|
|
|
เรื่องย่อละคร
ตามบทโทรทัศน์ |
|
|
|
|
มนต์รักข้าวต้มมัด [
ตอนที่ 17 - 18 ]
|
|
จำนวนคนเข้าชม : 478 ครั้ง update
: 30/3/2009
|
|
|
|
|
|
|
มนต์รักข้าวต้มมัด 17 ตงฉินกับช่อม่วงในคราบมะม่วง ยืนคุยกับน้อยอยู่หน้าบ้าน น้อยบอกว่าตอนนี้ฟองดาวกับแจ่มใสไม่อยู่ ออกไปกับลายไท เพราะแจ่มใสจะเอาเครื่องดนตรีไทยไปขาย ตงฉินรีบถามว่าทั้งหมดไปที่ร้านไหนกัน น้อยพยายามคิด แจ่มใสเดินนำฟองดาวกับลายไทเข้ามาในร้านขายเครื่องดนตรีไทย เห็นเครื่องดนตรีไทยวางเรียงรายมากมาย แจ่มใสหยิบเครื่องดนตรีขึ้นมาดู พลางพูดให้ลายไทกับฟองดาวฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม "สมัยก่อนเวลาฉันซื้อเครื่องดนตรีไทย ต้องมาย่านบางลำพู เพราะที่นี่มีสำนักดนตรีดังๆ อยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่นี่ หรือสำนักครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะที่ย่านวัดใหม่อมตรส ส่วนอีกแห่งก็ต้องสำนักบ้านครูจางวางทั่ว แถววัดกัลยาณมิตร ที่วังบางขุนพรม ใครที่เล่นดนตรีไทยจะรู้จักกันเป็นอย่างดี" ลายไทยิ้มรับอย่างสนใจฟัง "เครื่องดนตรีไทยที่บ้านคุณท่านก็ซื้อมาจากที่นั่นด้วยใช่มั้ยครับ" "ใช่แล้วล่ะ เสียดายที่เดี๋ยวนี้ร้านดนตรีไทยเลิกกิจการกันไปเยอะ เพราะคนหันไปเล่นดนตรีฝรั่งกันมากกว่า" ฟองดาวเสริม "เพราะอย่างนี้ คุณยายถึงต้องอนุรักษ์ดนตรีไทยให้อยู่ต่อไปไงคะ" "ผมดีใจนะครับที่ยังมีคนที่รักดนตรีไทยอย่างคุณท่าน ไม่อย่างนั้นอีกหน่อย ดนตรีไทยคงถูกลืมไปหมดแน่" ทันใดนั้นเอง คนขายเครื่องดนตรีเป็นชายวัยพอๆ กับแจ่มใสเดินออกมา "อ้าวหม่อม สวัสดีครับ วันนี้จะรับชิ้นไหนดีครับ" แจ่มใสอึกอักหน้าเจื่อนๆ "เอ่อ เปล่าจ้ะ ฉันจะมาถามว่าร้านนี้รับซื้อเครื่องดนตรีเก่ารึเปล่าน่ะ" คนขายเครื่องดนตรีทำสีหน้างงๆ คนขายเครื่องดนตรีไทยสำรวจดูเครื่องดนตรีไทยของหม่อมแจ่มใส ก่อนจะถอนหายใจบอกว่าคงรับซื้อไว้ไม่ได้ เพราะสภาพเก่าเกินไป ถึงเอามาซ่อมแซมใหม่ ทาสีใหม่ก็คงได้ไม่เท่าไหร่ หม่อมแจ่มใสพยายามคะยั้นคะยอ บอกว่านี่คือไม้เนื้อดี แต่คนขายบอกว่า คนสมัยนี้แยกระหว่างของดีกับของถูกกันไม่ออก อันไหนถูกและพอเล่นได้ ก็ซื้อไว้ก่อน แจ่มใสหน้าจ๋อย เมื่อเห็นว่าขายไม่ได้ ลายไทเห็นสีหน้าแจ่มใสดูไม่สบายใจก็รู้สึกสงสารเลยนึกอะไรขึ้นได้รีบหันไปบอกแจ่มใส ว่าพอดีลืมของไว้แถวร้านเมื่อกี้ ให้รอในรถแป๊บหนึ่ง ลายไทเปิดประตูรถให้แจ่มใสกับฟองดาวขึ้นรถ แจ่มใสกับฟองดาวขึ้นไปนั่งบนรถ ลายไทรีบเดินออกไปทันที ลายไทรีบเดินเข้ามาในร้านขายเครื่องดนตรีไทย บอกว่าเขาอยากจะซื้อเครื่องดนตรีไทยของแจ่มใสไว้เอง แต่ไม่กล้า เลยอยากรบกวนให้ช่วยออกหน้ารับซื้อแทนหน่อยได้ไหม เขาจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ ซึ่งขณะนั้นตงฉินกับช่อม่วงมาถึงร้าน ได้ยินเข้าพอดี ช่อม่วงกับตงฉินมองหน้ากัน ก่อนจะแอบยิ้มร้าย นึกแผนการร้ายกาจได้แล้ว ลายไทเดินเข้ามาที่รถด้วยสีหน้าเหนื่อยมากๆ บอกว่าหาของเจอแล้ว คือผ้าเช็ดหน้า และบอกว่าคนขายเปลี่ยนใจอยากจะรับซื้อเครื่องดนตรีเอาไว้ แจ่มใสยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ลายไทยกเครื่องดนตรีไทยชิ้นสุดท้ายเข้ามาวาง ขณะที่คนขายเครื่องดนตรี ยื่นเงินให้แจ่มใสประมาณ 2-3 หมื่นบาท แจ่มใสรับเงินมายิ้มๆ คนขายยิ้มเจื่อนๆ หน้าตาลุกลี้ลุกลน ทันใดนั้นเอง ช่อม่วงในคราบมะม่วงกับตงฉินก็เดินเข้ามา สีหน้ารื่นเริงผิดปกติแลดูจะมีแผนการร้ายกาจ ตงฉินแกล้งร้องทัก ว่าบังเอิญเจอกันจังเลย แจ่มใส ฟองดาว และลายไทชะงักหันมาทางสองพี่น้องปลอมๆ ช่อม่วงในคราบมะม่วงบอกว่าเธออยากได้ขิม ตงฉินเลยพามาซื้อ ตงฉินถามแจ่มใสว่ามาซื้อเครื่องดนตรีเพิ่มหรือ แจ่มใสอึกอัก ไม่รู้จะตอบยังไงดี ฟองดาวเห็นแจ่มใสลำบากใจเลยตอบแทน "เปล่าค่ะ พอดีคุณยายเห็นว่าเครื่องดนตรีที่บ้านมีเยอะเกินไปก็เลยเอามาขายค่ะ" "โถ่ จริงๆ น่าจะบอกมะม่วงนะคะ มะม่วงจะได้ซื้อต่อ เสียดายนะคะ ที่โดนคุณคนนี้แย่งซื้อไปซะแล้ว" ช่อม่วงหันไปทางลายไท ลายไทหน้าเสียกลัวแผนแตก ตงฉินได้ที รีบซ้ำเติมทันควัน "นั่นสิครับ ผมเองก็เพิ่งรู้นะครับ ว่าคุณลายไทชอบเล่นดนตรีไทยด้วย เล่นซื้อต่อจากหม่อมไปซะหมดเลย อย่างนี้แสดงว่าชอบมากแน่ๆเลยใช่มั้ยครับ" ตงฉินกับช่อม่วงหัวเราะคิกคักกันใหญ่ ลายไทหน้าเสีย ลนลานพูดอะไรไม่ออกไป แจ่มใสกับฟองดาวมองมาทางลายไท รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แจ่มใสยิ้มออกมานิดๆ ทำเหมือนไม่โกรธอะไร "อยากได้ทำไมไม่บอกกันตรงๆ ล่ะ จะได้ไม่ต้องมาถึงที่นี่" ช่อม่วงกับตงฉินหน้าคะมำ ทำไมกลายเป็นแบบนี้วะ ลายไทลนลานอธิบาย "คือผมเห็นว่าเครื่องดนตรีไทยของคุณท่านสวยมากครับ เนื้อไม้ก็ดี แถมยังเป็นของเก่าหายากอีกด้วย ผมก็เลยอยากได้น่ะครับ" "ดีแล้วที่เธอเห็นว่าของๆ ฉันเป็นของมีค่า ถ้าอย่างนั้นก็อย่าลืมหัดเล่นด้วยล่ะ จะได้คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไป" "ครับคุณท่าน" ลายไทก้มหน้ารับ ตงฉินกับช่อม่วง มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ช่อม่วงยักไหล่ ไม่รู้เว้ย ฟองดาวทำหน้างอนๆ ลายไท ก่อนจะหันไปพูดกับแจ่มใส ชวนให้กลับ และขอโทษคนขายที่ทำให้เสียเวลา ฟองดาวจับมือแจ่มใสเดินออกไป ลายไทปาดเหงื่อ เฮ้อ นึกว่าจะไม่รอด ก่อนจะเดินออกไป ช่อม่วงกับตงฉินหน้าเหวอไปเลย เซ็งที่แจ่มใสไม่ยอมโกรธ 00000000000000000000000 แจ่มใสนั่งเช็ดทำความสะอาดขิมที่ช่อม่วงตีเป็นประจำ ด้วยสีหน้าเสียดายๆ ฟองดาวเห็นแจ่มใสดูไม่ค่อยสบายใจก็เข้ามานั่งคุยด้วยข้างๆ "คุณยายคะ ดาวถามอะไรหน่อยสิคะ ทำไมคุณยายไม่โกรธคุณ ลายไทที่แอบซื้อเครื่องดนตรีของเราล่ะคะ" แจ่มใสครุ่นคิดนิดหน่อยก่อนจะอธิบายให้ฟองดาวฟัง "ก็เพราะยายคิดว่า ถ้าของๆ เราอยู่กับลายไท ซักวันเราอาจจะขอซื้อคืนมาก็ได้ไงลูก อย่างน้อยขายคนรู้จักก็ยังดีกว่าขายคนอื่นไม่ใช่เหรอ" "ในเมื่อคุณยายยังรักยังหวงของพวกนี้อยู่ แล้วคุณยายขายทำไมล่ะคะ หรือว่ามีเรื่องอะไรที่ดาวไม่รู้รึเปล่าคะ" แจ่มใสสะอึกกึ้กไม่อยากบอกฟองดาวเลย ก็เลยทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อน "เปล่านี่ลูก ไม่มีอะไรซักหน่อย" ฟองดาวจ้องหน้าคาดคั้นแจ่มใสมากกว่าเดิม "คุณยายคะ เรามีกันอยู่แค่2คนนะคะ มีเรื่องอะไร คุณยายบอกดาวเถอะค่ะ อย่าให้ดาวกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวอยู่เหนือปัญหาแล้วปล่อยให้คุณยายไม่สบายใจคนเดียวเลยนะคะ" แจ่มใสฟังที่ฟองดาวพูดก็น้ำตาซึม ดึงฟองดาวเข้ามากอด "มันก็ปัญหาเดิมๆ นั่นแหละลูก ดาวก็รู้ว่าบ้านเราจะมีปัญหาอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องเงิน ยายไม่อยากทำให้ดาวรู้สึกว่าอุดมการณ์ของยายทำให้ดาวลำบาก" "คุณยายอย่าพูดอย่างนั้นสิคะ ดาวเองก็รักนาฏศิลป์ รักดนตรีไทยไม่แพ้คุณยายหรอกค่ะ" "ขอบใจนะลูกที่เข้าใจยายและอยู่ข้างยายมาตลอด ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ว่ายังไงยายจะต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้ ยายก็จะคอยดูเหมือนกันว่า ถ้าเราทำดีแล้วมันจะไม่ได้ดีก็ให้มันรู้ไปสิ" สองยายหลานกอดกันด้วยความรู้สึกท้อแท้ต่อโชคชะตาเหลือเกิน ตงฉินอยากเอาใจแจ่มใสบ้าง เลยให้ช่อม่วงช่วยคิด ทั้งคู่เลยคิดว่าแจ่มใสชอบให้ยกยอเรื่องนาฏศิลป์ เลยไปขอร้องอาของช่อม่วงที่เปิดโรงเรียนสอนศิลปะดนตรีอยู่ ให้รับแจ่มใสไปสอนรำไทย โดยอ้างว่าแจ่มใสกำลังป่วย เลยอยากให้แจ่มใสได้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าก่อนลมหายใจเฮือกสุดท้าย จากนั้นตงฉินกับช่อม่วงในคราบมะม่วง ก็ไปหาแจ่มใส คะยั้นคะยอให้ไปสอนรำ เพราะตอนนี้ทางโรงเรียนกำลังร้อนใจอย่างมาก ต้องการครูสอนนาฏศิลป์ด่วน แจ่มใสทำเชิด แต่ในใจแอบปลื้ม อยากไปสอนเต็มแก่ ที่ห้องเรียนนาฏศิลป์ ตงฉินพาแจ่มใสเดินเข้ามาในห้องเรียน หาอาของช่อม่วง อาของช่อม่วงพาไปดูนักเรียนในชั้น แจ่มใสหันไปเห็นว่านักเรียนแต่ละคน หน้าตาดูไม่น่าเรียนรำไทยแม้แต่น้อย บางคนแต่งชุดบัลเล่ต์ บางคนแต่งชุดเตรียมเต้นโมเดิลแจส บางคนใส่รองเท้าเต้นแท๊ป บางคนชุดฮิปฮอป หน้าตากวนประสาททุกคนเลย แจ่มใสหน้าเจื่อนขึ้นมาทันที ขณะที่ตงฉินชะงักกึ้ก จะรอดมั้ยเนี่ย แจ่มใสถามกับอาช่อม่วง "แน่ใจนะคะว่า ไม่ได้พามาผิดห้อง" "ไม่ผิดค่ะ ห้องนี่แหละค่ะ เอาล่ะจ้ะ นี่คือคุณครูที่จะมาสอนรำไทยวันนี้ ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนนะจ๊ะ" เด็กๆไม่ตอบ แถมทำหน้าตาหน่ายโลกอย่างไม่เต็มใจกันทุกคน ตงฉินกับอาช่อม่วงเดินออกไป แจ่มใสมองนักเรียนอย่างไม่ค่อยไว้ใจจะรอดมั้ยเนี่ย บรรยากาศในห้องเรียนเห็นนักเรียน กำลังรำตามที่หม่อมแจ่มใสทำจังหวะให้ เป็นจังหวะรำเพลงยาว โดยที่แต่ละคนรำกันไม่ได้เรื่องเลยซักคน "จิงโจ้งจะ จิงโจ้งจิง จิงโจ้งจะ จิงโจ้งจิง ตั้งใจกันหน่อยสิ จิงโจ้งจะ จิงโจ้งจิง" เด็กๆ รำกันคนละทิศละทาง ดูไม่ได้เรื่องเลยซักคน แจ่มใสถอนหายใจอ่อนใจมากๆ เฮ่อ อาช่อม่วงและตงฉิน ยืนคุยอยู่กับแจ่มใส ที่หน้าตาดูหน่ายโลกมากๆ "เป็นยังไงบ้างคะหม่อม เด็กๆตั้งใจเรียนกันมั้ยคะ" "เฮ่อ ไอ้ตั้งใจน่ะก็ตั้งใจอยู่หรอกค่ะ แต่ฉันว่าเด็กๆ พวกนี้อาจจะถนัดการเต้นแบบอื่นมากกว่ารำไทย แต่ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณคุณมากนะคะที่ให้โอกาสฉันได้มาสอนเด็กๆ" อาของช่อม่วงบอก "ความจริงต้องขอบใจตงฉินที่แนะนำหม่อมน่ะค่ะ ตงฉินเขาเป็นห่วงหม่อมมากนะคะ โดยเฉพาะอาการป่วยของหม่อม" ตงฉินสะดุ้งโหยง กลัวแผนแตก รีบพาหม่อมแจ่มใสกลับทันที ก่อนกลับ ตงฉินพาหม่อมแจ่มใสไปทานอาหารก่อน แจ่มใส แจ่มใสชะงัก สนใจอยากกินเหมือนกัน แอบยิ้มที่ได้ลาภปากอีกแล้ว โดยที่ตงฉินไม่ได้รู้ว่า กิมท้อและโจวกำลังสะกดรอยตามอยู่อย่างไม่พอใจ ในร้านอาหาร ตงฉินเลื่อนเก้าอี้ให้แจ่มใสนั่งอย่างพินอบพิเทา แล้วมานั่งที่ตัวเอง ทันใดนั้นเอง กิมท้อเดินพรวดพราดเข้ามาในร้านสีหน้าเอาเรื่องมากๆ ตงฉินชะงักเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงที่ดังแผดเข้ามาตรงหน้า เห็นกิมท้อก็ตกใจ ขณะที่โจวเดินตามเข้ามาอีกคนสีหน้าโมโหมากๆ ตงฉินหันไปเห็นโจวอีกคนก็ตกใจระรอกสอง กิมท้อแผดเสียง "นี่มันอะไรห๊ะอาตง อั๊วนึกไม่ถึงเลยนะว่าลื้อจะทำกับอั๊วอย่างนี้" แจ่มใสลุกขึ้นหันไปบอกกิมท้อ "เอ่อ ฉันว่ามีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีมั้ย" กิมท้อสวนขวั่บ "หุบปากเค็มๆของลื้อไปเลยนะ อาคุณนายปรุงทิพย์ ลื้อนั่นแหละตัวดีเลย นี่หาผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันไม่ได้แล้วรึไงห๊ะ ถึงได้คิดจะกินหญ้าอ่อนอย่างหลานชายอั๊ว" ตงฉินสะดุ้งโหยง ไปกันใหญ่แล้วโว๊ย "อาม่า มันไม่ใช่อย่างที่อาม่าคิดนะครับ คือผมกับหม่อม" โจวสวนขวั่บ "เงียบไปเลยนะไอ้ตง ให้อาม่าด่าให้จบก่อนค่อยพูด" โจว์หันไปหากิมท้อให้พูดต่อ "อาตง อั๊วนึกไม่ถึงเลยนะว่า คนมีการศึกษาจบถึงวิศวะอย่างลื้อจะคิดอะไรโง่อย่างนี้ นี่ถ้าลื้อไปมีกิ๊กเป็นคนอื่นอั๊วยังพอรับได้ แต่มีกิ๊กแก่เหนียงยานอย่างนี้ ลื้อนึกบ้างมั้ยว่าถ้าอาหนูช่อรู้เข้าอีจะเสียใจแค่ไหน" "อาม่า ผมว่ามันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ ผมกับหม่อมไม่ได้เป็นกิ๊กกันนะครับ" กิมท้อคิดไปใหญ่ไปโตว่าตงฉินกับแจ่มใสมีอะไรกันแล้ว แจ่มใสทนฟังไม่ได้ ตบโต๊ะดังป้าบ "ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นให้พวกเธอมาด่าปาวๆ อย่างไม่ให้เกียรติกันอย่างนี้นะ ฉันเป็นผู้ใหญ่พอ แล้วก็ไม่เคยคิดทำอะไรต่ำๆ อย่างนั้นด้วย" กิมท้อได้ยินก็เกิดอาการตกมันขึ้นทันที "อะไรนะ นี่ลื้อหาว่าอั๊วคิดต่ำๆ เหรอห๊ะ อาปรุงทิพย์" "ฉันชื่อแจ่มใสไม่ได้ชื่อปรุงทิพย์ เรียกให้มันถูกด้วย" "ทำไม ก็อั๊วพอใจจะเรียกอย่างนี้ ก็ลื้อมันเค็มยังกะทะเลเรียกแม่ หรือถ้าไม่ชอบงั้นอั๊วจะเรียกว่าอาคุงนายสินเธาว์ดีมั้ยห๊ะ" แจ่มใสโกรธปรี๊ดหนักกว่าเดิม แต่ตัดสินใจตัดบทซะเอง ให้ตงฉินจัดการคุยกับครอบครัวให้รู้เรื่องแล้วหยิบกระเป๋าเดนิหนีไปเลย แต่ตงฉินวิ่งตามแจ่มใสขับรถไปส่งบ้านทันที กิมท้อกับโจวเจ็บใจสุดๆ ที่หน้าบ้านแจ่มใส ตงฉินยืนส่งแจ่มใส ยกมือไหว้อย่างรู้สึกผิดมากๆ แจ่มใสยังฉุน "นี่เพราะฉันเห็นแก่มะม่วงนะ ฉันถึงไม่เอาเรื่องอะไร ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สบายใจถ้าเธอจะมาเหยียบบ้านฉันอีกครั้งแน่ๆ เอาล่ะ ฉันจะเข้าบ้านแล้ว ต่อไปจะทำอะไรคิดก่อนแล้วกัน แล้วอย่าดึงฉันหรือหลานสาวฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งกับปัญหาครอบครัวคนอื่น" "ครับหม่อม ผมจะจำใส่ใจไว้ครับ" แจ่มใสเดินเข้าบ้านไป ตงฉินเข่าอ่อน ไม่น่าเลยกรู ซวยจริง จบตอน 17
มนต์รักข้าวต้มมัด 18 ที่หน้าบ้านฟองดาว น้อยกำลังตัดหญ้าหน้าบ้านอยู่ โดยที่แจ่มใสคอยยืนกำกับ ทันใดนั้นเองพนักงานบังคับคดีเดินเข้ามาด้อมๆมองหน้าบ้าน แจ่มใสเห็นพนักงานบังคับคดียืนอยู่ก็เข้าไปถามว่ามาหาใคร พนักงานบอกว่าเขาเป็นพนักงานบังคับคดี เอาหมายศาลมาให้ แจ่มใสหน้าเสียทันที พนักงานบังคับคดีเอาหมายศาลส่งให้แล้วเดินออกไป แจ่มใสอ่านหมายศาลก็เข่าทรุดจะเป็นลมขึ้นมาทันที ขณะที่น้อยรีบเข้ามาประคอง ทันใดนั้นเองช่อม่วงในคราบมะม่วง กับ ตงฉินเดินเข้ามาพอดี ก็สงสัยว่าแจ่มใสเป็นอะไร น้อยบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน พอเห็นหมายศาลก็เป็นลมไปเลย ช่อม่วงกับน้อยรีบประคองแจ่มใสเข้าไปในบ้าน ตงฉินก้มลงหยิบหมายศาลมาดู ถึงอึ้งไปเลย ช่อม่วงกับน้อยพาแจ่มใสเข้ามานั่งที่เก้าอี้ ฟองดาวเดินเข้ามาเห็นเข้าก็ตกใจ ถามช่อม่วงในคราบมะม่วง ว่าคุณยายเป็นอะไร ช่อม่วงกำลังจะตอบ แต่แจ่มใสได้สติพอดี ชิงพูดขึ้นมาก่อน "ไม่มีอะไรหรอกลูก สงสัยยายก้มดูต้นไม้นานไปหน่อยก็เลยหน้าหน้ามืดเฉยๆ" ฟองดาวเดินเข้าไปหลังบ้าน เพื่อหายาดมมาให้แจ่มใส แจ่มใสรีบหันมาหาน้อย ถามหาหมายศาลเมื่อกี้ ตงฉินถือหมายศาลเดินเข้ามายื่นให้แทน แจ่มใสบอกให้น้อยเอาไปเก็บในลิ้นชัก อย่าให้ฟองดาวรู้เรื่องเด็ดขาด น้อยรับหมายศาลจากมือตงฉินแล้วรีบเอาไปเก็บในลิ้นชักทันที ช่อม่วงหันมามองหน้าตงฉินงงๆ ตงฉินบอกช่อม่วงว่าเขาเห็นหมายศาลที่กำลังจะยึดบ้านแจ่มใส เลยมองเห็นทางที่จะทำให้ลายไทเลิกกับฟองดาวได้ ด้วยการให้ช่อม่วงไปเกลี้ยกล่อมให้ลายไทช่วยใช้หนี้แทนฟองดาวเงียบๆ เมื่อฟองดาวมารู้ทีหลัง ก็จะเลิกกับลายไท เพราะคิดว่าการใช้หนี้แทนของลายไท ก็เหมือนดูถูกฟองดาว จากนั้นฟองดาวก็จะได้เป็นของเขา และลายไทก็จะได้เป็นของช่อม่วงเสียที ช่อม่วงมาหาลายไทที่บ้าน บอกว่าเธอรู้เรื่องมาจากตงฉิน ว่าบ้านของฟองดาวกำลังจะถูกยึด ลายไทชะงักทันทีด้วยความเป็นห่วงฟองดาว ช่อมวงตีหน้าเศร้า "นึกแล้วก็สงสารคุณฟองดาวนะคะ ทำไมพี่ลายไทไม่เอาเงินไปไถ่ถอนแทนคุณฟองดาวล่ะคะ พี่ลายไทก็มีเงินตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ" ลายไทชะงักสีหน้าลำบากใจมากๆ "แต่พี่รับปากคุณฟองดาวไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเรื่องเงินกับคุณฟองดาว" "แต่ถ้าไม่มีเงินไปไถ่ถอนบ้าน คุณฟองดาวต้องไม่มีที่อยู่แน่ๆ ถ้าเป็นช่อนะ ยังไงช่อก็จะช่วยคุณฟองดาวนะคะ หรือว่าพี่ลายไทไม่สงสารคุณฟองดาวเหรอคะ" ช่อม่วงเลิ่กคิ้วแอบลุ้นว่าลายไทจะตอบว่ายังไง ลายไทหนักใจ "พี่สงสารคุณฟองดาวนะ แต่ถ้าพี่ทำอย่างนั้น ก็เท่ากับว่าพี่ผิดคำพูดกับคุณฟองดาวสิ" ช่อม่วงหงุดหงิด รีบเดินหน้าตื๊อต่อ "ช่อว่าพี่ลายไทคิดมากไปรึเปล่าคะ บางทีที่คุณฟองดาวพูดกับพี่ลายไทอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะเขาเกรงใจพี่ลายไทเฉยๆ แต่ถ้าเขาเดือดร้อนขนาดนี้ช่อว่าเขาก็คงอยากให้ใครซักคนมาช่วย แล้วพี่ลายไทที่เป็นเอ่อ ... คนรักขอคุณฟองดาว จะทนเห็นคุณฟองดาวเดือดร้อนได้เหรอคะ" ลายไทครุ่นคิดลำบากใจจัง สงสารก็สงสารแต่จะทำไงดี ลายไทบอกช่อม่วงว่าเขาจะเอาเงินไปให้ฟองดาวต่อหน้า ช่อม่วงตกใจ เมื่อรู้ว่าลายไทจะไม่แอบใช้หนี้ให้ฟองดาว ลายไทบอกว่าเขาไม่อยากผิดคำพูดกับฟองดาว เพราะฟองดาวเคยบอกเขาว่า หากต้องการความช่วยเหลือจะบอก ช่อม่วงอึกอักตกใจที่ผิดแผน ลายไทไปด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้านฟองดาว โดยไม่รู้ว่าฟองดาวไปจ่ายตลาดแล้ว แจ่มใสเดินออกมาเจอพอดี เห็นลายไทก็อึ้งไป ก่อนจะตัดสินใจชวนลายไทมานั่งที่ห้องรับแขก แจ่มใสสีหน้าทุกข์ "เธอพอจะรู้จักใครที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบบ้างมั้ย คือว่า ฉันกำลังร้อนเงิน อยากหาเงินซักก้อนแต่ไม่รู้จะหาที่ไหน" ลายไทสังเกตเห็นสีหน้าแจ่มใสดูกลุ้มใจเลยรีบเสนอทางเลือกทันที "ความจริง ถ้าคุณท่านร้อนเงิน ผมพอจะช่วยคุณท่านได้นะครับ" "อย่าเลย ฉันไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร แค่เธอแนะนำคนปล่อยเงินกู้ให้ฉันก็พอแล้วล่ะ" ลายไทอึกอัก คิดว่าจะพูดยังไงดี ก่อนจะตัดสินใจสารภาพกับแจ่มใส "จะว่าไปแล้วที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อจะพูดกับคุณดาวเรื่องนี้เหมือนกันครับ เอ่อ ผมได้ยินเรื่องที่บ้านของคุณท่านจะถูกธนาคารยึดน่ะครับ เลยอยากจะคุยกับคุณฟองดาว เผื่อว่าจะพอช่วยเหลืออะไรได้บ้าง" แจ่มใสเห็นว่าลายไทรู้เรื่องก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ "เฮ้อ นี่ชาวบ้านแถวนี้คงเอาไปพูดล่ะสิท่า ทำไมทีเรื่องที่มันสร้างสรรค์ไม่คิดจะพูดกันแต่เรื่องแบบนี้ล่ะคุยกันเป็นเรื่องสนุก แล้วนี่ เธอได้พูดเรื่องนี้กับยัยดาวบ้างรึเปล่า" "เปล่าครับ เพราะผมเองก็เพิ่งทราบเหมือนกันครับ" "ถ้าอย่างนั้น เธออย่าบอกยัยดาวแล้วกัน ฉันไม่อยากให้ยัยดาวคิดมาก ปัญหานี้ฉันเป็นคนก่อ ฉันอยากแก้มันด้วยตัวฉันเอง" "แต่เงินมันค่อนข้างมากเหมือนกันนะครับ ถ้าคุณท่านไม่รังเกียจ ผมให้คุณท่านยืมก่อนก็ได้นะครับ" "ฉันขอบใจเธอมากนะที่อยากจะช่วยเหลือ แต่ฉันเห็นเธอคบกับหลานสาวฉันอย่างนี้ ฉันคงไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากเธอหรอก เดี๋ยวใครต่อใครจะเที่ยวพูดว่าฉันขายหลานใช้หนี้" ลายไทเห็นแจ่มใสเข้าใจผิดก็พยายามอธิบาย "แต่ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะครับ" "เธอจะคิดหรือไม่คิดมันไม่สำคัญหรอก แต่ฉันไม่อยากให้ยัยดาวรู้สึกไม่ดี หลานสาวฉันถือศักดิ์ศรีเป็นเรื่องใหญ่ เธอเองก็ควรจะรู้เรื่องนี้ไว้เหมือนกันนะ ถ้าอยากจะคบหายัยดาวนานๆ" ลายไทคิดหนัก อยากช่วยก็อยากช่วย แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี ลายไทไปปรึกษากับช่อม่วง ช่อม่วงเลยให้ลายไทปลอมตัวเป็นพวกปล่อยกู้นอกระบบ โดยช่อม่วงช่วยลายไทปลอมตัว แต่กลับออกไปคล้ายโจรมากกว่า เพราะหวังให้ฟองดาวและแจ่มใสจำไม่ได้ ตงฉินในคราบชินเข้ามาเห็นก็ตกใจ ถามว่าลายไทจะไปปล้นใคร ลายไทบอกว่าเขาจะปลอมตัวไปคุยกับแจ่มใส ตงฉินหันไปมองช่อม่วงเซ็งๆ แล้วพยักเพยิดให้ช่อม่วงเดินออกไป ช่อม่วงอ้างกับลายไทว่าลืมของในรถ แล้วเดินออกไป ตงฉินขอตัวจากลายไทไปทำงาน แต่จริงๆแล้วรีบตามช่อม่วงไป ตงฉินติงที่ช่อม่วงแต่งตัวให้ลายไทหยั่งกับโจร อย่างนี้แจ่มใสจะกล้ายืมเงินหรือกล้าให้เข้าบ้านหรือ ช่อม่วงคิดได้ ก็เลยกลับมาแต่งตัวให้ลายไทใหม่ ในคราบคนแก่ผมหงอก ในชุดสูทดูภูมิฐานมากๆ ช่อม่วงรีบหันไปถามตงฉิน "เป็นไงนายชิน พี่ลายไทปลอมตัวแบบนี้ เข้าท่ามั้ย" ตงฉินมองลายไท ก่อนยิ้มอย่างพอใจ จบตอน 18
credit : http://www.oknation.net/blog/lakorn
|
|
|
|
ความคิดเห็น |
ความคิดเห็นที่ 1
chanyuan
chanyuan
|
chanyuan2017.07.15 |
แสดงความคิดเห็นเมื่อ
: 7/15/2017 10:57:35 AM |
|
|
|
|
|
|
|
|
|