แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
โปรแกรมร้านอาหาร บน android, โปรแกรมร้านอาหาร บน Smart Phone, โปรแกรมร้านอาหาร บน iPad, โปรแกรมร้านอาหาร บน iPhone, โปรแกรมร้านอาหาร รองรับ PDA, โปรแกรมร้านอาหาร รองรับ Android, โปรแกรมขายอาหารออนไลน
ดูขนาดรูปภาพจริง
บาตรไม้ บาตรน้ำมนต์ ทำจากไม้แท้ แบบปิดทองและประดับกระจก มี 3 ขนาด
ดูขนาดรูปภาพจริง
Best Korea มีโฟมล้างหน้าแล้วนะ 3 สูตรพิเศษ สำหรับปัญหาผิววัยรุ่น 100ml
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lovely : Lava E18 เทา - 450
ดูขนาดรูปภาพจริง
tween tea tree oil แต้มสิวลดการอักเสบ
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Hair Set 1 Set มี 2 ชิ้น (เรียวแฮร์ : ดูแลปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
วาล์วกันเคมีย้อนกลับ อินเจ็คชั่นวาล์วทนเคมี ใช้กับปั๊มติ๊ก ปั๊มโดสเคมี
ดูขนาดรูปภาพจริง
Pitchy : New year / poppy E15 น้ำตาล 850
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน City Garden Pratumnak (ซิตี้ การ์เด้น พระตำหนัก)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ครีมบำรุงผิวผสามสมุนไพร ดร.สาโรช ตำหรับพิเศษ (ขนาด 60 กรัม )
ดูขนาดรูปภาพจริง
Magnetic Drive pumps ปั๊มแม่เหล็กสูบส่งเคมีชุบ เคลือบ
ดูขนาดรูปภาพจริง
KALOW แกลโล
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมคลินิกสัตว์เลี้ยง , สถานพยาบาลสัตว์เลี้ยง , โรงพยาบาลสัตว์ , ร้านขายของสัตว์เลี้ยง
ดูขนาดรูปภาพจริง
LG เครื่องซักผ้าฝาบน ขนาด 12 KG.
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย HPJBL X3 สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอสไรคส์ จำหน่ายปั๊มเติมคลอรีน ปั๊มเติมสารส้ม บำบัดน้ำในสระ
ดูขนาดรูปภาพจริง
เตียงฉุกเฉิน ติดรถพยาบาล,วัคซีนและยาคุมกำเนิดหมาและแมว,ถังขยะ,ถังดับเพลิง
ดูขนาดรูปภาพจริง
ที่นอน Sleep Care 6 ฟุต หนา6 นิ้ว
ดูขนาดรูปภาพจริง
Coach F76636 Town tote in signature canvas
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย HPJBL สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน City Garden Tropicana (ซิตี้ การ์เด้น ทรอปิคานา)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ชุดลดการหลุดร่วง-ปลูกผม สมุนไพรภิญญดา สมุนไพร 100% ผมร่วงผิดปกติ ผมบาง
ดูขนาดรูปภาพจริง
แบตเตอรี่สำรอง ELOOP รุ่น E12 ความจุ 11000 mAh ลายไม้ E
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนมปังญวน ,ขนมปังเวียดนาม
ดูขนาดรูปภาพจริง
Joy Racing Wheel "Thrustmaster" Ferrari Red Legend Edition C0003 - 280959
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน [ ตอนที่ 43 - 44 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 891 ครั้ง            update : 28/7/2010

   
   
  ซอนต๊อก 43

 คิมชุนชูกล่าวกับองค์หญิงต๊อกมานว่า
 "หึ ไม่แน่องค์หญิงอาจจะตีความผิด หรือไม่ก็ มีซิลเกิดเสียสติขึ้นมาก็ได้ หึ นางไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ ที่สำคัญ เกิดในตระกูลต่ำต้อยด้วย"
 องค์หญิงต๊อก มานว่า "แต่เพราะเจ้า บอกว่าการสืบสันตติวงศ์แบบเดิมเป็นความล้าหลัง ทั้งที่เจ้าเองก็ไม่มีสิทธิ์จะพูดอย่างงั้น"
 "ถ้าอย่างงั้น แล้วมีซิล ถือสิทธิ์อะไรที่จะครองราชย์ได้" คิมชุนชูถาม
 "หลายปีมานี้ นางเป็นคนเดียวที่กุมอำนาจการปกครอง จะด้วยวิธีไหนคงไม่มีใครคิด เมื่อมาถึงระดับนี้ ก็ย่อมมีคนเทิดทูนไม่น้อย"
 "ถ้าองค์หญิงทรงเห็นด้วย กับนาง งั้นก็หลีกทางให้นางละกัน"
 "ไม่ได้ นางเป็นคนเก่งก็จริง แต่ถือเป็นภัยร้ายสำหรับแคว้นชิลลา เพราะไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น นางจะให้ความสำคัญกับอำนาจมากกว่าสิ่งอื่นใดเสมอ แต่ว่า ถ้าเป็นข้าครองราชย์บ้าง ข้าจะสร้างรากฐานให้มั่นคง นั่นก็คือราษฎรของเรา แม้ว่าทุกวันนี้ ข้าจะมีกำลังน้อยกว่า แถมความสามารถ ก็ไม่โดดเด่นเท่ามีซิลก็ตาม แต่ว่า นั่นก็คือเหตุผลที่ข้าอยากครองราชย์ เราสองคน รวมกับราชสำนัก และเผ่าคาย่าของท่านคิมยูซิน ความกว้างขวางของท่านไอชอง กำลังทั้งหมดเหล่านี้ จะรวมเข้าด้วยกัน ฉะนั้นถึงบอกว่า เจ้ามาอยู่กับข้าดีกว่า ตอนนี้ เจ้าต้องตัดสินใจแล้ว"
 แล้ว ไอชองกับคิมคิมยูซิน รวมทั้งพีดัมก็มาคุยกับองค์หญิงต๊อกมานเรื่องคิมชุนชู องค์หญิงต๊อกมานถอนใจ
 "เฮ่อ เป็นเด็กที่ถือดีเกินไป แต่ก็เชื่อว่าเขาคงไม่หลงผิดอีก พ่อค้าที่ชื่อยอจงนั่น เจ้าไปรู้จักได้ไง"
 "เมื่อ ก่อนเคยช่วยอาจารย์หม่อมฉันทำงาน"
 องค์หญิงต๊อกมานสงสัย "เขากับคิมชุนชู เพิ่งมารู้จักตอนอยู่ชิลลาหรือ"
 "ไม่ใช่ รู้จักก่อนหน้านั้น ดูเหมือนตั้งแต่สมัยอยู่เมืองสุย และเขาก็รู้นิสัยคุณชายคิมชุนชูมากกว่าใคร"
 "งานของท่านมุนโน ส่วนใหญ่เขาจะช่วยในด้านไหน"
 "เขาเป็นคนกว้างขวาง สามารถหาข่าวได้หลายทาง ทั้งโกคูรยอ แพ่กเจ และเมืองสุย หรือแม้แต่ในชิลลา ก็มีสายสืบอยู่เยอะที่พร้อมจะหาข่าวให้เขาได้"
 "พอจะไว้ใจได้หรือเปล่า"
 "ก็ พอได้มั้ง ถ้า ไม่ไปเข้มงวดกับเขามากนัก อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเขา ก็พอไว้ใจได้บ้าง" พีดัมว่า
 องค์หญิงต๊อกมานถามต่อ "ความสามารถล่ะ"
 "ข้อ นี้รับประกันได้ อาจารย์ถึงไว้ใจเขา ให้ช่วยทำงานหลายอย่าง"
 คิมคิมยูซิ นถาม "ทรงคิดอะไรอยู่หรือพะยะค่ะ"
 "นั่นสิ มีซิลคิดยังไงกันแน่ ทรงบอกให้เรารู้เถอะ" ไอชองว่า
 "จริงๆ ไม่ใช่ความคิดของนาง แต่ข้ากับคิมชุนชู ช่วยกันทำลายกำแพงที่นางไม่กล้าที่จะก้าวข้าม"
 "เกี่ยว กับเรื่องเพศหญิง และความเป็นเชื้อพระวงศ์ใช่ไหมพะยะค่ะ"
 "ใช่ เป็นสิ่งที่นางไม่กล้าอาจเอื้อม แม้จะครองอำนาจมานาน ก็ไม่กล้าใฝ่ฝันถึง แต่นี่กลายเป็นว่า เรากำลังสร้างกฎใหม่ขึ้นมา"
 "เพราะฉะนั้น นางก็จะขอเป็นรัชทายาทบ้าง"
 "ใช่ เพราะนางก็มีผลงานมาก ไม่ว่าด้านไหนๆ ก็ไม่แพ้ใครเลย"
 "ที่สำคัญ แม้ตอนนี้นางจะไม่อ้างบัญชาสวรรค์อีก ก็ยังทรงอิทธิพลมากกว่าใครในแคว้น"
 "อึม แถมยังครอบคลุมทุกด้าน ไม่มีเสื่อมถอย"
 "ที่สำคัญกว่านั้นคือ นางเป็นคนที่ไม่ยอมละทิ้งความฝันตัวเองง่ายๆ เพราะ ฉะนั้น ในเมื่อเป็นพระมเหสีไม่ได้ งั้นก็สู้"
 "ครองราชย์เองซะเลย"
 "เฮ่อ ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ช่างเป็นมนุษย์ที่รับมือยากจริงๆ"
 "เมื่อ ก่อนที่องค์หญิงประกาศจะครองราชย์ ก็ทำให้พวกเราเกิดความฮึกเหิมอย่างมากแล้ว เหมือนกับมีซิลตอนนี้ ยิ่งเป็นผู้หญิงก็ยิ่งส่งผลได้มาก" คิมคิมยูซินว่า
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "ถ้านางใช้อิทธิพลขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง ยังไม่ทำให้เราลำบากเท่าไหร่ แต่นี่กลายเป็นว่าตัดสินใจออกหน้าเอง เพื่อจะทำลายแผนยุยงของคิมชุนชูให้ย่อยยับ ตอนนี้แม้ท่านเซจองกับซอวอนจะทะเลาะเบาะแว้ง แต่สุดท้ายก็ต้องปรองดองจนได้"
 พี ดัมว่า "นางจะใช้ทหารก่อการหรือเปล่า"
 คิมคิมยูซินนิ่งคิด "ทหารหรือ"
 ไอ ชองว่า "ก่อการ?"
 องค์หญิงต๊อกมานบอกว่า "หึ นางจะไม่มีวันทำอย่างงั้น"
 "ใช่ นางเป็นคนที่รักศักดิ์ศรีและห่วงภาพพจน์ เห็นได้จากสมัยถอดถอนพระเจ้าจินจิ"
 "นางต้องเกลี้ยกล่อมไต้เท้ายีซอ ท่านชุยบู ท่านมุนโน ให้ทุกคนเห็นชอบด้วยเหตุผล จากนั้นค่อยก่อการโดยไม่ให้เสียเลือดเนื้อ"
 "และเวลาจะใช้ทหาร นางก็มีเหตุผลไปอธิบายให้ทุกคนฟัง"
 "เพราะสาเหตุนี้ ตลอดเวลาที่นางครองอำนาจในชิลลา บารมีที่สั่งสมไว้จึงเป็นที่เกรงขาม และไม่มีใครกล้าหือ"
 แล้วมีซิลให้การสนับสนุนคิมคิมชุนชูเป็นพระราชา เพื่องัดข้อกับองค์หญิงต๊อกมานซึ่งจะพยายามตั้งตนเป็นราชินีปกครองแคว้นซิ ลลา การนี้ทั้งมีซิลและองค์หญิงต๊อกมานต่างพากันดึงชนชั้นสูงมาเป็นพวกเพื่อสนับ สนุนตน
 องค์หญิงต๊อกมานปฏิรูปการจัดเก็บภาษีกับพระเจ้าจินพยอง
 "จะ ปรับโครงสร้างการเก็บส่วยใหม่ ท่านยองชุนเป็นคนวางระบบ ทำให้เราเก็บส่วยได้มากขึ้น แม้แต่ชาวบ้านก็มีที่ทำกินของตัวเองแล้วนี่นา"
 "ใช่ แล้วเพคะ"
 "อีกอย่าง จะให้ขุนนางเห็นชอบคงไม่ง่ายหรอกนะ"
 "เพคะ ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ เพราะมันคือการต่อรอง ระหว่างราชสำนักกับขุนนาง ที่ยืดเยื้อมาหลายสิบปี และหม่อมฉันก็อยากให้มีข้อยุติ"
 คิมซอยอนว่า "ถ้าอย่างงั้น เป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างการเก็บส่วยคืออะไรหรือพะยะค่ะ"
 องค์ หญิงต๊อกมานว่า "ก่อนอื่นคือให้ราษฎร เข้าใจว่าสิ่งที่ทางการทำเพื่อพวกเขาและต่อรองมานาน มีผลประโยชน์ยังไงบ้าง"
 "แล้ว ข้อสองล่ะ ยังมีข้อดีอะไรอีก"
 "เป็นการสันนิษฐานของหม่อมฉัน มีซิล กำลังวางแผนจะครองราชย์ซะเอง"
 ยองชุนตกใจ "หา หม่อมฉันไม่เข้าใจที่องค์หญิงรับสั่ง"
 "เดี๋ยวก่อน นางไม่สนับสนุนคิมชุนชูอีกแล้ว แต่จะครองราชย์เองงั้นหรือพะยะค่ะ"
 องค์ หญิงต๊อกมานยืนยัน "ใช่ เพราะฉะนั้น เป้าหมายที่เราจะปรับโครงการเก็บส่วยก็คือ ลดบทบาทความสำคัญของมีซิลลงซะ และเราต้องทำให้ได้ด้วย"
 องค์หญิงต๊อกมานกลับมาก็ถามพีดัมว่างานที่สั่ง ไปถึงไหนแล้ว พีดัมตอบว่า
 "จากความช่วยเหลือของยอจง ได้ข้อมูลขุนนางมาร้อยกว่าคน กำลังดูอยู่พะยะค่ะ"
 "ไม่เฉพาะขุนนาง ยังรวมถึงคู่ครอง ลูกหลาน ญาติพี่น้องที่ใกล้ชิด รวมถึงความสัมพันธ์กับแคว้นแพ่กเจและโกคูรยอ ก็ต้องตรวจให้ละเอียดด้วย"
 "พะ ยะค่ะ หม่อมฉันกำลังทำอยู่"
 "ที่สำคัญ เราจะไม่ดูแค่ขุนนางฝ่ายเดียว คหบดีที่มีอิทธิพลในท้องที่ หรือหน่วยงานองค์กรที่ทำงานอย่างลับๆ ก็รวบรวมมาด้วยและตรวจสอบให้ละเอียด"
 "พะยะค่ะ หม่อมฉันรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ทรงวางพระทัยได้"
 "แต่ก่อนที่เราจะ เปิดเผย ห้ามบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้เด็ดขาด ต้องปิดเป็นความลับสุดยอดล่ะ"
 ไอ ชองรับคำ "พะยะค่ะ"
 องค์หญิงต๊อกมานกล่าวว่า "ข้ารู้ว่าท่านมีงานยุ่ง แต่ก็มีอีกงานหนึ่งอยากให้ทำ เครื่องเสวยและยาของฝ่าบาท ต้องมีคนดูแลให้ดี ท่านช่วยไปจัดการด้วย"
 "เพราะอะไร"
 คิมยูซินว่า "หรือว่า"
 องค์ หญิงต๊อกมานว่า "ใช่ กันไว้ดีกว่าแก้ ในเมื่อมีซิลกลับมา เราก็ต้องรอบคอบ เตรียมการป้องกันเอาไว้"
 คิมยูซินรับ "ทราบแล้วพะยะค่ะ"
 ขณะที่พวก ซอวอนกับพวกเซจองคุยกันเรื่ององค์หญิงต๊อกมาน มีซิลก็ถามชิซูว่า
 "เจ้า คิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง เจ้าเป็นคนแรกที่รู้ความคิดของข้า ทำไมไม่เห็นพูดอะไรเลย"
 "หน้าที่ของข้าคือการรับใช้ ข้าไม่มีอะไรให้ห่วง ไม่เคยหวังลาภยศใดๆ อะไรที่เป็นความหวังของท่าน นั่นคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตข้าด้วย"
 "แปลกจริง ฟังเหมือนการประชดยังไงไม่รู้"
 "ข้ามิบังอาจ"
 "ถึงโทษข้าก็ไม่มี ประโยชน์ เพราะทุกคนที่มาเกี่ยวข้องกับข้าล้วนแต่หวังอะไรบางอย่าง นอกจากเจ้าที่ยอมอยู่กับข้าโดยไม่หวังอะไรเลย ต้องโทษข้าที่คิดช้าไปหน่อย ถ้าสิบปีก่อนมีความคิดแบบนี้ละก้อ"
 ซอวอนมาบอกมีซิลว่า "ท่านเซจู ข้าให้คนไปซาวเสียงเหล่าขุนนางเกี่ยวกับเรื่องของท่าน"
 "ดีแล้ว ท่านทำดีมาก แต่ว่า ข้าจะไม่ไปร่วมแก่งแย่งในตำแหน่งรัชทายาท แต่ถึงอย่างงั้น การฟังความคิดเห็นคนอื่นก็เป็นผลดีต่อฝ่ายเรา เพราะฉะนั้นท่านจงทำต่อไป"
 "ว่าแต่ จะทำไงกับคิมชุนชูดีครับ"
 มีซิ ลคิด "คิมชุนชูหรือ"
000000000000000000

 คิมชุนชูมาขอพบมีซิลถึง ที่
 มีซิลถาม "คุณชายอยากพบข้าหรือ"
 "ใช่ ท่านเซจู"
 "ช่วงที่ ข้าไม่อยู่ ได้ยินว่าแต่งงานแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย ถ้าตอนนี้องค์หญิงชอนมยอง ได้เห็นเข้าคงจะปลื้มพระทัยนัก แต่มาคิดอีกที เราสองคน ก็เหมือนมีวาสนาผูกพันกันอยู่ เสด็จปู่ของคุณชาย อดีตพระราชาจินจิ และพ่อของคุณชายคือท่านยองซู เสด็จแม่ของคุณชาย องค์หญิงชอนมยอง ล้วนแต่ตายเพราะข้าทั้งนั้น เป็นเพราะอะไร นั่นเพราะพวกเขา จะใช้ความเป็นเชื้อพระวงศ์มาข่มเหงข้าให้ดูต่ำต้อย แต่แม้ว่าคิดจะเอาชนะข้า พวกเขาไม่ได้ทุ่มเทความสามารถให้สมกับการต่อสู้ นี่แหละคือโฉมหน้าแท้จริงของการช่วงชิง ไม่ใช่แอบอยู่ข้างหลังใช้สมองคอยปั่นหัวคนอื่น ชั่วชีวิตข้า หวังจะเป็นพระมเหสีจึงปูทางไว้อย่างครบถ้วน ทั้งชีวิต และจิตใจ ทุ่มให้กับเป้าหมายนี้โดยไม่เคยเปลี่ยน ต่อให้เพลี่ยงพล้ำก็ไม่กลัว จะกัดฟันสู้ต่อ ยังไงก็จะเอาคืน เหมือนองค์หญิงต๊อกมานที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลก คนที่คิดว่าจะมาต่อกรกับข้า มีเพียงสองทางให้เลือก ก็คือสู้ด้วยชีวิต หรือไม่งั้น ก็ยอมตายซะ"
 องค์ หญิงต๊อกมานพบคิมชุนชูก็เรียก
 "คิมชุนชู หึ หึ จะรีบไปไหน"
 "คราว นี้ ดูเหมือนองค์หญิงจะใช้แผนยุให้แตกแยก คิดจะเอาอย่างข้าใช่ไหม"
 "อึม เลียนแบบมาจากเจ้า และเรียนรู้มาจากมีซิล การโดดเดี่ยวฝ่ายที่เป็นศัตรู คงไม่ถือว่าผิดคุณธรรมมากนัก"
 "สุดท้ายใครจะชนะ ข้าอยากรู้นัก"
 องค์ หญิงต๊อกมานมองหลานชาย "ช่วยข้าได้ไหม ด้วยปัญญาของเจ้า"
 "เรื่องนี้ ต้องให้ข้ารีบตัดสินใจหรือเปล่า"
 "ไม่จำเป็น จำได้ว่าเมื่อก่อนเจ้าเคยตั้งคำถามกับข้า ว่ากลับมาชิลลาเพื่อต้องการอะไรกันแน่ แต่ข้ายังไม่ได้ตอบ ไม่เพียงแต่เล่นงานมีซิล ยังมีฝ่าบาทและบ้านเมืองที่ไม่เป็นระเบียบ ข้าต้องการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด นับแต่นี้ ข้าจะไม่ยึดมั่นต่อใครง่ายๆ อีก ทั้งฝ่าบาท พระมเหสี รวมถึงท่านคิมยูซิน ข้าจะไม่ผูกพันกับพวกเขา ด้วยความรู้สึกเป็นส่วนตัว นี่คือคำตอบจากข้า ใช้จิตใจที่ห้าวหาญและความเฉียบขาด เล่นงานทุกคนที่ขวางหน้าให้หมด เจ้าเอง ก็ขอให้คิดเหมือนข้าด้วย แต่ว่าคิมชุนชู แค่นั้นยังไม่พอหรอก เพราะเราไม่อาจไว้ใจใครได้ จึงต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง มาช่วยข้าอีกแรงเถอะนะ อย่าลังเลอีก"
 คิมยูซินบอกแม่ของเขากับโซวาให้ ดูแลโอสถของพระเจ้าจินพยองและเครื่องเสวยก็ต้องตรวจสอบยาพิษทุกครั้ง พร้อมส่งคนอารักขามากขึ้น
 องค์หญิงต๊อกมานกลับมาคิมยูซินก็บอกว่าพีดัม กับไอชองมารออยู่ ทั้งสองเข้าไป คิมยูซินกล่าวขึ้นว่า
 "คนนี้ น่าจะมีปัญหา"
 องค์หญิงต๊อกมานถาม "อูกวาง เป็นใคร"
 "เป็นเจ้าเมือง คยองซอง น้องเขยใต้เท้าอาชังโท ครอบครองที่ดิน 3400 ซก" พีดัมว่า
 "จาก ที่ตรวจสอบ ทุกแปลงมีคนเช่าทำนาและเก็บค่าเช่าได้ครบ ซ้ำยังได้รับผลผลิตต่อปีด้วย"
 แวยาว่า "แต่ว่า คนที่มีที่นาเกินกว่า 3 พันซก จะตรวจทำไมหรือพะยะค่ะ"
 "จนวันนี้ ท่านยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่เราตรวจทรัพย์สินอีกหรือ ที่นา 3 พันซก ยิ่งต้องตรวจสอบ"
 "องค์หญิง เพราะอะไร"
 "ถ้าไม่ตรวจสอบ คงยากจะทำให้ศัตรูเกิดความขัดแย้งได้"
 "หึ คิมชุนชู"
 คิมชุนชูว่า ต่อ "จริงอยู่ที่ว่าทุกวันนี้มีคนที่ล่ำซำ ครอบครองที่นาเกินกว่า 3 พันซกขึ้นไป แต่คนเหล่านี้ ล้วนเป็นขุนนางที่ต่ำกว่าขั้น 6 บ้างก็เป็นแค่ คหบดีในท้องที่เท่านั้น การจะให้ผู้มีอันจะกิน มาเข้ากับองค์หญิงเป็นความคิดที่ดี แต่เราต้องรู้ว่า ระหว่างผู้สนับสนุน และคนที่คัดค้านมีผลประโยชน์มาจากทางไหนบ้าง ถึงจะบรรลุเป้าหมาย ที่จะกระจายกำลังของศัตรูได้ และยังมีผู้ทรงอิทธิพล ที่ไม่ยอมเข้ากับฝ่ายไหน แต่จะให้มาเข้ากับองค์หญิงองค์หญิงต๊อกมาน เราก็ต้องสืบประวัติพวกเขาให้ชัดเหมือนกัน ใครที่หวังได้ตัวข้า ต้องยอมรับในสิ่งที่ข้าเป็น รวมทั้งความเจ้าเล่ห์ด้วย ต้องรู้จักผ่อนปรนให้ข้า ถึงจะร่วมงานได้"
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "ไม่เพียงแต่เจ้าคนเดียว คนอื่นที่อยู่กับข้าก็ล้วนมีข้อดีข้อเสีย บางคนก็โหดร้าย บางคนทะเยอทะยาน บางคนก็มีเป้าหมาย ทุกๆ คน ล้วนต้องปรับตัวให้เข้ากับการทำงาน ทุกคนจะช่วยกันเกื้อหนุน ให้ข้าเป็นคนใหม่เหมือนกัน สิ่งที่ข้าต้องทำก็คือ เป็นเบ้าหลอมอันใหญ่ ที่จะหล่อหลอมให้ทุกคนเข้ากันได้ ถ้าเจ้าคิดว่า เบ้าหลอมอันนี้ยังทำงานไม่พอ ข้าก็ยอมให้เจ้า ไปหาเบ้าหลอมอันใหม่ได้ทันที"
 "ทรง คิดว่า จะชนะนางได้หรือเปล่า แม่ แม่ของหม่อมฉัน องค์หญิง ชอน มยอง ฮือ หม่อมฉันร้องไห้อยู่ทุกคืน ไม่รู้ว่าองค์หญิง เคยเสียพระทัยบ้างหรือเปล่า ฮือ ฮือ"
 คิมยูซินว่า "5 พันซกจะดีมั้ย ถ้าสรุปที่ 5 พันซก น่าจะเหมาะสม"
 คิมชุนชูเห็นด้วย "หึ ดี หม่อมฉันเห็นด้วย เอา 5 พันซกนี่แหละ"
 แวยาถาม "จริงหรือพะยะค่ะ"
 พีดัมกระแอม "ถ้าอย่างงั้น เราจะประกาศออกไปตามนี้"
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "ตกลง พรุ่งนี้จะเข้าที่ประชุมด้วย ต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย ข้าจะประกาศให้รู้"
 และ เมื่อถึงการประชุม องค์หญิงต๊อกมานก็ประกาศ พวกขุนนางค้าน
 "ทำได้ยังไง ทำไมมีความคิดแบบนี้ นั่นสิ ที่เก็บอยู่ก็ดีแล้วนี่นา จะเปลี่ยนทำไมอีก"
 องค์ หญิงต๊อกมานว่า "ในสมัยพระเจ้าจินฮึง มีการจัดสรรที่ทำกินมากมายแบ่งให้ชาวบ้าน แต่ส่วนใหญ่ในนั้น กลับถูกขุนนางและเชื้อพระวงศ์ครอบครองแทน ซึ่งถือว่า ผิดต่อเจตนารมณ์ของอดีตพระราชาหลายพระองค์ ที่หวังให้ชาวบ้านได้กินดีอยู่ดี และเป็นเหตุให้ราษฎรของเรา นับวันจะยิ่งทุกข์ยากลำบากขึ้น"
 "แล้วยังไง เกี่ยวอะไรกับเราด้วย นั่นสิ"
 "ส่วนการเก็บส่วย ยังคงเก็บในอัตราเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือว่าไม่ถูก จะใช้ที่ 5 พันซกเป็นมาตรฐาน บ้านไหนมีที่ครอบครองมากกว่านี้ ต้องจ่ายส่วยให้ทางการเป็นสองเท่า" พวกขุนนางบ่นกันใหญ่
 องค์หญิงต๊อก มานกล่าวต่อ "การครอบครองที่ตั้งแต่ 5 พันถึง 7 พันซกจะเก็บส่วยเป็น 6 ส่วน"
 "หา ตั้ง 6 ส่วนเชียวหรือ ตายล่ะ" พวกขุนนางเตรียมโวย
 องค์ หญิงต๊อกมานว่า "7 พันซกขึ้นไป ไม่เกิน 9 พันซกให้เก็บส่วย 7 ส่วน จาก 9 พันขึ้นไป จนถึงหมื่น 2 พันซก ให้เก็บส่วย 8 ส่วน"
 พวกขุนนางย้อน "ล้อเล่น เก็บตั้ง 8 ส่วนเชียว มิต้องควักกระเป๋าแย่หรอกหรือ นั่นสิ ข้ามีตั้งเป็นหมื่นๆ ซก ข้ายิ่งจะจ้องฮุบที่อย่างเดียว"
 "ผู้มีที่ดิน เกินกว่าหมื่น 2 พันซกขึ้นไป ต้องจ่ายส่วยให้ทางการ ในอัตรา 9 ส่วน"
 ฮา จองว่า "เอ่อ 9 ส่วนเชียวหรือนี่ มีเหตุผลอะไรต้องเพิ่มขนาดนี้"
 "ตรง ข้าม ถ้าใครมีที่ในครอบครองต่ำกว่า 5 พันซก ให้ลดส่วยจาก 5 เหลือเพียง 3 ส่วน ส่วนชาวบ้านธรรมดาที่มีที่ตั้งแต่ 500 ถึง 5 000 ซก ให้จ่ายส่วย 2 ส่วน ใครมีที่ดินต่ำกว่า 500 ซก ให้จ่ายส่วยให้ทางการแค่ 1 ส่วนก็พอ"
 มี เซ็งว่า "นี่แปลว่าจะลดส่วยให้ชาวบ้านและขุนนางระดับล่าง แต่เพิ่มภาระให้ชนชั้นปกครองระดับสูงงั้นหรือพะยะค่ะ"
 องค์หญิงต๊อกมาน ตอบว่า "ใช่"
 พวกขุนนางบ่นกันใหญ่ พระเจ้าจินพยองตรัสขึ้นว่า
 "ต่อ ไป จะให้กฎหมายฉบับนี้มีการเร่งใช้โดยเร็ว หวังว่าเมื่อเข้าสภาขุนนางแล้ว ทุกท่านจะเห็นชอบตามนี้"
 พวกขุนนางกลุ่มแรกว่า "มันเรื่องอะไร มารีดส่วยตั้งขนาดนี้ ข้าไม่ยอมหรอกนะ"
 พวกขุนนางกลุ่มที่สอง "ดีๆ เห็นด้วยๆ ข้าจะได้จ่ายน้อยลง นั่นสิ"
 พอกลับมามีเซ็งก็บ่นกับพวกซอวอน ว่า
 "เฮ่ย ป่านนี้ชาวบ้านกับขุนนางระดับล่างคงได้เฮกันลั่น ขอให้องค์หญิงจงเจริญแล้ว"
 ฮาจองว่า "องค์หญิงก็ไม่รู้นึกเพี้ยนอะไรขึ้นมา ทำแบบนี้คือจะเป็นศัตรูกับพวกเราชัดๆ ว่ามั้ย"
 ซอวอนว่า "ไม่ใช่หรอก เป้าหมายที่องค์หญิงทำแบบนี้คือยุยงให้แตกแยก"
 ฮาจองตาตื่น "หา แตกแยกยังไงกัน"
 "จุดประสงค์คืออะไรล่ะ ก็เพื่อให้สองฝ่ายที่ได้ผลประโยชน์เกิดความเห็นที่ขัดแย้งกัน"
 "ซี้ด เหมือนที่คุณชายคิมชุนชูแต่งงานกับโพยาง ทำให้ท่านเซจองกับท่านซอวอนเกิดหมางใจจนมองหน้าไม่ติดใช่ไหม"
 "ถูกต้อง แผนขององค์หญิงต๊อกมานก็คือ สร้างรอยร้าวระหว่างขุนนางด้วยกัน เพื่อจะได้กระจายกำลังพวกเราไปซะ"
 "อ้อ จากนโยบายเรื่องเก็บส่วย เชื่อว่าอาจทำให้ขุนนางบางคนพอใจ ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่ละก้อ"
 "จะมีขุน นางบางส่วนที่ถูกชักจูงออกไป"
 "ใช่ ดูเหมือนว่าองค์หญิงองค์หญิงต๊อกมาน นับวัน จะยิ่งทรงฉลาดมากขึ้น"
00000000000000

 พวกองครักษ์ก็พา กันพูดถึงเรื่องนี้ บางคนไปถามโฮแจ
 "ท่านโฮแจ คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นไปได้หรือเปล่า"
 "ข้าจะรู้ได้ไง"
 "ท่านอยู่ ฝ่ายปกครอง น่าจะรู้ข้อมูลมากกว่าเราไม่ใช่หรือ"
 "ส่วนตัวข้าก็อยากให้ ผ่านนโยบายนี้ แต่ในสภาขุนนาง รู้มั้ยว่าองค์หญิงมีดำริยังไงบ้าง"
 "องค์ หญิงทรงยืนกราน ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจ"
 ยิมจงว่า "เมื่อเป็นแบบนี้ เราจะสะท้อนความคิดเห็นของเหล่าองครักษ์ไปยังที่ประชุมจะดีมั้ยครับ"
 "พ่อ ข้าบอกว่า สองวันนี้จะมาพูดคุยกับเหล่าขุนนางและดูการประชุมด้วย ตอนนี้คงเข้าเมืองมาแล้ว ข้ากำลังจะไปต้อนรับ"
 "ถ้าอย่างงั้น ข้าขอไปด้วยได้ไหม"
 "ข้าก็เหมือนกัน อยากพบท่านยองชุนซักครั้ง"
 เวลา นั้นยองชุนทูลพระเจ้าจินพยองว่า
 "ตอนนี้เหล่าขุนนาง ได้เกิดความเห็นแตกแยกเป็นสองฝ่ายแล้วพะยะค่ะ"
 "เพราะผลประโยชน์ที่ไม่ ลงตัวระหว่างขุนนางที่ต่างระดับชั้น ทำให้แม้แต่ในวังก็เกิดบรรยากาศอันตึงเครียดด้วย"
 คิมซอยอนว่า "ใช่ จุดประสงค์ขององค์หญิง นับว่าใกล้จะบรรลุผลแล้ว"
 องค์หญิงมานมยองว่า "แต่ว่า แม้ขุนนางระดับกลางจะเห็นด้วยกับนโยบายนี้ แต่กว่าจะเข้าที่ประชุม คิดว่าขุนนางระดับสูงจะเห็นด้วยหรือเปล่า"
 "ความจริงเราก็ไม่ได้คาดหวัง ว่าจะผ่านแน่นอน"
 พระมเหสีมายาตรัสขึ้น "ถ้าอย่างงั้น"
 ยองชุนทูล "มี 8 คนที่คัดค้าน ในขณะที่หม่อมฉันกับท่านซอยอนเห็นด้วย ญัตติคงจะตกไป แต่แม้ว่าจะไม่ผ่าน ขุนนางที่คัดค้านเรื่องนี้ อีกไม่นานจะเกิดความบาดหมางกับขุนนางระดับล่างและชาวบ้านอย่างแน่นอน"
 "ที่ จริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝ่ายไหนเห็นด้วย ฝ่ายไหนที่จะคัดค้าน ไม่ต้องประชุมก็รู้อยู่แล้ว" พระเจ้าจินพยองตรัส
 "และถ้าค้านจนเรื่อง นี้ตกไป เท่ากับเผยความเห็นแก่ตัวของขุนนางระดับสูง ให้ชาวบ้านได้ตาสว่าง รู้ว่าใครที่ทำเพื่อบ้านเมืองจริงๆ"
 "ใช่แล้ว"
 แวยามาพบคิมยูซิน บอกว่าพีทันอยากพบ แล้วก็มอบจดหมายให้ คิมยูซินไปถามไอชองว่า
 "ขุนนาง เริ่มมีปฏิกิริยาแล้ว"
 ไอชองตอบว่า "ใช่ พ่อหม่อมฉันก็บอกว่าจะมาสังเกตการประชุมในวาระนี้ด้วยพะยะค่ะ"
 องค์หญิง ต๊อกมานว่า "หึ จริงหรือนี่"
 คิมยูซินว่า "อ้อ ยังมีจดหมาย"
 คิมยู ซินส่งให้องค์หญิงต๊อกมานแล้วถามว่า เขียนว่าไงบ้าง
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "หึ ท่านจูจินบอกว่าอยากพบข้าซักครั้ง"
 "ท่านจูจินคนนี้ กุมกำลังทหารไว้หลายพันคน เท่ากับครอบครัวชนชั้นสูง 5 พันครอบครัว แถมยังอยู่ใกล้เมืองหลวงที่สุด มีกำลังที่พร้อมอยู่ตลอด"
 "ที่สำคัญยัง มีขุนนางอีกหลายฝ่ายที่จะร่วมสังเกตการณ์ ต่างก็สนใจเรื่องนี้มาก"
 มี เซ็งถามมีซิลว่าทำไมนิ่งเฉยนัก
 มีซิลว่า "องค์หญิงต๊อกมานนี่ ช่างเป็นเด็กฉลาดที่สอนแล้วรู้จักต่อยอดไปไกลนัก ขุนนางที่ให้มาคุยเป็นการส่วนตัว ได้มาพบแล้วหรือยัง"
 ซอวอนว่า "ครับ ทุกคนมาพบหมด แต่ละคนก็เริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป"
 "ท่านแม่ ขืนเป็นแบบนี้ ฐานอำนาจของเรามิถูกสั่นคลอนหรอกหรือครับ ท่านแม่ ทำไมไม่ยอมพูดอะไรซักคำล่ะครับ" ฮาจองว่า
 "พี่ใหญ่ ขืนปล่อยไว้ เราจะถูกผู้คนประนาม หาว่าเห็นแก่ตัวนะ"
 "ใช่ ไม่ควรปล่อยให้เป็นแบบนี้ ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องแบกรับเสียงประนามของชาวบ้าน เพราะฉะนั้น ถึงวันประชุมเมื่อไหร่ ให้ทุกคนลงมติเห็นชอบด้วย"
 "หา อะไรนะ บอกให้เราเห็นชอบด้วยหรือ"
 "ฮูหยิน ทำไมถึงให้"
 "ล้อเล่นน่า ท่านแม่ เพราะอะไรถึงบอกให้เรา"
 มีซิลว่า "ภายในวันนี้ ให้ท่านพี่ไปหาใต้เท้า ซูอุย ท่านซอวอนไปหาท่าน จินชุน มีเซ็งไปหาท่าน ซินโพ ส่วนฮาจองไปหาท่าน ซุงซิน จากนั้นเอาจดหมายไปมอบให้ ทุกคน จะต้องมอบให้กับมือพวกเขา และรอฟังคำตอบภายในคืนนี้ นั่งเฉยทำไมล่ะ ไม่รีบไปทำงานอีก"
 ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันนั่นเอง ด้านมีซิลนั้นกลับดำเนินการทางลับเพื่อใส่ร้ายป้ายสีองค์หญิงต๊อกมานคิดการ ใหญ่ไม่เป็นผลดีต่อราชสำนัก
จบ 43

ซอนต๊อก 44

 พระเจ้าจิ นพยองทรงทราบเรื่องการใช้เสียงข้างมากเป็นมติ ซึ่งเป็นความคิดขององค์หญิงต๊อกมานก็แปลกพระทัย
 "ใช้เสียงข้างมากเป็น มติ เป็นความคิดของต๊อกมาอีกหรือ"
 ยองชุนทูล "แม้ว่าหม่อมฉันกับท่านซอยอนจะแสดงความเห็นชอบ แต่ขุนนางอื่นล้วนแต่คัดค้าน เรื่องนี้จึงตกไปพะยะค่ะ"
 พระมเหสีมายาตรัสว่า "เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว 700 ปีที่ผ่าน บ้านเมืองเราอยู่มาได้ก็ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ของสภาขุนนางนี่แหละ"
 "ไม่ แน่ว่าเป้าหมายขององค์หญิง อาจไม่ได้หวังให้ผ่านความเห็นชอบก็เป็นได้ เพคะ" องค์หญิงมานมยองทูล
 คิมซอยอนเห็นพ้อง "ใช่ ญัตติตกไปก็จริง แต่ขุนนางระดับล่างและชาวบ้านที่มาดู ต่างก็รู้สึกเสียดายนัก ไม่แน่ว่าองค์หญิง อาจต้องการผลแค่นี้ก็ได้"
 พระเจ้าจินพยองตรัสว่า "เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงความด้อยประสิทธิภาพ ถึงได้ทำแบบนี้หรือเปล่า"
 "หม่อม ฉันว่า เป้าหมายขององค์หญิง คือจุดนี้มากกว่า"
 "ใช่ ทุกคนจะได้รู้ว่าอะไรที่เกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ จะให้พวกเขาผ่านความเห็นชอบคงเป็นไปไม่ได้เลย โอย" พระเจ้าจินพยองทรงไอ
 พระ มเหสีมายาเป็นห่วง "ฝ่าบาท ทรงเป็นไรหรือเปล่าเพคะ ถ้าไงกลับห้องบรรทมดีกว่ามั้ย"
 "เฮ่อ ข้าไม่เป็นไร หึ ไม่ต้องห่วง เฮ่อ"
 ด้านมีซิลก็กล่าวกับองค์หญิงต๊อกมานว่า
 "ศึกนี้เหมือนเราได้ แลกหมัดคนละครั้ง ลงมติเสียงข้างมาก เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมไม่เบา"
 "ใช่ เพราะต่อให้นโยบายดีแค่ไหน กว่าจะผ่านสภาขุนนางได้ เหมือนต้องต่อสู้อย่างหนักหน่วง"
 "แต่การลงมติเป็นเอกฉันท์เป็น ธรรมเนียมมานาน"
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "แต่ว่า การลงมติเป็นเอกฉันท์ เริ่มไม่สอดคล้องกับการพัฒนาบ้านเมืองของเรา เพราะสภาในทุกวันนี้ กลายเป็นเครื่องมือปกป้องผลประโยชน์ของเหล่าขุนนางชั้นสูง โดยไม่เห็นแก่ใครทั้งสิ้น และไม่มีนโยบายอื่นรองรับ ถ้าเป็นเรื่องที่พวกเขาคัดค้าน"
 "องค์หญิงรับสั่งถูกแล้ว แต่ว่า หม่อมฉันก็มีความเห็น ทุกวันนี้องค์หญิงก็ได้รับประโยชน์จากธรรมเนียมตรงนี้ ไม่ทราบว่าจะรู้หรือเปล่า"
 "หึ อะไรนะ"
 "ถ้าหาก เหล่าขุนนางร่วมมือกัน ขอให้องค์หญิงวางมือทางการเมืองและเอา ญัติตินี้เข้าที่ประชุม ผลจะเป็นไงบ้าง ถ้ามีประเด็นนี้ออกมา แล้วใช้เสียงข้างมากในการตัดสิน ขุนนางในสภา ออกเสียงแค่ 6 เท่านั้น องค์หญิงก็ต้องวางมือจากการเมืองทันที แต่ว่า ถ้าเป็นการลงมติเอกฉันท์ ขอเพียงท่านซอยอนหรือท่านยองชุน คนใดคนหนึ่งไม่เห็นด้วย ญัตตินี้ก็เป็นอันตกไป ทำให้องค์หญิงได้อยู่ในตำแหน่งอย่างมั่นคงเหมือนเดิม"
 องค์หญิงต๊อกมาน ทำสีหน้ากระหยิ่ม "หึ งั้นหรอกหรือ เป็นผลพลอยได้ของข้าสินะ"
 "ไม่ว่าจะ เป็นกฎหมาย หรือว่า ธรรมเนียมปฏิบัติใดๆ มักเป็นเกราะคุ้มกันของผู้ที่อยู่เหนือกว่า ถ้าใครคิดมาต่อกร ก็ต้องระวังอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บ"
 "ถ้าอย่างงั้น ในแง่ของกฎหมายหรือธรรมเนียมปฏิบัติ เราจะใช้เป็นเครื่องมือ ไปเล่นงานอีกฝ่ายได้ไหม"
 "เล่นงานอีกฝ่ายหรือ? เฮ่อๆๆ ตายล่ะ ดูซิเนี่ย หม่อมฉันเกือบจะพลั้งปากสอนองค์หญิงอีกแล้ว ช่างเป็นเด็กที่ขยันใฝ่รู้จริงๆ จนหม่อมฉันเกือบใจอ่อนสอนให้ซะแล้ว ขอทูลลา"
 เวลาต่อมา ไอชองถามคิมชุนชูเรื่องสภาขุนนางว่า
 "ท่านบอกว่า ไงนะ คุณชายชุนชู ท่านจะทำไงกับสภาขุนนาง"
 คิมชุนชูว่า "สมควรหรือเปล่า หรือว่า ความคิดหม่อมฉันเลยเถิดเกินไป ช้าหรือเร็ว สภาขุนนางก็ต้องถูกยกเลิกในที่สุดอยู่แล้ว จริงมั้ยพะยะค่ะ"
 องค์หญิง ต๊อกมานว่า "ใช่ ข้าก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน"
 ไอชองค้าน "แต่ว่า นี่เป็นสภาที่อยู่คู่บ้านเมืองมา 700 ปีแล้ว จะยกเลิกได้หรือพะยะค่ะ"
 "ตั้งแต่ วันนี้ไป สิ่งรอบข้างของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอด เพราะฉะนั้น ไม่ว่ายังไง คงต้องเปลี่ยนค่านิยมบางอย่างทิ้งไป แต่ต้องทำอย่างรอบคอบ ตอนนี้แคว้นชิลลา ต้องการผู้นำที่เด็ดเดี่ยว และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล"
 องค์ หญิงต๊อกมานทราบจากคิมยูซินว่าพ่อขององครักษ์พีทันและวังยุน ต่างมีที่ดินไม่เกิน 5 พันซก ตรงกับเงื่อนไขที่ควรได้รับการลดหย่อน องค์หญิงต๊อกมานจึงไปพบด้วยตัวเอง
 "ท่านยูซินเล่าให้ข้าฟังหมดแล้ว พวกท่านเข้าใจในสิ่งที่ข้าทำ ต้องขอขอบคุณมาก"
 จูจินว่า "องค์หญิงรับสั่งเกินไปแล้ว เราต่างหากที่ต้องขอบพระทัย"
 ชายแก่อีกคน ว่า "นั่นสิพะยะค่ะ องค์หญิงทรงให้ความเป็นธรรมแก่ขุนนางระดับกลางอย่างเรา ถือเป็นพระเมตตายิ่งนัก"
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "ไม่ต้องเกรงใจหรอก ถ้ามีพวกท่านเป็นแบบอย่าง ต่อไปงานของข้าคงจะง่ายขึ้น รวมถึง จะได้ปรับเปลี่ยนสภาขุนนางด้วย ทุกวันนี้สภาขุนนาง มักเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง มากกว่าจะเห็นแก่บ้านเมือง ต่อไป ข้ายังต้องให้พวกท่านช่วยอีกหลายอย่างนัก"
 จูจินกับชายแก่อีกคนรับคำ "พะยะค่ะองค์หญิง"
 หลังจากองค์หญิงต๊อกมานกลับไปแล้ว จูจินก็รีบไปส่งข่าวบอกเซจองทันที และยืนยันว่าจะเชื่อและอยู่ข้างเซจอง
 มี ซิลไปพบยอจง และบอกว่ามีอะไรจะให้เขาช่วย
 "ได้ยินว่าท่านสนิทกับพีดัม มากใช่ไหม อีกสองวันพยายามชักชวนเขา ไปเที่ยวในที่ๆ ห่างไกลจากเมืองหลวง อย่าเพิ่งให้กลับมาตอนนี้ได้ไหม"
 ยอจงแปลกใจ "จะให้เขา ไปเที่ยวหรือครับ"
 "ท่านฟังไม่ผิดหรอก หาที่ๆ ทิวทัศน์สวยงาม ให้เขาพักผ่อนซัก 2-3 วันแล้วค่อยกลับมา"
 "เอ่อ แต่ แต่ถ้าเขา ไม่ยอมไปกับข้าน้อยล่ะครับ"
 "ไม่ยอมไป ก็ใช้กำลังพาเขาไปให้ได้" ยอจงยิ่งอึ้งหนัก
 ซอวอนไปคุยกับยองชุน ขณะที่ฮาจองก็คอยหมั่นไปพบคิมซอยอนในฐานะที่ดองกัน ทำทีไปเยี่ยมลูกสาว
 ขณะ ที่ยองชุนรู้สึกแปลกๆ ที่ซอวอนมาชวนพูดคุย จึงเอ่ยปากว่า
 "ท่านจะพูด อะไรกันแน่ โปรดอย่าอ้อมค้อมได้ไหม"
 "คุณชายชุนชู เป็นลูกพี่ชายท่าน จึงมีศักดิ์เท่ากับเป็นหลานอา รวมถึง ยังเกี่ยวดองเป็นหลานเขยข้าอีกต่างหาก"
 "แล้วยังไง ท่านจะมาพูดอะไรกับข้าอีก"
 "ความจริงคุณชายชุนชูกับฝ่ายเรามีความเกี่ยว พันก็ดีแล้ว แต่กลับทำให้ข้าวางตัวลำบากนัก"
 "เพราะปัญหาระหว่างท่านกับ ท่านเซจองใช่ไหม"
 "ใช่ ข้าบอกแล้วว่าไม่ได้ผูกมัดเขา แต่ท่านเซจองก็ไม่ยอมเชื่อ ท่านยองชุน ข้าข้าอยากรู้ว่าท่าน ใจจริงก็อยากให้คุณชายชุนชูเป็นพระราชาองค์ต่อไปหรือเปล่า"
 "ความหมาย ของท่านคือ อะไรกันแน่"
 "เราสองคน จำต้องลงเรือลำเดียวกัน เพราะเหตุการณ์บังคับไม่ใช่หรือ"
 พอซอวอนกลับมาถึงมีซิลก็รีบถามว่า สำเร็จหรือเปล่า
 "ใช่ สำเร็จแล้ว"
 "ของสิ่งนั้น เอากลับมาด้วยหรือเปล่า"
 "สามารถเอากลับมาได้ก็จริง แต่ว่า ท่านจะเอาไปทำไม"
 "ดีมาก มาให้ข้าเร็ว"
 "ท่านเซจู ข้าพยายามจะเข้าใจในสิ่งที่ท่านทำ ถึงได้ยอมช่วยเหลือ แต่ว่า เรื่องนี้ไม่เห็นจะเข้าใจซักนิด ทำไมต้องเป็น"
 "ที่ข้าต้องการของสิ่ง นี้ก็เพราะ ต้องการท่านซอวอนคนเดิมกลับมา และช่วยคลี่คลายความกลัดกลุ้มของท่านด้วย"
 "แต่ว่า ทำไมต้องให้ข้าเอามันมาในเวลานี้ด้วย"
 "เพื่อที่ว่า จะได้ช่วยให้ข้าสบายใจขึ้น"
 "ข้าไม่เข้าใจความหมายของท่าน"
 "สิ่ง ที่เรากำลังจะทำ ห้ามมีคำว่าล้มเหลวเด็ดขาด"
 "หมายความว่า"
 "ใช่ นั่นก็คือพีดัม"
00000000000000000

 ด้านยอจงไปชวนพีดัมออกมา เที่ยวแต่เขาไม่ยอมมา จึงวางยาในเหล้า กว่าจะตื่นขึ้นมาพีดัมก็ถูกจับมัดจนทำอะไรไม่ได้
 วันรุ่งขึ้นใกล้ถึง เวลาประชุม ซอแจนำรายชื่อมอบให้องค์หญิงต๊อกมาน
 "รายชื่อขุนนางที่เห็น ด้วยกับนโยบายขององค์หญิง"
 "ได้พบใต้เท้าจูจิน ซึ่งเป็นพ่อของพีทันหรือเปล่า เขายังไม่มีท่าทีที่แน่ชัด ว่าคิดยังไงกับเรื่องการเก็บส่วยใหม่"
 "ท่านจูจินคนนี้ เป็นผู้กุมกำลังทหารในเมืองซังจู ซึ่งอยู่ใกล้เมืองหลวงที่สุด เป็นขุนนางที่เราต้องการตัวมากนะพะยะค่ะ"
 "ถึงจะไม่ใช่ขุนนางระดับสูง แต่เขาก็สนิทกับท่านเซจองมานาน เราจึงไว้ใจเขามากไม่ได้"
 องค์หญิงต๊อก มานว่า "ถ้าอย่างงั้น ข้าคงต้องไปคุยกับพีทันอีกครั้ง อีกอย่าง ท่านแวยาก็ช่วยดูแล เกี่ยวกับความปลอดภัยในวังหลวงทั้งหมด อย่าให้บกพร่องได้ล่ะ"
 เมื่อถึงเวลาประชุม คิมซอยอนกลับไม่ยอมตื่น องค์หญิงมานมยองต้องมาปลุกพร้อมบอกว่า
 "หัวข้อการประชุมก็คือจะริดร อนอำนาจขององค์หญิง ไม่ให้ยุ่งกับการบริหาร สั่งให้ขุนนางทุกคนไปกันพร้อมหน้า"
 คิมซอยอนแปลกใจ "ไม่มีข้ากับท่านยองชุน ยังคิดประชุมอีกหรือนี่ เอาชุดมาให้ข้าเร็ว ข้าจะไปดูหน่อย"
 "ค่ะ"
 ด้านแวยาก็รับทราบจากแทพุงเรื่องประชุม
 "เจ้า บอกว่าไงนะ หัวข้อการประชุมคืออะไรกันแน่"
 แทพุงว่า "หัวข้อการประชุมก็คือ ไม่ให้องค์หญิงทรงยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และให้วางมือนับแต่นี้น่ะครับ"
 "มีเรื่องแบบนี้ได้ยังไง บอกว่าจะประชุมด่วนด้วยหรือ"
 "ครับ ขุนนางทุกฝ่ายไปรอกันพร้อมหน้าแล้ว"
 "แต่ ว่า สภาขุนนางต้องลงมติเป็นเอกฉันท์ ถ้ามีท่านยองชุนกับท่านซอยอนอยู่ด้วย เห็นจะไม่มีทางผ่านได้ง่ายๆ"
 "จริงอยู่ แต่ช่วงที่องค์หญิงไม่อยู่ในวัง ทำไมถึงเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้"
 "ไม่ถูก ข้าว่ามีอะไรผิดปกติ โดยเฉพาะการประชุม"
 เวลานั้นในที่ประชุม ขุนนางบางคนว่ายองชุนกับคิมซอยอนไม่มาแล้วจะประชุมได้ยังไง เซจองกลับบอกว่า
 "ตอน นี้ก็มีขุนนางผู้ใหญ่ 8 คนอยู่กันพร้อมหน้า ขอเพียงพวกเราทุกคน ลงมติเห็นชอบก็พอแล้วนี่"
 ขุนนางคนหนึ่งว่า "แต่ว่า เราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แล้วจะให้"
 ขุนนางอีกคนว่า "ไม่งั้นเราจะรอขุนนางที่ไม่รับผิดชอบและไม่รู้เวลา มาทำให้เสียงานใหญ่ของบ้านเมืองได้หรือ"
 ฮาจองว่า "หึ ที่สำคัญ เรามีตราประทับของพวกเขาที่รับรู้ว่าจะมีการประชุมแล้ว"
 เซจองตัดบทว่า "งั้นก็ถือเป็นกรณีพิเศษ ให้ทุกคนที่มาประชุมพร้อมหน้าในวันนี้ แสดงความคิดเห็นก็พอแล้ว"
 ฮาจองเห็นพ้อง "นั่นสิครับ เรื่องอะไรต้องไปรอพวกเขาอีก ข้าเห็นด้วย"
 มีเซ็งว่า "เกี่ยวกับกฎหมายการประชุมขุนนาง ไม่มีข้อไหนที่บอกว่าต้องให้ครบองค์ประชุมซะก่อน มีแต่บอกว่า ต้องลงมติเป็นเอกฉันท์ถึงจะผ่านกฎหมายได้จริงมั้ย"
 ขุนนางหลายคนเริ่ม เห็นด้วย เซจองจึงเริ่มการประชุม
 คิมยูซินรู้เรื่องการประชุมจากกุกซอน และไอชองก็แปลกใจ
 "อะไรนะ มีขุนนางแค่ 8 คนยังจะดึงดันเปิดประชุมอีกหรือ"
 กุกซอนยืนยัน "ครับ ได้ยินว่าเดินหน้าต่อไปโดยไม่รออีกสองคน"
 ไอชองว่า "ประเด็นก็คือถกเรื่องบทบาทขององค์หญิง"
 "ครับ แล้วจะทำไงดี"
 "ทำ แบบนี้มันถูกที่ไหน ทำไมไม่มีท่านยองชุนกับใต้เท้าคิมเข้าร่วมด้วยล่ะ"
 คิม ยูซินอึกอัก "เอ่อ หรือว่า"
 ไอชองถาม "ท่านยูซิน ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้ ใต้เท้าคิมดื่มเหล้ากับท่านฮาจองจนดึกมาก ใช่หรือเปล่า"
 คิมยูซินเริ่ม เข้าใจ "หรือว่า จงใจทำให้พ่อข้าเมาเหล้า จากนั้นก็ให้ขุนนาง 8 คน ผ่านความเห็นชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้"
 "ช่างเป็นการกระทำที่ต่ำช้านัก เป็นถึงองครักษ์แท้ๆ ยังไปรวมหัวกับพวกขุนนางอีก"
 "ถ้าอย่างงั้น ตอนนี้ท่านยองชุนกับใต้เท้าคิมอยู่ไหน"
 ด้านพีดัมก็คาดคั้นยอจงว่ามีซิ ลเป็นคนสั่งให้ทำใช่หรือไม่ ยอจงหลุดปากจนได้ พีดัมสั่งให้เขาแก้มัดให้ แต่ยอจงไม่ยอม เขาทั้งอ้อนวอนแล้วก็ข่มขู่
 คิมซอยอนกับยองชุนไปถึงที่ ประชุมพร้อมกันแต่กว่าจะเข้าไปได้ก็ช้าเพราะถูกทหารขวางไว้ กุกซอนกับแทพุงรีบมารายงานพวกคิมยูซิน
 "แต่ว่า ใต้เท้าคิมซอยอนกับท่านยองชุน กำลังจะเข้าไปห้องประชุม กลับถูกทหารขวางอยู่ข้างนอก"
 "มีทหารมาขวางหรือ ท่านยูซิน เราจะไม่ทำอะไรบ้างหรือไง ช่างเป็นการกระทำที่น่าประณามที่สุด"
 "จุปัง โกโต ไปทูลองค์หญิงให้ทรงทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรอฟังคำบัญชา ยังมีอีก องครักษ์ทั้งหลาย ทุกคนตามข้ามา" คิมยูซินสั่งการ
 ขณะที่องค์หญิงต๊อก มานอยู่กับคิมชุนชู แวยา และซอแจ
 แวยาว่า "เป็นการกระทำที่ต่ำช้านัก ขวางไม่ให้คนอื่นเข้าประชุม ในขณะที่ตัวเองก็รวมหัวลงมติอย่างลับๆ"
 องค์ หญิงต๊อกมานว่า "ช่างเป็นเรื่องที่ เหลือเชื่อจริงๆ ว่ามีซิล นางจะ กล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้ ข้าไม่เชื่อว่านางจะทำได้"
 "อันที่จริง ธาตุแท้ของนางคือแบบนี้อยู่แล้ว หึ มีแต่องค์หญิงเท่านั้น ที่ประเมินค่านางสูงเกินไป" คิมชุนชูว่า
 ซอแจตัดบท "นี่ไม่ใช่เวลาจะมาถกเถียง เราต้องรีบยับยั้งเรื่องนี้ซะ"
 "ทำแบบนี้ ข้าว่ายิ่งดีซะอีก เกี่ยวกับเรื่องการเก็บส่วย ทั้งขุนนางระดับล่างและราษฎรต่างชื่นชมความคิดขององค์หญิงเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน สภาขุนนางกลับสวนกระแส ลงมติที่ตรงกันข้าม แค่นี้ก็ถือว่าแย่แล้ว ที่สำคัญ ยังกีดกันไม่ให้ขุนนางเข้าประชุมอีก หึ แล้วสุดท้ายผลจะเป็นไง"
 แวยาเห็นด้วย "ใช่แล้ว ต่อให้ญัตตินี้ผ่านจริง ปฏิกิริยาต่อต้านก็จะรุนแรงขึ้นทันที"
 คิมชุนชูว่า "ที่แล้วมา ใครๆ ก็ว่าท่านมีซิลเป็นคนที่ห่วงภาพลักษณ์ตัวเอง แต่ว่า นางก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เพราะความที่รีบร้อนเกินเหตุ ทำให้นางต้องเสี่ยงที่จะใช้ไม้นี้"
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างงั้น ข้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มีซิล จะไม่มีวันขุดหลุมฝังตัวเองง่ายๆ"
 ในที่ประชุม เซจองกล่าวว่า
 "องค์ หญิงต๊อกมาน แอบใช้เสบียงของกองทัพโดยไม่ผ่านความเห็นชอบ เป็นเหตุให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะสุ่มเสี่ยงต่อความไม่มั่นคง ที่สำคัญ ยังใช้มาตรฐานการเสียส่วยที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ขุนนางใหญ่น้อยเกิดความคิดที่แตกแยก ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนต้องการบั่นทอนอำนาจของสภาขุนนาง จึงเห็นสมควร ที่จะให้องค์หญิงต๊อกมานพ้นจากการบริหารบ้านเมือง ด้วยเหตุนี้ จึงให้องค์หญิงต๊อกมาน วางมือจากราชกิจทั้งหลายซะ ต่อไปให้ดูแล เฉพาะกิจการงานของตำหนักในก็พอ ขอให้ขุนนางทั้งหลาย ช่วยกันออกความเห็นด้วย"
 ด้านนอกที่ประชุมคิมยูซินก็มาถึงและช่วยกันไล่ ทหารออกไป จนเกิดการต่อสู้กันขึ้น
 ซอแจเข้าไปรายงานองค์หญิงต๊อกมานว่า
 "ท่าน ไอชองพาองครักษ์ไปรับมือทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องประชุม เปิดทางให้ท่านยองชุนกับใต้เท้าคิมเข้าไป"
 "หา หึ ทำแบบนี้ไม่ได้ เราต้องไปห้ามไว้ หึ"
 ในที่ประชุม พวกเซจองไม่พอใจต่อว่าพวกองครักษ์ที่พกอาวุธเข้าไป
 "มีกฎว่าทหารที่พก อาวุธห้ามเข้ามาเขตปกครองชั้นใน สมัยก่อน แม้แต่โจรกบฎที่คิดร้าย ยังไม่กล้าล่วงล้ำห้องประชุมของขุนนางผู้ใหญ่"
 "แต่นี่ เจ้าสองคนกลับถืออาวุธเข้ามาอย่างอุกอาจหรือ"
 ไอชองย้อนว่า "แต่ว่า เป็นเพราะเมืปรายงานองค์หญิงต๊อกมานว่า
 "ท่านไอชองพาองครักษ์ไปรับมือ ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องประชุม เปิดทางให้ท่านยองชุนกับใต้เท้า%Aั่งทหารว่า "คนทรยศที่เข้าห้องประชุมขุนนาง เพื่อหวังคิดไม่ซื่อ เข้าไปจับมาให้หมด"
 คิม ยูซินสั่งเหล่าองครักษ์ "ทุกคนเก็บกระบี่ซะ"
 ไอชองสั่งต่อ "องครักษ์ทั้งหลาย วางอาวุธเดี๋ยวนี้ อย่าให้มีการใช้กำลัง"
 คิมยูซิ นว่า "ท่านซอวอน โปรดอย่าใช้กำลังตัดสินปัญหา ขอให้ใจเย็นก่อน ท่านซอวอน ถ้ามีความผิดจริง เราก็ยินดีรับโทษ แต่ว่า ขอให้สืบสาวราวเรื่องก่อนแล้วค่อยว่าเถอะ"
 "ผู้นำองครักษ์ที่พกอาวุธ เข้าที่ประชุมขุนนาง ยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ"
 "ใช่ เรื่องนี้เป็นความผิดของข้า แต่ว่า ตอนนี้ขอให้สองฝ่ายเก็บอาวุธก่อน แล้วให้ขุนนางทั้งหลายออกจากที่นี่แล้วค่อยว่ากันใหม่ได้ไหม"
 ไอชอง เสียงดัง "ข้าบอกให้พวกเจ้าวางอาวุธไงล่ะ"
 ซอวอนสั่ง "พวกเจ้าก็เก็บอาวุธก่อน ท่านทั้งหลายเชิญออกไปได้แล้ว"
 คิมยูซินว่า "เชิญ พวกท่านรีบไปเถอะ"
 ขณะเกิดการชุลมุน เสียงองครักษ์ก็ร้องบอกว่าเซจองถูกทำร้าย
 องค์หญิงต๊อกมานเห็นเหตุการณ์ ก็กล่าวว่า "นี่คือการก่อกบฎ โดยมีซิล เป็นต้นคิด"
จบ 44



เครดิต : oknation.net/blog/lakorn
   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 43 - 44
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์