แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
เอมมูร่า เซซามิน งาดำ เชียงใหม่ (อย 12-1-05150-1-0105)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย HPJBL สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
Joy Stick T.Flight Stick X C0071 280959
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอส ไรคส์ จำหน่ายปั๊มอุตสาหกรรม ปั๊มเคมี เครื่องสูบส่งของเหลว-หนืด
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมใบเสนอราคา, โปรแกรม, ใบเสนอราคา, โปรแกรม ใบเสนอราคา, Program Quotation, Aristo Quotation, Quotation Program, Program, Quotation, Program Quotations, เสนอราคา, โปรแกรมเสนอราคา, การเสนอราคา, ทำใบ
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Natural Hair Spray 50ml. (เรียวแฮร์เนเชอรัลสเปรย์)
ดูขนาดรูปภาพจริง
กรอบรูปพร้อมแสตมป์พระราชพิธี
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย HPJBL X3 สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
Battery Mainboard c051
ดูขนาดรูปภาพจริง
เครื่องซักผ้า SIEMENS WM16W640EUTH 9KG 1600RPM
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย Remax HPRM-M1 SUSHI สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพง บลูทูธ Bluetooth Speaker มีไฟเธคกระพริบ HPT208
ดูขนาดรูปภาพจริง
รุ่น PVC 0.46 VIP Member Card
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขายเครื่องออกกำลังกายราคาถูก
ดูขนาดรูปภาพจริง
CP Serum แก้ปัญหารูขุมขน หลุมสิวสำหรับคนผิวแพ้ง่าย
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรโมชั่น ROCKZ X Ceramic (3in1) แม่แพท ณปภา-น้องเรสซิ่ง สเปรย์เคลือบฟิล์มแก้ว
ดูขนาดรูปภาพจริง
CI&SI-1531 เสื้อแขนสั้น มิกกี้ Chanel สีดำ/สีแดง
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอสไรคส์ จำหน่ายปั๊มเติมคลอรีน ปั๊มเติมสารส้ม บำบัดน้ำในสระ
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตัวอย่างสินค้าของลูกค้า ทำบัตรพื้นใส
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Hair Set 2 Set มี 4 ชิ้น (เรียวแฮร์ : ดูแลปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
tween tea tree oil แต้มสิวลดการอักเสบ
ดูขนาดรูปภาพจริง
Skin Biology Super Cop 2X Set (2 Items) เซ็ต
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตู้เย็น Teka รุ่น NFD 650 INOX
ดูขนาดรูปภาพจริง
หมูแผ่นนครปฐม ความอร่อยในตำนาน หมูแผ่นยิ้มยิ้มจ้า
ดูขนาดรูปภาพจริง
RJK SNAIL Natural Day Cream SPF20 PA+++ 5 ml. ครีมบำรุงเมือกหอยทาก
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน [ ตอนที่ 61 - 62 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 685 ครั้ง            update : 9/9/2010

   
   
  พอดีไม่ว่างเลยค่ะ ขอลงแต่ตอนจบเลยนะค่ะ

ซอนต๊อก 61

 

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกไหว้วานจูปังไปบอกพีดัมให้ไปรอนาง ณ สถานที่แห่งหนึ่ง แต่พีดัมกลับหลงกลอุบายของยิมจง ทำให้พีดัมโกรธมากเมื่อกลายเป็นคนทรยศต่อราชินีองค์หญิงซอนต๊อก เมื่อเกิดความโกลาหลขั้นมา ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกไม่มีทางเลือกจึงประกาศว่าพีดัมเป็นโจรกบฏ

                พี ดัมคาดคั้นทหาร “พูดมาซี่ ข้าบอกให้พูดไง”

                ทหาร หอบ "อย่าปล่อยคนทรยศให้ลอยนวลๆ หึ นี่คือรับสั่งของฝ่าบาท" ว่าแล้วทหารคนนั้นก็ฆ่าตัวตาย

                ยอ จงว่า "นี่มัน เขาคือ องครักษ์ ส่วนพระองค์ นี่แปลว่า ฝ่าบาทมีรับสั่ง"

                ความจริงแล้วยอจงบอกกับพวกมีเซ็งไว้

                "ทำลาย ความเชื่อมั่นของพีดัมงั้นหรือ" มีเซ็งถาม

                ยอจงตอบ "ใช่ครับ"

                "ซี้ ด ใช้วิธีนี้จะทำให้เขาหลงกลได้หรือเปล่า"

                "ถ้า มีฝ่าบาทมาเกี่ยวข้อง เขาก็จะเชื่อง่ายๆ"

                มีเซ็งเข้าใจ "หึ อ้อ เฮ่อๆ"

                แล้ว ยอจงก็เฝ้าติดตามพีดัม พอเกิดเรื่องก็โทษราชินีองค์หญิงซอนต๊อก

                "ที่ แท้ฝ่าบาท คิดจะฆ่าเจ้าหรือ นี่แปลว่าฝ่าบาท เฮ่อๆๆ ฮ่าๆๆ เป็นไงล่ะ หือ นี่แหละคือผลที่ออกมา เจ้ายอมหักหลังทุกคน เพื่อเห็นแก่ความรักอันยิ่งใหญ่ สุดท้ายมันก็แค่นี้ เห็นมั้ย ฮ่าๆๆ โอ๊ย"

                "คน สารเลว ข้าจะฆ่าเจ้าซะก่อน หึ" พีดัมบอกยอจง

                "เอา ซี่ เชิญฆ่าข้าเลย เฮ่อๆๆ จะฆ่าก็เชิญเลย นึกว่าข้าตายแล้ว ปัญหาจะจบได้งั้นหรือ หึ ต่อให้ไม่มีข้า แล้วเจ้า จะทำยังไงต่อ หึๆ เจ้า ไม่แน่ว่า อาจถูกทอดทิ้งอีกครั้ง ฝ่าบาท ได้ทรงทิ้งเจ้าไปแล้ว"

                พวก ทหารฝึกวิชา มีเซ็งบ่นกับฮาจง โพจองและจูจินว่า

                "เฮ่ย ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีก เพราะอะไรน่ะ"

                "จะ เชื่อเขาได้หรือ เขาบอกว่าจะพาพีดัมกลับมาน่ะ"

                "ถึง ขั้นนี้แล้ว เราไม่มีทางเลือกอื่น ยังไงก็ต้องได้พีดัมมาเป็นผู้นำ"

                "ใช่ ถ้าไม่มีเขา เราจะไม่มีเหตุผลในการก่อการครั้งนี้เลย"

                "ยอ จง เจ้าหมอนี่มันช่าง" มีเซ็งได้แต่บ่น

                ฮา จองว่า "ข้าว่าเป็นแผนหลอกเราให้ตายใจมากกว่ามั้ง"

                "นั่น สิ ไม่น่าเชื่อมันแต่แรกแล้ว"

                ทุกคนถอนใจ "          เฮ่ย"

                "มันจะพาให้เราล่มจมมากกว่า"

                "นั่น สิ แย่จริง" ว่าแล้วก็พากันถอนใจอีก

                เวลานั้นยอจงยังคงกล่อมพีดัม

                "ตอน นี้ยังไม่สาย ถ้าอยากได้ฝ่าบาทก็ต้องยึดครองชิลลาไว้ เราเตรียมการให้เจ้าหมดแล้ว แต่แรกมา เจ้าก็อยากเป็นพระราชาอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ทำไม? จะไปไหนน่ะ พีดัม ว้าย พี พีดัม"

                เสียง ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกดังในโสดของพีดัมว่า

                "นี่ คือสิ่งที่ ข้าจะสั่งเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะราชินี ที่ยังอยู่บนบัลลังก์แห่งชิลลา จบจากงานนี้แล้ว ข้าจะสละบัลลังก์ ให้ชุนชูขึ้นแทน แล้วจะไปอยู่เมือง "ชูวาคุง" ตอนนี้ ให้ไปหาที่เงียบสงบเพื่อจะสร้างอารามเล็กๆ แล้วเราไปพบกันที่นั่น อาจจะเหลือเวลาไม่มากนัก ข้าก็อยากใช้ชีวิตอยู่กับเจ้า"

                พี ดัมคิด "ฝ่าบาท ทรงคิดฆ่าหม่อมฉันจริงหรือ"

                "เจ้า บอกว่ารักข้าใช่ไหม แต่ในสายตาข้า นั่นเป็นเรื่องไร้สาระและไม่มีความ หมาย เพราะความรักของข้ามีแต่มอบให้บ้านเมือง คำว่ารักแท้นั้น คือยอมสละทุกสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เมื่อเราไม่เห็นแก่ตัวแล้ว ยังจะมีความรักกับคนอื่นได้ยังไง ต่อให้บอกว่ารัก ในนั้นก็มีความเสแสร้งปนอยู่ไม่น้อย"

                "เส แสร้งหรือ" พีดัมคิด

                "แต่ อย่างน้อย ก็น่าจะบอกข้าบ้าง"

                "บอก แล้วทำไม ช่วยอะไรได้บ้าง หม่อมฉันกลัวว่าพูดแล้ว องค์หญิงจะไม่ต้องการหม่อมฉันอีก"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกยังบอกพีดัมไว้อีกว่า "ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ขอให้เชื่อข้า และรอข้าไปพบด้วย จากราชินีองค์หญิงซอนต๊อก"

                ใน วังหลวง จุปังเข้าเฝ้าราชินีองค์หญิงซอนต๊อก

                "ฝ่า บาทๆ รับสั่งให้หาหรือพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "ท่านรีบไปเมือง "ชูวาคุง" เดี๋ยวนี้ เอานี่มอบให้พีดัม ไม่ว่ายังไง ก็ต้องส่งให้เขากับมือล่ะ"

                "พะ ยะค่ะฝ่าบาท"

                ขณะที่พีดัมยังคงคิดถึงคำพูดราชินีองค์หญิงซอนต๊อก

                "แต่ ความรักของข้า มีแต่มอบให้บ้านเมืองเท่านั้น"

                พี ดัมคิด "ได้ ถ้าอย่างงั้น หม่อมฉันจะกลายเป็นชิลลาของฝ่าบาท หากไม่เป็นอย่างงั้น หม่อมฉันจะขอไปจากโลกนี้พร้อมกับคนที่ จะทำลายบ้านเมืองของฝ่าบาท ไม่ว่ามันจะเป็นใคร หม่อมฉันก็ไม่ปล่อยให้เป็นเสี้ยนหนามอีก ตำแหน่งราชินี ช่างเป็นภาระที่หนักหน่วง จนฝ่าบาทจำเป็นต้องทิ้งหม่อมฉัน ปล่อยหม่อมฉันไว้ไม่ได้ ถ้าอย่างงั้น หม่อมฉันก็จะช่วยฝ่าบาท แบ่งเบาภาระนี้ด้วยตัวเอง"

                ยอ จงกลับมาหาพวกมีเซ็งเพียงลำพัง ทุกคนจึงถามหาว่าพีดัมอยู่ไหน ทำไมไม่มาด้วย

                "เดี๋ยว เขาก็มา ยังไงก็ต้องมาแน่"

                "ทำไม ต้องเดี๋ยวอีก ไหนท่านรับรองแข็งขันว่าจะพาเขามาพบเราให้ได้ไง" โพจองคาดคั้น

                มีเซ็งต่อว่าอีก "ยอจง เจ้าคนหลอกลวง ฮึ่ม ถ้าพีดัมไม่ยอมมาละก้อ ข้าจะเอาชีวิตเจ้าเป็นคนแรก"

                "ตอน นี้ ไม่ใช่เวลาจะมาทะเลาะกันแล้ว" ขุนนางคนหนึ่งขัดขึ้น ข้าว่าเราหาช่องทางไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า"

                "นั่น สิ ไม่แน่ว่าป่านนี้ ทางการอาจรู้ว่าเรามาซ่อนตัวอยู่นี่ก็ได้" โฮแจว่า

                "ถ้า ยังอยู่ที่นี่อีก เท่ากับนั่งรอความตายแล้ว"

                "ถ้า ไง เราไปตำหนักฤดูร้อนที่ "ยอนโพ" จะดีมั้ย"

                "จริง ด้วย ถ้าไปอยู่นั่น ยังพอถ่วงเวลาได้บ้าง แล้วเราจะได้รวบรวมทหารอีก"

                มี เซ็งเห็นด้วย "ใช่แล้ว ยังไงก็ไม่ควรหวังลมๆ แล้งๆ อีกต่อไป หาที่เก็บตัวซักพัก"

                ทัน ใดนั้นพีดัมก็เข้ามา จูจินร้องทักคนแรก "ท่านพีดัม"

                "อ้าว ท่านพีดัมๆๆ"

                พีดัมว่า "หึ ช่างน่าสมเพชซะจริงๆ"

                ไอ ชองสั่งทหาร "นับแต่นี้ให้เฝ้ายามอย่างเข้มงวด ถ้าพบเห็นอะไรมีพิรุธ รีบมารายงานข้าทันที"

                "ครับ ท่านหัวหน้า"

                "แยกย้ายไปประจำที่"

                "ท่าน หัวหน้าครับ"

                "มีอะไร" ไอชองถาม

                "หลาย วันนี้ไม่เห็น "ฮึกซาน" มาเข้าเวรน่ะครับ"

                "ฮึก ซานหรือ"

                "ใช่ครับ อีกอย่าง พักก่อนเขาดูแปลกๆ ทำอะไรลับๆ ล่อๆ"

                ไอชองนิ่งคิด "ลับๆ ล่อๆ หรือ"

 

00000000000000000

 

                มีเซ็งตกใจเมื่อพีดัมบอกว่าจะไม่หนี

                "อะไร นะ เราจะไม่หนีงั้นหรือ เดี๋ยวก่อน ถ้าไม่ไปตำหนักฤดูร้อนแล้วคิดว่า จะทำไงกับสถานการณ์ตอนนี้"

                พี ดัมว่า "สมัยก่อนตอนชิซูก่อการ สาเหตุที่ทำให้ท่านเซจูพ่ายแพ้ก็คือ นั่นเพราะว่า นางทิ้งเมืองหลวงไปอยู่เมืองแทยาซองแทน ใครที่ทิ้งเมืองหลวงจะถูกมองว่าเป็นกบฎ ความชอบธรรมในการครองราชย์ จะต้องอยู่ในวังหลวงเท่านั้น"

                ฮาจองกระแอมนิด "งั้น แล้ว ถ้าอย่างงั้น"

                "เรา จะกลับไปยึดเมืองหลวง บีบให้ฝ่าบาทสละราชสมบัติ แล้วข้า จะป็นพระราชาแทน"

                จู จินกล่าวว่า "พวกเราทุกคน ยินดีทำตามคำสั่งของท่าน"

                ทุกคนกล่าวตาม "เราจะขอติดตามท่านพีดัม"

                "อึ ม อีกไม่นาน ฟ้าก็จะสว่างอีกครั้ง ก่อนที่จะฟ้าสาง เราจะมุ่งตรงไปยังเมืองหลวงทันที"

                "หา นี่มัน หมายความว่า เราจะบุกตำหนักที่ประทับของฝ่าบาทงั้นหรือ"

                พีดัมตอบว่า "ใช่"

                โพ จองว่า "แต่กองกำลังที่รับปากว่าจะช่วย ยังมาไม่ถึงเลย"

                ยอ จงว่า "ด้วยกำลังที่เรามีอยู่ตอนนี้ ยังไม่มั่นใจว่าจะชนะทหารที่อยู่ในเมืองหลวงได้หรือเปล่านะ"

                พีดัมหัวเราะ "หึๆๆ"

                ใน วังหลวง คิมซอยอนทูลราชินีองค์หญิงซอนต๊อกว่า

                "หม่อม ฉันเดาว่า พวกเขาน่าจะไปซ่อนตัวอยู่แถว "ยุนโพ" แน่"

                ยอง ชุนเห็นด้วย "ใช่ เพราะที่นั่นมีสาขาของหน่วยตรวจการณ์ตั้งอยู่ อาจเป็นที่หลบซ่อนของพีดัมและยอจงก็เป็นได้"

                "เพราะ ฉะนั้น ถ้าพวกเขาจะก่อการ ก็น่าจะเริ่มต้นจากจุดนี้ ตอนนี้ เราต้องวางกำลังจากยุนโพจนถึงเมืองหลวงทุกเส้นทางให้เข้มงวด เพื่อเป็นการสกัดกั้น ไม่ให้พวกกบฎมาถึงเมืองหลวงได้"

                กุก ซอนว่า "ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยกุกซอนครับ ท่านแม่ทัพ เราเห็นมีกลุ่มทหารเคลื่อนไหวอยู่แถว "กึมอูซาน" จำนวนน่าจะอยู่ที่ 2 พันน่ะครับ"

                คิมยูซินกล่าวว่า "ถ้ามาจากกึมอูซานตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเป็นเขา "แทต๊ก" ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมืองหลวง"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกนิ่งไป "เขาแทต๊กหรือ"

                แท พุงรายงานว่า "ข้าน้อยแทพุงมีเรื่องรายงานครับ สายรายงานว่าเห็นกองกำลังของท่านจูจิน ผ่านมาทางเนิน "ชิลกุก" ครับ"

                "อะไร นะ จากเขาแทต๊กมาทางตะวันออก บวกกับทหารจากเนินชิลกุก"

                คิด ชุนชูว่า "เขาแทต๊ก เนินชิลกุก หา แย่แล้วพะยะค่ะ เป้าหมายของพวกเขา"

                "เอ่อ ก็คือเมืองหลวง" ไอชองว่า

                คิม ยูซินว่า "ใช่ ที่ๆ ฝ่าบาทประทับอยู่ พวกเขากำลังจะตรงมาที่นี่"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "ถ้าผ่านเขาแทต๊กและชิลกุกมาได้ อาจหนีไม่พ้นการปะทะในเมืองหลวง และจะมีราษฎรมากมายที่ต้องรับเคราะห์ เราจะส่งทหารหนึ่งพันคน ไปสกัดที่ทางเข้าเมืองหลวง คือที่นี่ เขาซานโต และเขา "ต๊อกซาน" สองจุดนี้ แม่ทัพใหญ่"

                "พะ ยะค่ะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัสสั่ง "ไปตั้งด่านสกัดที่เขาต๊อกซาน อย่าให้พวกกบฏเข้ามาได้"

                "แม่ ทัพใหญ่คิมยูซิน น้อมรับพระบัญชาฝ่าบาท"

                พวก พีดัมมาถึงเขาต๊อกซาน โฮแจรายงานพีดัมว่าเขาเตรียมพร้อมตามที่สั่งแล้ว

                พีดัมถาม "ทหารก็มาหมดแล้วใช่ไหม"

                "ใช่ กองกำลังทุกฝ่าย ได้ไปรวมตัวที่ทุ่ง "ยอโต" แล้ว" จูจินตอบ

                "ตอน นี้ เราจะทำไงต่อ" โฮแจถาม

                ยอ จงว่า "ท่านพีดัม มีข่าวว่ากองทัพคิมยูซินออกจากเมืองหลวงแล้ว"

                "มี จำนวนมากน้อยแค่ไหน"

                "ประมาณ 2 พันได้ กำลังมุ่งไปเขาต๊อกซานเพื่อตั้งด่านป้องกัน"

                "แล้วจะ ทำไงดี เราจะเปิดศึกกับพวกเขาเลยดีมั้ย"

                พีดัมมองนิ่ง "เปิดศึกงั้นหรือ"

                เวลา เดียวกันราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัสสั่งว่า

                "ไม่ ได้เด็ดขาด ไม่ว่ายังไงก็ตาม อย่าให้เกิดการปะทะในเขตเมืองหลวง"

                "พะ ยะค่ะ ถ้าเกิดเหตุปะทะจนสูญเสียขึ้นมา เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่า"

                "ทหาร ที่หนีจากเมืองหลวง จะไปสมทบกับพวกเขาหรือเปล่า" คิมชุนชูถาม

                ไอ ชองว่า "ข้อนี้ยังไม่แน่ชัด แต่พวกเขาก็น่าจะมั่นใจไม่น้อย ถึงกล้าบุกมาตีเมืองหลวงของเรา"

                พีดัมสั่งการกับจูจินและโฮแจว่า

                "ท่าน จูจินและท่านโฮแจ ให้พาทหารของเราไปยังทุ่งกว้าง "ยอโต" เดี๋ยวนี้ เพื่อเตรียมรับมือกองกำลังของคิมยูซิน ถ้าจำเป็นก็ต้องปะทะ แต่ถ้ามีคำสั่งบอกให้ถอย ก็ต้องถอยทันทีรู้มั้ย"

                "หา คำสั่งให้ถอยหรือ"

                "ไม่ ต้องถามมาก ออกเดินทางได้แล้ว"

                "ครับ"

                "ทหาร ของพีทันก็พร้อมแล้วใช่ไหม" พีดัมถาม

                ยอ จงตอบว่า "ใช่ กำลังรอคำสั่งอยู่ จะให้ติดต่อเลยมั้ย"

                "ไม่ ต้อง ให้รอเดี๋ยวก่อน"

                ยางกิดคุยกับคิมซอยอนว่า

                "ท่าน แม่ทัพ กองทัพของท่านคิมยูซิน กำลังถูกจู่โจมหลายด้านครับ"

                "อะไร นะ จู่โจมหลายด้านหรือ ลองเล่ารายละเอียดให้ฟังซิ"

                "ตอน แรกก็สู้กับกองทัพของท่านโฮแจ แต่ไม่ทันไร ก็มีทหารของท่านจูจินและโพจองโผล่มาจากด้านหลังอีกน่ะครับ"

                "ตกลง พวกเขาจะยึดยอโต หรือว่า ต้องการจะยึดเมืองหลวงกันแน่"

                "ตอน นี้ ทหารของท่านคิมยูซินต้องรับศึกหลายด้านน่ะครับ"

                "ถัด จากยอโตก็ถึงเมืองหลวงแล้ว ส่งกองกำลังที่ "นานซาน" และทหารที่ "โมวาซาน" ไปยอโตให้หมด เพื่อจะช่วยคิมยูซินอีกแรง"

                "ครับ"

                ยอจงรายงานพีดัมว่า

                "ท่าน พีดัม มีข่าวว่าทหารจากนานซานและโมวาซาน กำลังจะเคลื่อนพลมาทางนี้ ทุกอย่าง เป็นไปตามที่คิดจริงๆ"

                "งั้น ก็ดี ไปบอกพีทันเดี๋ยวนี้ ให้พวกเขา เตรียมตัวรับมือได้แล้ว"

                "ครับ"

                พี ดัมเรียกไว้ "เดี๋ยวก่อน ออกคำสั่งให้ท่านจูจิน ท่านโฮแจและท่านโพจอง ให้ถอนกำลังกลับมาก่อน"

                "ถอน ทำลัง? เราจะไม่ตียอโตแล้วตรงเข้าเมือง หลวงหรือไง"

                "เมือง หลวงหรือ แน่นอนว่า ไม่ใช่เมืองหลวง"

                คิมซอยอนถามกุกซอนว่า

                "พวก เขาถอนกำลังแล้วหรือ ทหารที่นานซานและโมวาซาน ไปรวมตัวที่นั่นหรือยัง"

                "ยัง ครับ ได้ยินว่ายังเดินทางไม่ถึง"

                "แต่ พวกเขากลับถอนกำลัง? ถอยไปทางทิศไหน"

                "ครับ ทิศทางที่ถอย คือเขานานซานครับ"

                "เขา นานซาน? ตอนนี้ที่นั่นไม่มีทหารแล้วนี่ นี่มัน"

                ยอง ชุนวิ่งกระหืดกระหอบเข้าเฝ้าราชินีองค์หญิงซอนต๊อก

                "ฝ่า บาทๆ ฝ่าบาท ท่านคิมยูซินอยู่ที่เมืองยอโต สามารถเอาชนะทหารของโฮแจ จูจินและโพจองได้แล้วพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกแปลกพระทัย "หา หมายความว่าโฮแจ จูจินและโพจอง ต่างก็ถอยกลับไปงั้นหรือ"

                "ใช่ แล้วพะยะค่ะ เนื่องจากพวกเขาเริ่มถอย ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปมาก หึ"

                คิมชุนชูนิ่งไป "ถอยหรือ"

                "ใช่ แม่ทัพคิมสั่งให้ทหารจากนานซานและโมวาซาน ไปรวมตัวที่ยอโต เพื่อจะป้องกัน"

                "นานซาน? หมายความว่า นานซานก็ไม่มีทหารแล้วสิ ฝ่าบาท"

                "ใช่ ถูกต้องแล้ว"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกทรงอึ้ง "นี่คงไม่ใช่"

                "มี อะไรหรือพะยะค่ะ ตอนนี้ที่น่าห่วงไม่ใช่เมืองนานซาน"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัส "หึ ที่นี่?"

                "ที่ เมือง เมียงวา"

                "หมาย ความว่าพวกเขาจะไปตีเมือง "เมียงวา" หรือ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "เมืองหลวงของเรา มีจุดยุทธศาสตร์สำคัญอยู่สองแห่ง"

                คิมยูซินเองก็เมื่อทราบข่าวก็แปลกใจ

                "อะไร นะ ที่พวกมันถอนทัพ กลับไปรวมตัวที่นานซานหรือ"

                "ครับ ตอนนี้ทุกคนไปอยู่ที่นานซานหมด"

                "ถ้า อย่างงั้น หมายความว่า"

                "ทำไม หรือครับแม่ทัพใหญ่"

                "เป้า หมายของพวกเขาไม่ใช่เมืองหลวง แต่เป็นเมืองเมียงวา นั่นคือเป้าหมายที่แท้จริง"

                พี ดัมกล่าวกับทุกคน "ทุกคนคงจะเหนื่อยสินะ"

                "ไม่ หรอกครับ เพราะท่านวางแผนดี ในเมืองเลยไม่มีทหารซักคน ให้เรายึดได้ง่ายๆ"

 

000000000000000000

 

                ใน วังหลวงทุกคนกำลังปรึกษาหารือกัน คิมชุนชูกล่าวว่า

                "เป้า หมายแต่แรกของพวกเขา ไม่ใช่ศูนย์กลางของเมืองหลวงคือเขต "วาซอง" แต่เป็นเมืองเมียงวาต่างหาก พวกเขาแกล้งทำเป็นตียอโต ให้เราส่งทหารจากนานซานไปช่วยเสริม จากนั้นก็ใช้กำลังบางส่วน เข้ายึดเมืองเมียงวาอย่างง่ายดาย"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "สมัยก่อนที่มีซิลก่อกบฎ มีข้อผิดพลาดก็คือจุดนี้"

                "ใช่ ข้อผิดพลาดในอดีตคือทิ้งเมืองหลวง พวกเขาได้เรียนรุ้และไม่ยอมเจริญรอยตาม"

                "หึ จากเมืองเมียงวาจะเข้าถึงเมืองหลวง ระยะทางไม่ถึง 50 ลี้ด้วยซ้ำ" ยองชุนว่า

                "ใช่ สำหรับคนที่ขี่ม้า ไม่เกินหนึ่งมื้อข้าวก็มาถึงแล้ว"

                "ไม่ นึกว่าจะมีศัตรูมาอยู่ใกล้เราขนาดนี้ หึ"

                "ขอ ทรงอภัยด้วยพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกว่า "พวกเขา ช่างกล้า ทำให้เมืองหลวงกลายเป็นสมรภูมิ เป็นการวางแผนที่อุกอาจที่สุด"

                พวก ฮาจองกระหยิ่มกับแผนการอันแยบยลของพีดัม

                "จาก ประวัติ 700 ปีของชิลลา หรือแม้แต่แคว้นอื่นก็ตาม นี่เป็นครั้งแรก ที่มีกองกำลังมหาศาลมาจ่อแค่ปลายจมูก พวกท่านว่าจริงมั้ย" ฮาจองว่า

                จู จินเห็นพ้อง "ใช่ โดยเฉพาะจากที่นี่ไปเมืองหลวง ก็ห่างแค่ 50 ลี้เท่านั้น"

                "เพราะ ฉะนั้น อย่ามานิ่งนอนใจคุมเชิงให้เสียเวลาอีกเลย ท่านพีดัม ขั้นต่อไปเราจะทำไงดี"

                พีดัมถาม "ท่านคิดว่าข้าจะทำไงต่อ"

                มี เซ็งว่า "ก่อนอื่น คงต้องป่าวประกาศให้ผู้คนรู้มั้ง"

                โพ จองงง "ป่าวประกาศหรือ ประกาศเรื่องอะไรไม่ทราบ"

                "นั่น สิ ประกาศอะไร และจะประกาศให้ใครรู้"

                มี เซ็งว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่เมืองหลวงเกิดความตึงเครียดขนาดนี้ ที่แล้วมาทั้งท่านคิมยูซิน ท่านพีดัม หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย ต่างก็ภักดีต่อฝ่าบาท แม้นางจะเป็นผู้หญิงก็ยังมีอำนาจเหนือกว่าพระราชาองค์อื่น"

                ฮา จองกระแอมนิด มีเซ็งกล่าวต่อ "แต่ว่า ถ้าเรื่องนี้เปิดเผยเมื่อไหร่ จะทำให้เหล่าขุนนางและชาวบ้าน เริ่มสงสัยในความสามารถของฝ่าบาทและอำนาจที่นางมีอยู่ และจะตั้งข้อสงสัยในใจว่า ผู้หญิง เหมาะที่จะครองเมืองแน่หรือเปล่า"

                พี ดัมว่า "ใช่แล้ว นับแต่นี้เราจะทำลายความศรัทธาที่มีต่อพระนางซอนต๊อก ทำให้ผู้คนเริ่มหวั่นไหว เกิดเป็นสงครามที่ยืดเยื้อยาวนาน ตรงข้ามกับคนที่เมืองหลวง จะหาทางแก้ปัญหาให้เร็ว เพราะไม่อยากถูกบั่นทอนกำลัง"

                ขณะ ที่คิมชุนชูก็ทูลราชินีองค์หญิงซอนต๊อกว่า

                "เป็น ฝีมือพีดัม ดูจากสภาพการณ์ตอนนี้ การรวมตัวของเหล่าเชื้อพระวงศ์ และการเคลื่อนทัพของทหาร ทุกอย่างกระจ่างชัดอยู่แล้ว เสนาบดีพีดัม สมรู้ร่วมคิดกับพวกเขาแน่ ตอนนี้พวกเขา ขาดผู้นำอย่างมีซิลและท่านซอวอนก็เห็นอยู่ แต่ว่า แผนที่ล้ำเลิศแบบนี้ ใครจะคิดได้อีก มีแต่พีดัมเท่านั้น"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกห้ามปราม "พอที ไม่ต้องพูดอีกแล้ว"

                "ฝ่า บาท ที่จริงก็ทรงมีวินิจฉัยที่ตรงกับหม่อมฉันอยู่แล้ว จริงมั้ยพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "ถูกต้อง ข้าก็คิดเช่นเดียวกับเจ้า แต่ว่า ข้าหวังว่าจะไม่ใช่อย่างงั้น ขอให้ไม่จริงเถอะ"

                จุ ปังไปตามคำสั่งของราชินีองค์หญิงซอนต๊อก แต่ปรากฎว่าองครักษ์บอกว่าพีดัมยังไม่ได้มาตามที่ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกนัด หมายเลย

                "เจ้าบอกว่าท่านพีดัม ยังไม่ได้มาที่นี่หรือ"

                "ก็ ใช่น่ะซี้ เคยสั่งไว้ว่าจะกลับไปเก็บของก่อน แต่ยังไม่เห็นมาเลย"

                "เป็น ไปได้ไง ตามหลักน่าจะถึงนานแล้วนี่นา"

                "แล้ว นั่นคืออะไร มาเร็วเข้า ฝากข้าไว้ก็ได้ แล้วท่านกลับไปซะ"

                "นี่ เป็นราชโองการนะ คือ รับสั่งว่าข้าต้องส่งให้เขากับมือ เฮ่ย"

                พีดัมกล่าวกับพวกมีเซ็งถึงแผนการต่อไปว่า

                "ต่อ ไป เราจะบีบให้นางสละบัลลังก์"

                "หา แต่ว่า ไหนว่าเราจะดึงเวลา ทำศึกไปเรื่อยๆ ไงล่ะ"

                "หรือ จะรอให้ทหารมาพร้อม เราจะบุกเข้าเมืองหลวงทันที"

                "หึ ไม่ใช่ ตอนนี้ถึงไม่ต้องใช้กำลัง ก็มีขุนนางหลายคนทะยอยมาเข้ากับเราอยู่แล้ว ที่สำคัญเรามีท่านจูจิน ท่านซูอึย ท่านโฮแจ ถ้ารวมข้าอีกคนด้วยละก้อ ขุนนางสิบคนในสภา เรามีถึง 7 คนด้วยซ้ำ" พีดัมว่า

                "นั่น ก็คือ"

                "ใช่แล้ว เสนาบดีพีดัม จะเรียกขุนนางทั้งหลาย ให้ประชุมในวันพรุ่งนี้"

                วันรุ่งขึ้นในที่ประชุม พีดัมก็กล่าวว่า

                "การ ประชุมในวันนี้ เพื่อหารือในประเด็นถอดถอนพระนางซอนต๊อก พระนางซอนต๊อก นอกจากไม่สามารถปกป้องดินแดนที่พระเจ้าจินฮึงทรงเป็นผู้บุกเบิก ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังปล่อยให้โกคูรยอและแพ่กเจมารุกราน จนเกือบเสียเมืองแทยาซองไป เนื่องจากนางเป็นสตรีเพศ จึงถูกทูตต้าถังลบหลู่ อันทำให้เสื่อมเสียเกียรติ และภาพพจน์ของบ้านเมืองยิ่งนัก นอกจากนี้ ยังมีคำทำนายของพระเจ้าอายูวัง บ่งบอกถึงพระนางได้สูญสิ้นบารมี สมควรให้พระราชาองค์ใหม่ ขึ้นครองราชย์แทนภายใต้บัญชาแห่งสวรรค์ ด้วยเหตุผลสามประการนี้ จึงขอเสนอให้ที่ประชุมขุนนาง พิจารณาถอดถอนพระนางซะ ต่อไปห้ามก้าวก่ายราชกิจทั้งปวง จงสละบัลลังก์แต่โดยดี เพื่อเห็นแก่ส่วนรวม และเป็นทางเดียวที่จะช่วยให้บ้านเมืองพ้นวิกฤติคราวนี้ โดยความเห็นชอบของสภาขุนนาง และเสนาบดีพีดัม"

                จุ ปังรู้เรื่องจากองครักษ์ที่พีดัมเป็นกบฏก็อึ้งไป

                "ถอด ถอน? ถอดถอนอะไรกัน ข้าชักงงไปหมดแล้ว นี่แปลว่าท่านพีดัม เป็นหัวโจกงั้นหรือ"

                "แบบ นี้ เหมือนก่อกบฏชัดๆ"

                จุ ปังนิ่งคิด "เดี๋ยวคิดดูก่อน ตอนนี้ท่านพีดัม ก็ต้องอยู่เมืองเมียงวาน่ะสิ แล้ว ข้าเอานี่ไปมอบให้เขา เมืองเมียงวาเป็นแหล่งซ่องสุม ของพวกทหารกบฏไม่ใช่หรือ"

                "ถ้า เป็นอย่างงั้นจริง ไปเมื่อไหร่ก็คือตายนะ"

                "หา ไปก็คือตาย แต่ว่า จดหมายก็ต้องส่ง แล้วข้าจะทำไงดี เอ่อ"

                "แค่ นี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือ ไปก็คือไปตายนะ แต่ท่านถนัดเรื่องหนึ่งไม่ใช่หรือ ก็คือเผ่นไง หา"

                "ไป ก็ไป ไปเมืองเมียงวาเดี๋ยวนี้"

                "รู้ ว่าไปตายยังจะเสี่ยงอีกหรือ"

                จุ ปังว่า "ถึงต้องให้เจ้าช่วยอีกแรงไง ไปเร็วเข้า"

 

00000000000000

 

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกปรึกษากับพวกคิมซอยอน ยองชุน คิมชุนชู มีองค์หญิงมานมยองรวมอยู่ด้วย

                "มี อย่างที่ไหนพะยะค่ะ รวมหัวกันประชุมแล้วลงมติเสร็จสรรพ ช่างเหลวไหลที่สุด" ยองชุนว่า

                คิมซอยอนมองว่า "เป็นวิธีตบตาชาวบ้านและขุนนางระดับล่าง ให้เกิดความสับสนพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "การประชุมที่ไม่มีเสนาบดีเป็นประธาน จะถือว่าไม่มีผลบังคับ ตามกฎหมาย ทุกครั้งที่จะเปิดสภาขุนนาง มีแต่ เสนาบดีจะเรียกประชุมได้คนเดียว"

                "แต่ ฝ่าบาททอดพระเนตรสิเพคะ ในฎีกานี้ มีเขียนชื่อเสนาบดีพีดัมชัดๆ"

                "อย่า เพิ่งด่วนสรุปก่อนจะตรวจสอบแน่ชัด ถ้าไม่มีเสนาบดีรับรอง การประชุมก็ไม่มีความหมายและถือว่าผิดกฎด้วย"

                คิม ชุนชูว่า "แล้วถ้า เสนาบดีก็ร่วมประชุมด้วยล่ะ ถ้าเสนาบดีเป็นคนเสนอญัตตินี้ ก็แปลว่าชื่อพีดัม มีผลใช่ไหมพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกว่า "ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง นับแต่นี้ไป ข้าจะไม่มีการยกโทษให้เขาอีก"

                ไอ ชองเข้ามา "ฝ่าบาทๆ เชิญเสด็จออกไปข้างนอก ตอนนี้ที่หน้าตำหนักใหญ่ เป็นองครักษ์ชื่อฮึกซานพะยะค่ะ เรากำลังหาอยู่เพราะทิ้งงานไปหลายวัน"

                "องครักษ์ ที่ทำงานในวังหลวง ทำไมถูกคนปองร้ายได้ล่ะ"

                "ที่ ส่งเขากลับมาเพื่อจะข่มขู่เราหรือเปล่าพะยะค่ะ"

                "เฮ่ย นี่คือแหวนของฝ่าบาทนี่นา ทำไมเขาถึงมีได้"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกคิด "พีดัม ใช่เจ้าจริงหรือนี่"

                จุ ปังหาทางพบพีดัมจนได้ พีดัมถามว่าใครใช้ให้เขามา

                "หา ก็ ฝ่าบาทรับสั่งให้มาส่งจดหมายไง"

                "ท่าน เป็นคนสนิทของชุนชูไม่ใช่หรือ อย่าบอกนะว่าเขาจะเล่นตลกกับข้าอีก"

                "เปล่าๆ ไม่ได้เล่นตลก นี่เป็นลายพระหัตถ์ของฝ่าบาทจริงๆ ท่านพีดัม ท่านต้องเชื่อข้านะ สงสัยว่า จะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ไม่งั้น เอ่อ ไม่งั้นฝ่าบาทคงไม่ให้ข้ามาส่งจดหมาย แถมข้าก็เสี่ยงตายมาถึงนี่ด้วย ฮือ"

                องครักษ์ ที่มากับจุปังช่วยยืนยัน "เอ่อ ใช่ครับ ข้าขอรับรองอีกคน เมื่อคืนเขาเอาจดหมายไปเมือง "ชูวาคุง" และถามว่าเมื่อไหร่ท่านจะไปที่นั่น รอแล้วรออีกก็ไม่เห็นมา"

                จุ ปังบอกต่อ "ใช่ๆ หลังจากนั้น พอเห็นประกาศก็เลยมาที่นี่ เพื่อจะส่งจดหมาย ถึงแลกด้วยชีวิตก็ต้องยอมเสี่ยงน่ะครับ ฮือ"

                พีดัมอ่านราชโอการแล้วก็หัวเราะ

                "เฮ อะ ฮ่าๆๆ หึๆ หึๆ เกือบไป ข้าเกือบจะหลงกลเข้าอีก กลับไปบอกชุนชู และราชินีองค์หญิงซอนต๊อกให้รู้ทั้งสองคน ว่าข้ายังไม่ตาย"

                จุปังยังงุนงง "หา"

                "พวก เขาพยายามจะฆ่าข้าเพื่อให้หมดเสี้ยนหนามซะ แต่ข้าก็ยังอยู่มาได้ ไปบอกพวกเขาตามนี้ ได้ยินหรือเปล่า"

                จุ ปังกลับไป พีดัมกล่าวคนเดียวว่า "ถ้าอนาคตฝ่าบาท ทรงจากโลกนี้ไปก่อน หม่อมฉันก็จะทำตามคำสัญญา พีดัม จะขอวางมือจากราชกิจทั้งปวงและอำนาจยศศักดิ์ อีกทั้ง ตัดขาดกับทางโลกด้วย จริงๆ ไม่ต้องมีหนังสือก็ได้ เพราะสำหรับหม่อมฉันแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย"

                เวลา นั้นคิมชุนชูก็เร่งราชินีองค์หญิงซอนต๊อก

                "ฝ่า บาท ถึงเวลาที่ต้องตัดสินพระทัยแล้ว"

                ยอง ชุนเร่งด้วย "นั่นสิพะยะค่ะ เพราะหนังสือการประชุมได้ถูกติดไปทั่วเมือง"

                "เพราะ มีชื่อของเสนาบดี ทำให้การลงมติยิ่งมีผล ขืนปล่อยไว้นาน พวกเขาจะยิ่งกดดันมากขึ้น"

                "ฝ่า บาท"

                "ทรงตัดสินพระทัยโดยเร็วเถอะพะยะค่ะ"

                "ใช่ แล้วพะยะค่ะ โปรดมีพระบัญชาเร็วเข้า"

                "ฝ่า บาท โปรดรับสั่งเร็วเข้า"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสขึ้นว่า "ให้พีดัม ออกจากตำแหน่งเสนาบดี ต่อไปให้ถือเป็นนักโทษ ใครก็สามารถฆ่าเขาได้ ยังมีกลุ่มคนเบื้องหลัง ที่ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ให้มีโทษเท่ากับก่อกบฎ จับได้เมื่อไหร่ต้องรับโทษสถานหนัก จงไปประกาศตามนี้"

                "พะ ยะค่ะฝ่าบาท"

                "ท่านไอชอง"

                "พะ ยะค่ะฝ่าบาท"

                "ไปดูประวัติการทำงาน ของคนที่ชื่อฮึกซานว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง"

                ด้าน พีดัมก็ถามองครักษ์ที่พาจุปังมาพบเขาว่า

                "เป็น ความจริงหรือเปล่า ที่เมื่อคืนเขาเอาจดหมายมาน่ะ"

                "จริง ครับ เรื่องนี้ ข้ารับรองได้"

                "แต่ คนที่จะฆ่าข้า คือองครักษ์ของฝ่าบาทชัดๆ เจ้าไปสืบประวัติเขาหน่อยซิ"

                "ครับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"

                ลูก น้องของยอจงได้ยินคำสั่งพีดัมก็รีบไปรายงานยอจง เขาจึงสั่งให้จัดการครอบครัวของฮึกซาน และองครักษ์ซางทา

                ไอ ชองไปพบครอบครัวของฮึกซาน แล้วก็เห็นน้องสาวของฮึกซานกำลังจะถูกฆ่า เขาช่วยไว้ได้ทัน แต่พ่อกับแม่ของฮึกซานเสียชีวิตแล้ว น้องสาวของฮึกซานบอกว่าพี่ชายเขาทำงานให้กับยอจง

                จุ ปังเข้ามาทูลรายงานราชินีองค์หญิงซอนต๊อกเรื่องพีดัม

                "ท่านบอก ว่า ไปพบพีดัมที่เมืองเมียงวาจริงหรือ"

                "พะ ยะค่ะฝ่าบาท"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัสย้ำถาม "เรื่องนี้ ท่านไม่ได้โกหกนะ"

                "เอ่อ พะยะค่ะ แต่ว่าฝ่าบาท ท่านพีดัม ทำไมคิดว่าฝ่าบาททรงวางแผน จะฆ่าเขาหรือพะยะค่ะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตกพระทัย "หา"

                "ตอน ส่งจดหมายให้ทีแรก เขาไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง คิดว่าเป็นแผนลวงของฝ่าบาทด้วยซ้ำ แถมยังบอกหม่อมฉัน ว่าฝ่าบาททรงคิดจะกำจัดเขาให้พ้นทาง แต่ตอนนี้ เขายังไม่ตายพะยะค่ะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกประหลาดพระทัย "หึ"

                "ไม่ เข้าใจว่า เกิดอะไรกันแน่"

                ไอชองเข้ามา "ฝ่าบาท"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกถาม "สรุปแล้วเรื่องเป็นไง สืบได้แล้วใช่ไหม"

                "เฮ่ย ทุกอย่างเป็นฝีมือยอจงพะยะค่ะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกอึ้งไป จุปังตกใจ

                "หา นี่ หมายความว่า คนที่คิดฆ่าท่านพีดัม แล้วโยนความผิดให้ฝ่าบาท ก็คือยอจง คนสนิทของท่านพีดัมหรอกหรือ"

                "ใช่ แล้ว"

                "ไม่น่าเชื่อว่าความเชื่อมั่นของมนุษย์ แท้จริงมันจะเปราะบางขนาดนี้"

                "ฝ่า บาท"

                "ยิ่งคนที่อยู่โดยหวังพึ่งคนอื่นด้วยแล้ว เขายิ่งไม่มีหลักยึดในใจด้วยซ้ำ"

                "แต่ ว่า เมื่อเข้าใจผิดถึงขนาดนี้ ก็ต้องทรงอธิบายไม่ใช่หรือพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "มันสายไปแล้ว อธิบายก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่เขาทำ มันเกินกว่าที่ข้า จะแก้ไขได้ โอ๊ะ"

                "ฝ่า บาท"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกหอบ "ข้าไม่เป็นไร พวกท่านออกไปก่อน"

                "พะ ยะค่ะ หม่อมฉันจะตามหมอหลวงเดี๋ยวนี้"

                จุ ปังกับไอชองออกไป ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกหอบ

                องครักษ์ ซางทาโดนพวกยอจงคิดฆ่าเขาพยายามหนี

                พี ดัมถามหาซางทาที่ยังไม่กลับมา จูจินก็เข้ามาบอกว่ามีข่าวดี

                "หึๆ ท่านยองจินบอกว่า จะมาร่วมขบวนการกับเราด้วย"

                "เห็น พวกท่านทำงานใหญ่ ข้ายินดีสนับสนุนด้วยคน" ยองจินกล่าว

                "เป็น ความคิดที่นับว่าฉลาดมาก" พีดัมว่า

                ฮา จองกล่าวว่า "นอกจากเขาแล้ว ยังมีแม่ทัพเมือง "นังจู" ที่ชื่อ "โฮยุน" ก็ส่งสัญญาณว่าจะมาสมทบกับเราที่นี่เหมือนกัน เฮ่อๆๆ หึๆๆ"

                มี เซ็งว่า "เจ้าเมือง "คูราวา" ก็บอกว่าจะส่งทหารมาช่วยเราด้วย"

                "ถ้า ได้ทหารจากคูราวา เราจะมีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก"

                "ใช่ ครับใต้เท้า ตอนนี้ก็รอแค่ทหารมา เรื่องอื่นไม่ต้องห่วงอีกแล้ว เฮ่อๆๆ"

                ฮาจองกระแอมนิด "ยินดีด้วยนะ เฮ่อๆๆ"

                "นั่น สิ นี่ก็แสดงว่าขุนนางหลายฝ่ายเชื่อว่าท่านมีความชอบธรรมที่จะก่อการนี้ขึ้นมา เฮ่อๆๆ"

                "แน่นอนว่า ข้ารู้สึกซาบซึ้งมาก"

                "เฮ้ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เฮ่อๆๆ"

                "นั่น สิ เฮ่อๆๆ"

                "ตอนนี้ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม"

                "นั่น สิ จะไปไหนเสีย เฮ่อๆๆ"

                พี ดัมจะออกไปตามหาซางทา ยอจงก็ถามว่าเขาจะไปไหน

                "อยาก รู้ว่า ซางทากลับมาหรือยัง"

                "ไม่ เห็นเขานี่นา ท่านให้เขาไปไหนหรือ"

                "ข้า ใช้ให้ไปทำงานอย่างหนึ่ง ถ้าเขากลับมา รีบพาไปพบข้าด้วยล่ะ"

                "ได้ ครับ ทหารมารวมพลเยอะแล้ว อยากให้ท่านไปพูดเป็นกำลังใจหน่อย"

                "ได้" พีดัมรับคำ

 

0000000000000

 

                คิม ยูซินทูลราชินีองค์หญิงซอนต๊อกถึงประกาศว่า

                "เรา ได้ติดประกาศไปทั่วเมือง ให้จับพีดัมและพวกในฐานะนักโทษกบฏ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกชม "หึ ดีมาก"

                "พัก ก่อนที่ยึดทหาร เป็นเหตุให้ขุนนางหลายฝ่ายไม่พอใจ หมู่นี้การเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงดูแปลกๆ"

                "เห็น ทีว่า คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปิดศึกกลางเมืองซะแล้ว"

                "ถึง อย่างงั้นเราก็พร้อมที่จะรับมือ ฝ่าบาท เป็นไรหรือเปล่าพะยะค่ะ หึ หม่อมฉันได้ยินว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ที่เกิดจากฝีมือเจ้ายอจง"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "ไม่ว่าจะเป็นแผนลวงของใคร หรือเข้าใจผิด สรุปแล้วก็คือ มีเรื่องหลายอย่างที่เกิดจากความบังเอิญ แล้วมันก็ก่อตัวขึ้น บางครั้งประวัติศาสตร์ ก็ถูกเขียนขึ้นด้วยเหตุเหล่านี้ ตอนนี้ ข้าและพีดัม ได้ก้าวข้ามความเชื่อใจไปแล้ว ด้านหนึ่ง ข้ารู้สึกเสียใจที่เขาก่อกบฎโดยไม่ถามความจริงจากข้าก่อน ส่วนอีกด้านก็ละอายใจ จนไม่กล้าสู้หน้าเขาอีก"

                "ฝ่า บาททรงละอายต่อเขา เพราะอะไรหรือพะยะค่ะ"

                "ข้า มาหวนคิดอีกที เพราะหวังจะได้ทหารจากเหล่าขุนนางมาอยู่ใต้อาณัติง่ายๆ ทำให้ข้านึกชอบเขาอย่างกระทันหันหรือเปล่า ข้อนี้ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือน กัน หรืออยากริดรอนอำนาจที่เขามีอยู่ จึงเลือกที่จะแต่งงานกับเขา ข้าก็ยิ่งไม่แน่ใจเข้าไปใหญ่ แต่ว่า พอนึกว่าอีกไม่นานข้าจะสละบัลลังก์ เพื่อไปใช้ชีวิต อยู่กับเขาอย่างสันโดษ นี่คือความหวังสุดท้ายของข้า ที่เกิดจากความจริงใจ"

                ยอจงอ่านประกาศที่ม้าเร็วนำมาส่งให้

                "ให้ ถอดพีดัมออกจากตำแหน่งเสนาบดี ร่วมกับพรรคพวกเป็นนักโทษกบฎ ขอให้ชาวชิลลาที่มีใจรักความเป็นธรรม ไม่ว่าใครก็ตาม เอาชีวิตพีดัมได้หมด ทำไมถึงเป็นแบบนี้"

                ม้า เร็วว่า "นี่เป็นประกาศ ที่ทางการให้ติดทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าไปไหนก็เห็นน่ะครับ"

                พี ดัมฟังแล้วคิดถึงราชินีองค์หญิงซอนต๊อก "บอกว่าจะสละบัลลังก์ ไปใช้ชีวิตในบั้นปลายกับข้า ไม่ใช่รับสั่งของฝ่าบาทหรอกหรือ"

                ขณะนั้นราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า

                "กลุ่ม คนที่คิดแข็งข้อ เราจำเป็นต้องกวาดล้างให้หมด เพื่อจะได้เดินหน้ารวมสามแคว้นอย่างราบรื่น"

                ไอ ชองทูล "ฝ่าบาท เพื่อเป็นการปกป้องฝ่าบาท ไม่ให้กลุ่มกบฎมายึดบ้านเมืองของเรา มีชาวบ้านมารวมตัวที่ลานฝึกเป็นจำนวนมากพะยะค่ะ"

                คิม ชุนชูแปลกใจ "อะไรนะ ชาวบ้านอาสามารวมตัวหรือ"

                "ใช่ ครับ"

                "ข้าจะออกไปดู ว่าพวกเขามาทำอะไร"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกออกไปพบชาวบ้าน เวลาเดียวกันพีดัมก็กล่าวกับทหารของเขาว่า

                "แคว้น ชิลลา ตอนนี้กำลังร้องไห้ เพราะประมุขที่ไร้ความสามารถ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสกับชาวบ้าน "ตอนนี้บ้านเมืองกำลังมีภัย เหตุจากขุนนางที่ไม่ยอมให้ยึดกำลังทหาร"

                พี ดัมกล่าว "สงครามจึงต้องเกิดขึ้น ซ้ำยังถูกแคว้นอื่นมาดูหมิ่นพวกเรา"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "ชาวบ้านจะยิ่งถูกเอาเปรียบ ถึงขั้นให้ต่างชาติมาช่วย เพราะฉะนั้น"

                พีดัมกล่าว "เพราะฉะนั้น ตอนนี้บ้านเมือง กำลังรอความช่วยเหลืออยู่"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "ตอนนี้บ้านเมืองเรา อยู่ในภาวะคับขันอย่างหนัก"

                พี ดัมกล่าว "ซึ่งพวกเรา ไม่ควรที่จะนิ่งดูดาย"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "ทางการ จะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย"

                พีดัมกล่าว "เราต้องถอดถอนราชินี"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "ปราบปรามผู้คิดร้ายต่อบ้านเมือง"

                พีดัมกล่าว "เพื่อความยั่งยืนสืบไป"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "เพื่อความเจริญมั่นคง"

                พี ดัมกล่าว "พร้อมกับสร้างเมืองใหม่อันยิ่งใหญ่"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัส "สานต่อเป้าหมายผนึกรวมสามแคว้น"

                พวก ชาวบ้านสรรเสริญราชินีองค์หญิงซอนต๊อก "ทรงพระเจริญๆ"

                พวกทหารโห่ร้องกับพีดัม "ชิลลาจงเจริญๆๆ"

 

จบ 61

000000000000000

 

ซอนต๊อก 62 0บ

 

                ไอ ชองทูลราชินีองค์หญิงซอนต๊อก "ฝ่าบาท หม่อมฉันขอบังอาจ ให้หม่อมฉันแบกดีมั้ยพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "ชาวบ้านกำลังดูเราอยู่นะ ข้ายังพอเดินถึงตำหนักไหว"

                "พะ ยะค่ะ หม่อมฉันเข้าใจ"

                พวก ชาวบ้านโห่ร้องต่อไป "นี่ ดูสิ ทำไมดาวดวงนั้นกระพริบไม่หยุด"

                "นั่น สิ เห็นมั้ย กระพริบใหญ่เลย"

                "จริง ด้วย เห็นมั้ย กระพริบใหญ่เลย"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกเกิดอาการ "เอ่อ โอ๊ะ"

                ไอชองกับคิมยูซินร้องเรียก "ฝ่าบาทๆ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกยกมือห้าม "เฮ่อ อย่าทำตกใจ อย่าให้ใครรู้ หึ"

                ไอชองสั่งทหารสองคน "ไปเอาคานหามมาเร็ว"

                คิมยูซินทูลถาม "ทำไมทรงเป็นแบบนี้ได้ ล่ะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกหอบ

                ทาง ด้านพีดัม พวกทหารก็เห็นดาวร่วงลงมาเหมือนดาวตก

                "มี ดาวตก ลงไปทางเมืองหลวงด้วย หมายความว่าไงน่ะ เป็นสัญญาณอะไรหรือเปล่า ไม่รู้สิ เป็นลางร้ายมั้ง"

                พี ดัมกล่าวว่า "มีดาวตกไปทางเมืองหลวง นั่นแสดงว่า เมืองหลวงใกล้จะถูกยึดในไม่ช้านี้แล้ว ดวงเมืองกำลังจะสิ้น แผ่นดินจะลุกเป็นไฟในเร็ววัน แม้แต่สวรรค์ก็จะเป็นพวกเดียวกับเรา เพื่อสร้างชิลลาให้ยิ่งใหญ่ขึ้น"

                ยอ จงกล่าวนำ "ขอให้ท่านเสนาบดีพีดัม จงเจริญ"

                พวกทหารโห่ร้องตาม "จงเจริญๆๆ เย้ วู้"

                ทุก คนโห่ร้องดีใจ พีดัมมองดาวตกแล้วคิด "ข้า จะเป็นพระราชาองค์ใหม่แห่งชิลลา ข้าจำเป็นต้องได้ปกครอง เพื่อจะให้ ราชินีองค์หญิงซอนต๊อก มาเป็นของข้าด้วย"

                หมอ หลวงเข้ามาตรวจพระอาการของราชินีองค์หญิงซอนต๊อก

                "เอ่อ ฝ่าบาท"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัสส่งก่อนว่า "จัดยาให้ข้าเหมือนเดิมก็พอแล้ว"

                หมอหลวงอึกอัก "เอ่อ แต่ว่า ฝ่าบาท"

                "ไม่ ต้องพูดมาก เชิญออกไปได้แล้ว ไปซี่"

                "พะ ยะค่ะ ฝ่าบาท เฮ่ย"

                คิม ยูซินทูลถาม "ฝ่าบาท ทรงประชวรตรงไหนหรือพะยะค่ะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกถอนใจ "เฮ่อ"

                "บรรทม ลงไปก่อนเถอะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "หึ ไม่เป็นไรหรอก ไม่สบายแค่เล็กน้อย ยิ่งนอนมากๆ จะยิ่งปวดหัวด้วยซ้ำ"

                "ฝ่า บาท ทรงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ประชวรด้วยโรคอะไรกันแน่ ฝ่าบาท รับสั่งให้หม่อมฉันรู้เถอะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "สมัยก่อน ตอนข้าออกจากทะเลทรายมาชิลลา คืนแรกที่ได้มานอนอยู่ที่นี่"

                "พะ ยะค่ะ"

                "จำได้ว่าข้าได้ฝันไป ตอนนั้นข้ากำลัง สืบหาร่องรอยของท่านมุนโนอยู่"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกทรงคิดถึงอดีตแล้วจู่ๆ ก็กล่าวว่า

                "นางกอด ข้าเอาไว้ แถมยังหลั่งน้ำตาอีกต่างหาก แต่ว่า นี่ก็ผ่านไปหลายสิบปีแล้ว เมื่อคืนข้ากลับฝันเห็นอีก ฝันเห็นผู้หญิงคนนั้น นางเป็นใครแน่"

                คิม ยูซินตัดบทถาม "ฝ่าบาท หม่อมฉัน อยากรู้พระอาการของฝ่าบาทว่าทรงเป็นอะไร"

                ไอชองถาม "นางเป็นใครหรือพะยะค่ะ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "หึ นั่นสินะ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน หน้าตาของนาง ข้าแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำ แม่ทัพใหญ่"

                "พะ ยะค่ะ"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกว่า "แผนการรบที่ท่านวางไว้ ให้ดำเนินไปตามนั้น ภายในคืนนี้ เริ่มได้เลย"

                "พะ ยะค่ะ หม่อมฉันจะทำตามบัญชา"

                เมื่อ ออกมาไอชองได้บอกเล่าอาการของราชินีองค์หญิงซอนต๊อกให้คิมยูซินฟัง เขาตกใจมาก

                "อะไรนะ นี่ นี่ท่านไม่ได้ล้อเล่นนะ"

                "ข้า ก็เพิ่งรู้ไม่นานนี้เอง"

                "หา เพราะอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้"

                ไอ ชองถอนใจ "เฮ่ย สถานการณ์ตอนนี้ ห้ามเปิดเผยเรื่องการประชวรของฝ่าบาทให้คนอื่นรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะหมอหลวงก็ยิ่งต้องปิดปากเงียบ"

                ขณะ ที่ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกนิ่งคิดในใจว่า

                "อีก ไม่นานข้าจะสละบัลลังก์ เพื่อไปใช้ชีวิต อยู่กับเขาอย่างสันโดษ นี่คือความหวังสุดท้ายของข้า ที่เกิดจากความจริงใจ"

                คิมยูซินกล่าวกับพวกแวยา ยิมจงว่า

                "ก่อน จะมีขุนนางไปสมทบกับพวกเขามากขึ้น เราต้องรีบเผด็จศึก เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด เมืองเมียงวาจะแบ่งเป็นเหนือใต้ออกตก 4 ทิศ เราจะจู่โจมทั้ง 4 ด้านในเวลาเดียวกัน"

                ยิม จงถาม "หมายความว่า จะใช้แผนหลอกซ้ายล่อขวาหรือ"

                แว ยาว่า "ถ้าจะหลอกพวกเขาจริง ทิศไหนจะเป็นกลลวง"

                "กล ลวง เราจะไม่ใช้ ทั้งหมดคือของจริง ที่จะไปพร้อมกัน เหนือ ใต้ ออก ตก 4 ด้านเข้าพร้อมกัน โดยข้าจะนำทัพใหญ่ เข้าประตูเมืองด้านหน้าด้วยตัวเอง"

                ทางด้านพีดัมก็กล่าวกับพวกมีเซ็งว่า

                "ทหาร เมืองหลวงคงอยากปิดฉากกับเราให้เร็วที่สุด"

                มี เซ็งว่า "ใช่ ก่อนจะมีคนมาช่วยเรามากกว่านี้ ให้รีบเผด็จศึกคือทางออกที่ดี"

                "ตอน นี้แค่ยึดเมืองเมียงวาไว้ เท่ากับชัยชนะอยู่ในมือเรา ให้ท่านโฮแจพาทหารไปเฝ้าอยู่ด้านหน้า อย่าให้ศัตรูมาประชิด"

                "ได้ ยังมีทหารที่เราติดต่อไว้ บางส่วนก็เริ่มออกจากเมืองหลวงมา"

                "ใช่ และพรุ่งนี้เช้า จะมีทหารอีก 5 พันมาสมทบอีก"

                "รวม กันจะมีกำลังไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น พอสู้กับพวกเขาได้อย่างสบาย" จูจินว่า

                "เฮ่อ ๆๆ ยิ่งคนมาช่วยเราเยอะๆ แสดงว่าที่เราจะตีเมืองหลวงเป็นเรื่องถูกต้อง เฮ่อๆๆ"

                มีเซ็งว่า "ใช่"

                พี ดัมว่า "แต่ก่อนจะรวมทหารได้ครบ เราจะอยู่ที่นี่ อย่าเพิ่งบุกไปเมืองหลวงโดยพละการ และคืนนี้ จนถึงพรุ่งนี้เช้า จะเป็นเวลาสำคัญ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ เราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบมากขึ้น"

 

00000000000000

 

                คิม ยูซินปรึกษาการรบกับคิมซอยอน ไอชอง และยองชุน

                "ถ้า มีการปะทะในจุดนี้ ให้ท่านไอชองคอยสั่งการ เรื่องนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตแล้ว ขณะที่ท่านไอชองกำลังรับมืออยู่ที่จุดนี้ ให้ยิมจง ต๊อกชอน ปาร์คอึย ซอแจและแวยา ต่างก็เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราจะจู่โจมเข้าเมืองทั้ง 4 ด้าน"

                "แต่ว่า แผนนี้จะใช้ได้จริงหรือ ถ้าเป็นอย่างแม่ทัพใหญ่ว่า เราจะตีเข้าศูนย์ กลางของพวกมัน แล้วค่อยให้กำลังทั้ง 4 ด้าน บุกเข้าพร้อมกัน ตีโอบไม่ให้ตั้งตัวติด แต่เราจะไม่มีเวลาได้ส่งข่าว ให้ทหารที่อยู่ทั้ง 4 ทิศได้รับรู้พร้อมกัน"

                "นั่น สิ ถ้าเป่าแตร ศัตรูก็จะได้ยิน แต่ถ้ายิงธนูไฟ คนที่อยู่ด้านหลังจะมองไม่เห็น"

                ยอง ชุนว่า "น่าจะมีสัญญาณที่เห็นแต่ฝ่ายเรา ศัตรูไม่ทันผิดสังเกต จะมีของแบบนี้หรือเปล่า"

                คิม ยูซินว่า "จากเหตุการณ์ดาวตกที่เห็น ทำให้ทหารเสียขวัญเป็นอย่างมาก เราจะทำให้ดวงดาว ปรากฎบนท้องฟ้าอีกครั้ง นั่นแหละคือสัญญาณของเรา"

                การ ต่อสู้ดำเนินไปไม่ได้นาน โพจองก็กลับมารายงานพวกพีดัมว่า

                "ใต้ เท้าครับ หึ เพิ่งได้รับข่าวว่าด่านแรกของเรา ถูกพวกมันตีแตกแล้ว"

                จู จินกับเหล่าขุนนางตกใจ "หา อะไรนะ ทำไมล่ะ"

                มีเซ็งว่า "ด่านป้องกันถูกตีแตกหรือ"

                โพ จองตอบว่า "ครับ เป็นฝีมือพลธนูที่เข้ามากะทันหัน"

                "แถว ริมน้ำตะวันออกและทิศใต้ ก็เห็นมีทหารเคลื่อนไหวเหมือนกัน"

                "อะไร นะ นี่แปลว่าจะเข้ามาพร้อมกัน 4 ด้านเลยหรือไง" ฮาจองว่า

                มีเซ็งว่า "เป็นแผนหลอกซ้ายล่อขวา มากกว่า"

                "พวก เขาจะล้อมเมืองเมียงวาและบุกเข้ามาตรงๆ"

                "หรือ ไม่งั้น ก็คือจู่โจมด้านหลังแล้วค่อยตีโอบเข้ามา"

                "ยัง ไงก็ช่าง เราต้องส่งทหารไปรับมือทั้งนั้น"

                พี ดัมตัดบทว่า "ไม่ต้อง เป็นแผนทำให้สับสน"

                "สับสน?"

                "อย่า สนใจทหารที่นอกเหนือจากทัพใหญ่ของคิมคิมยูซิน เพราะนั่นไม่สำคัญ แค่รอถึงพรุ่งนี้เช้า ชัยชนะก็จะเป็นของเราทันที โพจองและพีทัน อย่าเพิ่งให้ทหารออกไป แค่ป้องกันเมืองไว้ก็พอ แล้วคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย จากนั้นค่อยมารายงานข้า"

                "ครับ เราจะไปเดี๋ยวนี้"

                "ใต้ เท้าครับ หึ ใต้เท้า ตอนนี้ ตอนนี้ข้างนอก ข้างนอกมี" ยอจงยังกล่าวไม่จบ เสียงพวกทหารก็ดังมาว่า

                "เฮ้ย ดูนั่นสิ ดาวขึ้นมาอีกแล้ว มาจากไหนนี่"

                "พวก เรา ดูบนฟ้าสิ ดาวที่ร่วงไปเมื่อคืนก่อน ทำไมปรากฏขึ้นอีกล่ะ"

                "นั่น สิ เป็นไปได้ไง ทำไมปรากฏขึ้นได้"

                ฮา จองตกใจ "อะไรน่ะ ทำไมมีดาวขึ้นมาอีกแล้ว"

                "ล้อ เล่น ดาวตกไปชัดๆ ทำไมยังมีอีกล่ะนี่"

                พวกทหารวิจารณ์กันใหญ่

                มี เซ็งว่า "หึ นั่นน่ะหรือ ดาวหรือ เฮ่อๆๆ มันคือว่าวต่างหาก คือว่าว"

                "ว่าว อะไรกัน"

                "ว่าวที่เหมือนโคมไฟแล้วปล่อยให้มันลอยขึ้นสูงไง เฮ่อๆ เป็นของปลอม ชัดๆ"

                "หา ถ้างั้น จะทำให้เราเสียขวัญใช่ไหม"

                "ไม่ ใช่ นั่นเป็นสัญญาณ สัญญาณของทหาร เพื่อจะเบี่ยงเบนความสนใจของเรา"

                พวกทหารวิจารณ์เรื่องดาวอยู่

                ยิมจงสั่งเปิดประตูเมือง โฮแจบอกพวกพีดัม

                "ใต้ เท้าครับ ประตูเมือง ทางตะวันออกถูกเปิดได้แล้ว"

                "ใต้ เท้าครับ ใต้เท้า ทางใต้ก็เหมือนกัน ถูกทหารของปาร์คอึยและต๊อกชุนจู่โจมเข้ามาแล้ว" ทหารเข้ามารายงาน

                "อะไร นะ นี่ แม้แต่ ทางใต้ก็เข้ามาด้วยหรือ"

                "พวก เจ้าทำงานประสาอะไรน่ะ" มีเซ็งดุ

                พี ดัมสั่งการ "สั่งทหารทุกคน ไปป้องกันทางตะวันออกและทิศใต้เดี๋ยวนี้ หลอกให้ศัตรูไปทางตะวันตก ข้าจะนำทัพใหญ่ ไปรับมือกับพวกมันด้วยตัวเอง"

                ซาง ทาหนีรอดมาได้จนพบกับพีดัมสำเร็จ พีดัมเห็นซางทาก็ตกใจ

                "ซาง ทา นี่เจ้า ไปทำอะไรมานี่"

                "ท่าน เสนาบดี ฮือ เอ่อ" ซางทากระซิบบอกความลับกับพีดัม

                เวลาเดียวกันยอจงกล่าวกับจูจินว่า

                "ไม่ มีเวลาแล้ว เร็วเข้า เราต้องรีบไปจากที่นี่ก่อน"

                "มัน ก็จริง ตอนนี้ถูกยึดไปสองด้าน ช้าเร็วเราต้องแพ้แน่"

                "ทหาร ของท่าน "โฮยุน" กำลังรออยู่ที่เขา "กีซาน" พวกท่านไปทางประตูเหนือที่ตอนนี้ยังไม่มีข้าศึก หาวิธีไปจากเมืองนี้ก่อน"

                "รู้ แล้ว เฮ่ย"

                พีดัมเข้ามาจ้องมองยอจง แต่ยอจงไม่รู้เรื่องกล่าวกับเขาว่า

                "ท่าน พีดัม เห็นทีเราต้องไปจากเมืองนี้ซะแล้ว ถ้าออกไปได้ก็จะไปสมทบกับท่านโฮยุน มุ่งตรงไปที่ "ทังซาน" ก่อน เร็วเข้า ทำไม? มองข้าอย่างงั้นล่ะ" ยอจงรู้สึกตัว

                "คน เลี้ยงไม่เชื่อง องครักษ์ของฝ่าบาท ฮึก ซาน"

                "หึ เฮ่อๆๆ รู้แล้วหรือ")

                "ทุกอย่าง เป็นการวางแผนของเจ้าทั้งนั้น เป็นเพราะเจ้าคนเดียว"

                "ปัญหา เกิดจากเจ้าต่างหาก ทำไมชอบโยนความผิดให้คนอื่นอยู่เรื่อย ข้าเป็นคนสังหารมุนโน วางแผนก่อกบฎแต่แรก เป็นศัตรูกับฝ่าบาทก็เป็นความคิดของข้างั้นหรือ เฮ่อๆๆ ถึงไม่มีข้า เจ้าก็คิดสังหารมุนโนเพื่อเอาแผนที่สามแคว้นของเขามาอยู่แล้ว"

                "หุบ ปากเดี๋ยวนี้ หึ"

                "ต่อ ให้ไม่มีข้าก็เถอะ เจ้าก็ต้องใช้แผนบางอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองฝ่าบาทไม่ต่างกันหรอก"

                "ข้า บอกว่าไม่ต้องพูดแล้ว"

                ยอ จงไม่หยุดกล่าวต่อ "สิบปีที่ผ่าน เจ้าได้ทำอะไรบ้าง ทุ่มเทเพื่อบ้านเมือง สร้างความดีความชอบตั้งเท่าไหร่แล้วยังไง เพราะมุนโนไม่พอใจเจ้า เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของมีซิล เพราะข้าหลอกใช้เจ้าหรือ ไม่ใช่เลย แต่เพราะว่า ความทะเยอทะยานของเจ้าต่างหาก หือ เจ้าอยากเป็นพระราชา หวังจะได้ปกครองเมืองนี้"

                "หึ ทั้งหมดนี้ เป็นการคิดเองเออเองของเจ้าทั้งนั้น หึ ข้าไม่เคยคิด ข้าแค่ทำเพื่อ"

                ยอ จงสวน "อ๋อ ความรักน่ะหรือ ความรักทำให้ตาบอดเลยถลำลึกมาถึงวันนี้ใช่ไหมล่ะ ก็ได้ ข้าเลยช่วยผลักดันให้เจ้าสมหวังไง ลองคิดดู ถ้าเจ้าได้แต่งงานกับฝ่าบาทจริง ผลจะออกมาแตกต่างหรือเปล่า ไม่เลย สุดท้ายเจ้าก็ต้องก่อกบฎอยู่ดีแหละ เพราะอะไรหรือ เพราะไม่รู้จักคำว่าพอไง กลัวว่าซักวันฝ่าบาทจะทิ้งเจ้า กลัวว่าตัวเองจะไร้ค่า ทั้งหมดเหล่านี้ ทำให้ไม่ไว้ใจคนอื่น เจ้าก็คือคนแบบนี้ ชอบบอกให้คนอื่นไว้ใจตัวเอง แต่ตัวเองไม่เคยเชื่อใจใคร กลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง คิดแต่เรื่องนี้อยู่ตลอด"

                "ไม่ ต้องพูดแล้ว"

                "เฮ่อๆๆ แต่ว่า เจ้ารู้อะไรมั้ย ที่จริงฝ่าบาท ทรงไว้ใจ เชื่อมั่นในตัวเจ้า เจ้าต่างหากที่ไม่เชื่อนาง เป็นฝ่ายระแวงก่อน คนที่ ทำลายความรักของเจ้า ไม่ใช่ฝ่าบาทหรือว่าข้า คนๆ นั้น ก็คือตัวเจ้าเอง พีดัม เฮ่อๆๆ เฮ่อๆๆ ทำอะไรน่ะ โอ๊ะ" ยอจงถูกฆ่า

                พีดัมอึ้ง "ไม่จริง ไม่ใช่"

                มี เซ็งเข้ามา "ท่านพีดัมๆ รีบหนีเร็วเข้า ตอนนี้ พวกทหาร เอ่อ"

                พี ดัมโวยวาย "ข้า ข้าไม่ได้ทำผิด ฮือ หลีกไป"

                มี เซ็งร้องบอก "ฆ่าข้าก่อนค่อยไปได้ไหม เฮ่อๆๆ อุตส่าห์คิดว่าคนอย่างเจ้าจะเหมือนพี่ใหญ่ของข้า ข้ามันช่างตาบอดแท้ๆ หวังพึ่งคนอ่อนแออย่างเจ้ารักษาอำนาจไว้ ช่างเป็นเรื่องน่าขำและน่าตลกสิ้นดี พี่ใหญ่ของข้า มองเจ้าผิดไปแล้ว"

                "อำนาจ หรือ? หึ ข้าเกิดเพราะเป้าหมายบางอย่างของมีซิล ถูกมุนโนเลี้ยงดูก็เพื่อเป้าหมาย เป้าหมายนั้น ก็คืออำนาจของพวกท่าน"

                "เฮ อะ สมัยก่อนพี่ใหญ่ทอดทิ้งเจ้า ส่วนมุนโน ก็ไม่ได้เลี้ยงเจ้าด้วยความรัก ในขณะที่เรา ยังทำลายความรักของเจ้าด้วยการก่อกบฎอีก ฟังให้ดีนะพีดัม ยอนจงเอ๊ย ตอนนี้จะปฏิเสธการกระทำของเจ้า มันคงสายไปแล้ว จริงๆ แล้วคนที่ทำลายเจ้า โลกนี้ก็มีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้น ไม่มีใคร ทำอะไรเจ้าได้หรอกนะ ถ้าเจ้ามั่นคงพอ เจ้า จะตายก็เพราะปมด้อยของตัวเอง ช่าง เป็นเด็กที่น่าสงสารจริงๆ ฮือ ฮือๆๆ"

                "ทำไม ถึงวันนี้แล้ว เพิ่งมาพูดเรื่องแบบนี้กับข้า" พีดัมถาม

                "เคย พูดแล้ว พี่ใหญ่ก็เคยเตือนเจ้า ท่านซอวอนก็เคยพูด ข้าก็เคยพูด ทุกคนต่างเคยเตือนเจ้าด้วยความหวังดีทั้งนั้น แต่เจ้าไม่ได้ยินต่างหาก"

 

000000000000

 

                ยิมจงรายงานคิมยูซินว่า

                "เมือง เมียงวาถูกเรายึดคืนหมดแล้ว ตอนนี้กำลังหาคนที่เหลืออยู่ครับ"

                "ใช่ ครับ เหลือพีดัม ฮาจองและท่านมีเซ็ง ที่ยังหาไม่พบ คิดว่าอาจหนีไปก็ได้"

                คิม ยูซินว่า "เป็นไปไม่ได้ที่จะฝ่าวงล้อมของเรา ไปหาบนเขา "นานซาน" และ "โมวาซาน" ค้นให้ทั่วเมือง ยังไงก็ต้องหาพบแน่"

                "ครับ"

                คิม ยูซินเข้าเฝ้าราชินีองค์หญิงซอนต๊อกและทูลถามว่า

                "ฝ่า บาท"

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกตรัสถาม "ว่าไง เชิญท่านพูดมาได้"

                "ถ้า เราจับพีดัมได้ ฝ่าบาทจะทรงทำไงกับเขา"

                "ท่าน เป็นห่วงเรื่องนี้หรือ กลัวว่า ข้าจะอภัยให้เขาอีก"

                "ฝ่า บาท หม่อมฉันไม่เคยคิดอย่างงั้น"

                "ใน เมื่อ ข้าออกคำสั่งให้เขาเป็นนักโทษกบฎ ไม่ว่าใครพบเห็นก็สามารถฆ่าได้ทั้งนั้น แล้วท่านแม่ทัพใหญ่ ยังมาถามเรื่องนี้อีกทำไม"

                คิมยูซินถอนใจ "เฮ่ย"

                ฮาจองถามมีเซ็งว่าเสียใจหรือ

                มี เซ็งว่า "ทำไมต้องเสียใจ เกิดเป็นลูกผู้ชายกะเขาชาติหนึ่ง มีลูกมีหลานร้อยกว่าคน แถมยังเคยอยู่กับผู้หญิงมากมาย ได้ใช้ความสามารถในการทำงานเต็มที่ เคยมีอำนาจวาสนา สุดท้ายก็สูญเสียไป หึๆๆ ชีวิตช่างมีสีสันนัก ไม่เสียทีที่เกิดมา หึๆๆ"

                "จริงๆ แล้ว ข้ารู้สึกอิจฉาท่านมากกว่า"

                "เฮ่อ ๆๆ แต่เจ้าเป็นพ่อตาคิมยูซินไม่ใช่หรือ อย่างน้อยคงไม่ตายหรอกมั้ง"

                "เอ่อ จริงหรือท่าน"

                "เฮ่อ ๆๆ พวกเขามาโน่นแล้ว"

                ฮาจองตกใจ "หา เฮ้ย"

                ยิม จงร้องบอก "โจรกบฎ ยอมให้จับดีๆ อย่าขัดขืนอีก"

                ฮา จองโดนจับ "เอ่อ เรื่องอะไร ข้าไม่ยอมหรอก ท่านน้า ช่วยหน่อยซี่"

                องครักษ์ซางทาพาพีดัมมายังที่แห่งหนึ่ง

                "เอ่อ ถ้าตรงไป ก็คือศูนย์บัญชาการของฝ่าบาทแล้ว"

                พีดัมถาม "แล้วยังไง"

                "เปล่า คือหมายความว่า ถ้าเราเดินไปอีก ไม่แน่อาจถูกจับก็ได้"

                "ใช่ เจ้าพูดก็ถูก งั้นเจ้าก็ไปซะ"

                "หา ข้าไปหรือ จะให้ไปไหนอีก แล้ว ท่านเสนาบดีล่ะครับ จะทำไงต่อไป"

                "ต่อ ให้เจอทหารจริง ด้วยฝีมืออย่างเจ้าน่าจะหนีได้ รีบไปเถอะ ไปจากที่นี่ให้ไกล ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อไปอย่าถืออาวุธอีก ให้ใช้จอบ ใช้เสียมในการเพาะปลูกดีกว่า"

                "แล้ว ท่านล่ะครับ จะทำไงกับตัวเอง"

                "ข้า จะไปพูดเรื่องบางอย่าง ที่ตลอดเวลาไม่เคยพูดกับนาง ตอนนี้คงต้องพูดให้นางรู้"

                "เอ่อ แต่ว่า ถ้าไปแบบนี้ ให้ข้าไปกับท่าน จะดีกว่านะท่านเสนาบดี"

                "รีบ ไปเถอะ เร็วเข้า" พีดัมสั่ง

                ทัน ใดนั้นองครักษ์ซางทาถูกยิง เขาร้องบอกให้พีดัมหนี

                "โจร กบฎพีดัม ยอมให้จับดีๆ อย่าคิดขัดขืน"

                พี ดัมประกาศก้องว่า "คนที่ตัดหัวข้าได้ จะมีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์ มาเลย"

                ไอ ชองกลับมารายงานให้ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกกับคิมยูซินทราบ

                "ฝ่า บาท หึ เหมือนที่ฝ่าบาททรงคาดการณ์ พีดัมมาปรากฎตัว อยู่หน้าค่ายแล้วพะยะค่ะ"

                คิม ยูซินถาม "แล้วยังไง เขายอมให้จับตัวหรือเปล่า"

                "ไม่ ยอมให้จับกุม แถมยังต่อสู้กับทหารอย่างหนักด้วย"

                คิมยูซินออกไปพบพีดัมด้วยตัวเอง

                "พี ดัม ทุกอย่างมันจบไปแล้ว อย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์อีกเลย ไปกับข้าเถอะนะ"

                "หึ คิมยูซิน หึ นั่นคือฝ่าบาทใช่ไหม ข้างหน้าโน่น คือฝ่าบาทใช่หรือเปล่า"

                คิมยูซินเตือน "พีดัม พอแค่นี้เถอะนะ"

                พี ดัมหอบ เสียงมีซิลดังแว่วใสโสต "เจ้าใช้ความไร้เดียงสา ไปไขว่คว้าหาความรัก ช่างเป็นเรื่องน่าขำจริงๆ"

                คิมยูซินเรียก "พีดัม"

                พี ดัมหอบ "คิมยูซิน ตอนนี้มาคิดดูแล้ว หึ ดูเหมือนว่าเราสองคนจะไม่เคย หึ ประมือจริงจังซักครั้ง หึ วันนี้ มาสู้กับข้าหน่อย"

                พี ดัมกับคิมยูซินต่อสู้กัน ระหว่างนั้นพีดัมจะหนี คิมยูซินร้องบอกทหาร

                "ขวาง เขาไว้ อย่าให้เข้าไป ขวางเขาให้ได้ อย่าให้เดินหน้าไป"

                พี ดัมคิด "คิมยูซิน ยังไงเจ้าก็เป็นฝ่ายชนะอยู่แล้ว ยังจะขวางข้าทำไมอีก หึ ข้าเพียงแต่มีคำพูด จะพูดกับฝ่าบาทเท่านั้น หึ ย้าก ห่างจาก ต๊อกมาน อีกแค่ 70 ก้าว" พีดัมสู้ต่อ "ห่างจาก ต๊อกมาน สาม สามสิบก้าว ย้าก"

                พี ดัมสู้ต่อ "ห่างจาก ต๊อกมาน อีก สิบก้าว ต๊อกมาน ต๊อกมาน ต๊อกมาน"

 

0000000000000000

 

                ราชินีองค์หญิงซอนต๊อกประกาศว่า

                "ตอน นี้ ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ นับแต่นี้ชิลลาของเรา จะร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ถือคติที่ว่า สามัคคีคือพลัง เพื่อเป้าหมายในการรวมสามแคว้น เป็นอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของเรา ให้ขุนนางทุกระดับชั้น องครักษ์ทุกหน่วย ทหารทุกฝ่ายและรวมถึง อาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย นำคำพูดข้าในวันนี้ และจุดจบของกบฎ และ ความเป็นเอกภาพของชิลลา ไปประกาศให้รู้โดยทั่วกัน"

                ไอชองกล่าวนำ "พระนางซอนต๊อก จงเจริญ"

                คิมยูซินกล่าวต่อ "พระนางซอนต๊อก จงเจริญ"

                "ทรง พระเจริญๆๆๆ"

                แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อราชินีองค์หญิงซอนต๊อกทรงหมดสติไป

                เวลา ผ่านไปสามวัน องค์หญิงมานมยองเฝ้าราชินีองค์หญิงซอนต๊อก

                "ฝ่า บาทๆ หึ ฝ่าบาท ทรงเป็นไงบ้างเพคะ ทรงรู้สึกพระองค์แล้วหรือ"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสถาม "เฮ่อ ข้าหมดสติไปนานแค่ไหน"

                "ฝ่า บาททรงหมดสติไป สามวันสามคืนแล้วเพคะ ทรงประชวรหนักขนาดนี้ ทำไมไม่บอกให้คนอื่นรู้บ้างเพคะ"

                "หึ เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นเรื่องธรรมดา ถึงพูดไปก็เท่านั้น"

                "ฝ่า บาท ทำไมรับสั่งอย่างงั้นล่ะเพคะ"

                "ฝ่า บาทๆ ทรงฟื้นแล้วหรือพะยะค่ะ" ไอชองทูลถาม

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกตรัสว่า "ใช่ หัวหน้าองครักษ์ หลายวันนี้ลำบากท่านจริงๆ"

                "ฝ่า บาท โปรดอย่ารับสั่งอย่างงั้น หม่อมฉันเชื่อว่าต้องทรงหายดี"

                "แต่ ว่า ต่อไปยังต้องรบกวนท่านอีกมากนัก ข้าอยากให้ท่าน รับตำแหน่งเสนาบดีคนใหม่ นี่คือคำสั่งจากข้า จงรับไว้ เร็วเข้า"

                "ฝ่า บาท เป็นพระกรุณายิ่งแล้ว"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกถามคิมยูซินว่า "ท่านคิมยูซิน บอกข้ามาเร็ว"

                คิมยูซินอึ้ง "ฝ่าบาท"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกว่า "ข้ารู้ว่า ตอนนั้นพีดัมได้กระซิบเรื่องบางอย่าง อยู่ข้างหูท่าน เขาพูดอะไรกับท่านบ้าง"

                "เฮ่อ หม่อมฉัน ไม่สะดวกจะทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ ขอทรงอภัยด้วย นั่นเป็นคำพูดที่ไม่ให้ความเคารพ หม่อมฉันไม่กล้าทูลหรอกพะยะค่ะ"

                "บอก ข้ามาเถอะ ท่านคิมยูซิน"

                "ทูล ไม่ได้จริงๆ เป็นคำพูดที่ไม่อาจทูลได้"

                "นี่ คือคำสั่งข้า รีบพูดมาเดี๋ยวนี้"

                "เฮ่อ ตอนนั้นพีดัม พูดบอกว่า ต๊อกมาน เขาพูดแบบนี้พะยะค่ะ"

                "ทุก วันนี้ไม่มีใคร กล้าเรียกชื่อข้าตรงๆ อีก"

                "แต่ ว่า ถ้าชอบ หม่อมฉันก็จะเรียก"

                "ถ้า เจ้าเรียกชื่อข้าจริง ก็จะเป็นกบฎ ต่อให้เรียกด้วยความรัก คนก็จะคิดว่า นั่นคือการคิดไม่ซื่อต่อข้า ฮือ หึ เราออกไปข้างนอกกัน"

                "พะ ยะค่ะ"

                "ข้าอยากไปเห็น ฟ้าและดิน รวมถึงแผ่นดินของเราด้วย ดูช่างแห้งแล้งนัก"

                "เข้า สู่ฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้จะเบ่งบาน ทำให้ป่าดูเขียวชอุ่มอีกครั้ง"

                "ใบไม้ ผลิ ผลิบาน ท่านคิมยูซิน"

                "พะ ยะค่ะ"

                "มีหลายคนที่เคยอยู่กับข้า ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มีบางคนอยาเพื่อปกป้องข้า บางคนอยู่เพื่อ หวังจะแก่งแย่งกับข้า บางคนยิ่งพิเศษกว่านั้น คือบอกว่ารักข้า แม้จะมีหลายคนที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่สุดท้าย คนที่อยู่เคียงข้างข้าตลอดเวลา ก็คือท่านคนเดียว"

                "ฝ่า บาท"

                "เส้นทางยาวไกลนี้ เราช่วยกันฟันฝ่าอย่างยากเย็น เพราะมีท่าน ข้าถึงวันนี้"

                "มิได้พะยะค่ะ ฝ่าบาท"

                "เพราะ มีท่าน ข้าจึงได้วางใจเสมอ ที่จะมอบแผ่นดินและงานใหญ่ ให้ท่านมีส่วนรับผิดชอบ หรือแม้แต่จะสานต่อจากข้า"

                "ฝ่า บาท"

                "เป้าหมายที่จะรวมสามแคว้น หากไม่ได้เห็นผลในยุคของเรา อนาคตแผ่นดินนี้จะเป็นของชิลลา หรือมีแคว้นอื่นมาครอบครอง เราก็ไม่อาจรู้ได้"

                "หม่อม ฉันเข้าใจพะยะค่ะ"

                "ท่าน ยูซิน"

                "พะยะค่ะฝ่าบาท"

                "จำ ได้มั้ย ข้าเคยเล่าความฝันให้ฟัง เกี่ยวกับที่มาชิลลาครั้งแรกและเจอเรื่องบางอย่าง ตอนนี้ ข้ารู้แล้วว่าในฝันนั้น ผู้หญิงที่มากอด ข้ารู้แล้วว่านางเป็นใคร"

                "ทรง รู้ว่าเป็นใครหรือ รีบบอกหม่อมฉันเร็วเข้า"

                สุสาน ของพระนางซอนต๊อก คิมยูซินได้พบกับไอชองที่นี่ คิมยูซินถามว่า

                ท่าน ไอชอง ได้ยินว่าท่านเกษียณแล้ว ยังมาที่นี่อีกหรือ"

                ไอ ชองว่า "ท่านยูซิน ข้าได้ข่าวมาว่า ศึกที่ "ฮวางซาน" หนักหน่วงมากหรือ"

                "มี ศึกไหนบ้างที่ไม่หนักหน่วง หึ แล้วท่านล่ะ ยังไม่ลืมหน้าที่องครักษ์อีกหรือ"

                "หึๆๆ ฝ่าบาท ท่านคิมยูซิน สามารถปราบแคว้นแพ่กเจได้แล้ว ลำดับต่อไป ก็คือโกคูรยอ"

                "ฝ่าบาท"

                ราชินี องค์หญิงซอนต๊อกกล่าวกับเขาประโยคสุดท้ายว่า

                "ตอน นี้ข้ารู้แล้วว่า ในฝันนั้น ผู้หญิงที่มากอดข้า ข้ารู้แล้วว่า นางเป็นใคร"

                คิม ยูซินย้อนถาม "หม่อมฉันฟังอยู่ เชิญรับสั่งมาได้ นางเป็นใครหรือพะยะค่ะ คือแม่นมโซวาใช่หรือเปล่า หรือว่า คือพระมเหสีที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว"

                "ท่าน คิมยูซิน"

                "พะยะค่ะฝ่าบาท"

                "สมัย ก่อนโน้น เราเคยคิดหนีไปด้วยกัน ท่านยังจำได้หรือเปล่า เดี๋ยวนี้ยังคิดไปอีกมั้ย"

                "เฮ่อ เรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ ทำไมฝ่าบาท ยังทรงคิดอย่างงั้นอีก ฝ่าบาท ฮือ"

                "น่า แปลก ท่านเป็นใครแน่ ทำไมต้องร้องไห้ล่ะ หลายสิ่งหลายอย่าง เหมือนอยู่ตรงหน้าเราแท้ๆ แต่จริงๆ แล้ว เจ้าจะไม่ได้ครอบครองซักอย่างอะไรกันนี่ แปลกคนพิลึกล่ะ ฮึ ถึงอย่างงั้น เจ้าก็ต้องเข้มแข็ง รู้หรือเปล่า เข้มแข็ง อดทนเข้าไว้"

 

จบบริบูรณ์





เครดิต : oknation.net/blog/lakorn
   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 61 - 62
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์