แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย Remax HPRM-M1 SUSHI สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lovely : Seecon ดำ E18
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lacsal Serum ลดการอุดตันของรูขุมขน พร้อมกับลดรอยแดงดำ ลดรอยคล้ำริมฝีปาก
ดูขนาดรูปภาพจริง
Emu oil บริสุทธิ์ลดการอักเสบ ลดระคายเคือง บำรุงไม่ทำให้เป็นสิว
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนตาปลอม
ดูขนาดรูปภาพจริง
กู้เงินด่วนนอกระบบโทร0928689622พี่หนิง
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขายเครื่องออกกำลังกายราคาถูก
ดูขนาดรูปภาพจริง
น้ำยาขัดสีรถลงด้วยมือง่ายๆ Micro Compound liquid Set
ดูขนาดรูปภาพจริง
Music D.J. (700E) +USB แถม Microphone - c0132
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมเช็คสต๊อคผ่าน Ipad หรือ Tablet , โปรแกรมนับสต๊อคผ่าน Ipad หรือ Tablet
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย HPJBL X3 สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
RJK SNAIL Natural Day Cream SPF20 PA+++ 5 ml. ครีมบำรุงเมือกหอยทาก
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน City Garden Tropicana (ซิตี้ การ์เด้น ทรอปิคานา)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย ปีศาจฮอร์น มินิ สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
Ami Vegetta Body Lotion 120 ml. โลชั่นผัก
ดูขนาดรูปภาพจริง
Onitsuka Tiger รุ่น Mexico66 Slip on Paraty ขาว/ชมพู
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
สบู่ว่านหางจระเข้
ดูขนาดรูปภาพจริง
Skin Biology Super Cop 2X Set (2 Items) เซ็ต
ดูขนาดรูปภาพจริง
Battery Mainboard c051
ดูขนาดรูปภาพจริง
ชุดราตรีเด็กกรุ๊ปโต(พร้อมส่ง)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตู้เย็น Teka รุ่น NFD 650 INOX
ดูขนาดรูปภาพจริง
Onitsuka Tiger รุ่น Mexico66 Slip on Paraty ครีม/กรม
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตู้จดหมายฝังกำแพง
ดูขนาดรูปภาพจริง
KALOW แกลโล
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

มือนาง [ ตอนที่ 1 - 2 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 392 ครั้ง            update : 24/3/2009

   
   
 

มือนาง 1  
 "น้องเมย์เกิดเดือนเมษายนถึงได้ชื่อเมษยา ดอกมะลิบานหน้าร้อนพอดี แม่ใช้ดอกมะลินี้แทนความรักระหว่างแม่กับหนูนะคะ"
 ทิพวรรณเป็นแม่ที่รักลูกสาวและสามีมาก เมษยากับดนัยเองก็รักทิพวรรณเช่นกัน ทิพวรรณเป็นผู้หญิงอ่อนโยน อ่อนหวาน จิตใจดี ต้นแบบที่ดีของเมษยา
 ครอบครัวของทิพวรรณเดินทางไปเยี่ยมแม่ของเธอที่ต่างจังหวัด โดยที่ไม่รู้ว่าภารดาเพื่อนรักของเธอที่หลงรักดนัยมานาน ส่งคนมาตัดสายเบรกรถของดนัย
 ทำให้ระหว่างทางรถของดนัยที่กำลังพาทิพวรรณและเมษยามานั้น เกิดอุบัติเหตุหลบรถ ทำให้รถเบรกไม่ได้ ทิพวรรณเป็นห่วงเมษยาจึงเอามือป้องไม่ให้กระจกบาดลูกสาว เธอเสียชีวิตทันที โดยมือขาด
 ดนัยกับเมษยาร้องไห้เสียใจมาก ดนัยเก็บมือของทิพวรรณ ซึ่งมือนั้นกระดิกได้ ส่วนทางตำรวจก็พยายามหามือที่ขาดหายไปของทิพวรรณแต่ไม่พบ
 ภารดาเข้ามาช่วยจัดงานศพของทิพวรรณทุกอย่าง และพยายามบอกทุกคนว่าเธอทำเพราะทิพวรรณเป็นเพื่อนรัก นิภาแม่ของทิพวรรณได้แต่มองนิ่งๆ
 ดนัยกับเมษยาพูดให้ดวงวิญญาณของทิพวรรณกลับมาอยู่ที่บ้านด้วย ทิพวรรณเข้ามาคอยดูแลเมษยาด้วยความรักและคิดถึง เมษยาตัวสั่นละเมอยังร้องไห้หาแม่
 "เมย์คิดถึงแม่"
 "แม่กำลังกอดหนูอยู่ เมย์รู้สึกไหมลูก แม่อยู่กับหนูตรงนี้นะ ได้ยินเสียงแม่ไหมคะ"
 เมษยายังตัวสั่นด้วยความหนาวและว้าเหว่ ทิพวรรณร้องไห้พราก เพราะไม่อาจทำให้เมษยาได้ยินเสียงตัวเองได้ ทิพวรรณจึงได้แต่กอดเมษยาส่งความรู้สึกผ่านร่างโปร่งแสง
 "ลูกจ๋า แม่จะคอยปกป้องลูกเหมือนที่แม่เคยทำ แม่อยู่ตรงนี้นะลูก"
 และหลังจากเสร็จงานศพทิพวรรณ ภารดาก็เข้ามาในชีวิตของดนัยกับเมษยา เธอทำดีกับเมษยาต่อหน้าทุกคน เธอช่วยให้ดนัยสู้คดีที่โดนฟ้องจากคนไข้ชนะ ทำให้ดนัยชื่นชมเธอ และเห็นว่าภารดาเข้ากับเมษยาได้ดี ทำให้เมษยาคลายความคิดถึงแม่ไปได้ ดนัยจึงตัดสินแต่งงานกับภารดา และปลูกบ้านหลังใหม่
 ในวันเข้าบ้านใหม่ ภารดากับชื่นวรรณแม่ของเธอรู้ว่าดวงวิญญาณของทิพวรรณตามมาด้วย สองแม่ลูกทำพิธีสะกดวิญญาณทิพวรรณไว้
 "ถ้าวิญญาณทิพวรรณมีอยู่จริง ฉันขอสาปแช่งไม่ให้แกได้ไปไหน ไม่ได้ผุดได้เกิด วิญญาณของแกต้องผูกติดกับยันต์นี้ ออกมาหลอกหลอนใครไม่ได้ตลอดไป"
 ทิพวรรณตกใจมาก "ไม่นะ ไม่"
 ภารดางึมงำบริกรรมคาถา ร่างของทิพวรรณค่อยๆ โปร่งแสงจางลง ภารดาพับผ้ายันต์ทีละทบ ชื่นวรรณยื่นด้ายสายสิญจน์ส่งให้ภารดามัดผ้ายันต์
 "พ่อหมอบอกให้ผูกไว้กับเสาเอก รับรองว่าถ้ายันต์ยังอยู่ วิญญาณทิพวรรณก็จะไม่มีวันได้ออกมา"
 ภารดามัดยนต์เสร็จแล้ว เดินไปที่เสาเอก เหลือบมองที่ฝ้าเพดาน ยันต์สีแดงถูกเหน็บไว้แผ่นฝ้าที่เปิดออก ภารดาวางยันต์แล้วเลื่อนฝ้าปิดไว้อย่างเดิม
 "เรียบร้อย ต่อไปนี้ชีวิตครอบครัวลูกจะเริ่มต้นอย่างสวยงาม ดนัยจะมีแต่ลูก ทิพวรรณคืออดีตที่ตายไปแล้ว"
 "แน่นอนค่ะ หนูจะลบความทรงจำในอดีตของดนัยออกให้หมด"
 ภารดามุ่งมั่น ตาวาว เดินออกจากห้องพร้อมชื่นวรรณ ผ่านตู้ที่ล็อกกุญแจข้าง เสาเอกอยู่มุมห้องดูเยียบเย็นวังเวง มีเงาใบหน้าและดวงตาเศร้าของทิพวรรณซ้อนอยู่
 หลังจากนั้นภารดาก็ปฏิบัติต่อเมษยาผิดไปทันที ต่อหน้าดนัยเธอก็ทำดี แต่ลับหลังเธอทั้งดุตี และนำรูปของทิพวรรณมาเผาทิ้ง และบังคับให้เมษยาลืมแม่ ทิพวรรณไม่สามารถช่วยลูกได้ เธอเสียใจมาก
 17 ปีต่อมา เมษยามีอุไรกับอุทัยหลานสาวคอยดูแล เป็นห่วงเป็นใย อุไรรู้ตลอดเวลาว่าตั้งแต่ภารดาเข้ามา เมษยาไม่เคยมีความสุขเลย อุไรนำดอกไม้มาให้เมษยาร้อยมาลัย ใส่บาตรให้แม่
 "17 ปีแล้ว เมย์เสียใจที่จำหน้าแม่ไม่ได้เลย แม่ขา ถึงเมย์จะจำหน้าแม่ไม่ได้ แต่เมย์ยังจำความรักของแม่ได้นะคะ มาลัยนี้เมย์ตั้งใจร้อยให้แม่ค่ะ"
 ผัวะ โครม ถาดดอกไม้ลอยละลิ่วไปตกพื้น ดอกไม้กระจายเกลื่อน เมษยาเงยหน้าขึ้น
 "แม่ดา!"
 "ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ ฉันไม่ใช่แม่แก"
 ภารดากระชากเมษยาขึ้นมา แล้วเหวี่ยงไปทางหนึ่ง และเหวี่ยงถาดดอกไม้ซ้ำอีกที ฉวยเข็มร้อยมาลัยปาใส่เมษยาอีก เมษยาปัดป้อง แต่ไม่ตอบโต้
 "แม่ดาทำร้ายเมย์ทำไมคะ"
 "ถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าพ่อแก ห้ามเรียกฉันว่าแม่"
 "แต่เมย์ให้ความเคารพแม่ดาเหมือนแม่แท้ๆ"
 "ดี แกต้องนับถือฉัน ต้องกตัญญูฉัน แต่ฉันไม่นับแกเป็นลูก"
 เมษยาน้ำตาร่วงเผาะ "แม่"
 ผัวะ ภารดาผลักหน้าเมษยาเพื่อไม่ให้หลุดคำว่าแม่ออกมาได้ เมษยาก้มหน้าก้มตาต่อหน้าภารดา
 "ฉันบอกไม่ให้เรียกแม่"
 "เอ่อ คุณดามีอะไรให้เมย์รับใช้เหรอคะ"
 "วันนี้แกยังไม่ได้ปรนนิบัติฉันกับลูกมุตา"
 มุตาเดินนวยนาดออกมาจากในบ้าน สวยเหมือนภารดา และกิริยาวาจาก็โขกออกมาจากพิมพ์เดียวกันเป๊ะ
 "คุณแม่ขา พี่เมย์ยังไม่ขัดรองเท้าให้มุตา"
 "แต่พี่เก็บกวาดห้องให้มุตาแล้ว เสื้อผ้าของมุตาพี่ก็เตรียมให้แล้ว"
 "มุตาไม่ใส่ของเก่า มุตาจะใส่ของใหม่"
 มุตากระแทกรองเท้าใส่ เมษยาผงะ ไม่ได้ผงะรองเท้า แต่ตกใจที่เห็นรายงานของตนอยู่ในมือ
 "นั่นรายงานของพี่"
 "แต่มันเป็นของฉันแล้ว ส่วนพี่เมย์ ทำใหม่"
 มุตาฉีกปกที่เป็นชื่อของเมษยาออก ขยำแล้วปาใส่เมษยา เมษยาน้ำตาเอ่อ แต่ได้รับปกกระดาษรายงานมาคลี่ออกอย่างทะนุถนอม
 "สำออยอยู่นั่น รีบขัดรองเท้าให้มุตาสิ"
 ภารดากระแทกรองเท้าใส่เมษยาอีกครั้ง เมษยาปาดน้ำตา หอบรองเท้าขึ้นมาแนบอก
 อุไรมองเมษยาด้วยความสงสาร ว่าถ้าดนัยไปตรวจคนไข้ต่างจังหวัดที่ไร เมษยาจะโดนสองแม่ลูกทารุณอย่างมาก นางก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
 คืนนั้นเมษยาสภาพเปียกปอนซบหน้ากับเตียง ร้องไห้รำพัน กอดมือตัวเองที่เจ็บปวด ยิ่งนึกถึงมือแม่
 "แม่จ๋า เมย์จำความอบอุ่นของมือแม่ได้ แต่ทำไมเมย์จำหน้าแม่ไม่ได้เลย"
 ลมพัดหวิวๆ ผ้าม่านปลิวเล็กน้อย "แม่อยู่ไหนคะ เมย์อยากได้สัมผัสจากแม่ เมย์อยากให้อ้อมแขนของแม่มากอดเมย์ เมย์คิดถึงแม่ แม่จ๋า"
 เมษยาร้องไห้รำพันจนหลับ ที่ปลายเตียง ร่างของทิพวรรณปรากฏขึ้นลางๆ ทิพวรรณตกใจที่ตัวเองมาอยู่ห้องเมษยาได้
 "ฉันออกจากห้องที่มียันต์สะกดวิญญาณได้ยังไง?"
 ทิพวรรณอึ้ง คิดทบทวน "จริงสินะ กำลังจะครบรอบวันตายของฉัน ลูกกำลังจะทำบุญให้แม่"
 ทิพวรรณยิ้มออก เข้ามาลูบผมให้เมษยา แล้วกอดเมษยา เมษยากระสับกระส่าย ฝันเหมือนเคย
 "ใคร ใครกอดหนู ใครคะ ใช่แม่หรือเปล่าคะ แม่จ๋า"
 ทิพวรรณยิ้มทั้งน้ำตา กอดเมษยาอีกครั้ง พยายามสื่อความรู้สึกถึงเมษยา
 "แม่เองจ้ะลูกจ๋า แม่ที่รักลูกเอง"
 เมษยาผวาตัว แล้วสะดุ้งตื่นขึ้น เหลียวมองไปรอบตัว ไม่มีใครเลย
 "ใครคะ ใครมากอดหนู ใคร"
 เมษยาว้าเหว่ ไม่มีใคร แต่ทิพวรรณยืนอยู่ตรงหน้า ร่างเลือนๆ โปร่งแสง ทิพวรรณน้ำตาร่วง
 เมษยาทำขนมไว้ให้พ่อ เพราะวันนี้ดนัยจะกลับมา แต่พอดนัยมาถึง ภารดาก็บอกว่ามุตากับเมษยาช่วยกันทำขนมไว้ให้ ดนัยยิ้มมีความสุขที่ครอบครัวอยู่ดี เป็นสุข
 ดนัยกลับมาก็เข้าไปในห้องทำงาน เขาเหลือบมองด้านนอกจนแน่ใจว่าไม่มีใครรู้เห็น ดนัยปิดประตูห้อง ล็อคกลอนแน่นหนา และเดินไปที่ตู้ลับแห่งหนึ่ง เปิดออกมา หยิบกล่องคลุมผ้าออกมาวางบนโต๊ะทำงาน ดนัยดึงผ้าคลุมกล่องออก
 ในกล่อง มือของทิพวรรณที่ไม่เปื่อยไม่เน่าวางอยู่บนผ้าอย่างดี ดนัยเปิดกล่องเอามือออกมาวาง แล้วจับมือทิพวรรณไว้
 "ผมคิดถึงคุณเหลือเกินทิพวรรณ"
 ร่างโปร่งใสของทิพวรรณปรากฏขึ้น มือโปร่งแสงวางซ้อนกับมือที่โดนกระจกตัด
 "ฉันก็คิดถึงคุณค่ะดนัย"
 "มือคุณยังเหมือนเดิมไม่มีผิด เพราะอานุภาพความรักของคุณใช่ไหมทิพ"
 "มือฉันอยู่ได้เพราะรัก และเพราะฉันต้องการปกป้องลูก ดนัยขา ลูกถูกเขารังแก"
 ดนัยจับมือทิพวรรณลูบหลังมือ เล่าความสุขที่มีให้มือฟัง
 "ทิพจ๋า ถ้าคุณได้รู้คุณคงดีใจ ลูกเมย์เป็นที่รักของภารดา มุตาก็รักพี่เมย์ ผมดีใจที่ภารดามีมือที่อบอุ่น ให้ความสุขแก่ลูกของเราได้"
 "ภารดาทำร้ายลูกของเรา ภารดาไม่เคยรักลูกของเราเลย" ทิพวรรณค้านแต่ดนัยไม่ได้ยิน
 "ถึงคุณจะจากไปแล้ว แต่ผมก็พอใจที่มีวันนี้ อย่างน้อยภารดาก็ดูแลเมษยาแทนคุณได้"
 "ภารดาไม่ได้รักลูกเมย์  คุณต้องช่วยลูกนะคะดนัย คุณต้องปกป้องลูกจากภารดากับมุตา"
 ดนัยจูบมือทิพวรรณก่อนจะเก็บมือนั้นใส่กล่อง แล้วปิดผ้าคลุมอีกชั้น ทิพวรรณจ้องมองสามี น้ำตาไหล เจ็บปวดที่รับรู้ความโหดร้ายของภารดาและมุตาแต่ช่วยอะไรเมษยาไม่ได้ บอกอะไรไปดนัยก็ไม่ได้ยิน
 เช้าวันใหม่เมษยาจะไปทำบุญให้ทิพวรรณ แต่ดนัยไม่ว่าง เธอจึงไปคนเดียว แต่ได้ฟ้างามเพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ วัดมาเป็นเพื่อน
 ฟ้างามเป็นเพื่อนสนิทของเมษยาในมหาวิทยาลัย ฐานะยากจน เป็นผู้หญิงสู้ชีวิต จิตใจดี เป็นนักกิจกรรม กล้าแสดงออก แก่นแก้วกระโดกกระเดก คอยช่วยเหลือและปกป้องเมษยา
 พอถึงวัด ก็มีตุลาที่มาคอยอยู่ เพราะอยากทำบุญกับเมษยา ฟ้างามสังเกตเห็นว่าตุลาแอบอยู่ก็สะกิดบอกเมษยา
 "นี่ ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน อยากทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันก็รีบออกมา ถ้าไม่ออกมาแม่จะแช่งให้ชาติหน้าเกิดเป็นแทงก์น้ำ"
 "เธอพูดกับใคร"
 ตุลาเดินอายออกมาจากหลังแทงก์น้ำที่ยืนแอบอยู่ เมษยามองเห็น "พี่ตุลา"
 "จ้ะพี่เอง พี่มารอน้องเมย์อยู่นานเป็นชั่วโมงๆ แล้ว"
 ฟ้างามแหวขึ้นมาทันที "รออะไร ไม่ต้องมาพูดเอาหน้า เป็นเด็กวัดอยู่วัดนี้ไม่ใช่เหรอ"
 ตุลายิ้ม "เกลียดคนรู้ทัน"
 ตุลายกมะเหงกให้ฟ้างาม แต่หันไปยิ้มกว้างกับเมษยา
 "ขอบคุณพี่ตุลามากนะคะที่สละเวลามาร่วมทำบุญ เชิญค่ะ"
 เมษยาทักทายยิ้มแย้มแต่ในใจไม่ได้คิดอะไร เดินนำขึ้นศาลา ตุลาแทบจะตีปีกดีใจที่เมษยาทัก ฟ้างามหมั่นไส้ตุลามากจริงๆ แอบชอบตุลา ฟ้างามเดินเบียดตุลาแทบตกบันไดศาลา
 ตุลาคือรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยของเมษยา มาเรียนโดยมาอยู่วัด อารมณ์ดี ร่ำรวยอารมณ์ขัน ร่าเริงแจ่มใสแม้จะไม่ค่อยมีเงินก็ตาม
 เมษยา ฟ้างาม ตุลาลงจากศาลาการเปรียญ เมษยาถือที่กรวดน้ำออกมาด้วย
 "ฉันไปก่อนนะเมย์ ต้องรีบไปช่วยแม่ขายขนมครก"
 "มาเป็นเพื่อนแค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วจ้ะ รีบไปเถอะ ฉันจะไปกรวดน้ำให้แม่"
 ตุลาอยากไปด้วย "พี่ไปช่วยสวด ยถา สัพพีให้ไหมจ๊ะ"
 "เมย์สวดเป็นแล้วค่ะ คุณพ่อสอนให้สวดมนต์ตั้งแต่เด็ก"
 ฟ้างามสมน้ำหน้าตุลา "ฮ่าๆ เป็นญาติเค้าเหรอจะไปกรวดน้ำกับเขาน่ะ ถ้าอยากได้น้ำ เดี๋ยวฉันกรวดไปให้ก็ได้ อย่าลืมสิ สัญญาอะไรไว้กับฉัน ไปทำตามสัญญาซะดีๆ"
 ตุลาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันฟ้างาม แต่จำต้องยิ้มให้เมษยาที่กำลังมองมาอย่างงงๆ
 "งั้นน้องเมย์เชิญตามสบายนะจ๊ะ ถ้ามีอะไรติดขัด ฝากเรื่องกับเด็กวัดคนไหนก็ได้ เดี๋ยวพี่กลับมาจัดการให้"
 "ขอบคุณมากค่ะพี่ตุลา"
 ตุลาจำต้องออกไปกับฟ้างาม สองคนบ่นกระปอดกระแปดใส่กัน ฟ้างามปั่นจักรยาน ตุลานั่งซ้อนท้ายแกล้งทำตัวหนักให้ฟ้างามปั่นสุดแรง
 เมษยามัวแต่เดินเหลียวหลังมองฟ้างามและตุลา หัวเราะที่ได้เห็นเพื่อนทำตลกขบขัน เธอไม่ทันระวัง เดินชนกับชายคนหนึ่ง ภีมภพกวาดลานวัดอยู่ แต่งตัวเรียบง่ายราวกับเด็กวัด ภีมภพตกใจที่เมษยาเดินมาชน ปล่อยไม้กวาด รับตัวเมษยาไว้
 ภีมภพประคองมือเมษยาที่ถือที่กรวดน้ำ อีกมือหนึ่งประคองตัวเมษยาที่ถือปิ่นโต มือจับมือทั้งสองข้าง
 "อุ๊ย ขอโทษค่ะ"
 "ไม่เป็นไรครับ"
 เมษยาประคองของที่ถือในมือไม่ให้หล่นไป ภีมภพสังเกตเห็น
 "จะกรวดน้ำหรือครับ เชิญทางนี้"
 เมษยามองภีมภพ เห็นกวาดลานวัด แต่งตัวง่ายๆ คิดว่าต้องเป็นเด็กวัด
 "อยู่ที่วัดนี้รึคะ"
 "อยู่ที่วัดนี้?"
 ภีมภพมองสภาพตัวเอง ยิ้มกว้าง ไม่อยากทำให้เมษยาอายที่ทักผิด จึงอือออตาม
 "ใช่ครับ ผมรู้จักวัดนี้ทุกซอกทุกมุม เชิญครับ เด็กวัดคนนี้ยินดีบริการ"
 ภีมภพผายมือ เว้นระยะห่างไม่เดินใกล้ทำให้เมษยารู้สึกสบายใจ จึงเดินตามไปที่กรวดน้ำ
 ภีมภพ เป็นนักศึกษาปี 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ลูกชายนักธุรกิจใหญ่ที่มีปัญหาการเงิน เป็นนักศึกษาดีเด่นของคณะ เหมือนเจ้าชายที่สมบูรณ์พร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา การเรียน ฐานะทางสังคม เป็นคนจิตใจดี มีเสน่ห์ เป็นสุภาพบุรุษ
 ภีมภพเดินนำเมษยามาถึงต้นไม้ใหญ่ที่สุด ต้นไม้แผ่กิ่งใบกว้าง สงบร่มเย็น
 "ต้นไม้นี้ใหญ่ที่สุดในวัด เทน้ำที่ใต้ต้นไม้นี้ดีกว่า ผลบุญที่คุณจะอุทิศไปให้ญาติที่ล่วงลับจะได้แผ่ไปได้ทั่วๆ"
 "ฉันมาทำบุญให้แม่คนเดียวค่ะ"
 ภีมภพยิ้มอารมณ์ดี "งั้นถ้ากรวดน้ำใต้ต้นไม้นี้ แม่คุณคงได้รับไปเต็มๆ"
 เมษยาแทบกลั้นหัวเราะ ภีมภพมองเมษยา รู้สึกประทับใจ ความสดใสอิ่มเอิบ
 "ผมช่วยถือปิ่นโตให้"
 ภีมภพมีน้ำใจ เมษยาจึงยื่นปิ่นโตให้ แล้วนั่งลงกรวดน้ำอธิษฐานถึงทิพวรรณ
 "แม่ทิพ ลูกขอให้แม่มีความสุข มือของลูกจะดูแลคุณพ่อให้ดีเท่ากับมือที่อบอุ่นของคุณแม่ค่ะ"
 ภีมภพวางปิ่นโตไว้ที่โต๊ะใกล้ ๆ ได้ยินที่เมษยาอธิษฐาน ภีมภพอมยิ้มชื่นชม เมษยาอธิษฐานเสร็จ หันมาพอดี
 "ยิ้มอะไรคะ"
 "ปละเปล่าครับ มา ผมเอาที่กรวดน้ำไปคืนหลวงพ่อให้เอง"
 "ฉันใส่ขนมที่เตรียมให้เด็กวัดไว้ในปิ่นโตนี้ ฝากเอาไปแจกกันทานด้วยนะคะ"
 เมษยาหยิบปิ่นโตที่ภีมภพนำไปวางโต๊ะ ส่งให้ภีมภพอีกครั้ง
 "ขนมให้เด็กวัด ? คุณใจดีจัง"
 "ยกความดีให้คุณแม่ฉันเถอะค่ะ  คุณพ่อเคยเล่าว่า เวลาแม่ทำบุญชอบเตรียมขนมไปให้เด็กวัดด้วย ฉันอยากเป็นคนใจดีอย่างแม่"
 ภีมภพประทับใจในความมีน้ำใจของเมษยา อยากรู้จัก
 "แล้วจะให้เอาปิ่นโตไปคืนที่ไหนครับ"
 "ฝากไว้ที่วัดนี้แหละค่ะ แล้วฉันจะกลับมาเอาคืน"
 "คนที่ทำความดี ผลบุญจะเกื้อหนุนให้ได้เจอคนดีๆ ผมขออวยพรให้คุณได้พบเจอคนดีและเรื่องดีในชีวิตนะครับ"
 ภีมภพอวยพรเมษยาแต่แอบใส่ข้อความเข้าข้างตัวเอง เมษยาอึ้งในคำอวยพร เพราะเข้ากับสถานการณ์ชีวิตขณะนี้ที่เธอได้เจอแค่คนใจร้ายเช่นภารดาและมุตา
 "ขอบคุณมากค่ะ"
 ภีมภพมองตาม เก็บภาพประทับใจของเมษยาไว้
 "เราคงได้เจอกันอีก" ภีมภพมองตามรู้สึกดี มีบางอย่างเบ่งบานขึ้นมาในใจ
 เมษยากลับถึงบ้านก็ถูกภารดากับมุตาอาละวาด ทิพวรรณที่เพิ่งได้ผลบุญเธอจึงมีแรงสู้แทนลูก ภารดาได้ยินเสียงของทิพวรรณก็เกิดความกลัว เลยสั่งให้คนพาเมษยาไปขังไว้ในห้องทำงานของดนัย
 เมษยาร้องไห้ในห้องทำงานของพ่อ ทิพวรรณกอดลูกไว้ เมษยาสัมผัสได้ เธอรู้สึกอุ่นใจ และทิพวรรณก็ดลใจให้เมษยาได้เห็นมือของเธอที่ดนัยเก็บไว้ เมษยารับรู้ทันทีว่าเป็นมองมือของแม่ เพราะมีรูปทิพวรรณอยู่ด้วย เธอมองรูปด้วยความซึ้งใจน้ำตาไหล รีบเปิดกล่องหยิบมือและรูปออกมา
 "มือ มือของแม่ แม่จ๋า แม่ทิพวรรณของเมย์"
 ร่างโปร่งแสงของทิพวรรณเคลื่อนทับพอดีมือ เมษยายกมือทิพวรรณขึ้นหอม เมษยาเอามือแนบหน้า น้ำตาไหลพราก
 "แม่อยู่ใกล้ๆ ตัวเมย์นี่เอง มือของแม่ที่กอดเมย์ แม่จ๋า"
 "ลูกจ๋า แม่อยู่ข้างๆ ลูกมาตลอด แม่ไม่เคยจากหนูไปเลย ลูกแม่"
 เมษยาแนบมือทิพวรรณกับแก้ม ทิพวรรณรวบรวมพลังโอบกอดเมษยา ดูเป็นร่างใสเลือนรางที่โอบกายเนื้อของเมษยาไว้ มีระยิบระยับ มลังเมลืองเต็มเปี่ยมด้วยความรักบริสุทธิ์ระหว่างแม่และลูก
จบ มือนาง ตอนที่ 1

มือนาง 2  
 ที่บ้านของภีมภพ ภีมภพเดินมาตามทางเดินหยิบห่อกระดาษออกมาจากย่าม เปิดดูมีขนมของเมษยา ภีมภพอมยิ้มน้อยๆ ระลึกถึงเรื่องที่เพิ่งพบกับเมษยา
 "ฉันใส่ขนมที่เตรียมให้เด็กวัดไว้ในปิ่นโตนี้  ฝากเอาไปแจกกันทานด้วยนะคะ"
 "ขนมให้เด็กวัด คุณใจดีจัง"
 "ยกความดีให้คุณแม่ฉันเถอะค่ะ คุณพ่อเคยเล่าว่า เวลาแม่ทำบุญชอบเตรียมขนมไปให้เด็กวัดด้วย ฉันอยากเป็นคนใจดีอย่างแม่" ภีมภพยกขนมขึ้นมาดูแล้วอมยิ้มที่ใบหน้า
 ประทวนพ่อของภีมภพเป็นนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงในวงสังคม แต่เพราะทำธุรกิจผิดพลาด ทำให้มีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก ประทวนหวังจะให้ภีมภพได้แต่งงานกับลูกคนมีเงิน เพื่อนำเงินมาพยุงธุรกิจของตน แต่ทุกครั้งที่เขานัดให้ไปดูตัว ภีมภพกลับหนีไปอยู่วัดสร้างความไม่พอใจให้กับประทวนเป็นอย่างมาก เมื่อพบกันที่บ้าน ประทวนก็ต่อว่าลูกชายของตน
 "มีเหตุผลอะไร แกถึงไม่ทำตามคำสั่งฉัน"
 "ทำไมผมต้องไปรู้จักกับลูกสาวคนนั้นคนนี้ด้วย ทำไมพ่อต้องใช้ผมเป็นสะพานทางธุรกิจ ทำไมไม่ยอมรับความจริง ถ้าไม่ร่ำรวยไม่ประสบความสำเร็จก็ช่างมัน เราอยู่กันแบบธรรมดาๆ ก็ได้"
 "ฉันยอมให้ธุรกิจของฉันล้มไม่ได้ ไอ้ลูกอกตัญญูไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติม ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อความสำเร็จของครอบครัว" ประทวนอ้างเหตุผล
 "แล้วมันสำเร็จมั้ย แม่ตรอมใจตายเพราะความบ้างานไม่สนใจครอบครัวของพ่อ พ่อมีแต่ความโลภ แม่กับผมต้องการแค่ความรักความเข้าใจ แต่พ่อไม่เคยมีให้เราเลย สังเวยชีวิตของแม่มาคนหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคิวผมใช่มั้ย พ่อทำได้ทุกอย่างแต่ไม่ใช่เพื่อครอบครัวพ่อทำเพื่อตัวเอง เพื่อตัวของพ่อคนเดียว" ภีมภพตะคอกใส่หน้าพ่อก่อนจะวิ่งหนีไปด้วยความเสียใจ
 เมษยาถูกขังอยู่ในห้องทำงานของดนัยตลอดคืน จนเช้าวันต่อมาดนัยกลับถึงบ้านภารดากลัวดนัยจะรู้เรื่องที่ตนทำร้ายเมษยา จึงวางแผนใส่ร้ายเมษยาโดยให้มุตา น้อย และแจ่วจัดการ
 "คุณพ่อกลับมาแล้ว รู้ใช่มั้ยว่าต้องปิดปากตัวเองให้สนิทไม่งั้นเดือดร้อนแน่" มุตาขู่เมษยา
 "จ้ะ พี่รู้ดีว่าต้องทำตัวยังไง" เมษยาตอบรับ มุตายิ้มเหี้ยมมองอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
 "รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ฉันจะมั่นใจได้ยังไง" เมษยาตอบว่าสัญญา
 "แค่สัญญาปากเปล่าคงไม่พอ น้อย แจ่ว เฉยอยู่ทำไมรีบทำตามคำสั่งของคุณแม่สิ"
 น้อยกับแจ่วเข้ามาล็อคแขนสองข้างของเมษยาไว้ เมษยาตกใจบอกให้ปล่อย มุตาหันไปหยิบเอาเสื้อชุดสายเดี่ยวสีเปรี้ยวจี๊ดเหมือนสาวหนีเที่ยวกลางคืนเดินเข้ามา
 "ทำให้มั่นใจว่าคุณพ่อจะเชื่อสนิทใจ น้องสาวคนนี้ไม่ได้ขังพี่สาวที่น่ารักไว้ในห้องทำงาน"
 มุตาเข้าไปเล่นงานตบหน้าเมษยาจนล้มคว่ำไปกับพื้น แล้วสั่งคนรับใช้ให้เปลี่ยนชุดเมษยา ทิพวรรณที่เห็นเหตุการณ์ก็ตกใจ พะว้าพะวังทำอะไรไม่ถูก พยายามจะช่วยลูกแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ร้องห้าม ขณะที่ทั้งสามคนรุมสกรัมเมษยา ฉุดกระชากเปลี่ยนเสื้อ ผ่านร่างโปร่งของทิพวรรณ
 หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเมษยาเสร็จแล้ว มุตาก็เอาบุหรี่ในกระเป๋าตัวเองยัดใส่กระเป๋าเสื้อเมษยา แล้วเอาขวดเหล้าพกเล็กๆ ออกมา เมษยาพยายามดิ้นรน ขัดขืน ส่งเสียงร้องอู้อี้ขอร้อง
 มุตาบีบปากแล้วกรอกเหล้าเข้าปากเมษยา น้อย แจ่วหัวเราะในลำคอ ชอบใจ
 "คนหนีเที่ยวจริงๆ มันต้องครบสูตรแบบนี้"
 ทิพวรรณร้องไห้ ตวัดมือปัดป้องช่วยเมษยา แต่ทำอะไรไม่ได้ มือของทิพวรรณเป็นเพียงแค่ลมพัดผ่านไปมา ทิพวรรณร้องบอกให้ปล่อยเมษยา ระหว่างนั้นดนัยก็เดินเข้ามาถึงห้องทำงาน
 "ใครอยู่ในห้องทำงาน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ" ทุกคนชะงักตกใจ
 ทิพวรรณดีใจเมื่อรู้ว่าดนัยมาแล้ว รีบพรวดออกไปทางประตู มุตารีบยีหัวให้กระเซอะกระเซิง แล้วฉีกเสื้อผ้าตัวเองจนขาดวิ่น ร้องเรียกพ่อ น้อยกับแจ่วช่วยกันปิดปากล็อกตัวไว้ มุตาล้มตัวลงแล้วกระชากตัวเมษยาขึ้นคร่อมตัวเอง หันไปสั่งน้อยกับแจ่ว
 "เร็วสิ โอ๊ย พี่เมย์มาตบมุตาทำไมคะ"
 น้อยกับแจ่วหันมองกันอย่างละล้าละลัง เงื้อมือตบหน้ากันเองคนละที จนหงายท้อง จังหวะนั้นดนัยพังประตูเข้ามาพอดี เห็นเมษยานั่งคร่อม มุตาเอามือเมษยามาจิกผมเธอ น้อย แจ่ว หน้าช้ำมุดอยู่คนละมุมห้อง มุตาร้องให้ดนัยช่วย
 "ว้าย ลูกมุตา ลูกเมย์ทำร้ายลูกมุตาค่ะคุณ" ภารดาร้องโวยวายเข้าไปประคอง มุตาแกล้งร้องไห้
 "นี่มันอะไรกัน ลูกเมย์" ดนัยมองเมษยาอย่างต้องการคำตอบ
 "ตอบพ่อมาเดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น" เมษยาลุกขึ้นตกใจไม่รู้จะอธิบายยังไงในสภาพตัวเองแบบนี้
 "พี่เมย์ไปเที่ยวมาทั้งคืน กลับมาเกือบเช้า แอบไปเมาหลับในห้องคุณพ่อพอตอนเช้ามุตาขึ้นไปปลุกพี่เมย์ก็โกรธ อาละวาดตบตีมุตาน้อยกับแจ่วเข้ามาห้ามก็เลยโดนไปด้วย"
 น้อย แจ่ว หันหน้าด้านที่เป็นรอยช้ำให้ดนัยดู เป็นการยืนยัน
 "ไม่จริงนะคะ เมย์ไม่ได้ทำ" เมษยาปฏิเสธ
 "ลูกเมย์ หนูไม่น่าทำให้คุณพ่อเสียใจอย่างนี้เลยนะจ๊ะ"
 ดนัยมองเมษยาด้วยสายตาผิดหวัง เขาไม่โวยวายแต่สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจที่ลูกสาวที่ตัวเองรักเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ เมษยาอ้อนวอนให้ดนัยฟังก่อน
 "มีอะไรจะโกหกพ่ออีกเหรอ"
 เมษยาเห็นหน้าพ่อแล้วนิ่งรู้สึกเสียใจระคนกับน้อยใจที่พ่อไม่ฟัง
 "ลูกไม่ได้ทำผิดนะคะดนัย คุณต้องเชื่อลูก" ทิพวรรณพยายามบอกสามี
 ภารดาหันขวับเหมือนคนหูแว่ว ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง พยายามเก็บอาการไว้
 "ฉันผิดเองค่ะที่อบรมลูกเมย์ไม่ดี ถ้าจะหาคนผิด ก็ต่อว่าฉันเถอะค่ะ"
 "มุตาก็เสียใจค่ะที่ห้ามพี่เมย์ไม่ได้ ถ้าคุณพ่อจะดุคุณแม่ก็ต้องดุมุตาด้วยนะคะ"
 ดนัยถอนหายใจยาว พยายามสะกดอารมณ์อย่างที่สุด
 "เมย์เห็นสิ่งที่ตัวเองทำรึยัง เห็นมั้ยว่าแม่กับน้องเสียใจแค่ไหน"
 ทิพวรรณเสียใจมากที่ดนัยเข้าใจลูกสาวผิด พยายามบอก
 "สองแม่ลูกนี่แหละ ที่ทำร้ายลูกเมย์ของเรา"
 "ว่าไง มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย ช่วยพูดอะไรให้พ่อรู้สึกดีกับหนูขึ้นมาหน่อยเถอะ"
 เมษยานิ่งอึ้งน้ำตาคลอ ไม่ได้ปล่อยโฮ แต่สะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร
 "เมย์ไม่ได้ทำจริงๆ ค่ะคุณพ่อ"
 "ไม่ได้ทำ กลิ่นแอลกอฮอล์แรงขนาดนี้ ลูกยังจะปฏิเสธอีกเหรอ"
 เมษยาปฏิเสธยืนยันความบริสุทธิ์ใจ จนอุไรทนไม่ไหวต้องออกมาจากอีกด้านหนึ่ง โดยที่อุทัยคว้าตัวไว้ไม่ทัน
 "ป้าทนไม่ไหวแล้วค่ะคุณหมอ ขอป้าพูดอะไรบ้างเถอะ"
 "ป้าอุไร อุทัย แล้วนั่นไปโดนอะไรมา" ดนัยถาม
 "จะอะไรซะอีกล่ะคะ น้องเมย์เวลาเมาก็ลืมหมดแหละว่าใครเป็นใคร คงโดนมือโดนไม้ตอนประคองไปนอนในห้องทำงานคุณเมื่อคืนน่ะสิ" ภารดารีบบอก
 "อะไรนะคะ" อุไรงงกับการปั้นน้ำของภารดา
 "ป้าอุไรอย่าปฏิเสธเลยค่ะ หนูรู้ว่าป้ารักพี่เมย์มาก แต่เราจำเป็นต้องบอกความจริงกับคุณพ่อนะคะ" มุตาเสริม
 อุไรปฏิเสธว่าไม่จริงเมษยาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แล้วพยายามจะบอกความจริง แต่ภารดาสวนทันที หาว่าอุไรรักแบบผิดๆ ให้ท้ายเมษยา ก่อนที่อุไรจะพูดต่อ ดนัยหันไปมองเมษยา นิ่วหน้าเมื่อมองไปที่กระเป๋าเสื้อเห็นบุหรี่ มุตาปรี่เข้าไปล้วงบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อเมษยาส่งให้ ดนัยมองบุหรี่ในมือโกรธมาก
 "ไม่ ไม่ใช่ของเมย์นะคะ" เมษยาปฎิเสธทันที แต่ดนัยไม่เชื่อบอกว่าหลักฐานแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว แล้วดนัยก็ตัดบทไล่อุไรไปงาน
 "เมษยาเป็นลูกสาวของผม เป็นหน้าที่ของผมเองที่จะต้องดูแลสั่งสอนเอง"
 "ก็ได้ค่ะ แล้ววันหนึ่งคุณต้องรู้ความจริง" อุไรสลดไป แล้วจำใจเดินออกไป
 ดนัยเดินเข้ามามองหน้าเมษยา แววตาของเมษยาเต็มไปด้วยความเสียใจ ตัดพ้อและน้อยใจที่พ่อไม่ฟังตัวเองเลย ภารดาก็ทำเป็นดีบอกดนัยอย่าตีเมษยาเลย แค่ขังให้สำนึกผิดก็พอ
 เมษยาชำเลืองมองไปทางภารดา นึกไม่ชอบใจและไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้จงเกลียดจงชัง ทำกับเธอถึงเพียงนี้ ทั้งสองปะทะสายตากันพักหนึ่งแววตาของภารดาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เมษยาก็ไม่หลบสายตา
 "น้อย ไปเอาไม้เรียวมา วันนี้ฉันจะทั้งตีทั้งขังลูกไม่รักดีให้เข็ด" ดนัยสั่ง เมษยาหันมองดนัยด้วยสายตาน้อยใจที่ไม่เชื่อในความดีของเธอแล้วบอกจะไปรอที่ห้องทำงาน เมษยาน้อยใจเดินนำออกไป ดนัยมองตามด้วยความโกรธ ภารดากับมุตาต้องทำเป็นเข้าไปประคองดนัยไว้ ดนัยโกรธจัดเดินตามเมษยาออกไป พอลับหลังดนัย มุตาก็ยิ้มด้วยความสะใจกับภารดา
 ดนัยลงโทษเมษยาและขังไว้ในห้องทำงาน ก่อนจะมานั่งเครียดในห้องโถง ภารดากับมุตาแสร้งทำเป็นคนดี เดินตามดนัยมา ทั้งที่ยังมีอาการไม่ค่อยพอใจอยู่มาก
 "ความจริงก็น่าสงสารลูกเมย์นะคะ แค่ลงโทษด้วยการตีก็มากพออยู่แล้ว อย่าขังลูกเมย์ไว้ในห้องเลย ดาสงสารลูก" ภารดาแสร้งสงสาร
 "มุตารู้สึกผิดจังค่ะ ที่ทำให้พี่เมย์โดนคุณพ่อลงโทษ" มุตาเสริม
 "อย่าโทษตัวเองเลย เด็กดื้ออย่างเมษยาต้องได้รับบทเรียน ไม่งั้นจะเคยตัว"
 ดนัยพูดทั้งที่จิตใจยังคงสับสนรู้สึกผิดที่ตีลูก แต่จำต้องตีเพราะความผิดหวังในตัวลูกเช่นกัน ระหว่างนั้นโทรศัพท์ดนัยดังขึ้น ดนัยยกดูแล้วนิ่วหน้าเมื่อรู้ว่าใครโทรมา และรับทราบว่ามีเหตุชาวบ้านบาดเจ็บ ต้องรีบไปช่วยเหลือที่ต่างจังหวัดอีกครั้ง มุตากับภารดาหันมามองหน้ากัน
 ดนัยเดินทางไปต่างจังหวัดในคืนนั้น ส่วนประทวนหลังจากมีปากเสียงกับลูกชายก็รู้สึกผิด จึงให้เพ็ญแม่บ้านซื้ออาหารโปรดมาให้ภีมภพ แล้วสั่งไม่ให้บอกภีมภพระหว่างนั้นภีมภพก็ลงมาจากบนห้องพอดี และตั้งใจจะเดินผ่านเลยไปทางหน้าบ้าน แต่ประทวนเรียกแล้วถามจะไปไหน
 "ที่ๆ ผมอยู่แล้วสบายใจ" ประทวนเหวี่ยงหนังสือพิมพ์ด้วยความโมโห
 "ทำไม อยู่ที่นี่มันทุกข์ใจนักเหรอ" ภีมภพมองประทวนนิ่งๆ ไม่อยากตอบโต้ให้รุนแรง
 "ฉันพยายามทำดีกับแกที่สุดแล้วนะไอ้ภีมภพ" ประทวนคิดว่าภีมภพดื้อเงียบ โกรธมาก แต่โทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน จึงจำเป็นต้องรับสาย
 "สวัสดีครับคุณธเนศ ขอเวลาผมอีกนิดเถอะครับ ผมจะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้เร็วที่สุด ถ้าโครงการสร้างตึกนี้อนุมัติ หนี้ทั้งหมดก็ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว"
 ภีมภพชำเลืองมองพ่อ สายตาอ่อนลง เริ่มเห็นใจที่พ่อต้องดิ้นรนเคลียหนี้สินของกิจการ ประทวนวางสายมีสีหน้าเครียดและเหนื่อยใจกับภีมภพจนไม่อยากมองหน้าลูกชายให้อารมณ์เสียมากไปกว่านี้
 "ฉันมันคนมีกรรม มีลูกก็ไม่เอาไหน วันๆ ขลุกอยู่ในวัดทำกิจกรรมบ้าบอที่มหาวิทยาลัย เมื่อไหร่จะรู้จักคิดซะที"
 ภีมภพหน้าเข้มขึ้น เดินหนีออกไปอย่างหมดความอดทน ประทวนมองตามภีมภพไป ขว้างข้าวของอย่างบันดาลโทสะที่ลูกไม่ได้ดั่งใจ
 ภีมภพกลุ้มใจเรื่องประทวนจึงแวะมาที่วัด พอตุลาเห็นเพื่อนรักอย่างภีมภพทุกข์ใจ จึงเข้ามาปลอบโยนและชวนภีมภพเสี่ยงเซียมซีแก้กลุ้ม ทั้งคู่เสี่ยงได้หมายเลขเจ็ดเหมือนกัน
 "ใบที่เจ็ด เสร็จทุกข์ เป็นสุขี ทั้งบ้านเรือน เพื่อนกินแสนยินดีแต่ตัวนี้ เคืองขุ่นวุ่นวายใจ" ภีมภพอ่านคำทำนายก่อน ตุลาเสริมว่าแม่นมาก
 "แม่นเป๊ะ นายกับฉันมีที่อยู่ มีเพื่อนดี แต่ตัวเองไม่ค่อยมีความสุขวุ่นวายใจ" ภีมภพมองตุลา ไม่ค่อยอยากเชื่อ ตุลาจึงอ่านคำนายที่เหลือ
 "ถามหาคู่ สู่สม ภิรมย์พักตร์ ยอดเยี่ยมนัก แสนดีเป็นคู่สร้าง สานรักแท้มั่นคงแน่ มิร้างลา สุขจริงหนา สืบสันต์นิรันดร์เอย"
 ตุลาจูบใบคำทำนายอย่างมีความสุข เข้าใจว่าเมษยาคือเนื้อคู่
 "ในที่สุดเธอก็ใช่เนื้อคู่กันจริงๆ" ภีมภพมองอึ้งๆ พึมพำว่าท่าทางอาการหนัก
 "อ้าวก็คนกำลังมีความรัก คำทำนายบอกว่าเป็นเนื้อคู่กันเป็นนายไม่ดีใจเหรอ นายเสี่ยงเซียมซีได้เลขเดียวกับฉันนี่แสดงว่านายก็มีความรักแล้วสิ"
 "รักแรกพบ คงงั้นเอาไว้จะพามาแนะนำ" ภีมภพยิ้มขึ้นมาได้บ้าง
 "ดี จะได้เปรียบเทียบว่าน่ารักเหมือนเนื้อคู่ของฉันรึเปล่า คำทำนายเหมือนกันแต่คงไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวกันหรอกนะ"
 ตุลาเอาใบคำทำนายไปเก็บอย่างสบายอารมณ์ ภีมภพครุ่นคิดถึงเมษยา ยิ้มคนเดียวอย่างสุขใจ
 มุตาเห็นว่าพ่อเดินทางไปต่างจังหวัดก็แอบออกไปเที่ยวกลางคืน ส่วนภารดาก็หาทางจัดการเมษยา โดยนำกากมะพร้าวมาสุมเพื่อให้เมษยาสำลักควัน
 "ฉันต้องการให้มันสำลักควัน สำนึกว่าถ้าอยู่ในบ้านนี้ต่อไปมันต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัส ทางออกของมันมีอย่างเดียวคือหนีออกไปจากบ้านนี้ นังอุทัยกับนังแก่อุไรอยู่ไหน"
 น้อยบอกว่าสั่งให้ไปล้างเรือนเก็บแล้ว ภารดาจึงสั่งให้น้อยรีบจัดการ
 ทิพวรรณตกใจรับรู้ได้ด้วยจิตว่าภารดากำลังจะทำร้ายเมษยา เริ่มร้อนรน ทำอะไรไม่ถูกพยายามตะโกนบอกให้เมษยาหนี แต่เมษยาไม่ได้ยินจนกระทั่งควันเข้ามาในห้องจึงร้องให้คนช่วย
 "ถ้าไม่อยากตาย ก็ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ ถ้าแกยังหน้าด้านอยู่ ฉันกับมุตาจะทำทุกอย่างให้แกเจ็บจนทนไม่ได้"
 ภารดาหัวเราะเห็นความทุกข์ทรมานของเมษยาเป็นเรื่องสนุกสนาน พยักหน้ากันกับสมุนสองคน แล้วเดินออกไปอย่างไม่สนใจเสียงทุบประตูและเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
 เมษยายังคงทุบอยู่อย่างต่อเนื่องแล้วเริ่มไอ สำลักและหายใจไม่ออก พยายามหาทางระบายควันโดยการเปิดฝ้า ลากเก้าอี้มาปีนขึ้นไปผลักฝ้าตรงเสาเอก เพื่อสูดอากาศหายใจและระบายควัน ทันใดผ้ายันต์ที่สะกดวิญญาณของทิพวรรณหล่นลงมาโดยบังเอิญ
 เมษยาไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่สูดอากาศหายใจ ผ้ายันต์ลอยลงไปตกในปี๊บที่ไฟลุกอยู่จนติดไฟไหม้ไปทั้งหมด ทิพวรรณดีใจมากที่หลุดออกมาได้จากการถูกสะกดแล้วหันไปยิ้มให้เมษยาด้วยความดีใจ เมษยาสำลักจนหมดแรงสลบไปกำลังจะทรุดลงกับพื้น ทิพวรรณลอยเข้าไปประคองไว้แล้ว
 "ภารดา เธอทำร้ายลูกฉัน" ทิพวรรณเพ่งมองออกไปข้างนอก เหมือนปล่อยพลังบางอย่าง ทันใดนั้นท้องฟ้าสีครามสดใสก็แปรเปลี่ยนเป็นเมฆฝนปกคลุม ฟ้าผ่าเปรี้ยง สายฝนเทกระหน่ำ ปี๊บโดนทำลายกระจายออกไป
 ภารดาสะดุ้งตกใจเสียงฟ้าผ่า หันมองสายฝนที่ยังคงเทกระหน่ำด้วยความแปลกใจ
 "เมื่อกี้อากาศยังดีอยู่แท้ๆ ทำไมฝนตกหนักขนาดนี้"
 "รึว่าฟ้าดินลงโทษ ที่เรากลั่นแกล้งคนดี" น้อยเงื้อมือตบปากแจ่วอย่างหงุดหงิด
 "ฝนตกหนักขนาดนี้ ควันจากระเบียงก็ไม่ได้ผลสิคะคุณผู้หญิง" น้อยถามภารดา
 "ยังมีควันในห้องเหลืออยู่ ฮึๆ ป่านนี้นังเมย์มันคงสำลักควันจนสลบไปแล้ว ไม่มีทางรอดหรอก"
ภารดายิ้มพอใจ
 ขณะที่เกิดเรื่องกับเมษยา มุตากำลังเริงรื่นอยู่กับภิรัตน์ นักศึกษาปี 4 เป็นเพลย์บอย เสือผู้หญิงร้ายกาจ เขาเป็นคู่ขาของมุตาและเวลานี้กำลังพลอดรักกันนัวเนียอยู่ในรถ มุตาบอกให้พอก่อน
 "คิดถึง" ภิรัตน์ยื่นหน้าเข้าหามุตา
 มุตารีบเอาเอามือป้องปากภิรัตน์ มุตาบอกก็คิดถึงเหมือนกัน ภิรัตน์ยิ้มหวาน โน้มหน้าเข้าหามุตาอย่างโหยหา คราวนี้มุตายินยอม ระหว่างนั้นฟ้างามเข็นรถขายของผ่านมาเห็นเข้า จำได้ว่าเป็นน้องสาวของเมษยา จึงแกล้งตรงเข้าไปเคาะเพื่อขัดจังหวะ ร้องขายของ แต่ทั้งสองไม่สนใจโบกมือไล่แล้วหันไปจูบกันต่อ ฟ้างามชักของขึ้นคิดหาวิธีแกล้ง
 "เร่เข้ามาจ้ะ เร่เข้ามา โชว์ดีไม่มีชาร์ตมาแล้วจ้ะ"
 นักเที่ยวหลายคนหันมองฟ้างาม ก่อนตรงเข้ามามุงดูภิรัตน์กับมุตาข้างรถด้วยความสนใจ อยากรู้อยากเห็น
 "ซื้อปลาหมึกวันนี้แถมฟรีโชว์แบบโจ๋งครึ่ม มาก่อนเห็นก่อน จับจองที่กันเลยนะจ๊ะ มาดูมาเร้ว"
 มุตาหันมาเห็นคนมุงดูนอกรถ ทั้งอายทั้งตกใจ รีบผลักภิรัตน์ออกจากตัวลงจากรถอย่างฉุนเฉียว โกรธที่ถูกฟ้างามประจาน ต่อว่าฟ้างามว่ามาแกล้งทำไม
 "ฉันหวังดี อยากให้เธอโชว์เต็มที่ต่างหาก"
 มุตาแค้นมากเงื้อมือตบ แต่ฟ้างามคว้าข้อมือมุตาไว้ทันแล้วเหวี่ยงออกไป มุตาเซเล็กน้อยภิรัตน์เข้ามารับไว้ทัน ภิรัตน์พลางหันมาเจอหน้าสวยๆ ของฟ้างามเข้าอย่างจัง ชะงักทันทีนึกชอบ มุตายุให้ภิรัตน์จัดการ
 "ดีเหมือนกัน ฉันจะได้แจ้งจับเธอกับคู่รัก ข้อหาลามกอนาจารในที่สาธารณะ ตำรวจมา นักข่าวพร้อม ชื่อเสียงเธอป่นปี้แน่"
 มุตากรี๊ดลั่นจ้องฟ้างามตาเป็นมัน ภิรัตน์อึกอักบอกมุตาว่าอย่ามีเรื่องกันเลยอายคนเค้า ภิรัตน์ทำตัวไม่ถูก อยากเอาใจมุตาแต่ก็ถูกใจฟ้างามอยู่ไม่น้อย มุตาโกรธมากที่ภิรัตน์ไม่ยอมเล่นงานฟ้างาม จึงเดินงอนเข้าไปในผับภิรัตน์ตามไปง้อ มุตาต่อว่าภิรัตน์ที่ไม่ยอมช่วยตน
 ทันใดนั้นภีมภพที่มารับจ้างร้องเพลงหาเงินในผับก็ได้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที มุตามองตามเสียงร้องถึงกับตะลึงในความหล่อ แล้วเดินลิ่วไปหน้าเวที ภิรัตน์ชะงักมองตามอึ้งๆ มุตาเดินเบียดมายืนยิ้มหวานหน้าเวที มองภีมภพสายตาแพรวพราว หันไปถามเด็กเสิร์ฟว่านักร้องใหม่ชื่ออะไร เด็กเสิร์ฟบอกว่าภีมภพ
 มุตายิ้มหวานมองภีมภพอย่างถูกใจ ภิรัตน์ตามมา เห็นสายตาที่มุตาจ้องภีมภพ นึกเคือง ไม่ได้รักมุตา แต่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผู้หญิงของตัวเอง ชวนมุตาให้ไปร้านอื่น แต่มุตาปฏิเสธ พูดทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่กับภีมภพ ภิรัตน์ไม่พอใจ ภิรัตน์ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เมื่อผู้หญิงของตัวเอง สนใจชายอื่นมากกว่า
 มุตาเบียดสาว ๆ คนอื่นเข้าไปยื่นแก้วไวน์ให้ภีมภพเหมือนต้องการแนะนำตัว พูดพลางเอาแก้วไวน์ใส่มือภีมภพ จงใจถูกเนื้อต้องตัวชายหนุ่ม สายตายั่วยวนโปรยเสน่ห์ ภิรัตน์ทนไม่ไหว หวงมุตา จึงคว้าแก้วไวน์จากมือมุตาสาดใส่เสื้อภีมภพ ภิรัตน์จ้องภีมภพ แววตาและน้ำเสียงดูถูก
 "เป็นแค่นักร้องกระจอก ทำงานหารายได้พิเศษ อย่าสะเออะมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน"
 ภิรัตน์กระชากแขนมุตาออกไป มุตาตกใจ ภีมภพมองสภาพตัวเอง โกรธมาก มุตาสะบัดแขนหลุดจากภิรัตน์อย่างไม่พอใจ ภีมภพเดินตามมาทัน สะกิดไหล่ภิรัตน์แล้วสาดไวน์ใส่หน้าภิรัตน์เต็มๆ ทั้งสองเหวี่ยงหมัดใส่กัน
 ภีมภพปล่อยหมัดต่อยภิรัตน์เข้าเต็มๆ จนภิรัตน์เสียหลักล้มลง แล้วเดินจากไป มุตาเดินตามภีมภพเพราะถูกใจในความเท่ของเขา ภิรัตน์กระแทกหมัดลงพื้นด้วยความเจ็บใจ มุตามองซ้ายมองขวาหาภีมภพแต่ไม่เจอ ตามไปในผับไม่เจอ จำต้องเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
 เมื่อมุตากลับมาถึงบ้าน ทิพวรรณก็เริ่มเล่นงานภารดา มุตา แจ่ว และน้อย ทั้งสี่ถูกทิพวรรณสั่งสอน จนประสาทหลอนไปตามกัน
 เช้าวันต่อมาดนัยเดินทางกลับบ้าน สองแม่ลูกฟ้องว่าถูกผีหลอกโดยฝีมือเมษยา ดนัยเชื่อจึงต่อว่าเมษยาและคาดคั้นถามป้าอุไรเห็นจึงตัดสินใจลาออกเพราะเหลืออดกับความหูเบาของดนัย แต่เมษยาตัดสินใจยอมรับผิด จากนั้นก็กลับขึ้นไปขังตัวเองไว้ในห้องทำงานของดนัยด้วยความน้อยใจ ดนัยรู้สึกผิด ส่วนมุตาก็ได้แต่เสียดายที่ยังเล่นงานเมษยาไม่จุใจ
 "อย่าใจร้อนสิลูก เราค่อยหาทางจัดการมันวันหลังก็ไม่สาย"
 ทันใดนาฬิกาแขวนผนังหล่นลงพื้นเสียงดัง สองแม่ลูกขวัญผวา กระโจนเข้ากอดกันตกใจทั้งสองใจคอไม่ดี หวาดหวั่นกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใคร
จบ 2

เครดิต : www.oknation.net/blog/lakorn

   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 1 - 2
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์