เจ้าหญิงแห่งดวงดาว
เขียนโดย “อินทุอร”
ตอนที่ 1
ถนนเจมปาซ นิวเลลี ประเทศอินเดีย เวลาบ่ายคล้อยจวนจะเย็นค่ำแล้ว แม้แสงสว่าง ยังคงสาดส่องทั่วแต่อากาศไม่ได้เย็นสบายเลย เพราะที่นี่เป็นเมืองร้อนแห่งหนึ่งของโลก ผู้คนในเสื้อผ้าสีสดใสบ้างมอซอบ้างคละกันเต็มถนนสายนี้ ที่มีร้านค้าสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องเทศที่ส่งกลิ่นลอยลมอยุ่ตลบทั้งถนน จนเครื่องใช้ไฟฟ้าของโลกสมัยที่ดูขัดตากับเสื้อผ้าพื้นเมืองหลากสีที่วางคละกับหม้อทองเหลืองที่มีอยู่ดาดเดื่อนแทบทุกร้านที่ขายสารพัดไปจนถึงของที่ระลึกเพื่อนักท่องเที่ยวที่พากันมาจับจ่ายซื้อหาเหมือนโลกเก่าโบราณสมัยสี่ร้อยปีผสมกับโลกใหม่ปี 2000 ท่ามกลางคนเชียร์สินค้าที่ออกมายืนเรียกลูกค้าหน้าร้านกันเสียงขรม เพชรดาขยับปกเสื้อผ้าฝ้าย เนื้อหนาสีขายนวลกระจ่างให้กระชับตัว กับกางเกงสนามสีกากีเข้มที่กาดทับด้วยเข็มขัดหนังสีน้ำตาล หล่อนชะเง้อมองไปอีกฟากฝั่งของถนนที่หล่อนและคุณมุกดามายืนอยู่ได้สักพักหนึ่งหลังจากลงจากรถรับจ้าง มันคือร้านขายของเก่าโบราณที่หน้าร้านวางรกไปด้วยเทวรูปทองเหลืองและเทวรูปปูนปั้นหลากหลายขนาดที่มองเพียงแวบเดียวของสายตาผุ้ชำนาญการเช่นเพชรดาก็รู้ทันทีว่ามันเป็นของปลอมเลียนแบบของจริง ทำมาเพื่อขายนักท่องเที่ยวที่จะขนไปให้หนักเครื่องบินไปรกบ้านของตน
ร้านนี้ชื่อ โกเมน เอนเช่นส์อาร์ตติค มองจากภายนอก ก็ไม่เห้นสิ่งใดมากนักเพราะรูปปั้นนานาชนิดที่วางพิงโชว์จนเต็มกระจกหน้าร้านที่กว้างเพียงหกเมตรเท่านั้น เพชรดาจึงตัดสินใจทันทีหันมาทางสตรีร่างเพรียวที่มีความละม้ายกันระหว่างหล่อนอยู่มาก จะแตกต่างกัยเพียงแค่วัยอย่างคาดคั้นจริงจัง แม้น้ำเสียงจะอ่อนสุภาพใจเย็น “เพชรจะเข้าไปที่ร้านนี้รอเพชรอยู่ข้างนอกอย่าไปไหนนะคะ”
“ไม่” มุกดาส่ายหน้าทันที “ต้องรอ” เพชรดาจับมือของมุกดามาบีบหนัก ๆ “ไม่งั้นสัญญาเป็นอันยกเลิก” เมื่อโดนไม้นี้ มุกดาจึงจำใจพยักหน้าอย่างไม่ชอบใจ จึงออกมาเพียงนิดเดียวเหมือนหล่อนขยับหน้าแทบไม่เห็นการเคลื่อนไหว แต่เพชรดาไม่สนใจ ตบกระเป๋าหนังใบเล็กบางที่แนบกับสะโพกข้างขวาที่มันถูกร้อยรัดกระชับกับเข็มขัดหนังที่เอว สำรวจความอยู่พร้อมของมัน แล้ะเดินข้ามถนนแคบ ๆ ไปทันที
เมื่อผลักประตูกระจกใสเข้าไป ภายในร้านมีเสียงเพลงภาษาเบงกาลีจากเครื่องเล่นวิทยุเบา ๆ มีแสงสว่างลอดจากถนนเข้ามาในร้านได้ไม่นานนัก อีกทั้งข้าวของที่แน่นขนัดร้าน บรรยากาศในร้านจึงมืดครึมไปเหมือนเวลาค่ำมากแล้ว เพชรดาเหลียวมองไปทั่วร้านเล็ก ๆ ที่กว้างเพียงหกเมตรกับยาวไม่เกินสิบเมตร ไม่มีใครเลยหล่อนแน่ใจเมื่อเดินผ่านรูปปั้นทั้งทองเหลืองและปูนปั้นของเทวรูปหลากลีลาน้อยใหญ่ไปจนถึงตัวในสุดของร้านก็เป็นเคาน์เตอร์ยาว ติดผนังด้านในที่มีด้านขวามีช่องประตูแขวนม่านลูกปัดสายใสสีอ่อนจนมองทะลุเข้าไปเห็นโต๊ะน้ำชาแบบอาหรับเตี้ย ๆ วางโถยาสูบน้ำที่เป็นเต้ามีสายลายทองสวยงามอยู่ด้วย หญิงสาวเดินเกือบจะถึงเคาน์เตอร์ก็ต้องผงะสุดตัว เมื่อหน้าคล้ำเกือบดำสนิทใบหน้าหนึ่งโผล่พรวดขึ้นมาจากหลังเคาน์เตอร์ไม้สีคล้ำนั้น
“ฮัลโหลมาดาม โกเมน เอนเช่นส์ อาร์ตติค ขอต้อนรับ” ภาษาอังกฤษกระตุกลิ้นแบบอินเดียบวกกับแววตาโลมเลียมพึงใจกับสตรีสวยงามบาดตาที่มาเพียงลำพัง ทำให้เพชรดาควบคุมตัวเองได้อย่างรวดเร็วเพราะความเคยชินกับการรับมือกับบุรุษเพศที่ไม่รู้จักประเมินตนเองมาเกือบรอบโลก
“ใครคือโกเมน ปาวสา” น้ำเสียงเยือกเย็นทรงอำนาจทำให้ท่าทีของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปทันที เพราะแน่ใจว่าเธอไม่ใช่นักท่องเที่ยวหลงทางเพื่อมาซื้อของที่ระลึกไปฝากบ้านแอนไกล เพชรดาเห็นแววไม่แน่ใจในฝ่ายตรงข้าม “ว่าแต่ใครต้องการพบ”
นี่คือ โกเมน ปาวสา อย่างแน่นอน เพชรดาเดินเข้าไปใกล้อีกก้าวในท่าทีที่เหมือนคุกคามเต็มที่จนโกเมนถอยไปเล็กน้อยที่หลังเคาน์เตอร์ แต่เขาก็ยังคงทำใจดีสู้เสือ
เพราะเห็นเพชรดาเป็นเพียงผู้หญิงแม้จะสูงกว่าผุ้หญิงเอเชียในระดับปกติ แต่อย่างไรสายตาของผู้ชายชมพูทวีปที่เคยชินกับการไม่เท่าเทียมกันของความต่างเพศ นี่ก็คือ ผู้หญิงคนหนึ่ง เขาจึงย้อนกลับมาเพื่อคุกคามตอบ “ว่าไง คุณผู้หญิง” เพชรดามองท่าทีเขาอย่างใจเย็น
“ฉันมาตามหาเพทาย มีคนยืนยันว่าเขามาพบคุณก่อนหายตัวไป” โกเมนวางมือลงบนเคาน์เตอร์ส่อแววตากรุ้มกริ่ม “เธอเป็นเมียเขารึ” โกเมนยังพูดไม่จบประโยคดีก็ต้องยืนตัวแข็งเย็นวาบไปทั้งแขน เพราะเป็นความรวมดเร็วของเพชรดา ว่องไวกว่ากะพริบตาทันด้วยซ้ำไป เขาเห็นแสงวาบของคมใบมีดพร้อมกับเสียงโลหะที่แหลมคมปักกับเคาน์เตอร์ไม้ดังตึกตึกสองครั้ง ก็พบว่ามีมีดที่คมกริบปักคาอยู่ที่ร่องว่างของนิ้วกลางและนิ้วชี้ และยังทิ้งอีกร่องรอยระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้เป็นรอยมีดปักให้เห็นชัดเจน โกเมนแน่ใจว่า เขาสบกับดวงตาคู่สวยของหญิงสาวตรงหน้าเขาด้วยซ้ำเมื่อเพชรดาปักมีดลงบนเคาน์เตอร์ หล่อนน่ากลัว เพราะหล่อนไม่ได้มองผลงานของตนเองด้วย
“ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น” โกเมนปฏิเสธปากคอสั่นพร้อมกับชักมือออกจากใบมีดที่น่าหวาดเสียว แต่ยังไม่ทันที่จะยกมันขึ้นจากโต๊ะ มีดเล่มใหม่ก็ปักมาดักไว้ทำให้ไม่กล้าขยับอีก “ภาวนาให้ฉันมือไม่ตกในคราวหน้า ตอบคำถามฉันดี ๆ แล้วจะไม่ต้องมือขาด”
“ผมไม่รู้เรื่องนะครับ” โกเมนร้องเสียงเกือบเหมือนโหยหวน เพชรดาชักมีดจากโต๊ะขึ้นถือไว้ในมือสองข้างพร้อมกับเสียงม่านลูกปัดทางช่องประตูทางขวามือส่ายเสียงดัง ทั้งสองหันไปเห็นร่างสูง ๆ ในชุดเสื้อตรวจการสีน้ำตาลหม่นยับย่นโผล่เข้ามา
“เฮ้ย...อะไรกันนี่” เพชรดาหันไปมองเต็มตา เพราะคนมาใหม่พูดภาษาไทยเต็มเสียง แล้วต้องสะบัดหน้า เพราะฝุ่นผงกระจายเข้าเต็มหน้า โกเมนสาดผงธูปเข้าหน้าเพชรดาเต็มที่พร้อมกับเสียงม่านลูกปัดส่าย มีแขนแข็งอ้อมมาคว้าเอวเพชรดาที่เซไปไม่ได้ล้ม
หญิงสาวสะบัดตัวหมุนออกสายตาก็จับภาพได้ว่าเป็นเจ้าของชุดตรวจการสีมอซอคนนั้น จึงเงื้อมีดในมือข้างขวา ก็ถูกจับข้อมือไว้อย่างว่องไว เงื้อข้างซ้ายตามด้วยความเร็วที่ถูกฝึกมาก็ยังช้ากว่าอีกฝ่ายที่คงเดาออกมาเพชรดาจะทำอะไร เขาก็คว้าเอาไว้ได้อีก เพชรดาดิ้นทั้งตัวอย่างพยศเต็มที่ “ปล่อยฉัน....โกเมนหนีไปแล้ว”
แขนแข็ง ๆ ปล่อยมือของอีกฝ่ายทันที เพชรดาไม่เสียเวลาอีกนอกฝ่ายทันที เพชรดาไม่เสียเวลาอีกนอกจากคิดว่าถ้าไม่ขัดขยางก็ไม่ใช่พวกของนายโกเมน หล่อนวิ่งดิ่งทะลุม่านลูกปัดเข้าอีกห้องทันที จึงรู้ว่ามีประตูอยู่ที่หลังร้านบานประตูยังไม่ปิดสนิทดี หล่อนวิ่งออกไปทางนั้นโดยไม่สนใจกับเสียงบุรุษห้าวอีกคนที่วิ่งตามหลังหล่อนออกมาด้วย หลังร้านเป็นตรอกแคบ ๆ เล็ก ๆ ที่เพชรดาได้ทันเห็นหลังของโกเมนวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วทะลุออกมาเป็นร้านค้าอีกฟากถนนด้านหลังที่ซอยเล็กกว่าอีกฟาก ซอยนี้แน่นด้วยผู้คน มีคนเดินซื้อของปนเปกับมีปาฮี่แขกที่แสดงโชว์เรียกลูกค้าบนถนนที่แสนแคบนี้ให้แคบลงกว่าเดิม โกเมนหายไปในฝูงชนแน่ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเสียงชนของล้มเคร้งใหญ่ของถาดทองเหลืองเสียงผุ้คนเอ็ดตะโรลั่น เพชรดาจึงตามไปทางนั้นทันที
เห็นหลังของโกเมนไว ๆ เมื่อมาถึงหัวเลี้ยวทางซ้ายอีกครั้ง โกเมนวิ่งปีกกางที่ปัดไปเป๋มาอย่างสุดฤทธิ์ เขาชนข้าวของล้มเกลื่อนทางที่วิ่งผ่านไป เพชรดาวิ่งหลบและต้องกระโดดข้ามหลายสิ่งที่กองอยู่บนถนนไปอย่างเฉียดฉิวที่จะล้ม เพราะเหยียบมัน เสียงโวยวายลั่นถนน วิ่งตามจนลัดเลาะเข้ามาสู่ตรอกซอยหลังตึกที่ไร้ผู้คนอีกแห่งเพชรดาไปเกือบถึงตัวของโกเมนเพียงแค่เอื้อมสองครั้งที่เขาสะบัดหลุดจากเพชรดาไปได้ จนกระโจนข้ามลังเตี้ย ๆ ที่ขวางทางอยุ่แห่งหนึ่งที่เพชรดาต้องเซเหมือนนกปีกหัก
เพราะหล่อนเห็นโกเมนร่อนผ่านไปเหมือนเหินลม เพราะเขาคงชำนาญทางว่าที่นี่เป็นที่ใด เท้าของเพชรดาซึ่งสวมรองเท้าหนังหุ้มข้อพื้นยางสำหรับเดินป่า ทะลุลงขัดกับเหล็กผุของฝาท่อระบายน้ำขนาดเล็ก มันล๊อกทันทีเหมือนกับดักหมีของนายพราน ด้วยรวดเร็วเกินกว่าที่จะคิดตั้งตัวทัน พร้อมกับแรงพุ่งตัวไปข้างหน้า แต่เท้าที่ติดตรึงกับฝาท่อระบายน้ำกับดัก เพชรดาจึงลอยพุ่งทั้งตัว หญิงสาวเห็นพื้นดินพุ่งเข้ามาหาตัวและที่น่าหวาดเสียวสุดขีดที่พื้นไม่ใช่พื้นถนนว่าง ๆ แต่มันมีแผ่นกระดานแผ่นใหญ่ที่ตอกตะปูเต็มพืดทั้งแผ่นที่หันเอาด้านที่เห็นปลายข้างแหลมของตะปูตัวยาวสี่นิ้วเป็นอย่างน้อยขึ้นมา คมวาววับ
มันคือกระดานตะปูของโยคีที่ใช้นอนให้ปลายแหลมคมทิ่มเนื้อ ว๊าย...เละแน่ ฟิ้ว.... เสียงแส้วัวดังขึ้นพร้อมกันกับที่เพชรดาเจ็บแปลบตึงที่เอวพลังที่รุนแรงกระชากจนตัวลอยกลับมาด้านหลัง คราวนี้เปลี่ยนเป็นแขนแข็งแรงที่รุนแรงเพราะแรงปะทะอ้อมรัดร่างเอาไว้ให้ล้มไปตามแรงเหวี่ยงพาร่างของเพชรดาและที่คนที่รับอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ล้มไปด้วยกีนให้ด้นจากกระดานตะปูโยคี
ถึงร่างสูงใหญ่จะพายามที่จะพาเชรดาให้ล้มด้วยตัวเขารองรับเอาไว้ให้เจ็บน้อยที่สุด แต่เพราะพื้นซีเมนต์ของซอยไม่ใช่ฟูกเพชรดาเจ็บที่เข่าที่โขกกับพื้น ไหล่ที่กลิ้งตัวไป ยังดีที่ศีรษะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย เพชรดายังไม่หายงง เมื่อถูกลากขึ้นมาจากพื้นทั้งที่คนที่ช่วยจากกระดานตะปูของโยคียงเกาะร่างหล่อนกระชับจากด้านหลัง
“กระดานโยคีพวกนี้ ถ้าโดนเข้านอกจากจะเสียโฉมแล้วอาจจะถึงลูกตาทะลุตาบอด” เสียงห้าวสำเนียงไทยชัดเจนดังที่กระหม่อม ความสูงของคนพูดไม่ได้ข่มเพชรดาให้กลัวหงอ แต่มันทำให้หล่อนโกรธ เพชรดาขยับสะบัดตัวจากการกอดรัดของแขนแข็ง ๆ จึงรุ้ตัวว่าที่เข้าใจว่าถูกกอดนั้นความจริงมือใหญ่แข็งแรงมันกำลังบีบกำทรวงอกขนาดสามสิบหกนิ้วของเพชรดาเต็มทั้งสองอุ้งมือ
หญิงสาวแกะนิ้วแข็ง ๆ ออกจากทรวงอกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหมุนตัวสะบัดมือขึ้นสูงสู่แก้มคางที่สากระคาย เพราะไรหนวดเคราที่ขึ้นสั้น ๆ บนใบหน้าคมสันเสียงดังฟังชัดในซอยเปลี่ยว “ไอ้คนลามก” ใบหน้าหล่อเหลาสะบัดไปตามแรงตบ พร้อมกับรีบกระโดดฉากเมื่อเห็นหล่อนล้วงมือลงในกระเป่าหนังที่แนบติดสะโพกพร้อมกับร้องโวยวายลั่น “เฮ้....”
“ไอ้....” “เพชรดา” เสียงแปลมปรี๊ดที่แหวกอากาศมาสุ่สองคู่ต่อสุ้ที่ยืนประจันหน้ากัน ทำให้เพชรดาต้องหันไปมองที่ต้นซอย จึงเห็นคุณมุกดาเดินเข้ามาในซอยอย่างรวดเร็ว “อย่าทำอะไรเขานะลูก..”เพชรดาหันไปมองเจ้าของร่างสูงที่แน่ใจว่าตนเองปลอดภัยแล้วด้วยมีคนอื่นมาแจมด้วย อย่างไม่ไว้ใจและพุ่งตาไปมองคนที่เดินไปเก็บแส้วัวสายยาวที่ตกอยุ่อย่างมาดร้าย แต่ปากก็เอ็ดมารดา
“เพชรบอกให้แม่รออยุ่ไงค่ะ อย่าตามมา” “แม่รับปากว่าไม่ตามเข้าไปในร้านไอ้เครื่องของเก๊และที่แม่มาที่นี่เพราะหนูเล่นวิ่งไล่กัน โคล้งเคล้งกระจายกันเต็มสองสามถนนผู้คนโวยวายลั่น” ก่อนที่เพชรดาจะตอบมารดาที่ยังดูสาวพอที่จะเป็นพี่สาวคนโตของหล่อนได้สบาย ๆ ก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อคุณมุกดายกมือรับไหว้คู่ปรับตัวสุงของเพชรดาอย่างเป็นปลื้ม “สวัสดีครับคุณแม่” “จ๊ะ...พ่อกต”
ตอนที่ 2
เดี๋ยวคุณแม่รุ้จักเขารึค่ะ” เพชรดาโวยวาย พร้อมทั้งหันไปมองบุรุษร่างสูงใบหน้าคมสันสีเข้ม เพราะแสงแดด แม้จะพยายามทบทวนความทรงจำก็นึกไม่ออกว่าเคยพบเขาที่ไหน “เขาเป็นใครค่ะ” มรกตม้วนสายแส้หนังสีดำในมืออย่างใจเย็น แม้จะรู้ว่าคนถามมองเขาเขม็งอย่างเอาเรื่องเต็มที่แต่คุณมุกดากลับคว้าแขนเพชรดาเข้ามาใกล้ตัว
“มรกตเขาเป็นเพื่อนของพี่ชายหนูไง เขานี่ล่ะที่เป็นคนส่งข่าวเรื่องพี่ชาย” “อ๋อ คู่หูของพี่ชาย” เพชรดา จับตามองท่าทียโสของอีกฝ่ายอย่างขวางตาเต็มที่ เมื่อเขาก้มศีรษะให้อย่างยียวน แต่คุณมุกดาดเหมือนจะเกากระแสที่พุ่งระหว่างสองหนุ่มสาวคู่นี้ออกจึงแนะนำขึ้นว่า “นี่คือมรกต และนี่คือเพชร เพชรดาน้องสาวของเพทายจ๊ะกต”
“คุณเป็นคู่หูของพี่ชายยังงที่ปล่อยให้เขาหายตัวไปอย่างนี้”
เพชรดาโจมตีทันที “ผม....” “เพชร..ทำไมพูดอย่างนี้กับพี่เขาล่ะจ๊ะ เราต้องให้เขาช่วยเราในการตามหาพี่ชายของหนูนะ” คุณมุกดาปรามบุตรีเสียงอ่อน
“เขานี่นะแม่จะไว้ใจเขาได้ยังไงค่ะ ขนาดพี่ชายหายไปเป็นเดือนอย่างนี้เขาเพิ่งจะมาบอกยังจะหวังอะไรจากเขาอีก นี่....นี่ จะเดินหนีไปไหน ฉันยังว่าคุณยังไม่จบนะ เพชรดาอ้าปากค้างเมื่อมรกตหันหลังเดินออกไปที่ต้นซอย เสียงโวยวายของหญิงสาวที่ทำให้เขาเหลียวกลับมามองด้วยการผินหน้าไม่ได้หันมาทั้งตัว
“อ้าว ต้องให้ผมอยู่ฟังคุณว่าด้วยรึครับ ผมนึกว่าคุณวิจารณ์ผมให้คุณแม่คุณฟังเสียอีก” คราวนี้เพชรดาลมออกหูด้วยอารมณ์โกรธล้วน ๆ เลย เพราะแววตาพราวพร่างของอีกฝ่ายที่สามารถยั่วให้เจ้าหล่อนยโมโหเดือดได้สำเร็จอีกรอบ