิ้ว ฝ่ามืออุ่น..ขยับจากเอวขึ้นไปเกาะกุมเนื้อนุ่มของทรวงอกอวบหลับไปด้วยกันอีก....
รวงแก้วทำท่าจะหลับต่อจริง ๆ ถ้าปลายนิ้วเรียวแข็งแรงจะไม่เริ่มขยับลูบไล้โลมขึ้นมาอีก ริมฝีปากร้อน ๆ ของเขาไล่ไปตามต้นคอ และผิวเนื้อด้านหลัง ขณะที่ฝ่ามืออุ่นเริ่มเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ ทางด้านหน้า หล่อนต้องลืมตาตะครุบมือนั้นไว้ทันควันเมื่อมันไล้เรื่อยไปถึงหน้าท้อง พลิกร่างไปหาตัวก่อเหตุอย่างตั้งใจจะเอ็ดให้เขาอยู่เฉย ๆ
แต่ริมฝีปากที่เผยอจะห้ามกลับถูกปิดเสียโดยรวดเร็ว..และมือแข็ง ๆ ที่ถูกยึดเอาไว้แน่นก็ดื้อดึงจนหล่อนรั้งเอาไว้ไม่อยู่..รวงแก้วถอนใจยาว...เมื่อเริ่มจูบตอบเขาอย่างดูดดื่มเร่าร้อนพอกัน หล่อนได้ยินเสียงเขาครางงึมงัมด้วยความพอใจล้ำลึก....แล้วก็นึกอะไรไม่ออกอีก..เมื่อยกมือขึ้นแทรกปลายนิ้วเข้าไปยังเส้นผมสลวยของอีกฝ่าย....
“โกษาไปไหน” “นาย” เดินออกมาถามลูกน้องที่ป้วนเปี้ยนไปมาแถวหน้าห้อง
“ไปหาหมอครับนาย” คำตอบนั้นถึงกับทำให้ผู้มีอิทธิพลถึงกับชะงัก...ขมวดคิ้วย่น
“เมื่อคืนคุณมลแกถลุงซะซี่โครงหัก..ไหปลาร้าร้าวไปเลย..คงลุกไม่ได้อีกหลายวัน” คำรายงานต่อมาทำให้ “นาย” ยืนนิ่งอยู่นานก่อนจะถอนใจยาวอย่างครุ่นคิด
กมลภพ หวงผู้หญิงคนนั้นผิดสังเกต..ขณะที่คนของเขาตามล่าพ่อหล่อนไปในระยะกระชั้นชิดและวันนี้เขาก็สั่งให้ตามไปด้วย ถ้าหากกมลภพไปเจอคำรน..พร้อมกับลูกสาวแล้วรวมหัวกันหักหลังเขาจะว่าไง....ผู้เป็น...นาย....ทรุดตัวลงด้วยท่าทางพิจารณาเคร่งขรึมและไม่พอใจที่คนสนิทของตนเป็นบ้าพอจะแหย่เสือหลับอย่างนายมลเสียด้วย “นาย” ยกมือขึ้นลูบคางสาก ๆ ของตนไปมาเบา ๆ ขณะวางแผนการให้รอบคอบขึ้น
เมื่อรวงแก้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง...อีกฝ่ายก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยมานั่งพินิจหล่อนเงียบ ๆ อยู่ข้างเตียง..ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งอยู่เพียงชั่วครู่..ฝ่ายหญิงก็เมินหลบหน้าแดง
“มองนิดเดียวถึงกับหน้าแดง..รู้มั๊ยว่ามันทำให้ใคร ๆ เขาสงสัย” คำพูดของเขาทำให้หล่อนงง
“ค่ะ..มันเป็นเองนี่คะ” หล่อนเถียงแล้วลุกขึ้นนั่ง...มองเขากึ่งค้อน..
กมลภพมองผู้หญิงสาวสวยผมยาวรุ่ยร่าย..เนื้อตัวไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นนอกจากผ้าห่มที่ยกขึ้นบังทรวงอกไว้หมิ่นเหม่นั้น..ตลอดค่ำคืนที่แล้วมา..รวงแก้วทำให้เขารู้จักหล่อนดีขึ้น เขายื่นมือเข้าไปเชยคางหล่อนให้มองสบตาแล้วยิ้มในหน้าอย่างล้อเลียน รวงแก้วมองตาเขาแล้วแก้มยิ่งแดงและคราวนี้มันก็แดงไปทั่วทั้งลำคอ...ลงมาตลอดจนถึงทรวงอก
“เอ้าไปกันใหญ่” กมลภพพึมพำอย่างนึกเอ็นดูอย่างพูดไม่ถูก เมื่อคืน..หล่อนทำให้เขาแทบคลั่งไปกับอารมณ์พิศวาสที่ไม่เคยขึ้นสูงได้ขนาดนั้น มันเต็มตื้นไปหมดทั้งร่างกายและจิตใจ มันเป็นสุขสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบก็ว่าได้
กมลภพเพิ่มรู้เดี๋ยวนี้เองว่า..หล่อน..คือผู้หญิงที่เขาควานหามาตลอดชีวิต ผู้หญิงที่มีความหมายสำหรับหัวใจและชีวิต ความสัมพันธ์ที่ล้ำลึกมากกว่าสัมผัสทางร่างกายอย่างเดียว หล่อนทำให้เขารู้จักว่า “ความรัก” คืออะไร..และความรักระหว่างหญิงชายมีความหมายแค่ไหน
นี่เองที่ทำให้มนุษย์ต้องมีคู่ของตน..ไม่ใช่มีไว้เพื่อสัญชาตญาณทางเพศ..และต้องการสืบพันธ์เท่านั้น แต่เพื่อความอบอุ่นของจิตใจ...และความเข้าใจซึ่งกันและกัน..รวมทั้งความสุขที่ได้อยู่ใกล้และได้เห็นหน้าด้วย ซึ่งสิงเหล่านี้..จะไม่มีเลยสำหรับผู้ที่ปรารถนาแค่ “เซ็กส์” แล้ว..ก็แล้วกันไป..ไม่ผูกพัน...ไม่มีความหมายไม่ประทับใจแม้กระทั่งหน้าก็แทบจำกันไม่ได้..เพราะไม่ปรารถนาจะจดจำ
กมลภพมองหน้าหล่อน..แล้วก็มองปากนุ่มที่เต็มไปด้วยน้ำผึ้งอ้นหวานหอมให้อื่มได้ไม่รู้จักหมด....
“วันนี้เราจะไปด้วยกัน...” เขาบอก
“ไปไหนคะ..” หล่อนเอียงคอถาม
“ตามหาพ่อเธอ..” คำตอบทำำให้รวงแก้วเบิกตากว้างอย่างลิงโลดดวงตาเป็นประกายวาววาบด้วยความหวัง
“จริงหรือคะ” “จริง..ลุกสิ...แต่งตัวเข้า” หล่อนทำท่าจะลุกแต่พอนึกได้ว่าไม่มีอะไรติดตัวก็มองหา เสื้อของหล่อนถูกเขาเหวี่ยงไปถึงไหน ๆ นั่น..รวงแก้วหันมามองเขาแล้วเอ่ยปาก
“ช่วยหยิบเสื้อคลุมให้หน่อยสิคะ” เขามองหล่อนแล้วเอียงคอพร้อมกับปฏิเสธอย่างจงใจ
“ไม่ล่ะ...ลุกเอง” “ก็ลุกไม่ได้นี่คะ”
“ทำไม..” เขาหลิ่วตาถามทั้ง ๆ ที่รู้..รวงแ้ก้วค้อนตาคว่ำ
“คุณแกล้งฉันนะคะแบบนี้” “แกล้งที่ไหน...เพียงอยากเห็นคนสวยให้เต็มตาเท่านั้น”
“บ้าจริง” “คนไม่อยากเห็นสิบ้า”
“อุ้ย...ไม่อยากเถียงด้วย” รวงแก้วฮึดฮัดหันไปคว้ากล่องกระดาษใกล้ ๆ ปาใส่หน้าเขา
กมลภพยิ้ม..พร้อมกับยอมลุกไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำในตู้..ยืนรอตรงหน้าเตียง เขาไปส่งให้ถึงมือหล่อน..แต่คลี่มันออกรอให้รวงแก้วลุกขึ้นไปใส่ หล่อนค้อนขวับ...ทำท่าจะไม่ยอมลุก....ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงเป็นทำนองว่าถ้าไม่ลุกขึ้นมาให้เขาได้ชมโฉมอีกล่ะก็เป็นได้นอนอยู่แบบนั้นต่อไปอีก
“ถ้าแต่งตัวไม่ทันล่ะไม่พาไปด้วยนะ” เขายั่ว...
“คุณแกล้งฉันนี่คะ” “นับแค่สาม..จะไปด้วยกันหรือจะอยู่ที่นี่”
อยู่ได้ยังไง...รวงแก้วบอกตัวเอง..ทั้งนายและโกษา..จ้องจะกินหล่อนอยู่ทั้งคู่..ขืนอยู่ก็ไม่พ้นมือพวกนั้นแน่ และรวงแก้วก็ไม่อยากให้ใครมาแตะหล่อนนอกจากเขาแล้วด้วย
“ว่าไง..หนึ่ง” กมลภพเริ่มนับอย่างรู้สึกเป็นต่อ “สอง” รวงแก้วคอแข็ง..พร้อมกับตัดสินใจกลิ้งร่างพร้อมกับผ้าห่มไปทางเตียงอีกด้านหนึ่งทันที..ความตั้งใจของหล่อนที่จะเอาชนะเขาก็โดยลากเอาผ้าห่มเข้าห้องน้ำไปด้วย
ชายหนุ่มรู้ทัน..ตะครุบหมับเข้าที่ชายผ้าใกล้มือแล้วดึงเอาไว้แน่น ตาสองคู่สบกันอย่างท้าทาย..ทีเล่นทีจริง เขาส่ายหน้า
“ไม่สำเร็จ...” เขาว่าพลางยิ้มใส่ตาหล่อน รวงแก้วขยับตัวอีก..และก็รู้ว่าติดกับเสียแล้ว เพราะเขาไม่ได้กระชับแค่ผ้าห่มเอาไว้แต่จับข้อเท้าหล่อนไว้ด้วย...
“สาม..หมดเวลา..ไปล่ะ” เขาทิ้งไพ่ตาย..ปล่อยมือจากทุกอย่างแล้วหันหลังทำท่าตรงไปที่ประตู
“เดี๋ยวค่ะ..เดี๋ยว” รวงแก้วร้องลั่นตะกุยตะกายลุกตามอย่างรวดเร็ว กมลภพหันกลับมา..หล่อนหยุดชะงัก..ยืนนิ่งเปลือยเปล่าทั้งเนื้อทั้งตัว
ผู้หญิงสวยจับใจ..ผมยาวรุ่ยร่าง..ร่างสูงโปร่งกลมกลึง..อกอวบงามราวดอกบัว...เอวคอด..สะโพกผายตึงรับกับช่วงขาเรียว...ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มมีความรู้สึกหายใจขัด ๆ ขึ้นมาทันที..หล่อนเร้าอารมณ์เขาได้ง่ายเพียงนิดเดียว
ดวงตาคมฉาบของเขากวาดสำรวจไปทั่วร่างระหง..งามละออไปทุกตารางนิ้วนั้นอย่างชื่นชม..ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้..ดึงเสื้อคลุมที่เหวี่ยงไปบนเตียงมาคลุมให้อย่างบรรจง..ก่อนจะเชยคางหล่อนขึ้นมองลึกลงไปในดวงตาคู่สวย
“ฉันไม่คิดจะไปไหนโดยไม่มีเธอสักทีนะแก้ว” คำสารภาพสั้น ๆ นั้นทำให้รวงแก้วหน้างอ...ตาขุ่นขึ้นมาทันที หล่อนถูกเขาหลอกเอาจนได้
กมลภพรั้งหล่อนเข้ามากอด..สอดมือเข้าไปแตะผิวเนื้อใต้เสื้อคลุมที่หล่อนสอดแขนเข้าสวมจนเรียบร้อยรั้งให้ร่างระหงเบียดเข้าหา..มือหนึ่งกดลงที่สะโพกอีกมือ...ดันอยู่ที่หลังนุ่ม..ดวงตาที่มองหล่อนบอกความกระหายที่ไม่ปิดบัง เพราะรวงแก้วสวยสด..และหวานหอม..และยังใหม่นักจนเขาตัดใจไม่ได้
ตอนนี้ยังไม่ได้ก็พอทนหรอก..แต่พอได้แก้วก็อยากได้อีก..แทบทุกนาทีที่อยู่ร่วมกัน รวงแก้รู้ทันว่าเขาเริ่มจะงอแงกับหล่อนอีกแล้วขืนปล่อยตามใจเป็นไม่ได้ไปตามพ่อแน่
“ขอเวลาเดี๋ยวเดียวค่ะ...แล้วอาบน้ำเดี๋ยวเดียวนะคะ” หล่อนใช้คำแทนตัวเองกับเขาเป็นครั้งแรก..ซึ่งมันก็ทำให้อีกฝ่ายพอใจพยักหน้า...และถอยห่างไปอย่างไม่เต็มใจนัก..หล่อนหุบชายเสื้อคลุมที่เปิดโล่งเข้าหาตัวทันทีโดยไม่สนใจสายตามองตามอย่างเสียดายนั่นสักนิด..ใช้ปลายนิ้วไ่ล่เขาให้ออกนอกห้องไปในที่สุด
ประทีปยืนอยู่นอกห้องพร้อมกับคนของนาย...ซึ่งประกบลูกน้องตัวเอ้ของเขาไว้ถึงสามคน สัญชาตญาณบอกกมลภพว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นแน่นอน
“นาย” ต้องการพบคุณมลครับ” ใครคนหนึ่งบอกเบา ๆ
กมลภพมองประทีป...แล้วชายตามองกลับไปยังห้อง
“เราได้รับคำสั่งไม่ให้เฉียดเข้าใกล้แม้แต่ประตูห้องคุณมลด้วยครับ” เสียงเดิมบอกมาตามเคย...กมลภพมองหน้าลูกน้องของ “นาย” แล้วพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แล้วเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่ทันที...
“พร้อมที่จะไปแล้วสินะ” นายทักทันทีที่เห็นหน้าเขา...ชายหนุ่มยักคิ้วนิดหนึ่ง..ก่อนจะยกมือขึ้นเท้าเอวถาม “นาย” ด้วยเสียงเรียบ
“คุมประทีปไว้ทำไม”
“ก็...ฉั้นคิดได้ใหม่ว่า...นายควรไปคนเดียวก็พอ” คำอธิบายของนายทำให้กมลภพคอแข็งขึ้นมาทันที..
“ตอนนี้โกษามันอยู่โรงพยาบาล...แกหักซี่โครงมันซะหลายซี่คงไม่มีแรงลุกขึ้นมาทำอะไรแม่สาวน้อยนั่นหรอกน่ะ..ส่วนฉันก็....สัญญานะมล...จะไม่แตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายเล็บ...ขอให้เชื่อ”
ดวงตาของกมลภพหรี่ลงอย่่างไม่พอใจขึ้นมาทันที
“ผมไม่ชอบถูกมัดมือชก” เขาพูดเสียงเรียบ...เป็นยิ่งกว่าเดิม
เขาพูดเสียงเรียบ...เป็นยิ่งกว่าเดิม
“ฮือ...มันต้องเข้าใจกันบ้างสิ..นั่นมันลูกศัตรูนะแล้วนายก็หลงเป็นบ้าแบบนี้...เกิดรวมหัวกันโกงฉันล่ะจะว่าไง” นายพูดตรง ๆ กับเขาขณะที่กมลภพขบกรามอย่างไม่พอใจ
“ไม่โกง...ให้แก้วไปกับผม” กมลภพยังคงยืนยันสั้น ๆ
“ไม่ได้น่ะมล...เข้าใจบ้างสิ” “ไม่เข้าใจ..ให้แก้วออกมา..แล้วผมสัญญาทุกอย่างที่คำรนเอาไปจะต้องเอากลับคืนมาทั้งหมด” นายยังส่ายศีรษะ..ขณะที่กมลภพชักไม่พอใจมากขึ้น
เขาหรี่ตามองผู้สูงวัยที่ร่วมงานกันมานาน..ด้วยสายตาที่ไม่มีใครอ่านออก...ก่อนจะกวาดตาไปรอบบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่มีคนของเขาอยู่แถบนั้นเลย..แต่มีเสียงวี๊ดว๊ายของผู้หญิงหลายคนดังมาจากเรือนหลังเล็กไม่ห่างนั่นพร้อมกับเสียงหัวเราะกันครืน...นายใช้ผู้หญิงของตนเองล่อคนของเขาไปเกือบหมด..กมลภพถอนใจอย่างฉุน ๆ หันขวับมามองคนข้างหน้าอย่างเอาเรื่อง
“อย่าน่า...อย่ามองฉันแบบนั้น...มันจำเป็นนะมล” “ผมจะเอาแก้วไปด้วย”
“ไม่ได้” นายสั่งเสียงเฉียบขาด...จ้องนิ่งมาที่ดวงตาคมฉาบแบบเดียวกันนั่น...
“ฉันบอกแล้วว่าจะไม่แตะหล่อนแม้ปลายเล็บ...รวมทั้งเจ้าโกษาด้วยเราจะดูแลหล่อนแทนแกอย่างดี..ไปสิ” กมลภพหันไปมาอย่างฮึดฮัด...
“แกไม่เชื่อคำสัญญาของฉันเลยรึ” นายถามพร้อมเลิกคิ้วสูง..มองลูกน้องมือขวาเขม็ง
“จริง..ฉันชอบผู้หญิง..แต่ผู้หญิงไม่มีความหมายเท่าลูกน้องหรอกนะ” นายรับออกมาอย่างรู้ใจเขา
“ว่าไง...จะไปหรือไม่ไป” ช่วงเวลา...กมลภพเจ็บใจตัวเองเป็นกำลัง เขามองหน้านายด้วยสายตาอ่านยากแบบเดิม...ก่อนจะตัดสินใจถอยไปยังประตูบ้านในที่สุด กมลภพไม่พูด...แต่ดวงตาของเขาที่มองสบตานายนั้น..บอกให้ผู้สูงวัยได้รู้โดยไม่ยากว่า...ถ้าผิดคำพูดเมื่อใด..การฆ่าล้างแค้นคงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ผู้เป็น “นาย” ได้แต่มองตามร่างสูงที่ถอดแบบ “ตน” ออกไปไม่ผิดเพี้ยนด้วยดวงตาที่อ่อนแสงลง..”อดีต” อันยาวนานยังคงแจ่มชัดอยู่ในมโนนึกราวกับจะเกิดขึ้นเพียงเมื่อวาน...ผู้หญิงหน้าสวย..เข้มแข็งไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอก..แต่ก็อ่อนไหวเมื่อเผชิญกับความรัก
“นาย” มองเห็นภาพของหล่อนนั่งเคาะคีย์เปียโนโดยมีทารกอยู่ในอ้อมแขน “นาย” มองเห็นภาพหล่อนนั่งเล่นเปียโน..เมื่อทารกนั้นเริ่มเติบใหญ่ขึ้น.... หล่อนเข้มแข็งเสียยิ่งกว่าเขา..ทั้งร่างกายและจิตใจ..หล่อนและเขาต้องแยกจากกัน เพราะความอ่อนแอและมักง่ายตามประสาผู้ชายอย่างเขา
ร่างสูง..ห่อไหล่ลงเมื่อรู้สึกเงียบเหงาและว้าเหว่ขึ้นมาชั่ววูบ อดีต..ไม่กลับมาอีกแล้ว บนเส้นทางของอิทธิพล..และความร่ำรวย..เขาสูญเสียสิ่งที่มีค่าไปพอควรและไม่มีวันได้คืนมาอีก...แม้กระทั่งความรักของลูกชายคนเดียวที่มี
รวงแก้วกระแทกประตูเต็มแรงอย่างกราดเกรี้ยว เมื่อพยายามเปิดเท่าไหร่ก็ไม่ออก
“เปิดประตูนะ..เปิดเดี๋ยวนี้..คุณมล” หล่อนส่งเสียงเรียกเขาลั่น...แต่ประตูบานนั้นหาขยับไม่..สาวน้อยถอยออกมาห่างคว้าแปรง ๆ ผมได้ก็ปาโครมไปอย่างโมโหสุดขีด
“บอกเขาสิว่าฉันจะไปด้วย...ได้ยินไหม..มาขัีงฉันไว้ทำไม” หล่อนตะโกนถามด้วยน้ำตา..แล้วก็ถีบเก้าอี้โครมเดียวเข้าไปปะทะประตูนั่นอีก
“บอกเขาว่ารอก่อน..ฉันจะไปด้วย..อย่าทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่..อย่าทิ้งฉัน” รวงแก้วสั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความโกรธและสะเทือนใจเมื่อแน่ใจแล้วว่า..เขาทิ้งหล่อนเสียแล้ว..เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ..แล้วก็หมดความอาลัยใยดีต่อหล่อนแล้ว
กมลภพ..ทิ้งหล่อนจริง ๆ ปล่อยไว้ให้เป็นเหยื่อคนมักมากเหล่านี้อย่างไม่แยแส รวงแก้วสะอื้นราวจะขาดใจ..เมื่อสำนึกได้เช่นนั้น หล่อนไม่มีค่าอะไรแล้ว..และคงต้องตกเป็นเหยื่อแร้งกาโดยช่วยตัวเองไม่ได้ นี่จะทำยังไงกันดี...รวงแก้วถอนสะอื้น..เมื่อโซเซกลับไปซุกหน้ากับที่นอน..แล้วร้องไห้แทบขาดใจ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากนาทีเป็นชั่วโมง สาวน้อยลุกขึ้นนั่ง..แล้วเริ่มรื้อไปทั่วห้อง หล่อนต้องหาอะไรสักอย่างเป็นอาวุธประจำตัวและเห็นว่าเขามีปืนอยู่หลายกระบอก กมลภพคงไม่เอาไปหมดหรอก..คงจะเหลือสักกระบอกเอาไว้แน่
รวงแก้วเจอจริง ๆ ในลิ้นชักหัวนอนนั่นเอง หล่อนเก็บมันเอาไว้กับตัว.....และนั่งคิดต่อ..หล่อนจะต้องหนีออกไปจากที่นี่..ออกไปตามพ่อและเตือนให้รู้ตัว เมื่อคิดมาถึงตอนนี้รวงแก้วก็รู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วหัวใจ...กมลภพไม่ได้รักหล่อนสักนิด..ไม่ได้แยแสดังกิริยาทะนุถนอมที่แสดงออกแม้แต่น้อย
ต่อหน้าหล่อน...เขาหลอกล่อทุกอย่างด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษให้หล่อนหลงเชื่อและหลงรัก แต่พอลับหลัง...คน ๆ นั้นทิ้งหล่อนได้อย่างลงคอและเลือดเย็น..ดวงตาของรวงแก้วหรี่ลง....ริมฝีปากเม้มแน่นอย่างโกรธแค้น..เป็นไงเป็นกัน...หล่อนไม่แคร์อีกต่อไปแล้ว..เพราะไม่มีอะไรจะเหลือแล้ว
หล่อนให้เขาทั้งร่างกายและจิตใจ แต่กมลภพกลับตอบแทนหล่อนด้วยการทรยศ..ทิ้งให้หล่อนเป็นเหยื่อพวกบ้านี่ได้ลงคอ..เขาไม่ได้รักหรือห่วงใยรวงแก้วสักนิด..สิ่งที่เขาต้องการก็เพียงพรหมจรรย์ของหล่อนเท่านั้น
รวงแก้วถอนสะอื้น...แล้วเดินกลับไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ไม่มีใครระแวดระวังอยู่ตรงนั้นเลย....หล่อนเห็นเด็ก ๆ เล่นกันอยู่ไกล ๆ และเสียงร้อยวี๊ดว๊ายของผู้หญิงดังมาจากทางไหนไม่รู้..หล่อนมองเด็ก ๆ พวกนั้น..แล้วหันมามองตัวเอง ถ้ารวงแก้วจะทำตัวให้มอมแมมแบบนั้นบ้างล่ะ...
ไม่เพียงแค่คิด...แต่รวงแก้วตัดสินใจทำทันที หล่อนเปลี่ยนเสื้ออย่ารวดเร็ว..ขว้างเสื้อสวย ๆ นั่นไปทาง..แล้วดึงเสื้อเชิ้ตตัวโตของเขามาใส่ สีของมันทึม ๆ เข้ากับกางเกงหล่อนเปี๊ยบ....
รวงแก้วหันขวับไปที่กระจก... และมองตนเอง..ผมยาวที่มันสยายลงมาเต็มหลังบ่งให้เห็นอย่างชัดเจน...ของความเป็นผู้หญิงเซ็กซี่..ดึงดูดความสนใจของผุ้ชายทุกคนที่เห็น หล่อนจะต้องเอามันออก..และหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
กิจกรรมพิเศษในกระท่อมหลังนั้นดึงคนทั้งของ “นาย” และกมลภพไปรวมกันที่นั่นหมดจริง ๆ รวงแก้วโดดลงจากหน้าต่างได้ก็วิ่งเข้าไปหากลุ่มเด็ก ๆ นั่น..และอาศัยความช่วยเหลือจากเด็กทั้งกลุ่มนั้นพาพ้นไปจากระยะสายตาของยามบนบ้านได้โดยไม่ยาก เพราะมันมัวแต่พุ่งความสนใจไปยังกระท่อมซึ่งบัดนี้เงียบกริบไปแล้ว
กลุ่มเด็ก ๆ พารวงแก้วซึ่งบัดนี้ผมถูกตัดจนสั้นกุด..สวมเสื้อเชิ้ตสีทึมกับกางเกงสีเดียวกันวิ่งรัดเลาะไปตามสวนยาง..ไปสู่อิสระ....
“นาย” เดินผ่านห้องกมลภพ..เห็นคนของตนนั่งคุม..ประทีปเอาไว้ก็เดินเลยเข้าห้องพักไปโดยไม่ใส่ใจอะไรอีก..ไม่มีใครรู้เลยว่าภายนอกหุบเขา..รถเก๋งคันกระทัดรัดถูกจอดเงียบซุกอยู่กลางดงไม้
กมลภพรอเวลาให้มืดลง..เผื่อจะย้อนกลับไปเอาตัวหล่อนออกมาให้ได้..เขานั่งสูบบุหรี่อย่างอึดอัด..และหงุดหงิด..ไม่สนใจกับเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ที่วิ่งผ่านไปเป็นกลุ่มนั้นเลย ประทีปหยุดยืนงง..เมื่อเห็นปอยผมสลวยวางกองอยู่บนโต๊ะหน้่ากระจก..คนสนิทของกมลภพเปิดประตูลงทันที..วางถาดอาหารกลางวัน...พลางสอดสายตามาหาหล่อน...สังหรณ์ของเขาบอกว่าหล่อนไปแล้ว..แต่ประทีปก็ไม่แน่ใจว่าไปกับใครหรือเปล่า
เขาไม่คิดจริง ๆ ว่ารวงแก้วจะกล้าหนีคนเดียวกลางวันแสก ๆ ชายหนุ่มเก็บปอยผมนั่นลงลิ้นชักเครื่องแป้งอย่างรวดเร็ว..แล้วเก็บเศษผมที่ยังตกอยู่ภายในห้องจนเรียบร้อย..ไม่ว่าจะเป็นยังไง..เขาก็ปริปากอะไรไม่ได้ตอนนี้..ดีอยู่อย่างว่าคนของนายไม่ “เฉียด” เข้ามาในห้องนี้เลย..ตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ประทีปพาตัวเองออกไปจากห้อง..แล้วรอเวลาที่จะเข้ามาใหม่ในช่วงอาหารมื้อเย็น
“นาย” ไม่สนใจแม่เทพธิดาในห้อง “คุณมล” เอาจริง ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกของบรรดาพวกที่รู้ใจ..แม่พวกสาว ๆ ที่ตามมาหายเงียบเข้าไปปรนนิบัติเมื่อตกค่ำ..ประทีปเอาเก้าอี้มายันประตูแล้วนั่งพิงฝาห้องเปล่า ๆ อย่างไม่ยอมไปไหน
เวลานี้...มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า.. “คุณแก้ว”ไปแล้ว ประทีปนึกถึง.. “คุณมล” ขึ้นมาติดหมัด..มัวไปอยู่ซะที่ไหน..ยอมให้นายสั่งแบบนั้นได้ยังไงก็ไม่รู้... เสียงกุกกักในห้องทำให้ประทีปหูผึ่ง..ขยับลุกขึ้นทันที..เขายังไม่ได้เอาถาดอาหารเย็นออกมา..เพราะฉะนั้นยังมีสิทธิ์เดินเข้าไปได้โดยไม่มีใครสงสัย...และส่วนอาหารกลางวันก็จัดการเทลงส้วมไปแล้วเรียบร้อย
ลูกน้องกมลภพลุกขึ้นอย่างขี้เกียจ..บิดตัวซ้ายทีขวาที..ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำที่เข้าไปรับถาดอาหารเย็น แต่ความจริงเอาเข้าไปจนค่ำออกมา อะไรบางอย่างในห้องทำให้ประทีปชะงักกึก..รู้โดยสัญชาตญาณว่ามีคนเข้ามาอยู่ในห้องแน่นอน
“คุณแก้ว” เขาเรียกเบา ๆ “คุณแก้วครับ..คุณอยู่ไหน..ผมประทีปนะครับ” สิ้นเสียงบอกชื่อตนเองประทีปก็แทบผงะเมื่อกมลภพโผล่วูบเข้ามาพร้อมปืน...
“โอย..เจ้านาย” ประทีปพึมพำอย่างตกใจ
“แก้วไปไหน..” กมลภพถามเสียงรัวเร็ว ๆ “ไปแล้วครับ”
“ไปไหน” “ไปหลังเจ้านายออกไปสักชั่วโมงเห็นจะได้..เธออาละวาดอยู่สักครู่พอผมเอาอาหารกลางวันเข้ามาก็ไม่เจอแล้ว..เห็นแต่นี่”
ตอนที่
6
ประทีปพูดพลางเดินไปเปิดลิ้นชักให้เจ้านายดู...กมลภพเห็นปอยผมยามดำสนิทนั้นแล้วแทบสะอึก...เสียดายจนบอกไม่ถูก
เขาขมวดคิ้วย่นเมื่อเอื้อมมือไปกำขึ้นมาทั้งพวกผม...รวงแก้วตัดมันออกทำไม..เขาถามตัวเอง..ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นนึกถึงกลุ่มเด็ก
ๆ ที่วิ่งผ่านข้างรถไปเมื่อก่อนเที่ยงขึ้นมาแว่บหนึ่ง..มีเด็กรุ่นคนหนึ่งแต่งตัวแปลกกว่าเพื่อน..วิ่งรวมกลุ่มไปด้วย..ผมสั้นหน้าตาเห็นไม่ถนัด..แต่รู้ว่าเลอะเทอะมอมแมมพอกัน
“รวงแก้ว” เขาพึมพำเมื่อนึกได้ว่าควรเป็นหล่อน...เพราะเสื้อตัวนั้น..เสื้อของเขาชัด
ๆ ใช่แล้ว..กมลภพอยากตบกระโหลกตัวเองซะเดี๋ยวนั้น
“เจ้านาย...ผมต้องออกไปไม่งั้นพวกมันจะสงสัย”
กมลภพพยักหน้า....เป็นเชิงอนุญาติ..
“ดูแลที่นี่แทนด้วยฉันอาจจะไปนาน” “ครับผม”
ประทีปออกไปแล้ว...กมลภพก็ปีนออกทางหน้าต่าง..วิ่งไปในความมืดซึ่งมีแต่คนของเขาเรียงรายอยู่
ชายหนุ่มให้สัญญาณซึ่งเป็นที่รู้กัน..และสั่งอะไรบางอย่างก่อนจะพาตัวออกไปนอกบริเวณนั้น
รวงแก้วขายกำไลข้อมืออันเดียวที่มีติดตัวหล่อนอยุ่เพื่อเอาเงินมาเป็นค่าเดินทาง
“ร้านไพ่..ริมทางรถไฟ..ปาดัง” คือที่ ๆ หล่อนต้องไป
แว่บหนึ่งที่รวงแก้วนึกถึงกมลภพขึ้นมาด้วยความรู้สึกร้าวราน..ก่อนจะกัดฟันพาตัวเองขึ้นรถโดยสารประจำทาง..
ตอนนี้...หล่อนมอมแมมโดยไม่ต้องอาศัยดินโคลนป้ายหน้าอีกแล้ว..มอมแมมจริง ๆ
ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าก็ว่าได้..หล่อนใช้ปากถามเขาไปตลอด..เลือกถามแต่คนที่คิดว่าไว้ใจได้และก็เป็นบุญของรวงแก้วที่ไม่มีใครคิดร้ายต่อหล่อนเลย...
รถประจำทางพารวงแก้วตรงไปยังจุดที่นัดพบของพ่อเช่นเดียวกับรถเก๋งที่กมลภพกำลังมุ่งไปทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ากำลังเดินทางไปบนถนนสายเดียวกัน..หล่อนอยู่บนรถเมล์...นั่งนิ่งมองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย..เขาเองก็ตะบึงรถไปข้างหน้าอย่างว้าวุ่นใจ...
ในสมองของกมลภพมีแต่เงาของเด็กรุ่นในเสื้อกางเกงสีทึมตัดผมสั้นกุดวิ่งผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าเท่านั้น..ตรงหน้ารถของเขามีพวงผมยาวของหล่อนที่เขาใช้ยางรัดไว้เรียบร้อยวางอยู่
รถของกมลภพแล่นตามรถเมล์ไปเรื่อย ๆ
..จนกระทั่งมันจอดส่งผู้โดยสารตามทางผ่าน..เขาก็เร่งความเร็วแซงขึ้นล้ำหน้าไปอย่างรวดเร็ว..
เบน...เดินเข้าไปพร้อมคนของกมลภพในร้านอันเป็นจุดนัดพบแห่งนั้น
“ต้องการไพ่..สามสำรับ”
คำพูดของเขา..ทำให้คนขายเงยหน้าขึ้นมองแล้วกวาดไปทั่วทุกตัวคนที่มาด้วย
“ตรงนี้ไม่พอ..รอเดี๋ยว”
คนขายพูดแล้วเดินหลีกเข้าหลังร้าน..หายไปชั่วครู่ก็ออกมาใหม่
“คุณตามมาเอาได้..คนเดียวนะ” “เสียใจ..” ใครคนหนึ่งถือปืนอยู่ข้างหลังเป็นท้วงเสียงเรียบ
“เรามาด้วยกัน...และต้องไปด้วยกันทุกแห่ง” คนขายไพ่ทำท่าจะไม่พอใจ
“ให้เขาเข้ามาเถอะ...ฉันกำลังรออยู่” เสียงที่ดังออกมาจากหลังม่านทำให้ทุกคนถอนใจ..คำรน..มองดูร่างเบนที่เดินเข้ามาก่อนตามด้วยร่างของผู้ติดตามที่เขาจำหน้าได้ดีทุกคน...
“ยายแก้วล่ะ” คำรนถามถึงลูกก่อนอื่น.. “อยู่กับคุณมล” คำตอบของเบนเล่นเอาคำรนอึ้งไปนาน
“เขาทำอะไรยายแก้วหรือเปล่า”
คำถามของคำรนได้คำตอบเป็นความเงียบ..ที่พอจะรู้กันเอง
คำรนบอกตัวเองไม่น่าถามเลย..ผู้หญิงสวยปานนั้น..มีหรือว่าใครจะเก็บเอาไว้เฉย ๆ
คอของเขาตกลงอย่างหมดแรง...
“คุณมลว่าแลกกัน..กับของที่นายเอาของเขามา” เบนพึมพำ
ในขณะที่คำรนส่ายหัวทุบกำปั้นลงบนโต๊ะดังเปรี้ยง..ก่อนจะเดินโซเซไปโชกศีรษะกับกำแพงด้วยความเสียใจจนสุดประมาณ...ลูกสาวคนเดียวที่ทะนุถนอมมาอย่างดีตลอดเวลาสิบเำก้าปี...หล่อนกำลังโสภาน่ารัก....สะอาด..บริสุทธิ์..น่าทะนุถนอม..บัดนี้..ถูกทำลายเสียแล้ว
เขาคิดไม่ถึง..และไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องแลกรวงแก้วกับอะไรทั้งสิ้น..เขารอให้เรากลับไปพร้อมของไม่งั้นคุณหนูคงยับเยินแน่..ความคิดของมนุษย์น่ากลัวเสมอ..และยิ่งเป็นการคำนึงด้วยความประหวั่นพรั่นใจแล้วมันก็มักเป็นทวีคูณจากความจริงถึงสิบเท่าร้อยเท่าเลยทีเดียว
“กมลภพ” คำรนคำรามอยู่ในใจอย่างเจ็บแค้น
“ฉันต้องฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง” คำรำพึงนี้มีคนได้ยินอยู่เพียงคนเีดียวคือเบน..
ชายร่างเตี้ย..มองดูผู้ร่วมงานด้วยสายตาเห็นใจและเข้าใจ
“เขาบอกว่ารับผิดชอบคุณแก้ว”
“รับผิดชอบเรอะ..แบบไหนล่ะ..เลี้ยงไว้เป็นนางบำเรออย่างที่นายมันมีเป็นฝูงรึไง”
“คุณมลไม่มีนิสัยแบบนั้น”
ใครคนหนึ่งแก้ให้ด้วยน้ำเสียงเรีียบ..
คำรนเงยหน้าขึ้นสบตาคนของกมลภพอย่างดุดัน..มันช่างเลือกสรรค์ลูกน้องออกมาพิมพ์เดียวกันจริง
ๆ ใจเย็น..เฉยเมย..และซ่อนคม..แทบทุกคน
“มันคิดจะเอาตัวไว้เป็นตัวประกันนะสิ..ถ้าฉันไม่กลับไป..มันคงโยนยายแก้วให้เป็นเหยื่อแร้งกา” คราวนี้ไม่มีใครพูดอีก..ปล่อยให้คำรนหวั่นเกรงไปเอง...
“ตัดสินใจเร็วเข้าเถอะ..ยิ่งช้า..คุณแก้วก็ยิ่งแย่”
คำเตือนของเบนทำให้คำรนนั่งแปะลงอย่างหมดแรง..ยกมือขึ้นกุมขมับ
“ต้องเจรจากัน” คำรนกล่าวออกมาในที่สุด “ให้มันพายายหนูมาที่นี่..เราจะเจรจาแลกเปลี่ยนกัน”
“คุณต้องไป” “เสียใจ..ไหน ๆ
ยายแก้วก็เป็นเมียมันไปแล้วฉันไม่พาตัวเองไปติดกับมันเด็ดขาด..มันอาจจะฆ่าเราหมดทุกคน..ไว้ใจ
“นาย”
มันไม่ได้หรอก..ไอ้คนนั้นมันเลือดเย็นนัก”
“ถ้าเขาไม่มา” เบนแย้ง “มันอยากได้ของมากกว่าจะเก็บยายแก้วไ้ว้เฉย
ๆ หรอกน่า” คำรนว่า
“ส่งข่าวไป..ฉันจะรอที่นี่” ปืนที่จี้นิ่งมาที่ขมับ
ทำให้คนขายไพ่หน้าร้านยืนเงียบทำอะไรไม่ถูกไปชั่วอึดใจ
“คุณต้องการอะไรครับ” “คำรนอยู่ไหน”
“ทะ...ที่นี่..ไม่มีคนชื่อคำรน” “งั้นเราหาเอง”
สิ้นคำพูดนั้น..ปืนเก็บเสียงก็ระเบิดกระสุนของมันออกไปทันที..ร่างผอมเกร็งนั้นร่วงไปกองกับพื้นนิ่งโดยไม่กระดุกกระดิก...คนบนห้องชั้นบนซึ่งนั่งรวมกันในอิริยาบถต่าง
ๆ อันแสดงถึงการรอคอยโดยไม่ระแวงสงสัยอะไรเลย..
ข่าวถูกส่งออกไปแล้ว...และทุกคนก็หวังว่าผู้เจรจากำลังมามันเป็นงานที่คลุกเคล้าไปด้วยเวลาและความตาย
คำรนถอนใจ..เมื่อหันไปชำเลืองมองทางบันไดแล้วตะลึงงัน..คนของกมลภพที่จับตาดูเขาอยู่มองตามแล้วเปิดตากว้างกระตุกปืนออกจากซอง..ทว่าช้าไป..กระสุนที่รัวออกมาจากปืนกลมือนั้นเร็วกว่าใครจะหลบหรือโต้ตอบทัน..
คำรน
พุ่งร่างเข้าใต้โต๊ะ..พร้อมกับเน..ในขณะที่คนของกมลภพล้มเป็นใบไม้ร่วง..สี่คน..ในพริบตาเดียว
“ออกมา”
คำสั่งนั้นสั้น..แตี่คำรนและเบนก็รู้ว่าไม่มีทางขัดขืน..ทั้งคู่ถูกลากถูลู่ถูกังลงมาจากชั้นบนไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว...
“นายโกษาคงดีใจที่จะไ้ด้เงินรางวัลงาบซะเองจริงไหม” ใครคนหนึ่งในรถนั้นพึมพำยิ้ม ๆ
เมื่อรถเก๋งสีทึบนั้นตีวงพ้นร้านไพ่ไปอย่างรวดเร็ว..
กมลภพชะงักเมื่อเดินลงมาจากรถ..เพราะกลุ่มคนและตำรวจมากมายหน้าร้าน ชายหนุ่มค่อย ๆ
ก้าวตรงไปอย่างระมัดระวัง..แทรกเข้าไปในกลุ่มคน..
“มันฆ่าเรียบเลยว่ะ..ห้าคน” เสียงพึมพำไม่ได้ศัพท์ดังมาเข้าหู..เขามองดุศพที่ถูกลำเลียงขึ้นรถไปด้วยดวงตาขุ่นมัวหัวคิ้วขมวดมุ่น
ดีที่ตำรวจไม่ได้ปิดหน้าศพ..ชายหนุ่มจึงเห็นหน้าคนตายทุกคน..เขาค่อย ๆ
ถอยฉากออกไปจากกลุ่มคนนั้นในที่สุดด้วยความคิดอันหมกมุ่นและแค้นเคือง...
ใครฆ่้าคนของเขา...คำรนและเบนหายไปไหนเป็นไปได้มั้ยว่าสองนั่นจะจัดการซะเอง...กมลภพส่ายศีรษะ
เมื่อคำพูดว่าคนร้ายใช้ปืนกลแว่วเข้ามาในหู
คำรนและเบนไม่มีปืนกลแน่นอน..และคนส่วนใหญ่ของนายชอบใช้ปืนกล แต่ไม่มีเหตุผลที่นายจะต้องทำแบบนี้ เพราะตัวเขาก็มาแล้ว
ที่เหลือก็คือพวกสายอื่นที่ตามคำรนเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ควรฆ่าคนของเขาซึ่งถือว่าเป็นพวกเดียวกัน.แว็บหนึ่งที่กมลภพคิดถึงโกษา..แล้วหรี่ตาลง..คนของโกษา..ชอบใช้ปืนประเภทนี้เสมอ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
คำรน..และเบนก็อยู่ในมือของโกษา
กมลภพถอยรถพลางครุ่นคิดย้อนออกไปตามถนน
โดยไม่ทันสังเกตุเห็นร่างบางของคนที่เดินท่อม ๆ
สวนเข้าไปอีกด้าน...รวงแก้วเย็นไปทั้งตัว..เมื่อรู้ว่ามีการยิงกันที่ร้านไพ่ตายหมด
หล่อนวิ่งชนผู้คนตรงไปยังที่เกิดเหตุ..แต่เมื่อไปถึง..รถเก็บศพนั่นกำลังจะออกอยู่แล้ว..
สาวน้อย..วิ่งเข้าไปหมายจะดูให้รู้ว่าเป็นใคร..แต่เครื่องแบบของตำรวจทำให้รวงแก้วชะงัก..ตำรวจ..หล่อนไม่ต้องการพลตำรวจ..ไม่ต้องการถูกจับขังไว้สอบสวนไม่ว่าสาเหตุใด
ๆ
ทั้งสิ้น..ภาษาของรวงแก้วที่เรียนมาใช้ได้ดีพอควร..ทำให้หล่อนรู้ว่ารถคันนั้นจะไปที่ไหน..และบอกรถรับจ้างให้ตามไปโดยไม่ยาก..แม้จะุถูกมองหัวจรดเท้าอย่างไม่เชื่อว่าจะมีเงินให้ค่ารถก็ตาม...
หล่อนตามไปถึงก็พูดเพียงคิดว่าคนตายเป็นพ่อ..พ่อบอกจะมาซื้อไพ่ก็ได้เห็นหน้าคุ้นเคยของคนของกมลภพทั้งหมด..รวงแก้วหน้าซีดทำท่าจะเป็นลม
ถ้าไม่วิ่งออกมาเสียก่อน..ถ้ากมลภพรู้ว่าคนของเขาถูกฆ่าแบบนี้...เขาต้องฆ่าพ่อหล่อนแน่
แล้วนี่พ่อไปไหนกัน..พ่อไปไหน..ความหวังของรวงแก้วที่อุตส่าห์เสี่ยงภัยตามมาเป็นหมันไปแล้วรึนี่..รวงแก้วก้าวขาเดินไปตามถนนอย่างหมดอาลัยตายอยาก..ฉับพลัน..ดวงตาของสาวน้อยก็เหลือบไปเห็นด้านหลังของคน
ๆ หนึ่งซึ่งกำลังเดินไปยังประตูด่านเขตแดนเช่นเดียวกัน..
รวงแก้วบอกตัวเองว่า..จนวันตาย..ก็คงไม่มีทางลืมเขาได้..ผู้ชายที่ได้ครอบครอบหล่อนทั้งกายและใจ...รวงแก้วหยุดนิ่ง..เจ็บแปล๊บเข้าไปในหัวใจเมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างของเขาถนัด
หล่อนอยากหันหลังและวิ่งหนีไปสุดชีิวิต..แต่รวงแก้วทำไม่ได้
กมลภพเป็นคนเดียวที่จะนำทางรวงแก้วไปพบพ่อหล่อนได้ เขาตามมาถึงนี่แล้ว..และก็คงใช้อิทธิพลที่มีอยู่ตามหาพ่อหล่อนจนเจอ
รวงแก้วเชื่อว่าเขาคงยังไม่ได้อะไรที่ตามหาคืนไปจากพ่อหล่อนแน่นอน รวงแก้วยกคอเสื้อแจ็กเก็ตที่จำเป็นต้องซื้อสวม เพราะอากาศกลางคืนเย็นเหลือจะกล่าว..
หล่อนนอนตามโรงแรมถูก ๆ
โดยมีปืนที่ยึดมาได้เป็นเพื่อนและโชคดีที่รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ดดยไม่มีใครสนใจเท่าใด..ร่างโปร่งระหงเดินตามร่างสูงไปอย่างรวดเร็ว..ผ่านเข้าประเทศของตน..จนมาถึงที่รถของเขาจอดอยู่
รวงแก้วโบกรถรับจ้างบริเวณนั้นไล่ตามเขาไป..
“ลูกสาวผมอยู่ในมือนายคุณไม่ใช่รึ” คำรนถาม คนที่เอาตัวเขาขึ้นรถมา..
“บอกให้นายคุณเอาตัวลูกสาวผมมาแลกไม่งั้นถึงฆ่าผมก็ไม่ยอมพูด...พวกคุณอยากเสียเงินเป็นสิบ
ๆ ล้านก็ตามใจ”
คำรนยื่นคำขาด..เขารู้ดีว่าไม่ว่าคนของโกษาหรือกมลภพต่างก็สามารถส่งข่าวถึงกันได้แน่นอน....
“นาย” นั่งนิ่ง...เมื่อรู้ว่าบัดนี้กุญแจดอกสำคัญอันตรธานไปเสียแล้ว..เขามองหน้าประทีปนิ่งราวจะค้นคว้า....
“ผู้หญิงคนนั้นไปไหน” ประทีปส่ายหน้า “นายมลมาเอาไปใช่ไหม” ประทีปไม่พูดอีก
“ตอนนี้คนของโกษาได้ตัวคำรนแล้ว..และต้องการลูกสาวไปแลกเปลี่ยน..ส่งข่าวให้นายแกรู้นะประทีปทำยังไงก็ได้ให้ได้ของคืนมาแล้วบอกไปด้วยว่ารวงแก้วหนีไปแล้ว” ประทีปรับคำสั้น ๆ
แล้วเดินจากไป...
ผู้เป็น “นาย” โกรธจนพูดไม่ออก..ทั้งอยากทำอะไรสักอย่างเป็นการสั่งสอน
แต่คนของกมลภพในเวลานี้มีมากกว่าเท่าตัวและแทรกซึมทั่วไปหมด..ปิดทางไม่ให้ “นาย” ได้ถือไพ่เหนือกว่าจนกว่าลูกพี่จะกลับได้อีก
“นาย” ถอนใจเงียบ ๆ ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาสู้กับคนของลูก..และเมียเลยจริง ๆ
สิ่งที่ไม่เคยคิดจะยอมก็ต้องจำยอมจนได้.....
โรงแรมที่กมลภพเข้าพักเป็นโรงแรมชั้นกลางและค่อนข้างเงียบ..ข่าวที่เพิ่งได้รับทำให้กมลภพพอใจอย่างยิ่ง..”คำรน” ถูกกักตัวอยู่ไม่ห่างเขานักโดยคนของโกษาและกำลังรอให้ใครเอาตัวรวงแก้วไปแลก
และรวงแก้วก็พ้นอันตรายไปแล้ว..มันมีปัญหาอยู่อย่างเีดียวตอนนี้ว่าคนของโกษาเอาตัวคำรนไปไหนเขาต้องรู้..และจัดการชิงตัวกลับมา...
กมลภพไม่อยากได้สิบเปอร์เซ็นต์จากการได้ตัวคำรน แม้แต่นิดเดียว แต่ต้องการ “ฆ่า” คนที่ฆ่าคนของเขามากกว่า...เพียงสิบเปอร์เซ็นต์
ทำให้โกษาสั่งฆ่าได้อย่างง่ายดาย..และกมลภพก็คิดว่าบางทีจะถึงเวลาชำระหนี้กันแล้ว..
เขาเดินขึ้นห้องพัก..ปิดประตูเรียบร้อย..แล้วทิ้งตัวลงบนเตียงแคบ ๆ
ฟังเสียงแอร์ครวญครางอย่างครุ่นคิดชั่วขณะที่ “ชายหนุ่ม”
หลับตาลงแล้วนึกถึงหล่อน..รวงแก้ว..ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นหล่อนเต็มตาไม่มีอะไรปิดบังสักชิ้นเดียว..เขานึกถึงริมฝีปากนุ่มหวาน..และเนื้อตัวอันนุ่มนิ่มอวบอุ่นของหล่อน
ความสะอาด..และบริสุทธิ์ผุดผ่องที่เขาสัมผัสได้ด้วยตัวของตัวเอง..เขายังจำได้ถึงความหวาดกลัวของหล่อนที่พยายามที่จะหลีกหนี..แต่กลับถูกเขารั้ิงตรึงไว้แน่น..และดับความเจ็บปวดและหวาดกลัวนั้นเสียด้วยจุมพิตอันอ่อนโยน..เอาใจ..หลังจากนั้น..รวงแก้วก็หวานเสียจนเขาแทบสำลักความสุขอันดื่มด่ำที่ไม่เคยได้พบเต็มอื่มมาตลอดช่วงชีวิต...
หล่อนเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้อิ่มเอมทั้งกายและใจ
แล้วเวลานี้ล่ะ..หล่อนอยู่ที่ไหน..กมลภพหลับตาลง..สอดมือเข้าไปยังทรวงอกเบื้องซ้ายซึ่งซ่อนพวงผมของหล่อนเอาไว้ในซิปเสื้อตัวนั้น..
รวงแก้วค่อย ๆ
ปิดประตูอย่างระัวังเมื่อเห็นร่างสูงของเขาเดินผ่านประตูไป..ยี่สิบสี่ชั่วโมง..แล้่วที่หล่อนเฝ้าติดตามเขามาเงียบ
ๆ ค่าใช้จ่ายรอบ ๆ
ตัวสูงอย่างไม่น่าเชื่อ..เพื่อแลกกับความสะดวก..และสบายระดับนี้
หล่อนจำเป็นต้องอยู่ห้องติดกับเขาเพื่อจะได้ตามได้ทันทีทุกระยะ..อย่างระวังและกระชั้นชิด
หล่อนตามเขาเข้าพักในโรงแรมนี้..แล้วไม่ได้กระดิกไปไหนเลยหลายชั่วโมงจนกระทั่งเขาออกไป..และกลับเข้ามาใหม่
รวงแก้วรู้สึกหิวเต็มที..และจำเป็นต้องออกไปหาอะไรกินซะบ้างแล้ว..หล่อนต้องประหยัด..ดังนั้นต้องไปกินข้างนอก..หญิงสาวยังไม่ทันได้ทำตามที่คิดหล่อนก็ได้ยินประตูห้องข้าง
ๆเปิดและปิด
“เขาออกไปไหนอีกนั่น”
รวงแก้วถามอยู่ในใจแล้วรีบเปิดประตูออกไล่ตามไปทันที
กมลภพรู้ตัวเมื่อเดินมาถึงลิฟท์นั่นเอง..จากกระจกภายในลิฟท์ทำให้เขาเห็นว่ามีคนตามแว็บหนึ่ง
ชายหนุ่มเกือบบอกตัวเองว่าตาฝาด
เมื่อยืนเฉยปล่อยให้ประตูลิฟท์ปิดลง
เขาตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อรับข่าวสำคัญ..ประทีปฝากข่าวมาว่าทุกคนคิดว่า “หล่อน” มากับเขา
กมลภพเกือบหัวเราะ..เขาไม่เห็นหล่อนแม้แต่เงา..ทว่ามีคนตามอยู่ไม่ห่าง..โกษาส่งคนสะกดรอยเขากระมัง..
กมลภพถอนใจ
พลางหรี่ตาลงเขาจะต้องเค้นเอาเรื่องจากมันให้ได้ว่าตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหนง.เวลานี้ใคร
ๆ คิดว่า “รวงแก้ว” มากับเขา
ถ้าพวกมันรู้ว่ารวงแก้วไม่อยู่แล้ว..คงตัดข่าวส่งคำรนกลับไปหานายอย่างแน่นอน..และรวงแก้วก็จะกลายเป็นเหยื่อที่ถูกตามล่าต่อไป
กมลภพถอนใจอย่างหนักอก..เมื่อคิดมาถึงเรื่องนี้..รวงแก้วไปอยู่ที่ไหน..รู้บ้างไหมว่าอันตรายมันกำลังคืบคลานไปหาหล่อน เพราะพ่อของตัวเอง ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าต้องตามคำรนให้เจอก่อน..บอกเข้าว่ารวงแก้วไปแล้วและห้ามไม่ให้คำรนดึงหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่ากรณีใดอีก..และบีบให้คืนของมาเสีย..
นึก ๆ
ดูน่ะมันง่าย..แต่พอทำจริง ๆ เข้าเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
คนของเขามัวหาตัวคำรนและคนของโกษาไม่เจอไม่รู้ว่าไปกบดานอยู่ที่ไหน..กมลภพเดินออกจากโรงแรม..ตัดเข้าไปยังสวนสาธารณะในความมืด
รวงแก้วชะงักการติดตามอย่างลังเล
หล่อนแอบเห็นเขาอ่านอะไรไม่รู้..อาจจะเป็นเอกสารติดต่อกันก็ได้ิ...เขาอาจจะรู้แล้วว่าพ่ออยู่ไหน..แล้วตรงไปพบแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ..รวงแก้วหยุดยืนอย่างลังเลใจ
ชายหนุ่มพยายามเดินหลบบ้าง..ปรากฏตัวบ้างล่อคนตามไปตลอด...
เขามองหาที่ ๆ
จะเก็บมันโดยไม่ให้ใครเห็นเป็นพิรุธได้..อย่างน้อย ๆ
กว่าจะพบศพก็คงพรุ่งนี้..ถ้าเป็นคนของโกษา...กมลภพตัดสินใจแล้วว่าไม่เลี้ยงเอาไว้เด็ด
ๆ รวมทั้งลูกพี่ของมันด้วย..เขาเดินผ่านพุ่มไม้ตรงหน้าและโดดเข้าไปซ่อนตัวทันที..เขายืนอยู่นาน..จนเกือบผิดหวังเสียแล้วที่มันไม่ตามมากระทั่งได้ยินเสียงเหยียบกิ่งไม้หัก
กมลภพทำงานแบบนี้เป็นอาชีพ..ในขณะที่คนตามไม่ได้เป็นแม้แต่สมัครเล่น..รวงแก้วตามไปเรื่อย
เหมือนงมเข็มในความมืดหวังจะได้ยินเสียงพูดคุย...ปรึกษาหารือ หรือการเคลื่อนไหวใด
ๆ
บ้าง..แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับเงียบกริบท่ามกลางความมืดเงาของหล่อน..เหมือนผู้ชายร่างสันทัดค่อนข้างบอบบาง
หญิงสาวเข้าไปใกล้ร่างสูงที่ยืนคอยอยู่ทุกที..ในมือของเขามีมีดที่กดสปริงรอไว้เรียบร้อย..โดยไม่รู้ตัว
ถ้ากมลภพเสียบทันทีโดยไม่ถามทางรอด..ก็ไม่มีแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว..หล่อนก้าวผ่านเขาไปก้าวแรก..และก้าวที่สองเงาสูงตามประชิดตัวอย่างรวดเร็ว..แขนของหล่อนถูกกระตุกพับขึ้นไปแรงแทบหัก...พร้อมกับใบมีดที่กดติดเข้ามาที่ลำคอขาวผ่องในพริบตา..หล่อนร้องไม่ออก..ตกใจจนแทบสิ้นสติ..
“ตามฉันมาทำไม”
คำถามนั้นห้วนห้าวและดุดันเอาจริงอย่างที่รวงแก้วไม่เคยได้ยิน
“ตอบเร็ว..ไม่งั้นฉันเชือดคอแกแน่”
อาการตัวสั่งสะท้าน..และกลิ่นอ่อน ๆ
ที่ระเหยออกไปจากร่างคุ้นจมูกกมลภพอย่างบอกไม่ถูก
เขาสะบัดตัวหล่อนให้หันหลังพิงต้นไม้ใหญ่..เผชิญหน้ากันในวินาทีต่อมา....
รวงแก้วหลับตาแล้วก็ลืมตาขึ้น..อ้าปากค้างพูดไม่ออก..กมลภพเองก็มีอาการเกือบไม่แตกต่างกันเมื่อเห็นหล่อนถนัด....
“แก้ว”
เขาพึมพำ..ลดมีดลงแทบทันที..พับมันเก็บแล้วรวบตัวหล่อนเข้าไปกอดไว้แน่น..รวงแก้วงันไปชั่วอึดใจ..แต่พอรู้ตัวก็ดิ้นเร่า
ๆ ทั้งเตะทั้งถีบเป็นพัลวัน...
“ปล่อยนะ...ปล่อยฉัน...ปล่อยเดี๋ยวนี้” “อะไรกันเล่า.....” เขาเอ็ดอย่างงง ๆ
“อะไรงั้นเรอะ..คุณนึกว่าฉันโง่ขนาดไหน..คุณทิ้งฉันไว้เป็นเหยื่อไอ้พวกบ้ากามนั่น..แล้วยังจะฆ่าฉันอีกคุณมันเลว..เลวระยำเอ้ย”
รวงแก้วถูกกระชากเข้าไปหาเขาแรงและเร็วจนคอแทบหลุด..แล้วก็ต้องครวญครางเมื่อเขาลงโทษปากของหล่อนด้วยจุมพิตรุนแรง..หนักหน่วง
หญิงสาวรู้สึกได้จากรสจูบนั่นเองว่าปากของตนต้องแตกแน่นอน..หล่อนได้รสเลือดตัวเอง..ก่อนจะได้รสหวานปะแล่มปนมากับการจูบอย่างหิวกระหายของเขา หล่อนหมดแรง
เพราะเหนื่อยอ่อน..และหิวเต็มทีไม่มีปัญญาจะสู้กับเขา
“ปากจัดนัก..นี่
ๆ ..คนปากจัด”
เขาพึมพำพร้อมกับงับลงมาที่เนื้อนุ่มของหล่อนกัดเน้นเบา ๆ
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจุมพิตไซร้ซอนหนักหน่วง
กมลภพรู้ว่าหล่อนเข้าใจเขาผิด..แต่ก็ไม่อยากอธิบายให้มากเรื่อง
เขากำลังดีใจจนเหลือจะกล่าวที่เจอหล่อนอย่างไม่คาดคิด...และใจหายเมื่อคิดได้ว่าถ้าไม่คิดจะเค้นคำตอบจากหล่อนก่อน..คงเสียบหััวใจทะลุไปแล้ว
ชายหนุ่มสั่นเยือกไปทั้งตัวเมื่อคิดถึงว่าตัวเองเกือบฆ่าผุ้หญิงที่รักยิ่งดังดวงใจเสียแล้ว..รวงแก้วไม่มีแรงจะต่อต้านกับการระดมทั้งจูบและกอดอย่างหนักหน่วงจากเขา
“พ่อฉันอยู่ที่ไหน...กรุณาเถอะ..พาฉันไปหาพ่อที” หล่อนร้องหาพ่อทั้ง ๆ
ที่อยุ่ในอ้อมกอดของเขาแท้ ๆ หัวใจของกมลภพกระตุก
เมื่อตระหนักแน่ถึงสิ่งที่หล่อนต้องการ
หล่อนต้องการพ่อของหล่อน..ในขณะที่เขาเป็นเพียงผู้ชายเลว ๆ
คนหนึ่งที่ปล้นความสาวไปจากหล่อนและคิดทิ้งหล่อนไว้ให้แร้งกาทึ้ง
กมลภพเข้าใจความคิดของรวงแก้วด้วยความรู้สึกปวดลึก ๆ
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักหล่อน..รักผู้หญิงในอ้อมแขนอย่างสุดหัวใจอย่างไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน
“ฉันก็กำลังตามหาพ่อเธอ..คิดอยู่ว่าคนของโกษามันตามมาซะอีก”
“ทำไมหรือคะ..โกษารู้หรือคะว่าพ่ออยู่ไหน”
“แน่นอน..คนของมันฆ่าคนของฉันเอาตัวพ่อเธอไปบังคับให้บอกที่ซ่อนของ..แต่พ่อเธอต้องการให้ได้เธอกลับไปเป็นการแลกเปลี่ยนกับการบอกที่ซ่อน..ตอนนี้น่ะเธอกำลังอยู่ในอันตราย..เช่นเดียวกับที่ฉัีนต้องการควานหาพ่อเธอให้เจอรู้ไหม” คำบอกเล่าของเขาทำให้หล่อนงง..
กมลภพรั้งหล่อนลงนั่งกับพื้นใหญ่ใต้เงามืดของพุ่มไม้ใหญ่..ช้อนใบหน้าหล่อนขึ้นแล้วจูบเอาอีกอย่างหิวกระหาย..รวงแก้วพยายามดิ้น..จนหลุดออกมานั่งหอบอยู่ข้าง
ๆ
“แล้วคุณมาทำอะไรอยู่นี่ล่ะพยายามปล้ำฉันแทนจะช่วยพ่องั้นเรอะ”
คำพูดของหล่อนทำให้ชายหนุ่มเริ่มได้สติ..เขามองหล่อนนิ่ง ค่อย ๆ
ข่มความตื่นเต้นดีใจเอาไว้ภายใต้กิริยาเย็นชาของตนเองตามเดิม...
รวงแก้วเห็นท่าแบบนั้นของเขา..แล้วรู้สึกเสียดายความรู้สึกยินดีปรีดาต่อหล่อนอย่างลืมตัวเมื่อครู่ขึ้นมาตะหงิด
ๆ
เขานั่งมองหล่อนอย่างใจเย็นลงกว่าเดิม..เปลือกตาคมหรี่ลงบังประกายตาที่อ่านไม่ออก
“จะให้ช่วยยังไง”
เขาถามเสียงเรียบ..ทำท่าเหมือนไม่ยินดียินร้าย
“หาพ่อให้เจอน่ะสิ” “ใครจะรู้ล่ะ..กำลังรอข่าวอยู่นี่” หล่อนค้อนขวับอย่างฉุน ๆ
ถอนใจเฮือก
“แล้วจะรู้เมื่อไหร่อีก” “อีกสักสองชั่วโมง..ตอนนี้แก้วอยู่ไหน”
“ติด ๆ
กับห้องที่คุณพักนั่นแหละ”
คำตอบของหล่อนเล่นเอาคนได้ยินเลิกคิ้วสูงอย่างไม่อยากเชื่อ
“ตามฉันมาตั้งแต่เมื่อไหร่..ที่ไหน” “ชายแดน” รวงแก้วตอบสั้น ๆ กมลภพขมวดคิ้วหนักขึ้นมองหล่อนอย่างไม่อยากเชื่อ
“ตามมานานขนาดนั้นเชียวหรือ
ในลักษณะนี้น่ะหรือ”
เขาถามพลางมองหล่อนอย่างพินิจ...
ผมของรวงแก้วถูกกร้อนจนเหมือนหนูแทะดูไม่ได้..หน้าตาสกปรกมอมแมม..เสื้อผ้า..แม้จะใหม่แต่ก็มอมแมมเห็นชัด..ตั้งแต่ศีรษะจรมเท้า..แทบไม่บอกเลยว่าผู้หญิงคนนี้เกือบเหมือนเทพธิดา เมื่อเขาเห็นหล่อนในครั้งแรก..
เขาถอนใจยาว..ขอบคุณพระอยู่ในใจที่ทำให้หล่อนมีสภาพนี้ขณะตามหาพ่อ..และตามเขามาจนพบเขา
ถ้ารวงแก้วสวยสะอาดอย่างตอนแรก..กมลภพคงแทบคลั่งเมื่อนึกถึงสัตว์ในคราบมนุษย์ที่คอยจ้องตะครุบหล่อนเพื่อฉีกเนื้อกินเป้นภักษาหาร
“เก่งนี่” เขาพึมพำเบา ๆ ขณะที่มองหล่อนด้วยตาแพรวพราว...
“อย่ามองฉันอย่างนั้นนะ” หล่อนแว้ดกลับมา
“มองเมียตัวเองเป้นไรไปเล่า”
เขาเถียงเสียงนุ่ม..แล้วหรี่ตากวาดมองหล่อนไปตลอดร่างด้วยดวงตาที่แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผย รวงแก้วร้อนผ่าวไปทั้งตัวทั้งโกรธและอาย
“อย่ามาตู่เลย..ไม่มีทาง..ไม่มีวัน..ฉันไม่เชื่อคุณอีกต่อไปแล้ว” “ไม่เป็นไรนี่” เขายักไหล่..ยกเข่าขึ้นกอดหลวม ๆ อย่างสบายใจ
“เพียงแค่ให้รู้หน้าที่ก็พอ”
เขาย้ำคำพูดอย่างมีความหมาย..พลางหลิ่วตาให้หล่อน
“หมายความว่าไง” “ช่างเถอะ..ตอนนี้ขี้เกียจอธิบาย..มาพูดกันเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า” เขาตัดบท เมื่อมองหล่อนอย่างพินิจ
“เดี๋ยวเธอตามฉันกลับเข้าไปนะ.งห่าง
ๆ อย่าให้ใครสังเกตได้เด็ดขาดว่าเรารู้จักกัน”
“แน่นอน..ฉันต้องแวะหาอะไรกินก่อนแน่หิวจะตายแล้ว”
“พูดฉัน..ไม่เห็นเพราะ..ทำไมไม่เรียกตัวเองว่าแก้วตามเดิม”
“ไม่เรียกกับคนที่ทิ้งฉันให้สัตว์มันทึ้งหรอก” “แน่ะ..ปากดีอีกแล้ว”
“ยังดีกว่าคนใจสกปรก” รวงแก้วพูดไม่ทันจบ
เพราะเขาเอื้อมมือมาบีบแก้มหล่อนไว้เต็มแรงเจ็บจนชา
“เดี๋ยวเราะฟังซะนี่..” เขาขู่แล้วปล่อยมือ
“เอาสิ..เอาเลย..นึกว่าเก่งแค่ไหน..ที่แท้ก็..”
มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่แก้มอีกครั้ง..และบีบหนักจนหล่อนทนแทบไม่ได้ หากเป็นคนอื่นอาจจะตบไปแล้ว แต่เพราะเป็นกมลภพ ซึ่งไม่เคยคิดจะทำให้หล่อนกระทบกระเทือนใด ๆ
เขาจึงเลือกวิธีนี้
“ถ้าไม่หยุดด่าจะปล้ำซะตอนนี้ล่ะเอาไหม” เขายื่นข้อเสนอที่หล่อนตอบรับไ่ม่ได้..นอกจากจะเงียบลงฉับพลันอย่างได้ผล
“ไม่ต้องไปกินอะไรที่ไหน..เดี๋ยวจะจัดการสั่งให้ในห้อง..ขึ้นไปกินด้วยกัน”
“ฉันไม่กินข้าวกับคนทรยศ” “เอาอีกแล้ว” เขาส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่เคยทรยศ” กมลภพเถียง “ฮึ..คุณมัน”
“อ๊ะ ๆ “ เขาร้องพร้อมกับลุกทำท่าเตรียมพร้อม
หล่อนถอยหลังกรูดไปตามพื้น
“อย่าบ้านะ” “เลิกพูดเสียทีสิ” เขาขู่อย่างฉุน ๆ
หล่อนกัดกรามหยุดอย่างไม่หายแค้น
“ขึ้นไปแล้วตามไปที่ห้องไม่งั้นก็ไม่รับรู้เรื่องพ่อเธอ..ตามเอาเอง”
เขาตัดบท..แล้วลุกขึ้นเดินกลับไปตามทางเดิม..รวงแก้วลุกขึ้นตามไปช้า ๆ
ด้วยความรู้สึกแค้นเคืองไม่วาย..ชายหนุ่มเดินเข้าโรงแรมและเคาน์เตอร์..แต่ยังไม่มีข่าวจึงเิดินเลยขึ้นลิฟท์ไปเงียบ
ๆ
หล่อนตามเข้าในตอนหลังห่างกันราวสิบห้านาทีโดยไม่มีใครสังเกต
บนชั้นนั้น..กมลภพก้าวเข้าห้องและเปิดประตูรอหล่อนอยู่แล้ว..ทั้งสอง..เผชิญหน้ากันอีกครั้ง..ท่ามกลางแสงสว่างของดวงไฟเจิดจ้า..เห็นกันได้ชัด..แม้แต่ประกายในดวงตา..ชายหนุ่มปิดประตูแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาโยนให้หล่อนพร้อมชุดนอนของเขา
“ไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้ว”
รวงแก้วไม่ตอบ..แต่คว้าผ้าได้ก็เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่มีทางเลือก
เมื่อออกมาอีกครั้งอาหารหอมกรุ่นก็มาตั้งเรียบร้อยอยู่ในห้อง หล่อนถือโอกาสซักผ้าเสียแทบทุกชิ้นยกเว้นแจ๊กเก็ตสีดำตัวนอก
กมลภพเดินตามเข้าห้องน้ำไปทีหลังเห็นเสื้อผ้าของหล่อนและซับในชิ้นเล็ก ๆ
ที่แขวนล่อตานั้นแล้วอดยิ้มให้กับตัวเองเสีมิได้
รวงแก้วกินข้าวหมดอย่างรวดเร็วด้วยความหิว..แถมเติมอีกครึ่งจาน กมลภพมองหล่อนยิ้ม ๆ แม้บางครั้งจะดูหล่อนเป็นสาวรู้เรื่องรู้ทันเขาหลายอย่าง..แต่บางครั้งวก็เหมือนเด็กเช่นเวลานี้
หล่อนกินอาหารเสร็จ..ก็เริ่มมองหาที่นอน..ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นไม่เห็น..ไม่รู้ไม่ชี้..ลุกขึ้นวางจานแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน..พอออกมาอีกที..หล่อนก็หายแว็บไปแล้ว..กมลภพฉุนกึก..เปิดประตูออกไปทันที..หล่อนบอกว่าอยู่ติดกับห้องเขา..ไปซ้ายมือ..ก็ขวามือล่ะ
ชายหนุ่มตรงไปเคาะห้องขวามือก่อน..แต่ไม่มีเสียงตอบ..ก็เดินไปเคาะห้องซ้ายมือใหม่..ทั้งสองห้องเงียบกริบ..เขาก็ถอยออกมายืนมองอย่างเอาเรื่องเป็นตายยังไง..คืนนี้เขาต้องเอาหล่อนขึ้นเตียงให้ได้
กมลภพเดินเข้าห้องอีกครั้งแล้วออกมาพร้อมเศษกระดาษเขียนข้อความเรียบร้อยสองใบสอดเข้าประตูข้างละใบ..แล้วเดินเข้าห้องไม่ถึงนาทีต่อมา..ก็มีเสียงเคาะประตูรัวจนนับไม่ทัน
ตอนที่
7
เขายืนเฉย...ไม่สนใจจะเดินไปเปิด...จนได้ยินเสียงลูกบิดก้อกแก้ก..และสุดท้านกระดาษใบเก่าก็ถูกสอดกลับเข้ามา
“พ่ออยู่ไหน...คุณรู้แล้วหรือ” หล่อนถามมาในนั้น..แต่เขากลับเขี่ยกระดาษออกไปอย่างไม่ใส่ใจ
หล่อนสอดเข้ามาใหม่ “คุณจะเอายังไงกับฉัน”
กมลภพยิ้มเมื่อตอบคำตอบลงไปในกระดาษแผ่นนั้นอย่างชัดเจน
คราวนี้คนข้างนอกเงียบไปนาน..นานจนเขาชักไม่สบายใจกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูเข้ามาใหม่.รวงแ้ก้วยืนนิ่งอยู่หน้าประตู..ไม่ยอมแม้จะสบตากับเขา
กมลภพหลีกทางให้หล่อนเข้าไปแล้วปิดประตูลงเรียบร้อย...หญิงสาวหลับตาเมื่อรู้สึกถึงท่อนแขนอบอุ่นที่โอบรวบมาจากเบื้องหลังและริมฝีปากรุมร้อนที่ซุกซอนลงมากับซอกคอ
กลิ่นหอมอ่อน ๆ นี่เอง..ที่กมลภพจำได้จนเจนใจกลิ่นเนื้อของหล่อน
ปลายนิ้วแข็งแรงเลื่อนไปที่สาบเสื้อนอนที่หล่อนสวมแล้วค่อย ๆ
ปลดกระดุมออกที่จะเปิดอย่างใจเย็น..
ภายในห้อง..บัดนี้มีเพียงแสงสว่างจากไฟหัวเตียงเท่านั้น..เขาโยนเสื้อของหล่อนลงกับพื้นก่อนจะหมุนร่างงามเข้ามาหา..ฝ่ามือใหม่อบอุ่นช้อนเข้าที่ใบหน้าอย่างเบามือ
“ตัดผมเสียทำไม” “มันสวนเกินไปมั้งคะ..มันทำให้ฉันเดือดร้อนนักหนาขนาดแบบนี้ก็ยังไม่วายอยู่ดี” หล่อนประชดใส่เขา..
“เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลนี่นา” “ตอนนี้ใช่ค่ะ”
“เพราะอะไร..เพราะเธอคิดว่าฉันปล่อยเธอไว้ในมือพวกนั้นงั้นรึ” คำถามนี้ทำให้รวงแก้วแทบน้ำตาร่วงอย่างเจ็บใจ...
“เธอคิดจริง
ๆ รึว่าฉันจะทำแบบนั้นได้ลงคอ”
“คุณทำแล้วค่ะ..ไม่ใช่แค่..จะทำ..หรอก” “ไม่เชื่อเลยใช่ไหม”
“ไม่เคยคิดจะเชื่ออีกต่อไป” หล่อนตอบเขาอย่างชัดเจนสะใจ..ดวงตาของกมลภพลุกวาบก่อนจะหรี่ลงใหม่
“ตามใจ...” เขาตัดบทด้วยจุมพิตหนัก ๆ
บนหน้าผากหล่อนก่อนจะเลื่อนลงมาตามแก้มนุ่มทั้งซ้ายและขวา
แล้วจบลงที่ริมฝีปากเต็มอิ่ม..บดเคล้าอย่างหนักหน่วงและดูดดื่มตามแบบฉบับของตนเอง
ไม่นาน..รวงแก้วก็ตัวอ่อน..เลิกแข็งขืน เพราะพ่ายแพ้..แก่อารมณ์โหยหาที่ซ่อนอยู่ล้ำลึก
หล่อนเองก็ต้องการเขามาตลอด..ทั้งหลัีบและตื่นเช่นกัน
ช่วงเวลาที่ต้องตระเวณออกมาตามลำพังนั้นหลายครั้งที่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เพราะฝันร้าย...กว่าจะข่มตาหลับต่อไปใหม่ก็แสนลำบาก
คืนนี้เป็นคืนแรกที่รวงแก้วได้หลับสนิทไปกับอกกว้างอบอุ่นอีกครั้ง...ท่ามกลางอารมณ์นั้น..ร่างระหงสะดุ้งตื่นอย่างหวาดผวาหลายครั้งหลายครา..แล้วก็หลับลงใหม่เมื่ออ้อมแขนแข็งแรงเอื้อมมาดึงเข้าไปกกกอดไว้แนบชิด...ฝ่ามือของเขาลูบไปทั่วเรือนผม..และศีรษะได้รูปอย่างอ่อนโยนพร้อมกับพึมพำเรียกขวัญให้อย่างอ่อนโยน..
“หลับซะคนดี...ฉันอยุ่นี่แล้วไม่ต้องกลัว”
ในฝันนั้น..รวงแก้วถอนสะอื้นครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเจ็บปวด..รวดร้าวจนสุดพรรณา
กมลภพถอดหล่อนไว้ในวงแขน..และพรมจุมพิตปลุกปลอบไปทั่วดวงหน้า...
“อย่าร้องไห้แก้ว..อย่าร้องไห้”
เสียงพึมพำปลุกปลอบ..พร้อมกับจุมพิตและอ้อมแขนอันอบอุ่นทำให้กระแสสะอื้นของหล่อนค่อย
ๆ ซาลง
ร่างบางนุ่มนิ่มเบียดเข้าหาเขาอย่างลืมตัว..ใบหน้านองน้ำตาเอ่ยข้นหาเขาอย่างเชิญชวน
ชายหนุ่มหรี่เปลือกตาลงมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย..โดยไม่คิดจะปฏิเสธหล่อนเลย...ริมฝีปากร้อนรุม..ทาบลงไปริมเรียวปากนุ่มหวานที่เผยอคอยอยู่แล้ว
ลำแขนแข็งแรงรวบหล่อนเข้ามากอดไว้แนบแน่น ขณะที่เลื่อนจุมพิตไต่ลงมาตามซอกคอระหง..
เขาอยากจะบอกอะไรหล่อนหลายต่อหลายอย่าง..อยากจะพูดพร่ำให้ตรงกับที่ใจรู้สึก..แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องกล้ำกลืน..เก็บงำเอาไว้ก่อน..
กมลภพก็มีความกลัวอยุ่เงียบ ๆ เหมือนก้นกลัวว่าหล่อนจะไม่รักเขา..ไม่ต้องการอยุ่ร่วมกับเขาจริงจัง..ทว่าความรักที่มีอยุ่ท่วมท้น..ทำให้เขาปรนเปรอหล่อนอย่างไม่คิดจะมอบให้ผู้หญิงคนไหน..และเรียกร้องกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน..
สมองของเขาครุ่นคิดไปมาอย่างเงียบเชียบ..เมื่อคลื่นพิศวาสเริ่มสงบตัวของมันลง..ฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปตามร่างเปล่าเปลือยที่ซุกเงียบแนบร่างสูงอย่างครุ่นคิด..เขาจะทำยังไงกับหล่อนดี..รวมทั้งกับพ่อหล่อนเจ้านายและชีวิตในอนาคต...จะหลบตำรวจหัวซุกหัวซุนไปตลอดชีวิตงั้นหรือ..พบหล่อนมั่งไม่พบมั่งรึไง....
ชีวิตครอบครัวลุ่ม ๆ ดอน ๆ
แบบนั้นกมลภพไม่ปรารถนาสักนิด...เขาต้องการมีหล่อนไว้แนบข้าง..เคียงคู่กันไปอย่างไม่มีวันแยก...
เขาปรารถนาที่จะพบหน้าหล่อนก่อนนอนทุกคืนและลืมตาตื่นขึ้นมาพบหล่อนทุกทิวา...กมลภพเอียงหน้าลงจุมพิต..หน้าผากนุ่มและเลื่อนฝ่ามือไปทั่วสะโพกเต็มตึงอย่างครุ่นคิด..เขาจะทำอย่างไรต่อไปดี..จึงจะฉุดชีวิตในอนาคตให้พ้นกรงเล็บของทั้งตำรวจและมิจฉาชีพได้สำเร็จ...
“แก้ว..แก้ว..ตื่นเถอะ” “ฮื้่อ..อย่ายุ่งนะ..ไปให้พ้น” หลอ่นไล่แล้วพลิกร่างหนี..ซุกหน้าลงกับหมอนเพื่อหลับต่อ
“ฉันจะไปข้างนอกนะ..มีธุระด่วน”
เขาบอกกับข้างหูหล่อน..คราวนี้รวงแก้วเบิกตากว้างลุกพรวดทันที “ไปไหนคะ..จะไปไหน..อย่าทิ้งฉันอีกนะคะ”
คำพูดประโยคสุดท้ายเล่นเอาชายหนุ่มชะงักงันก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอนรั้งหล่อนเข้าไปหา..รวงแก้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขา..มือกำผ้าห่มไว้แนบทรวงอก
“ไม่เคยคิดจะทิ้งเธอเลย”
เขาพึมพำแผ่วเบาหากหนักแน่นจริงจัง
“แต่ทิ้งมาแล้วล่ะค่ะ”
หล่อนยังคงยืนยันอย่างฝังใจไม่ลืม..ชายหนุ่มรั้งหล่อนเข้าไปกอดแล้วส่ายหน้า....
“ไม่จริง...ไม่ได้ทิ้ง..แต่พามาตอนนั้นไม่ได้เท่านั้น”
“อย่าพูดเรื่องเก่าเลย...ว่าแต่ตอนนี้คุณจะพาฉัีนไปด้วยได้ไหมคะ” “ไม่ได้” คำตอบของเขาทำให้หล่อนสะบัดร่างหนีแทบทันที
“นี่ไงล่ะคะ..ไม่เคยคิดจะทิ้งของคุณ”
“ปัทโธ่” เขาเขย่าร่างในมืออย่างฉุน ๆ
“คอยที่นี่..ฉันจะออกไปข้างนอกและจะกลับก่อนค่ำ
เธออยู่นี่ระวังตัวให้ดี..เพราะต้องมีพวกมันตามฉันอยุ่แน่..ถ้ามันระแคะระคายว่าเธออยู่ด้วยมันบุกเข้ามาเอาตัวไปจะลำบากรู้ไหม”
“แล้วคุณจะไปธุระไหนล่ะคะ” “บอกไม่ได้..ระวังตัวให้ดีแล้วกัน” เขาสั่งดุ ก่อนจะแนบริมฝีปากลงมาจุมพิตหล่อนหนัก ๆ
แล้วเดินออกไปจากห้อง..รวงแก้วนั่งนิ่งอยู่บนเตียงชั่วครู่ก็ก้มลงควานหาเสื้อกางเกงที่เขาเหวี่ยงไปคนละทิศละทางเมื่อคืนมาสวมกับตัว..แล้วเดินไปหอบเสื้อผ้าในห้องน้ำกลับไปห้องตนเอง..
“พวกมันอยู่ในนั้น”
คนของกมลภพชี้ให้เขาดูกระท่อมที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลา่งสวน
“นาคำรนกับคนสนิทและคนคุมอีกสาม”
“ห้าคน...รวมทั้งคนที่ห่าคนของเราด้วยหรือเปล่า” “ครับ...อยู่ในนั้น”
“ดี..งั้นล่อมันออกมา”
คนได้รับคำสั่งหันมามองหน้าเจ้านายอย่างไม่อยากเชื่อ
“เดี๋ยวนี้หรือครับ” “เดี๋ยวนี้” กมลภพปลดเซฟปืนเมื่อตอบรับคำ
ไม่นานลูกดอกพันปลายไม้ชุบเบนซินก็ถูกนำขึ้นสายธนูแล้วยิงตรงไปยังกระท่อมพุ่งจากพื้นทันที..ลูกที่หนึ่ง...ลูกที่สอง...ไม่นาน...ทั่วทั้งกระท่อมก้เต็มไปด้วยควันโขมง..คนข้างในแข่งกันวิ่งออกมาแทบไม่ทัน
กมลภพนั่งอยู่หน้าบ้าน..ยิงทันทีที่แน่ใจว่าไม่ใช่คำรนและเบน
คนทั้งหมดต่างพากันเดินตรงมายังลิฟท์เพื่อขึ้นไปบนห้องพัก
“แก้วสบายดีใช่ไหม” คำรนถาม เขาเป็นประโยคแรกนับตั้งแต่นั่งรถมาด้วยกัน..
“สบายดี” กมลภพตอบ
แล้วจุดยิ้มขึ้นที่มุมปากเมื่อนึกถึงความน่ารักของหล่อนเมื่อคืน
รวงแก้วมีอิทฺธิพลต่อเขามากขึ้นทุกที..ทุกเวลาและสถานที่ หล่อนให้ความสุขแก่เขาอย่างมากมาย..เกินคาด แม้จะต้องบังคับกันในตอนแรก
กมลภพรู้ว่านี่คือผลที่เขาบังคับใจหล่อน..แต่จะทำไงได้ล่ะ..จะให้เขานอนอยู่คนเดียวทั้งคืนทั้ง
ๆ ที่รู้ว่าหล่อนอยู่ใกล้แค่เอื้อมงั้นหรือ
ชายหนุ่มต้องใช้ยุทธวิธีที่มีทั้งหมดตีป้อมปราการน้ำแข็งนั่นจนหลอมละลายแล้วเผาเสียด้วยฤทธิ์พิศวาส...ผลก็คือความปลื้มเปรม..เต็มสุขอย่างคาดไม่ถึง
เขาอยากรู้ว่าวันนี้หล่อนอยู่คนเดียวเกือบทั้งวันและทำอะไรมั่ง เบน
ชำเลืองมองคนที่ยิ้มคนเดียวก็ได้แล้วต้องถอนใจยาวอย่างไม่อยากเชื่อ
คำรนจะเห็นและเข้าใจเช่นเดียวกับเขาหรือเปล่าหนอ
คนตัวเตี้ยหันไปมองเจ้านาย..เห็นคำรนก็ละสายตามาจากอีกฝ่ายอย่างสงสัยเหมือนกัน
คนทั้งหมดเดินออกจากลิฟท์ตรงไปยังห้องพักของกมลภพ ชายหนุ่มไขกุญแจเปิดเข้าไปแล้วชะงักงัน
เมื่อเห็นห้องถูกรื้อกระจุย..มันหาอะไรเขาไม่สนใจ..สนใจแต่ว่ารวงแก้วอยู่ไหนร่างสูงเผ่นพรวดออกไปยังห้องด้านข้าง...ห้องหนึ่งไม่ขยับตามเคย..แต่อีกห้องประตูถูกเปิดทิ้งเอาไว้โดยไม่ได้ล็อค..
ภายในห้องกระจุยเช่นเดียวกับห้องของเขาแสดงถึงการดิ้นรนหรือวิ่งหนี
กมลภพเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วหยุดนิ่งเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่หล่อนตากไว้เมื่อคืนแขวนอยู่รอบ....มันเอาตัวหล่อนไปทั้งชุดนอนนั่นเอง..เอาไปที่ไหน..หัวใจของเขาราวจะระเบิดเสียบัดนั้น
“เฮ้ย..คนนี้ใช่ไหมที่เขาว่า
“คุณมล” หวงนัก” คน ๆ หนึ่งถาม..อีกคนก็พยักหน้ารับ
“เออใี่ช่” “สวยนี่หว่า..ขนาดผมกุดจนไม่เป้นทรงอย่างนี้ยังรู้ว่าสวย”
คนพูดยกมือขึ้นทำท่าจะเชยคางหญิงสาวซึ่งนั่งนิ่งอยู่ตรงกลาง...หากแต่อีกคนหนึ่งส่งเสียงห้าม
“มึงอยากตายหรือไง..วะ” “ไอ้หะ...นายสั่งให้มาเอาตัวไปโดยเรียบร้อยนะมึง”
“ฮื้อ..ก็นิดเดียว” “เดี๋ยวแม่ไปฟ้องได้โดนลูกตะกั่วยัดปากเข้าหรอก”
“ปัทโธ่..มันก็เหลือเดนนายมลมาแล้วล่ะน่า” “แต่ก็ยังมีค่าอยู่นะโว้ย..อย่าเสี่ยง”
“ขอจูบทีไม่ได้รึวะ..นายไม่ว่าหรอก” “ไม่ว่าแต่
“นาย” จะฆ่าเอ็งแน่”
“ทุกทีไม่เคยเห็นหวงคนไหน..แต่มาคนนี้ทำท่าหวงยังกะไข่ในหินเลยถ้าจะมีอะไรนะนี่”
มันพูดพลางเอื้อมมือมาทำท่าจะลูบขาหล่อนหากรวงแก้วหลงเสียทันทีพร้อมกับหันไปมองมันอย่างเอาเรื่อง
“ตาคมยังกะมีดโกน..ดุเอาเรื่องเชียวนะนี่” “มึงหยุดทีได้ไหม..กูรำคาญ” คนขับรถเตือนมา..
“มึงขับไปเหอะน่า..กูจะหาฟามสุข”
“ความสุขของมึงเสี่ยงกับลูกปืนเหลือเกินนี่หว่า..ผู้หญิงถมเถมึงอย่างพึ่งยุ่งกับของเจ้านายเลย..จะพากันเดือดร้อนไปหมด” “ช่างกู...” เจ้านั่นดูจะไม่ยอมฟังเพื่อนซะเลยกลับกระแซะเข้าไปจนใกล้รวงแก้ว
สาวน้อยนั่งตัวแข็ง..รู้สึกขยะแขยงรังเกียจจนบอกไม่ถูก..หล่อนสำนึกได้แล้วว่า
ทำไมจึงทนได้เมื่อถูกกมลภพกระทำการเกือบเช่นเดียวกัน
หล่อนยอมให้เขากอดจูบลูบคลำได้สารพัดโดยไม่รังเกียจ เพราะรักเขาเต็มหัวใจนั่นเอง
ผิดกับขณะนี้..และเดี๋ยวนี้..ที่รวงแก้วคลื่นไส้จนอยากอ้วก..และอยากกระทืบไอ้คนไม่รู้ว่าอะไรของใครให้จมแผ่นดินไปซะจริง
ๆ แต่มันไม่ทันได้ทำอะไรปืนกระบอกหนึ่งก็จ่อมาที่ขมับซะก่อน
“เฮ้ย..เล่นบ้า
ๆ “ มันเอ็ดเพื่อน
“ไม่บ้าล่ะ..กูไม่อยากถูกเหมาะไปกับมึงด้วย..ถอยไป”
“เฮ้ย..ขี้ขลาดไปได้..ไม่กล้าบอกหรอกน่ากลัวถูกทิ้ง”
“มึงอย่าซ่า..บอกให้ถอย” คนถือปืนเอื้อมมือปลดเซฟอย่างเอาจริง
เจ้านั่นเลยต้องถอยห่างออกไปบ่นอุบอิบ
“เราต้องการสิบเปอร์เซ็นต์นั่นเท่านั้น..ไม่ได้ต้องการผู้หญิงเพื่อให้ถูกฆ่าตายเหมือนหมากลางถนน”
เจ้าของปืนย้ำมาอีกครั้งอย่างชัดเจน..และรู้คิดก่อนจะชำเลืองมองไปยังหญิงสาวที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้าง
ๆ แล้วเมินหน้าออกไปนอกรถ
รถเก๋งคันนั้นพาตัวมันเองแล่นไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว
โดยมีรถอีกคันแล่นตามไปบนเส้นทางเดียวกัน..
สายของเขาในโรงแรมรายงานให้รู้ว่ารางแก้วไปกับใคร..รถเบอร์อะไรตรงไปที่ไหน..เส้นทางนั้น..และรถชนิดนั้น..ใช้กันมากในพวกของนาย
กมลภพจึงเอาได้ไม่ยาก...และกวดออกตามทันที
ตลอดทางคำรนนั่งมองหน้ากับเบนอย่าครุ่นคิด..สิ่งที่เขาคำนึงเกี่ยวกับกมลภพและรวงแก้วผิดพลาดไปมากนัก..ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยที่คุมพวงมาลัยรถหน้าเครียดอยู่ใกล้
ๆ ทำสีหน้าเหมือนถูกควักดวงใจ เมื่อรู้ว่าลูกสาวของเขาหาย
กมลภพแทบหมดความสนใจคำรนเสียด้วยซ้ำ เมื่ออกตามรวงแก้ว
ถ้าอ่านด้วยสายตาคนผ่านโลกมานานไม่ผิด..คำรนต้องยอมรับกับตัวเองว่า..รวงแก้วมีความหมายกับกมลภพเกินกว่าใครจะคาดคิด
คิ้วเข้มของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันแล้วก็คลาดยออกหลายต่อหลายครั้ง
ดวงตาของเขากวาดไปบนเลยทะเบียนรถที่ผ่านไปบนถนนอย่างไม่ยอมให้คลายสายตา
แม้แต่คันเดียว....ความเร็วที่กมลภพเร่งวื้ด ๆ ขึ้นไป..น่ากลัวแทบทุกครั้ง
“ใจเย็นไว้คุณมล..ถ้าเขาต้องการของคืนจริง
ๆ เขาต้องไม่ทำอะไรยายแก้ว”
คำรนปลอบใจ “ไม่แน่หรอกคำรน..ผมเองก็ต้องการของคืน..แต่ผมก็อยาได้เธอและได้ดังใจด้วย” เขากล่าวแก้มาตรง ๆ อย่างไม่กลัวจะกระทบใจของผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย
“ว่าแต่คุณ..จะบอกเราได้รึยังว่าของอยู่ไหน”
คำรนนิ่งอึ้ง..อยู่นาน..กว่าจะพูดออกมาว่า
“ผมขายไปแล้ว..ให้กับคนที่คุณต้องการขายนั่นล่ะ
แต่ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง” คำตอบของเขาเล่นเอารถที่กำลังแล่น ๆ
อยู่แทบจะแฉลบเข้าไปชนกับรถที่สวนมาหาหากหลบไม่ทัน
กมลภพเงียบไปนาน..นานจนคนที่ร่วมโดยสารมาด้วยต้องขยับตัวอย่างอึดอัด..
“คุณทำให้แก้วลำบากซะแล้ว”
เขาพูดพลางขมวดคิ้วมุ่น..ดวงตาครุ่นคิดหาทางออกอย่างไม่สบายใจ
“รู้ไหมว่าของอยู่ไหน” “เขาจะทำการขนส่งในไม่ช้านี้”
“ผมถามว่าอยู่ที่ไหน” คำรนนิ่ง..นาน “ให้ผมเจอลูกก่อน”
“บอกเสียตอนนี้..นายจะไ้ด้ส่งคนไประงับการเคลื่อนย้ายได้ทัน..แต่ถ้าช้ากว่านี้.ไม่ว่าใครก็ไม่รอด”
กมลภพพูดเสียงหนัก ๆ และถามต่อไปว่า
“ชีวิตแก้วไม่มีความหมายกับคุณเท่่าไหร่เลยใช่ไหม”
คำรนเงียบ..ก่อนจะปรายตาไปยังคนที่กำลังขับรถ
“คุณจะปล่อยให้เขาฆ่าเมียตัวเองรึ” คำถามอันนั้นทำให้เปลือกตาของคนฟังหรี่ลงจนไม่เห็นแววตา
“ผมช่วยอะไรได้ไม่มากอย่างที่คุณคิดนะ..ไม่งั้นคงไม่ถูกบังคับให้ออกมาจากหุบเขาทั้ง
ๆ
ที่คนของตัวเองมีมากกว่าไม่ใช่รึ..อย่าฉลาดเกินไปเลยคำรน..คุณจะเอาแก้วมาโยนให้ผมรับผิดชอบ..แล้วเชิดของลอยนวลไปพร้อมกับเงินน่ะค่อนข้างยาก”
“ไหนคุณว่ารับผิดชอบแกไงล่ะ”
“ผมต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองด้วย” กมลภพศอกกลับทันที
“ผมยังทำงานกับเขา...อยู่ภายในอิทธิพลเขา..ถึงจะมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าคนอื่น..เขาก็ยังถูกควบคุมอยู่..คืนให้เขาไปเหอะคำรนคืนไปให้หมด..เพื่อตัวคุณและรวงแก้ว”
“ผมก็หมดตัว” “มันไม่ใช่ของคุณ”
“ถ้าฝ่ายบ้านเมืองรู้” “คุณจะทำให้เรื่องมันยุ่งยิ่งขึ้น”
“คุณไม่คิดว่าเขาจะรู้ระแคะระคายบ้างรึ” “ให้เขาซัดกับ
“นาย” ดีกว่าซัดกับเรา” กมลภพอธิบายต่อ..คำรนขมวดคิ้ว..มองเขาอย่างพยายามอ่านให้ออก
“คุณจะแยกกับนายรึ” “ถ้าเรื่องยุติ”
“เขาจะยอม” “ต้องยอม..เรามีสัญญากันมานานแล้ว” กมลภพพูดพลางระลึกถึงวันที่ผู้เป็น “นาย” ย่างก้าวเข้ามาในบ้านหลังจากแม่ตาย
“ไปอยู่กับฉันเถอะ”..นายชวน
“แม่บอกว่าคุณเป็นคนนอกกฏหมาย” เด็กชายวัยสิบสองพูดออกไปตรง ๆ
เล่นเอาคนที่มาชวนนิ่งเงียบไปนาน..
“ฉัน...เพียงแต่อยากดูแลเธอแทนแม่และอยากสอนเธอให้เผชิญโลกกว้างหลาย
ๆ ด้าน”
“ผมไม่อยากเป็นแบบคุณ” “แม่เธอไม่เห้นฉันดีเลยรึไง” “นาย”
ถามด้วยดวงตาหมองมัว..กมลภพส่ายหน้า
“แม่ว่าไม่อยากสมาคมกับพวกคุณ” “แต่แม่เธอกับฉัน..ก็เอ้อ..เป็นเพื่อนกัน”
เด็กชายยังนั่งนิ่งมองดูหลุมศพของแม่เฉย..เขาไม่ให้ใครเผา..ไม่อยากทนนั่งดูแม่ถูกเผา
“ไปกับฉันเถอะมล..ฉันสัญญาว่าจะไม่บังคับให้เธอทำสิ่งที่เธอไม่ชอบ..เมื่อเธอโตขึ้นตั้งหลักได้..เธอมีสิทธิ์ที่จะไปไหนหรือทำอะไรก็ได้”
“คุณสัญญานะ” “ฉันสัญญา”
รถคันนั้นยังแล่นลิ่ว ๆ ไปยังจุดหมายปลายทาง คำรนก็ยังไม่ยอมพูดอยู่ดี...
บ้านหลังนั้นสร้างไว้อย่างแข็งแรงในสวนยางร่มครื้ม..ตกแต่งอย่างสวยงามน่าอยู่ทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ
รวงแก้วถูกนำตัวเข้าไปขังไว้ในห้องเพียงลำพัง
หล่อนมองเห็นเด็กหญิงผอมเกร็ง..ผิวสีดำสนิทมาเกาะลูกกรงหน้าต่างมองดูอย่างสนใจ
ครู่ต่อมาเขาก็นำเสื้อผ้ามาให้หล่อนเปลี่ยนครบชุดทั้งกางเกงและเสื้อรวมทั้งซับในอย่างดี..มองดูก็รู้ว่ามีราคา..รวงแก้วแทบไม่อยากเชื่อว่าคนเหล่านี้จะเลือกของให้ผู้หญิงเป็น..
“ขอเสื้อผ้าที่คุณแก้วสวมคืนให้เราด้วยนะครับ” “ชุดนี้นะหรือ”
หล่อนชี้ไปที่ชุดนอนรุงรังของกมลภพที่กำลังสวมอยู่..คนที่เข้ามาพยักหน้ารับ
“งั้น..รอสักครู่”
รวงแก้วเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า..พอออกมาก็เห็นเด็กหญิงที่แอบมองอยุ่เมื่อกี้ถือถาดอาหารเดินเข้ามา
หล่อนยิ้มให้...เด็กก็ิยิ้มตอบ..เดินมารับเสื้อผ้าหญิงสาวในมือแล้ววิ่งออกนอกห้องไป
หญิงสาวนั่งลง...มองดูอาหารและนึกถึงกมลภพ..เขารู้บ้างหรือเปล่าว่าหล่อนถูกลักพามาเสียแล้ว..และคราวนี้มาอยุ่ทีไหน..รวงแก้วก็ไม่รู้..เมื่อคนที่ช่วยกันไปเอาตัวหล่อนหอบถุงเสื้อผ้าใส่มอเตอร์ไซร์ไปเจ้าคนเดิมที่คอยโอกาสได้ชิมผู้หญิงของเจ้านายก็เริ่มลุกขึ้นเมียงมองใหม่
“นั่งลง” คนหนึ่งเตือน..ขณะที่อีกคนเฉย..
“ฉันจะเข้าไปดูหล่อนสักหน่อย”
“ไม่ต้อง...นายสั่งมาแค่ไหนก็ทำแค่นั้นพอ”
“พวกแกทำไมโง่นักวะ...ผู้หญิงสวย
ๆ แบบนั้นหาได้ง่าย ๆ ที่ไหน..ทั้งชาติก็ไม่เจอนะโว้ย”
คนฟังยังคงนิ่งเฉย..ชายตามองคนที่เดินงุ่นง่านไปมาอย่างรำคาญ
“ถ้าอยากได้ผู้หญิงนัก..ก็ไปหาสักคนไป..มอเตอร์ไซค์ยังว่างอีกคัน”
“แกอย่ามาฉลาดกว่าเลย..ไล่ฉันไปเื่พื่อจะได้เคลมกันเองใช่ไหมล่ะ”
ไม่น่าเชื่อว่าคนทั้งสามสี่คนที่จะเป้นเพื่อร่วมงานกันไปได้
“นั่งลงเหอะน่า..แล้วคอยฟังคำสั่งต่อไป..ข้อสำคัญอย่ายุ่งกับเธอ”
คนที่นั่งอิงเสาย้ำพร้อมทั้งกดก้นบุหรี่ลงกับเสาบ้านก่อนจะเลื่อนมือไปตามอาวุธที่ซอกรักแร้
กมลภพหยุดรถที่จุดติดต่อ..อ่านข่าวที่ส่งตอบมาแล้วเผาทิ้งเสียตรงนั้น
“นายอยู่ใกล้
ๆ นี่เอง”
เขาบอกคำรนเมื่อเดินมาขึ้นรถ
“แล้วยายแก้ว” “ถูกขังเอาไว้”
กมลภพตอบสั้น ๆ แล้วสตาร์ทรถออกพุ่งตรงไปยังที่ ๆ “นาย” ได้เคลื่อนย้ายเข้ามาอยู่
ตึกเก่า ๆ
หลังหนึ่ง....กลางทุ่งนาเวิ้งว้างคือ ที่ ๆ เขาพาคำรนและเบนเข้าไป
กมลภพถูกตามเข้าไปพบนายในห้องส่วนตัว..
“แกฆ่าคนของโกษาทำไม” นายถามเสียงเรียบ
“มันฆ่าคนของผม” กมลภพตอบสั้น ๆ
“ผู้หญิงคนนั้นอยู่กับแกใช่ไหม” “คำรนเข้าใจว่าอยู่กับนาย” คำตอบของกมลภพทำให้นายงันไปหลายอึดใจ
“ไม่ได้อยู่กับฉัน....มันหนีไปแล้วและโกษาก็ไม่ได้เอาไปมีคนตามไปเหยียบมันซ้ำถึงโรงพยาบาล”
กมลภพเฉย..หลุบเปลือกตาลงมองมือตนเองบนเท้าแขน นายมองเขาอย่างรู้ทัน..ก่อนจะส่ายหน้า
“แค่ผู้หญิงคนเดียว..แกจะฆ่ามันให้ได้รึไง”
“นายเคยมีเมียไหม..เมียจริง
ๆ ที่คิดอยากจะมีลูกด้วยน่ะ”
กมลภพย้อนถาม..เล่นเอาคนถูกถามนิ่งงันไปหลายอึดใจ
“ถ้าใครคิดจะทำอย่างนั้นกับเมียนาย..นายคิดจะนั่งอยู่เฉย
ๆ รึ”
“ก็ปกติแกไม่เคยหวง” “ก็ประกาศออกไปแล้วนี่นา..ต้องเชื่อและก็เคารพกันบ้าง” คำตอบของกมลภพทำให้นายหรี่ตามองนิ่งและนาน
“คำรนยอมบอกที่ซ่อนของไหม” กมลภพส่ายหน้า
“ไม่ยอมบอก..ต้องการพบลูกสาวอย่างเดียว” “ทำให้มันบอก..ไม่งั้นก็..ฆ่าซะ”
“ทิ้งเงินสี่สิบล้านงั้นเหรอ” “หรือไม่ก็หาตัวผู้หญิงคนนั้นให้เจอ..แล้วเอาตัวมาให้ได้..มันไปไม่ได้ไกลหรอกน่า”
กมลภพลุกขึ้นอย่างเข้าใจหน้าที่แล้วเดินออกจากห้องนั้น
คำรนเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้องที่เขาและเบนถูกควบคุมตัวอยู่
“ของอยู่ไหน” กมลภพถามสั้น ๆ คำรนส่ายหน้า..
“ในเมื่อขายไปแล้วได้เงินแล้ว..ก็ไม่น่ามีปัญหานี่” คำรนยังเฉย
“มันยังไม่ได้จ่ายเงิน..และคุณก็ยังไม่ได้ขายของใช่ไหมล่ะ” อีกฝ่ายพูดออกมาอย่างรู้ทัน
“ยายแ้ก้ว” คำรนถามสั้นมากและกมลภพก็เข้าใจ
“นายยังไม่ให้พบจนกว่าจะพบของก่อน” “งั้นก็ไม่มีทาง”
“คุณไม่เชื่อว่าแก้วอยู่กับนายใช่ไหม” “ไม่เชื่อ”
“คุณเห็นเสื้่อผ้าของแก้วในห้องที่โรงแรมใช่ไหม”
กมลภพขยับเข้ามาใกล้แล้วถามเพียงแค่ได้ยิน..คนที่คุมเชิงในห้องเป็นคนของเขาทั้งสิ้น คำรนพยักหน้า..
“เธอใส่เสื้อนอนของผมอยู่ตอนที่หายไป” กมลภพพูดต่อ..และคำรนยังคงเฉย
ผู้อ่อนวัยกว่าก็เฉย..ก่อนจะหันไปมองหน้าเบนซึี่่งจ้องหน้าเขาเขม็ง
ชั่วครู่..ร่างสูงก็เดินออกไปจากห้องเกือบสิบนาทีแล้วกลับมาใหม่
...วางกางเกงและเสื้อยับยู้ยี่..เหมือนถูกกระชากออกจากร่างของผู้สวมวางลงบนโต๊ะตรงหน้าคำรน
เขาจ้องเสื้อชุดนั้นเขม็ง..ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงมันมาดูจนใกล้ ค่อย ๆ
คลี่ออก กมลภพเดินเข้าไปใกล้..แล้วจับเสื้อตัวนั้นทิ่มไปที่จมูกของคำรน
กลิ่นอายของเนื้อผู้หญิงกรุ่นอยู่กับเสื้อตัวนั้น
คำรนสะบัดหน้าหนี..มองกมลภพตาลุกวาบ..ก่อนจะถลาขึ้นมาหมายจะขยี้เขาให้แหลกคามือ
แต่ถูสกัดด้วยปืนที่จ่อเข้ามาที่ขมับ
“แกปล่อยให้พวกมันทำอย่างนั้นกับรวงแก้วยังไง” “ของอยู่ไหน”
กมลภพดูจะไม่สนใจอะไรมากกว่านั้น..ดวงตาของเบนหรี่ลงแวววาวพร้อมกับกำมือเข้าหากันแน่น
คำรนปัดเสื้อผ้าชุดนั้นกระเด็นไปพ้นโต๊ะ
“ฉันไม่เชื่อ..ไม่มีทาง”
กมลภพยังคงเฉย..ก่อนจะเดินไปเก็บมันขึ้นมาโยนกลับไปบนโต๊ะแล้วถามคำรนด้วยเสียงราบเรียบว่า
“อะไรในตัวของแก้วที่คุณอยากดูเพื่อเป็นการยืนยัน”
คำรนตัวแข็ง..เมื่อได้ยินคำถามนั้น
“เดี๋ยว..เขาคงไม่ให้เราทำอะไรกับเธอนะ”
เขาถามเสียงเครียด..ดวงตาเดต็มไปด้วยความแน่ใจ..รู้สึกเจ็บปวดที่ถูกหลอกเข้ามาให้เขาบีบถึงที่
“ฉันต้องการเห็นเธอ” คำรนยื่นข้อแม้ใหม่ “คุณจะได้เห็น..ส่วนที่เป็นของเธอ”
กมลภพพยักหน้าให้ลูกน้องคนหนึ่งออกไป
“แกทำอย่างนี้ได้ยังไง” เบนพึมพำถามอย่างโกรธแค้น
“ในขณะที่คุณเสียดายเงินและของ..ผมต้องป้องกันชีวิตของเธอ..ผมอาจยอมเสียทุกอย่างเพื่อถนอมชีวิตแก้วไว้..ส่วนจะต้องเสียอะไรบ้างคุณคือผู้ตัดสิน” กมลภพพูดช้า ๆ
และชัดเจนดังเข้าไปจนถึงหัวใจของคนฟัง
ปอยผมยามที่ถูกนำมาวางลงตรงหน้าทำให้ทั้งเบนและคำรนมือสั่น
ทั้งสองหันมามองหน้ากัน..ไม่มีการพูด
เขามองมันเหมือนจะเห็นหน้ารวงแก้วอยู่ในพวงผมนั้น...กมลภพหรี่เปลือกตาลง..มองเลยออกไปนอกหน้าต่างที่กรุลูกกรงแน่นหนา
“อะไรอีกที่คุณต้องการ..ส่วนไหน” เขาถามเสียงเรียบ
เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่สูญเสีย
“ไม่ต้องแล้ว..ไม่ต้อง” คำรนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ขณะที่เอื้อมมือมากำพวงผมนั้นไว้แน่น
“แกสัญญาได้ไหมว่าจะปล่อยรวงแก้วไป” “สัญญา”
“ปล่อยเธอไปจากมือโสโครกของแก” เบนย้ำมาอีก..กมลภพนิ่งอยู่นานกว่าจะตอบได้ว่า
“้ถ้าเธอต้องการ” “ลูกฉันต้องการแน่”
คำรนย้ำอย่างมั่นใจก่อนจะพูดออกมาเบา ๆ ว่า
“ที่กระท่อม..ริมชายทะเลฝั่งตะวันตกใกล้
ๆ ท่าเรือ” เขาไม่เห็ว่ากมลภพลอบถอนใจยาว
เพราะชายหนุ่มหันหลังเดินออกมาจากห้องเสียทันที
ดวงตาของ..นาย..ไหววาบอย่างพอใจในคำตอบ
“ไปด้วยกัน..ฉัีนอยากเห็นของ” “ผมไม่ค่อยแน่ใจ..ไม่รู้มันเล่นตลบหลังอะไรหรือเปล่า”
“มันรู้ไหมล่ะว่าเราไม่มีตัวผู้หญิง” “ไม่รู้”
“ถ้างั้นไม่มีปัญหาให้ใครดูเอาไว้แล้วเราไปค้นของกัน”
บริเวณนั้น..เงียบกริบ..ไม่มีผู้คน..ไม่มีใคร..จนไม่น่าจะใช่ที่เก็บของ “นาย”
มองดูคนเฝ้าสองสามคนจากล้องส่องทางไกล..แล้วพยักหน้า
“ไปเถอะ”
คนทั้งหมดต่างตรงไปยังที่นั้นพร้อมอาวุธครบมือ..ยามที่หันมาเห็น..ถูกเก็บอย่างง่ายดาย..อีกสองสามคนวางอาวุธแต่โดยดี..กมลภพพานายตรงเข้าไปยังลังเก็บของ..เขาใช้แชลงที่วางอยู่ใกล้
ๆ งัดฝาให้เปิดออก..สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้คนทั้งหมดถอนใจอย่างสมหวัง
“ดีมากมล..แกทำงานดีจริง
ๆ ไอ้ลูกชาย..ฉันไม่ผิดหวังในตัวแกเลย” “นาย” ตบไหล่เขา..แล้วหลุดออกมาอย่างลืมตัว
กมลภพยืนนิ่ง..มอง “นาย”
ด้วยสายตาชนิดหนึ่งที่ไม่มีใครอ่านออก..
“ผมไม่มีพ่อ..แต่ผมก็ต้องการสิบเปอร์เซ็นต์กับชีวิตใหม่” “ชีวิตใหม่” “นาย” พึมพำพลางขมวดคิ้ว
“หมายความว่าไง” “ผมจะไปนอก..ไปตั้งตัวที่โน่น”
“ไปนอก” นายเลิกคิ้ว..ทำท่าไม่อยากเชื่อ
“ตั้งตัว” และถามต่อเสียงสูง “เงินแค่นั้นพอที่ไหน”
“เกินพอ” เขาตอบสั้น ๆ
“อย่าโง่น่า..เรายังสามารถหาได้มากกว่านั้นอีก” “ผมไม่ต้องการ” เขาตอบก่อนจะผละเดินหนีไปเงียบ ๆ
“นาย” มองตามอย่างลังเล..ทั้ง ๆ
ที่ควรดีใจที่ได้ของกลับมา
ร่างสูงใหญ่และหนาตามอายุที่ผ่านไปเดินตามร่างสูงเปรียวที่เดินเอามือซุกกระเป๋าออกไปนอกโรงเก็บของนั่น ลูกน้องที่มาด้วยทำการตรวจสอบอาวุธทุกชิ้นในลังอย่างละเอียดอย่างรู้หน้าที่
“อะไรทำให้แกอยากแยกตัว”
ตอนที่
8
“นาย” ถามแต่กมลภพไม่คิดจะตอบ...เขายังเดินเรื่อย ๆ ตรงไปที่รถ
“แกจะทิ้งฉันจริง
ๆ รึไงนาย “มล” กมลภพหยุดหันมามอง “นาย” ด้วยดวงตาเฉยเมย
“ก็ นาย
เคยพูดไม่ใช่หรือว่า...สักวันผมจะไปได้” “แต่มันเร็วเกินไป”
“สิบแปดปีน่ะไม่เร็วหรอกนาย...จนสายเกินไปก็ว่าได้”
“แกทิ้งฉันได้ลงคอจริง
ๆ หรือ...แกทิ้งพ่อได้จริง ๆ หรือ”
คำถามสุดท้ายทำใ้ห้กมลภพกระพริบตาถี่ ๆ
หันมามองคนพูดอย่างตกใจและไม่อยากเชื่อหู..... “นาย” หยุดยืนนิ่ง...ไม่ไหวติง...ขณะที่สบตากับลูกชาย
ภาพของนายที่เดินเข้ามาในบ้าน..ความเฉยเมยของมารดา...การพูดจา...และน้ำตาที่หยาดหยดลงมาตามร่องแก้มของมารดาเมื่อเขาจากไปทำให้กมลภพละล้าละลัง....
“ทำไม”...เขาถาม “ทำไมไม่มีใครบอกผม...แม่”
“เขาเกลียดพ่อ” “นาย” อธิบายสั้น ๆ
“พ่อได้ตัวเขามาอย่างไม่ค่อยถูกต้องนัก...เอามาขังเอาไว้..แยกเขาจากพี่น้อง..แล้วก็ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว” กมลภพมองบุรุษตรงหน้านิ่งนาน
เขานึกถึงชีวิตยามเด็กของตนเองที่ว้าเหว่และเงียบเหงา....แม่ไม่ใช่คนช่างพูด...มักจะช่างคิดเสียเป็นส่วนใหญ่...แม่บอกกมลภพว่า..
“นาย” คือ “คนรู้จัก” สั้น ๆ และไม่ใ้ห้รายละเอียดใด ๆ อีก
ชีวิตของเขากับแม่ผ่านไปง่าย ๆ ในแต่ละวัน...มีอาหาร..มีเงินใช้มีการศึกษา..แต่ไม่มีความรักและความอบอุ่น
เขาหรี่ดวงตามองผู้ชายเบื้องหน้าอย่างพินิจกว่าเดิม
ผู้ชายที่ให้กำเนิด..แต่ไม่เคยให้ความรัก
เขาไม่เพียงแต่ทำร้ายจิตใจของแม่..แต่ได้ทำลายชีวิตของกมลภพเสียด้วยอย่างยับเยิน
ชายหนุ่มหันหน้าจากภาพของผู้เป็นพ่อ...แล้วตรงไปที่รถอย่างไม่คิดจะหันกลับมามองอีก
แต่เสียงเครื่องเรือเร็วที่เลี้ยวหวือมาจากหลังก้อนหิน..ทั้งซ้ายและขวาทำให้กมลภพชะงักหันมาเขม้นมอง...
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ...เราล้อมไว้ทุกด้านแล้ว..วางอาวุธและยอมให้จับโดยดี”
เสียงที่ดังมาจากอีกด้านทำให้กมลภพหันกลับมาอย่างตกใจ
“หนี..เร็วเข้า”
เขาสั่งให้นายขึ้นรถทันที..แต่นายถอยหลังกรูด..
“ไม่มีทาง....ของ
ๆ ฉันทั้งนั้น..ฉันลงทุนตามมันมาเป็นแรมเดือน..ไม่มีทาง”
“นาย” หันหลังวิ่งตรงไปยังกระท่อม
“พ่อ”
กมลภพตะโกนเรียกเสียงลั่น..ก่อนจะก้มลงหลบลูกกระสุนปืนที่กราดตามหลังบิดาไปอย่างรวดเร็ว
การโต้ตอบอย่างรุนแรงพอกันดังออกจากกระท่อมหลังนั้น
กมลภพกำประตูแน่นก่อนจะวิ่งตามกลับไป..แต่ไม่ทันถึงสองก้าวกระสุนที่ตามหลังมาชุดที่สองที่พุ่งเข้าหาเขา
ร่างเปรียวล้มลงไปคลุกกับพื้นทรายเลือดแดงฉาน...ขณะที่ประทีปวิ่งสวนออกมาประคองร่างเจ้านายเอาไว้...ลากกลับไปที่รถอย่างรวดเร็ว
ตำรวจประคบเข้ามาทุกด้าน..อย่างไม่มีทางรอด
เพราะอยู่ในที่โล่งกว้าง...ประทีปลากร่างไม่ได้สติขึ้นรถ...และสตาร์ทเครื่อง
กระสุนปืนปลิวเฉียดหูและกระจกรถไปดังเฟี้ยวฟ้าว...หูช้างแตกกระจาย
เขาเข้าเกียร์และเหยียบคันเร่งพารถกระโจนไปข้างหน้าอย่างไม่แคร์ว่าจะต้องพบกับอะไรอีกบ้างและจะรอดหรือไม่
ข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ายึดอาวุธสงครามกระจายออกไปราวกับไฟไหม้ป่า คนของเขาที่เฝ้าคำรนและเบนอยู่ก็รวนไปหมด..และผลสุดท้ายก็ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบี้องหลังหลบเข้าหาที่ปลอดภัย...
เบนคว้าคนที่ใกล้ที่สุดไว้ด้วยมือเปล่าร่วมกับคำรน
เขาใช้ปืนที่ยึดได้จ่อไปที่ขมับของมัน
“ลูกฉันอยู่ไหน” “ไม่รู้..ผมไม่รู้”
“แล้วผมนี่ล่ะ...แกไปตัดมาจากไหน”
“นายมลเอาออกมาจากในห้องคุณแก้วไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกเธอหนีไปตั้งนานแล้ว”
“แก้วหนีไปแล้ว” คำรนรำพึงอย่างไม่อยากเชื่อ “หนีไปไหน”
“ไม่มีใครรู้ไม่มีใครรู้อะไรทั้งนั้น..รู้แต่เพียงว่านายมลซ้อนกลหลอกให้เชลยพูดเท่านั้นล่ะ..ไม่มีตัวประกันที่ไหนทั้งนั้น”
คำรนหันมาสบตากับเบนอย่างไม่เข้าใจ
“ไปเถอะน่า...ตำรวจคงบุกมาถึงในไม่ช้านี่ล่ะถ้าจับนายมลได้ล่ะก็”
คำรนปล่อยมือที่รั้งคอเสื้อมันเอาไว้..แล้ลดปืนลงอย่างงุนงง...
“ไม่มียายแก้วที่นี่หรอกหรือ...ไม่มีใครเลย...มันหลอกเราทั้งนั้นเลยรึนี่” คำรนพึมพำอย่างโกรธแค้น
“แล้วนี่ลูกฉันอยู่ที่ไหน..ยายแก้วอยู่ที่ไหนกัน..หนีไปไหน..ใครเอาไปไว้ไหน” เบนเม้มปากทำสีหน้าครุ่นคิด..
“เราโดนหลอกมาตั้งแต่ต้นแล้ว.....นายมลฆ่าคนของโกษา...แล้วทำทีเป็นพาเราไปพบคุณแก้ว..ให้เข้าใจว่าถูกลักตัว..แต่ความจริงล่ะ” เบนพึมพำอย่างพร้อมกับหันมามองคำรนด้วยสายตาคำถาม คำรนมองหน้าเพื่อนคู่ยากแล้วกระพริบตาปริบ ๆ
อย่างคิดไม่ออก...หมดปัญญา..หมดแรง..หมดหวัง
หมอ....ถูกบังคับให้ผ่าเอากระสุนฝังในคนไข้ออกและถูกกำชับอย่างดีว่า
“อย่าบอกตำรวจนะหมอ..ไม่งั้นเราจะกลับมาพังร้านของหมอซะ” ประทีปพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ
แต่คนฟังก็ดูจะเข้าใจเป็นอย่างดี...
นายแพทย์สูงอายุช่วยเขาพยุงผู้เป็นเจ้านายกลับไปขึ้นรถในสภาพที่คนเจ็บแทบไม่มีสติแล้ว
“แก้ว...แก้ว”
กมลภพพึมพำเรียกหาแต่หล่อน..ประทีปขึ้นประจำที่คนขับแล้วออกรถ
“กำลังไปแล้วเจ้านาย..เดี๋ยวได้เจอคุณแก้วแล้วทนอีกนิดเถอะ”
รวงแก้วเงยหน้าขึ้นจากหนังสือสารพัดที่ถูกจัดมาให้อ่านฆ่าเวลาเมื่อได้ยินเสียงรถเข้ามาจอด..มีเสียงคนวิ่ง..คนพูดกันฟังไม่ได้ศัพท์ก่อนที่ประตูห้องของหล่อนจะถูกเปิดผางออก รวงแก้วอ้าปากค้างเมื่อเห็นหน้าเขาถนัด..จนกระทั่งร่างของกมลภพถูกวางทอดลงบนที่นอนของหล่อนอย่างระมัดระวัง.....
“เขาเป็นอะไรน่ะ...” หล่อนหันไปถามประทีปอย่างตกใจ
“ถูกยิง...ผ่าเอากระสุนออกแล้ว..ตอนนี้ก็ให้พักฟื้นเท่านั้นนี่ครับยา..คุณมลเพ้อหาแต่คุณแก้ว...ช่วยดูแลด้วยก็แล้วกันครับ”
“แล้ว...นี่..เธอเข้ามานี่..คนข้างนอกเขาไม่ว่าอะไรหรอกเรอะ”
“ที่นี่เป็นของคุณมล...คนข้างนอกก็พวกเราทั้งนั้นครับ” ประทีปอธิบายสั้น ๆ ก่อนจะลับหายออกไปจากห้อง
“ประทีป” ประทีปสะดุ้ง
เมื่อได้ยินเสียงเรียกพร้อมกับร่างโปร่งระหงที่เดินหน้าบอกบุญไม่รับออกมาจากในบ้าน...
“เจ้านายเธอไปไหน” “ก็..เอ้อ”
“ตอบมาเร็ว
ๆ “ “ขะ..ขะ..เข้าเมืองครับ”
“อะไรนะ” รวงแก้วทำเสียงเหมือนไม่อยากเชื่อ
“เข้าเมืองทั้งที่เพิ่งลุกขึ้นได้เมื่อวานงั้นหรือ” ประทีปตอบคำถามนี้ของหล่อนไปได้
“เข้าเมืองไปทำไม” “ก็..ไม่ทราบครับ”
“ต้องทราบสิ..มีหรือเธอไม่ทราบ..เธอควรทราบใน
ขณะที่ฉันไม่จำเป็นต้องทราบก็ได้..เธอมันพวกเดียวกันนี่...”
“ปัทโธ่คุณแก้ว” ประทีปครวญ
“ตอนนี้ก็พวกเดียวกันทั้งนั้นล่ะครับ..ไม่มีพวกใครแล้ว”
“แล้วทำไมไม่ห้าม...ไม่บอกฉันล่ะ...นี่ถ้าเจ็บกลับมาอีกจะทำไง” ประทีปไม่ทันได้ตอบ..
เพราะรถที่ตามกมลภพนั่งไปนั้นกำลังโผล่หัวเข้ามาในบริเวณบ้าน
รวงแก้วจ้องเขม็งไปยังร่างสูงที่ค่อย ๆ
ก้าวลงจากรถด้วยท่าทีที่ยังอ่อนระโหย..เขามองหล่อน..ขณะที่เดินเข้ามาใกล้..แล้วยกมือขึ้นกอดคอหล่อนดึงให้เข้ามาบ้าน
“คุณไปไหนมาคะ”
คำถามนั้นเหมือนคำถามของแม่บ้านที่ถามพ่อบ้านเวลากลับผิดเวลาเป๊ะ...
กมลภพยิ้ม...ขณะที่ทำเสียงลงลูกคอ
“ธุระนิดหน่อย”
“ธุระอะไรของคุณ”
รวงแก้วถามอย่างหมั่นไส้คนป่วยที่มีแรงแล่นไปไกล ๆ แต่พอมาถึงบ้านทำท่าจะตายขึ้นมาทีเดียว
“ก็..ติดตามข่าวสำคัญ” “ให้ประทีปไปก็ได้”
“ฉันต้องไปเอง” กมลภพตอบสั้น ๆ
แล้วทรุดตัวลงบนเตียง..ทิ้งแขนขาลงทันทีอย่างอ่อนแรง
รวงแก้วปิดประตูแล้วเดินมาเท้าเอวมองร่างสูงที่เธอเฝ้าพยาบาลเขามาร่วมสองอาทิตย์
กมลภพเรียกหาแต่หล่อน..และแม้เมื่อยามที่ไข้ขึ้นสูงจนเพ้อ..แต่พอรู้สึกตัวลืมตาได้..ลุกได้..จำได้
เขาก็กลับกลายเป็นคนเดิมเฉย..และมองหล่อนด้วยสายตาแปลก ๆ ตามเดิม
“ทานอะไรมารึยังคะ” หล่อนถาม..เขาส่ายหน้า
“เหนื่อย..อยากพัก” “งั้นทานสักนิด..แล้วค่อยพัก” หล่อนบอกเขาสั้น ๆ
ก่อนจะเดินหายกลับเข้าไปในครัว..แล้วออกมาใหม่พร้อมกับข้าวต้มอุ่น ๆ และกับ..
ตอนนี้รวงแก้วมีความรู้สึกว่าบ้านทั้งบ้านนั้นเป็นของหล่อน ไม่มีคนของเขามาป้วนเปี้ยนคอยเฝ้าหรือกักขังหล่อนเอาไว้อีก
กระท่อมมุงจากเล็ก ๆ
ที่ห่างออกไปเป็นที่ที่คนเหล่านั้นใช้เป็นที่พัก..รวงแก้วเคยเฉียดเข้าไปดูแล้ว.ข้างในตกแต่งไว้น่าสบายผิดกับสภาพภายนอกอย่างหน้ามือหลังมือทีเดียว
คนเหล่านั้นกลับกลายเป็นผู้คุ้มกันแทน..แม้กระทั่งเจ้าคนที่คิดจะรังแกรวงแก้วในตอนต้นก็เปลี่ยนไปเมื่อรู้แน่ว่ากมลภพคิดจะเลี้ยงหล่อนจริง
ๆ
“ลุกคะ” หล่อนคว้ามือเขาแล้วดึงแรง ๆ
เพื่อให้ลุกขึ้นนั่ง..แต่อีกฝ่ายกลับเกร็งแขนกระตุกทีเดียว..ร่างบางขึ้นไปเกยอยู่บนอก..รวงแก้วร้องเบา
ๆ อย่างตกใจ
ขณะที่ฝ่ามือของหล่อนจิกเข้าไปเต็มที่ ๆ
แผลของเขาซึ่งยังไม่หายดี..โดยไม่ตั้งใจ..
ชายหนุ่มสะดุ้ง..ศีรษะที่ผงกขึ้นกลับหงายลงไปบนหมอนใหม่
“บ้าจริง” หล่อนเอ็ด “เป็นไงมั่งล่ะคะ..ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ”
หล่อนพึมพำพลางพยายามยันตัวเองลุกขึ้น..แต่อ้อมแขนอีกข้างกลับรัดไว้อีก
รวงแก้วหน้าแดง..เมื่อสัมผัสของร่างกายที่แนบชิดกันไปทุกตารางนิ้วนั้นบอกหล่อนว่าเขาต้องการอะไร
หล่อนชักจะไม่คอ่ยเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่มีแรง..อยากพักอย่างที่ว่าเสียแล้ว
“ปล่อยเถอะค่ะ...คุณเหนื่อยนะ..ทานข้าวสักหน่อย..แล้วค่อยนอน”
“ไม่อยากกินข้าว”
เขาว่าพลางผงกศีรษะขึ้นมองหน้าหล่อนซึ่งอยู่แค่คืบ..
ดวงตาำดำใหญ่มองสบลงไปในตาคู่สวยของรวงแก้วอย่างมีความหมาย
ฝ่ามืออุ่นเริ่มลูบไล้ไปทั่วบริเวณสะโพกตึงภายในผ้าโสร่งปาเต๊ะสีสวยที่หญิงสาวใช้อยู่
หล่อนเอี้ยวตัวตะครุบมือของเขาไว้ทันที..กมลภพก็พลิกตัวเช่นกัน..พลิกร่างที่เคยอยู่บนอกลงไปจมอยู่บนฟูกนุ่ม..ช้อนศีรษะหล่อนไว้ด้วยฝ่ามือข้างหนึ่ง..อีกข้างหนึ่งสอดเข้ารอบเอวเล็ก
ท่านั้น..ทำให้เขาต้องเกร็งแขนรับน้ำำหนักตัวเองซึ่งก็ส่งผลให้แผลที่ยังไม่หายดีพอควร
รวงแก้วเห็ฯเขานิ่วหน้าก็ยื่นมือผลักไหล่ข้างที่เจ็บซ้ำเข้าไปอีก..ตั้งใจจะให้เขาปล่อยหล่อน..แต่ชายหนุ่มก็ไม่ปล่้อยง่าย
ๆ ดังที่คิด..เขาพลิกตัวใหม่..เปลี่ยนให้หล่อนขึ้นมาอยู่บนร่างของตนเองตามเดิม..พร้อมกับกดศีรษะได้รูปนั่นลงมาหา
รวงแก้วจำต้องเผยอริมฝีปากรับจุมพิตหนัก ๆ นั่นจนได้..และปล่อยให้เขาซอนไซร้หาความหวานอย่างหิวกระหายจนเป็นที่พอใจ..
“ไหนว่าเหนื่อยไงคะ..อยากพักไง..อาหารเที่ยงก็ยังไม่ได้ทานนะ” หล่อนพึมพำ
เมื่อถอนริมฝีปากซุกไซร้ไปตามช่วงคอระหง....จนถึงแอ่งชีพจรของหล่อน..เสื้อลูกไม้คอวีตัวนั้นก็ช่างเป็นใจกับเขานัก..กมลภพไล่ปลดกระดุมเม็ดเล็กได้โดยง่ายดาย....
“ไม่ได้นะคะ..หยุด”
หญิงสาวรวบรวมกำลังใจตะครุบมือเขาไว้แน่น..แม้จะดิ้นไม่พ้นอ้อมแขนที่ตรึงไปรอบเอวคอดกิ่วก็เถอะ..อกอวบของหล่อนสะท้อนขึ้นลงอยู่แนบอกกว้าง..ดวงตาของเขาเรี่ลงด้วยแรงปรารถนาอันไม่คิดจะปิดบัง
“คุณต้องพักผ่อนให้มาก...อย่าตามใจตัวเองสิคะ”
หล่อนเอ็ดเขา...หน้าตาแดงก่ำ..เมื่อกมลภพทำท่าจะดึงมือหนี....และไม่ยอมจะฟังคำห้ามปรามนั้นแม้แต่น้อย
ศีรษะได้รูปของเขาผงกขึ้นควานหาริมฝีปากหล่อนอีก..รวงแก้วแหงนหน้าหนี
“อย่าคุ่ะ...คุณ...ไม่ไหวหรอก..นะคะ..ใจเย็น
ๆ ซิคะ”
หล่อนพยายามยกเหตุผลขึ้นมากล่อมให้เขาเลิกรา
“ไหวสิ...ถ้าเธอช่วย..นะ..”
เขากระซิบอยู่กับหู..รวงแก้วตาโต..เท้าแขนลงกับที่นอนข้างศีรษะเขาอย่างไม่เข้าใจและคิดไม่ถึง..ก่อนจะส่ายหน้าเดี๊ยะ
“ไม่ค่ะ..ไม่ช่วย..ช่วยไม่เป็น” “เป็นสิน่า...มาจะสอนให้..นะ..แก้วจ๋า..นะ”
รวงแำ้ก้วสั่นไปทั้งตัว
เมื่อเขาทำท่าจะเอาให้ได้ดังใจ..ทั้ง ๆ
ที่นอนอยู่อย่างนั้น..เขายังปลดเสื้อออกจากตัวหล่อนไปจนได้..และผ้าโสร่งที่รวงแก้วเหน็บเอวไว้เฉย
ๆ ก็ถูกกระตุกออกไปในเวลาต่อมา
สาวน้อยบอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมไม่สู้กับเขาให้สุดฤทธิ์ทั้ง ๆ
ที่ถ้าทำจริง ๆ เวลานี้กมลภพก็ต้องปล่อยหล่อน
แต่รวงแก้วหมดกำลังใจจะขัดขืน..เพราะรู้อยู่แก่ใจตนเองว่ารักเขาเหลือเกิน..รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน
กมลภพจูบหล่อนอย่างดื่มด่ำ..ไปทั่วร่างอรชรงดงามกมลกลึงไปทั้งตัวนั่น..ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า..ทุกตารางนิ้ว...ทุกอณูที่ประกอบขึ้นมาเป็นหล่อน
ไม่ว่าริมฝีปาก..และปลายนิ้วเขาเคลื่อนไปถึงไหน..มันเหมือนมีมนต์ขลังที่หลอกล่อให้รวงแก้วลอยตามไปอย่างไม่คำนึงว่าจะเป็นนรกหรือสวรรค์
เสียงกระซิบสั่ง....
เสียงวิงวอน..ขอร้องของเขาช่างอ่อนหวานเอาใจและเรียกร้องจนหล่อนไม่อาจปฏิเสธ
นานเท่านานที่ต่างปรนเปรอความรักความพิศวาสให้แก่กัน..จนรวงแก้วทอดกายลงซบ..สลบอยู่กับอกกว้างกำยำของอีกฝ่ายอย่างหมดเรี่ยวแรง
หล่อนนอนนิ่ง..ไม่กระดุกกระดิก..ขณะที่กมลภพยกมือขึ้นลูบไล้ไปทั่วใบหน้าด้านข้างที่ซุกซนอยู่กับอกด้วยความรู้สึกรักใคร่..สุดหัวใจ
เขายอมรับกับตัวเองมานานแล้วว่ารักหล่อน..แต่ไม่นึกเลยว่าจะรักได้มากเท่านี้..รักจนไม่อาจปล่อยหล่อนให้หลุดลอยไปจากชีวิตได้ง่าย
ๆ
เขาเข้าเมืองวันนี้ก็เพื่อติดตามข่าวของคนสามคน..คนแรกคือ “นาย” คนต่อไปก็คือพ่อของหล่อนและเบน “นาย” หลุดรอดมือเจ้าหน้าที่ไปราวกับปาฏิหาริย์ตามเคย..รวมทั้งคำรนและเบน
ความจริงเขาจะให้ประทีปไปสืบ..คงไม่ยาก..ยกเว้นว่าแหล่งข่าวแ่ห่งนี้จะไม่ปริปากอะไรนอกจากกับตัวเขาเท่านั้น..ตามคำสั่งของผู้เป็น
“นาย”
ปัญหาที่ค้างคาอยู่ในเวลานี้ก็คือร่างนุ่มนิ่มบนอกของเขานี่..ที่กมลภพกำลังคิดอยู่ว่าทำยังไงจึวจะยึดหล่อนเอาไว้ได้ โดยปกติ..เขามักจะอยู่ห่างกฏหมายเสมอมา แต่คราวนี้เห็ฯจะต้องขอยืมมือกฏหมายเข้ามาช่วยตีตรวนชีวิตระหว่างเขากับหล่อนเสียแล้ว
ชายหนุ่มรู้ว่า...คำรนและเบนคงควาญหาเขาแน่ แม้ืจะยากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรขนาดไหน
เขาต้องได้หล่อนมาเป็นของเขาตามกฏหมายซะก่อน..แล้วเรื่องของพ่อหล่อยค่อยว่ากันทีหลัง ปลายนิ้วของเขาไล่เรื่อยขึ้นมาตามต้นขาเปลือยเปล่า...อ่อนนุ่มสะโพกตึง..แน่น..เอวคอดเล็ก..จนถึงแผ่นหลังสีชมพูเรื่อ..ชื้นเหงื่อของหล่อนแล้วถอนใจยาว..ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักอย่างที่หล่อนว่าจริง
ๆ
รวงแก้วแปลกใจ
เมื่อปากกาและกระดาษสองแผ่นถูกวางลงตรงหน้าในวันต่อมา..
“อะไรค่ะ” หล่อนวางหวีแล้วยกกระดาษนั่นขึ้นอ่านพลางขมวดคิ้ว..ก่อนจะหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“เซ็นต์ซะ” กมลภพสั่งสั้น ๆ
ขณะที่หล่อนมองเขานิ่งแล้ววางทั้งกระดาษและปากกาลงซะเฉย ๆ
“ไม่ค่ะ”
คำปฏิเสธนั่นเล่นเอาอีกฝ่ายชักฉุน
“ทำไมไม่เซ็นต์ใบนั่นน่ะรับรองเธอเป็นเมียฉันโดยถูกต้องตามกฏหมายนะ”
“ทราบแล้วค่ะ..แต่เห็นว่าไม่จำเป็นนี่คะ”
“ทำไมไม่จำเป็นผู้หญิงอยากได้ทุกคนล่ะ” “แต่ไม่ใช่ฉันค่ะ”
“ทำไม” “ก็ทำไมล่ะคะ....ทำไมต้องเซ็นต์ด้วย..อะไรที่คุณอยากได้ก็ได้ไปแล้วจะต้องมาตีทะเบียนทำไมให้ยุ่งยาก”
“ตีไว้กันไม่ให้เธอหนีน่ะสิ” คนตอบตอบไม่ตรงกับใจเลยสักนิด
“ไม่หนีหรอกค่ะ..ไม่รู้จะหนีไปไหน...ไม่อยากหนีเสือปะจระเข้อีก” รวงแก้วตอบตรงกับความจริงที่สุด..เพราะอยู่กับเขาหล่อนก็ไม่พ้นมืออยู่แล้ว..ขืนหนีไป...ก็มีแต่มนุษย์ที่คิดจะตระครุบหล่อนกินเช่นเดียวกันหมด
สาวน้อยจึงใช้สัญชาตญาณของตนเองตัดสินชีวิต..ถ้าจะเป็นของใครสักคน..หล่อนก็สมัครใจจะเป็นเขาเขาไปตลอด..แม้จะไม่รู้เลยว่าเขาจะรักหล่อน..เช่นที่หล่อนแอบรักเขาจนหมดหัวใจหรือเปล่า
หล่อนจะอยู่ที่นี่..เพื่อรอให้พ่อหาให้เจอ..แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็จะกลับกลายเป็นอดีตอันเจ็บปวด
กมลภพไม่ยอมแพ้..จับปากกามายัดใส่มือหล่อนใหม่พร้อมทั้งบังคับใ้ห้หล่อนนั่งลง..
“เซ็นต์” เขาสั่ง “ไม่ค่ะ”
“บอกให้เซ็นต์” “เอ๊ะ..ก็บอกว่าไม่”
หล่อนแว้ดขึ้นมามั่งอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“ทำไม....ยังหวังอยู่อีกเรอะว่าจะไปเจอไอ้หน้าโง่ที่ไหนอีกน่ะ”
เขากระชากหล่อนลุกขึ้นมาจากเก้าอี้..แล้วระเบิดเสียงถามอย่างโมโห
“ไม่จำเป็นที่จะต้องเจอใครอีกหรอก..แค่คุณคนเดียวก็เข็ดจนตายแล้วล่ะ”
ไม่รู้อะไรเหมือนกันที่ทำให้รวงแก้วกลังระเบิดใส่หน้ามั่ง
กมลภพหน้าแดง..ก่อนจะกลายเป็นเขียว..แล้วก็นั่งสงบลงในเวลาต่อมา
“อยู่กับฉันมันทรมานนักหรือไง..ไม่มีความสุขเลยรึไง”..แล้วที่ครวญครางให้รักทุกคืน ๆ น่ะมันไม่มความหมายเลยรึ”
เขาถามเสียงเรียบ..หน้าตาเอาเรื่องถมึงทึง..ขณะที่อีกคนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง
“คุณบังคับฉัน..คุณก็รู้ว่าฉันช่วยตัวเองไม่ได้..คุณรู้ว่าทำยังไงฉันจะยอมแพ้..คุณใช้มัน...เอาเปรียบฉัน”
กมลภพเลิกคิ้ว...เหลือกตาขึ้นบนเพดานแว็บหนึ่ง..
“นี่..เป็ฯความเลวของฉันไปหมดเลยรึนี่” เขาถามหล่อนอย่างหงุดหงิด..ทั้งขำและโมโหไปพร้อม ๆ กัน
“แน่ล่ะ...ตั้งแต่คุณพาฉันมาตั้งแต่ต้นล่ะ..คุณใช้ประสบการณ์คุณบีบบังคับฉันทั้งนั้น..ทั้งล่อทั้งหลอกใครจะตามคุณทันล่ะ...จู่
ๆ
มาจดทะเบียบนี่อีก..คุซางแผนอะไรไว้อีกล่ะฮึ..ถ้าคิดจะฮุบมรดกล่ะขอบอกซะก่อนว่าพ่อฉันไม่มีสมบัติอะไรไว้ให้หรอก..ไอ้ของที่ขโมยคุณไปนั่นมันขายได้ซักกี่ตังค์ก็ไม่รู้และพ่อ” รวงแก้วชะงักกึก
เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้แว็บหนึ่ง
“รึว่าพ่อขายของคุณไปแล้ว..หรือว่า...พ่อ..ตายแล้วฮึ...คุณเลยวางแผนจดทะเบียนกับฉันเพื่อยึดสิทธิ์ครอบครองเงินพวกนั้นใช่ไหมล่ะใช่ไหม”
ร่างบางผวาเข้าไปคว้าคอเสื้อของเขาเขย่าอย่างกราดเกรี้ยว..และโกรธแ้ค้น กมลภพกระตุกมือหล่อนมากำเอาไว้แน่น
“เลิกคิดบ้า
ๆ ทีได้ไหม..ฉันไม่เคยอยากได้สมบัติบ้าอะไรนั่นสักเก๊”
“ก็ตามกันยังกับหมาล่าเนื้อ..ทั้งช่วงทั้งชิงทั้งฆ่าลักพา...ยังไม่ต้องการอีกเรอะ..เฮอะ..อย่ามาปฏิเสธเสียให้ยากเลย..ฉีนไม่เชื่อคุณหรอก”
กมลภพถอนใจยาว...มองหน้าของหล่อนอย่างหงุดหงิด..เป็นนานกว่าเขาจะสงบสติอารมณ์ลงได้
มันเป็นยังไงหนอ...อยู่กับหล่อนแล้วอารมณ์เขาจึงไม่ค่อยจะสงบซะเลย
เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อนบอกไม่ถูก..จะคลั่งตายเสีให้ได้..หล่อนมีวิธียั่วเขาได้ดีจริง
ๆ
“เซ็นต์ซะเถอะ..ไม่งั้นฉันจะทิ้งเธอไว้ที่นี่ล่ะ”
เขาเอ่ยออกมาในที่สุด...รางแก้วถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจและไม่อยากเชื่อ
“คุณ..คุณ...หมายความว่าไง”
หล่อนมองหน้าเขาเหมือนไม่เคยเห็น...กมลภพเริ่มรู้สึกเป็นต่อ
เขายิ้ม..แล้วทำท่าจะถอยหนี..แต่หล่อนเริ่มตะครุบเสื้อเขาไว้แน่น
“บอกมานะ..คุณ..หมายความว่าไง” “เซ็นต์ก่อน”
“ไม่เซ็นต์..คุณต้องอธิบายให้ฉ้นเข้าใจ”
“อธิบายไปแล้วก็แค่นั้น...เธอบอกแล้วนี่นาว่าไม่อยากเชื่อ..ไม่คิดจะเชื่อฉันไม่ใช่หรือ”
“ก็คุณเจ้าเล่ห์นักนี่”
หล่อนได้ที่เลยใส่เขาให้..ชายหนุ่มเลิกคิ้ว..มองคนตรงหน้าอย่างเขม่นนิด ๆ
แต่แรกก็ดูหัวอ่อนนักล่ะ..เล่นเอาเขาใจอ่อนไปกับหล่อนซะนาน
พอมาตอนนี้เข้าสิ...กมลภพมองหาสาวน้อยขี้ตกใจคนนั้นไม่เจอตัวแล้วตรงกันข้ามกลับเริ่มได้คิดว่าตนกำลังอยู่ร่วมถ้ำกับแม่เสือตัวเมียซะมากกว่า
หล่อนร้ายขึ้นทุกวัน...ทั้งดื้อ ทั้งรั้น ดุดัน..เอาเรื่องเสียจนน่าปวดหัวแม้กระทั่งเรื่องเล็ก
ๆ ที่ไม่น่าพูดยาก...ก็กลายเป็นเรื่องยากไปจนได้
ชายหนุ่มอ้าปาก..อยากจะบอกหล่อนซะตรง ๆ
เลยว่าเขารักหล่อนอยากได้หล่อนไว้เป็นเมียแค่นั้นล่ะ แต่กมลภพก็ต้องหุบปากลง
เมื่อเห็นประกายตาเยาะหยันไม่เชื่อถือเขาเลยสักนิดนั่น
ทิษฐิ..และความทรนงที่มีอยู่ในตัวทำให้เขาเปลี่ยนใจเผื่อเอาชนะหล่อนให้ได้ตามวิธิีของเขา
“งั้นก็ตามใจ...แล้วอย่ามาหาว่าฉันทิ้งอีกล่ะ”
เขาพูดพลางทำท่าจะหมุนตัวหันหลังให้..แต่รวงแก้วไม่ยอมปล่อยมือหมุนตามเขาอย่างลืมตัว
“เดี๋ยวสิ...บอกมาก่อนนะว่าคุณจะไปไหน” “ไปนอก”
คำตอบของเขา..แม้จะสั้น..แต่ก็ทำให้รวงแก้วมีความรู้สึกเหมือนหัวใจร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น..หน้าเผือดสีไปทันที
“ไปไหนนะ..ประเทศไหน”
“ยังไม่แน่..แต่ต้องเตรียมพาสปอร์ตไว้ให้พร้อมน่ะ..ถ้าเธอจะไปด้วยก็ต้องเซ็นต์ในทะเบียนสมรสนั่น..เพื่อจะได้สะดวกขึ้น..ว่าไง..จะไปด้วยกันหรืออยากอยู่ที่นี่กับพวกนี้”
“พวกนี้”
ที่เขาหมายถึงก็คือคนของเขานั่นล่ะ..ถ้าไม่มีกมลภพอยู่ด้วย..พวกนั้นคงรุมทึ้งหล่อนแหลกเป็นชิ้น
ๆ แน่นอน รวงแก้วตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว..เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะต้องเผชิญ
กับกมลภพหล่อนรักเขา..สิ่งที่แลกเปลี่ยนให้แก่กันและกันจึงเป็นความสุขอันล้นเหลือ...ประทับไว้ในวิญญาณ..ตราติดตรึงอยู่ในหัวใจ
แต่กับคนเหล่านั้น..เพียงแค่คิด..รวงแก้วก็ทนไม่ได้
เขาเคยทิ้งหล่อน..เคยสั่งให้คนลักพาหล่อนมาขัง..และถ้าจะทิ้งอีกครั้งก็คงทำได้ รวงแก้วทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ติดข้างฝา..แล้วยกมือสั่นระริกขึ้นลูบหน้า...กลืนน้ำลายลงคอออย่างฝืด
ๆ
เปลือกตาที่ประดับด้วยแพขนตางอนยาว..กระพริบขึ้นลงชั่วครู่ก็หยิบกระดาษตรงหน้าขึ้นมาถือไว้...ก่อนจะคว้าปากกามาเซ็นต์ชื่อตัวเองลงไป..อย่างไม่ใยดีกับความสำคัญของมันแม้แต่นิดเดียว
กมลภพคว้าหมับขึ้นมาถือไว้ในมืออย่างกลัวว่าหล่อนจะเปลี่ยนใจหันมาฉีกมันทิ้ง..ก่อนจะเดินลิ่ว
ๆ
ออกมาส่งให้กับประทีปเพื่อนำไปจัดการให้เรียบร้อย..ทีนี้ล่ะ..พ่อจะตามหารวงแก้วได้ยังไง..จะต้องแยกจากกันตลอดชีวิตแล้วล่ะหรือ แล้วคนที่ยืมกอดอกพิงเสาอยู่หน้าบ้านนั่นเล่าหล่อนไว้ใจเขาได้แค่ไหน
เขาเก็บหล่อนไว้เพื่อบำเรออารมณ์ปรารถนาของเขาเท่านั้น..ถึงแต่งงานก็เพื่อประโยชน์ในการพาหล่อนไปได้สะดวก
หากโกรธหรือไม่พอใจขึ้นมาในอนาคตล่ะรวงแก้วจะทำยังไง ถูกทิ้งไว้ในเมืองไทยก็แย่อยู่แล้ว..ถ้าไปถูกทิ้งในเมืองนอกล่ะ..รวงแก้วจะเอาปัญญาที่ไหนช่วยตัวเอง
หญิงสาวลุกพรวดไปยังหน้าต่าง...ผลักให้มันเปิดออกเมื่อได้ยินเสียงรถสตาร์ทเครื่อง....
ประทีปเอาหลักฐานไปจัดการให้สมบูรณ์แล้วรวงแก้วคิดได้ช้าเกินไป...หมดหนทางที่จะถอยหลังกลับแล้วหรือไง หล่อนซบหน้าผากลงกับกรอบหน้าต่าง แล้วน้ำตาแห่งความกดดันก็ไหลออกมาคลอตา..ก่อนที่เสียงสะอื้นอย่างเจ็บใจจะระเบิดตามมาจนไหล่เล็ก
ๆ สะเืทือน
กมลภพมาหยุดกึกอยู่หน้าห้อง..จ้องมองหล่อนแอบร้องไห้อยู่ชั่วอึดใจก็ปิดประตูไล่ภาพนั้นออกไปจากสายตา
ร่างสูงของเขาพลิกหันหลังพิงประตูบานนั้น..คิ้วดกเข้มขมวดมุ่นอย่างกลัดกลุ้ม..ตรองไม่ตกว่าจะยังไงกับหล่อนดี
ทั้งเบนและคำรนเดินผ่านประตูห้องอาหารของโรงแรมมาพบกันในตอนค่ำหลังจากแยกย้ายก็หันไปสืบข่าวคราวของรวงแก้วมาจนทั่ว
“ไม่มีใครเห็นคุณแก้วเลย..ไม่มีใครเคยพบ..หรือแม้แต่ได้ยินชื่อ” เบนพึมพำ
อย่างเหนื่อยอ่อน..และหงุดหงิด
เป็นอาทิตย์มาแล้วที่เขาและคำรนทำเช่นนี้..ตื่นแต่เช้า..แล้วแยกย้ายกันเดินไปทุกถนน..ทุกตรอกทุกซอกทุกมุม..แม้แต่ในที่
ๆ ไม่ปรารถนาจะเจอหล่อนในนั้น
แต่ไม่มีวี่แววของรวงแก้วเลย
“เป็นไปได้ไหมว่าคุณแก้วจะไปจากจังหวัดนี้แล้ว” เบนออกความเห็น
“ไม่” คำรนส่ายหน้า “ฉันรู้ว่าแก้วยังอยู่” เขาพูดตามความสังหรณ์ที่ตนมี
“แกยังอยู่..ยังอยู่จริง
ๆ นะเบน..ฉันสังหรณ์อะไรไม่ผิดหรอก”
“ถ้าอยู่เราต้องเจอสิ..มันหลายวันแล้วนะ..เราไปจนทั่วแล้ว”
“มันอาจจะมีบางที่
ๆ หลงหูหลงตาไปมั่ง”
“ทำไมไม่กลับไปที่หุบเขานั่นล่ะ..บางทีคุณแก้วอาจจะย้อนไปที่นั่น”
“ไม่ไป” คำรนส่ายหน้า ขณะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
“ยายแก้วไม่ไปที่นั่น..ตราบใดที่นายมลยังไม่กลับ”
“ทำไมถึงคิดว่านายมลกลับแล้วคุณแก้วจะไป” “สัญชาติญาณไง” คำรนตอบ
แต่เบนเริ่มพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ยายแก้วถูกอบรมมาในกรอบนะ...ไม่ใช่ผู้หญิงสำส่อน”
“จริง....คงจะวนเวียนหานายมลจนกว่าจะเจอน่ะแหละ..เพราะ”
เบนพูดค้าง..นึกถึงวันหนึ่งในรถ..หลังจากรวงแก้วเดินตามกมลภพลงมาจากโรงแรมแห่งนั้น
เบนนึกถึงท่าทีที่กมลภพปฏิบัติต่อหล่อน..และการยอมรับอยู่ในทีของรวงแก้ว..มันจะเป็นไปได้ไหมว่า..ตอนนี้..รวงแก้วอยู่กับกมลภพแล้ว
และถ้าอยู่..จะเป็นเช่นไร..เข้าใจกัน..หรืออยู่กันไปแกน ๆ
เพราะไม่มีหนทางอื่นที่ดีกว่า
ขณะที่คำรนและเบนต่างคิดกันไปคนละทางสองทาง..ใครคนหนึ่งก็เดินผ่านหน้าต่างห้องอาหารของโรงแรมทั้งสองกำลังนั่งอยู่ไป...ทั้งคู่..จำประทีปได้แม่นยำ
เขามาทำอะไรอยู่แถวนี้ กมลภพล่ะ..คงอยุ่ไม่ห่างจากที่นี่แน่
เบนและคำรนหันมามองกันราวกับนัด..แล้วพยักหน้าชวนกันเดินตามไปทันที
กมลภพใจหาย..เมื่อเดินหาหล่อนจนรอบบ้านแล้วยังไม่พบ ร่างสูงเดินตรงไปยังกระท่อมที่พักคนของเขาทันที..เห็นใครคนหนึ่งนอนเงียบอยู่ เพราะยังไม่สร่างเมาก็ลากขึ้นมาถาม
“เห็นคุณแก้วหรือเปล่า”
เจ้านั่นปรือตาขึ้นมามองเขาอย่างงง ๆ แล้วส่ายหน้า
“ไม่เห็นครับ..เจ้านายจะใช้ผมเหรอครับ” “ปัทโธ่เอ๊ย”
เขาเหวี่ยงมันกลับลงไปบนเตียงผ้าใบนั่นอย่างฉุนเฉียวหันรีหันขวางมองหาประทีป....แล้วก็นึกขึ้นได้
เมื่อวานประทีปบอกเขาแล้วว่าจะไปค้างในเมืองรุ่งเช้าจะกลับกับคนของเขาอีกคนหนึ่ง
กมลภพเห็ฯใจลูกน้องซึ่งยังหนุ่มแน่นเลือดแรงร้อนกันทั้งนั้น...จะให้อยู่คอยดูลูกพี่มีความสุขอยู่คนเดียวก็กระไรอยู่จึงอนุญาตให้ไปได้..เขาเดินออกมายืนเท้าสะเอว..กวาดตามองไปรอบบริเวณอย่างร้อนใจ
รวงแก้วเงียบมาหลายวันแล้ว...นับตั้งแต่เขาบังคับให้จดทะเบียน
เสียงสั่งโน่นสั่งนี่แจ๋ว
ๆ ขณะที่เขายังนอนป่วยเงียบไป..แม้กระทั่งท่าทางอวดดี..คอยเถียงฉอด ๆ
นั่นก็สงบนิ่ง..เหมือนภูเขาไฟระเบิด...
เขาเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ..และจับตามองหล่อนมาหลายวัน..วันนี้เป็นวันอากาศโปร่งทุกอย่างรอบตัวก็เงียบสงบ..นับเป็นช่วงจังหวะดีที่น่าหนีซะด้วย
“หนี”
หล่อนจะหนี..กมลภพตะโกนก้องอยู่ในใจตัวเองแล้วเร่งฝีเท้าตรงไปตามทางเดิน..ผ่านสวนมะพร้าวต้นผลไม้หลายชนิด..ไปยังริมน้ำ..ถ้ารวงแก้วคิดหนีมาทางนี้..เดี๋ยวหล่อนก็ต้องย้อนกลับมาแน่นอน..ไม่นานนักร่างสูงตระหง่านของเขาก็ไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าผาสูงที่ลาดลงไปสู่แนวโขดหิน..และทะเลกว้าง
รวงแก้วอยู่ตรงนั้นจริง ๆ หล่อนยืนเงียบ..หันหน้าเข้าหาทะเล..เขาเห็นใบหน้างามก้มต่ำเป็นบางครั้ง...เส้นผมสั้น
ๆ ปลิวไปตามสายลม
เมื่อนึกถึงผมหล่อน..เขายังเสียดายไม่หาย..และยังเก็บพวงผมที่หล่อนตัดทิ้งไว้ในกระเป๋าเสื้อที่สวมประจำจนบ้ัดนี้
เขาอยากรู้นักว่าหล่อนกำลังคิดอะไร..กลัวอนาคตอันไม่แน่นอนกับเขางั้นหรือ..หรือว่ากลัวความลำยากในอนาคต กมลภพคิดง่าย ๆ
ตามแบบผู้ชาย..เขาไม่ได้คิดเลยว่าได้กระืทำการหลายอย่างทำให้รวงแก้วไม่เชื่อใจมาตั้งแตค่ทิ้งหล่อนไปในครั้งแรก
ครั้งที่สองก็เมื่อเขาทิ้งหล่อนไปจากโรงแรม..แล้วสั่งให้พักพวกพาเอามากักเอาไว้ที่นี่ รวงแ้ก้วไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะ่ทำให้หล่อนเข้าใจผิด..ทุกสิ่งเกิด
เพราะเหตุสุดวิสัย..และอธิบายให้รู้ล่วงหน้าไม่ได้ ชายหนุ่มค่อย ๆ
ไต่โขดหินลงไปหาหล่อน..เมื่อเขาเข้าไปใกล้..หล่อนก็หันขวับมามอง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตกใจนิดหนึ่ง...ก่อนจะหรี่ลงเมื่อเห็นถนัดว่าเป็นเขา...
ตอนที่
9
หล่อนหันหน้ากลับไปมองทะเลตามเดิม..ยืนเฉย..ปล่อยให้ลมแรงสัมผัสผิวผ่อง..และพาเสื้อผ้าที่สวมอยู่ให้แนบไปกับเรือนร่างระหงกลมกลึงน่าดูและเขาเป้ฯเพียงคนเดียวที่ได้รู้และได้สัมผัสว่าหมดจดงดงาม..และหอมหวานเพียงไหน ชายหนุ่มขยับเข้าไปยืนซ้อนหลังหล่อน..โอบมือสอดรอบเอวบางรั้งร่างระหงให้เอนเข้ามาหาอกกว้างกระชับชิด
ทอดสายตามองออกไปยังทะเลกว้างด้วยกัน..พร้อมถามหล่อนว่า
“คิดอะไร” “คิดถึงตัวเองสิคะ”
“คิดว่าไง” “คิดว่าเมื่อคุณเบื่อฉันแล้วทิ้ง..ฉันจะทำยังไง” คำอธิบายของหล่อนเล่นเอาคนฟัง..ใจหายลึก ๆ
นึกเจ็บปวดแทนคนยืนอยู่ในอ้อมกอดอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่เคยคิด” “แต่ทำค่ะ..สองครั้งแล้ว..และขู่ไว้ครั้งที่สามด้วย”
“อะไรกัน” “ทำไมถ้าคุณไม่อยากพาฉันไปด้วย...แทนที่จะทิ้งให้เป็นเหยื่อคนของคุณ
คุณพาฉันไปคืนพ่อไม่ได้หรือคะ” หล่อนหันมามองเขา..ดวงตาฉ่ำไปด้วยน้ำตา....นี่เขาทำให้หล่อนร้องไห้อีกแล้วหรือนี่..กมลภพถามตนเอง
“คุณเพียงแต่ต้องการผู้หญิงไว้เป็น...เอ้อ..เพื่อนนอน..ทำไมต้องลากฉันไปด้วยล่ะค่ะ”
“ไม่อยากไป” เขาเลิกคิ้วถามไปเสียอีกเรื่อง
“ค่ะ..ไม่อยากไป..ไม่อยากไปถูกทิ้งอยู่ที่เมืองนอก..ดีไม่ดีคุณอาจจะขายฉันให้พวกฝรั่งก็ได้”
“บ้าจริง..” เขาตวัดเสียงใส่หล่อนฉุน ๆ เขย่าร่างตรงหน้าเสียหัวสั่นหัวคลอน..
“เธอเห็นฉันเป็นอะไร..ไม่ใช่คนหรือไง”
“เป็นคนสิคะ..คนเห็นแก่ตัว..คุณปล่อยฉันไปไม่ได้หรือคะ..พาฉันไปหาพ่อเถอะ...ฉันอยากกลับไปหาพ่อค่ะ”
กมลภพมองหล่อนนิ่งงัน...บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไร..อยากรู้นักว่าในใจของหล่อนไม่มีเงาของเขาเลยหรือ
“ไม่” เขาปฏิเสธสั้น ๆ
คำเดียว..ด้วยดวงตาเฉยเมย.....
รวงแก้วถึงกับสะอื้นฮัก....ดิ้นสุดแรงเพื่อให้พ้นอ้อมแขนของเขา แต่ชายหนุ่มไม่คิดจะปล่อย
เขากลับกอดหล่อนไว้แน่น...ไม่ขยับเลยไม่ว่าหล่อนจะออกพิษสงเช่นไร..ดังกับปราการหินผา..ที่ไม่มีวันสั่นคลอดนกระนั้น
“กรุณาเถอะ”
รวงแก้วยังรำพึงรำพันอย่างอ่อนแรงในอ้อมแขนหลังจากดิ้นจนเหนื่อย
“คุณไม่ได้รักฉัน...สักวันคุณก้จะเขี่ยฉันทิ้งเหมือนผู้หญิงอื่น
ๆ ทำไมคุณต้องเอาฉันไปทรมานด้วย”
“ไม่ได้คิดเอาไปทรมาน...ตั้งใจจะพาไปเที่ยว...ไปอยู่ด้วยกันที่โน่น”
“กี่วันล่ะคะ...กี่เดือน..กี่ปี..แล้วหลังจากนั้นล่ะคะฉันต้องถูกทิ้งให้หิวโซอยู่ข้างถนนรึไง”
“เลิกพูดบ้า
ๆ ทีเถอะน่า..จะอยู่ด้วยกันนี่ล่ะตลอดชีวิต..พอใจไหมเอ้า” เขาเอ็ดใส่หล่อนอย่างฉุน ๆ
“ไม่ต้องการ” รวงแก้วแ้ว้ดตอบ
“ไม่ต้องการทรมาน..เข้าใจไหม..ไม่ต้องการ”
กมลภพนิ่งอึ้ง..เขาไม่เข้าใจหล่อนจริง ๆ
ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เลย..นับวันก็ยิ่งอ่านยากเข้าทุกที
หล่อนอยากไปให้พ้นเขาอย่างเดียว..ไม่เคยคิดอย่างอื่น แม้จะยอมทุกอย่าง
โดยไม่มีข้อแม้...แต่ก็ไม่เคยเลิกคิดจะไปให้พ้นเขา...นี่จะทำยังไงกัน..กมลภพยกมือขึ้นลูบคอหล่อน..คอเล็ก
ๆ นุ่มนิ่มน่าหักให้ตายคามือเสียนัก
เขาครางเสียงต่ำ ๆ อยู่ในลำคอ..แล้วก้มต่ำลงไปหาหล่อน..
ตอนนี้ชายหนุ่มคิดอะไรไม่ออก..ทุกครั้งที่อยู่ใกล้
หล่อนเขาคิดอยู่อย่างเดียวอยากให้หล่อนรักเขาเช่นที่เขารักหล่อน....และเลิกร่ำร้องที่จะให้เขาปล่อยเสียที
รวงแก้วเลิกร้องไห้..เพราะกมลภพกำลังปลุกอารมณ์อย่างอื่นขึ้นมาแทน
แต่ความโกรธที่ยังมีอยู่..ทำให้หล่อนยังแข็งขืนไม่ยอมโอนอ่อนตามง่าย ๆ
หล่อนกัดเขาชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งเฮือก..กระพริบตาปริบ ๆ ฟันซี่เล็ก ๆ
ของหล่อนขบอยู่กับลิ้นอุ่นซ่านแน่นดวงตาคู่สวยจ้องตาเขานิ่ง
ถ้ารวงแก้วตัดใจกัดมันทิ้งจริง ๆ เขาก็ต้องกลายเป็นใบ้ไปตลอดชีวิตแน่ เปลือกตาของกมลภพหรี่ลงจนหลับสนิท..ไม่คลายอ้อมแขน..ไม่ถอนแม้แต่จูบ
ถ้าหล่อนต้องการจะทำ..เขาก็จะปล่อย..อึดใจต่อมา..หล่อนก็ยอมเผยอแนวฟัน..ปล่อยลิ้นเขาออกมาช้า
ๆ กมลภพเปิดเปลือกตาขึ้นมองหล่อนด้วยอารมณ์พิศวาสที่ไม่ปรารถนาจะปิดบัง...
“ทำไมไม่กัดมันให้ขาดไปเลย” เขาถามเสียงเรียบ
“ฉันอยากฟังคุณพูดว่าจะปล่อยฉันไป” “ไม่มีทาง.....ให้ฉันตายเสียดีว่า”
เขาตอบก่อนจะซบหน้าลงกับซอกคอระหงซุกไซร้จุมพิต..และกัดเน้นเบา ๆ
ไปจนทั่วบ่านุ่ม..แล้ววกกลับมาหาริมฝีปากหล่อนใหม่อย่างไม่กลัวเกรงว่ารวงแ้ก้วจะเล่นงานเอาอีก..
รวงแก้วไม่มีกำลังใจพอจะทำร้ายเขาได้..นอกจากปล่อยตัวเองให้ไปตามกระแสธารแห่งความพิศวาสที่เขาเริ่มขึ้น
ชายหนุ่มปลดเสื้อผ้าทั้งของตนเองและของหล่อนออกทีละชิ้นจนเหลือแต่เพียงเนื้อตัวเปล่า
ๆ แล้วช้อนอุ้มหล่อนลงไปในน้ำทะเลอุ่น ๆ
อีกชั่วโมงต่อมาก็อุ้มหล่อนเดินกลับบ้านไปด้วย ความรู้สึกสบายใจผิดกว่าตอนขามาอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
พอพาหล่อนก้าวผ่านประตูบ้านเข้าไป..อะไรบางอย่างก็บอกให้เขารู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นภายในบ้าน
กมลภพหันขวับไปมองด้านหลัง..รวงแก้วมองตามแล้วเบิกตาโต
“พ่อ”
หล่อนอุทานอย่างดีใจ..จนลืมนึกถึงตัวเองว่ามีโสร่งกระโจมอกอยู่ตัวเดียว...และอยู่ในอ้อมแขนของใคร
กมลภพปล่อยหล่อนลงจริง..แต่ยังรั้งไว้ชิดตัว..ดวงตากวาดไปทั่วบริเวณเพื่อมองหาคนของเขา..
“เสียใจนะนายมล...ตอนนี้ไม่มีใครช่วยคุณได้แล้ว”
ประตูครัวถูกเปิดออกพร้อมทั้งร่างของประทีปถูกเบนควบคุมออกมา..
ประทีปสบตากับเจ้านายอย่างขอลุแก่โทษ..กมลภพถอนใจยาว...ก่อนจะหลุบเปลือกตาลงมองร่างในอ้อมแขนอย่างหวงแหน..หล่อนยืนนิ่ง..มองเขาที...มองพ่อที..คำรนยกปืนขึ้น
“ส่งยายแก้วคืนมา”
เขาสั่งเสียงเรียบ..กมลภพมองหน้าหล่อนเหมือนจะพยายามจดจำไปชั่วชีิวต..ก่อนจะคลายอ้อมแขนลงช้า
ๆ รวงแก้วรู้สึกว่าใจของตัวเองหายไปพร้อม ๆ กับอ้อมแขนที่ลงห่างไปจากเรือนกายด้วย
คำรนมองสภาพของลูกแล้วขบกรามเข้าหากันแน่น..เขารู้่ดีโดยไม่ตอ้งถามว่ารวงแก้วอยู่ในฐานะอะไร..คงไม่พ้นนางบำเรอที่
“นาย” เคยมีเป็นแน่แท้..ทั้ง ๆ
ที่ความจริง..กมลภพก็มีหล่อนอยู่เพียงคนเดียว
“แก้วมาหาพ่อ”
หล่อนก้าวเท้าออกห่างจากเขาเข้าไปกอดเอวคำรนไว้หลวม ๆ
แล้วซบหน้าผากลงกับอกของบิดา..คำรนยกมือลูบศีรษะได้รูป..ไปสะดุดกับผมสั้น ๆ
ที่เริ่มยาวของหล่อน แล้วดวงตาของเขาก็ไหววาบ
“แกจะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมที่ทำกับยายแก้วแบบนี้” ปืนในมือของคำรนที่ยกขึ้นส่องในระดับศีรษะของกมลภพ รวงแก้วเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก
“พ่อ...อย่าค่ะ..อย่าทำเขา”
“ถอยไป.....แกจะห้ามพ่อทำไม..มันข่มขืนแก...มันตัดผมแกจนสั้นกุดไปทั่วหัวเพื่อขู่พ่อ..แล้วมันทำอะไรอีกไหม....ปล่อยให้เจ้านายมันข่มขืนแกด้วยใช่ไหม”
“เปล่าค่ะ..เปล่า..เขาไม่ได้ข่มขืนแก้ว”
หล่อนปฏิเสธข้อกล่าวหาของบิดาเสียงสั่น
หันไปมองกมลภพแว็บหนึ่ง..แก้มนวลเป็ฯสีเรื่อขึ้นมาทันทีก่อนจะแดงไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ
แววตาผู้ชายทั้งสี่คนในที่นั้นอ่อนแสงลงแทบทันที เมื่อเห็นกิริยาของหล่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกมลภพ เขาถอนใจยาว..พร้อมกับนึกเกลี้ยดตัวเองอยู่ลึก
ๆ
ความจริง...เขาน่าจะกระทำต่อหล่อนให้ดีำกว่านี้..เลือกสิ่งที่ดีเสมอให้หล่อนให้คุ้มค่ากับผู้หญิงที่เขารักดังดวงใจเช่นหล่อน...
คำรนมองหน้าลูกอย่างงงงัน..แม้แต่เบน......
“ก็ไหน...เบนมันบอกพ่อว่า” “เขาหลอกค่ะ”
“อะไรนะ” คำรนทำท่าเหมือนไม่เชื่อหู “เขาหลอกลุงเบน..และสั่งไม่ให้หนูพูดตอนนั้น”
เบนอ้าปากค้าง..ก่อนจะเปลี่ยนสายตาไปมองกมลภพอย่างไม่เข้าใจ
“แล้วเขาก็ไม่ได้ข่มขืนหนูด้วย”
รวงแก้วพูดอ้อมแอ้มกับบิดา..จ้องนิ่งไปยังอกเสื้อของคำรนโดยไม่ยอมมองหน้าใครสักคน
“แกกำลังบอกพ่อว่าแกเต็มใจกับมันงั้นหรืิอหลังจากนั้น”
คำถามของบิดา...รวงแก้วตอบไม่ได้..มีแต่หล่อนและกมลภพเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจว่า...อารมณ์พิศวาสของหล่อนและเขาตั้งแต่เริ่มมาจนบัดนี้แม้รวงแก้วจะไม่ได้เริ่มก็จริง...แต่หล่อนก็มีส่วนร่วมกับเขาโดยเต็มใจมาตลอด
หล่อนเงียบกริบ..ยืนนิ่ง... “แล้วเจ้านายของมันล่ะ...แตะแกหรือเปล่า” คำรนถามต่อ
รวงแก้วส่ายหน้า “แล้วลูกน้องมันล่ะ” รวงแก้วส่ายหน้าอีก
“แล้ว..ผมของหนูล่ะรวงแก้ว..ใครเป็นคนตัด”
“หนูตัดเองค่ะ..ตอนหนี..ไม่อยากให้ใครจำได้ตามพ่อไปจนถึงปาดังแล้วก็ไม่เจอ..เจอเขา”
รวงแก้วปรายตาไปยังกมลภพนิดหนึ่ง..”เขาก็จับหนูมาขังไว้ที่นี่”
“หมายความว่าตลอดเวลาที่เราเดินทางจากปาดังเข้ามาที่นี่..ลูกอยู่ที่นี่ตลอดงั้นหรือ” คำรนถามอย่างงง ๆๆ
“และอยู่มาตลอดโดยที่เขาทำให้เราเข้าใจว่า
“นาย”
กักตัวคุณแก้วเอาไว้...และนายรู้หรือเปล่าว่ามือขวาของตัวเอ้เก็บเอาไว้ซะเองน่ะหือ” ประโยคสุดท้ายเบนหันไปถามกมลภพอย่างสงสัย
“ผมไม่ใช่พวกคุณ..ที่จะเีี่ที่ยวพาแก้วไปเสี่ยงกับเงินแค่นั้น” เขาตอบสั้น ๆ บอกให้รู้ว่า
ขณะที่คำรนและเบนมัวงมงกอยู่กับเงินนั้น
คน ๆ หนึ่งยื่นมือเข้ามาปกป้องลูกสาวของเขาด้วย “สมอง” ที่ตนมีอยุ่..อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
“แต่แกก็ทำลายเธอ..ลูกของฉัน” คำรนยังไม่ยอมแพ้โดยง่าย.. เขาอับอายที่ถูกกมลภพตอกกลับมา
เขาไม่มีปัญญาจะดูแลลูก..และไม่พร้อมที่จะปกป้องหล่อนด้วยชีวิตที่แท้จริง..คำรนยังวนเวียนอยู่กับความ
“เสียดาย” ที่กมลภพสามารถตัดได้
เบนยืนมองหน้าชายหนุ่มร่างสูงเปรียวตรงหน้าอย่างครุ่นคิด..ก่อนจะหันไปมองคำรน..แล้วเบนสายตาไปยังรวงแก้วเป็นคนสุดท้าย..
“เราไปกันดีกว่า” เบนสรุปสั้น ๆ
ขณะที่จ้องรวงแก้วอย่างจะพยายามอ่านใจหล่อนให้ออก
“ให้ฉันฆ่ามันก่อน” คำรนว่า “ไม่ได้ค่ะ” รวงแก้วห้ามทันที
“ไม่ได้นะคะ..ถ้าพ่อทำอะไรเขา..หนูจะไม่ไปด้วย” รวงแก้วทำท่าเหมือนจะไม่ยอมจริง
ๆ
“คุณเอาเธอไปไม่ได้นะคำรน..เธอเป็นของผม” กมลภพว่าเสียงเรียบ..มือทั้งสองยัดลงไปในกระเป๋ากางเกงอย่างไม่สนใจอะไรมากกว่า..ผู้หญิงสาวสวยเบื้องหน้า
“อย่างนั้นน่ะไม่ใช่หรอก...แกมันใช้วิธีสกปรกล่อหลอกยายแก้ว..ลูกฉันช่วยตัวเองไม่ได้” คำรนคำราม
“เราจดทะเบียนกันแล้ว..คุณกำลังจะทำผิดกฏหมาย”
“กฏหมายเรอะ” คำรนนั้นเสียงสูง..แล้วหัวเราะลั่น
“รู้จักกฏหมายตั้งแต่เมื่อไหร่กันนายมล..เมื่อตอนมีเมียนี่รึไง”
“แต่ฉันก็มีทางใช้มันเล่นงานคุณได้แน่นอน” กมลภพลากเสียง...คำรนส่ายหน้า..ยิ้มเหยียด..
“นายไม่กล้าเจอหน้าตำรวจเสียด้วยซ้ำ” “มันก็เหมือนกันล่ะ” กมลภพย้อน
“ฉันสัญญา...ถึงคุณจะเอาแก้วไปวันนี้ฉันก็จะตามหาเธอและเอาตัวเธอกลับมาให้ได้”
ประโยคนี้ทำให้รวงแก้ว..หันไปจ้องหน้าเขานิ่งอย่างคิดไม่ถึงและพยายามค้นคว้าว่าที่เขาพูดออกมานั้นมันจริงสักแค่ไหน...
“ฉันไม่ปล่อยให้นายได้มีโอกาสทำแบบนั้นแน่” ดูท่าคำรนจะไม่ยอมปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ได้จริง ๆ
ปืนในมือของคำรนที่ยกขึ้นเล็งโดยไม่ฟังเสียงกรีดร้องอย่างตกใจของรวงแก้วแม้แต่น้อย
แต่ยังไม่ทันที่กระสุนจะผ่านลำกล้องออกไปเจาะหัวใจกมลภพมือของเบนก็ตบปืนให้พ้นร่างของเขาไปซะก่อน
“เปรี้ยง...เปรี้ยง” กระสุนแฉลบไปทะลุข้างฝาเฉียดกมลภพไปนิดเดียว..ประทีปใช้ช่วงนั้นผลักร่างเบนเข้าชนคำรน..ปะทะรวงแก้วเต็มแรงพากันล้มไปทั้งสามคน..กมลภพพลิกตัวหลบวูบเข้าไปในครัวทันที....และไม่กี่นาทีต่อมาก็พ้นบ้าน
“แกห้ามฉันทำไม”
คำรนหันไปใส่เบนอย่างฉุนเฉียว..เบนสบตาเจ้านายแล้วถามเสียงเรียบ...
“ถ้ารวงแก้วอยู่กับเรา..เราจะคุ้มครองเธอได้เช่นที่นายมลทำหรือเปล่า..ป่านนี้คุณแก้วคงยับเยิน
เพราะมือพวกมันเป็นฝูงไปแล้วกระมัง....ไม่ว่าพวกโกษาหรือเจ้านายใหญ่นั่น”
เบนพูดไม่ผิดสักนิด..คำรนนิ่งอึ้ง..รวงแก้วเองก็มองพ่อนิ่งขรึมด้วยนัยน์ตาเศร้าหมอง
“ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีทางของมัน...เราได้ตัวคุณแก้วคืนก็พอแล้ว”
เบนสรุปแล้วลุกขึ้นพร้อมทั้งพยุงร่างของรวงแก้วและคำรนตามขึ้นมาด้วย
ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากนั้น..คนทั้งสามก็ออกจาบริเวณบ้านไปขึ้นรถ
ประทีปมองนายที่ยืินนิ่งเงียบเหมือนไม่มีวิญญาณ..มองตามรถที่ค่อย ๆ แล่นพ้นไปจากบริเวณไร่แล้วก้มลงมองปืนในมือนิ่ง
เขาเข้าใจดีว่าทำไม..คุณมล..จึงไม่ยอมใช้ปืนด้วยไม่หวังจะทำร้ายรวงแก้วด้วยการทำร้ายพ่อหรือลุงของเธอนั่นเอง
“ทำไงล่ะเจ้านาย” เขาถามเรียบ ๆ
ขณะที่กมลภพกอดอกพิงต้นไม้มองดูรถที่พาเอาหัวใจเขาห่างไปจนลับสายตาอย่างทอดอาลัย
“นายจะปล่อยให้เขาเอาเมียนายไปดื้อ
ๆ อย่างนี้น่ะหรือ”
“เขาไม่อยากอยู่กับฉันนักหรอก”
“นายรู้ได้ยังไงว่าคุณแก้วไม่อยากอยู่” “เขาอยากไปกับพ่อเขาน่ะสิ”
“ผมไม่คิดว่าจะมองคุณแก้วผิดนะ..เธอรักนาย..ตอนที่นายไม่สบายน่ะ..คุณแก้วเฝ้าพยาบาลจนไม่เป็นอันกินอันนอน..ถ้าเธออยากจะไปหาพ่อตั้งแต่ตอนนั้นเธอก็ไปได้แล้ว..พวกเราไม่ได้คุมเธอเลย..ปล่อยตามสบาย”
คำพูดของประทีปทำให้กมลภพหันมามองอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ผมเห็นเธอนั่งมองหน้านายเป็นชั่วโมง
ๆ บางทีก็”
เมื่อพูดมาถึงตอนนี้..เจ้าคนสนิททำนิ่งเฉยซะดื้อ ๆ
“บางทีก็ทำไม” กมลภพถาม
อย่างนึกคันเท้าอยากถีบลูกน้องเป็นกำลัง
“บางทีแอบจูบนายทั้ง
ๆ
ที่หลับน่ะสิ..แบบนี้ถ้าไม่รักแล้วก็สงสัยเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง..คนเกลียดกันน่ะเขาจูบกันด้วยเรอะ”
ประทีปถามหน้าตาย...จนผู้เป็นนายอดไม่ได้ยันผางออกไปทันที..หมอก็ไวเหมือนปรอท..หลบได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
“แล้วทำไมไม่บอก” กมลภพพึมพำ
ด้วยความรุ้สึกเหมือนหัวใจพองโตจนคับอก
“ก็นึกว่านายรู้แล้วนะสิ..ผู้หญิงถ้าไม่รักแล้วยอมให้แตะซะที่ไหน..นี่พอเห็นนายทีไรตาคุณแก้วนี้..เฮ้อ..ไม่อยากพูด” ประทีปทำเสียงปลง ๆ
“เมียสวยหยาดฟ้ามาดินแบบนั้นน่ะหาไม่ได้ง่าย
ๆ นา..นายปล่อยไปนาน ๆ
เดี๋ยวหมามันก็คาบไปแด็กซะหรอก..นานคำรนน่ะมีปัญญาดูแลลูกที่ไหน..หมอคิดถึงแต่ผลประดยชน์นำหน้า..ดูอย่างคราวที่แล้วสิ..ถ้านายไม่ซ้อนกลเอาผมไปให้ดูมีรึมันจะพูด..มันจะรอให้ลูกถูกข่มขืนซะก่อนรึไงยังสงสัย”
“แล้วจะให้ทำไง” “ก็ไปเอาตัวกลับมา”
“เขาไม่อยากอยู่กับฉัน”
“ก็พูดไปงั้นล่ะ..ว่าแต่นายอย่าขู่จะทิ้งนักสิ..คุณแก้วแกก็กลัวว่านายต้องทิ้งเอาสักวันเลยไม่อยากอยู่ด้วยทั้ง
ๆ รักน่ะแหละ”
“แกมันรู้มากจริงนะ” “คนมองห่าง ๆ
น่ะมักจะรู้ทั้งนั้นค่ะ..นายเคยได้ยินเขาพูดไหมละว่าความรักทำให้คนตาบอดน่ะ..ทั้งนายทั้งคุณแก้วน่ะเหมือนกับคนตาบอดล่ะตอนนี้มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น..นอกจากทุกข์ในใจของตัวเอง” ประทีปสรุปสั้น ๆ
แล้วเดินออกไปให้ห่างจากบาทาของนาย
เขาอยู่ใกล้ชิดกับกมลภพมานานนับสิบปี
รู้ดีว่านิสัยนายตัวเองเป็นยังไง
กมลภพมีผู้หญิงมากมายก็จริง..แต่ก็ไม่เคยพัวพันอยู่กับใครนาน..กมลภพไม่ชอบยุ่งกับผู้หญิงของนายใหญ่ เขาชอบหาเองและมีความสัมพันธ์กับหล่อนเงียบ ๆ
ถึงกระนั้นก็ยังเลี่ยงไม่ค่อยพ้นเมื่อถูกบุกถึงห้องบ่อย ๆ
คุณแก้วเป็นผู้หญิงคนแรกที่คุณมลได้ตัวมาอย่างคาดไม่ถึงและผูกพันอยู่กับหล่อนอย่างดิ้นไม่หลุด
ถึงไม่บอก..ประทีปก็รู้ว่านายหลงรักหล่อนจนหมดหัวใจ..แม้จะชอบพูดอะไรชอบกล
ๆ ให้คุณแก้วเข้าใจผิดบ่อย ๆ ก็เถอะ
เขาเองก็ว่าจะไม่ยุ่งอยู่แ้ล้ว.หากไม่เห็นนายนั่งนิ่งปล่อยให้เขาขโมยหัวใจเอาไปต่อหน้าต่อตาล่ะก้อ...
“นายคำรนตามแกมาจากไหน”
ในที่สุด...กมลภพก็หันมาถามลูกน้อง
ประทีปยกมือขึ้นตบต้นคออย่างครุ่นคิดชั่วครู่
“จากโรงแรมกระมัง” ประทีปตอบสั้น ๆ
อีกฝ่ายพยักหน้า..แล้วถามต่อ
“พาสปอร์ตล่ะ..ตั๋วเครื่องบินด้วย”
“เรียบร้อย..รอนายอยู่เท่านั้นล่ะว่าเมื่อไหร่จะพร้อม..ที่พักสำรองทางโน้น..”นายใหญ๋”
ก็เตรียมไว้ให้เรียบร้อย” คำว่า “นายใหญ่” ทำให้กมลภพชะงัก หันมามองประทีปทันที
“มีข่าว..”นาย” รึ”
ประทีปพยักหน้าพร้อมกับดึงจดหมายออกมาส่งให้
ชายหนุ่มรับไปคลี่ออกอ่านอย่างรวดเร็ว
“พ่อ
บอกเขาว่าเวลานี้ไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแล้วหนีมือกฏหมายไปซะไกลลิบ..แต่ยังห่วงเขา
“พ่อทำบาปมามาก..ทั้งกับแม่แกและตัวแก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ะมันไม่ได้เพิ่งเกิดหรอกใช่ไหมลูก..เราเคยหนีกันมาหลายครั้งและครั้งนี้พ่อก็คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายเสียที....พ่อซื้อบ้านไว้ให้แกหลังหนึ่งโอนชื่อไว้ให้เรียบร้อย..เพื่อให้แกใช้เป็ฯที่อยู่และตั้งหลักกับผู้หญิงคนนั้น..พ่อเพิ่งมาคิดได้ว่ารวงแก้วจะหนีไปไหนได้
ถ้าไม่อยู่กับแก
แกหลอกพ่อได้แนบเนียนดีมาก..คงรักเด็กคนนั้นมากล่ะสิ แต่ก็เชื่อเถอะ พ่อไม่คิดจะทำร้ายจิตใจของแกเลย..ไม่ว่าจะเรื่องที่แกห่วงนักหนานั่นก็เถอะกว่าแกจะได้จดหมายนี่พ่อก็คงไปลิบลับแล้ว..แต่อย่าถามนะว่าจะไปไหน..จะเที่ยวไปเรื่อย
ๆ แล้วหาใครสักคนเพื่อตั้งหลักอย่างแกบ้าง...บางทีอาจจะมีลูกเล็ก ๆ
เอาตอนแก่นี่แทนแกสักคนก็ได้”
กมลภพ พ่ออาจจะไม่ใช่พ่อที่ดี..วิเศษจนแกจะถือไว้เป็นแบบฉบับ..แต่พ่อก็อยากจะบอกแกให้รู้สักอย่างว่า
พ่อเพิ่งรู้ว่าพ่อรักแกมากกว่าอะไรทั้งหมดและรักแม่ของกก
อย่างไม่เคยคิดจะรักใครได้อีก
ชายหนุ่มกวาดตาต่อไปจนจบจดหมายฉบับนั้นแล้วก็พับเก็บใส่กระเป๋า
แต่เขาจะไม่เป็นอย่างพ่อหรอก ทั้ง
ๆ ที่รู้ว่ารักแม่แล้วยังทำเหมือนไม่รัก
เขาจะไม่ยอมทิ้งให้รวงแก้วต้องอยู่คนเดียวกับลูกเด็ดขาด
ลูก..กมลภพนึกมาถึงตอนนี้แล้วหัวใจกระตุกจริงสิ...หล่อนกับเขาแทบไม่ได้ห่างกันไปไหนเลย ทุกค่ำคืน
ที่รวงแก้วอยู่ในอ้อมกอดของเขาปล่อยให้เขารักหล่อนอย่างไม่มีข้อแม้ั
แม้จะตั้งใจจะถนอมหล่อนให้มาก ๆ
แต่กมลภพก็รั้งใจของตัวเองไม่อยู่เสียด้วย
เพราะหล่อนน่ารัก น่าใคร่ไปทั้งเนื้อทั้งตัว..จะให้เขานอนมองเฉย ๆ กระไรได้
ตอนนี้ล่ะ..หล่อนมีลูกของเขาอยุ่ในท้องรึยัง
หล่อนรู้ตัวหรือเปล่า..หรือว่ารู้แล้วไม่ยอมบอก กมลภพโดดลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อคิดได้ทะลุปรุโปร่ง
หล่อนหนีเขาไม่พ้นหรอก..เขาต้องเอากลับคืนมาให้ได้ทั้งแม่ทั้งลูกถึงลูกจะไม่มีตอนนี้
เขาก็จะทำให้มีจนได้นั่นล่ะน่า..และถ้ามีลูก..หล่อนก็จะไปไหนไม่รอด สักสองสามคน
แค่นั้นล่ะ
ประทีลุกขึ้นวิ่งตามร่างสูงที่เดินลิ่ว ๆ กลับเข้าไปในบ้านแทบไม่ทัน กมลภพเปิดตู้คว้าเข็มขัุดปืนตามความเคยชิน
แต่แ้ล้วก็ต้องวางลงหันไปคว้าเสื้อผ้ามาโยนลงบนเตียงแล้วเริ่มเก็บกระเป๋า
เขาจะวางอาวุธเสียที..ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
รวงแก้วรู้สึกตัวว่าเหนื่อย..และหิวจะขาดใจ..เมื่อไปถึงโรงแรมที่พัก หญิงสาวหน้าซีด..เพลียจนแทบหมดแรงเดินหล่อนเดินผ่านเจ้าผลไม้ที่นั่งขายอยู่หน้าโรงแรม..อยากกินขึ้นมาติดหมัดทั้ง
ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน เบนถูกกระตุกให้หยุดเดิน..หันมามองหน้าสาวน้อยอย่างฉงน
“เป็นอะไรไปคุณแก้ว..ท่าทางเหนื่อยจัง..รีบเข้าเถอะเดี๋ยวก็ได้พักแล้ว”
“แก้อยากกินลางสาดจ๊ะ..ลุงเบนมีสตางค์ไหมจ๊ะ”
เบนพยักหน้าแล้วควักกระเป๋าออกมายื่นให้โดยไม่พูดอะไร
รวงแ้ก้วรับมาถือไว้อย่างพอใจ..ตอนนั้น..หล่อนอยากกินลางสาดเสียยิ่งกว่าอาหารวิเศษที่ไหนทั้งหมด
คำรนหันมามองร่างลูกและคนสนิทที่เดินตามหลังมาห่าง ๆ อย่างไม่พอใจนัก
“รีบ ๆ
เดินเข้าเถอะ..เดี๋ยวใครมันมาเห็นเข้าหรอก” เบนหันไปมองคนที่เดินตามขึ้นบันไดโรงแรมมาเงียบ
ๆ แล้วให้นึกเวทนาหล่อนอย่างบอกไม่ถูก
ความรักของคำรนที่มีต่อลูก
เหมือนกับคนที่รักสมบัติของตนแค่นั้นไม่ค่อยได้คำนึงถึงจิตใจความสำคัญ..หรืออนาทรร้อนใจสักเท่าใด..หากเพียงแต่ยังทิ้งไม่ได้
รวงแก้วเดินพ้นประตูห้องเข้าไปได้ก็นั่งลงเปิดถุงผลไม้อย่างไม่ฟังเสียงใครอีก
เบนสังเกตมองหล่อนอย่างสนใจ..ก่อนที่หัวคิ้วของเขาจะขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
สังหรณ์บางอย่างบอกเบนว่ารวงแก้วมีบางอย่างผิดปกติไป..แม้ว่าหน้าของหล่อนจะซีด เพราะเหนื่อย
แต่ผิวพรรณและลักษณะของหล่อนมันไม่บอกเลยว่ารวงแก้วจะอดอยากหรือทรมาน..ตรงกันข้าม..หล่อนดูเป็นสาวเต็มตัวขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่เดือน..และสวยบาดตาจนไม่น่าเชื่อ
เบนมองเห็นสายตาพวกที่นั่งอยุ่ที่เคาน์เตอร์เล็ก ๆ
ข้างล่างที่มองตามรวงแก้วตาเป็นมันได้อย่างดี
คำรนไม่รู้เลยว่ากำลังพาลูกเข้ามาเสี่ยงอันตรายอีกแล้ว คนเหล่านั้น
ไม่มีใครรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของมันเลยและในกลุ่มนั้น..อาจจะมีใครสักคนที่เป็นนักค้าทาสยุคคอมพิวเตอร์นี่ก็ได้
เบนยกมือขึ้นลูบคลำอาวุธปืนประจำตัว...และดึงมันออกมาตรวจ คำรนก็เช่นเดียวกันก่อนจะหันมาสบตากัน
“แกคิดว่ามันจะตามมาเอายายแก้วคืนไหม” เขาถามเบนก่อนจะสอดปืนเข้าซอง
“ที่น่ากลัวกว่านายมลคือไอ้พวกข้างล่างนั่น” เบนตอบเสียงเรียบ..ทำให้คำรนนึกถึงนัยน์ตาของพวกมันที่มองตาเขามาเป็นพรวน
“เราต้องอยู่ที่นี่อีกคืนหนึ่ง..เงินทุนจะหมดอยู่แล้ว..นายมลมันเล่นซะฉันหมดตัว..เจ็บใจมันจริง
ๆ อ้อยเข้าปากช้างแล้วเชียว”
“ถ้าช้างไม่มีลูกสาวสวย”
เบนขัดคอพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งมองรวงแก้วที่ทำท่าจะกินลางสาดแทนข้าวมื้อนั้น คำรนมองตามสายตาของเบนไปอย่างครุ่นคิดเป็นนาน
เบนขมวดคิ้ว เมื่อเห้ฯสายตาคมเล็กของคำรนมีประกายวับวามชอบกล..
“กำลังคิดอะไร”
เขาถามทันที..คำรนกระพริบตาซ่อนอะไรบางอย่างก่อนจะพูดว่า...
“ข้ามไปมาเลย์กันดีกว่าไหม...ฉันมีคนรู้จักที่นั่นคน..เป็นพ่อค้าใหญ๋รวยมากทีเดียวนะ..ระดับเจ้าเมืองซะด้วย” เบนอยู่กับคำรนมานานขนาดเรียกได้ว่าอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
พ่อค้าคนนั้นรวยมาก..ยังไม่แต่งงานก็จริง
แต่มีผู้หญิงอยู่ในบ้านเป็นโหล
คำรนกำลังคิดจะจับรวงแก้วแต่งงานละมัง..จับใส่ตะกร้าล้างน้ำใหม่..แต่เห้ฯทีจะช้าไปหน่อยซะแล้ว..เบนชายตาไปมองมือบางที่กำลังปอกผลไม้หยิบใส่ปากโดยไม่พูดไม่จาอะไรนั่น
“จะไปทำอะไรที่นั่น..เงินทุนจะหมดอยู่แล้ว” เบนถามทำเป้นคิดไม่ได้ไล่ไม่ทัน
“ก็ขอยืมเงินเขาทำทุนไงเล่าไม่ยาก..และคิดว่าต้องได้ด้วย”
แน่ล่ะ..พอหมอเห็นรวงแก้วก็คงรีบให้ทันทีล่ะ
เวรกรรมของรวงแก้วคงไม่แคล้วให้ยกัษ์ลากไป..ให้ลิงพามาซะแล้วกระมัง
เบนถอนใจอย่างค่อนข้างหงุดหงิด
“คิดให้ดีก่อนก็แล้วกัน...ถ้าเขาไม่ช่วยล่ะยุ่ง”
“เฮ้ย..เชื่อมือเถอะ...ต้องช่วยแน่นอน..แก้ว” คำรนพูดแล้วหันไปเรียกลูก
“คะ...” “อาบน้ำอาบท่าซะสิ..แล้วพักผ่อนให้เต็มที่เอาแรงเอาไว้พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันแต่เช้า” คำบอกของบิดา ทำให้รวงแก้วตื้อขึ้นมาดื้อ ๆ
วางผลไม้ในมือลงทันที..แล้วเิดินเข้าห้องน้ำเงียบ ๆ เหมือนคนไม่มีหัวใจ..
สาวน้อยเดินเข้าไปหยุดนิ่งพิงประตู..แล้วร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ..หล่อนเพิ่งบอกตัวเองเดี๋ยวนี้เองว่า..อยากกลับไปหาเขา..กลับไปอยู่กับเขา..กมลภพ
แต่ไม่มีทางเสียแล้ว..เส้นทางชีิวตของหล่อนกำลังจะแยกจากเขาไปทุกที..และจะขนานกันไปตลอดชีวิต
เขาคงจะโล่งใจที่พ่อมาแยกหล่อนไปซะได้..และเขาก็จะได้เป็นอิสระไม่ต้องมีหล่อนเป็นห่วงห้อยคอ..ความเหนื่อยทำให้รวงแก้วทนอยู่ไม่ได้นาน หล่อนอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาทรุดตัวลงบนเตียง..และหลับไปในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากนั้น
คำรนสั่งอาหารและเครื่องดื่มขึ้นมาบนห้อง..หลังจากนั้นก็รู้สึกง่้วงจนบอกไม่ถูก
เบนเองก็รุ้สึกตัวอย่างแปลกใจ และค่อนข้างตกใจ
อะไรบางอย่างบอกเขาว่าตัวเองต้องถูกวางยาแน่นอน
เฒ่าเบนรุ้สึกตัว ขณะที่ตนเองเริ่มนั่งโงนเงนไปมาจนทรงตัวไม่ได้อยุ่แล้ว
และคำรน ก็ฟุบลงไปก่อน
เบนหันไปมองร่างหลานสาวที่หลับเงียบอยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วงสุดหัวใจ
เขาพยายามลุกขึ้น..เดินเข้าไปในห้องน้ำไม่ได้..เขาหลับไม่ได้..อันตราย..อันตรายจะเกิดขึ้นกับรวงแก้วแน่นอน เขาซุกหัวลงไปในอ่างน้ำ
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสะบัดศรษะที่เปียกปอนไปมาแรง ๆ
ซุกมือลงไปดึงปืนขึ้นมาถือไว้ในมือ
เขาจะฆ่าทุกคนที่โผล่เข้ามาในห้อง..เบนพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างลำบาก
แต่แล้วฤทธิ์ยาที่รุนแรงและมีมากกว่าก็สยบเสือเฒ่าลงไปจนได้ในที่สุด ปืนหลุดจากมือ
ร่างเตี้ย ๆ หมดสติลงคาบานประตูห้องน้ำนั่นเอง..
สิบนาทีต่อมา..บานประตูห้องก็เปิดออกด้วยฝีมือบ๋อยที่ทำอาหารมาให้นั่นเอง มันเดินเข้ามาพร้อมกับ ลูกน้องอีกสองคน
ไปหยุดอยู่หน้าเตียงที่รวงแก้วนอนหงาย..ห่มผ้าคลุมอกหายใจระรวยอย่างไม่รู้เรื่องนั้น
“มึงเคยเห็นผู้หญิงคนไหนสวยเท่านี้ไหมวะ”
มันหันไปถามเพื่อนที่เดินมาหยุดมองหล่อนอย่างพิกล
“อุ้มออกไป
เดี๋ยวกูจะจัดการเอาไอ้แก่สองคนนี่ไปทิ้งข้างถนน” รวงแก้วสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ
ก็รู้สึกว่าร่างของตนลอยลิ่วขึ้นจากเตียงนอน
หล่อนปรือตาขึ้นมองอย่างตกใจ..พอเห็นหน้าคนแปลกหน้าก็สะอึกดิ้นพรวด
“เฮ้ย..ผู้หญิงไม่ได้กินยา”
เจ้าคนอุ้มหันมาโวยทันที..ขณะที่รวงแก้วกรีดเสียงร้องขึ้นทันที
โดยสัญชาตญาณแห่งการป้องกันตัว เจ้าคนใกล้
ๆ ตะครุบหมับลงมาบนครึ่งปากครึ่งจมูกของหล่อน
ขณะที่คนอุ้มปล่อยร่างรวงแก้วแล้วกระแทกกำปั้นหนัก ๆ ของมันเข้าที่หน้าท้องหล่อนเต็มแรง
รวงแก้วเจ็บจนร้องไม่ออก..ขาอ่อน..หมดแรงที่จะทรงตัว..ทั้ง ๆ ที่ยังมีสติ..
หล่อนทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกอุ้มออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว..ดดยคำรนและเบนก็ถูกลากออกไปลักษณะเดียวกัน..
“ใจเย็น ๆ
น่าเจ้านาย..เดี๋ยวก็รู้ว่าอยู่ไหน” ประทีปปลอบใจ..เมื่อเห็นว่ากมลภพชักจะนั่งไม่ติดเข้าทุกที ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปมา
เหมือนหนูติดจั่นอยู่ในโรงแรมชั้นหนึ่งภายในเมืองนั่นเอง สิ้นเสียงปลอบของประทีปไม่ทันไร..กริ่งโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น
“ว่าไง” ประทีป..ซึ่งนั่งอยู่ใกล้กว่า
ยกหูขึ้นมากรอกเสียงลงไป
“อะไรนะ..อยู่ไหนนะ”
คราวนี้ลูกน้องกมลภพทำเสียงเหมือนถูกเข็มแทงเล่นเอาลูกพี่ชะงักกึก
เดินกลับมาทันที
“อยู่ไหน”
ประทีปปิดปากกระบอกโทรศัพท์แล้วพูดว่า
“อยู่โรงแรมจิ้งหรีด”
แค่คำตอบ..ก็ทำให้คนฟังเย็นเยือกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“ที่นั่นมันค้าผู้หญิงนี่..คำรนบ้ารึเปล่า” กมลภพคำราม ออกมาลั่น
ประทีปรีบยันมือเบรคลูกพี่เอาไว้แล้วสั่งลงโทรศัพท์ไปอย่างรวดเร็ว “เรียกคนมาแล้วบุกเข้าไปค้นให้ได้ตัวเดี๋ยวนี้..ใครขวางไม่ต้องเอามันไว้”
คำสั่งของเขาดูจะถูกใจกมลภพ
เพราะร่างสูงของเจ้านายหมุนตัวเดินตรงไปยังกระเป๋าเสื้อผ้า..เทดครมเดียวทุกอย่างออกมาพ้นกระป๋าเหลือ
แต่สิ่งที่อยู่ข้างใต้เสื้อซึ่งถูกยึดไว้ด้วยเข็มขัดและชั้นซ่อนอย่างดี
กมลภพเห็นปืนกระบอกหนึ่งเข้าข้างหลัง..แล้วคาดเข็มขัดอีกกระบอกเข้าที่ซอกรักแร้..ใส่เสื้อเจ็กเก็ตคลุมทับอีกชั้น..ก่อนจะเดินลิ่ว
ๆ ตรงไปยังประตูห้อง..ประทีปวางโทรศัพท์แล้ววิ่งตามไปอย่างกระชั้นชิด
โกเจ้าของโรงแรมนั่งยิ้ม
เมื่อเห้ฯคนของมันพาร่างไม่ได้สติของผู้หญิงที่มันมองตามตาค้างเมื่อเห็นหล่อนเดินเข้ามาครั้งแรกนั่นเข้ามาวางไว้ในห้องได้เรียบร้อย
ร่างผอมเกร็งของมันลุกขึ้นมายืนเท้าคางปราดสายตามองหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
แล้วตามด้วยประโยคเดียวกันว่า
“มึงเคยเห็นผู้หญิงสักกี่คนวะที่สวยแบบนี้..ส่งไปทางโน้นคงได้ราคาดีไม่มีใครสู้เชียวมึงเอ๊ย”
“แล้วโกไม่ชิมซะก่อนเรอะ..น่าเสียดายนะแบบนี้”
“มันจะเสียราคา..แบบนี้น่ะใคร
ๆ เขาก็อยากเป็นมือหนึ่งทั้งนั้นล่ะวะ..คุ้มน่ะมึง”
“แล้วจะเอาไปเมื่อไหร่”
ตอนที่
10
“เตรียมรถ..กูจะเอาไปคืนนี้ล่ะ..พวกมึงอยู่ดุทางนี้ก็แล้วกัน”
ลูกน้องตอบรับคำแล้วพากันแยกย้ายออกไปข้างนอก
ขณะนั้นเองทุกคนก็ต้องชะงัก..เมื่อเห็นหน้าคนที่เดินอยุ่บนทางเดียวกัน แต่มันไม่ปรารถนาจะเจอลูกน้องของประทีป
ร่วมสิบคน เดินส่ายอาด ๆ เข้ามาในโรงแรม
เจ้าบ๋อยตัวแสบถอยกรูดกลับเข้าไปหาลูกพี่ทันที
“โก..ไอ้เม้งมันทำอะไรแถวนี้ไม่รู้
ยกกันมาเป็นขบวนเลย”
“โก”
หันรีหันขวางขึ้นมาอย่างสงสัย
“มึงออกไปรับเอาไว้..ถามว่ามันจะเอาอะไร...ให้
ๆ มันไป
อย่าปล่อยให้มันเข้ามาในนี้เด็ดขาด” บ๋อยเจ้าเล่ห์พยักหน้าวิ่งพรวดออกไปดักหน้า “เม้ง” และพลพรรคของเขาทันที
“หวัดดีครับพี่เม้ง..วันนี้มาถึงนี่เชียว..จะให้ช่วยอะไรหรือครับ” “จะหาคนหน่อย”
“หาใครครับ” คนถามทำหน้าตื่น “ผู้ชายแก่สองคน..ผู้หญิงอีกหนึ่ง”
“เอ๋..รู้สึกจะไม่มีนะพี่เม้ง” มันตอบหน้าซื่อ
“อย่าโกหก..สายบาอว่าพวกนั้นเข้ามาัพักที่นี่..บอกมาว่าอยู่ห้องไหน”
“ก็..มาแล้ว..แต่ไปแล้วครับ..ไม่เชื่อพี่ขึ้นไปดูได้เลยไม่มีสักคน..ค้ันทุกห้องก็ได้” เม้งไม่รอช้า..พยักหน้าให้ลูกน้องขึ้นค้นทันที..ส่วนตัวเองหันมาเ่ล่นงานบ๋อยหุ่นจิ้งจกต่อ
“โกของเอ็งอยู่ไหน” “ก็..มะ....มะ..ไม่อยู่นะพี่”
“ไปไหน” “ปะ..ปะ...ไปข้างนอกครับพี่”
“นานรึยัง” “นะ...นะ...นะ...นายแล้ว”
ฟังมันพูดจบเม้งก็ฟาดโครมเข้าที่ใบหน้าเสี้ยม ๆ นั้นเต็มแรง เลือดแดง ๆ ออกมากลบปากกลบจมูกมันทันที
“เอ็งโกหกอีกแล้วไอ้ตัวดี..โกของเอ็งยังอยู่ในนี้ยังไม่ได้ออกไปไหนทั้งนั้นในชั่วโมงที่ผ่านมานี่..บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าอยู่ตรงไหน”
“ผะ..ผมไม่รู้”
เจ้าบ๋อยพยายามทำตัวเองให้จงรักภักดีต่อนายเป็นที่สุด...แต่เผอิญไม่สำเร็จ เพราะเม้งเกิดเบื่อจะถามให้เสียเวลาต่อไป
มันหยิบปืนออกมาจากขอบกางเกงแล้วยัดเข้าไปที่ใต้คางเจ้าบ๋อยวายร้ายนั่น
“เอาล่ะ...ในเมื่อไม่รู้ซักอย่างเอ็งก็ไม่ควรอยู่เป็นคนเลย..ลงไปตอบคำถามยมพบาลในนรกซะดีกว่า” โดนเข้าเช่นนั้น..เจ้าจิ้งจกถึงกับสะอึก..อ้าปากตาลีตาเหลือกทันที
“อย่าพี่เม้ง..อย่า
ๆ อยู่นั่นแล้วครับ..อยู่นั่น” “โก”
พอมันเดินออกมาจากห้องพักเข้าเผชิญหน้ากับอันธพาลประจำถิ่นอย่างระวังตัวด้วยท่าทีที่ไม่ยอมลงให้นัก
“มีอะไรอาเม้ง..ทำไมลื้อต้องทำแบบนั้นกับคนของอั๊วด้วย”
“ผู้ชายแก่กับผู้หญิงนั่นอยู่ที่ไหน” “ลื้อพูดถึงใครกัน..อั๊วไม่รู้เรื่อง”
“สายของอั๊วรายงานว่าคนพวกนั้นเข้ามาพักในโรงแรมลื้อ..และยังไม่ออกไปไหนเลย
ทำไมบอกว่าออกไปแล้ว”
“ก็คงออกไปตอนสายของลื้อมันเข้าส้วมสิวะ”
“โก” ตอบอย่างโมโห..แล้วกวาดตามองลูกน้องของเม้งซึ่งเดินส่ายหน้าลงมาเป็นแถว
“ไม่รู้จริง
ๆ หรือโก”
เม้งคาดคั้น “เออ..ไม่รู้”
“แบบนี้ก็ต้องพูดกันนานนะ..เจ้านายคงไม่ยอมใ้ห้โกได้ทำมาหากินต่อไปแน่”
“เจ้านายอะไรของเอ็ง” “เดี๋ยวก็รู้”
เมื่อพูดไม่ทันขาดคำ รถเก๋งสีดำสนิทก็จอดลงที่หน้าโรงแรมแล้วร่างสูง
ๆ ของกมลภพและประทีปก็เดินตามกันเข้ามา “โก” ไม่รู้จักสองคนนี้
แต่ก็รู้ว่าคงมีความสำคัญไม่น้อยเลยในวง “ยุทธจัก” ที่พวกมันอาศัยอยู่
กมลภพเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเม้งและโก...แล้วถามเสียงเรียบ
“ผู้หญิงอยู่ที่ไหน”
สั้น..และบอกให้โกรู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร หน้า่ของ “โก” เผือดสี..เมื่อรู้ว่าทุกคนกำลังหาอะไร
“จะบอกเองหรือจะให้เราหาหลังจากปังแกแล้ว”ประทีปถามอีกประโยคอยู่ข้างหลังพร้อมทั้งปืนที่จี้เข้าไปแทบท้ายทอย “โก” กลืนน้ำลายลงไปอย่างยากเย็น
ก่อนจะตอบเสียงแผ่วว่า
“อยู่..ในห้อง..ยังไม่เป็นไร”
มันต่อวลีหลังออกมาอย่างรวดเร็ว..อย่างน้อยก็เพื่อชีวิตของตนเอง
กมลภพหมุนตัวตามมือชี้ของเม้งเดินตรงเข้าไปทันที....ภาพที่เห้ฯตรงหน้า..รวงแก้วนอนสงบนิ่ง..ไม่ไหวติง... ชายหนุ่มทรุดร่างลงตรงหน้าหล่อน..แล้วค่อย ๆ
ช้อนอุ้มขึ้นอย่างถนอม..เขาเห็นด้วยตาว่าหล่อนยังไม่เป็นไร แต่ก็ไม่คิดจะให้อภัยกับคนที่ “พยายาม” ทำร้ายหล่อน..
ประทีปและทุกคนหลีกทางให้เขาพารวงแก้วออกไปจากที่นั่น..ขณะที่ลูกน้องของเม้งอีกสองคนโผล่เข้ามาจากต้นหลังโรงแรม..
“เราเจอคนแก่สองคน..สลบอยู่ข้างโกดังเก็บของใช่หรือเปล่า”
ประทีปขยับตัวเดินตามไปทันที..และถอนใจยาวเมื่อเห็นหน้าของคำรนและเบน
“ใช่..พาไปขึ้นรถทีสิ”
ไม่ช้า..รถคันที่กมลภพนิ่งกับประทีปก็เลี้ยวออกมาจากโรงแรมนรกแห่งนั้น
“ตึกมันซอมซ่อเต็มทีแล้วนะประทีป” กมลภพว่า
“ตึกไหน” ประทีปถามอย่างงง ๆๆ “ก็ตึกของไอ้โกไง” คำตอบของนายทำให้ประทีปกระพริบตา
“แล้วมันก็อยู่โดดเดี่ยวซะด้วย”
ประทีปพยายามเข้าใจคำพูดของนายให้ชัดเจนและเร็วยิ่งขึ้น
“ฉันอยากให้มันเลิกค้าขายแบบนี้ซะทีน่ะ” กมลภพสรุปสั้น ๆ
ให้ประทีปเข้าใจ..ประทีปหันไปมองตึกอาโกที่กำลังจะลับไปจากสายตาแล้วหันมาบอกลูกพี่ว่า
“ไม่ยากเท่าไหร่หรอกครับ” “ดี”
กมลภพพูดสั้น ๆ แล้วก้มหน้าลงมองร่างที่ทอดนิ่งอยู่ในอ้อมแขน
เมื่อลืมตาขึ้นคราวนี้คำรนและเบนมีความรู้สึกว่าความเป็นตัวของตัวเองได้สูญสิ้นไปด้วย
เมื่อเห็นกมลภพมายืินอยู่ตรงหน้่า และเมื่อกวาดตาไปรอบ ๆ
ก็รู้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ในจังหวัดเดิม..โรงแรมเิดิมอีกต่อไป ช่วงเวลายี่สิบชั่วโมงที่ผ่านมา..กมลภพทำอะไรหลายอย่าง..พร้อมกับตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตตัวเขาได้เรียบร้อย....
“ลุกขึ้นมาคุยกันหน่อยสิ..คุณนอนมานานพอควรแล้วล่ะ” เบนค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งพยายามขับไล่ความง่วงงุน
เพราะฤทธิ์ยาที่ยังตกค้างอยู่เต็มที่
“กาแฟสสักหน่อยสิ..ขม
ๆ ช่วยได้ดีนะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าไปให้ลูกน้องเลื่อนเหยือกกาแฟที่ชงสำเร็ฺจแล้วเข้ามาให้พร้อมถ้วยเรียบร้อย เบนหันไปช่วยดึงคำรนให้ลุกขึ้นนั่งในลักษณะเีดียวกัน
“คุณแก้ว”
เบนเรียกหารวงแก้ว..เมื่อนึกขึ้นมาได้
“แก้วปลอดภัยดี..ไม่ต้องห่วง..เธออยู่กับผม”
เบนถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“แกมอมยาฉันรึไง” คำรนถามทันทีที่ลืมได้เต็มที่..
“ถ้าฉันทำเองล่ะก็งงตอนนี้คนแก่โง่
ๆ
ทั้งสองคนยังอยู่ในโรงแรมสับปะรังเคโน่น..เข้าไปได้ยังไงไม่รู้รึว่ามันอันตรายขนาดไหน”
เขาถามเสียงเครียด..มองคนตรงหน้าอย่างตำหนิ
“ผมไม่สนใจเลยถ้าคุณสองคนจะถูกมันเอาไปขายแต่ทำไมต้องลากเม่ียผมไปเป็นเหยี่อมันด้วย”
กมลภพพูดต่อเพื่อทำให้คำรนรู้สึกตัวซะบ้าง
“ลูกสาวฉันอยู่ไหน” คำรนถามใหม่ “เธอปลอดภัยกว่าอยู่กับคุณก็แล้วกัน”
กมลภพตอกกลับมาอย่างไม่สนใจ
“คิดว่ามีเงินในกระเป๋าแค่นั้นจะพาแก้วไปได้ถึงไหน..เอาไปขายให้กับใครต่อดีล่ะ..ถึงจะได้มาก
ๆ น่ะ”
“ฉันไม่ให้แกก็แล้วกัน” คำรนพูดอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันก็ไม่คิดจะขอให้เสียเวลา..ที่รออยู่จนตื่นนี่อยากถามอยู่สองอย่างเท่านั้นล่ะ”
“อะไร” เบนถามสั้น ๆ
พลางเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย
ดวงตาของเขากวาดไปทั่วดวงหน้าคล้ำคม..รอบ ๆ
ขอบตาดำ..ผมยุ่งเหยิง..แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวยังไม่ได้หลับสักงีบเลยนั่น
“จะอยู่ช่วยกันดูแลหุบเขานี่....หรือจะเอาเงินออกไปล่องลอยหลอกล่อเขาต่อไปอีก” คำถามของกมลภพสั้น แต่ได้ใจความสมบูรณ์อยู่ในตัวของมัน คำรนหันมามองเบนและรับกาแฟจิบเงียบ ๆ
“ฉันจะไปจากนี่พร้อมกับลูกของฉัน..ยายแก้วอยู่ไหน”
“แก้วจะไม่ไปจากนี่หรอกนะคุณคำรน..และจะไม่มีวันได้เห็นหน้าคุณอีกด้วยตราบใดที่มีความคิดแบบนั้น”
“แกจะขังฉันไว้รึไง”
“ถ้าจำเป็น...จนกว่าเราจะไปกันจากที่นี่แล้ว” “ไปไหน” คำรนถามอย่างฉงน
“เราจะไปเริ่มต้นกันใหม่ที่อื่น” “เมืองนอก” คำรนถามเสียงสูง
“ไม่ผิดหรอก”
คำตอบของกมลภพทำให้ทั้งคู่นิ่งงัน...เงียบกริบ..
“แกจะเอายายแก้วไปทิ้งขว้างน่ะสิ”
“เรื่องนั้นน่ะอย่าคิดเลย..ฉันดูแลแก้วได้ดีกว่าคุณ...ที่เกิดเรื่องมาทุกครั้งยังคิดว่าตัวเองดูแลแก้วได้ดีกว่างั้นรึ”
“แล้วถ้าเราอยู่ที่นี่ล่ะ” เบนถามขึ้นมั่ง
“ก็..ช่วยดูแลเรือกสวนไร่นาให้ผมด้วย..ยกเป็นสิทธิ์ขาดแค่คุณสองคน..สำหรับประทีป..ก็จะกลับไปที่
ๆ เขาเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่ง”
“เรามีสิทธิ์ขาดงั้นหรือ” “แน่นอน”
กมลภพอธิบาย
“แค่นี้ล่ะที่จะบอกให้คุณสองคนลองคิดดู..แต่อย่าคิดพยากแก้วไปจากผมอีก เพราะคราวนี้
ผมเอาคุณตายเด็ดขาด...และคุณต้องตายด้วย”
กมลภพยื่นคำขาดสั้น ๆ
ก่อนจะเดินออกไปนอกกระท่อมเล็ก ๆ
หลังนั้นทิ้งคำรนและเบนให้อยู่ในสายตาของคนของเขารอบ ๆ บ้านต่อไป
รวงแก้วรู้สึกตัวขึ้นมานั่งมองไปรอบ ๆ ห้องที่เคยคุ้น..แล้วกระพริบตาปริบ ๆ
นี่มันห้องที่บ้านในหุบเขานี่นา..หล่อนบอกตัวเองแล้วลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
พยายามลำดับเรื่องราวที่ผ่านไปก่อนจะหมดสติลงแล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างตกใจ
นี่เกิดอะไรขึ้น...กมลภพส่งคนไปเอาตัวหล่อนมาอีกจนได้จริง ๆ หรือ
และยังไม่ทันที่หญิงสาวจะคิดอะไรต่อ..คนที่หล่อนคิดถึงก็เดินผ่านประตูเข้ามาเงียบ
ๆ ตาเข้มคมของเขาสบกับตาหล่อนนิ่งชั่วครู่
ก่อนจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปเฉย...
รวงแก้วรีบลุกขึ้นจากเตียง..ตามไปได้สองสามก้าวก็เปลี่ยนใจ..หมุนตัวตรงไปที่หน้าประตูแล้วเปิดออกประทีปอยู่ตรงนั้น..เขาทรงตัวลุกขึ้นยืนทันทีที่หันมาเห็นหล่อน
“คุณแก้วจะไปไหนครับ”
รวงแก้วถอยหลังกลับ..รู้ทันทีว่ากำลังถูกคุมตัวอีกแล้ว ประทีปอ่านสายตาของหล่อนออก..จึงรีบแก้ตัว
“ผมไม่ได้มาเฝ้านะครับ..คุณมลสั่งให้รออยู่เท่านั้น..ถ้าคุณแก้วจะไปข้่างนอก..ก็เชิญได้..ตามสบาย”
เขาเบี่ยงตัวเองหลบไปแล้วผายมือให้ทางหล่อน
รวงแก้วส่ายหน้าพร้อมกับถามเขาว่า “พ่อฉันกับลุงเบนล่ะ”
“อ๋อ” ประทีปพยักหน้า..แล้วชี้ไปยังกระท่อมหลังหนึ่งที่ปลูกอยู่ไม่ห่าง”
“อยู่ในนั้นครับ...ตื่นแล้ว..แต่ัยังไม่สร่างดี”
“พ่อเมาแล้วหรือ” หล่อนถามอย่างตกใจ
“ไม่ใช่ครับ..เมายาน่ะ..ยานอนหลับ..เจ้าของโรงแรมมันมอมยาพวกคุณ..จะเอาตัวคุณแก้วไปขาย”
“อะไรนะ”
หล่อนพึมพำอย่างตกใจนึกถึงรอยแสยะยิ้มของเจ้าบ๋อยคนนั้น...และพรรคพวกของมันที่ทำร้ายหล่อนจนสลบได้.. ถ้าเป็นคนของกมลภพ..คนเหล่านี้จะไม่มีวันทำให้หล่อนเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ
รวงแก้ว..ค่อยเข้าใจมากขึ้น
ขณะที่ประทีปพูดต่อ
“คุณมลตามหาซะแทบคลั่ง..กว่าจะได้ตัวก็แทบจะฆ่าไอ้โกเจ้าของโรงแรมซะแล้ว..ถ้ามันไม่พูดล่ะคุณมลยิงกบาลมันแน่”
รวงแก้วยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจอีกเป็ฯครั้งที่สอง..แล้วถอยเข้าห้อง..เอาหลังพิงประตูที่ปิดลงอีกครั้งอย่างเงียบกริบ..นี่หล่อนเป็นหนี้บุญคุณเขาอีกแล้วสินะ..เขาช่วยให้หล่อนหลุดรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้อีกครั้ง..
รวงแก้วถอนใจยาวเดินโผเผมาทรุดนั่งลงปลายเตียง...รอจนกระทั่งเขาอาบน้ำออกมาเรียบร้อย..หล่อนก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินสวนเข้าไปมั่ง ตอนนี้รวงแก้วยังไม่อยากพูดกับเขาหรอก
เพราะไม่รู้จะพูดอะไรกลัวเขาจะบอกไล่หล่อนและพ่อไปให้พ้นจากที่นี่หลังจากฟื้นและพ้นอันตรายแล้ว
รวงแก้วบอกตัวเองว่าตอนนี้ยังไม่อยากไปไหน..หล่อนอยากอยู่ที่นี่..อยู่เงียบ
ๆ และอยู่ใกล้ ๆ เขา..ไม่อยากออกไปเผชิญอันตรายตามลำพังที่ไหนอีกแล้ว
หล่อนจะรอ..รอจนกว่าเขาจะทิ้งหล่อน..หรือไม่อีกทีก็ต้องทำให้เขาทิ้งไม่ได้...ทำยังไง รวงแก้วนึก
ขณะที่เงยหน้าขึ้นรับน้ำฝักบัวที่สาดลงมาเป็นละอองละเอียดกระจายไปทั่วร่างระหง ขณะที่คิด..ฝ่ามือของหล่อนก็ลูบลงมาตามหน้่าท้องตนเองโดยไม่ตั้งใจ
“ลูกไง” สำนึกบางอย่างบอกรวงแก้ว..
“ลูกนี่ล่ะที่จะทำให้เขาทิ้งรวงแก้วไม่ได้...เพราะเขารักแม่เขามาก..กมลภพต้องไม่กล้าทิ้งผู้หญิงที่เป็ฯแม่ของลูกตัวเองแน่
ๆ “
รวงแก้วถอนใจยาว..เมื่อคว้าสบู่มาถูตัว..รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อมองหาทางจะจับเขาไว้ได้สำเร็จ
แต่ตอนนี้หล่อนมีลูกรึยังล่ะ..คำถามหนึ่งดังขึ้นมาอีก..มีหรือเปล่า
รวงแก้วยักไหล่ให้ตัวเองเป็นคำตอบ
หล่อนรู้ว่ากมลภพมีจุดอ่อนเรื่องผู้หญิง..ลองให้เขาเข้าใกล้หรือได้อยู่ลำพังกับรวงแก้วอีกสักพักเถอะ..รวงแก้วจะมีลูกให้ได้เลยทีเดียว ร่างบางสะท้านขึ้นมาชั่ววูบ..เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนกำลังจะทำ
รวงแก้วสะบัดหน้า..ทำไงได้ล่ะ..รวงแก้วรักเขานี่นา
และตระหนักแน่แก่ใจในวินาทีนี้แล้วว่าคงขาดเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นเห็ฯทีจะต้องใช้มายาผู้หญิงที่ใคร ๆ
เขาว่ามีเป็ฯร้อยเป็นพันเล่มเกวียนซะทีล่ะ
เมื่อหล่อนปิดน้ำแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาซับหยาดน้ำมองดูตัวเองในกระจก
รวงแก้วเห็นผู้หญิงผิวนวล..สูงโปร่ง..หน้าหวานสะอาดเอี่ยมนวลระหงกมลกลึงไปตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า..เอาเหอะน่า
เขาเคยทำท่าหลงรวงแก้วอยู่พักหนึ่งแล้วนี่นา..ทำไมจะทำให้หลงจนไปไหนไม่รอดให้ได้อีกล่ะ..เพื่อตัวเองและลูกไง
รวงแก้วถอนใจยาว เมื่อตัดสินใจเด็ดขาด..พันผ้ากระโจมอกไว้หลวม ๆ
แล้วเดินออกจากห้อง กมลภพรออยู่แล้วจริง ๆ
นอนนิ่งอยู่บนเตียงมองหล่อนด้วยดวงตาคมกริบ..เป็นประกายวับวามกราดไปทั่วทุกส่วนสัดของรวงแก้ว ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
สาวน้อยลอบกลืนน้ำลายอย่างลำบาก..ทั้ง
ๆ ที่ตั้งใจออกมาแล้วดิบดีแต่พอเจอเขาเข้าจริง ๆ
ความกล้าเมื่อกี้ของรวงแก้วไม่รู้หายไปไหนหมด
หล่อนมองเขานิ่ง..อย่างปลงไม่ตกขึ้นมาอีก..สองจิตสองใจไม่รู้ว่าจะเข้าไปหาดี..หรือถอยไปตั้งหลักใหม่ดี แต่กมลภพก็เป็นฝ่ายตัดสินใจใ้ห้เองในที่สุด..เมื่อเขาลุกขึ้นเดินอ้อมเตียงมาหาหล่อน
“เป็นยังไงบ้าง...มันรังแกเอาหรือเปล่า”
เขาถามอย่างเป็นห่วง..หล่อนส่ายหน้า..แก้มแดงขึ้นทันทีที่เขามาหยุดยืนอยู่ชิดร่าง
รวงแก้วเงยหน้าขึ้นจ้องนิ่งไปที่อกกว้าง..แน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเต็มตึงของคนมีสุขภาพสมบูรณ์เต็มที่..ไม่มีไขมันส่วนเกินตรงไหนในตัวอขงเขาเลย
ดวงตาของสาวน้อยมองสูงขึ้นไต่ไปตามบ่าไหล่อันมั่นคงขึ้นไปหาดวงหน้าเรียว..คางเป้นสัน..โหนกแก้มสูงดวงตาใต้คิ้วดกดำคมกริบนั้นกำลังมองลงมาหาหล่อนด้วยประกายวาววามบ่งอารมณ์รักและปรารถนาท่วมท้น
โอย..นี่รวงแก้วเป้ฯอะไรไป..ทำมไถึงสั่นได้ขนาดนี้..เพียงแต่มายืนอยู่ตรงหน้าเขา..ให้เขาได้มองด้วยสายตาเรียกร้องหล่อนเท่านี้น่ะหรือ
กมลภพยกมือขึ้นสอดเข้าไปรั้งเอวบางของหล่อนเข้ามาใกล้..ฝ่ามืออีกข้างสอดเข้าไปลูบไ้ล้ซอกคอระหงกมลกลึงแผ่วเบา
เขาไม่พูดอะไรสักคำ..เอาแต่มองหล่อน..จ้องหล่อนและเริ่มลูบคลำหล่อน
ปลายนิ้วอุ่นไล่เรื่อยลงมาตามบ่าไหล่นุ่มนิ่ม..บอบบาง..จนถึงปลีแขนอรชร..แล้วดึงหล่อนเข้าไปใกล้อีกจนแนบชิดกันไปทั้งร่าง อกนุ่มแนบอกกว้าง..ตะโพกเต็มตึงแนบไปกับต้นขาแข็งแรงบึกบึน
ริมฝีปากของเขาจรดลงที่หน้าผาก
แล้วไล่เรื่อยลงมาตามข้างแก้ม..จมูกโ่ด่งกดลงสูดความหอมจากนวลแก้มเข้าไปเก็บไว้ในปอดเต็มอึดใจ
“บอกแล้วไงว่าจะต้องตามกลับมาให้ได้..และต่อจากนี้จะไม่ปล่อยให้พ้นมือไปอีกที”
รวงแก้วฟังแล้วได้แต่ภาวนาในใจว่าขอให้เขาพูดจริง ๆ ทีเถอะ
หล่อนหลับตา
เมื่อเขาจุมพิตที่เปลือกตาทั้งสองข้างแล้วไล่เรื่อย ๆ ลงมาถึงริมฝีปาก
กมลภพบดเคล้าริมฝีปากร้อนรุมกับเรียวปากนุ่มของหล่อนอย่างหิวกระหายและโหยหา
“อย่าทิ้งฉันอีกนะรวงแก้ว..อย่าจากฉันไปอีก..ฉันทนไม่ได้”
ลำแขนของเขากอดรัดหล่อนแนบแน่น
พร้อมกับพึมพำประดยคที่ทำให้รวงแก้วต้องแปลกใจ..และไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
รวงแก้วอยากจะบอกเหลือเกินว่าหล่อนไม่อยากจากเขาไปเลย..อยากอยู่กับเขา..หล่อนกลัวเขาจะทิ้งเมื่อยามเบื่อเท่านั้น
ฝ่ามือรุมร้อนของเขาลูกไปทั่วแผ่นหลัง..ก่อนจะมาด้านหน้าแล้วปลดปมผ้าขนหนูให้หลุดออก..รวงแก้วสะท้าน...เบียดร่างเข้าหาเขาแนบแน่นเพื่อซ่อนตัวจากดวงตาคมกริบที่จ้องมองมาราวจะเล้าโลมหล่อนแทนมืออุ่นของเขาก็ว่าได้
กมลภพยอ่เข่าลงเพื่อช้อนหล่อนให้ลอยขึ้นในวงแขนตรงไปยังเตียงใกล้ ๆ
วางร่างระหงลงแล้วกระตุกผ้าเช็ดตัวผืนนั้นเหวี่ยงหวืดเดียวหายวับไปกับตา รวงแก้วมือสั่น..ตัวสั่นขึ้นมาดื้อ ๆ
มือที่วางลงกับที่นอนทั้งสองข้างกำจิกลงไปในผ้าปูที่อนอนแน่น ขณะที่เคลื่อนตัวหนีเขาโดยอัตโนมัติ
ชายหนุ่มคว้าข้อเท้าหล่อนเอาไว้ได้..และยึดไว้เช่นนั้น..เขาใช้ลำตัวของตนเองบังคับหล่อนให้ทอดกายลงกับฟูกเย็นเฉียบ..วางศีรษะลงบนหมอนฟูนุ่ม..ก่อนจะเลื่อนลำแขนแข็งแรงสอดเข้ารอบเอวเล็กแล้วกอดหล่อนไว้กระชับ..
“สัญญาได้ไหมรวงแก้ว..สัญญาว่าจะไม่ไปจากฉัน”
“ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่ทิ้งฉัน..และไม่ปล่อย..ให้ใครรังแกฉันค่ะ”
“ฉันไม่เคยคิดจะทิ้งเธอเลย..และไม่คิดปล่อยให้ไอ้หน้าไหนมาแตะแม้แต่ปลายเล็บด้วย” เขาแก้
“แต่คุณเคยทำ” “ไม่เคย..เธอเข้าใจผิด..ฉีันกลับมารับตอนค่ำคิดว่าคอยปลอดคนหน่อย..เพราะประทีปมันก็เฝ้าอยู่แล้วที่ไหนได้..เธอหนีไปซะตั้งแต่ก่อนเี่ที่ยง..ไปกับเด็กกลุ่มนั้น..ผ่านรถฉันไป..ฉันก็เห็ฯ..แต่นึกไม่ถึงจริง
ๆ ว่าจะเป็ฯเธอไปได้..จนกระทั่งเข้ามาเห้นผมของเธอที่ตัดทิ้งเอาไว้..รู้ไหมรวงแก้วเธอทำเอาฉันแทบคลั่ง..ห่วงเหลือเกิน..รู้บ้างไหม” น้ำเสียงของเขาทั้งตัดพ้อ
ต่อว่า..และเป็นห่วงเป็นใยสารพัดอย่างที่หล่อนไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน
“แล้วครั้งที่สองล่ะคะ...คุณทิ้งฉันไว้ที่โรงแรมปล่อยให้คนไปเอาตัวไปกักไว้ที่โน่น..คนของคุณคนหนึ่งก็พยายามจะวุ่นวายกับฉัน..ดีแต่ว่าอีกสองคนไม่เล่นด้วยคุณคิดหรือเะปล่าว่าถ้าเขาเกิดรวมหัวกินฉันจะเป็นยังไง”
คำพูดของหล่อนทำให้กมลภพนิ่งอึ้งไปนาน..กว่าจะถามออกมาได้ว่า
“ใคร” เขาถามสั้น ๆ
แต่รวงแก้วรู้โดยสัญชาตญาณจากดวงตาคู่นั้นว่ากมลภพ “ฆ่า” ได้หากรู้ชัด ๆ
ความโกรธของเขาทำให้หล่อนกลัวจนต้ัองหุบปากเงียบกมลภพก็เริ่มอธิบาย
“ฉันต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง..ตอนนั้นมันยุ่งไปหมด..ต้องตามพ่อเธอระวังพวกของโกษา..ระวังเธอ..ระวังตัวเอง..และก็นาย..ฉันต้องตัดปัญหาทีละอย่างอย่างรอบคอบ..จัดการโกษา..เก็บเอาไว้ในที่ปลอดภัย
แล้วก็ไปเอาตัวพ่อเธอกับเบนออกมาจากมือพวกมันก่อนจะถูกฆ่าเสียโดยใช่ที่..มันไม่ใช่เรื่องง่าย
ๆ นะ คนรอบตัวเราไม่ได้โง่
โดยเฉพาะอย่างิย่งเธอเหมือนตัวถ่วงทำให้ฉันหนักใจมากกว่าเพื่อน
ต้องเอาไปไว้ในที่ ๆ ปลอดภัยไว้ก่อน”
“แล้วมาขอให้ตัวถ่วงอยู่ด้วยนี่มิพาให้ถ่วงกันไปตลอดชีิวิตรึคะ”
หล่อนจับคำพูดของเขามาประชด..กมลภพจึงเขม่นตาใส่ดุ ๆ
“เดี๋ยวเหอะอย่านอกเรื่องนะ..กำลังอธิบายให้ฟังต่างหากว่าไม่คิดจะทิ้งให้ใครเลย”
“แล้วตอนจอดทะเบียบล่ะคะ..ทำไมต้องขู่แบบนั้นด้วย”
“ถ้าไม่ขู่บแบบนั้นจะจดไหมล่ะ..ถ้าบอกว่ารักเธออยากได้เธอเป็นเมียและแม่ของลูกล่ะ..เธอจะเชื่อไหม”
เขาใส่หล่อนจนรวงแก้วแทบตั้งตัวไม่ทัน..มองเขาตกตะลึง
แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
“คุณพูดอะไรนะคะ..เมื่อกี้..ไหนพูดใหม่สิคะ”
“ฉันรักเธอ..อยากได้เธอเป็นเมีย..และแม่ของลูก” เขาย้ำ
“โอย”
รวงแก้วพึมพำ..พลางยกปลายนิ้วขึ้นแตะแก้มและคางสาก ๆ
ของเขาอย่างไม่อยากเชื่อ
“เป็นอะไร..ร้องโอย” เขาชักยิ้ม ๆ
“ไม่อยาเชื่อค่ะ..จริงหรือค่ะ” “โกหกแล้วได้อะไร”
เขาถามพลางหลุบเปลือกตาลงมองปากหล่อนแล้วโน้มริมฝีปากลงจุมพิตดูดดื่ม
รวงแก้วครางอย่างลืมตัว..แล้วโต้ตอบเขาไปอย่างอ่อนหวานระคนดุดันจนอีกฝ่ายเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและพอใจระคนกัน
“อืมดีแฮะ..ไหนลองใหม่” เขาจูบหล่อนใหม่จริง ๆ หนัก ๆ
และเรียกร้องรวงแก้วก็ตอบสนองไปเช่นเดียวกัน..
“แก้ว..แก้วคนดี” กมลภพพึมพำงึมงัมจับไม่ได้ศัพท์แต่รวงแก้ก็รู้ว่าเขาพอใจในการตอบสนองแบบนี้ของหล่อนล่ะ
“ฉันก็รักคุณค่ะ...รักคุณ..รักคุณ...รู้บ้างไหมคะ”
หล่อนพึมพำตอบเขาบ้าง..ขณะที่แลกจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม..และเร่าร้อน
กมลภพถอนใจแรง..ยกมือขึ้นประคองดวงหน้าหล่อน..ขณะที่ทาบตัวลงเบียดหล่อนจนแนบสนิทไปทั้งร่าง
“จริงหรือที่พูด..อย่าหลอกให้ดีใจนะ” รวงแก้วส่ายหน้า
“หลอกทำไมคะ..กลับมานี่แล้วอุตส่าห์วางแผนว่าจะทำยังไงดีคุณจะได้ทิ้งแก้วไม่ได้ ต้องอยู่กับแก้วไปตลอดชีวิต”
“งั้นเชียว”
เขาเลิกคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ
“จริง ๆ นะคะ จะตัดสินใจได้”
“แล้วตัดสินใจจะทำยังไง” “ก็ “
รวงแก้วทำท่าจะตคอบแล้วก็เงียบกริบ..หน้าแดง
“ก็...ยังงี้มังคะ” “ยังงี้มังคะ”
“ยังงี้น่ะยังงาย” เขาแกล้งลากเสียงถามทั้ง ๆ
ที่รู้ทัน..ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาซอกคอนุ่มและซอกซอนไล่จุมพิตลงมาจนถึงเนินอกสล้าง..อวบหยุ่น..นุ่มหอม..ลานตาลานใจจนเหลือจะกล่าว
ใบหน้าคมเข้ม..ระคายไปด้วยหนวดเคราที่ยังไม่ได้โกนคลุกเคล้าไปมาบนเนื้อนุ่มจนแดงขึ้นมาทั่ว
ริมฝีปากรุมร้อนของเขาเลียไล้งับเน้นไปทั่วอย่างนุ่มนวลและเอาใจ มืออุ่น ๆ ลูบไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้วของเรือนร่างนุ่มนิ่ม..อรชร
รวงแก้วถอนใจยาวอย่างเป้ฯสุขที่สุดในชีิวิตก็ว่าได้..สุขทางร่างกาย เพราะใจรักเขา..หล่อนยอมรับล่ะ
สุขทางร่างกาย เพราะเขาจงใจปรนดปรอให้อย่างอดทนและแสนรัก..หล่อนก็รู้สึกล่ะ แต่สุขทั้งกายทั้งใจ
เมื่อรักเขาและรู้ว่าเขารักตอบรวงแก้วว่ามันมีค่าต่อหล่อนซะยิ่งกว่าสุขไหน
ๆ
หัวใจเล็ก ๆ
ของหญิงสาวพองโตอย่างปลื้มปิติที่รักของหล่อน
ได้รับการตอบสนอง
ช่วงแขนยาว...เรียวนุ่มนิ่มของหญิงสาวยกขึ้นโอบล้อมไปรอบคอเขาแนบแน่น..เอียงหน้าเข้าริมจูบหนัก
ๆ ของเขาอย่างดูดดื่ม
ร่างเนียนระหงอวบอิ่ม..คุกรุ่นไปด้วยอารมณ์พิศวาสเบียดเข้าหาเขาอย่างจงใจ..รวงแก้วมีความรู้สึกทะยานในอารมณ์หวังจะเปรอปรนตอบสนองเขาบ้างอย่างไม่เคยคิดทำมาก่อน
ในเมื่อเขาให้สิ่งที่หัวใจของรวงแก้วร่ำร้องตัองการตลอดชีวิต
ไหนเลยรวงแก้วจะตอบสนองเขาให้สาสมกับความรักที่หยิบยื่นให้ไม่ได้
รวงแก้วทุ่มสุดตัว..สุดหัวใจทีเดียว..กมลภพแทบสำลักความสุขที่หล่อนตั้งใจตอบแทนให้เขา..แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเพียงสารภาพรัก..ทั้ง
ๆ
ที่กลัวเหลือเกินว่าหล่อนจะหัวเราะใส่หน้าและไม่เชื่อถือในคำพูด..จะได้รับของขวัญแห่งอารมณ์ชิ้นสำคัญที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนอย่างเต็มอกเต็มใจขนาดนี้
“ทูนหัว”
เขาครางอยู่ในอกที่ปริ่มไปด้วยความสุขจนล้นปรี่
ถ้ารู้อย่างนี้..กมลภพบอกหล่อนไปซะนานแล้วไม่ลังเล..หยิ่งยะโสทะนงอยู่จนแล้วจนรอดหรอก
“ที่รัก...คนดี..แก้วจ๋า..แก้ว”
เขาครวญคราง..พึมพำเรียกชื่อหล่อนจนไม่ได้ศัพท์ ลืมหมดสิ้น..ถึงความขุ่นข้องหมองใจทั้งหลายเมื่อได้ยาขนานเอกมารักษาแผลหัวใจ เวลานั้น
กมลภพรู้อย่างเดียวว่า..ความรัก..ให้ทุกอย่างจริง ๆ
คำรน..เดินกอดคอเบนผ่านยามออกมาหน้าบ้านเห็นประทีปเดินยิ้มกริ่มออกมาจากเรือนหลังใหญ่ก็รู้สึกไม่ชอบใจนัก รวงแก้วอยู่ในบ้านหลังนั้น..แล้วกมลภพก็พาตัวหายเงียบไปด้วย..ทำให้คำรนค่อนข้างหงุดหงิด
เขาทำท่าจะเดินเข้าบ้าน..แต่ประทีปก็ขวางเอาไว้อย่างจงใจ
“อยู่ข้างนอกดีกว่านะครับ” “แก้วอยู่ใน”
“อยู่กับคุณมลน่ะครับ.....มีเรื่องที่ต้องพูดกันหลายเรื่อง..คุณเองก็มีเรื่องที่ต้องคิดไม่ใช่หรือครับ”
คำเตือนของประทีปทำให้คำรนนึกได้..จำต้องถอยออกมาตั้งหลัก..ก่อนจะหันไปมองหน้าเบนเป็นเชิงปรึกษา เบนทอดสายตาและหมุนตัวไปรอบ ๆ
บ้านแล้วพูดกับคำรนว่า
“ความจริงที่นี่น่ะอากาศดีนะ”
เขาว่า..พร้อมกับเดินนำไปก่อน..คำรนเดินตามอย่างไม่มีวิธีอื่นดีไปกว่านั้น
“ทำไมคุณไม่เลือกวิธีแรกที่เขาเสมอมาล่ะ..เผื่อวันหนึ่ง..คุณแก้วจะพาหลานตัวเล็ก
ๆ กลับมาให้ช่วยเลี้ยงบ้าง”
ข้อเสนอของเบนทำให้คำรนชะงัก..หยุดกึก
“เราสองคนก็แก่แล้วนะ
เหนื่อยมาก..หนีกันก็หลายหนเหมือนกัน..ทำไมไม่ลองเป็นสุจริตชนดูบ้าง..ว่าชีิวตมันน่าสนใจกว่าตรงไหนทำไมคนเขาจึงเป็นกันเยอะนักมั่งล่ะ..ถ้ามันไม่ดี..อีกสักสิบปี..ค่อยเอาไปขโมยเขาใหม่ดีไหม”
คำชวนเชิงประชด..ประชันเหน็บแนมของลูกน้องคนสนิททำให้คำรณมีความรู้อยากเหวี่ยงอะไรใส่ให้เป็นกำลัง เขาหันไปมองหารวงแก้วในบ้านหลังนั้นอีก
“คุณแก้วน่ะ..ปล่อยเธอไปเถอะ..หลักที่พักพิงของเธอน่ะมั่นคงกว่าเราเยอะ..คนอย่างนายมลน่ะไม่ปล่อยให้เมียลำบาก..รึคิดจะขายเมียหรอกน่า
เพราะฉะนั้น..คุณไม่ต้องห่วงลูกไปหรอก..คุณแก้วสบายแล้ว”
คำพูดที่ตามมาอีกจี้กลางใจคนฟังพอดี
คำรนถอนฉุน..พร้อมกับใช้มือขยี้จมูก
“ก็ได้..ถ้าไม่พอกินแล้วอย่าบ่นแล้วกัน”
“ผมน่ะทนได้เสมอ..ตราบใดที่คุณทนได้” เบนต่อให้สั้น ๆ
แล้วยิ้มให้ตัวเองเงียบ ๆ ขณะที่เดินสำรวจไปรอบ ๆ บริเวณหุบเขาแห่งนั้นด้วยกัน
รวงแก้วถอนใจยาว..เมื่อซุกหน้าลงแนบอกกว้างแอบจูบเขาหนัก ๆ
ซะอีกทีตรงที่ตั้งของหัวใจ กมลภพสอดปลายนิ้วเข้าไปตามเส้นผมของหล่อนซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะยาวเพิ่มสักแค่ไหน
ทั้งสองนอนอกอดกันเงียบ..ไม่พูดไม่จา..เมื่อต่างเริ่มเข้าใจกันดีขึ้นกว่าเดิม..
“ลูกเกิดรึยังนะนี่” จู่ ๆ
เขาก็ถามขึ้น...รวงแก้วเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่สบลงมาอย่างสงสัยแล้วยิ้ม
“ไม่ทราบสิคะ..แต่ก็ยังสงสัย” “เรื่องอะไร”
“ที่เคยมาน่ะมันขาดหายไปเจ็ดแปดวันแล้วนะคะ..ถ้าครบสองอาทิตย์ล่ะก็เห็นทีจะใช่”
“รู้ได้ยังไง” “อ่านหนังสือสิคะ”
พอหล่อนตอบเสร็จเขาก็พลิกศีรษะหล่อนลงบนหมอน..มองดวงตากลมโตด้วยดวงตาคมกริบของตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า
“งั้น..เอาให้แน่ใจเลยดีกว่า..ถึงเดือนนี้จะมา..คราวหน้าก็ไม่ให้พลาดเด็ดขาด”
แล้วกมลภพก็จบคำพูดของเขาด้วยการกระทำให้เป็นหลักฐานยืนยันอย่างแน่นอนว่าหล่อนกับเขา
จะแยกจากกันด้วยวิธีเีดียวเท่านั้น..นั่นคือความตาย แต่ขณะที่รอ..ก็ขอสุขไปพลาง ๆ
ก่อน..มันไม่ผิดไม่ใช่หรือสำหรับวงชีวิตปกติของมนุษย์
จบบริบูรณ์
|