แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
สารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อกำจัดยุงและแมลง สารส้ม ก้อน,คลอรีน ผง,เกล็ด 60%,90%,
ดูขนาดรูปภาพจริง
tween tea tree oil แต้มสิวลดการอักเสบ
ดูขนาดรูปภาพจริง
น้ำยาถูพื้น,ล้างจาน,ทำความสะอาดอเนกประสงค์
ดูขนาดรูปภาพจริง
เทคโนโลยีลดเวลาการขนถ่ายสารเคมีข้นหนืดในกระบวนการสูบส่ง
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Skin Biology Super Cop 2X Set (2 Items) เซ็ต
ดูขนาดรูปภาพจริง
หมูแผ่นนครปฐม ความอร่อยในตำนาน หมูแผ่นยิ้มยิ้มจ้า
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอมมูร่า เซซามิน งาดำ เชียงใหม่ (อย 12-1-05150-1-0105)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lovely : Lava E18 เทา - 450
ดูขนาดรูปภาพจริง
หมวก
ดูขนาดรูปภาพจริง
สบู่ว่านหางจระเข้
ดูขนาดรูปภาพจริง
เสื้อเชิ้ตพิมพ์ลาย
ดูขนาดรูปภาพจริง
ชุดทดสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หาสารตกค้าง ในอาหาร,ยาแผนโบราณ,พืชผักผลไม้
ดูขนาดรูปภาพจริง
เลนส์เสริมมือถือ รุ่น HPLQ-035 พร้อมไฟแฟลช Flash Light 3 in 1 Camera Lens
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนมปังญวน ,ขนมปังเวียดนาม
ดูขนาดรูปภาพจริง
พร้อมส่ง Coach
ดูขนาดรูปภาพจริง
Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
เครื่องสแกนลายนิ้วมือ ZK U260-C
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lovely : Seecon ดำ E18
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน City Garden Pratumnak (ซิตี้ การ์เด้น พระตำหนัก)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ปั๊มเติมสารละลายสำหรับกระบวนการบำบัดน้ำเพื่อการอุปโภค เครื่องเติมสารละลาย
ดูขนาดรูปภาพจริง
Best Korea มีโฟมล้างหน้าแล้วนะ 3 สูตรพิเศษ สำหรับปัญหาผิววัยรุ่น 100ml
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตู้เย็น HITACHI - รุ่น R-W600PWX (20.6 คิว / 582 ลิตร)
ดูขนาดรูปภาพจริง
[โปรโมชั่น 5 โหล] นวดปู่คาด เชียงใหม่
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lovely Soft : Nina E16 เทา - 350
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน [ ตอนที่ 27 - 28 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 413 ครั้ง            update : 31/8/2009

   
   
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 27  

 องค์ชายมูยุลจะเข้าเฝ้าพระราชายูริ แต่คูชูบอกว่าตอนนี้พระราชายูริเสด็จไปพบซังกา เฮยาตกใจมาก
 " ฝ่าบาททรงตรัสว่า ไม่อยากให้เรื่องเผ่าพีรูสมคบแคว้นพูยอ ยิ่งบานปลายจนยากจะควบคุม จึงจะจัดการแพกึยคนเดียว เพื่อไม่ให้หัวหน้าอื่นแปรพักตร์และให้ยุติลงซะ"
 "หึ แต่เกรงว่าจะไม่ทันแล้วค่ะ"
 "พูดแบบนี้หมายความว่าไง"
 "มีคนคิดก่อกบฎ แพกึยพาทหาร กำลังจะมุ่งมาเมืองหลวง"
 คูชูตกใจมาก "หา งั้น"
 "ฝ่าบาททรงมีอันตราย รีบไปเร็วเข้า" องค์ชายมูยุลออกไปทันที
 พระ ราชายูริทรงเสด็จออกจากวังหลวงเพื่อทรงเยี่ยมเยียนซังกาซึ่งล้มป่วย โดยไม่รู้เรื่องที่แพกึยก่อกบฏเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ช่วยซังกาออกมาจากคุกนรกของแพกึยแล้ว พระราชายูริทรงตกพระทัยยิ่งนักเมื่อทรงรู้ความจริงว่าแพกึยก่อการกบฏ
 โทจินและนักรบทมิฬพากันขัดขวางไม่ให้พระราชายูริทรงเสด็จกลับวังหลวง ซังกาถวายอารักขาพระราชายูริจนต้องตายด้วยคมดาบของโทจิน
 "ฝ่าบาท หม่อมฉัน ได้สร้างภาระหนักให้แก่พระองค์ ตลอดชั่วชีวิตที่ผ่าน"
 "ไม่หรอก ต้องโทษข้าเป็นคนใจแคบมากกว่า ที่ไม่ค่อยรับฟังความเห็นของท่าน"
 " ไม่ใช่อย่างงั้นพะยะค่ะ เป็นเพราะ ความทะเยอทะยานของหม่อมฉัน ทำให้องค์ชายโตชิ ต้องสิ้นพระชนม์ก่อนวัยอันควร สุดท้าย แม้แต่องค์ชายแฮเมียงก็ หึ ทรงอภัย ให้หม่อมฉันด้วย หึ โอ๊ะ โอย"
 "หา ท่านซังกา"
 พระราชายูริทรงถูกควบคุมตัวไปยังค่ายทหารกบฏ พวกองค์ชายมูยุลมาตามหาจึงพบเพียงศพของซังกา
 "จัดงานศพท่านซังกาให้ดีด้วย" องค์ชายมูยุลสั่ง
 "เพคะ"
 "องค์ชาย โอย" แทชองร้องเรียก
 "ท่านแทชอง ท่านแทชอง ฝ่าบาทเป็นไงบ้าง"
 "พวกนักรบทมิฬ จับตัวฝ่าบาทไป"
 "หา ตามพวกมันไปเดี๋ยวนี้"
 "หึ ไม่ได้นะเพคะ ทรงใจเย็นไว้ก่อน" เฮยาเตือน
 "รู้ว่าฝ่าบาทถูกจับไป ยังให้ข้าใจเย็นอีกหรือ"
 "ถ้าหุนหันพลันแล่น แม้แต่องค์ชายก็จะมีอันตราย"
 "หัวหน้าพูดถูกแล้ว เราต้องช่วยฝ่าบาทจริง แต่องค์ชายก็สำคัญ" มาโนว่า
 เวลาเดียวกันนี้ พระราชายูริทรงตรัสถว่าแพกึย
 "ต่ำช้าที่สุด สังหารพ่อบุญธรรม ทรยศบ้านเกิด พฤติกรรมชั่วช้าของเจ้า ซักวันต้องถูกสวรรค์ลงโทษ"
 "หุบปาก สวรรค์เข้าข้างใครกันแน่ อีกไม่นานก็จะรู้ เอาตัวไปขัง"
 ขุนนางถามแพกึยว่า "ทำไมผิดจากที่ตกลงไว้ ท่านไม่สังหารเขาหรือ"
 "ท่านจะกลัวอะไรนักหนา เราจะใช้เขา ล่อมูยุลมาติดกับก่อน อย่าห่วงนักเลย"
 องค์ชายมูยุลสั่งให้ทุกคนมารวมพล เฮยากล่าวว่า
 "ตอนนี้พวกกบฎ ปักหลักอยู่ที่นอกเมืองของเรา และเชื่อว่าฝ่าบาท ก็น่าจะอยู่ที่นั่นด้วย"
 เคยูเสริมว่า "ที่สำคัญพวกมันต้องตัดทางสัญจรของเรา โดยให้ทหารคุมอยู่ทุกด่าน"
 "แปลว่าพวกมันอาจเข้ามาได้ทุกเมื่อ แต่ทหารของเรายังอยู่ไกลมาก"
 "เรามีทหารอยู่ในเมืองทั้งหมดเท่าไหร่" องค์ชายมูยุลถาม
 "ไม่ถึง 1 พันคน"
 องค์ หญิงเซยูกล่าวว่า "พอรู้ว่ามีคนคิดกบฎ ชาวบ้านก็ตกใจกลัวมากแล้ว ถ้าให้รู้ว่าฝ่าบาทถูกจับไปอีก มีหวัง แต่ละคนคงเสียขวัญไปกันใหญ่"
อันซึงกล่าวกับพระมเหสีมียูว่า
 "แพกึยบอกว่าเขาจะไม่ลืมผลงานของเรา ท่านอย่าเปลี่ยนใจตอนนี้เชียวนะ ถึงขั้นนี้แล้ว เราจะเปลี่ยนใจไม่ได้อีก"
 " ข้ารู้หรอกน่า ข้าเป็นคนผลักให้ฝ่าบาทไปตาย ถ้าเปลี่ยนใจ ข้าก็ต้องตายแทน ตอนนี้ที่สำคัญ คือคอยช่วยท่านแพกึย เพื่อจะปูทางไว้ให้ยอจิน เฮ่อ"
 "ท่านอย่าทำหน้าเศร้าได้ไหม ถึงขั้นนี้แล้ว เราจะถอยกลับไม่ได้อีก"
 "หึ ใช่ เพื่อลูกแล้ว ข้าทำได้ทุกอย่าง ถ้ามีบาปก็ให้ข้ารับคนเดียวเถอะ ข้ายินดี"
 "ตอนนี้ก็เหลือแต่ฆ่ามูยุล แล้วความอัดอั้นของท่าน จะได้หมดไปซะที"
 ขณะเดียวกันโทจินรายงานแพกึยว่า
 "ถ้าจะเข้ายึดเมืองหลวง ก่อนอื่นเราต้องกำราบทหารที่ประจำอยู่ในเมืองทั้งหมด"
 "เรื่องนี้ ปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง"
 "ทำไมต้องรอช้าอีก เรายกพลเข้าเมืองเดี๋ยวนี้ไม่ได้หรือไง"
 "ถ้าจะเข้าเมืองตอนนี้ เราอาจมีความเสี่ยงถ้าประเมินผิด ถ้าไงข้าจะเข้าเมืองคนเดียวก่อน เพื่อขอให้มูยุลเปิดประตูวังยอมแพ้ซะ"
 แพ กึยใช้ชีวิตพระราชายูริเป็นเครื่องมือต่อรองให้มูยุลยอมแพ้ ความจริงแล้วแพกึยต้องการกำจัดพระราชายูริและองค์ชายมูยุลในคราเดียวกัน ทำให้เมืองหลวงตกอยู่ในวงล้อมของกองกำลังกบฏ
 สถานการณ์ในเวลานี้ไม่ เอื้ออำนวยต่อมูยุลแม้แต่น้อย เดิมทีองค์ชายมูยุลคิดใช้กำลังทหารส่วนกลาง น่าเสียดายที่แพกึยชิงลงมือเสียก่อน ทำให้องค์ชายมูยุลขาดแคลนกำลังพลที่จะต่อกรกับแพกึย
 ในช่วงที่ สถานการณ์คับขัน องค์หญิงเซยูทรงแนะนำให้องค์ชายมูยุลไปตั้งหลักที่เมืองโชบุน องค์ชายมูยุลในฐานะองค์รัชทายาทจะทำให้พระราชบิดาทรงผิดหวังไม่ได้ มีหรือจะหาพระราชบิดาไม่พบ
 โทจินบีบบังคับมาวังจับกุมตัวองค์หญิงยอน
 " ที่ๆ เขาให้เจ้าอยู่อาศัย ช่างอัตคัดนัก และไม่น่าเชื่อด้วย ว่าเจ้าจะอยู่ในที่ๆ หาง่ายแบบนี้ เขาก็ยังเหมือนเดิม นำความเดือดร้อนมาให้เจ้าเสมอ"
 "เขาไม่ได้ทำให้ข้าเดือดร้อน ข้าเกลียดตัวเองที่เป็นภาระให้เขา ไม่รู้จบมากกว่า ต่อไป บ้านของเขาก็คือบ้านข้า แม้จะตาย ข้าก็ขอตายกับเขา"
 "แต่ข้าจะไม่ให้ เจ้าได้อยู่กับเขาอีก ตอนนี้พระราชายูริถูกจับ อีกไม่นานเมืองหลวงจะถูกเรายึดหมด ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่า คนสารเลวนั่นตายด้วยกระบี่ข้ายังไง เห็นความหายนะของโกคูรยอต่อหน้า แล้วเจ้าจะรู้ เอาตัวไป" โทจินคิดจะส่งองค์หญิงยอนกลับแคว้นพูยอ
 ลีจีอา ละอายใจที่รู้เรื่องก่อการกบฏแล้วแต่ไม่ได้เปิดเผยให้องค์ชายมูยุลรู้ นางจึงร้องไห้ขอให้องค์ชายมูยุลให้อภัยนาง แต่องค์ชายมูยุลกลับไม่ใยดีนางเลยแม้แต่น้อย
 "ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ข้ารับปากเจ้าได้แค่อย่างเดียว ตราบใดที่ข้ายังเป็นองค์ชาย ตำแหน่งพระชายาจะเป็นของเจ้าเสมอ เพราะเราสองคนแต่งเพื่อการเมือง เจ้าเป็นห่วงชนเผ่าของตัวเอง ข้าคงตำหนิอะไรไม่ได้ แต่ว่า ถึงขั้นนี้แล้ว อยากให้เจ้าจำไว้อย่างหนึ่ง ถ้าราชสำนักไม่มั่นคง ฐานะเจ้าก็จะสั่นคลอนตาม ฉะนั้น ทีหลังทำอะไรขอให้คิดก่อน"
 พระราชายูริซึ่งทรงถูกคุมขังอยู่ในค่ายทหาร กบฏนั้นด้วยความที่พระองค์ทรงไม่อยากเป็นภาระให้องค์ชายมูยุล พระองค์จึงชักมีดสั้นซึ่งอยู่ในเสื้อเกราะออกมาหมายปลงพระชนม์ชีพพระองค์เอง องค์หญิงยอนห้ามไว้
 "ฝ่าบาท ทรงเป็นไงบ้างเพคะ"
 "ทำไมต้องช่วยข้าไว้"
 "เอ่อ ฝ่าบาท"
 "ถ้าข้าอยู่ต่ออีก มีแต่เป็นภาระให้มูยุล ไม่ต้องรักษาข้าได้ไหม"
 "ฝ่าบาทต้องทรงเชื่อองค์ชาย ว่าจะสามารถคลี่คลายวิกฤติคราวนี้ ช่วยฝ่าบาทออกไปให้ได้เพคะ"
 พระมเหสีมียูพาองค์ชายยอจินหลบหนีออกจากวังหลวง องค์ชายยอจินเสียใจมากกับการกระทำของพระมารดา
 " ฮือ ทรงทำแบบนี้ได้ยังไง ทรงเป็นถึงพระมเหสี กลับคิดร้ายต่อเสด็จพ่อและเจ้าพี่ของหม่อมฉัน ฮือ เสด็จแม่ไปร่วมมือกับท่านอำมาตย์ ก่อการร้ายต่อบัลลังก์ได้ยังไง"
 อันซึงเถียง "ใครว่าร่วมมือกับท่านอำมาตย์ หน้าไหนช่างปากเสีย ไปทูลให้องค์ชายทรงเข้าพระทัยผิด"
 "ข้าได้ยินกับหู ฮือ เรื่องที่เสด็จแม่กับท่านอำมาตย์ร่วมกันวางแผน หม่อมฉันได้ยินหมดแล้ว"
 "หึ ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว แม่ก็ไม่อยากปิดบังอีก สิ่งที่ทำก็เพื่อเจ้า เลิกขัดใจแม่ซะทีเถอะ"
 "หึ หม่อมฉันไม่ไป"
 " แล้วนึกว่าแม่สบายใจหรือ ใจแม่ก็เจ็บเหมือนกัน แม่เสียใจที่ต้องทำร้ายเสด็จพ่อของเจ้า แต่ว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว ถ้างานนี้ล้มเหลวละก้อ เราสองคนจะมีแต่ตายเท่านั้น"
 "ฮือ หม่อมฉัน จะไม่เชื่อฟังเสด็จแม่อีกแล้ว ฮือ ต่อให้ถูกพวกกบฎฆ่าตาย หม่อมฉันก็จะอยู่ในวังพร้อมกับเจ้าพี่"
 "ไม่ได้นะ เจ้าต้องอยู่ต่อไป อยู่เพื่อเป็นพระราชาของเมืองนี้"
 "เสด็จแม่"
 "ยืนเฉยทำไม พาตัวเขาไปเดี๋ยวนี้"
 "พะยะค่ะ"
 มาโนมาบอกองค์ชายมูยุลว่า พระมเหสีมียูกับองค์ชายยอจินหายไป พักโซบอกว่าไม่ใช่การหนี แต่พระมเหสีมียูทรงรู้เห็นกับแพกึย
 องค์ชายมูยุลตัดบทว่า "พอที อย่าให้คนในวังรู้เป็นอันขาด ว่าพระมเหสีกับองค์ชายยอจินหนีไปแล้ว ระวังให้ดีด้วย"
 "พะยะค่ะ"
 คูชูมาพบองค์ชายมูยุลเขาถามว่ามีธุระอะไร
 " หม่อมฉันเห็นว่า ไม่อยากรอล้มๆ แล้งๆ อยู่อย่างงี้ ฝ่าบาทถูกจับไปหลายวัน หม่อมฉันได้แต่เป็นห่วงอยู่ในวังเท่านั้น โปรดให้หม่อมฉันออกจากวัง ได้ไหมพะยะค่ะ"
 "ไม่ได้ ตอนนี้ข้างนอก มีแต่พวกกบฎอยู่ทั่ว ต่อให้หนีพวกเขาได้ จนถึงไปค่ายทหารของศัตรู ก็ไม่อาจช่วยฝ่าบาทได้ง่ายๆ"
 " ถ้าคิดว่าไม่ได้หมด เราก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ให้หม่อมฉันไปเถอะพะยะค่ะ ถ้าฝ่าบาททรงมีอันเป็นไปจริง ในฐานะที่หม่อมฉันเป็นคนสนิท คงไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้"
 เวลาเดียวกัน องค์หญิงยอนก็ทูลพระราชายูริเรื่องที่นางต้องกลับไปแคว้นพูยอ และพระราชายูริก็จะต้องเสด็จไปด้วย
 " ฝ่าบาท ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรสิ้นหวังนะเพคะ สมัยก่อนอาจารย์ที่สอนการแพทย์ให้หม่อมฉันบอกว่า แม้จะมียาดีสามารถรักษาแผลตามร่างกาย แต่ไม่อาจเยียวยาแผลในจิตใจ และสอนหม่อมฉันไม่ได้ด้วย แต่จนวันนี้ หม่อมฉันเริ่มรู้แล้วว่า เราจะรักษาแผลใจยังไงดี นั่นคือความเชื่อมั่น ฝ่าบาทต้องทรงมั่นพระทัย ต่อองค์ชายมูยุล และเชื่อว่าองค์ชาย ยังไงก็ต้องช่วยฝ่าบาทให้ได้ รวมถึงปกป้องโกคูรยอ ให้พ้นจากเพทภัย เพราะฉะนั้น ไม่ถึงวันสุดท้าย อย่าเพิ่งสิ้นหวังเป็นอันขาด"
 คูชูแอบเข้ามาจะช่วยพระราชายูริ ทำให้ถูกจับตัวไว้
 ขณะที่องค์ชายยอจินหลบหนีจากพระมเหสีมียู และรีบไปบอกให้ยุนวาไปรอที่เมืองโชบุน ส่วนตัวเขากลับเข้ามาในวังหลวงสมทบกับองค์ชายมูยุล
 "เจ้าพี่"
 "นี่มันอะไรกัน พระมเหสีล่ะ" องค์ชายยอจินไม่อาจพูดอะไรได้
 มาโนเข้ามาบอกว่า "มีข่าวว่าฝ่าบาทจะถูกส่งไปแคว้นพูยอ"
 "เราจะออกจากวัง ไปช่วยฝ่าบาทที่กลางทาง" องค์ชายมูยุลตัดสินใจ
 เฮยาห้ามไว้ "ไม่ได้เพคะ"
 "ไม่งั้นเราจะปล่อยให้ฝ่าบาท ถูกจับไปแคว้นพูยอหรือไง"
 " องค์ชาย ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในวัง เพราะมีองค์ชายเป็นเสาหลักอยู่ ถ้าหาก องค์ชายออกจากวังไป แล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง สุดท้าย เราจะสิ้นหวังกันหมดนะเพคะ"
 "ถ้าข้าทิ้งพ่อตัวเอง ยังจะเป็นที่ศรัทธาของผู้คนได้หรือ"
 องค์หญิงเซยูเห็นด้วย "ถูกแล้ว แม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก การไปช่วยฝ่าบาท ก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นลูกทุกคน"
 "องค์หญิง ทหารที่เรามีอยู่ ออกจากประตูวังยังไม่ได้ด้วยซ้ำ"
 "ใช้ประตูวังไม่ได้ เราก็หาทางอื่นออกไปสิ"
 แล้วองค์ชายมูยุลก็หาทางออกมาจนได้ เขาสั่งเฮยาว่า
 "ถ้ามีทหารบุกเข้ามา ไม่ต้องรอข้า ให้ออกจากวังทันทีได้เลย"
 "ถ้าช่วยฝ่าบาทได้ ก็ให้ไปเมืองโชบุน อยู่ที่นั่น ไม่แน่อาจมีทางมายึดเมืองหลวงคืนก็เป็นได้"
 "อึม ยอจิน เจ้าอยู่ที่นี่กับพวกเขาเถอะนะ"
 "ไม่ หม่อมฉัน ก็จะไปช่วยเสด็จพ่อเหมือนกัน"
 "ไปเถอะ"
 เคยูเรียก "องค์หญิง"
 "ไม่ต้องห่วงข้า ข้าจะไปช่วยฝ่าบาทก่อน แล้วค่อยเจอที่เมืองโชบุน"
 "อึม ไม่ว่ายังไง ก็ต้องกลับมาให้ได้"
 พวก องค์ชายมูยุลบุกเข้าไปช่วยพระราชายูริกับองค์หญิงยอน ทำให้องค์ชายยอจินได้รับบาดเจ็บสาหัส องค์ชายมูยุลบอกให้องค์หญิงเซยูดูแลองค์ชายยอจินอย่างดี และพาทุกคนไปที่เมืองโชบุนก่อน
 ในที่สุดแพกึยก็สามารถยึดครองเมืองหลวงไว้ได้
 แพกึยหัวเราะสะใจ "ฮ่าๆๆ ทำดีมาก เจ้าทำให้ฝันของข้ากลายเป็นจริงจนได้ เฮ่อๆๆ"
 "ตอนนี้มูยุลเป็นไงบ้าง"
 โทจินตอบว่า "หึ หนีไปเมืองโชบุนครับ แต่ว่า ต่อให้พลิกทั่วเมืองโชบุน ข้าก็จะตัดหัว  มูยุลกับยูริมาให้ได้"
 "ดี เฮ่อๆๆ"
 "ลองนั่งดูหน่อยมั้ยครับ นี่คือเก้าอี้ของท่านแล้ว"
 " อย่าทำอะไรวู่วาม เรายังไม่รู้ว่าราษฎร ยอมรับการทำงานของเรามากน้อยแค่ไหน ถ้าใครทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ ข้าจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด เข้าใจมั้ย"
 เมื่อพวกแม่ทัพออกไปแล้ว แพกึยกล่าวกับโทจินว่า
 " ผลงานของเจ้า ถือว่ามีมากกว่าใคร เทียบกับคนอื่นที่สักแต่เอาหน้า เจ้ายังทุ่มเทมากกว่า รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางซะก่อน ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร ข้าจะให้เจ้าหมด"
 "ข้าจะขออะไรซักอย่างก่อนได้ไหมครับ"
 "ขออะไร"
 "เชิญท่านไปถวายการต้อนรับอ๋องเทโซ ที่ตอนนี้กำลังรออยู่ที่ชายแดน"
 " เรื่องนี้ ข้าคงต้องคิดให้ดีก่อน เพราะตอนนี้ชาวบ้านกำลังจับตาดูเราอยู่ ถ้าให้รู้ว่าข้ายืมกำลังจากพูยอมาทำงานนี้ ไม่รู้พวกเขาจะคิดยังไง ไม่พอใจหรือเปล่า"
 "แต่ข้าว่าคนที่ท่านต้องเป็นห่วง คืออ๋องเทโซมากกว่า ถ้าให้อ๋องเทโซทรงเข้าพระทัยผิด อาจฉวยโอกาสมาตลบหลัง ยึดอำนาจจากท่านคืนก็เป็นได้ อีกอย่าง ตอนนี้ที่เร่งด่วนคือส่งทหาร ไปจับยูริกับมูยุลกลับมาให้ได้"
 พวกองค์ชายมูยุลจำต้องถอยร่นไปอยู่ที่เมืองโชบุน
 "ไม่แน่อาจมีทหารตามมาอีก รีบไปจากที่นี่เถอะเพคะ องค์ชาย"
 " เราไม่ควรทำแบบนี้ ทิ้งเมืองหลวงไป หนีไปเมืองโชบุน นั่นเป็นที่ไหนก็รู้อยู่ สถานที่ๆ เจ้าพี่แฮเมียง เคยสิ้นพระชนม์อย่างอนาถ ข้าไม่อยาก กลับไปด้วยความพ่ายแพ้ อัปยศอดสู ขนาดกระบี่ที่เจ้าพี่มอบให้ ข้ายังไม่ทันได้หยิบมา แล้วจะให้หนีไปแบบนี้ ข้าคงให้อภัยตัวเองไม่ได้"
 " องค์ชายเพคะ ตอนนี้ สำคัญคือต้องออมแรงไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาอีก หม่อมฉันเชื่อว่าสวรรค์ คงมีเจตนาบางอย่าง ถึงให้ทรงเผชิญกับวิบากกรรมคราวนี้ ต่อไปองค์ชาย ยังต้องช่วยเหลือฝ่าบาทอีกมาก รวมถึงเป็นเสาหลักให้พวกเราด้วย ตอนนี้ไปเมืองโชบุน ปรับปรุงกองทัพใหม่ แล้วค่อยกลับมายึดเมืองหลวงคืนเถอะเพคะ"

จบ 27

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 28 

 พระมเหสีมียูซึ่งซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเกิดเกิดความไม่สบายใจขึ้นมาจึงตัดสินใจเข้าเมืองหลวงเพื่อพบแพกึย
 "พระมเหสีมาแล้วหรือ พระมเหสี ประชวรตรงไหนหรือเปล่า"
 อันซึงตอบแทนว่า "พระนางจะประชวรได้ยังไง ตอนนี้ได้เปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ท่านจะนั่งที่ไหนก็นั่งได้ เป็นสิทธิ์ของท่านอยู่แล้ว"
 "แต่ว่า ข้าจะขอความมั่นใจเรื่องหนึ่งก่อน" พระมเหสีมียูตรัส
 "เชิญรับสั่งมาได้"
 "สัญญาที่เราให้ไว้ จะให้ยอจิน เป็นพระราชาองค์ใหม่ หวังว่าคงไม่ลืมล่ะ"
 " ถ้าพระมเหสีไม่ทรงสนับสนุน งานนี้ อาจล้มตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม ท่านคงไม่ลืมหรอกนะ การครองอำนาจของท่าน เราจะไม่ไปแตะต้อง ส่วนตำแหน่งพระราชา ก็ควรเป็นขององค์ชายยอจิน" อันซึงกล่าว
 "แน่นอน แล้วตอนนี้องค์ชายยอจินอยู่ไหนล่ะ พามาพบข้าก่อนแล้วค่อยว่าเถอะ"
 "เขาไม่ค่อยสบายก็เลย"
 " ใครๆ ก็รู้ว่า องค์ชายยอจินออกจากเมืองหลวงไปแล้ว เขาไปเข้ากับองค์ชายมูยุล พาทหารไปช่วยพระราชายูริที่กลางทาง แถมยังเปิดเผยความจริงให้มูยุลรู้ด้วย"
 อันซึงรีบปฏิเสธ "เอ่อ นี่ ไม่เป็นความจริง"
 "ตอนนี้องค์ชายยอจิน ไปอยู่เมืองโชบุนแล้ว แถมได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นหรือตายก็ไม่มีใครรู้"
 พระมเหสีมียูตกพระทัยมาก "หา"
 "ไม่แน่ว่า ป่านนี้อาจตายแล้วก็ได้" แพกึยเยาะ
 "หุบปาก ต่อหน้าข้า กล้าพูดจาสามหาวเชียวหรือ"
 " จนป่านนี้ยังไม่รู้สภาพตัวเองอีก ข้าจะสั่งปลดเจ้าเมื่อไหร่ก็ได้" แพกึยวางอำนาจทันที "อุตส่าห์ให้เกียรติขนาดนี้ก็ถือว่าบุญแล้ว ถ้าไม่อยากตายละก้อ อย่าพูดมากและออกไปซะ"
 พระมเหสีมียูโกรธมากจนเนื้อตัวสั่น เสด็จออกไปทันที และทรงร้องไห้
 "หึ ฮือ ข้าจะไปหายอจิน หึ ข้าจะไม่ทนกับพวกเขาอีก"
 "หมายความว่า จะเดินทางไปเมืองโชบุนเชียวหรือ"
 "ลูกข้าเป็นตายร้ายดีก็ไม่มีใครรู้ ฮือ"
 "แต่มีทหารเฝ้าอยู่ข้างนอก เราจะออกไปได้ยังไง อย่าทำให้แพกึยโกรธดีกว่า เราอยู่เงียบๆ ไว้ก่อนเถอะ"
 "ถ้ายอจินมีอันเป็นไป ข้าอยู่ไปจะมีความหมายอะไรอีก ฮือ ถ้าไม่มีลูก ชีวิตข้าก็หมดความหมายแล้ว ฮือ ยอจิน ฮือๆๆ ยอจิน ฮือๆๆ ฮือๆๆ"
 องค์ชายมูยุลตามมาสมทบกับพวกพระราชายูริ เขารีบถามถึงองค์ชายยอจิน คูชูบอกว่าตอนนี้อาการน่าเป็นห่วง องค์ชายมูยุลเฝ้าพระราชายูริ
 "ข้างนอกลมแรง ถ้าไง เสด็จเข้าข้างในดีกว่า ฝ่าบาท"
 "ตอนนี้ข้า แทบไม่อาจทนรับการสูญเสียลูกได้อีก เจ้าคิดว่าจะทำไงดี"
 "เขาต้องฟื้นแน่ ยอจิน จะต้องรู้สึกตัวแน่นอน"
 "เป็นความประมาทของข้าเอง น่าจะรอบคอบให้มากกว่านี้ มัวแต่ดีใจกับชัยชนะจนไม่คิดว่าแพกึยจะกล้าหักหลังเรา"
 " หม่อมฉันผิดเองมากกว่า เพราะเสนอให้เราเป็นฝ่ายเปิดศึก และให้ฝ่าบาททรงมอบกำลังทหารให้ จนกลายเป็นแบบนี้ หม่อมฉันไม่อาจผูกใจเหล่าขุนนาง ทำให้พวกเขาเกิดความภักดีได้ คิดแต่จะสร้างผลงานจากการสู้รบ ใช้ไม้แข็งกับพวกเขา ไม่คิดเอาความดีเข้าไปผูกมิตร เป็นเหตุให้พวกเขายิ่งต่อต้าน และหม่อมฉันก็ไม่เคยสนใจ จึงได้เกิดเรื่องขนาดนี้ และหม่อมฉันยัง"
 "พอ ทีเถอะ เจ้าคงคิดว่าทั้งหมดนี้ เป็นเพราะชะตาของเจ้าใช่ไหม มันเป็นเรื่องงมงาย ไม่เกี่ยวกับเจ้าซักนิด แต่ยังไงข้าก็ไม่ยอมแพ้ แม้จะสูญเสียทุกอย่างจนหนีมาอยู่นี่ ข้าก็ยังไม่หมดความเชื่อมั่นในตัวเจ้า"
 "ฝ่าบาท ยังทรงเชื่อหม่อมฉันจริงหรือ"
 "สมัยก่อน มีคำทำนายว่าข้าจะตายเพราะเจ้า แต่เจ้ากลับช่วยชีวิตข้าไว้ถึงสองครั้ง"
 "หึ เสด็จพ่อ"
 "ข้าจะไม่สิ้นหวังง่ายๆ เจ้าก็ต้องเข็มแข็งเหมือนกัน เข้าใจมั้ย"
 องค์ ชายยอจินได้รับบาดเจ็บสาหัส องค์ชายมูยุลเห็นเช่นนั้นจึงไหว้วานองค์หญิงยอนให้ถวายการรักษาองค์ชายยอจิน หลังองค์หญิงยอนดูอาการขององค์ชายยอจินแล้ว องค์ชายมูยุลจะให้คนพากลับที่พัก พอดีลีจีอาเข้ามาเห็นเสียก่อน นางเข้ามาทัก
 "หึ เห็นองค์ชายปลอดภัยก็ค่อยเบาใจหน่อย"
 "เจ้าก็ปลอดภัยใช่ไหม"
 " เพคะ ได้ยินว่าเจ้าคอยดูแลองค์ชายยอจินอยู่ตลอด ในฐานะพระชายา ข้าน่าจะมาขอบใจแต่แรก แต่กลับมาช้าไปหน่อย ถ้าจะให้ช่วยอะไรละก้อ บอกมาได้นะ"
 "ขอบพระทัยเพคะ ถ้าไงหม่อมฉัน ขอทูลลาก่อน"
 พระเจ้าเทโซแห่งแคว้นพูยอทรงเสด็จเข้าไปในแคว้นโกคูรยอ แพกึยออกมาถวายการต้อนรับพระเจ้าเทโซอย่างสมพระเกียรติ
 แพกึยแนะนำ "นี่คือหัวหน้าเผ่าทั้งหลาย งานนี้เพราะความช่วยเหลือของฝ่าบาท บุญคุณใหญ่หลวง เราจะไม่มีวันลืม"
 "ไม่ได้ทำเพื่อท่านคนเดียวหรอก ข้าทำเพื่อตัวเองด้วย จนถึงวันนี้ ความแค้นในใจข้าค่อยได้บรรเทาหน่อย ฮ่าๆๆ"
 "เฮ่อๆๆ เป็นผลงานของโทจินด้วย"
 "อึม ขอบใจเจ้ามาก"
 โทจินทูลว่า "แต่ยังไม่อาจ สังหารมูยุลกับพระราชายูริได้ ทรงอภัยด้วยพะยะค่ะ"
 " ไม่เป็นไร ตอนนี้พวกเขา ถึงอยู่ต่อก็เป็นทุกข์ยิ่งกว่าตายหลายเท่า ให้ลิ้มรสความเจ็บปวดของการสิ้นชาติ แล้วค่อยเอาชีวิตก็ยังไม่สาย ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ พวกเขามีกำลังอยู่แค่น้อยนิด คงไม่สามารถทำอะไรเราได้ จริงหรือเปล่า"
 "จริงพะยะค่ะ หม่อมฉันขอให้สัญญา จะตัดหัวพระราชายูริมาถวายเอง"
 "ฮ่าๆๆ เฮ่อๆๆ แล้วท่านจะทำไงต่อไป ข้าถามว่าใครจะเป็นพระราชาองค์ต่อไป"
 "เรื่องนี้ ยังไม่ได้"
 "ทำไมท่านไม่เป็นเองซะล่ะ"
 "ยังไม่เหมาะพะยะค่ะ เพราะราษฎรยังเฝ้ามองอยู่ ถ้าไม่ใช่คนที่พวกเขาเคารพอาจจะทำงานไม่สะดวก"
 "ความหมายก็คือ จะยกบัลลังก์ให้คนอื่นงั้นหรือ"
 "มีราชวงศ์ใหม่เมื่อไหร่ หม่อมฉันจะหารือกับพูยอเอง ถ้าไงให้ฝ่าบาทส่งผู้แทนพระองค์ มาประจำอยู่ที่นี่ก็ได้"
 "ให้เราก้าวก่ายราชกิจของท่าน ไม่คิดว่าจะเป็นการไม่สะดวกหรือ"
 "ไม่หรอกพะยะค่ะ ตอนนี้เรากับพูยอเหมือนลงเรือลำเดียวกัน ทำตามรับสั่งของฝ่าบาทก็ถือว่าสมควรแล้ว"
 พระราชาเทโซทรงตรัสกับโทจินตามลำพังว่า
 "นึกแล้วว่า ไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังง่ายๆ"
 "แล้วฝ่าบาท จะจัดการแพกึยยังไง"
 "ก่อนจะยึดโกคูรยอได้ทั้งหมด เจ้าก็ทำตามคำสั่งเขาไปพลางก่อน จนกว่ามันจะยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จแล้ว ค่อยหาทางกำจัดทีหลัง"
 "ถ้าระหว่างนี้  เกิดเขาคิดร้ายต่อฝ่าบาทล่ะพะยะค่ะ"
 " เพราะอย่างงี้เจ้าถึงมีบทบาทสำคัญ ถ้างานนี้สำเร็จเมื่อไหร่ ข้าจะตบรางวัลให้ โดยมอบยอนให้เป็นคนของเจ้า ที่จริง ข้าไม่ชอบพฤติกรรมของนางซักนิด แต่จะเคารพการตัดสินใจของเจ้า มอบสิทธิ์ในการลงโทษคนทรยศต่อพูยอให้แก่เจ้า เข้าใจความหมายหรือเปล่า นั่นแปลว่าข้าอาจให้เจ้าได้เป็นรัชทายาทก็เป็นได้"
 "ฝ่าบาท"
 "เห็นทีว่า วันนั้นคงอยู่ไม่ไกลนัก เฮ่อๆๆ"
00000000000000
 คูชูบอกเล่าเรื่องพระมเหสีมียูกับอันซึงให้พระราชายูริรับทราบ ทรงไม่อยากเชื่อ
 "ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด ไม่มีทางเป็นอย่างงั้น"
 "หลังจากที่ฝ่าบาทเสด็จไปพบท่านซังกา พระมเหสีกับท่านอันซึงก็ไปส่งข่าวให้พวกแพกึยได้รู้ทันทีพะยะค่ะ"
 องค์หญิงเซยูทูลต่อว่า "พระมเหสีกับท่านอันซึง เชื่อว่าแพกึยจะให้องค์ชายยอจินครองราชย์แทน จึงให้การสนับสนุนเพคะ"
 "แล้วตอนนี้พระมเหสีอยู่ไหน"
 "หึ ถูกกักอยู่ที่เมืองหลวงพะยะค่ะ"
 " เป็นความผิดของข้าเอง เพราะข้าห่างเหินต่อนาง จึงไปช่วยคนอื่นมาหักหลังข้า พระราชาที่ควรได้รับศรัทธาจากคนทั่วหล้า กลับไม่เป็นที่เชื่อถือของคนใกล้ตัว แม้แต่มเหสียังคิดทรยศ แล้วข้ายังจะคู่ควรเป็นพระราชาอีกหรือ"
 ด้านเฮยาก็รายงานองค์ชายมูยุลว่า
 "มีรายงานว่า อ๋องเทโซไปที่เมืองหลวงของเรา อีกไม่นาน คิดว่าอ๋องเทโซกับแพกึยต้องยกทัพมาตีเมืองโชบุนแน่"
 "หึ เราจะเอาเรื่องนี้ ไปแจ้งแก่หัวเมืองทั้งหลายให้รู้"
 "แต่ว่า ถ้าหัวเมืองต่างๆ รู้ว่าแพกึยยึดเมืองหลวงได้ ไม่แน่เจ้าเมืองที่อยู่ห่างไกล อาจคิดสวามิภักดิ์ต่อแพกึยก็ได้นะเพคะ"
 " แต่ถ้ารู้ว่าแพกึยสมคบอ๋องเทโซละก้อ พวกเขาต้องไม่พอใจแน่ ตอนนี้อ๋องเทโซมีประโยชน์ก็แค่ ให้หลอกใช้เท่านั้น ถ้าความร่วมมือของพวกเขาถูกเปิดโปงเมื่อไหร่ เจ้าเมืองต่างๆ จะต้องยิ่งไม่พอใจแพกึย การที่อ๋องเทโซมาอยู่ในเมืองหลวง จะเป็นความหวังสุดท้ายของเราที่จะเล่นงานพวกเขา"
 ยุนวามาขอทหารเข้าเฝ้าองค์ชายยอจิน แต่ทหารไม่ยอมเพราะไม่รู้จักยุนวา พอดีพักโซกับมาโนผ่านมาเห็นจึงรีบพายุนวาไปพบองค์ชายยอจิน
 "ฮือ ฮือๆๆ องค์ชาย ลืมพระเนตรเร็วเข้า ฮือๆๆ ฮือ องค์ชาย"
 "ยุนวา ปลอดภัยใช่ไหม"
 ยุนวาดีใจมาก "อึม"
 "ข้าห่วงว่าเจ้า จะได้รับบาดเจ็บ โชคดี ที่มาถึงที่นี่"
 "ฮือ องค์ชาย"
 พระราชายูริทรงปรึกษากับพวกองค์ชายมูยุล
 "จะเอาเรื่องที่แพกึย สมรู้ร่วมคิดกับอ๋องเทโซ ไปบอกเจ้าเมืองทั้งหลายงั้นหรือ"
 "ตอนนี้ที่เราต้องการ คือกองหนุนที่จะช่วยต่อกรกับพวกเขา ถ้าข่าวการขายชาติของแพกึยถูกแพร่ออกไป พวกเจ้าเมืองต้องมาเข้ากับเราแน่"
 "หึ งั้นก็ได้ ข้าเชื่อความคิดของเจ้า"
 "ฝ่าบาท องค์ชายยอจิน ทรงรู้สึกตัวแล้วเพคะ" เฮยารีบบอกทั้งสอง
 พระราชายูริกับองค์ชายมูยุลรีบเสด็จไปดูองค์ชายยอจินที่รู้สึกตัวแต่ยังหอบ
 "ยอจิน"
 "เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ หม่อมฉัน มีเรื่องจะขอทูลซักนิด"
 "ว่ามาได้เลย"
 "หึ สิ่งที่เสด็จแม่ทำ เพื่อปกป้องลูกที่ไม่เอาไหน อย่างหม่อมฉัน เพราะฉะนั้น ได้โปรด ทรงอภัย ให้นางได้ไหม"
 "ยอจิน"
 " หึ เจ้าพี่ ได้โปรด ละเว้น เสด็จแม่เถอะนะ หึ เสด็จพ่อ หม่อม หม่อมฉัน พยายาม จะเป็นลูกที่ดีของเสด็จพ่อ หึ แต่ว่า สุดท้ายหม่อมฉันก็ยังทำให้ผิดหวัง หม่อมฉัน"
 "หึ ไม่หรอก พ่อไม่เคยคิดอย่างงั้น"
 "หึ ฮือ หม่อมฉันอยากช่วยเสด็จพ่อ ทำงาน เพื่อบ้านเมืองของเรา หึ อยากจะช่วย แบ่งเบาภาระ ดูแลทุกข์สุข ของราษฎร โอ๊ะ หึ"
 "ยอจิน"
 "ฮือ ฮือ เสด็จพ่อ ฮือ ทรงอภัย ให้หม่อมฉันกับเสด็จแม่ด้วย โอ๊ะ" องค์ชายยอจินสิ้นพระชนม์ภายใต้อ้อมกอดของพระราชายูริ
 "ยอจิน"
 "ยอจิน ฮือ ยอจิน ฮือๆๆ ยอจิน ฮือๆๆ" องค์หญิงเซยูร้องไห้
 พระราชายูริทรงร้องไห้พร้อมด้วยองค์หญิงเซยู และยุนวา
 มาวังมาพบแพกึย และเอาอกเอาใจ แต่กลับถูกแพกึยบอกว่า
 "ผลประโยชน์ทางการค้าและบ่าวไพร่ของท่าน  บวกกับสัมปทานที่ได้จากพระราชายูริ เอาคืนมาให้หมด" มาวังตกใจ "ทำไม ไม่ยอมหรือไง"
 "เอ่อ เฮ่อๆ ฝ่าบาท ถ้าอย่างงั้น ทรงฆ่าหม่อมฉันซะดีกว่า"
 "ก็ได้ เฮ่อๆๆ ถ้าอย่างงั้น จงตายซะ"
 มาวังตกใจมาก "เฮ้ย ตายหรือ ล้อเล่นน่ะ คือ เอ่อ"
 " มีงานจะให้เจ้าทำ เรารู้ว่าเจ้าสนิทกับมูยุล รวมถึงพระราชายูริเป็นพิเศษ รีบไปเมืองโชบุนเดี๋ยวนี้ ดูสถานการณ์ที่นั่นและความเคลื่อนไหวของพวกเขา แล้วกลับมารายงาน"
 "แต่ถ้าไปแล้ว คิดนอกลู่นอกทางละก้อ อย่าว่าแต่ชีวิตเจ้ากับคนในครอบครัว แม้แต่ทรัพย์สินทั้งหมดก็จะถูกยึด"
 ด้าน อันซึงมาขอร้องคนสนิทของแพกึยให้พระมเหสีมียูออกไปพบองค์ชายยอจิน แต่กลับได้ข่าวว่าองค์ชายยอจินสิ้นพระชนม์แล้ว อันซึงรีบกลับมาบอกพระมเหสีมียู พระนางถึงร้องไห้แทบสิ้นสติ
 พวกชาวบ้านที่รู้แผนการชั่วของแพกึย ต่างพากันอาสามาช่วยองค์ชายมูยุล
 " ทุกท่านเงยหน้าขึ้น ในฐานะรัชทายาท ข้ารู้สึกละอายต่อพวกท่านนัก แต่ไหนแต่ไร ข้ามักคิดเสมอว่า เมื่อเป็นรัชทายาทก็ต้องป้องราษฎร เป็นความโง่ของข้า ที่คิดว่าพวกท่านอ่อนแอ ต้องการความคุ้มครองจากเรา แต่ว่าตอนนี้เพิ่งรู้ว่า แท้จริงข้าคิดผิดมานาน การที่บ้านเมืองเรา ตกอยู่ในสภาพลำบากอย่างทุกวันนี้ ความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญแค่ไหน ข้าก็เพิ่งรู้ เพราะพวกท่าน ทำให้ข้าได้รู้และตาสว่าง ข้าขอให้สัญญา จะร่วมมือกับทุกท่าน กำจัดคนขายชาติอย่างแพกึย บุกเข้าเมืองหลวง เอาบ้านเมืองของเรากลับคืนมา"
 พวกชาวบ้านต่างโห่ร้องยินดี "ไชโย เย้"
 เคยูทำการฝึกซ้อมการใช้อาวุธต่างๆ ให้ชาวบ้าน องค์ชายมูยุลเฝ้าดูและบอกกับเฮยาว่า
 "ถึงจะเลี้ยงดูพวกเขาให้อิ่มหนำไม่ได้ แต่ในเมืองมีอะไรบ้าง ก็พยายามแบ่งปันให้พวกเขาได้ใช้ล่ะ"
 "ทราบแล้วเพคะ"
 มาวังเข้ามาพบองค์ชายมูยุลพร้อมกับกงชอน
 "ท่านมีที่พักหรือยัง"
 กงชอนตอบแทนว่า "แพกึยยึดทรัพย์สินของเราไปหมด ตอนนี้เลยเหลือแต่ตัวพะยะค่ะ"
 "หาที่พักดีๆ ให้ท่านมาวังหน่อย"
 มาโนรับคำ "พะยะค่ะ"
 "ถ้าจะดูแลชาวบ้านที่นี่ เรายังต้องพึ่งคนอย่างท่านมากนัก"
 "พะยะค่ะ หม่อมฉันยินดีรับใช้"
 "ถ้าขาดเหลืออะไรอีก ก็บอกมาได้นะ"
 "พะยะค่ะ องค์ชาย เฮ่ย"
 องค์หญิงเซยูเข้าเฝ้าพระราชายูริ พระราชายูริทรงตรัสว่า
 " เมื่อคืนข้าฝันเห็นยอจินมา ถึงเขาจะตายแล้ว แต่หน้าตาที่เห็นยังเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด และข้ายังเห็นเจ้าพี่ใหญ่ของเจ้า รวมถึงแฮเมียงที่มีเลือดท่วมตัว"
 "เสด็จพ่อ"
 "ไม่น่าเชื่อว่าลูกชายสามคน จะด่วนจากข้าไปซะหมด แล้วทำไมข้า ยังมีชีวิตอยู่ถึงป่านนี้"
 "ฮือ เสด็จพ่อ"
 "โลกนี้ จะหาพ่อคนไหนเหมือนข้าไม่มีอีกแล้ว"
 "ฮือ เสด็จพ่อต้องทรงเข้มแข็ง อย่าท้อนะเพคะ เพราะนี่คือ สิ่งที่เจ้าพี่แฮเมียงและยอจิน ต้องการจะเห็นมากกว่า"
 "ใจข้าเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มันมีเลือดไหลอยู่ข้างใน แล้วยังจะให้เข้มแข็งได้ยังไง ฮือๆๆ" องค์หญิงเซยูร้องไห้
 แพกึยทูลพระราชาเทโซว่าปรารถนาสิ่งใดให้รับสั่งมา พระราชาเทโซรับสั่งว่า
 "ข้ามีสิ่งหนึ่งที่ปรารถนามาเนิ่นนาน นั่นก็คือ กระบี่วิเศษของจูมง"
 "กระบี่ของจูมง อยู่ในสุสานเมืองโชบุน เป็นถ้ำที่ฝังพระศพอดีตพระราชา ที่แห่งนั้น ได้ยินว่าคนทั่วไปไม่อาจเข้าไปได้"
 "เพราะอย่างงี้ข้าถึงยิ่งต้องการ ก่อนจะกลับไปพูยอ ข้าหวังจะได้เป็นเจ้าของกระบี่เล่มนี้ ท่านพอจะช่วยได้ไหม" แพกึยถึงกับคิดหนัก
00000000000000
 กงชอนเฝ้าดูชาวบ้านและรายงานมาวัง
 "ชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับแพกึยต่างทยอยมาที่นี่"
 "เมืองโชบุนจะมีเสบียงซักเท่าไหร่ พอเลี้ยงที่ไหนเล่า จุ๊ๆ"
 "พวกเขาไม่ได้เป็นไส้ศึกเหมือนอย่างคนบางคน  คงไม่ทำให้องค์ชายเดือดร้อนนักหรอก"
 "พูดพอหรือยัง"
 "ท่านจะยอมเป็นหนอนบ่อนไส้จริงหรือ"
 "เฮ่ย ทำไงได้ ถ้าไม่ทำงานนี้ ทรัพย์สินของเราก็จะโดนยึด แถมยังมีบ่าวไพร่อีกต่างหาก"
 "เฮอะ ท่านจะห่วงบ่าวไพร่อะไรนักหนา นอกจากงกสมบัติมากกว่า อย่าเลยน่า ไปทูลให้องค์ชายรู้เถอะ"
 "นี่ เดี๋ยวเถอะ นึกว่าไส้ศึกในเมืองนี้มีแค่เราสองคนหรือไง ถ้าเราแปรพักตร์ไปช่วยองค์ชายแทน มีหวังไม่ได้อายุยืนแน่"
 "ข้าล่ะไม่เป็นไส้ศึกแน่ งั้นเราแยกกันตรงนี้ดีกว่า ตัวใครตัวมัน"
 "กงชอน เรื่องอะไรทิ้งข้า แล้วเจ้าจะไปไหน"
 "ถึงบอกให้เป็นคนมีหลักการหน่อย จะหวงสมบัติไปทำไมเล่า ของนอกกายทั้งนั้น" มาวังนิ่งอึ้งไป
 แพกึยกลับมานั่งคิดหนักเรื่องพระราชาเทโซจะเอากระบี่วิเศษของจูมง บ่าวคนสนิทเข้ามาถามอย่างห่วงใย
 "ข้ารู้สึกไม่เข้าใจความคิดของอ๋องเทโซเลย"
 "ข้าไม่เข้าใจที่พูด"
 "อ๋องเทโซ ต้องการกระบี่วิเศษของจูมง ไม่ว่าทำยังไง ก็ขอให้ได้กระบี่เล่มนี้"
 "นั่นก็เพราะ เขายังผูกใจเจ็บต่อจูมงไม่ใช่หรือครับ"
 "เพราะอย่างงี้ข้าถึงแปลกใจ ทำไมต้องจองเวรกับคนตายไม่เลิกราซะที"
 "เมื่ออยากได้นัก เราก็ให้ไปซะสิ แค่กระบี่เล่มเดียว จะมีความสำคัญอะไร"
 "เจ้ามีปัญญาเอามาได้หรือ เห็นว่ามีแต่ยูริเท่านั้น ที่รู้ว่ากระบี่นั่นเก็บอยู่ที่ไหน หึ"
 เฮยาเข้ามารายงานองค์ชายมูยุลเรื่องเสบียงอาหารว่า
 "ชาวบ้านทยอยเข้าเมืองมา จนเสบียงใกล้จะไม่พอแล้ว"
 "ตอนนี้ยังมีเหลือเท่าไหร่"
 "คงประทังได้ไม่เกิน 2 เดือน"
 "ถ้าอย่างงั้น เราจะไม่ให้ชาวบ้านเข้าเมืองมาอีก ไม่งั้นจะยิ่งเป็นภาระ"
 "เรื่องเสบียง ข้าจะหาวิธีเอง อย่าไปขวางคนที่มา หน้าที่ของพวกเจ้า คือฝึกชาวบ้านให้เป็นทหาร จะได้เป็นกำลังให้เรา"
 "พะยะค่ะ"
 มาวังตัดสินใจมาพบองค์ชายมูยุล และบอกว่ามีเรื่องจะบอก
 "ไหนว่ามีเรื่องจะพูดไง"
 "องค์ชาย ฮือ ทรงประหารหม่อมฉันด้วย หม่อมฉัน เกือบจะทรยศองค์ชายแล้ว"
 "หมายความว่าไงน่ะ"
 " ฮือ ที่หม่อมฉันมาที่นี่ เพราะการวางแผนของแพกึย ให้มาเฝ้าดูองค์ชาย และรายงานความเคลื่อนไหวในเมืองโชบุน ไม่งั้นจะยึดสมบัติของหม่อมฉัน และสังหารคนในครอบครัวทั้งหมด ฮือ นับแต่นี้ ชีวิตหม่อมฉันขอมอบให้องค์ชาย ได้โปรดให้หม่อมฉันได้ทำคุณไถ่โทษเพื่อองค์ชายบ้างเถอะ"
 "ข้าจะไม่ให้ท่านผิดหวัง สำหรับการตัดสินใจในวันนี้"
 พอออกมากงชอนก็บอกว่าแพกึยส่งคนมาพบ มาวังไปพบและรับหนังสือมาอย่างไม่มีพิรุธ มาวังนำความในหนังสือมาให้องค์ชายมูยุลดู
 "เอ่อ กระบี่วิเศษคืออะไรหรือพะยะค่ะ กระบี่ของจูมง ก็คืออดีตพระราชา เอ๊ะ หรือว่าทรงมีกระบี่วิเศษเหลือไว้ให้คนรุ่นหลัง"
 "ใช่"
 "แล้ว ทำไม อ๋องเทโซต้องให้แพกึย ช่วยหากระบี่เล่มนี้ด้วยล่ะ"
 "สมัยก่อน อ๋องเทโซเคยส่งนักรบทมิฬไปหากระบี่เล่มนี้"
 "ก็แค่ กระบี่เล่มเดียว จะสำคัญอะไรนักหนา"
 เฮยาบอกว่า "สมัยก่อนกระบี่เล่มนี้ ถูกองค์ชายแฮเมียงนำไปเมืองหลวงแล้วนี่เพคะ"
 "หม่อมฉันก็คิดอย่างงั้น"
 "คนที่รู้ว่ากระบี่อยู่ไหน มีแต่ฝ่าบาทเท่านั้น"
 "ไม่แน่ว่าถ้าใช้กระบี่เล่มนี้ เราอาจพลิกสถานการณ์ให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ"
 "ข้าจะพยายามหาของที่ท่านแพกึยต้องการให้พบ เขาจะหลงกลหรือพะยะค่ะ"
 "ดูไปก็รู้ มาโน เลือกทหารฝีมือดีซักหลายคน ไปดักอยู่กลางทางก่อนถึงตำหนักเทพนอกเมืองโชบุน"
 "พะยะค่ะ"
 องค์ชายมูยุลไปดูยอนรักษาคนเจ็บป่วย พอหมดคนก็เข้ามาคุยด้วย
 "คุณหนูดูซูบผอมไปเยอะ มีเวลาก็ดูแลตัวเองบ้าง"
 "หม่อมฉันสบายดี ไม่ต้องทรงเป็นห่วง ได้ยินว่ามีชาวบ้านเดินทางมานี่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยินดีด้วยเพคะ"
 "ทุกวันนี้ ข้าอยู่ได้ก็เพราะพวกเขานี่แหละ คนของแพกึยมาอยู่ที่นี่หลายคน อาจคิดร้ายต่อเจ้า ต้องระวังหน่อยนะ"
 ขณะที่วังหลวง แพกึยทูลพระราชาเทโซว่า
 "กระบี่วิเศษนั่น อยู่ที่ตำหนักเทพนอกเมืองโชบุนพะยะค่ะ"
 "นอกเมืองโชบุนหรือ"
 "พะยะค่ะฝ่าบาท ไหนๆ ก็จะยกทัพไปตีเมืองโชบุนอยุ่แล้ว ถ้ายึดเมืองนี้ได้ กระบี่วิเศษของจูมง ก็จะเป็นของฝ่าบาทเอง"
 "งั้นก็ได้ หึ"
 พระราชาเทโซรับสั่งให้โทจินมาเฝ้า และตรัสว่า
 " เจ้าพานักรบทมิฬไปเมืองโชบุน โทจิน เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องกระบี่ของจูมงมั้ย กระบี่เล่มนี้ เคยเป็นอาวุธคู่กายของจูมงมาก่อน นานแล้วที่ข้าพยายามจะชิงมาให้ได้ แต่ก็ไม่เคยสำเร็จซักครั้ง ที่ข้าต้องการเป็นเจ้าของกระบี่เล่มนี้ เพราะมีคำนายว่า ถ้าใครได้ครอบครองจะได้เป็นจ้าวแห่งอาณาจักรทางเหนือ ถ้าข้าได้กระบี่เล่มนี้มา จะได้ไปปราบเผ่าอื่นๆ เพื่อขยายดินแดนของพูยออกไป ข้าตั้งใจว่าชาตินี้ก่อนจะตาย ขอเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรทางเหนือให้ได้ เจ้าจงไปเมืองโชบุน แล้วเอากระบี่มาให้ข้า ได้ยินว่า มันถูกเก็บอยู่ในตำหนักเทพเมืองโชบุน"
 "พะยะค่ะ ฝ่าบาท"
 แพกึยรู้ว่าโทจินไปเมืองโชบุนแล้ว ยิ่งทำให้เขาอยากรู้ว่าทำไมพระราชาเทโซถึงอยากได้กระบี่ของจูมงนัก
จบ 28




เครดิต : oknation.net/blog/lakorn

   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 27 - 28
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์