แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
โปรแกรมคลินิก , โปรแกรมคลินิค , โปรแกรมบริหารงานคลินิก , โปรแกรมโรงพยาบาล , สถานเสริมความงาม ,CLINIC
ดูขนาดรูปภาพจริง
บริษัท เอส ไรคส์ จำหน่ายเครื่องจ่ายสารละลายคลอรีนสารส้มปูนขาวจ่ายน้ำยาล้างตะกรัน
ดูขนาดรูปภาพจริง
เตียงนอนไม้ 6 ฟุต
ดูขนาดรูปภาพจริง
Skin Biology Super CP Serum Set (2 Items) เซ็ต
ดูขนาดรูปภาพจริง
City Garden Tower (ซิตี้ การ์เด้น ทาวเวอร์)
ดูขนาดรูปภาพจริง
รับติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่ พื้นโรงงาน
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Beautelush Essential Facial Set (Day + Night)
ดูขนาดรูปภาพจริง
เทคโนโลยีลดเวลาการขนถ่ายสารเคมีข้นหนืดในกระบวนการสูบส่ง
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Hair Set 1 Set มี 2 ชิ้น (เรียวแฮร์ : ดูแลปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Clip Lens Super Wild "Selfie Cam Lens" สีแดง ชมพู ฟ้า ดำ c009
ดูขนาดรูปภาพจริง
Popular Set 1 เซ็ตรักษาสิวพร้อมการดูแลผิว
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขายสินค้าในแบลนด์ตัวเอง OEM หมูแผ่นยิ้มยิ้ม นครปฐม
ดูขนาดรูปภาพจริง
บาตรไม้ บาตรน้ำมนต์ ทำจากไม้แท้ แบบปิดทองและประดับกระจก มี 3 ขนาด
ดูขนาดรูปภาพจริง
Music D.J. (M16E) +USB แถม Microphone - C0521
ดูขนาดรูปภาพจริง
เครื่องอบผ้า Siemens รุ่น WT47W540BY
ดูขนาดรูปภาพจริง
สกรีนฟอยด์
ดูขนาดรูปภาพจริง
City Garden Pattaya (ซิตี้ การ์เด้น พัทยา) คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน
ดูขนาดรูปภาพจริง
ครีมt&tครีมสมุนไพรสกัดหัวไชเท้า
ดูขนาดรูปภาพจริง
เตียงฉุกเฉิน ติดรถพยาบาล,วัคซีนและยาคุมกำเนิดหมาและแมว,ถังขยะ,ถังดับเพลิง
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lucas Papaw 25g
ดูขนาดรูปภาพจริง
CI&SI-1531 เสื้อแขนสั้น มิกกี้ Chanel สีดำ/สีแดง
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair 4 กล่อง (เรียวแฮร์ เซรั่มปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย ปีศาจฮอร์น มินิ สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน City Garden Tropicana (ซิตี้ การ์เด้น ทรอปิคานา)
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน [ ตอนที่ 35 - 36 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 903 ครั้ง            update : 6/7/2010

   
   
 

ซอนต๊อก 35  
 ชิซูโกรธมากเมื่อพบว่าพีดัมจงใจพ่ายแพ้ให้คิมยูซิน เมื่อเป็นเช่นนี้ชิซูจึงขอให้มุนโนชี้ขาด แต่มุนโนกลับเห็นว่าสุดวิสัย
 "ข้า มุนโน ก็เป็นองครักษ์ที่ฝึกกระบี่มาชั่วชีวิต แต่การประลองคราวนี้ ยอมรับว่ายากจะชี้ขาด การประลองขององครักษ์ ถือเป็นงานที่มีเกียรติ ผลที่ออกมา ไม่ควรมีข้อกังขาใดๆ และตำแหน่งผู้นำองครักษ์ ก็ควรได้อย่างสมศํกดิ์ศรี เพราะ ฉะนั้นข้า จึงไม่ขอรับรองผลในรอบนี้ ท่านมีซิลในฐานะ "วอนฮา" องค์หญิงองค์หญิงต๊อกมานในฐานะนายแห่งองครักษ์ องครักษ์โฮแจ วอนซังฮา ชิซู รวมทั้งข้ามุนโนอีกคน ทั้งหมด 5 คนนี้ จะนำปัญหาที่เกิด ไปเข้าสู่ที่ประชุม"
 ที่ห้องประชุมองครักษ์ โฮแจกล่าวว่า "เนื่องจากท่านชิซูและท่านมุนโนไม่รับรองผลการประลองที่ออกมา แล้วตอนนี้เราจะทำไงดี"
 มุนโนว่า "ก่อนอื่นข้าต้องขอบอกว่ารู้สึกละอายใจ จนไม่อาจสู้หน้าทุกท่านได้อีก"
 "การ ประลองอันมีเกียรติ ทำไมถึงกลายเป็นความอัปยศได้ขนาดนี้" ชิซูไม่พอใจมาก
 มี ซิลว่า "ที่จริงข้าก็เข้าใจความรู้สึกของลูกศิษย์ท่านมุนโนดีนะ การประลองคราวนี้ เพื่อจะเลือกผู้นำองครักษ์ใหม่ ถ้าตอนนี้พีดัมเป็นฝ่ายชนะจริง งั้นพีดัม คิมยูซิน และโพจองก็เท่ากับต่างชนะคนละหนึ่งรอบ สุดท้ายคงต้องให้ทุกคนออกเสียงเป็นการชี้ขาด ซึ่งเขากับยูซินมีโอกาสจะไม่ถูกเลือกค่อนข้างสูง แต่เขาก็เป็นเพื่อนสนิทกับยูซิน ถ้าให้เพื่อนเป็นผู้บัญชาการองครักษ์ก็เหมือนเขาเป็นเองแล้วจะไม่ช่วยได้ หรือ ความคิดของเด็กที่อ่อนต่อโลก อย่าไปถือสาเขาเลย แต่ว่า ปัญหาอยู่ที่เขาไม่ให้ความสำคัญต่อท่านวอนซังฮา และท่านมุนโนมากกว่า"
 โฮ แจเสนอ "ให้ยูซินกับพีดัมถูกตัดสิทธิ์ทั้งคู่ และให้คู่ของไอชองกับโพจองมาประลองแทนน่าจะดีกว่าหรือเปล่าครับ"
 องค์ หญิงต๊อกมานกล่าวว่า "แม้ว่าพีดัมจะเข้าข่ายทุจริต แต่ท่านยูซิน ใช้ความสามารถจนผ่านเข้ารอบ ไม่มีอะไรให้เคลือบแคลงซักนิด ไม่งั้นระหว่างที่เขาต่อสู้ พวกท่านเห็นพิรุธอะไรหรือเปล่า"
 ชิซูว่า "ข้าดูออกว่า คิมยูซินสู้ด้วยความสามารถเต็มที่"
 มีซิลมององค์หญิงต๊อก มานและว่า "หม่อมฉันว่าองค์หญิง หวังจะให้คิมยูซินได้เป็นผู้นำองครักษ์ จนไม่นึกถึงความผิดถูกหรือเปล่า"
 องค์หญิงต๊อกมานดุ "ท่านพูดจาระวังปากหน่อยนะ"
 "เคยได้ยินภาษิตว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง หรือเปล่า องค์หญิงทรงให้พีดัมถูกคัดออกคนเดียว แล้วจะให้คิมยูซินชนะงั้นหรือ"
 "แน่นอนว่าไม่ควรตัดสินให้คิมยูซินชนะ ง่ายๆ" มุนโนว่า
 องค์หญิงต๊อกมานว่า "ข้าก็ไม่ได้คิดอย่างงั้นเหมือนกัน เพียงแต่เห็นว่าเมื่อเขาตั้งใจแข่งขันสำหรับงานนี้เต็มที่ จึงไม่ควรได้รับผลที่ไม่เป็นธรรม"
 "ถ้าอย่างงั้นจะทรงทำไงดีล่ะ" มีซิลถามอย่างท้าทาย
 "ถ้าไง ลองใช้วิธีนี้จะดีหรือเปล่า"
 มุนโนออก มาประกาศว่า "จากการหารือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ขอประกาศว่า การประลองระหว่างพีดัมและคิมยูซิน ถือเป็นโมฆะ"
 ทุกคนพากันอึ้งไป พีดัมว่า "ข้าไม่เห็นด้วย ถ้าคิดว่าข้าทุจริตในการประลอง ก็เชิญลงโทษข้าคนเดียว ท่านยูซิน ทุ่มเทแรงกายสู้กับข้าเต็มที่แล้ว"
 "พี ดัมจงเงียบเดี๋ยวนี้ นี่เป็นความเห็นชอบของผู้ใหญ่ ที่สำคัญ ยังมีข้อตกลงบางอย่างออกมาดังนี้ ให้พีดัม ถูกตัดสิทธิ์จากการประลองยุทธ หลังจากนี้ ค่อยพิจารณาโทษใหม่ ข้าขอสั่งให้ไปเก็บตัวสำนึกผิด ห้ามมาวุ่นวายในงานนี้อีก อีกอย่าง คิมยูซิน จะให้ประลองฝีมืออีกครั้ง"
 ชิ ซูตัดสินใจทดสอบคิมยูซินด้วยตนเอง ทำให้คิมยูซินต้องเผชิญกับการจู่โจมสิบครั้งของชิซู แค่ครั้งแรกคิมยูซินก็แทบจะไม่ไหวแล้ว องค์หญิงต๊อกมานและพวกจุปังพากันเป็นห่วงและสงสารคิมยูซินยิ่งนัก
 องค์ หญิงต๊อกมานเข้าไปขอร้องให้คิมยูซินนอนลงและเลิกประลองดีกว่า แต่คิมยูซินยังฮึดสู้ พลอยให้ทุกคนส่งเสียงเชียร์คิมยูซินให้สู้จนจบการประลอง โฮแจประกาศว่า
 "การ ต่อสู้อันเข้มข้น ระหว่างท่านวอนซังฮา ชิซูกับคิมยูซิน ผลสุดท้าย คิมยูซินไม่อาจต้านการจู่โจมให้ครบสิบครั้ง ฉะนั้นการประลองคราวนี้"
 ชิ ซูกล่าวแทรกขึ้น "ผู้พ่ายแพ้คือข้า เมื่อกี้ท่าสุดท้ายของเขา โดนตรงนี้ของข้า ถ้าเขาใช้กระบี่จริง ป่านนี้คงทะลุถึงข้างในแล้ว ฉะนั้นข้าจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ คิมยูซิน เป็นผู้ชนะ"
 ทุกคนต่างดีใจกับคิม ยูซิน "หา จริงหรือ ไชโย เย้ ท่านยูซินชนะแล้ว เย้ วู้"
 "ท่านยูซินๆ"
 ขณะ ที่ฮาจองก็เข้ามาถามชิซูว่า "เรื่องอะไรอยู่ดีๆ บอกว่าท่านเป็นฝ่ายแพ้ล่ะ"
 "ถ้า แพ้แล้วไม่กล้ายอมรับ จะคู่ควรเป็นองครักษ์ได้ไง"
 มีเซ็งถอนใจ "เฮ่ย เสียดายข้าไม่ได้ไปดูเอง"
 เซจองถาม "นี่แปลว่า คิมยูซินได้เป็นผู้บัญชาการองครักษ์จริงหรือนี่ แบบนี้ก็แย่น่ะสิ"
 "นั่น สิครับท่านพ่อ แต่ละคนยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ข้าล่ะกลุ้มใจนักเชียว เฮ่ย"
 "หึ เจ้าห่วงตัวเองไว้ก่อนจะดีกว่ามั้ง เฮ่ย"
 องค์หญิงต๊อกมานคอยไปเฝ้าดู แลคิมยูซิน ขณะที่จุปังก็แอบมาคุยกับคิมชุนชูเพราะเขาให้เงินเป็นค่าตอบแทนในการเล่าราย ละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับพวกองครักษ์ให้ฟัง รวมถึงเรื่องคิมยูซินเป็นคนขององค์หญิงต๊อกมาน และโพจองเป็นลูกของมีซิล จุปังบอกว่าถ้าได้เงินเพิ่มจะเล่าเรื่ององค์หญิงต๊อกมานให้ฟังต่อ
 ซอวอน เดินเข้าไปหามีซิลที่นั่งนิ่งอยู่นานถามว่าคิดอะไรอยู่
 "คิมยูซิน ข้ากำลังคิดเรื่องของเขาอยู่"
 "ใช่ ข้าก็อดคิดเรื่องของเขาไม่ได้ ความอดทนและมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเขา ทำให้ข้านึกถึงตัวเองในสมัยพระเจ้าจินฮึง มุนโน ท่านเซจู และข้า ยังมีซาตาฮัมอีกคน ตอนนั้นทุกคนยังหนุ่มยังสาวอยู่"
 "ใช่ ข้าก็มีความรู้สึกอย่างงั้น แต่ว่า ปัญหาสำคัญคือตอนนี้ สิ่งที่เราสองคนเคยประสบมา ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้ซึ้งหมด โดยเฉพาะ ยิ่งผ่านการประลองคราวนี้จะทำให้คิมยูซินยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้น"
 มุ นโนชวนพีดัมเก็บข้าวของไปจากที่นี่
 "ท่านคิดจะตัดขาดกับข้าอยู่แล้ว แต่วันก่อนจำใจยอมรับ เพราะข้าจะเข้าประลองให้ได้ ท่านเลยต้องบอกว่าข้าเป็นลูกศิษย์"
 มุนโนส่ายหน้า "ไม่เอาไหนจริงๆ"
 "ข้า ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด องค์หญิงองค์หญิงต๊อกมานและท่านยูซิน รวมทั้งอาจารย์จะทำงานใหญ่ คืออะไรแน่ และเทียบกับงานใหญ่นั้น แค่ประลองยุทธจะมีความ หมายอะไร ถ้าประลองไปตามขั้นตอน คิดว่าท่านยูซินจะชนะข้าได้หรือ ถ้าเขาแพ้ แล้วผลจะออกมายังไง ท่านยูซินชนะ ท่านโพจองชนะ ยังมีข้า ที่ชนะอย่างไร้ความหมาย สุดท้ายโพจองก็จะได้ตำแหน่งนี้ไป"
 "แล้วยังไง"
 พีดัมพร่ำต่อ "คำว่างานใหญ่ เป้าหมายก็คือทำเพื่อราษฎร เมื่อมีเป้าหมายแล้ว จะอ้อมค้อมทำไมให้เสียเวลาอีก เพื่อเห็นแก่หลักการและศักดิ์ศรีอันน้อยนิด แล้วจะมองข้ามความสำคัญของราษฎรได้หรือ"
 "หึ เห็นที เจ้ายังต้องเรียนรู้อีกมากนัก และข้าก็ต้องสอนเจ้าเยอะด้วย จุ๊ๆๆ"
 "ข้า จะไม่ฟังคำสั่งท่านอีกแล้ว จะตัดขาดก็เชิญ เพราะข้ารู้ว่าทำให้ท่านอับอาย ในฐานะเป็นศิษย์ท่าน กลับทุจริตต่อการประลองยุทธขององครักษ์"
 "เมื่อกี้ ข้าบอกแล้วว่า ยังต้องสอนเจ้าอีกหลายอย่าง จึงไม่คิดตัดขาดกับเจ้าตอนนี้ ตามข้ามา เจ้าบอกว่าเพื่องานใหญ่ จะเดินทางลัดยังไงก็ได้ใช่ไหม เจ้ามันไม่มีหัวคิด คำว่างานใหญ่ก็คือต้องฟันฝ่าอุปสรรรคร้อยแปด ที่สำคัญ ต่อให้เจ้าตั้งใจสู้จริง จะชนะคิมยูซินได้หรือเปล่า ข้าก็ยังไม่รู้แน่"
 เวลา ต่อมามีซิลก็พบกับพีดัม นางกล่าวกับพีดัมว่า
 "เดิมทีนึกว่า เจ้าเป็นคนฉลาดซ้ำยังวางแผนเก่ง แต่การหลงตัวเองที่นึกว่าไม่มีใครสู้ได้คือจุดอ่อนข้อหนึ่ง มองข้ามประสบการณ์และความชำนาญของผู้ใหญ่อย่างชิซูและมุนโนคือจุดอ่อนข้อที่ สอง"
 "ท่านคิดว่าความผิดพลาดที่เกิดเพราะความหยิ่งยะโสของข้าหรือ"
 "ที่ สำคัญกว่านั้น ยังมีข้อที่สาม ข้าเห็นบางอย่างในแววตาเจ้า ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและเห็นแก่ตัว เหมือนชายหนุ่มที่มองเห็นหญิงที่ตัวเองหมายปอง อยากบอกนางว่า ตัวเองพร้อมจะทำเพื่อนางได้ทุกอย่าง แม้แลกด้วยชีวิตก็ตาม หึๆๆ หรือไม่ก็ เหมือนเด็กขาดความอบอุ่นที่หวังเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ ยังไงอย่างงั้น"
 พี ดัมฟังนิ่งๆ ก่อนจะแยกออกไปเยี่ยมคิมยูซิน พบไอชองก็ถูกต่อว่า ดีที่องค์หญิงต๊อกมานห้ามไว้และขอร้องให้ไอชองออกไปก่อนเพราะต้องการคุยกับ พีดัมลำพัง
 "หึ แหะ องค์หญิง หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ"
 "อย่า หัวเราะ เจ้าเคยบอกว่าจะเห็นข้าเป็นนาย แต่แล้ว กลับขัดคำสั่งข้า ถ้าวันหลังมีเรื่องแบบนี้อีก ข้าจะไม่ขอเห็นหน้าเจ้า"
 "หม่อมฉันยอมรับ ว่าไม่ทันคิด แต่จะไม่ให้เกิดซ้ำอีก ขอทรงอภัยด้วย"
 "ข้าไม่เหมือนแต่ ก่อนอีก จึงอยากให้เจ้า รักษาคำพูดให้ดี ข้าบอกแล้วว่าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า"
 "พะ ยะค่ะ หม่อมฉันรับรองจะไม่ให้เกิดอีก"
 องค์หญิงต๊อกมานถามด้วยความเป็น ห่วงว่า "อาการบาดเจ็บเป็นไงบ้าง"
 "หึ แค่นี้ไม่ระคายผิว เฮ่อๆ แต่พูดก็พูด ท่านยูซินก็ช่างอึดนัก ทำเอาใครต่อใครนับถือความใจเด็ดของเขามาก ตกลงเขาได้เป็นผู้นำองครักษ์แล้วใช่ไหม"
 "ทุกคนที่ได้เห็นการประลอง คงไม่มีใคร ไม่ยอมรับความใจเด็ดของเขา"
 "จริงหรือพะยะค่ะ หม่อมฉันยังห่วงว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์เพราะหม่อมฉันซะอีก น่าเสียดายไม่ได้เห็นการต่อสู้ของเขา"
00000000000000

 แทนัม โพกลับไปบอกเรื่องคิมชุนชูหายตัวไปกับมีเซ็ง และโดนต่อว่ากลับมา เขาจึงรีบออกมาตามหาก็พบกับไอชอง
 "แทนัมโพ คิดว่าเราสองคน มีเรื่องต้องสะสางอีก การสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงชอนมยอง หึ เป็นอุบัติเหตุใช่ไหม แต่ว่า ต่อให้คนทั้งโลกเชื่ออย่างงั้น เจ้ากับข้า ก็น่าจะรู้แก่ใจดี แล้วทำไมจนวันนี้เจ้ายังอยู่อีก ตามหลักน่าจะฆ่าตัวตายไปแล้ว"
 "แล้วจะเอาไงกับข้า"
 "เมื่อวานข้า เพิ่งผ่านการต่อสู้อย่างหนักมา ร่างกายยังไม่ค่อยดีนัก ถ้าถือโอกาสมาฆ่าข้าซะ จะเป็นผลดีต่อเจ้าหรือเปล่า"
 "เราเป็นองครักษ์ จะให้มาฆ่ากันข้างนอกนี่หรือ"
 "แต่องค์หญิงชอนมยอง เป็นเชื้อพระวงศ์ กลับสิ้นพระชนม์อยู่ในป่าเขา"
 คิมชุนชูเข้ามา "อยากพบข้าใช่ไหม ไปกันได้แล้ว"
 แทนัมโพทั้งอึ้งและดีใจ "หา ท่านไปไหนมาน่ะครับ ข้าตามหาตั้งนานแน่ะ"
 "ท่านเป็นใครไม่ทราบ ข้ามีเรื่องต้องสะสางกับเขาอีก"
 "ที่พวกท่านจะสะสางนั้น ก็คือ เรื่องที่เคยบอกให้ข้ารู้ใช่ไหม ถ้าเป็นเรื่องนี้จริง ข้าอโหสิให้เขานานแล้ว"
 ไอชองงงหนัก "ไม่ทราบว่าท่านคือ"
 แทนัมโพ แนะนำ "ยังไม่รีบคำนับอีก เขาคือโอรสขององค์หญิงชอนมยอง คุณชายชุนชู"
 และ เวลาต่อมาคิมชุนชูก็ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าจินพยองและพระมเหสีมายา
 "หึ ฝ่าบาทกับพระมเหสี คงเสียพระทัยเรื่องของเสด็จแม่มาก"
 "ชุนชูๆ"
 พระ มเหสีมายาทรงกลั้นน้ำตาไม่อยู่ "เจ้าโตขนาดนี้แล้วหรือ ฮือ ฮือๆๆ"
 องค์ หญิงต๊อกมานรีบมาดู แต่นางสนมบอกว่าคิมชุนชูไปที่ตำหนักแล้ว เธอรีบตามไป
 "เจ้า ก็คือชุนชูหรือ หึ ข้า หึ ข้าก็คือ น้าของเจ้า เป็นน้องแท้ๆ ขององค์หญิงชอนมยอง แม่ของเจ้า"
 "ข้าคือชุนชู"
 องค์หญิงต๊อกมานมอง และคิดถึงองค์หญิงชอนมยอง "พี่หญิง ฮือ ฮือ เจ้าคือ ชุนชูจริงหรือ ฮือ ลูกของพี่หญิงชอนมยอง ก็คือเจ้า ฮือ ฮือ"
 "ทำไมต้องมาอยู่ห้องนี้ ในตำหนักยังมีห้องว่างอีกมาก"
 "เอ่อ หึ เฮ่อ ใช่ นี่เป็นห้องนอนของแม่เจ้า ถ้าเจ้าไม่ชอบ ข้าย้ายไปห้องอื่นก็ได้ หึ ได้ยินว่าเจ้าไม่ค่อยแข็งแรง ตอนนี้สุขภาพเป็นไงบ้าง เดินทางมาตั้งไกล รู้สึกเหนื่อยหรือเปล่า สิ่งที่แม่เจ้าไม่ได้ทำให้เจ้า ข้าจะทำแทนให้หมด ข้าจะเป็นตัวแทนพี่หญิง"
 คิมชุนชูว่า "หลายวันนี้เมืองหลวงหิมะตกหนัก ไม่รู้ว่าลูกจะเป็นไงบ้าง วังหลวงอันใหญ่โต ผู้คนมากมาย แต่ไม่มีใครที่แม่อยากพบ จิตใจของแม่รู้สึกหนาวเหน็บกว่าอากาศ วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้า ถ้าหาก แม่ได้เห็นเจ้าเติบโต ฉลองวันเกิดให้คงจะดีไม่น้อย เสื้อผ้าที่ฝากคณะทูตไปให้ ไม่รู้ว่าใส่ได้หรือเปล่า แม้ฝีมือจะหยาบ แต่เห็นแก่ความตั้งใจของแม่ เจ้าจงใส่หน่อยเถอะนะ แล้วไปทำในสิ่งที่เจ้าหวัง ไม่ต้องห่วงทางนี้ เผื่อปีหน้า แม่จะให้เจ้ากลับมา แม่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน ชุนชู ปีหน้า ปีหน้า และปีหน้า ใหม่ๆ ข้าเคยคิดว่ายิ่งนานวัน จะไม่ได้เห็นแม่หรือเปล่า จากนั้นก็กลายเป็นความโกรธ คิดว่าวันไหนถ้าได้พบ ข้าคงจะโกรธนางมาก"
 องค์ หญิงต๊อกมานอึ้งกับความหมายของหลานชาย "ชุนชู"
 "แต่แล้ว ตอนนี้คนที่จะโกรธก็ไม่อยู่ นึกดูก็น่าสบายใจเหมือนกัน"
 องค์หญิงต๊อก มานพยายามอธิบาย "คือ ชุนชู เจ้าฟังข้าพูดนะ"
 "ได้ยินว่าทุกวันนี้ ท่านอธิษฐานขอพรให้แม่ข้าทุกวันจริงหรือเปล่า ที่สำคัญ เมื่อกี้ยังบอกว่า จะดูแลข้าอย่างดีแทนแม่ด้วยใช่ไหม"
 "เอ่อ ถึงข้าจะไม่เอาไหน แต่จะเป็นตัวแทนแม่เจ้า ช่วยดูแล"
 "ตอนนี้ ข้ามีเรื่องบางอย่างจะพูดกับท่าน อย่าคิดอาศัยบารมีแม่ข้า ที่สำคัญ คนที่จะมาแทนองค์หญิงชอนมยอง แม่ของข้า ไม่ใช่องค์หญิงต๊อกมานอย่างท่าน แต่เป็นข้า คิมชุนชูต่างหาก เฮ่อ ที่สำคัญ องค์หญิงต๊อกมาน ไม่สามารถแทนที่องค์หญิงชอนมยอง ในการเป็นแม่คนได้ เฮ่อ ได้ยินว่าเมื่อก่อนองค์หญิงต๊อกมาน ก็เหมือนอย่างข้า เดินทางมาจากที่ๆ แสนไกล ท่านมาด้วยจุดประสงค์อะไรไม่ทราบ รวมทั้ง ที่ข้ากลับมาชิลลา เพื่อต้องการอะไร"
 มีเซ็งมาเล่าให้มีซิลฟังว่า คิมชุนชูกลับมาไม่ว่าจะทำอะไรจะไปที่ไหนก็มักเรียกหาแต่แทนัมโพ จนเขาเองก็งงว่า ไม่รู้ว่าแทนัมโพไปทำอะไรให้คิมชุนชูถูกใจนักหนา จนตอนนี้แทบไม่เอาใคร มีซิลฟังแล้วก็แปลกใจไม่น้อย
 ถึงพิธีแต่งตั้งคิม ยูซินเป็นผู้นำองครักษ์คนใหม่ พวกองครักษ์กล่าวพร้อมกันเมื่อคิมยูซินเข้ามา
 "คารวะ ผู้นำคนใหม่"
 ไอชองกล่าว "เชิญท่านไปที่ห้องประชุม เราจะมีพิธีแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ"
 "องครักษ์ยูซิน คำนับองค์หญิงและทุกๆ ท่าน"
 "บัดนี้ ถึงเวลาแห่งการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการองครักษ์คนที่ 15 ของเรา"
 มุนโนกล่าวต่อ "การประลองเพื่อคัดเลือกผู้บัญชาการองครักษ์คนใหม่ในปีนี้ ได้ผ่านการทดสอบถึงสามอย่าง กว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ"
 "ใช่ และองครักษ์ยูซิน หลังจากผ่านการทดสอบตามขั้นตอนถึงสามรอบ ได้รับชัยชนะถึงสองครั้ง" ชิซูกล่าว
 ยองชุนกล่าวต่อ "ด้วยเหตุนี้จึงถือว่า เหมาะแก่ตำแหน่งผู้นำองครักษ์คนใหม่"
 ซอวอนกล่าว "ใช่ แน่นอนอยู่แล้ว คิมยูซินต่อสู้ด้วยความมุ่งมั่นเต็มกำลัง เท่ากับว่า ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่หน่วยองครักษ์ แต่ก่อนจะรับตำแหน่ง ข้าอยากถามเรื่องหนึ่งให้หายข้องใจ ชาวคาย่าซึ่งเคยอาศัยอยู่ทางทิศใต้ของชิลลา ได้ถูกเนรเทศไปเมืองซังยางจู จำนวนประชากรซึ่งไปอยู่เมืองซังยางจูนั้น ตอนนี้เหลืออยู่เท่าไหร่ไม่ทราบ"
 องค์ หญิงต๊อกมานไม่พอใจ "ท่านซอวอน พูดแบบนี้หมายความว่าไงกันแน่"
 "พะยะค่ะ องค์หญิง การจะเป็นหัวหน้าองครักษ์จำเป็นต้องตอบขอสงสัยให้ชัดเจนก่อนดำรงตำแหน่ง เพราะมีรายงานมาว่า ผู้อพยพชาวคาย่าส่วนใหญ่ ได้ไปอยู่ในที่ดินซึ่งสกุลคิมได้ครอบครอง ท่านยูซิน ตอนแรกที่ชาวคาย่าถูกเนรเทศออกจากแคว้นเรา ไม่แค่เป็นบัญชาสวรรค์อย่างเดียว แต่ยังสงสัยว่าพวกเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มโพยาด้วย"
 พวกขุนนาง ซุบซิบกัน "จริงหรือนี่ เกี่ยวข้องกับกลุ่มโพยา แล้วทำไงดี"
 ซอ วอนกล่าวต่อ "แล้วทำไมจู่ๆ ไปอยู่ในเขตปกครองของสกุลคิมได้ ที่สำคัญ ตรงกับช่วงเวลาที่กลุ่มโพยามีความเคลื่อนไหว แบบนี้จะหมายความว่าไง ท่านในฐานะเป็นทายาทผู้ครองชนเผ่าคาย่า เกี่ยวกับเรื่องที่เกิด พอจะให้คำตอบแก่ข้าได้ไหม"
จบ 35

ซอนต๊อก 36 

 ซอวอนกล่าว ในที่ประชุมว่า "การจะเป็นหัวหน้าองครักษ์จำเป็นต้องตอบขอสงสัยให้ชัดเจนก่อนดำรงตำแหน่ง เพราะมีรายงานมาว่า ผู้อพยพชาวคาย่าส่วนใหญ่ ได้ไปอยู่ในที่ดินซึ่งสกุลคิมได้ครอบครอง ท่านยูซิน ตอนแรกที่ชาวคาย่าถูกเนรเทศออกจากแคว้นเรา ไม่แค่เป็นบัญชาสวรรค์อย่างเดียว แต่ยังสงสัยว่าพวกเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มโพยาด้วย"
 พวกขุนนางพา กันตาตื่น "จริงหรือนี่ เกี่ยวข้องกับกลุ่มโพยา"
 ซอวอนว่าต่อ "แล้วทำไมจู่ๆ ไปอยู่ในเขตปกครองของสกุลคิมได้ ที่สำคัญ ตรงกับช่วงเวลาที่กลุ่มโพยามีความเคลื่อนไหว แบบนี้จะหมายความว่าไง ในฐานะเป็นทายาทผู้ครองชนเผ่าคาย่า เกี่ยวกับเรื่องที่เกิด พอจะให้คำตอบแก่ข้าได้ไหม"
 คิมยูซินตอบว่า "พวกเขาเป็นแค่ ชาวนาที่มาช่วยปรับที่ดินในการเพาะปลูก การจ้างวานให้ชาวบ้านมาทำงาน ด้วนค่าตอบแทนที่ต่ำก็เป็นความผิดด้วยหรือ นี่เป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอยชัดๆ แค่เห็นภาพตรงหน้าก็มาใส่ไคล้ โดยไม่มีหลักฐานซักนิด"
 "เรายังไม่มีหลักฐานก็จริง แต่ว่า สิ่งที่ข้าพูดมา ก็ส่อเค้าว่าจะเป็นจริงตามที่มีคนสงสัย ส่วนจะจริงเท็จยังไงนั้น เชื่อว่าท่านยูซินคงรู้ดีกว่าใครโดยไม่ต้องให้ข้าบอกซ้ำอีกหรอกนะ"
 "แล้ว ยังไง ท่านจะให้ข้าทำไงต่อ"
 "ข้าบอกแล้วว่าจะมีทางออกให้ ท่านจะได้เป็นผู้นำองครักษ์เหมือนเดิม ส่วนข้อกังขาทั้งหมดก็จะถูกคลี่คลาย มิเป็นทางออกที่ดีหรอกหรือ"
 องค์หญิงต๊อกมานไม่พอใจ "นี่เป็นการใส่ร้ายชัดๆ นึกหรือว่าแค่เรื่องนี้ จะขัดขวางไม่ให้ท่านยูซิน ได้เป็นผู้บัญชาการองครักษ์ได้น่ะ"
 มีซิลว่า "แต่ว่า แก่นแท้ของเรื่องทุกอย่าง มักมาจากการตั้งสมมุติฐานแต่แรกไม่ใช่หรือ หรือว่าองค์หญิง มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของท่านยูซิน ว่าไม่มีส่วนเกี่ยว ข้องกับผู้อพยพเหล่านั้น แน่นอนว่าองค์หญิง คงไว้วางพระทัยต่อคนๆ นี้เต็มร้อย แต่ว่า จะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาคนเดียวก็ไม่ถูก ชนเผ่าคาย่า โดยเฉพาะผู้อพยพนั้น เป็นทั้งกำลังสำคัญและจุดอ่อนของท่านยูซินก็ว่าได้ ถ้าองค์หญิงหวังพึ่งคนของเขาโดยไม่ไว้ใจท่านยูซิน ความหมายก็จะเปลี่ยนไป และถ้าแยกเป็นสองประเด็นก็จะยิ่งแย่ใหญ่ ยังไงก็ตามแต่ ท่านยูซินไม่อาจปลดภาระเกี่ยวกับเผ่าคาย่าได้อยู่แล้ว ไม่เพียงทิ้งพวกเขาไม่ได้ ยังไม่อาจช่วยเหลือได้อย่างเปิดเผย"
 องค์หญิง ต๊อกมานย้อนถาม "แล้วยังไง ท่านจะทำไงต่อไป"
 ซอวอนว่า "ถ้าหากยอมตัดหัวผู้นำกลุ่มโพยามาให้เราซะ ปัญหานี้ก็จะจบ"
 "แต่ว่า ข้าจะรู้ได้ไงว่าคนไหนคือหัวหน้ากลุ่ม" คิมยูซินว่า
 "แน่นอนว่าอาจจะไม่ รู้จัก แต่ว่า ทางเดียวที่จะแก้ปัญหาให้ถูกทาง ก็คือเอาศีรษะของหัวหน้ากลุ่มโพยามาซะ ถ้าทำได้จริง ก็เท่ากับสร้างผลงานใหญ่ก่อนขึ้นรับตำแหน่งผู้นำองครักษ์ หลังจากนั้น เท่ากับยิ่งเป็นที่เคารพ ไม่มีใครกล้าครหาอีก"
 เมื่อเลิกประชุมแล้วไอ ชองก็กล่าวกับองค์หญิงต๊อกมานกับคิมยูซินว่า
 "องค์หญิง ทำไมมีเรื่องแบบนี้ได้พะยะค่ะ กำลังจะรับตำแหน่งอยู่แล้ว กลับมีคนคัดค้าน หึ ใครก็ตามที่ได้ดูการประลอง จะไม่มีทางคัดค้านได้อีก ต่อให้ซกพุงกับโพจองยังไม่กล้าพูดซักคำ"
 "ปัญหาเกิดจากชาติกำเนิดข้า" คิมยูซินว่า
 "เป็นชาวคาย่าแล้วไง จะเป็นผู้นำองครักษ์ไม่ได้หรือ"
 "เหตุการณ์ นี้ก็เหมือนกับ คราวก่อนที่เนรเทศชาวคาย่าไปเมืองซังยางจู คราวนี้แค่เปลี่ยนเป็นกลุ่มโพยาเท่านั้น"
 "กลุ่มโพยา? พวกเขารู้เรื่องนี้ด้วยหรือ"
 "คงไม่ใช่รู้แต่แรก แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรนัก"
 องค์หญิงต๊อกมานเห็นด้วย "ใช่ เราเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ตกไปอยู่ในหลุมพรางของพวกเขามากกว่า"
 พังซูไป รายงานคิมซอยอนว่าได้มีการเลื่อนพิธีแต่งตั้งคิมยูซินออกไปก่อน เพราะสงสัยว่าคิมยูซินเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักรบใต้ดินโพยา คิมซอยอนบอกองค์หญิงมานมยองว่าต้องรีบเข้าเฝ้าพระเจ้าจินพยอง
 พระเจ้าจิ นพยองทรงแปลกพระทัย "อะไรนะ มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ หึ แต่ก็ไม่ถูก ยูซินจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มโพยาจริงหรือไม่ก็ช่าง ไม่เห็นจะเป็นเรื่องสำคัญซักนิด"
 ยองชุนว่า "พะยะค่ะ ถ้าจะหาว่าเป็นกบฎ โดยอ้างเหตุการณ์ส่งเดชเป็นการปรักปรำที่ใครก็ทำได้"
 คิมซอยอนว่า "น่าจะเป็นแผนของฝ่ายมีซิลมากกว่าพะยะค่ะ"
 พระเจ้าจินพยองตัดบทว่า "ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างงี้แต่แรก ให้โพจองรับตำแหน่งนี้ไป จะได้หมดเรื่องหมดราวซะ"
 มุนโนตามคิมยูซินมาพบ
 "นั่งลงก่อน เรื่องที่พูดถึงในงานแต่งตั้งผู้นำองครักษ์ เป็นความจริงหรือเปล่า บอกข้ามาตามตรง ข้าสัญญาว่าจะไม่พูดกับใครให้รู้ จริงๆ แล้ว ถ้ามองจากคุณสมบัติโดยรวม ให้เจ้าเป็นผู้นำองครักษ์ถือว่าเหมาะสมกว่าใคร แต่ว่า ถ้ามีเรื่องของเผ่าคาย่ามาเกี่ยวก็จะยุ่ง เพราะกลุ่มโพยาเคยมีความเคลื่อนไหวหลายครั้ง และคนพวกนี้ก็เกิดจากการรวมตัวของชนเผ่าคาย่าเดิม ตอนนี้ผู้อพยพ ไปอยู่ในเมือง “อัมยางจู” ซึ่งเป็นเขตปกครองของเจ้าจริงหรือเปล่า"
 "จริง ครับ ข้าแบ่งที่ให้พวกเขาทำกิน โดยไม่มีการเก็บค่าเช่า"
 "อะไรนะ ให้ทำกินเปล่าๆ หรือ"
 "ครับ"
 "ถ้าเรื่องนี้มีใครรู้เข้า จะเป็นหลักฐานชิ้นเอกเชียวนะ ทำไมต้องทำแบบนี้"
 "เพื่อแลกกับความภักดี ของพวกเขา"
 "ความภักดีหรือ"
 "เพื่อเอาความภักดีมาเป็นกำลัง และกำลังส่วนนี้ จะเป็นฐานอำนาจของข้าในแคว้นชิลลาน่ะครับ เผ่าคาย่าไม่มีทางได้กอบกู้อีกแล้ว ที่สำคัญ แม้จะรวมตัวกันได้ ข้าก็ไม่คิดว่าจะมีทางไหนดีกว่านี้อีก สู้เป็นกำลังสำคัญให้ชิลลา สร้างฝันให้เป็นจริง เป็นผู้นำที่จะผนึกสามแคว้นให้เป็นหนึ่งเดียว นี่คือสิ่งที่ชาวคาย่า จะได้อยู่ต่อไปอย่างมั่นคง เพราะฉะนั้นข้า แม้ไม่ได้เป็นผู้นำองครักษ์ ก็จะไม่ทำเรื่องทรยศต่อชนเผ่าเป็นอันขาด"
 จาก นั้นมุนโนก็กล่าวกับพีดัมว่า "เจ้าอยู่นี่คงไม่มีอะไรให้ทำอีก ไปกับข้าดีกว่า รีบไปเก็บของซะ เจ้ามันไม่มีหัวคิด คำว่างานใหญ่ก็คือต้องฟันฝ่าอุปสรรรคร้อยแปด ที่สำคัญ ต่อให้เจ้าตั้งใจสู้จริง จะชนะคิมยูซินได้หรือเปล่า ข้าก็ยังไม่รู้แน่"
 พี ดัมคิด "ไปหรือ หึ เรื่องอะไรจะไป"
 มุนโนมองพีดัมและคิด "เป็นความคิดที่ดี แต่ว่า ช่างเป็นคนที่ยอมหักไม่ยอมงอ ถ้ารู้จักยืดหยุ่นหน่อย รู้จักโอนอ่อนผ่อนตามบ้าง สมัยก่อนข้าคงไม่ลำบากแบบนี้ แล้วเราจะทำไงดี ทำไมต้องไปวัดต๊อกอึย ทำไมต้องไปยุ่งกับของในหีบนั้น"
 เวลาเดียวกันแวยาที่รู้เรื่องคิมยูซิ นก็มาพบเขาและบอกว่า
 "เหตุการณ์ที่เกิดในพิธีแต่งตั้งของท่าน ข้าได้ยินหมดแล้ว" แวยาว่า
 ซอแจเสริมต่อ "ท่านยูซิน ถือว่าข้าเป็นหัวหน้ากลุ่มโพยา จับไปให้พวกเขาเถอะ เราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว"
 แวยาให้เหตุผลว่า "มีแต่วิธีนี้เท่านั้น เพราะยังไงท่านก็ทิ้งตำแหน่งผู้นำองครักษ์ไม่ได้ ถ้าทิ้งเมื่อไหร่ ก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองมีความผิดจริง"
 ซอแจเห็นด้วย "นั่นสิครับ อย่าให้เรื่องแค่นี้ทำให้เสียงานใหญ่ ยังไงก็ต้องตัดสินใจให้ขาด"
 คิมยู ซินกับบอกว่า "พวกเจ้าก็คิดเหมือนมีซิลใช่ไหม ชั่งน้ำหนักประเมินผลประโยชน์ แล้วตัดขาดส่วนที่ไม่มีความหมายออกไป"
 "ไม่งั้นจะให้ทำไงได้ ถ้าจำเป็นต้องตัดส่วนใดส่วนหนึ่งออกไป ก็ให้เป็นส่วนที่เสียหายน้อยที่สุด"
 "สิ่ง ที่อ้างว่าเสียหายน้อย นึกจะตัดก็ตัดได้ง่ายๆ พอรวมกันมากเข้า มันก็คืออำนาจส่วนหนึ่ง ไม้ซีกรวมกันยังงัดไม้ซุงได้เข้าใจหรือเปล่า"
 "ไม่ ใช่ว่าเราไม่เข้าใจ เพียงแต่ว่า ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ"
 "ท่าน ต้องมองที่เป้าหมายมากกว่าคิดเล็กคิดน้อยนะ"
 คิมยูซินเข้าไปพบองค์หญิง ต๊อกมานบอกว่าเขาคิดจะยอมสละตำแหน่งนี้ไป องค์หญิงต๊อกมานอึ้งไป
 "ท่าน ยูซิน"
 คิมยูซินกล่าวว่า "เป้าหมายก็คือให้ข้าหลีกทางไม่ใช่หรือ ทุกคนหวังให้เป็นอย่างงี้อยู่แล้ว"
 "นี่แปลว่า คิดได้แล้วใช่ไหม นี่คือการตัดสินใจของเจ้า จริงอยู่ เจ้าช่างเป็นคนมีเมตตาซะนี่กระไร"
 "เป้า หมายของท่านเซจู ก็คือจะให้โพจองเป็นผู้นำองครักษ์ แต่ว่า จะมีกี่คนที่ยอมรับผลที่ออกมาแบบนี้ ในเมื่อตอนประลองทุกคนก็อยู่ และเห็นกับตาด้วย แต่แล้ว ตำแหน่งผู้นำองครักษ์กลับให้คนอื่นมาแทนข้า มิเป็นเรื่องน่าตลกหรอกหรือ ถ้าโพจองได้ครองตำแหน่งแทนข้าจริง คิดว่าเขาจะภูมิใจมั้ย ถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหา ข้าก็พร้อมจะสละตำแหน่งทุกเมื่อ คนที่ผ่านการประลองจนได้รับชัยชนะ กลับถูกขับไสไล่ส่งด้วยข้อหาเลื่อนลอย แถมไม่มีหลักฐานอีก ท่านคิดว่าเรื่องแบบนี้ จะมีใครเชื่อหรือเปล่า"
 องค์หญิงมานมยองนำสัญญา เช่าที่ดินไปเก็บที่ห้องหนังสือแต่ปรากฎว่าหาไม่พบ แถมพังซูก็หนีไปทั้งครอบครัว
 ขณะที่ซอวอนก็กล่าวกับมีซิลว่า
 "สัญญา ลงนามไม่เก็บค่าเช่าต่อชาวคาย่าที่ไปอยู่เมืองอัมยางจู จะถือเป็นหลักฐานได้ไหม"
 มีซิลว่า "เอาที่ดินไปแบ่งให้ชาวคาย่าทำกินเปล่าๆ และเป็นสมาชิกกลุ่มโพยาด้วย"
 "จะ ด้วยเจตนาอะไรก็ช่าง แต่เท่ากับท่านยูซินให้การสนับสนุนพวกเขาทางอ้อมหรือเปล่า"
 ไอชองแปลกใจ มากที่หนังสือสัญญาไปอยู่กับพวกมีซิล คิมยูซินคิดว่าคงขโมยไปจากบ้านเขาแน่ องค์หญิงต๊อกมานนิ่งคิดและกล่าวขึ้นว่า
 "ท่านยูซิน อาจต้องมอบท่านซอแจ ในฐานะหัวหน้ากลุ่มโพยาให้พวกเขา ได้ยินว่าเขาก็เต็มใจไม่ใช่หรือ"
 "หม่อม ฉันจะไม่ทำแบบนี้"
 "หึ แต่นอกจากวิธีนี้แล้วไม่มีทางอื่น"
 "ถ้าคราว นี้มอบตัวซอแจไป วันหน้าก็ต้องส่งคนอื่นไปอีก หลังจากนั้นก็ส่งให้ไปเรื่อยๆ"
 "ใช่ แค่ส่งตัวไปก็พอ"
 "องค์หญิง ทรงเข้าพระทัยความหมายที่แอบแฝงหรือเปล่า ถ้าเรามอบตัวซอแจออกไป กลุ่มโพยาก็จะถูกรวมเข้ากับชาวคาย่าทันที และถ้าหม่อมฉันไม่ยอมอ่อนข้อ พวกเขาจะบอกว่าชาวบ้านที่อยู่เมืองอัมยางจู คือกบฎที่คิดร้ายต่อบ้าน เมือง และถ้าหม่อมฉันไม่ยอมอีก พวกเขาก็จะตั้งข้อหา หาว่าชาวบ้านตาดำๆ คือผู้ก่อการร้าย จากนั้นก็ตามประหัตประหารด้วยข้อหาคิดกบฎ โปรดเห็นชาวคาย่ามีฐานะเช่นเดียวกับชาวชิลลาด้วยเถอะ ถ้าองค์หญิงมีภัย จะยอมให้ชาวบ้านตายแทนแล้วตัวเองเอาตัวรอดหรือเปล่า"
 องค์หญิงต๊อกมาน ไม่พอใจ "ไม่งั้น จะให้ข้ายอมสละท่านเอามั้ยล่ะ ถึงข้าจะไม่เคยพูดซักคำ ท่านคิดว่าตัวเองไม่มีความหมายต่อข้าใช่ไหม"
 "แต่นี่คือ สิ่งที่องค์หญิงทรงตัดสินพระทัยแล้ว คงไม่ใช่ คิดว่าการครองเมืองเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็สามารถทำได้ และการที่จะห่วงใยราษฎร คือปลอบใจไปตามเรื่อง ไม่ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงพวกเขาก็พอแล้ว การเป็นพระราชานั้น คือแม้ยอมแลกกับชีวิตตัวเอง ก็ต้องปกป้องราษฎรให้ถึงที่สุด ส่วนราษฎร ก็ต้อง การผู้ปกครองที่ฆ่าคนอื่นเป็นหมื่นแสนแต่ขอให้ปกป้องพวกเขาไว้ก่อน นี่คือสิ่งที่หม่อมฉันทำอยู่ และหวังว่าองค์หญิงจะทรงถือเป็นเยี่ยงอย่างด้วย"
 "แล้วข้าล่ะ แล้วข้าล่ะ ฮือ"
 "นี่คือ สิ่งที่องค์หญิงต้องเผชิญอยู่แล้ว"
 องค์ หญิงต๊อกมานเสียใจมากกับสิ่งที่คิมยูซินว่า ส่วนคิมยูซินเมื่อแยกกับองค์หญิงต๊อกมานแล้วมุนโนก็เข้ามาคุยด้วย
 "ข้า ตั้งใจมาคุยกับเจ้า เมื่อกี้จะไปหา พอดีคุยกับองค์หญิงอยู่ รู้มั้ยว่าคนที่ครองใจคน เพราะอะไรถึงเท่ากับได้ครองแผ่นดิน เพราะคนเหล่านั้น ได้เทิดทูนให้คนๆ หนึ่งกลายเป็นพระราชาขึ้นมา วีรบุรุษไม่ได้เกิดจากตัวเอง แต่มาจากการเชิดชูของคนรอบข้าง ที่เจ้าทูลองค์หญิงไปนั้น ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวก็จริงอยู่ แต่การจะทำไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ปัญหาอยู่ที่ นอกจากวิธีที่องค์หญิงรับสั่งแล้ว ไม่มีทางออกทางอื่นอีก หรือไม่ เจ้าคิดจะทำยังไง แน่ใจว่า จะทำอย่างงั้นจริงหรือ"
 คิมยูซินยืนยัน "ครับ"
 "องค์หญิงองค์หญิงต๊อกมาน ทรงมี คุณสมบัติพร้อมจริงหรือเปล่า หรือว่าเราจะมองนางผิดไป หรือว่า แต่ไหนแต่ไรมา สวรรค์ได้ลิขิตอีกเส้นทางหนึ่งไว้แล้ว จะเป็น คิมยูซิน ใช่หรือเปล่า" มุนโนคิดคนเดียว พอพีดัมเข้ามาก็ทัก
 "อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยัง"
 "กลัว ข้าไปดูอีก เลยเอาหนังสือไปไว้ที่อื่นหรือครับ"
 "เจ้าไปที่วัดนั่นอีก หรือ"
 "ท่านบอกว่า หนังสือพวกนั้นเป็นของข้า หรือว่าไม่ใช่แล้ว?"
 "ไม่ เอาไหนนัก ทำไมถึงได้สิ้นคิดแบบนี้"
000000000000000000000

 เซจอง ฮาจองกับโพจองคุยกันเรื่องมีเซ็งกับคิมชุนชู มีซิลเข้ามาถามว่ามีเซ็งพูดอะไร
 เซจองตอบว่า "ผู้หญิงที่ชุนชูถูกชะตา ตรงกับลักษณะของ “โพยาง” ไม่มีผิด ข้าเลยอยากให้ท่านซอวอนกับโพจองเตรียมตัวให้ดีด้วย"
 "อะไรนะ หลานของข้าน่ะหรือ"
 "ใช่ครับ ที่ท่านน้าบอกมา เป็นอย่างงั้นจริงๆ"
 "ลอง ถ้ามีเซ็งเอ่ยปาก ก็คงไม่ผิดแน่"
 "ฮึ่ม ทำไมต้องเป็นโพยางด้วยนะ ข้าก็มีลูกสาวหลายคน ไม่เห็นจะน้อยหน้าใคร"
 "ถ้าอย่างงั้น ตอนนี้มีเซ็งอยู่ไหน"
 "เห็นว่าพาคุณชายชุนชู ไปเที่ยวอีกน่ะครับ"
 "ชุน ชูพอใจกับการเที่ยวหรือเปล่า"
 โพจองตอบว่า "แทนัมโพบอกว่า หึ เขากับท่านน้าถูกชะตากันมาก"
 องค์หญิงต๊อกมานเสียใจมาก โซวาเห็นก็เข้ามาปลอบ
 "ฮือ องค์หญิง"
 "คำพูดของท่านยูซิน ไม่มีผิดซักคำ หึ เส้นทางนี้ ข้าเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง ฮือ ฉะนั้น คำพูดของเขาทุกคำ จึงไม่มีผิด ฮือ ข้าไม่ควรเห็นแก่เขาคนเดียว จนยอมทิ้งราษฎร และบ้านเมือง ต่อให้ทำอย่างงั้นจริง ก็ไม่แน่ว่าจะได้ตัวเขามา ฮือ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะ เลือกที่จะทิ้งข้ามากกว่า ข้าก็รู้ ฮือ ข้ารู้"
 "ยังไงก็ตามแต่ องค์หญิง ต่อไป องค์หญิงคงต้องเก็บเขาไว้ในใจ ฮือ ได้แต่ เฝ้าดู แอบดูเงียบๆ คอยดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น"
 คิมยูซินที่ยืนอยู่ข้างนอกได้ยินทุกคำพูด ทำให้เขาตัดสินใจไม่เข้าพบองค์หญิงต๊อกมาน แต่กลับไปขอพบมีซิล
 ยอจงกลับ มาก็พบมุนโนรออยู่
 "ท่านมารอนานหรือเปล่า"
 "กลับมาแล้วหรือ ได้ยินว่าไปที่ “แคยุนโพ” มา"
 "ใช่ “พิลซอน” ก็กลับจากโกคูรยอเหมือนกัน ที่สำคัญมีข่าวใหม่มาด้วย จะให้ข้ารายงานเลยมั้ย"
 "วันหลังค่อยพูดดี กว่า แต่ตอนนี้ ข้าอยากเขียนแผนที่สามแคว้นให้เสร็จเร็วๆ"
 "แผนที่หรือ"
 "ใช่ เหลือแค่หน้าสุดท้ายเท่านั้น ทั้งหมดก็จะเสร็จเรียบร้อย"
 "แต่ว่า ท่านเคยบอกว่าต้องใช้เวลาอีกซักพักไม่ใช่หรือ"
 "แต่ตอนนี้ เจ้าของหนังสือเหมือนจะปรากฎขึ้นแล้ว"
 "เจ้าของหนังสือหรือ หนังสือที่ท่านเขียนเอง จะมีเจ้าของได้ยังไง เป็นคนที่ไว้ใจได้หรือเปล่า หนังสือที่ท่านรวบรวมด้วยความยากเย็น กลับยอมมอบให้คนอื่นง่ายๆ หรือ"
 "เขา เป็นคนที่ซื่อสัตย์เถรตรง บางครั้งออกจะซื่อเกินไปด้วยซ้ำ"
 "ที่แท้ก็มี นิสัยเหมือนท่านนั่นเอง"
 "หึๆๆ ไม่เหมือนหรอก นิสัยข้าออกจะแข็งกร้าวเกินไป ไม่อาจทำให้คนอื่นมาภักดีต่อข้าได้ อีกอย่าง ข้ามักจะทำเพื่อศักดิ์ศรีและเกียรติของตัวเอง จนยอมหนีความจริงและหันหลังให้กับความอยุติธรรม แต่ว่า คนๆ นี้ไม่เหมือนข้า"
 "เขาเป็นยังไง"
 "เป็นคนที่ยอมให้ตัวเองถูกประนาม ก็จะปกป้องวงศ์ตระกูลและชาวบ้านให้ถึงที่สุด"
 "เขาเป็นคนดีขนาดนี้เชียว หรือ ในสายตาท่าน"
 มุนโนถามกับคิมยูซินว่า "นอกจากวิธีที่องค์หญิงรับสั่งแล้ว ไม่มีทางออกทางอื่นอีก หรือไม่ เจ้าคิดจะทำยังไง ข้าถามว่าเจ้าจะทำไงบ้าง"
 คิมยูซินตอบว่า "ข้าจะยอมคุกเข่าให้นาง หรือไม่ จะให้ข้าคลานก็ได้ จะให้ข้าก้มหน้าจรดพื้นก็ยินดี ความอัปยศแบบนี้ สำหรับข้าไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย"
 องค์หญิงต๊อกมานได้ยินแล้วตกใจ ขณะที่มุนโนฟังแล้วก็กล่าวว่า
 "ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าไม่ต้องถามอะไรอีก ข้า จะวางเดิมพันกับคนๆ นี้ หรือว่า จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่หน้าที่ข้าที่จะมากำกับบทบาทของพวกเขา"
 ด้านคิมยูซินไปพบ มีซิลและบอกว่ามาขอความช่วยเหลือ มีซิลแปลกใจ
 "ขอความช่วยเหลือหรือ"
 "ใช่"
 "จำ ได้ครั้งหนึ่งเจ้าเคยบอกว่าไงนะ ถ้าอยากได้ตัวเจ้ามา สิ่งที่ข้าจะได้เป็นแค่ร่างกาย"
 "ถึงวันนี้ความคิดข้าก็ยังไม่เปลี่ยน"
 "แล้ว ยังไง"
 "เมื่อก่อน ท่านทำให้ชาวคาย่าถูกเนรเทศไปเมืองซังยางจู แต่คราวนี้ ท่านอาจบอกว่าพวกเขาเป็นกบฎ แล้วไล่ล่าสังหารให้หมด"
 "ใช่ อาจเป็นอย่างงั้น"
 "จนวันนี้แม้ข้าจะยินดีตาย แต่ไม่กล้าพอที่จะเห็นชาวบ้านที่บริสุทธิ์ต้องมาตายเพราะข้า"
 "เพราะ ฉะนั้น เลยมาขอร้องข้าหรือ"
 "ใช่ เพราะข้ารู้แล้วว่าตัวเองไม่ได้เก่งขนาดนั้น เมื่อไม่อาจรับผิดชอบชีวิตคนอื่นได้ ก็ควรวางมือซะ เพราะฉะนั้น ต่อไปข้าจะขอสวามิภักดิ์ต่อท่าน"
 "ฮ่าๆๆ สวามิภักดิ์ ต่อข้าหรือ ถ้าตอนนี้ข้ายังสาวอยู่ จะรีบกอดเจ้าไว้ทันที ให้สมกับการรอคอยมานาน เฮ่อๆๆ ถ้าอย่างงั้น เพื่อแสดงถึงความจริงใจที่ท่านยูซินมีต่อข้า จะยอมแต่งงานกับลูกหลานในสกุลข้าหรือเปล่า"
 คิมยูซินตอบว่า "ได้ ข้ายินดีแต่งงาน"
จบ 36





เครดิต : oknation.net/blog/lakorn




   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 35 - 36
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์