แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
เครื่องไล่นกระบบไฟฟ้า BIRD PROTECT
ดูขนาดรูปภาพจริง
เลนส์เสริมมือถือ รุ่น HPLQ-027 คลิปเลนส์ 0.45X Wide-angle 10X Macro-lens
ดูขนาดรูปภาพจริง
กรอบรูปพร้อมแสตมป์พระราชพิธี
ดูขนาดรูปภาพจริง
Onitsuka Tiger รุ่น Mexico66 Slip on Paraty
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair 1 กล่อง (เรียวแฮร์ เซรั่มปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Rojukiss White Poreless Advanced Repair Serum
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขายสินค้าในแบลนด์ตัวเอง OEM หมูแผ่นยิ้มยิ้ม นครปฐม
ดูขนาดรูปภาพจริง
tween mandelic10 รักษาสิวไม่มีสเตียรอยด์
ดูขนาดรูปภาพจริง
สารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อกำจัดยุงและแมลง สารส้ม ก้อน,คลอรีน ผง,เกล็ด 60%,90%,
ดูขนาดรูปภาพจริง
Remax Proda Power bank แบตสำรอง 30000 mAh 4USB+ของแถม3รายการ ซอง-สายชาร์ต-หัวชารต
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตัวอย่างสินค้าของลูกค้า ทำบัตรพื้นใส
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Hair Set 1 Set มี 2 ชิ้น (เรียวแฮร์ : ดูแลปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Car Camera "Magic Tech" G-30
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพง บลูทูธ Bluetooth Speaker ไร้สาย กันน้ำ HPBTS-06
ดูขนาดรูปภาพจริง
CP Serum แก้ปัญหารูขุมขน หลุมสิวสำหรับคนผิวแพ้ง่าย
ดูขนาดรูปภาพจริง
Emu oil บริสุทธิ์ลดการอักเสบ ลดระคายเคือง บำรุงไม่ทำให้เป็นสิว
ดูขนาดรูปภาพจริง
RJK SNAIL Natural Eye Serum 5 ml. เซรั่มเข้มข้นสำหรับบำรุงผิวรอบดวงตา
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนมกล้วยอบเนย
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย ถั่วเขียวมอนสเตอร์ มินิ สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
มันเส้น
ดูขนาดรูปภาพจริง
น้ำเสีย ควรได้รับการ บำบัด
ดูขนาดรูปภาพจริง
สบู่ว่านหางจระเข้
ดูขนาดรูปภาพจริง
RJK SNAIL Natural Day Cream SPF20 PA+++ 5 ml. ครีมบำรุงเมือกหอยทาก
ดูขนาดรูปภาพจริง
ไอเดียการ์ดใส ปั๊มเคเงิน-เคทอง ประกายวาว
ดูขนาดรูปภาพจริง
Pitchy : New year / poppy E15 น้ำตาล 850
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

สุสานภูเตศวร [ ตอนที่ 25 - 28 (จบ) ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 560 ครั้ง            update : 30/3/2009

   
   
  สุสานภูเตศวร 25  
 นิลพัตราฝันร้ายว่านภศูลถูกฆ่าที่อโฆราลัย เธอตื่นขึ้นมาก็เล่าให้เทิดณรงค์ฟัง ชายหนุ่มปลอบใจจนนิลพัตราเริ่มดีขึ้น แล้วจึงพาทุกคนเดินทางเข้าไปในนครอโฆราลัย แต่ก่อนที่ทุกคนจะเดินไปถึงกำแพง อยู่ๆ พื้นดินที่ทุกคนกำลังยืนอยู่ก็ทรุดตัวลงไป ทุกคนต่างลื่นไถลไปตามอุโมงค์ที่คดเคี้ยว จนในที่สุดก็มาถึงห้องโล่งแห่งหนึ่ง
 ทันใดนั้นก็มีฝรั่งคนหนึ่งที่บอกกับทุกคนว่าชื่อ ดร.ดีเตอร์ ใช้ปืนขู่บังคับให้ทั้งหมดเข้าไปในห้องขังก่อนจะปิดกุญแจล็อกห้องขับเอาไว้ แต่ทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบนภศูลกับยศวดีถูกขังอยู่ในห้องแล้ว นิลพัตราดีใจมากเมื่อรู้ว่าทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่
 เดิมที ดร.ดีเตอร์ไม่ต้องการให้ใครค้นพบนครอโฆราลัยก่อนตน จึงจับทุกคนขังไว้ แล้วปล่อยให้ตายไปในห้องขัง แต่มะแตนายแปลงร่างเป็นนิธิเทพินทร์ เทพธิดาผู้ปกปักษ์รักษานครอโฆราลัยมาปรากฎตัวต่อหน้าดร.ดีเตอร์ ทำเอาดร.ดีเตอร์ตกตะลึงในความงามของเธอ จากนั้นนิธิเทพินทร์ก็ขอให้ดร.ดีเตอร์ขโมยสร้อยตรีพักตราสูรจากเทิดณรงค์มาให้ โดยสัญญาว่าหาดร.ดีเตอร์ทำสำเร็จ จะยินดีแต่งงานด้วย และให้เขามีชีวิตอมตะ เพื่อครองรักกับตนไปชั่วนิรันดร์
 ดร.ดีเตอร์กลับมาปล่อยตัวพวกเทิดณรงค์ และพาทุกคนออกไปเดินที่สวนหลังบ้าน จากนั้นก็เล่าประวัติของอโฆราลัยให้ทุกคนฟัง
 "ประวัติศาสตร์ของอาโฆราลัย ไม่มีชื่อบุคคลใดจะโด่งดังเท่าภูเตศวร เดอะเฟมัสคิงออฟคิงส์ อีกแล้ว งานชิ้นนี้ที่ไอได้มา มันงามมาก สมบูรณ์มากๆ เพอร์เฟ็คท์!"
 นิลพัตรากับกระแต ช่วยกันประคองนภศูล ที่อยากฟังมากๆ เข้ามาร่วมวง แล้วพาไปนั่งที่ม้านั่งที่ทำจากก้อนศิลาเก่าๆ ห่างออกไป มียศวดีตามมาเบื่อๆ แทะมะม่วงไปพลาง
 "ฉันเคยเห็น ภาพคนสามคนนี้มาแล้ว ที่บ้านคุณอัคคี ภาพสลักอันนี้ เหมือนอันนั้นทุกอย่าง อย่างกับเป็นชิ้นงานเดียวกัน แต่ชิ้นนั้น ไม่ได้แตกหักขนาดนี้"
 "ถ้าคนนี้เป็นราชาแห่งราชา แล้วอีตาคนนี้ละใคร ถือดาบ"
 "โอ้ ฮียืนเท่าเทียมราชา เพราะว่าฮีคือพระสหายสนิท จากจารึกทั้งหลายที่ไอสืบค้นมา บุคคลคนนี้มีชื่อเรียกสองชื่อ จารึกยุคแรก เรียกเขาว่ากาฬจักร แต่ยุคหลังๆ มักถูกเรียกว่า ฆุม"
 เทิดณรงค์กับพรานแก้วสบตากันปุ๊บ เทิดณรงค์เอามือจับศิลาที่อกอย่างเผลอๆ พูดพร้อมกับพรานแก้วว่า
 "ฆุม ผู้สังหารราชาแห่งราชา ผู้พิชิตทรราช"
 พรานแก้วรำพึงต่อ "ถ้าอย่างนั้น เขาคนนี้ ก็คือ"
 "ท่านผู้ที่จารึกศิลาของเรา ท่านคือผู้ที่สังหารภูเตศวร!" เทิดณรงค์กล่าวอย่างตื่นเต้น
 "มิน่าล่ะ"
 "ว็อท ศิลาของพวกยู ศิลาอะไร" ดร.ดีเตอร์ถามงงๆ
 "เปล่า ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้น" พรานแก้วชี้ที่รูปผู้หญิงคนเดียวในนั้น "ผู้หญิงคนนี้"
 "เธอคือชายาของภูเตศวร ฉายาอุบลไพลิน แม่ดอกบัวสีน้ำเงิน ในเอกสารบางชิ้น กล่าวว่านางเคยเป็นเมียของกาฬจักรมาก่อน"
 นิลพัตราสะดุ้ง รู้สึกใจคอวาบไหวแปลกๆ มองรูปสลักนั้น มึนงง
 "ฮ้า มีเรื่องรักสามเส้าซะด้วย"
 "หรือว่า นางคือ"
 เทิดณรงค์กับพรานแก้วพูดพร้อมกันอีก "นางงามใจอสัตย์ ผู้ใช้มีดแทงหัวใจนางงามใจอสัตย์"
 นิลพัตราสะดุ้งอีก เจ็บแปลบที่อกจนต้องเอามือไปกุมไว้ตรงที่มักจะเคยเจ็บ กระแตเห็นก็ถามว่าเป็นอะไร นิลพัตราหันมาสบตาแล้วส่ายหน้า ไม่ตอบ
 "หมายความว่า ท่านกาฬจักร ท่านเป็นคนฆ่า ทั้งภูเตศวร แล้วก็ พระนางดอกบัวสีน้ำเงินคนนี้ด้วย"
 "โห งั้นท่านคนนี้ก็ดุสุดๆ สิครับ ฆ่าทั้งเพื่อนเก่า ทั้งเมียเก่า"
 จุฑาว่า "อ้าว ถ้าเพื่อนเก่านายแย่งเมียนายไป นายจะอยากฆ่าทิ้งซะทั้งคู่ไหมล่ะ"
 "อะไร พวกแกเอาเรื่องราวแบบนี้มาจากไหน"
 "คืองี้ครับ อาจารย์ เฮ้ย เทิด โชว์ของหน่อยดิ๊" จุฑาว่า
 พรานแก้วห้ามไว้ "อย่า คุณเทิด"
 "อะไร หมายความว่าไง พวกแกหวงอะไรอีก หรือว่า มีอะไรที่พวกแกปิดบัง" นภศูลว่า
 "เอ่อ คือ ไม่มีอะไรครับ"
 ระหว่างที่พวกผู้ชายยื้อๆ กัน ไม่มีใครสังเกตเห็นนิลพัตราที่ลุกเดินผ่านทุกคนไปดูภาพนั้นใกล้ๆ ท่าทางลอยๆ
 นิลพัตราเข้าไปดูรูปนางผู้นั้นจนใกล้ แล้วค่อยๆ ยื่นมือไป สัมผัสรูปนาง นิลพัตรา เหมือนมีความเศร้าปวดร้าวที่ตนเองก็ไม่เข้าใจ เธอจ้องมองดูใบหน้าของรูปปั้นอย่างเหมือนต้องมนตร์ อีกมือ แตะต้องลูบคลำภาพนั้น
 ทำให้นิลพัตราเห็นภาพเธออยู่ในชุดของหญิงผู้ทรงศักดิ์กำลังยืมมองชายฉกรรจ์ที่ถูกเกณฑ์มาเป็นทหารจากระเบียงด้านบนปราสาท มะแตนายเข้ามาและกล่าวว่า
 "นิลพัตร เหตุใดท่านจึงสนับสนุนองค์ราชันย์ให้เปิดศึกกับหัวเมืองทางใต้"
 นิลพัตรเดินเข้ามาตบหน้ามะแตนายทันที "เจ้าคงยังไม่ชิน หรือคงลืม ว่าข้าได้รับการแต่งตั้งเป็นราชินี มิใช่ทาส ที่เจ้าจะมากล่าววาจาผยองด้วยเช่นนี้ได้อีก"
 มะแตนายคุกเข่าลงอย่างฝืนใจ "ได้โปรด กราบทูลองค์ราชันย์ ให้ยกเลิกการทำสงครามในครั้งนี้"
 "เจ้ากำลังหาว่าองค์ภูเตศวรไร้ความสามารถในการว่าราชการสงครามงั้นรึ"
 "ข้ามิอาจคิดเช่นนั้น ข้าเพียงแต่รู้ว่าท่าน ท่านสามารถเปลี่ยนพระทัยของพระองค์ได้"
 "องค์ภูเตศวรตัดสินใจแล้ว"
 "ได้โปรด กาลนี้ บ้านเมืองเกิดยุคเข็ญ ฝนฟ้าผิดฤดู น้ำท่วมนาล่มจมหาย ข้าวยากหมากแพง ประชาชนลำบากทุกข์ยาก หากเกิดสงครามในกาลเช่นนี้ จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ได้โปรด เห็นแก่ราษฎรที่น่าเวทนาทั้งหลายด้วย"
 "ข้าจะลองไตร่ตรองดูแล้วกัน"
 นิลพัตรเดินจากไปอย่างไม่แยแสใดๆ มะแตนายมองตามอย่างเจ็บแค้นที่นิลพัตรใจคอร้ายกาจ
 นิลพัตราผงะ กระเด้งออกมาจากภาพสลักนั้น ยืนมองภาพนั้นด้วยอาการช็อก ตาสั่น
 ระริก นางในภาพสลักราวกับมองมาที่นิลพัตรา เทิดณรงค์เดินเข้ามาเห็นพอดี แปลกใจที่เห็นนิลพัตรายืนช็อกนิ่ง
 "พัตร พัตร เป็นอะไรหรือเปล่า"
 นิลพัตราสะดุ้งได้สติ "เทิด"
 "พัตร พัตรมาทำอะไรตรงนี้ มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นรึเปล่า"
 "ไม่ ไม่มีอะไร เทิด พัตรเหนื่อย พัตร คือ ไว้คุยกันพรุ่งนี้นะ"
 นิลพัตรามองหน้าเทิดณรงค์ แล้วหันกลับไปมองที่นางในรูปสลัก สับสน แล้วเดินหนีออกไปทางหน้าบ้าน เทิดณรงค์ไม่เข้าใจตามไปจะถามแต่นิลพัตราขอตัวไปดูนภศูลก่อน
 คืนนั้นอัคคีสั่งให้มะแตนายเตรียมของที่จะใช้ในพิธีคืนชีพของตน จากนั้นก็คิดจะไปพาตัวนิลพัตรามาที่สุสานด้วยตัวเอง มะแตนายพยายามห้ามอย่างไรอัคคีก็ไม่ฟัง
 อัคคีมาหานภศูลในห้องนอน ระหว่างที่นิลพัตรากำลังนอนหลับและวางแผนหลอกล่อให้นภศูลพานิลพัตราไปหาที่อโฆราลัย นภศูลตอบตกลงทันที
 เช้าวันต่อมาเทิดณรงค์จะพาทุกคนไปที่สุสาน นภศูลจึงแสร้งทำเป็นไม่สบายบอกให้เทิดณรงค์พาพวกผู้ชายไปตามลำพัง ส่วนพวกผู้หญิงกับเขาจะรออยู่ที่บ้านของดร.ดีเตอร์ เทิดณรงค์เป็นห่วงความปลอดภัยของนิลพัตราจึงทำตามที่นภศูลบอก
 ดร.ดีเตอร์อาสานำทางพาพวกเทิดณรงค์ไปที่สุสานอโฆราลัย แล้วหลอกล่อให้พวกเทิดณรงค์เดินเข้าไปในโคลนดูดโดยไม่รู้ตัว จากนั้นดร.ดีเตอร์ก็แย่งสร้อยตรีพักตราสูรจากเทิดณรงค์แล้วเอาไปให้นิธิเทพินทร์ หลังจากที่เธอได้สร้อยแล้วก็ฆ่าดร.ดีเตอร์ทันที
 เทิดณรงค์กับพวกเกือบจมหายไปในโคลนดูด แต่โชคดีที่เทิดณรงค์เจอแส้ในบ่อโคลนด้วยความบังเอิญ จึงสะบัดแส้ไปเกี่ยวกับต้นไม้แล้วค่อยๆ ออกแรงดึงตัวเองขึ้น พร้อมช่วยเหลือทุกคนขึ้นจากบ่อโคลนได้
 ทางด้านนภศูลก็แอบพานิลพัตราเข้าไปในอโฆราลัย พอข้ามกำแพงเข้าไปนิลพัตราก็นึกถึงความฝันของเธอ จึงรบเร้าให้นภศูลพากลับ แต่นภศูลไม่ยอม พอดีกับอัคคีเข้ามาหาทั้งคู่ นิลพัตราจ้องมองอัคคีด้วยความแปลกใจ
 "คุณหมอ ท่าทางคุณหมอเศร้าจัง คุณหมอไม่ดีใจหรือครับ ที่ผมมารับ"
 "แล้ว คุณอัคคีหายไปไหนมาล่ะคะ" นิลพัตรามองคาดคั้น
 "ผมเข้ากับพวกคนเลวๆ ลวงโลกพวกนั้นไม่ได้ ผมไม่ชอบฝืนใจ ถ้ามีผม ก็ต้องไม่มีพวกมัน ถ้ามีมัน ก็ไม่มีผม คุณหมอน่าจะเข้าใจ"
 "พัตรไม่เข้าใจหรอกค่ะ พัตรรู้สึกว่า คุณอัคคีมีอะไรบางอย่าง ที่ปิดบังเราไว้"
 "ยัยพัตร" นภศูลปรามๆ
 "ใช่ครับ แต่ทุกอย่างมันจะคลี่คลาย ถ้าคุณหมอ ไปที่สุสานกับผม"
 "ทุกคนก็ต้องการไปสุสานเหมือนกัน เราน่าจะไปซะพร้อมๆ กันเลย"
 อัคคียิ้มเยาะ "ไม่มีใครเข้าไปในสุสานได้ ถ้าภูเตศวรไม่ยอมให้เข้าไป พวกคนต่ำต้อย มันเพ้อฝันเกินไปแล้ว ผู้ที่ไม่คู่ควร มันจะต้องหายนะ"
 "คุณหมายความว่ายังไง"
 อัคคีหัวเราะ "ไม่มีอะไรครับ ผมหมายความว่า ไอ้พวกโง่เขลา มันก็มีแต่จะถูกหลอกให้ไปหลงทาง เสียเวลาอ้อมค้อมไปเปล่าๆ แล้วก็ต้องกลับกันมือเปล่า"
 "มันก็สาสมกับความอวดเก่งของพวกมันแล้วนี่ครับ" นภศูลว่า
 "ถูกต้องครับ ท่านผู้พัน ท่านผู้พันเลือกถูกแล้ว ที่พาคุณหมอมาพบผม ไปครับเราจะมุ่งตรงไป ถึงสู่กลางใจเมืองอโฆราลัย ในอีกอึดใจเดียวเท่านั้นเอง"
 อัครียิ้มเย็น นภศูลยิ้มแป้น นิลพัตรารู้สึกหวาดๆ
จบตอน25

สุสานภูเตศวร 26  
 อัคคีพาสองพ่อลูกเข้าไปยังใจกลางของอโฆราลัย ทั้งคู่ตกตะลึงเมื่อเห็นปราสาทหินหลังใหญ่ตั้งสง่าอยู่เบื้องหน้า อัคคีเดินนำทั้งคู่เข้าไปภายในที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม แล้วมะแตนายในคราบของเภรีก็ถือถาดแก้วน้ำออกมาเสิร์ฟ นิลพัตราจ้องมองเภรีอย่างตกตะลึง
 มะแตนายหันมาไหว้นภศูล "สวัสดีค่ะ ท่านผู้พัน คุณหมอ ไม่ได้พบกันนานนะคะ เป็นยังไงคะ ที่พักรับรองของเรา พอใช้ได้หรือเปล่า"
 "น่าอัศจรรย์มากครับ" นภศูลมองมะแตนายอย่างทึ่ง
 "เรามาพักผ่อนกันที่นี่เป็นประจำค่ะ คุณอัคคีก็เลยต้องให้จัดที่พักไว้ ไม่แน่นะคะ บางทีเราอาจจะเปิดธุรกิจท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ระดับเฟิร์สคลาส แข่งกับรีสอร์ทหรูที่ภูฏานก็ได้ จัดเที่ยวบินส่วนตัวเหมาลำกันมาเลย ให้พวกเศรษฐีที่หลงใหลเรื่องโบราณคดีมาเที่ยวกัน"
 นิลพัตรามองอย่างพิศวง "คุณเภรีมาที่นี่ได้ยังไงคะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่"
 "ดิฉันอยู่ที่นี่เป็นหลักค่ะ ที่อื่น ก็แค่ไปทำหน้าที่ เป็นระยะๆ สุดแต่คุณอัคคีจะใช้งาน"
 นิลพัตรามองรอบๆ อย่างสำรวจ "ที่นี่ มีคนอยู่หลายคน เหรอคะ"
 "ก็น่าจะเยอะนะลูก ไม่งั้นจะดูแลได้ดีขนาดนี้เหรอ"
 "แต่ทำไมมัน วังเวง"
 มะแตนายหัวเราะ "วังเวงเหรอคะ อยากให้คุณอัคคีได้ยินจัง คุณหมอนิลพัตราคิดถึงแสงสีเสียงที่กรุงเทพแย่แล้ว คงอยู่ที่นี่นานๆ กับคุณอัคคีไม่ไหวแน่ๆ"
 "อย่ามองอะไรเพียงผิวเผินสิ เภรี" อัคคีเข้ามา
 ทุกคนหันไป อัคคีเดินขึ้นมาจากบันไดจากสวน
 "บางที คุณหมอนิลพัตราอาจจะมีความเป็นชาวอโฆราลัยแฝงฝังอยู่ลึกๆ ก็ได้"
 มะแตนายทำหน้าเย็นชา เมินไป นภศูลตื่นๆ เห่อๆ
 "คุณอัคคี เครื่องแต่งกายแบบที่คุณเภรีสวมนี่ มันเป็นแบบที่ชาวอโฆราลัยเคยสวมใส่จริงๆ เหรอ"
 "จริงสิครับ ผมศึกษามาจากภาพฝาผนัง บวกกับ ของที่เราได้มาจากในสุสาน"
 "ในสุสาน ยังมีสิ่งของเครื่องใช้หลงเหลือ ยังสมบูรณ์ดีอยู่ หรือว่าผุพังสลายไปขนาดไหนครับ"
 "แล้วท่านผู้พันจะได้เห็น แต่วันนี้ ท่านพักผ่อนให้สบายก่อนดีกว่าครับ เภรีจะดูแลท่านเอง คุณหมอครับ เชิญลงไปชมสวนกับผมหน่อย"
 นิลพัตราลังเล หันมามองหน้าพ่อ นภศูลยิ้มแย้ม "ไปสิลูก พ่อไม่อยากเดินแล้ว เอนหลังสักหน่อยท่าจะดี"
 อัคคียื่นมือมา มองเชิงบังคับ ให้นิลพัตราวางมือมาในมือตน นิลพัตราอึ้งๆ นิดหนึ่ง แต่ก็จำต้องวางมือลงไปด้วยความเกรงใจ รักษามารยาทไม่ให้อัคคีเก้อ
 อัคคีพานิลพัตราเดินไปยังสระบัวที่อยู่ด้านหลังปราสาท พอไปถึงนิลพัตราถึงร้องอุทานด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นดอกบัวสีน้ำเงินแข่งกันเบ่งบานอยู่กลางสระ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล
 "โอ้โห นี่มัน ดอกบัวจริงๆ หรือคะ"
 "อุบลไพลิน ที่ผมเคยส่งให้คุณหมอ"
 นิลพัตราสุดกลิ่น "หอมมากเลย เป็นกลิ่นที่" นิลพัตราอึ้งไปเพราะอธิบายไม่ได้
 อัคคีมองปฏิกริยา พอใจ "กลิ่นที่ คุณเคยใช้เป็นน้ำหอมประจำตัว"
 นิลพัตรามองหน้า "เปล่าค่ะ พัตรไม่เคยมีน้ำหอมกลิ่นนี้ จะว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมของคุณแม่ หรือคุณย่าคุณยาย ก็ไม่ใช่"
 "แล้วเวลาได้กลิ่นนี้ คุณนึกถึงอะไรบ้าง"
 นิลพัตราชะงัก "เราเคยพูดกันมาก่อนแล้วนี่คะ เรื่องนี้ เรื่อง กลิ่นดอกบัวนี่"
 "เราเคยพูดกันมา หลายเรื่อง เมื่อนานมาแล้ว เราเคยพูดกัน.หลายเรื่อง หลายครั้ง ในสวนนี้ เราพูดกันเรื่องกลิ่นดอกไม้ เรื่องฝน เรื่องความงาม ความรัก"
 "อะไรนะคะ"
 "ความรัก"
 "ไม่ใช่ค่ะ คุณบอกว่า เราเคยพูดกันในสวนนี้"
 "ครับ เราเคย" อัคคีสบตา ค้นหาดีใจ ลุ้น เผื่อนิลพัตราจะจำได้
 นิลพัตราหัวเราะอย่างว่างเปล่า "แต่ความจริงเราไม่เคยนี่คะ พัตรเพิ่งเห็นที่นี่ เป็นครั้งแรกเอง"
 อัคคีอึ้ง แล้วหัวเราะฝืดๆ "นั่นสิๆ เออ ผมพูดผิดน่ะ ผมหมายถึง ผมเคยพูดกับคุณเรื่องสวนนี้ไง ว่าอยากให้คุณมาเห็น"
 นิลพัตรายิ้ม "อ๋อ สวยมากค่ะ ที่นี่สวยจริงๆ คุณคงต้องใช้เงินมาก ที่จะบูรณะเมืองเก่าให้กลับมาเป็นแบบนี้ แต่ว่า เอกชนทั่วไปมีสิทธิ์ที่จะมาทำอะไรแบบนี้ได้ยังไงคะ หรือว่า คุณทำงานให้องค์กรระหว่างประเทศอะไร"
 นิลพัตรามองอย่างรอคำตอบ อัคคีอึ้ง พูดไม่ออก
 ตกเย็นอัคคีเข้าไปนั่ง รินเครื่องดื่มที่เหมือนเหล้าผลไม้ ยกมาจิบ แล้วพอเงยขึ้นมา ก็ชะงักงันนิลพัตราในชุดแบบอโฆราลัยที่ลำลอง กึ่งๆ ชุดนอนชุดอยู่บ้านเดินออกมา สวยงามเหมือนฝันระหว่างมุ้งม่านและแสงเทียน อัคคีมอง ตะลึงหลงใหล
 นิลพัตรามองอัคคี งงๆ ชี้ไปด้านหลัง "คุณอัคคีคะ ในนั้น ยังกับที่พักระดับห้าดาว คุณทำได้ยังไง"
 อัคคีรินเหล้า ส่งมาให้ "ผมยังมีอีกหลายอย่าง ที่จะทำให้คุณแปลกใจ ดื่มกันหน่อยครับ"
 "แต่ว่า"
 "คุณว่าที่นี่มันวังเวงไม่ใช่เหรอ ถ้าเราไม่หาอะไรรื่นรมย์ย้อมใจบ้าง คงจะเศร้าแย่"
 นิลพัตราอึ้งๆ แล้วเดินมานั่งด้วย รับถ้วยมาดมๆ "กลิ่นดีจัง"
 "อบเชย ผงจันทน์ป่น กับน้ำผึ้ง แต่ไม่หวานจนเกินไป"
 นิลพัตราลองจิบ "คุณเคยชอบ"
 นิลพัตราชะงัก "จริงๆ ด้วย พัตรเคย ดื่มอะไรแบบนี้มาแล้ว แต่ว่า ที่ไหน เมื่อไหร่คะ"
 "ดื่มอีกสิครับ เผื่อคุณพัตรจะระลึกได้"
 นิลพัตราดื่มอีก อัคคีขยับหมอนอิงมารองรับ แล้วหยิบขนมชิ้นพอคำมา เมื่อนิลพัตราลดถ้วยลง อัคคีก็ยื่นขนมมารอตรงหน้า นิลพัตรอึ้ง อัคคีทำท่าจะป้อน แต่นิลพัตราไม่ยอมรับมาด้วยปาก แต่ใช้มือมาหยิบไปจากมืออัคคี
 นิลพัตรากัดชิม "ผลไม้แช่อิ่ม เปรี้ยว แล้วก็หวาน หอมมาก"
 "เป็นของหายาก จากเมืองตะวันออก"
 "อดีต เป็นอย่างนี้เหรอคะ"
 "อะไรนะ"
 "พัตรหมายความว่า ชาวอโฆราลัย เคยกินดื่ม แล้วก็อยู่กัน แบบนี้เหรอคะ"
 "เฉพาะในหมู่ชนชั้นกษัตริย์เท่านั้นครับ"
 "อโฆราลัย มีการแบ่งชนชั้น อย่างอินเดียหรือคะ งั้นถ้าใครเกิดมาในชนชั้นล่างๆ ก็คงลำบากแย่ คงต้องเป็นทาส"
 "คุณไม่ต้องกลัวหรอก นิลพัตรา คุณคือราชินี เป็นผู้ครอบครองบัลลังก์เสมอ"
 "โห คุณอัคคี อย่าเอาพัตรไปเทียบเป็นราชินีซิคะ พัตรไม่มีบารมีขนาดนั้นหรอกค่ะ"
 "ผมพูดจริง ผมจะมอบทุกสิ่งให้คุณครอบครอง ถ้าคุณเต็มใจ" อัคคีขยับใกล้เข้ามาอีก
 นิลพัตราสบตางงๆ "ทุกสิ่ง อะไรคะ ทุกสิ่ง"
 "คุณอยากได้อะไรล่ะ บอกมาสิ ผมให้คุณได้จริงๆ นะ"
 นิลพัตราถอนใจ "คุณอัคคีคะ พัตร คือ คุณอย่าโกรธนะคะ ถ้าพัตรจะบอกว่า พัตรไม่เคยต้องการอะไรจากคุณเลย"
 อัคคีอึ้งไปนิด แล้วรวบมือทั้งสองของนิลพัตราไปกุมไว้ "คุณอย่าเข้าใจผิด ผมไม่เคยคิดว่าคุณพัตรอยากได้พวกข้าวของหรือวัตถุอะไรพวกนั้น สิ่งที่ผมมีให้คุณ มันไม่ได้หมายถึงทรัพย์สินเงินทอง แต่มันคือ"
 นิลพัตราขัดทันที "ไม่ว่าอะไร พัตรก็ไม่เอาค่ะ พัตรขอบคุณ ที่คุณอยากให้ แต่พัตรไม่อยากได้" นิลพัตราดึงมือกลับมา จริงจัง
 "นิลพัตรา นี่ คุณปฏิเสธผม"
 "พัตร ขอโทษ"
 "คุณรู้หรือเปล่า ว่าผมรู้สึกยังไง ผมคิดอะไร"
 นิลพัตราพนมมือไหว้ "คุณดีต่อพัตรที่สุดค่ะ คุณอัคคีดีกับพัตรมากกว่าที่ใครๆ เคยทำมาทั้งหมด แต่ พัตรขอ ขอให้เราปรารถนาดีต่อกัน อย่าโกรธเกลียดกัน พัตรจะนับถือคุณตลอดไป"
 อัคคีผงะ เจ็บปวด "เพราะอะไร พัตร เพราะคุณ มีใคร งั้นเหรอ"
 นิลพัตราไม่อยากทำร้าย แต่ก็ไม่อยากหลอก "คุณอัคคีก็ทราบ"
 "เทิดณรงค์ ผู้ชายที่เคยทิ้งคุณ"
 "ค่ะ ผู้ชายที่เคยทิ้งพัตร แต่ พัตร พัตร"
 "คุณรักมัน ทั้งๆ ที่มัน ทำเลวๆ กับคุณ ผมต่างหากที่ไม่เคยทิ้งคุณ"
 นิลพัตราน้ำตาคลอ "พัตร รักคนอื่นไม่ได้จริงๆ ค่ะ คุณอัคคี พัตรเป็นของเทิด เทิดเป็นของพัตร มันไม่เกี่ยวกับความดีความเลว เรารักกันค่ะ"
 "ผมรอคอยคุณมานานแสนนาน แต่เมื่อคุณได้มาอยู่ต่อหน้าผม ในสถานที่ของผม คุณกลับบอกรักชายคนอื่น"
 อัคคีช็อคสุดๆ ที่ถูกหญิงอันเป็นที่รัก มาแปรเปลี่ยนไป ความอดทนของเขาสิ้นสุดลง เขาใช้กำลังบังคับให้นิลพัตราไปยังสุสาน นภศูลเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปช่วยลูกสาวตัวเองทันที
 "คุณอัคคี คุณเป็นอะไรไป คุณบ้าไปแล้ว"
 "คุณอัคคี คุณจะทำอะไร คุณทำไมถึงทำอย่างนี้ล่ะคะ"
 "ปล่อยลูกผม ปล่อย"
 อัคคีจ้องหน้านภศูล "ถ้าไม่อยากตายก็หลีกไป ไอ้แก่"
 นิลพัตราเห็นท่าไม่ดี "พ่อ ระวังนะคะ พ่อ พ่อหนีไปเถอะค่ะ"
 "ไม่ เราต้องไปด้วยกัน" นภศูลชักปืนออกมา "คุณอัคคี คุณเป็นอะไรไป ผมไม่รู้ แต่ปล่อยพัตรเดี๋ยวนี้"
 อัคคีหัวเราะ ไม่สน ลากนิลพัตราต่อไป นภศูลตัดสินใจ ยิงอัคคีที่ขา ลูกปืนโดนอัคคี แล้วเด้งลงพื้น นภศูลตาเหลือก ไม่เชื่อสายตา วิ่งตามยิงอีก อัคคีหันกลับมา กวาดมือทีเดียว และนภศูลก็กระเด็นไปกระแทกผนังศิลาอย่างแรง ปืนกระเด็น
 "แก แก เป็น"
 "ภูเตศวร ข้าคือภูเตศวร"
 หน้าตาและร่างอัคคีเปลี่ยนไปเป็นปีศาจ นภศูลช็อค นิลพัตรากรี๊ด อัคคีอุ้มพาดบ่า รีบพาไป นภศูลกัดฟัน ตะกายลุก รีบตาม
 ทางด้านพวกเทิดณรงค์รีบกลับไปที่บ้านของดร.ดีเตอร์ จึงรู้ว่านภศูลกับนิลพัตราหายตัวไป ทั้งหมดรีบเข้าไปตามหาทั้งคู่ในอโฆราลัย แต่ข้ามพ้นกำแพงเข้าไปก็พบกับศพของดร.ดีเตอร์นอนจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง เทิดณรงค์ไม่เห็นสร้อยตรีพักตราสูรอยู่กับดร.ดีเตอร์ก็ยิ่งเป็นห่วงนิลพัตรามากขึ้นเป็นทวีคูณ เขาเร่งออกตามหาตัวเธอไปทั่ว แต่สุดท้ายก็วกกลับมาที่สระน้ำตามเดิม
 เทิดณรงค์พบภาพวาดที่ผนัง และเห็นภาพสุสานอยู่ใต้ดอกบัว ถึงได้เข้าใจว่าสุสานที่พวกตนตามหา ทางเข้าอยู่ใต้สระบัวนั่นเอง
 จากนั้นเทิดณรงค์ก็พาทุกคนดำลงไปในสระบัว และได้พบอุโรงค์ที่ก้นสระ เทิดณรงค์ไม่รอช้ารีบพาทุกคนเดินตามอุโมงค์เข้าไปทันที ระหว่างทางทั้งหมดก็พบกับดักนานาชนิด แต่เทิดณรงค์ใช้ปฏิภาณไหวพริลพาทุกคนออกมาจากอุโมงค์ได้สำเร็จปลอดภัย
 เทิดณรงค์รีบพาทุกคนเข้าไปตามหานิลพัตราในปราสาท เขากลับต้องตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อพบนภศูลถูกทำร้ายสาหัสนอนจมกองเลือดที่บันไดทางเข้า นภศูลขอโทษเทิดณรงค์
 "เทิด ฉัน ขอโทษ อโหสิให้คนที่โง่เขลา เต็มไปด้วยอคติอย่างฉันด้วย เทิดณรงค์ พัตรรักเธอ พัตรเป็นของเธอ ฝาก เธอช่วย ช่วยลูกสาวฉันด้วย"
 นภศูลกระอักเลือดสิ้นใจ นิลพัตราร้องไห้โฮ กรี๊ดๆๆ ตบตีอัคคี
 "คุณพ่อ! แก แกฆ่าพ่อฉันๆ ฉันเกลียดแก ฉันขอให้แกตกนรกหมกไหม้ พบแต่ความพินาศ แกต้องรับกรรมอย่างแสนสาหัส"
 ภูเตศวรทำหน้าเจ็บปวด "ได้เลย นิลพัตรา ฉันยินดีรับกรรมทุกอย่าง เพราะฉะนั้น แค่ฆ่าพ่อเธอมันยังไม่พอหรอก ฉันจะฆ่าไอ้คนนำสาร ผู้ชายของเธอด้วย"
 เทิดณรงค์เงยขึ้น หน้าแค้น "ไอ้ชาติชั่วเอ๊ย กูอายแทนมึงจริงๆ ยิ่งใหญ่มาก กล้าหาญมากเลยว่ะ ฆ่าคนแก่ ที่ป่วยหนักขนาดนี้ แถมยังจะฉุดผู้หญิงที่เขาไม่รักไปย่ำยีอีก นี่เหรอวะ ภูเตศวรแห่งอโฆราลัย ราชันย์แห่งราชันย์"
 "ไอ้เศษมนุษย์ มึงอย่าอยู่เลย" ภูเตศวรดึงนิลพัตราไปอยู่หลัง ยกมือข้างหนึ่งกะปล่อยพลัง
 เทิดณรงค์วางร่างนภศูลลง ลุกผงาด ก้าวไปข้างหน้าชี้หน้า "ปล่อยผู้หญิง แล้วมาฆ่ากูเลย"
 "เทิด ระวัง!" นิลพัตราเป็นห่วงเทิดณรงค์
 ภูเตศวรปล่อยพลังใส่เทิดณรงค์ เขายืดอกรับเต็มๆ พลังพุ่งเข้ามา แต่ปรากฎเป็นร่างกาฬจักรยืนปกป้องเทิดอยู่จากพลังนั้น เสื้อเขาปลิวไสว และเปิดแบะอกออกตลอด เผยศิลาที่ปกป้องอยู่ ทุกคนไม่เห็นกาฬจักรยกเว้นภูเตศว)
 "ฆุม ฆุมปกป้องมึง"
 กาฬจักรยื่นหน้ามุ่งมั่น พลังสีทอง อาบท่วมร่างเทิดณรงค์
 "มึง ก็เก่งแต่ทำคนไม่มีทางสู้ ตากู มั่งล่ะนะ ไอ้อสุรกายชั่ว"
 เทิดณรงค์โดดเข้าหา พลังสีทองแผ่ออกมาโจมตีภูเตศวร กาฬจักรวาดดาบใส่ ภูเตศวรหลบฉาก แล้วผวาเข้าคว้านิลพัตรา
 "มึงจะทำอะไร เจ้าจะทำอะไร"
 "ไอ้โสโครก คิดจะเอาพลังไอ้สถุลกาฬจักรมาปราบกู ไม่มีวัน"
 ภูเตศวรกระชากนิลพัตรามา แล้วถอยหลัง หายไปในความมืด เสียงนิลพัตรากรี๊ดก้องสะท้อนออกมาจากความมืด เทิดณรงค์วิ่งตามไป
 "พัตร พัตร"
 ไฟไต้ที่สว่างเป็นแนวแต่แรก ดับวูบพรึ่บลง ข้างหน้ามืด และว่างเปล่า ไม่มีอะไร เทิดณรงค์ผงะ หยุดเคว้ง แหงนเงย มองหา หมุนรอบกาย
 "ไอ้ภูเตศวร มึงเอาพัตรไปไหน" ไม่มีเสียงตอบ "พัตร พัตร"
 เทิดณรงค์หน้าซีด ตัวสั่น กลัวนิลพัตราจะเป็นอะไร พอดี พรานแก้วและคนอื่นๆ มาถึง สาเอาไฟส่องที่ศพนภศูล ทุกคนตกใจ จุฑาเข้าไปจับเทิดณรงค์บอกให้ใจเย็น เทิดณรงค์ไม่มีสติ หันมา กระชากจุฑาเขย่าๆๆ ถามว่าต้องทำยังไง พรานแก้วเข้ามาเตือนให้เขาตั้งสติ
 เทิดณรงค์อึ้ง ยืนทื่อ หันมา ตาขวาง หน้าพรานแก้วมีกาฬจักรยืนอยู่ แต่ไม่มีใครเห็น
 กาฬจักรสองมือตบแก้มเทิดณรงค์แรง ทุกคนเห็นแต่หน้าเทิดณรงค์สะบัด จับหน้าเทิดณรงค์ให้สบตาตน
 "สุสานภูเตศวร ผู้นำสาร ที่ๆ เดียวที่เราต้องไปให้เร็วที่สุด สุสานภูเตศวร"
 เทิดณรงค์ค่อยๆ สงบลง ตาค่อยๆ สบตาพรานแก้ว มีแววรับรู้ ตระหนัก และเยือกเย็นมุ่งมั่น
 "ใช่ พรานแก้ว สุสานภูเตศวร"
 มะแตนายโผล่เข้ามาขางทางเทิดณรงค์ด้วยการใช้อำนาจเสกพญานาคหินที่เฝ้าบันไดให้เข้ามาสกัดกั้นเทิดณรงค์กับพวกไว้ ส่วนอัคคีก็นำตัวนิลพัตราไปขังไว้ในสุสานแล้วกลับมาเอาสร้อยตรีพักตราสูรจากมะแตนาย แต่มะแตนายไม่ยอมให้แม้ว่าอัคคีจะบับบังคับยังไงก็ตาม
 พรานแก้วใช้อาคมสะกดพญานาคหินไว้แล้วรีบพาเทิดณรงค์ตาม มะแตนายมาด้วยความรักและเป็นห่วงนิลพัตรา
 มะแตนายตัดสินใจมอบสร้อยให้ภูเตศวรด้วยความรักและเป็นห่วงอันตราย พร้อมบอกให้ภูเตศวรรีบไปทำพิธีคืนชีพในสุสาน จากนั้นก็ออกมาขวางทางเทิดณรงค์กับพวกเอาไว้
จบตอน 26

สุสานภูเตศวร 27  
 ภูเตศวรไปถึงสุสานก็ได้ยินเสียงร้องของมะแตนายที่ถูกพรานแก้วใช้ยันต์สะกด และกำลังจะทำลายดวงวิญญาณของเธอ ภูเตศวรรีบไปช่วย แล้วทำร้ายพวกเทิดณรงค์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นก็ทำลายแผ่นศิลาที่อกของเทิดณรงค์ก่อนจะพามะแตนายไปยังสุสาน
 กาฬจักรเป็นอิสระเมื่อแผ่นศิลาถูกทำลาย เขาเป็นห่วงนิลพัตราจึงรีบตามภูเตศวรไป แต่เทิดณรงค์ขอร้องให้กาฬจักรช่วยเหลือเขาที่ได้รับบาดเจ็บให้หายดีก่อน เพื่อจะตามไปช่วยนิลพัตราด้วยคน กาฬจักรเห็นแก่ความรักของทั้งคู่จึงยอมช่วยรักษาให้ จากนั้นก็พาเทิดณรงค์เข้าไปหานิลพัตราในสุสานทันที
 เวลาเดียวกันภูเตศวรก็ส่งสร้อยตรีพักตราสูรให้นิลพัตราสวม เพื่อจะได้เริ่มพิธีคืนชีพ แต่หญิงสาวไม่ยอมใส่ มะแตนายจึงต้องเป็นฝ่ายลงมือเอง
 มะแตนายลากนิลพัตรามากดตัวให้ยืนตรงหน้าร่างศพของนิลพัตรา นิลพัตราพยายามดิ้น แต่สู้แรงไม่ได้
 "ปล่อย ปล่อยฉัน"
 "นี่คือร่างเก่าของแกเมื่อ 5 พันปีก่อน ดูให้เต็มตา นิลพัตรา" มะแตนายจับหน้านิลพัตรากดลงไปให้ดูจนใกล้ "งดงามมากใช่ไหม ทั้งงาม ทั้งเปี่ยมไปด้วยความรัก ความสุข"
 "นางดอกบัวทอง"
 มะแตนายหันขวับ "ไม่ต้องถนอมนางจนเกินไป ราชันย์ นางจำเป็นต้องเข้าใจทุกสิ่ง ขอพระองค์ทรงรออยู่ที่แท่นพิธี ข้าเอง จะเป็นผู้ดำเนินการ"
 "นิลพัตรา เจ้าไม่ควรที่จะหวาดหวั่น พิธีจะดำเนินอย่างรวดเร็ว เจ้าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย" ภูเตศวรกล่าว
 "จะไม่มีผู้ใดต้องเจ็บปวดอีกต่อไป" มะแตนายล้วงสร้อยตรีพักตราสูรออกมา "เพียงเจ้าสวมสร้อยตรีพักตราสูอีกครั้ง แล้วใช้มีดนี้ แทงลง ณ ทรวงอก ยังตำแหน่งแผลเดิมของเจ้า แล้วหลั่งโลหิตชโลมร่างองค์ราชินีนิลพัตร และราชันย์ภูเตศวร รวมทั้งข้า เป็นการถวายบูชาองค์ตรีพักตราสูร จากนั้น วิญญาณแห่งเราทั้งสาม ก็จะฟื้นคืนชีพเป็นร่างใหม่ ที่จะได้สถิตร่วมกันนิรันดร แล้วอาณาจักรอโฆราลัย ก็จักฟื้นคืนเป็นนครแห่งอมตะในที่สุด"
 นิลพัตราฟังแล้วสยอง เกลียดชัง "ไม่ ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกสมหวังหรอก"
 "อย่างนั้นเหรอ อีนังตัวดี" มะแตนายยื่นสร้อยจะให้สวม
 นิลพัตราพยายามปัดป้อง สร้อยหล่นหลุดมือลงพื้น ภูเตศวรมองอย่างปวดร้าวใจ เข้าไปเก็บสร้อยขึ้นมา
 นิลพัตราสะบัด ผลักมะแตนายเต็มแรง พรั่นพรึง ถอยหนี หน้าตาแตกตื่น มะแตนายตามติด รวบตัวไว้ นิลพัตราดิ้นอีก แต่ไม่หลุด ภูเตศวรชูสร้อยตรีพัตราสูรขึ้น พลังสีดำเริ่มปั่นป่วนออกมาจากสร้อย
 "เจ้าจงสวมสร้อยตรีพักตราสูร ณ บัดนี้"
 "ไม่ อย่าเข้ามานะ อย่า ไอ้พวกผีชั่ว ไม่" นิลพัตราสะบัด
 ภูเตศวรเดินเข้าใกล้ มะแตนายออกแรงบิดแขนจนนิลพัตราเจ็บมาก ทรุด มะแตนายจับกดหัวให้ก้มลง นิลพัตราขืนอีก มะแตนายตบเปรี้ยง นิลพัตราคว่ำลงไป
 ภูเตศวรปราม "พอแล้ว มะแตนาย"
 "ไม่เห็นหรือเพคะ ว่ามันฤทธิ์มากแค่ไหน"
 นิลพัตราสะอึกสะอื้น ค่อยๆ เงยขึ้น มองภูเตศวร ภูเตศวรสบตานิลพัตรา ผงะ นิลพัตราที่แววตาหวาดกลัว เกลียดชัง เจ็บปวด ภูเตศวรลังเล
 "นิลพัตรา ทำไมเจ้ามองข้าเช่นนี้ เจ้ามันเห็นข้าเป็นยักษ์เป็นมาร เจ้ามันเกลียดข้า"
 ภูเตศวรลังเล กำสร้อยคืนกลับมา ไม่แน่ใจ มะแตนายมองงง ภูเตศวรมองหน้านิลพัตรา ตัดสินใจหนัก นิลพัตรามองแบบหัวจรดเท้า
 "เอาสิ ใส่ไอ้สร้อยอุบาทว์มา น้ำหน้าอย่างแก จะเอาชนะฉันได้ ก็ต้องใช้แต่วิธีเลวๆ สกปรกโสโครกเท่านั้นแหละ"
 ภูเตศวรอึ้งหนัก มะแตนายจิกหัว "เจ้ากล้าหมิ่นหยามภูเตศวร"
 มะแตนายตบผัวะ นิลพัตรามองสบตาอย่างไม่หวาดหวั่น
 "ฉันไม่มีวันคิดที่จะแทงตัวเองตายเสียสละชีวิตเพื่อความสุขของพวกแก มีแต่คิดจะแทงพวกแก ส่งวิญญาณพวกแกไปนรก แก้แค้นให้กับพ่อ"
 "นิลพัตรา เจ้าผ่านชาติภพมากี่ครั้งกี่คราวแล้ว เวลาห้าพันปี มันทำให้อาณาจักรนับสิบนับร้อยเกิดแล้วดับ กับแค่มนุษย์ที่บังเอิญได้มาเกิดเป็นพ่อของเจ้าในภพนี้ ในเวลาไม่กี่พริบตาแค่นี้ มีค่าขนาดที่ทำให้เจ้าสาปแช่งข้า"
 "ไอ้ชาติภพบ้าบออะไรของแก มันจบสิ้นไปหมดแล้วกลายเป็นควัน เป็นอากาศธาตุ แต่ในโลกปัจจุบันของชั้นตังหาก ที่เป็นของจริง พ่อของฉันก็ถูกแกฆ่าจริง ความโหดเหี้ยมวิปริตของพวกแก ก็เป็นเรื่องจริง"
 ภูเตศวรตัดสินใจ "ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ช่วยไม่ได้ ที่จะต้องขอกำจัดไอ้ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดนี้ของเจ้า นิลพัตรา ลาก่อน"
 ภูเตศวรจะลงมือสวมสร้อย ทันใด ผนังด้านหนึ่งของสุสานระเบิดเปรี้ยงเข้ามา ทุกคนตกตะลึง หันไป ฝุ่นและเศษหินกระจายฟุ้ง สักพัก พอฝุ่นจางลง มีแสงจากเบื้องหลังส่งเข้ามาเป็นซิลลูเอท ร่างชายหนึ่งก้าวมา
 ทุกคนเพ่งมอง ชายนั้นเดินเข้ามาในแสง เป็นเทิดณรงค์ที่ตัวยังเปื้อนเลือดกรัง สารรูปเยิน แต่ยืนหยัด เบื้องหลังเป็นร่างที่ใหญ่โตกว่า เดินตระหง่าน แล้วเข้ามายืนเคียง ทุกคนผงะ กาฬจักรหน้าตานิ่งสนิท เยือกเย็น เยาะหยัน มองมา
 เทิดณรงค์มองสภาพสุสานที่เห็น มะแตนายมองทั้งสอง ตะลึง แล้วรีบดึงนิลพัตรามาไว้ในอ้อมแขนแน่น ภูเตศวรแค้นจัด ไม่เชื่อตา
 "พวกเจ้า ยังไม่ตาย"
 กาฬจักรก้าวอาดๆ เข้าไปหา "คนที่จะตาย คือเจ้า"
 "กาฬจักร ท่าน ระวัง พวกมันจะทำร้ายพัตร" เทิดณรงค์เตือน
 นิลพัตราดีใจสุดๆ "เทิด คุณ เป็นเพื่อนกับผู้ชายคนที่อยู่ในถ้ำจริงๆ ด้วย พวกคุณมีอิทธิฤทธิ์ปราบพวกวิญญาณพวกนี้ได้ใช่ไหมคะ"
 แต่ทันใด ภูเตศวรคว้าตัวนิลพัตรา "ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ามันจะปราบข้าได้มั๊ย ก็ดี!!ให้มันสิ้นสุดกันที่นี่ บัดนี้"
 "ปล่อยนะ ปล่อย!"
 "ปล่อยพัตรเดี๋ยวนี้"
 "เจ้าสั่งข้ารึ ไอ้คนนำสาร ไอ้เศษธุลี งั้นดูนิลพัตราผู้หญิงของเจ้าไว้ให้ดี เจ้าจะได้เห็นนางเป็นครั้งสุดท้าย เพราะนับแต่นี้ไป นางจะไม่มีวันกลับไปเป็นของเจ้าได้อีก ผู้เดียวที่นางต้องมอบกายและใจให้คือข้า ภูเตศวรเท่านั้น"
 "ไม่!!!! เทิด"
 "ฝันไปเถอะ ภูเตศวร"
 กาฬจักรจะเข้ามา แต่มะแตนายปราดเข้าขวาง ภูเตศวรสวมสร้อยใส่คอนิลพัตราทันที นิลพัตรามีอาการผวาเฮือก แล้วก็ฟุบลงไป
 "พัตร" เทิดณรงค์จะเข้ามาหานิลพัตรา ภูเตศวรยกมือขึ้น เทิดณรงค์ถึงกับกระเด็นปลิวออกไป กระแทกผนัง กาฬจักรโจมตีทันที มะแตนายสู้กับดาบกาฬจักรด้วยอาวุธที่ฉวยมาจากแถวนั้น ภูเตศวรรีบอุ้มนิลพัตราที่สิ้นสติไปที่แท่น
 "นิลพัตร เจ้าคือนิลพัตร"
 เทิดณรงค์ตะกายลุก วิ่งเข้ามา ภูเตศวรหันไป สู้กับเทิดณรงค์ มะแตนายซัดพลังใส่กาฬจักร กาฬจักรตาม ซัดพลังตอบโต้
 ขณะที่สองคู่กำลังต่อสู้กันโครมครามไปในสุสาน นิลพัตราค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่ในโฉมของนิลพัตร แววตา รอยยิ้ม เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นิลพัตรลุกขึ้นนั่ง ภูเตศวรมองมาเห็น เหวี่ยงเทิดที่กำลังเกะกะไปไกล รีบเข้าไปหา
 "นิลพัตร นิลพัตรของข้า"
 กาฬจักรก็หยุดสู้ ถอยจากมะแตนาย เทิดณรงค์ตะลึงงัน นิลพัตรค่อยๆ ลุกยืน สวยสง่า มองที่ภูเตศวร ยิ้มหวาน กอดภูเตศวร มองรอบๆ
 "ภูเตศวร โอ ในที่สุด ข้าก็ได้กลับสู่บ้านเกิด ข้ารอเวลานี้มาแสนนาน แต่บัดนี้ ความทุกข์ทรมานทั้งหมดของเรา ได้จบสิ้นแล้ว"
 ทั้งสองยืนเคียง โอบกอดกัน มะแตนายรีบเมิน ก้มหน้ากล้ำกลืน
 "เวลาที่ต้องสูญสลายนิรันดรต่างหากเล่า หยุดเพ้อพร่ำไร้สาระได้แล้ว"
 "พัตร พัตร พัตรต้องต่อสู้ พัตรฝืนเอาไว้สิ อย่าไปยอมแพ้"
 นิลพัตรหันมามองเทิดณรงค์ตาวาว สนใจ ผละจากภูเตศวรทันที
 "เทิดณรงค์ ผู้นำสาร ยังมีท่านอีกคน ฆุมและกาฬจักร เจ้าก็มาเพื่อข้าด้วยหรือ ช่างพร้อมหน้าพร้อมตากันจริงๆ ผู้ชายทั้งสามของนิลพัตร ฮ่ะๆๆๆๆ"
 "ตรีพักตราสูร ยังเก่งในเรื่องชั่วๆ ไม่เปลี่ยนแปลง" กาฬจักรว่า
 "นิลพัตร อย่าเสียเวลา เรามาเริ่มพิธี ณ บัดนี้เถิด"
 นิลพัตรสะบัดสะบิ้ง "อุ๊ย องค์ราชันย์แห่งข้า ขอข้าสนุกกับยอดรักคนใหม่ก่อนไม่ได้หรือ ผู้นำสาร ข้าต้องการสัมผัสพลังของท่าน ท่านคือมนุษย์เหนือมนุษย์ จึงสามารถมาส้องเสพกับหมู่เราได้ จริงหรือไม่"
 เทิดณรงค์ถอยกรูด ภูเตศวรสั่งมะแตนายให้มาทำพิธีให้จบ
 มะแตนายเข้ามากระชากแขนนิลพัตรา "พระนางนิลพัตรผู้ทรงความงามและอำนาจ..รีบๆกระทำภารกิจก่อนอื่นใดเถิดเพคะ"
 นิลพัตรตบมะแตนายเปรี้ยง มะแตกระโดดเข้าบีบคอ สู้กันไปมา นิลพัตรสะบัดหลุดแล้วเข้าตบอีกเปรี้ยง มะแตนายกระเด็น ปะทะข้าวของ ล้มกันโครมคราม จากนั้นก็หันไปเล่นงานเทิดณรงค์จนสะบัดสะบอมไปทั้งตัว
 ภูเตศวรมองการกระทำของนิลพัตราด้วยความตกตะลึง ไม่คาดคิดว่านิลพัตราจะเปลี่ยนแปลงไปมากถึงขนาดนั้น หลังจากที่เธอทำร้ายเทิดณรงค์จนสาแก่ใจแล้วก็หันไปต่อสู้กับกาฬจักรต่อ กาฬจักรเสียท่าให้กับนิลพัตรถูกเชิงเทียนเงินปักเข้ากลางอก กาฬจักรถึงกับสิ้นฤทธิ์ทันที
 นิลพัตรส่ายหน้า "มีแต่กำลัง ไร้หัวคิดตามเคย ไม่ว่าภพใด หรือในสภาพใด เป็นแม่ทัพหรือเป็นฆุม ยังโง่อมตะนิรันดร์กาล"
 นิลพัตราก้มลงเหยียบกาฬจักร เขาพยายามจะดึงเชิงเทียนออก
 "เจ้าทำไม่ได้หรอก กาฬจักร เพราะเชิงเทียนนี้ มันคือเงิน ธาตุบริสุทธิ์ ที่อมนุษย์ทุกตนไม่อาจต้านทาน ฮ่ะๆๆ"
 ภูเตศวรกับมะแตนายต่างมองอย่างสยอง กาฬจักรนอนเดี้ยงสนิท แรงเริ่มถดถอยๆ
 นิลพัตรเดินมาหาเทิดแล้วเหยียบอก
 "เห็นรึยังคะ เทิด เห็นไหม ราชันย์แห่งเรา อีนางทาส พวกท่านคงประจักษ์แล้วสินะ ว่าฆุมมันคือเศษธุลี เมื่อเทียบกับข้า"
 นิลพัตรเข้ามาหาเทิดณรงค์ ดึงลุกขึ้นมากอด
 "คราวนี้ ก็ถึงตาของเจ้าบ้างล่ะ ผู้นำสาร เจ้ารู้ไหม ข้าเลือกผู้นำสารไม่ผิดจริงๆ เจ้ามันน่า น่าที่จะมาเป็นเครื่องสังเวยที่จะมอบความหฤหรรษ์ให้ข้าอย่างสุดซึ้งเลยล่ะ"
 นิลพัตรจับเทิดณรงค์ เอาหัวโขกๆๆๆกับแท่นอย่างมันเมา แล้วหัวเราะลั่น ภูเตศวร มะแตนายมองอย่างตะลึง
จบตอน 27

สุสานภูเตศวร 28 จบ  
 กาฬจักรพยายามดึงเชิงเทียนออกจากอก รอบๆ แผล อาการดำไหม้ลามมากขึ้นๆๆ
 นิลพัตรจับหัวเทิดณรงค์โขกจนแตก เลือดไหลออกมาอาบหน้า เทิดณรงค์สู้แรงไม่ได้เลย มะแตนายสบตาภูเตศวรมองๆ แล้วรู้สึกเกลียดตรีฯมากขึ้น ภูเตศวรทนไม่ไหว
 "พอแล้ว ตรีพักตราสูร อย่ามัวแต่เล่นสนุก ได้เวลาทำพิธีแล้ว"
 "หยุดมือ หันมามอง ปล่อยเทิดลงไปกอง มึน หายใจระรวย"
 นิลพัตรจ้องหน้า ชี้หน้า "ไม่บังควรเอ่ยวาจาเยี่ยงนั้นกับข้า
 "องค์ภูเตศวร ข้าว่า คนที่ทำลายพิธีของเรา ดูท่าจะไม่ใช่ไอ้พวกศัตรูเสียแล้วเพคะ"
 นิลพัตรตาลุก พุ่งเข้ามา ถอนสายบัวล้อเลียน "ถูกต้องเพคะ คนที่มันตั้งใจจะทำลายพิธีทั้งหมด ไม่ใช่ศัตรูคนไกลหน้าไหนเลย แต่เป็นนังดอกบัวทอง" ชี้หน้ามะแตนาย
 "นิลพัตร เอามีดมา แล้วทำทุกอย่างให้ลุล่วงเดี๋ยวนี้" ภูเตศวรสั่ง
 "โอ๊ย ไม่ต้องรีบร้อนอีกแล้วเพคะ พระองค์ ไอ้ฆุมมันก็รอนาทีวิญญาณสูญสลาย ส่วนไอ้คนนำสาร มันก็ปางตายอยู่นั่น แต่หม่อมฉันอยากจะให้ทรงทบทวน ว่าพิธีของเรา จะต้องไม่มีนางคนนี้เข้ามาเกี่ยว"
 กาฬจักรหอบๆ หายใจ พลางมองดูเหตุการณ์ที่เกิด มองหน้าเทิดณรงค์ที่เลือดไหล ตาอ่อนแสงลง กาฬจักรพยายามดิ้นรน จะถอนเชิงเทียน แต่ทำไม่ได้
 "ภูเตศวร มีเพียงทาสคนนี้คนเดียว ที่ภักดีพระองค์อย่างแท้จริง ข้าทูลพระองค์แล้ว ว่าตรีพักตราสูร จะนำความชั่วร้ายมาสู่เรา" มะแตนายว่า
 "หนอย หน้าด้าน ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง เป็นทาสไม่รู้จักอยู่ส่วนทาส จ้องจะแย่งผัวข้าไปชั่วนิรันดร์อย่างนั้นเหรอ"
 ภูเตศวรโกรธจัด กระชากนิลพัตรมาเผชิญหน้า จ้องตาอย่างยื่นคำขาด
 "พอกันที ตรีพักตราสูร เจ้าหยุดบ้าคลั่งได้แล้ว เจ้าจะได้ทุกสิ่งหากพิธีสำเร็จ แต่นางดอกบัวทองคือคนของข้า นางคือสมุนคู่ใจที่รักข้าอย่างบริสุทธิ์แท้จริง เจ้าต้องละเว้นนาง มิเช่นนั้น เราจะต้องได้เห็นกัน"
 ทั้งสองจ้องกันอย่างเอาจริงทั้งคู่ มะแตนายเจ็บปวด มองภูเตศวรอย่างซึ้งใจ
 ขณะที่นิลพัตรกำลังปะทะคารมกับภูเตศวร เทิดณรงค์ก็พยายามตะเกียกตะกายไปช่วยถอนเชิงเทียนเงินให้กาฬจักร นิลพัตราไม่พอใจมากจึงใช้มีดปักลงที่กลางฝ่ามือของเทิดณรงค์ เขาร้องด้วยความเจ็บปวด
 ภูเตศวรจ้องเขม็ง "แทงมีดที่อกมัน นิลพัตร!"
 นิลพัตรหันมายักไหล่ "อ้าว ทำไมล่ะ พระองค์สงสาร ไม่อยากให้มันทุกข์ทรมานนานเกินไปเหรอ ดูมนุษย์ทุรนทุรายน่ะ มันสนุกสนานออกนะภูเตศวร"
 ภูเตศวรเย็นเยียบ "สังหารมัน แทงหัวใจของมันด้วยมือของหญิงที่มันรักนักหนา ให้มันจบสิ้นต่อหน้าข้า"
 "โอ เข้าใจแล้ว ที่จริง ทรงเกลียดชัง หึงหวง จนอยากจะฆ่ามันให้มันตายๆ ไปซะเร็วๆ เพราะมันคือคู่แข่งความรักของพระองค์ต่างหาก"
 ภูเตศวรผงะ "ข้าไม่มีวันลดตัวลงไปเป็นคู่แข่งของไอ้เศษสวะ ต่ำช้า น่าสมเพชอย่างมัน"
 เทิดณรงค์สวนกลับ "ทำไมล่ะ ภูเตศวร เพราะแกกลัวฉันใช่ไหม"
 "แกคงไม่นึกล่ะสิ ว่ามนุษย์เดินดินธรรมดาๆ คนหนึ่ง มนุษย์ที่แกอุตส่าห์ใช้เล่ห์กลมนตร์คาถา ใช้อำนาจแย่งผู้หญิงของเขามา มนุษย์ที่มีแค่สองมือสองเท้า จะกล้าตามแกมาถึงที่นี่ มาเหยียบสุสานภูเตศวร"
 ภูเตศวรปราดเข้าไปดึงนิลพัตรออกไป แล้วเข้าเผชิญหน้าเทิดณรงค์
 "ไอ้คนนำสาร นี่เจ้าคงผยองว่าสิ่งที่เจ้าทำมันยิ่งใหญ่เหลือเกินกระมัง เทิดณรงค์ เจ้ามันไร้ค่า"
 "ฉันไม่สนใจไอ้คุณค่าบ้าบออะไรของแกหรอก ภูเตศวร ฉันมาเพื่อปกป้องผู้หญิงของฉันต่างหาก ฉันรักนิลพัตรา ได้ยินมั๊ย ไอ้นรก"
 ภูเตศวรหัวเราะ "ช่างกล้าพูดออกมาได้ ยอมเสี่ยงท้าทายอำนาจดินฟ้าเดินทางออกไปสู่ภพภูมิของเจ้า จนได้นางคืนมา แต่เจ้าสิ เจ้ามันเหลือบไร ความรักของเจ้ามันฉาบฉวยหยาบกระด้าง เจ้าเห็นนางเป็นของเล่น"
 "ไม่จริง ถ้าฉันไม่รักพัตรยิ่งกว่าชีวิต ฉันคงไม่มายืนอยู่กลางพวกภูตผีปีศาจ ให้พวกมันทำร้ายจนอยู่ในสภาพปางตายแบบนี้"
 "ที่ผ่านมา เจ้าเคยได้ครอบครองนางไว้ในมือแล้วด้วยซ้ำ แต่เปล่าเลย เจ้าเห็นนางไร้ค่า ที่เจ้าจะทอดทิ้งแรมร้างนางไปอย่างไรก็ได้"
 "ฉันยอมรับว่าฉันเคยผิดพลาด แต่ที่ผ่านมา ไม่ว่าฉันจะไปทำอะไร อยู่ที่ไหน ใจฉันก็มีแต่พัตร ฉันไม่เคยมองใคร ไม่เคยนอกใจ ไม่มีใครรู้ ว่า ฉันต้องอดทนแค่ไหน"
 ภูเตศวรหัวเราะ "อดทนเหรอ ถ้าไม่มีข้า ไม่มีชายอื่นมายื้อแย่งนาง เจ้าก็คงจะยังอดทนอย่างขลาดเขลาตลอดไปใช่ไหม เจ้าไม่เคยแม้แต่จะแสดงให้นางรู้ ว่านางคือหญิงที่เจ้าปรารถนา เทิดณรงค์ ผู้หญิงที่เจ้าเคยปล่อยร้างนางไว้ดุจกรวดทราย สำหรับข้า นางคือเพชรประดับมงกุฎ ที่ข้ายอมเอาอาณาจักรทั้งหมดเข้าแลก เพื่อให้ได้นางกลับมา"
 เทิดณรงค์อึ้ง เงียบไป ทุกคนเงียบ
 "ดีแล้ว!!ที่ก่อนจะตาย เจ้ายังได้มีโอกาสสำนึก ว่าเจ้ามันไม่คู่ควรกับนิลพัตรามา แต่แรก เจ้าควรจะละอายใจ ที่บังอาจคิดแย่งนางไปจากชายที่รักนางอย่างสุดซึ้ง นิลพัตร เจ้าฆ่ามันได้แล้ว"
 มะแตนายมองลุ้นๆ นิลพัตรมองมีดในมือ แล้วหมุนให้มาอยู่ในตำแหน่งเหมาะมือ พร้อมแทง เทิดอึ้งๆ ขรึมไป กาฬจักรพยายามดิ้นรน มะแตนายลุ้น กาฬจักรพยุงตัวลุกขึ้นสุดแรง มือยังกุมแผลอยู่
 "ชายที่รักนางอย่างสุดซึ้ง ฮ่าๆ" ทุกคนชะงัก
 มะแตนายตวาดถาม "เจ้าหัวเราะอันใด"
 กาฬจักรตอบว่า "ข้าจักรู้นักว่า ถ้าภูเตศวรไม่ได้มีอาณาจักรอยู่ในอุ้งมือ เจ้า" กาฬจักรชี้หน้านิลพัตร "จักยอมเป็นเมียภูเตศวรหรือไม่"
 "หยุด ไอ้ชายชั่ว" ภูเตศวรและนิลพัตรโดนแทงใจดำ
 "ตรีพักตราสูร ภูเตศวร พวกเจ้า สมควรละอาย ต่อมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ พวกเจ้าทั้งหมดอ้างความเห็นแก่ตัวไปทำลายชีวิตของผู้คนในภพภูมิที่พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปแตะต้อง เป็นการล่วงเกินลิขิตฟ้าดิน พวกเจ้าจักถูกลงทัณฑ์"
 นิลพัตรหันไป หัวเราะ "ใครจะลงทัณฑ์ข้า ในเมื่อแม้แต่เจ้า ยังต้องจนตรอก"
 เทิดณรงค์มองทั้งหมด แล้วหัวเราะๆๆๆ
 "หัวเราะอะไร คงกลัวตายมากจนเป็นบ้ากระมัง"
 เทิดณรงค์ชี้หน้าภูเตศวร "เปล่า ขำ ขำอ่ะ ไอ้ผีโง่เง่า ไอ้ผีภูเตศวร"
 มะแตนายเดือนแทน "นี่ เจ้า หยุดนะ หยุดสำรากวาจาต่ำๆ ของเจ้า ไม่เช่นนั้น ข้าจะฉีกปากเจ้า"
 "อยากมีชีวิตรักนิรันดรชั่วกัลปาวสานต์กับนิลพัตรามาก ใช่ไหม แกกำลังจะฆ่า นิลพัตราที่บริสุทธิ์สดใส นิลพัตราที่เรารัก ที่ไม่รู้เรื่องอดีตรักอมตะอะไรของแกด้วยเลย เพื่อแลกกับอะไร เพื่อแลกกับชีวิตนิรันดร คู่กะอีผีพันปีใจทรามแบบนี้เหรอ"
 ภูเตศวรตวาด "หยุด"
 เทิดณรงค์ยังไม่หยุด "จริงไหม ท่านกาฬจักร นางงามใจอสัตย์ คือคำที่ท่านใช้เรียกนางคนนั้นนางคนที่ท่านแทงมันด้วยมีด คนเรา จะได้ฉายานางงามใจอสัตย์มาได้ มันคงไม่ง่าย แล้วนางที่ทำให้คนที่เคยรักมากคนหนึ่ง ถึงกับลงมือฆ่า มันคงยิ่งยากเข้าไปใหญ่"
 "นางงามใจอสัตย์นิลพัตรใช้เล่ห์กล จนได้เข้ามาอยู่ในเรือนข้า นางผู้ทะเยอทะยาน หาทางจนได้เข้าเฝ้าภูเตศวร แล้วภูเตศวรเพื่อนรัก ก็ไม่ต่างอะไรกับข้า ที่ติดกับดักของนาง พระองค์ยอมทุกอย่างมองข้ามสหายรักที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่ สลัดรักนางทาสผู้ซื่อสัตย์ ที่ผู้คนทั้งเมือง รู้ว่านางกำลังจะได้รับการสถาปนาเป็นพระสหายคนสนิท เพื่อรอตำแหน่งที่สูงส่งกว่านั้นต่อไป จริงหรือไม่เล่า นางดอกบัวทอง"
 "กาฬจักร เจ้า เจ้าจะกล่าวไปเพื่อสิ่งใด"
 "เรื่องพวกนี้ยังนับว่าน้อยนิด หากจะเทียบกับสิ่งที่นางทำกับแผ่นดิน อาณาประชาราษฎร์ ภูเตศวรก็ยังคงปิดหูปิดตา เจ้าผู้นำสารเอ๋ย ภูเตศวรมันมิได้เพิ่งโง่เง่าหลังจากเวลาผ่านไปห้าพันปีหรอก แต่มันโง่เง่ามาแต่แรกแล้ว"
 ภูเตศวรแค้น "พอ พอกันที หยุด ข้าไม่ต้องการฟัง"
 "แกไม่อยากฟังความจริง ดี ถ้างั้นก็ตามสบาย รีบๆ ฆ่าๆ ฉันเร็วๆ เลย ถึงฉันจะเคยได้มีความสุขกะพัตรแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็เป็นเวลาที่ดีที่สุด ส่วนแก ก็จะได้มีชีวิตคู่กะนางงามใจอสัตย์คนนี้ตลอดไป แบบนี้แกไม่ต้องไปตกนรกกระทะทองแดงหรอกภูเตศวร ได้อยู่เคียงข้างครองบัลลังก์กะอีนางปีศาจแบบนี้ตังหาก ที่มันจะเป็นนรกของจริงชั่วกัปชั่วกัลป์" เทิดณรงค์หัวเราะสะใจ
 ภูเตศวร มีสีหน้าและแววตาผงะอึ้งๆ นิลพัตรตาลุก หันกลับมา ตบเทิดณรงค์เพี้ยะๆๆแล้วกระชากคอมา จับกดลงกับพื้น
 "ภูเตศวร ข้าเปลี่ยนใจละ ข้าว่า ข้าจะให้มันได้มีชีวิต อยู่เห็นตอนที่ข้าลงมือแทงทรวงอกของนังนิลพัตรา ให้หลั่งเลือดจนขาดใจตายต่อหน้ามัน น่าจะสนุกที่สุด เราลองมาดูกัน ว่ามันยังจะหัวเราะออกอยู่หรือเปล่า"
 เทิดณรงค์ผงะใบ้ นิลพัตรหัวเราะใส่หน้าสะใจ ภูเตศวรมองทุกอย่าง ยิ่งขรึม นิลพัตราเดินเข้าไปหากาฬจักรก้มลงมายิ้มใส่หน้า
 "ท่านกาฬจักร มองหน้านางนิลพัตราผู้นี้ไว้ให้ดี นางกำลังจะถูกแทงตายด้วยมือข้า เพื่อหลั่งโลหิต มอบชีวิตและวิญญาณให้นางนิลพัตร เมียรักของเจ้า"
 กาฬจักรมอง เคียดแค้น นิลพัตรเดินไปกระชากจิกหัวเทิดณรงค์
 "ส่วนเจ้า ก็มองให้เต็มตา ตอนที่มีดเล่มนี้ ปักลงในดวงใจของนางที่เจ้ารัก"
 เทิดณรงค์มอง เลือดปรี่ออกปาก หายใจขัดๆ ภูเตศวรมองการกระทำนิลพัตร คิดหนัก นิลพัตรไปยืนตรงกลาง ระหว่างแท่นศพตัวเอง กับแท่นภูเตศวร หันหน้าไปสู่เทวรูป
 "ภูเตศวร นางดอกบัวทอง จงสงบใจ ตั้งจิตคิดถึงเพียงองค์ตรีพักตราสูร"
 ภูเตศวรก้มหน้าลงสำรวม มะแตนายก้มหน้า แตะมือที่เท้าภูเตศวร น้ำตาหยดลงที่เท้าภูเตศวร ภูเตศวรชะงัก สังเกตได้ถึงความช้ำใจของมะแตนาย คิดหนัก
 "ข้าแต่องค์ตรีพักตราสูร พวกข้าขอพรอันศักดิ์สิทธิ์ จากผู้เป็นที่พึ่งเดียวแห่งอโฆราลัย ราชาแห่งความสว่าง ราชินีแห่งความมืด ขุมพลังแห่งสามโลก จงดลบันดาลการฟื้นคืนชีพนิรันดรแด่ผองข้าด้วย"
 กาฬจักรพยายามจะลุกนั่ง แต่แล้วล้มลงอีก นิลพัตรแหงนเงย ชูมีดขึ้น กำลังจะแทงลงสู่อกตน ภูเตศวรอดไม่ได้ ที่จะเหลือบตาดู มองอย่างสับสน ทันใด มีมือเทิดณรงค์มาจับมือนิลพัตร ยับยั้งไม่ให้แทง
 "ไม่!!"
 นิลพัตรตาลุก "ไอ้ผู้นำสาร พิษร้ายมากนักใช่ไหม"
 นิลพัตรตบเทิดณรงค์ลงไปกองกับพื้น และชูมีดขึ้นเป็นครั้งที่สอง กำลังจะแทง เทิดณรงค์ตัดสินใจกอดขานิลพัตร เพราะลุกไม่ไหว
 "พอเถอะนิลพัตร ฉันขอนิลพัตราของฉันคืน"
 นิลพัตรถีบเทิดกระเด็น "เชอะ ยังมีหน้ามาสะเออะอีก"
 ภูเตศวรเห็นภาพทั้งหมด สับสนในใจ มะแตนายถลันจะเข้าไป นิลพัตรสั่งให้อยู่เฉยๆ มะแตนายชะงักและกล่าวว่า
 "ตรีพักตราสูร พวกข้าขอระงับพิธี อย่าดำเนินพิธีอีกต่อไป จงหยุด"
 "ไม่มีทาง ไอ้อีพวกนี้ ข้ามิใช่เพื่อนเล่นของพวกเจ้า" นิลพัตรเงื้อมีดขึ้นอีก กำลังจะแทงอกตน "จงเตรียมตัวฟื้นคืนชีพนิรันดร์ร่วมกับนาง"
 ภูเตศวรมองนิลพัตร เขาเห็นความทะเยอทะยานและความเหี้ยมโหดของเธอ ก็มิอาจจะทนเห็นหญิงสาวผู้มีหัวใจบริสุทธิ์ต้องแปรเปลี่ยนเป็นหญิงใจโฉดเยี่ยงนี้ เขาตัดสินใจพุ่งกายเข้าใส่นิลพัตร รวบตัวเธอไว้จนล้มลง กริชกระเด็นหลุดไป แล้วกระชากสร้อยตรีพักตราสูรออกจากคอนิลพัตรา
 นิลพัตรากรีดร้องออกมาอีกครั้งก่อนจะหมดสติไป ภูเตศวรจึงใช้กริชแทงลงที่สร้อยตรีพักตราสูรจนแตกแยกออกจากกัน พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนของตรีพักตราสูร
 "อย่า!" ทุกคนงง ตะลึง ภูเตศวรตัวสั่นเทา หอบ เซๆ
 "ภูเตศวร ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ" มะแตนายผวาเข้ามากอด
 ภูเตศวรนิ่ง อึ้ง ตะลึงตกใจในสิ่งที่ตนทำลงไปเช่นกัน นิลพัตราแน่นิ่ง เทิดณรงค์พยายามจะคลานไปหานิลพัตรา แต่ไปไม่รอด ภูเตศวรได้สติ อยู่ใกล้กว่า รีบสลัดมะแตนายกระเด็น เข้าประคองนิลพัตรา
 "นิลพัตรา นิลพัตรา" นิลพัตรากระพริบตา งุนงง แล้วลืมตาขึ้นมา มองภูเตศวร มึน
 "นิลพัตรา เป็นยังไงบ้าง" ภูเตศวรห่วงใย
 "คุณอัคคี" นิลพัตรายังสับสน เทิดณรงค์อึ้ง
 ภูเตศวรปลอบ "ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีอะไรอีกแล้ว คุณปลอดภัย"
 นิลพัตรามองหน้าภูเตศวร เธอมองรอบๆ เทิดณรงค์ กาฬจักร มะแตนายมองมา ต่างลุ้นว่านิลพัตราจะจำอะไรได้บ้าง
 นิลพัตราหันมามองภูเตศวร แล้วผลักทันที "แก ไอ้ปีศาจ แกทำอะไร"
 ภูเตศวรร้องไห้ รวบตัวกอดแน่น "นิลพัตรา ผมรักคุณ ผมรักคุณ คุณเข้าใจไหม ว่าผมรักคุณแค่ไหน"
 "แต่ฉันเกลียดแก ฉันกลัว ฉันขยะแขยง" นิลพัตราร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด สิ้นหวัง
 "ข้าทำทุกอย่าง เพื่อจะได้ตัวคุณมา นิลพัตรา ให้อภัยข้าด้วย ข้ามันโง่ ข้าทำพลาดไปทุกอย่าง"
 มะแตนายทรุดคุกเข่าร้องไห้ "ภูเตศวร พระองค์ ทำไมทรงยอมให้ใครๆ เหยียดหยามถึงเพียงนี้"
 "ข้านึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจะเป็นอย่างเดิม ความรักของเรามันจะยังคงอยู่ตลอดกาล เมื่อเราพบกัน เราจะจำกันได้ รักกัน แล้วทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิม ชั่วนิจนิรันดร์"
 "แต่ข้ายังรักพระองค์เสมอ นางทาสคนนี้เป็นของพระองค์ เหมือนเดิม ตลอดไป"
 "ไม่มีอะไรเหมือนเดิมตลอดไป นางทาส ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง เราไม่มีร่างกาย เราไม่มีชีวิตอีกแล้ว ทั้งหมดนี้ เรายืมคนอื่นมา นิลพัตรา ก็ไม่ใช่นิลพัตร นางเกิดแล้วดับ เกิดแล้วดับ จนมาเป็นชีวิตใหม่ เป็นคนแปลกหน้าอย่างแท้จริง แต่ที่เลวร้ายกว่านั้น ข้าเองก็เปลี่ยน! ข้าเอง ข้ากลับไปหลงรักนาง คนที่ข้ารัก มิใช่นางนิลพัตรคนเก่า แต่เป็นนิลพัตราคนใหม่ นิลพัตราคนนี้"
 นิลพัตราดิ้นรนออกมาจากอ้อมกอดภูเตศวร แววตายังแขยงเกลียดชัง "ปล่อยฉัน ปล่อย เทิดเป็นยังไงบ้าง แกทำร้ายเทิด แกจะฆ่าเทิดอีกคนเหรอ ไอ้เลวๆ"
 นิลพัตราทุบตีภูเตศวร มะแตนายกระชากตัวมา "พระองค์เมตตายังไม่สำนึก อยากตายนักใช่ไหม"
 มะแตนายโยนไปกองใกล้ๆ กาฬจักร กาฬจักรมองมา นิลพัตรามองสภาพกาฬจักร
 "คุณ บาดเจ็บ เพราะ คุณมาช่วยพวกเราเหรอคะ"
 "ข้า กำลังจะตาย เพราะ โลหะเงิน ฆ่า ปีศาจ"
 "พัตร" นิลพัตรานึกขึ้นได้ จะวิ่งไปหาเทิดณรงค์เข้าไปประคองเทิด
 ภูเตศวรทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ได้ "ดี! ในเมื่อข้าไม่สมหวังก็อย่าได้มีใครได้ครอบครองนางผู้นี้เลย ตายๆ กันไปให้หมดนี่แหละ เจ้าก็ด้วย เทิดณรงค์ เทิดของนาง ไอ้ผู้นำสารที่ไร้ค่า แกหมดหน้าที่แล้ว ก่อนที่ข้าจะสูญสิ้น ชีวิตของแกก็สมควรจะสิ้นสุดดุจกัน"
 หันไปคว้ามีดเล่มเดิมมา แล้วมุ่งมาที่เทิดณรงค์ เทิดณรงค์เริ่มถอยๆ คว้าสิ่งของใกล้มือ ขว้างภูเตศวร
 ภูเตศวรใกล้เข้ามา แล้วเงื้อมีด กำลังจะแทงเทิด "ตาย"
 ทันใดนิลพัตราเกิดความคิด ตัดสินใจได้ ภูเตศวรกำลังจะแทงเทิดณรงค์ นิลพัตราผวาเข้าขวางกลาง ระหว่างทั้งคู่ เทิดณรงค์อึ้ง ภูเตศวรชะงัก ยั้งมือไว้ทัน มองหน้านิลพัตรา ภาพเก่าๆ ชาติก่อน ตอนกาฬจักรแทงภูเตศวร แล้วนิลพัตรวิ่งมาขวาง แล้วโดนแทงข้างหน้า
 "นิลพัตรา เจ้า" ภูเตศวรลดมือลง
 นิลพัตราได้ที กระชากแย่งมีดมาจากภูเตศวร แล้วทุ่มแรงทั้งหมด แทงภูเตศวรที่อกทันที นิลพัตราหอบๆ
 "ไอ้ปีศาจ แกมาทางไหน ก็ไปทางนั้นเลย ไป๊"
 มะแตนายกรี๊ด มีดจากมือนิลพัตราแทงภูเตศวรฉึก แต่เพราะนิลพัตราแรงไม่มากพอ มีดจึงไม่เข้าไปลึก มือนิลพัตรายังจับค้างอยู่ที่ด้ามมีด แต่ตกใจ มองหน้าภูเตศวร แล้วมองที่แผล ภูเตศวรมองที่แผลนั้น ที่มีดเสียบอยู่เพียงครึ่งของความยาว แล้วมองหน้านิลพัตรา
 ภาพตัดกลับไปที่ชาติก่อน ตอนกาฬจักรแทงตนแล้วนิลพัตรวิ่งมาขวาง แล้วถูกแทงอีก ภูเตศวร ยิ้มให้นิลพัตรา แล้ววางมือตัวเองทาบทับไปบนมือนิลพัตราที่กำด้ามมีด
 "ข้าขอตาย ด้วยมือเจ้า" ภูเตศวรออกแรง กดส่งมีดลงสู่อกตนจนมิดด้าม "นิลพัตรา ข้ารัก เจ้า"
 มะแตนายร้องสุดเสียง "ไม่"
 ภูเตศวรล้มคว่ำลงแทบเท้านิลพัตรา นิลพัตราจ้องดูอย่างช้อคๆ แล้วหันไป ผวากอดเทิดณรงค์ เทิดณรงค์กอดตอบ ต่างร้องไห้กันด้วยความรู้สึกมากมาย
 มะแตนายผวาเข้าประคอง "พระองค์ๆ ฮือๆๆ ข้าช่วยพระองค์ไม่ได้ๆ"
 เทิดณรงค์กับนิลพัตราต่างมองดูภาพตรงหน้าอย่างอะเมซซิ่งมากๆ มะแตนายกรีดร้องโหยหวน มะแตนายดึงมีดออกมาจากอกภูเตศวร มะแตนายเงยมองเทิดณรงค์กับนิลพัตราด้วยความคลั่งแค้น
 "อีนางงามใจอสัตย์ อย่าอยู่เลย"
 รวบรวมพลังจะเข้าไปแทงทั้งสอง สองคนตกใจ ไม่รู้จะสู้ยังไง ทันใดกาฬจักรปรากฏตัวบังทั้งสองรับมีดแทน มีดปักลงตรงไหปลาร้า
 "ไอ้กาฬจักร เจ้าต้องตายตกตามกัน"
 กาฬจักรรวบรวมพลังชุดสุดท้าย ดึงมีดออกมาแล้วรีบล็อคตัวมะแตนายที่กำลังคุ้มคลั่ง
 "ปล่อย ไอ้กาฬจักร ข้าจะข้ามัน ข้าจะฆ่ามัน"
 กาฬจักรกระชากมะแตนายมาแล้วจับไปกดกับรูปปั้นตรีพักตราสูร
 "นังแพศยา จะฆ่ามัน มันฆ่าองค์ภูเตศวร ภูเตศวรของข้า"
 กาฬจักรเอาตัวประทับร่างมะแตนาย กดมีดปักลงไปที่อกมะแตนาย ร่างมะแตนายและรูปตรีพักตราสูรก็ติดไฟไปด้วยกันทั้งหมด ไฟลุกท่วมไปทั้งบริเวณแท่นบูชา
 "ภูเตศวรที่รักของข้า" เทิดณรงค์กับนิลพัตรามองอย่างสยอง
 สุสานเริ่มสั่นไหว ระเบิดขึ้นที่ผนังด้านนึงอย่างแรง หินเริ่มถล่มลงมา กาฬจักรยื่นมือออกมาแล้วชี้ไปที่ทางออก
 "เร็วเข้า พวกเจ้าต้องไปให้พ้นเดี๋ยวนี้ ไม่มีความงามใดจะคงอยู่ชั่วนิรันดร ทุกสิ่งย่อมผุพัง มีเสื่อมสูญไป แล้วก็มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาแทน วนเวียนกันไปเช่นนี้เสมอ"
 สองคนอึ้ง "เอ่อ แล้ว ท่าน"
 กาฬจักรถลึงตา "ไม่ต้องห่วงข้าละทิ้งอดีต อยู่กับปัจจุบัน แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่เจ้าพึงสังวรไว้ให้ดี"
 "อะไรครับ"
 "นางผู้นี้ เป็นนางที่รักยิ่ง ที่บุรุษบางคนอาจเอาชีวิตเข้าแลกนางมาได้ ฉะนั้นหากเจ้ากระทำดุจนางไร้ค่า ให้นางต้องหมองหมางวันใด ก็จงระวังหัวเอาไว้"
 เทิดณรงค์พยักหน้ารับ "ไป ได้เวลาแล้ว เจ้าจงรีบไปข้างหน้า และห้ามมิให้หันกลับมามองหลังเด็ดขาด ไปได้"
 "ทำไมห้าม"
 "ไม่ต้องถาม ข้าว่าห้าม ก็ห้าม จะไปหรือไม่ไป หรืออยากจะเฝ้าอโฆราลัยกับข้า มิให้ผู้ใดมารบกวนอาณาจักรอันยิ่งใหญ่อีกต่อไป"
 "เอ่อ ต้องขอบคุณนะคะ ที่ท่าน"
 กาฬจักรเมิน "ไม่ต้องมากความ ข้าเพียงทำงานของข้า ไป!"
 สองคนพยักหน้ากัน แล้วประคองกันไป มีเสียงครืนๆ ดังมาจากข้างหลัง เทิดทำท่าจะหันไปดู นิลพัตราจับหน้าไว้
 "อย่ามอง เทิดนี่ มองไปข้างหน้าอย่างเดียวสิ"
 ทั้งสองมองไปข้างหน้า รีบเดินเร็วขึ้น สองคนเดินขึ้นสู่เบื้องบน กาฬจักรยืนตระหง่านท่ามกลางของต่างๆ ล้มหักพังลงมา กาฬจักรยิ้มมีความสุข ภารกิจทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว วิญญาณของกาฬจักรได้รับการปลดปล่อยซะที
 แม่น้ำแถบชายแดน ทั้งหมดนั้น แต่งชุดไว้ทุกข์ อยู่ในเรือขนาดเล็กของชาวบ้าน พรานแก้วนำพิธี ไหว้แล้วพยักให้นิลพัตราปล่อยห่อผ้าลง พนมมือ ไหว้ส่งให้นภศูล กระแต ยศวดี ช่วยกันโปรยดอกไม้ และพวงมาลัยต่างๆ
 "ผมขอให้ท่านนายพันมีความสงบสุขร่มเย็นเหมือนสายน้ำ เพราะแม่น้ำสายนี้ ไหลผ่านดินแดนที่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่ท่านรักทั้งนั้น"
 นิลพัตราพยายามยิ้ม "พัตรขอให้คุณพ่อไปสู่สุคติ พัตรจะดูแลตัวเองให้ดี จะทำแต่ความดี ให้สมกับที่คุณพ่อสละชีวิตเพื่อพัตร"
 "อาจารย์ไม่ต้องห่วงพัตรแล้วนะครับ เพราะต่อไปนี้ ผมจะดูแลพัตรแทนอาจารย์เอง"
 กระแสน้ำพัดพาห่อผ้าขาว พวงมาลัยมะลิ และกลีบกุหลาบมอญลอยวนไปกลางน้ำและจมลง
 ทุกคนขึ้นมาจากเรือหลังพิธีลอยอังคาร บริเวณต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำ นิลพัตราถือขันรองน้ำกรวดมาเทจนหมด ลุกยืนด้วยใบหน้าสงบ
 "ขอบุญกุศลนี้ จงมีแก่ดวงวิญญาณทั้งหลายที่สิงสถิตอยู่ที่เมืองอโฆราลัย สถานที่ที่ข้าพเจ้าเคยผูกพันกันมาแต่อดีตชาติ ขอให้ทุกดวงวิญญาณ จงมีความสุขและไปสู่สุขคติด้วยเถิด"
 เทิดณรงค์ประคองนิลพัตราหันเดินกลับ
 เทิดณรงค์กับนิลพัตรากลับมาแต่งงานกัน เทิดณรงค์เป็นอาจารย์ และมีคนนำสร้อยตรีพักตราสูรมาให้ดู เขาถึงกับผงะ ทางด้านนิลพัตรา เจ้าหน้าที่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งมูลนิธินภศูลตามตัวมาด่วน เพราะพบร่างร่างมัมมี่ของภูเตศวรนอนทอดยาว ที่กลางอก มีมีดปัก เป็นมีดอันเดิม นิลพัตราผงะยืนช็อค
จบบริบูรณ์

credit : http://www.oknation.net/blog/lakorn
   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 25 - 28 (จบ)
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์