แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
ชุดลำโพงพกพาพร้อมไมโครโฟน
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Hair Set 2 Set มี 4 ชิ้น (เรียวแฮร์ : ดูแลปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
เสื้อเชิ้ตพิมพ์ลาย
ดูขนาดรูปภาพจริง
หมูแผ่นนครปฐม ความอร่อยในตำนาน หมูแผ่นยิ้มยิ้มจ้า
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lucas Papaw 25g
ดูขนาดรูปภาพจริง
City Garden Tower (ซิตี้ การ์เด้น ทาวเวอร์)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Music D.J. (M16E) +USB แถม Microphone - C0521
ดูขนาดรูปภาพจริง
กู้เงินด่วนนอกระบบโทร0928689622พี่หนิง
ดูขนาดรูปภาพจริง
น้ำยาขัดสีรถลงด้วยมือง่ายๆ Micro Compound liquid Set
ดูขนาดรูปภาพจริง
tween hab-5 ครีมบำรุงสำหรับคนเป็นสิว หน้ามัน ผิวแพ้ง่าย
ดูขนาดรูปภาพจริง
แคปชูนไอเฟล
ดูขนาดรูปภาพจริง
Joy Stick T.Flight Stick X C0071 280959
ดูขนาดรูปภาพจริง
Clip Lens Super Wild "Selfie Cam Lens" สีแดง ชมพู ฟ้า ดำ c009
ดูขนาดรูปภาพจริง
Cable CLIP (3M) Black c030
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอมมูร่า เซซามิน งาดำ เชียงใหม่ (อย 12-1-05150-1-0105)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Onitsuka Tiger รุ่น Mexico66 Slip on Paraty
ดูขนาดรูปภาพจริง
เตียงฉุกเฉิน ติดรถพยาบาล,วัคซีนและยาคุมกำเนิดหมาและแมว,ถังขยะ,ถังดับเพลิง
ดูขนาดรูปภาพจริง
ที่นอน Sleep Care 6 ฟุต หนา6 นิ้ว
ดูขนาดรูปภาพจริง
น้ำยาถูพื้น,ล้างจาน,ทำความสะอาดอเนกประสงค์
ดูขนาดรูปภาพจริง
Beautelush Essential Facial Set (Day + Night)
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมเช็คสต๊อคผ่าน Ipad หรือ Tablet , โปรแกรมนับสต๊อคผ่าน Ipad หรือ Tablet
ดูขนาดรูปภาพจริง
พร้อมส่ง Coach 69621 Lane Satchel
ดูขนาดรูปภาพจริง
เลนส์เสริมมือถือ รุ่น HPLQ-027 คลิปเลนส์ 0.45X Wide-angle 10X Macro-lens
ดูขนาดรูปภาพจริง
Rojukiss White Poreless Advanced Repair Serum
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย ลำโพงไฟเธค ลำโพงบลูทูธ HPT-208 สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน [ ตอนที่ 17 - 18 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 329 ครั้ง            update : 10/8/2009

   
   
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 17  
 เรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตลอดจนข่าวลือเรื่องดวงวิญญาณขององค์ชายทำให้พระเจ้ายูริทรงเกิดความหวาด กลัวขึ้นมา เฮยาทูลพระราชายูริว่า
 "ฝ่าบาท ข่าวลือเหลวไหล อย่าใส่พระทัยเลยเพคะ เรื่องที่เกิด คงไม่เกี่ยวกับชะตาขององค์ชายที่ส่งผลกระทบมา หม่อมฉันคิดว่า น่าจะมีผู้ไม่หวังดี ปล่อยข่าวเพื่อทำลายบ้านเมืองมากกว่า จากข้อมูลที่องค์ชายได้มา ชวนให้คิดว่า มีคนวางแผนชั่วอยู่นะเพคะ"
 "แสดงว่า มีคนรู้ว่ามูยุลยังมีชีวิตอยู่งั้นหรือ มีคนรู้ว่าเขาไม่ตาย ถึงได้วางแผนแบบนี้ใช่ไหม"
 "ใช่แล้วเพคะ"
 ด้านมาโนก็คุยกับพักโซและมูยุลว่า
 "นี่มันอะไรกันแน่นะ นี่ เจ้ารู้อะไรใช่ไหม องค์ชายที่สิ้นพระชนม์เมื่อ 20 ปีก่อน หมายถึงใครน่ะ"
 "รู้อะไรก็บอกเราเถอะ เรื่องนี้คงมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ฝ่าบาททรงได้ยินเข้า ถึงได้ตกพระทัยนักหนา"
 "หึ ข้าก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นาน มันเป็นความลับในวัง ที่ไม่มีใครกล้าพูดถึง"
 มาโนแปลกใจ "ความลับหรือ"
 พัก โซบอกว่า "องค์ชายยอจิน เป็นโอรสองค์ที่ 4 ของฝ่าบาท ไม่ใช่องค์ที่ 3 ก่อนหน้าองค์ชายยอจิน ยังมีโอรสอีกองค์ที่สิ้นพระชนม์ไปก่อน"
 มาโนประหลาดใจมากเข้าอีก "อะไรนะ แล้วองค์ชายสามสิ้นพระชนม์ได้ไง"
 "ถูกฝ่าบาทนำไปบูชายัญน่ะสิ"
 "แปลว่าฝ่าบาท ทรงสังหารเขาหรือ"
 พัก โซเล่าต่อว่า "เห็นว่าองค์ชายองค์นี้จะทำให้บ้านเมืองหายนะ พอเกิดมาไม่ทันไรก็เกิดอาเพท ทำให้ผู้คนเดือดร้อ้น แม้แต่พระมารดาแท้ๆ ยังสิ้นพระชนม์เลย"
 "แล้ว ข่าวลือว่ายังไง ไหนว่าเอาไปบูชายัญก็คือตายแล้ว ทำไมบอกว่าองค์ชายยังอยู่อีกแถมยังว่าวิญญาณมาหลอกหลอน"
 "ใครจะไปรู้ล่ะ"
 "แล้วนี่ องค์ชายสามยังอยู่จริงหรือเปล่า อย่าพูดส่งเดชเชียวนะ เอ่อ"
 องค์หญิงเซยูกลับทรงยืนกรานว่าองค์ชายสามยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ โดยทรงมีรับสั่งให้มาโนและมูยุลออกสืบหาเบาะแสขององค์ชายสาม
 มาโนทูลว่า "เรื่องตามหาองค์ชาย น่าจะหารือกับหัวหน้าหน่วยข่าวกรองนะพะยะค่ะ"
 "ตอนนี้เฮยาก็ถูกพวกนั้นจับตาอยู่ ต่อให้เจอองค์ชายจริง ร่องรอยก็จะถูกเปิดเผยได้ง่ายๆ ฉะนั้น เลยอยากให้พวกเจ้าช่วย"
 "เราก็อยากช่วยองค์หญิงเหมือนกัน แต่ว่า ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับองค์ชายสามซักนิด"
 " ตำหนักเทพ เป็นที่ๆ เก็บข้าวของเครื่องใช้ของเชื้อพระวงศ์ที่สิ้นพระชนม์ ที่นั่น มีของๆ เสด็จแม่ข้าและเจ้าพี่แฮเมียงอยู่ จึงเชื่อว่า น่าจะมีของๆ องค์ชายสามด้วย"
 "แปลว่าให้เราไปตำหนักเทพหรือพะยะค่ะ"
 "ใช่ พวกเจ้าไปที่นั่น ไม่แน่อาจได้เบาะแสบางอย่าง เกี่ยวกับน้องข้าก็เป็นได้"
 "เอ่อ แต่ถ้าฝ่าบาทไม่ทรงอนุญาต ใครก็ห้ามเข้าออก แล้วเราจะกล้าเข้าไปได้ยังไง"
 "ข้าก็รู้ว่าเป็นงานที่ยาก แต่ว่า เราไม่มีหนทางอื่น ถือว่าช่วยข้าหน่อยเถอะนะ" องค์หญิงเซยูขอร้อง
 พวกมาโนออกมา มาโนก็ถามว่าจะเอายังไง พักโซบอกว่าเขาไม่ไป มาโนหันมาทางมูยุล เขาตอบว่า
 "เราจะทำงานนี้"
 พักโซดุ "จะรนหาที่ตายหรือไง"
 "คนอื่น ล้วนแต่กลัวว่าองค์ชายยังอยู่ แต่องค์หญิงกลับทรงปกป้องเขา เราก็ช่วยนางเถอะ"
 "นี่ เราเป็นแค่ลูกจ๊อก จะช่วยได้ไง"
 "พักโซพูดถูก เรามีกำลังน้อยนะ" มาโนเห็นด้วยกับพักโซ
 มู ยุลว่า "เราอยู่มาถึงวันนี้ ถือว่าดวงแข็งแล้ว ถ้าไม่เพราะฝ่าบาททรงปกป้อง เราคงตายไปนานแล้ว หึ ถ้าตอนนี้องค์ชายแฮเมียงยังอยู่ ก็คงทำเหมือนกัน ที่จะปกป้องอนุชาไว้"
 "บ้าไปแล้ว ในวังมีหลายแห่งเป็นสถานที่ต้องห้าม ถูกจับเมื่อไหร่ก็คือตัดหัวนะ"
 "ข้าถึงไม่กล้าเสี่ยงคนเดียว ต้องให้คนที่คุ้นเคยกับวังหลวงอย่างเจ้าคอยช่วยเหลือ" พักโซถึงกับอึกอัก
 อีกด้านหนึ่ง บ่าวของซังกาเข้ามารายงานซังกากับแพกึยว่า
 "ตอนนี้ใครๆ ก็เชื่อว่าองค์ชายสามยังมีชีวิตอยู่ และเริ่มไม่พอใจพระราชายูริมากขึ้น"
 " อึม สมัยก่อนไม่ฆ่าองค์ชาย หลอกลวงชนเผ่าทั้งหลายรวมถึงราษฎร จนเป็นที่เสื่อมศรัทธา เรื่องนี้จะทำให้พระราชายูริมีปัญหาอย่างหนัก แต่ถ้าให้ใครรู้ว่า ต้นตอความวุ่นวายเกิดจากพวกเราละก้อ เราก็จะแย่เหมือนกัน ฉะนั้นต้องทำงานให้รอบคอบล่ะ"
 "เรื่องนี้ ท่านไม่ต้องห่วงหรอกครับ"
 "หมายความว่า ท่านเชื่อว่าลูกน้องขององค์ชายแฮเมียงคนนั้นคือองค์ชายสามจริงหรือ"
 "แค่ดูจากท่าทีของฝ่าบาท ความจริงก็จะเปิดเผยเอง ว่าหมอนั่นจะใช่องค์ชายหรือเปล่า"
 แพกึยเห็นสีหน้าโทจินก็กล่าวกับเขาว่า
 " สีหน้าไม่สู้ดีนะ เป็นห่วงเจ้าหมอนั่นหรือไง ถ้าอยากลืมตาอ้าปาก ก็ต้องตัดใจ ตัดความรู้สึกส่วนตัวออกไป เพราะเรื่องนี้ เจ้าทำให้เผ่าพีรูของเราได้หายใจคล่องขึ้น"
 "แล้วต่อไปจะให้ข้าทำอะไรอีก"
 "ถึงขั้นนี้แล้ว เราต้องกดดันฝ่าบาทให้หนักขึ้น เจ้าไปสร้างสถานการณ์ ให้ดูเหมือนจะเกิดอาเพทอีก"
 "ครับ"
 ยอนมาถามมาวังเรื่องข่าวลือที่แพร่สะพัดว่าองค์ชายที่สิ้นพระชนม์ในอดีตจะกลับมาอีกครั้งหมายความว่าไง มาวังตอบว่า
 " เฮ้ย เรื่องเหลวไหลทั้งเพ สมัยก่อนองค์ชายถูกบูชายัญจนสิ้นพระชนม์ต่อหน้าทุกคน ใครๆ ก็รู้ว่าตายนานแล้ว ข้าก็เห็นกับตาเพราะไปร่วมงานนั้นด้วย"
 "ถ้าอย่างงั้น ทำไมยังมีข่าวออกมาได้ล่ะคะ"
 "ที่ข้าวิ่งเต้นอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเรื่องนี้แหละ ฮ่าๆๆ"
 คู ชูทูลรายงานพระราชายูริถึงโรคประหลาดที่เกิดขึ้น และได้ระบาดไปทั่วเมืองแล้ว แม้ทางการจะเริ่มแจกจ่ายเสบียงและยา แต่ก็ไม่อาจทำให้ชาวบ้านวางใจได้
 "ฝ่าบาท กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ขืนเป็นแบบนี้ เหตุการณ์จะบานปลายจนยากจะควบคุมได้" คูชูทูล
 "คิดว่าเรื่องที่เกิด เพราะสมัยก่อนข้าไม่ได้ฆ่ามูยุล ถึงเป็นแบบนี้หรือเปล่า"
 "ไม่หรอกพะยะค่ะ น่าจะมีใครบงการมากกว่า"
 "ต่อให้มีคนวางแผนจริง ข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่า โรคประหลาดเกิดขึ้นได้ยังไง หึ"
 ใต้เท้าอันซึงน้องของพระมเหสีมียูมาขอพบแพกึย และพาไปเฝ้าพระมเหสีมียู
 "รับสั่งให้หาหรือพะยะค่ะ"
 พระมเหสีมียูรับสั่งทันทีว่า "ทุกวันนี้โกคูรยออยู่ในภาวะระส่ำระสาย เป็นเพราะพวกท่านใช่ไหม"
 อันซึงตกใจ "พี่ใหญ่"
 "เจ้าอย่าเพิ่งสอดมาก ทำแบบนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไรกันแน่ อยากให้ราชสำนักสั่นคลอนหรือไง"
 อันซึงถามแพกึย "จริงหรือว่า เป็นฝีมือพวกท่านน่ะ"
 "สิ่งที่เราทำ ก็เพื่อองค์ชายยอจินทั้งสิ้น" แพกึยแก้ต่าง
 "เพื่อยอจินยังไงกัน หมายความว่าไงน่ะ"
 "ถ้ามีคนๆ หนึ่ง มีผลกระทบต่อองค์ชาย หม่อมฉันจะนิ่งดูดายได้หรือเปล่า"
 " หมายถึงข่าวลือว่าองค์ชายสามยังอยู่ใช่ไหม หึๆ นึกว่าท่านเป็นคนฉลาดหลักแหลม สุดท้ายก็เชื่อข่าวโคมลอยที่ไร้หลักฐาน ไม่ต่างกับพวกชาวบ้าน"
 "หม่อมฉันเชื่อว่า องค์ชายสามยังมีชีวิตอยู่จริง ซึ่งไม่เพียงแต่พวกเรา แม้แต่พระมเหสี ก็ถูกฝ่าบาทตบตาเข้าให้"
 "ท่าน ท่านพูดจริงหรือเปล่า แล้วยังไง ตกลงองค์ชายสามคือใครกันแน่"
 "คนสนิท ที่คอยปกป้องฝ่าบาทและองค์ชายแฮเมียง ชื่อมูยุล ไม่แน่เขาก็คือองค์ชายสาม"
 หลังจากฟังแพกึย พระมเหสีมียูยิ่งทรงเครียดมาก อันซึงอาสาจะไปเก็บมูยุลให้ แต่พระมเหสีมียูทรงค้านว่า
 "แต่เรายังไม่รู้ว่าเขาคือองค์ชายจริงหรือเปล่า"
 " ไม่ต้องพิสูจน์ให้มากความหรอก แค่สงสัยว่าใช่ก็ต้องจัดการแล้ว ปล่อยเป็นหน้าที่ข้าละกัน พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงหรอก ใครที่เป็นอุปสรรคต่ออนาคตขององค์ชายยอจิน ข้าจะจัดการให้หมด"
 มูยุลลอบเข้าไปในอารามหลวง เพื่อค้นหาสิ่งของส่วนพระองค์ขององค์ชายสามตามคำบอกกล่าวขององค์หญิงเซยูที่ตรัสว่า
 "ข้างในนั้น ถ้าเดาไม่ผิดจะมีหีบใบใหญ่ใช้สำหรับบูชาฟ้าวางอยู่ ถ้าลองเปิดออกดู อาจเจอเบาะแสบางอย่างที่เกี่ยวกับน้องข้าก็เป็นได้"
 มู ยุลค้นพบ "ขอสวรรค์โปรดรับดวงวิญญาณขององค์ชายน้อยไปด้วย ชื่อของเด็กคนนี้ ชื่อของเด็กคนนี้ คือไม่มีเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ มูยุล”
 และในอารามหลวง มูยุลแอบได้ยินคำสนทนาระหว่างพระเจ้ายูริและคูชูโดยบังเอิญ
 "ท่านคูชู สมัยก่อนข้าไม่ฆ่าลูกคนนี้ คิดว่าทำถูกหรือเปล่า"
 "ฝ่าบาท"
 "ข้าไม่สามารถลงมือกับเขาได้จริงๆ เป็นความเห็นแก่ตัวมั้ย เด็กคนนี้ ถึงรอดตาย เขาก็ต้องเผชิญกับวิบากกรรม"
 "ฝ่าบาททรงทราบหรือว่า ตอนนี้องค์ชายอยู่ไหน เอ่อ โปรดรับสั่งมาเร็ว ฝ่าบาท"
 "ยังจำลูกน้องคนสนิทของแฮเมียงได้ไหม"
 "ที่วันก่อน ฝ่าบาททรงช่วยเขาไว้ ทุกวันนี้ทำงานอยู่กับเฮยา เอ่อ"
 "ใช่แล้ว เขาก็คือมูยุล ข้าเองก็เพิ่งรู้ ว่าเขาคือมูยุลลูกชายข้าเอง และแฮเมียงก็ปกป้องเขาอยู่ตลอด"
 " เอ่อ ฝ่าบาท นี่แปลว่า ถ้ามีคนวางแผนก่อความวุ่นวายจริง แสดงว่า ฐานะขององค์ชายยังมีคนอื่นที่รู้ ฝ่าบาทต้องรีบเปิดเผยเรื่องนี้ เพื่อปกป้องเขานะพะยะค่ะ"
 "แต่ข้ายังไม่ลืมคำทำนายของโหรหลวง แล้วจะให้เขากลับมาเป็นองค์ชายได้ยังไง"
 "ฝ่าบาท"
 " เด็กคนนี้ จะเข่นฆ่าพี่น้อง ฆ่าพ่อและแม่ของเขา สุดท้ายแม้แต่ลูกตัวเอง เขายังจะฆ่าอีก ซึ่งแฮเมียง ก็เคยเกือบตายเพื่อปกป้องเขาไว้"
 มูยุลรู้ถึงชาติกำเนิด ที่แท้จริงของตนเอง หลังจากที่มูยุลรู้ความจริงแล้วก็สะเทือนใจเป็นอันมาก 
 พระมเหสีมียูทรงให้อันซึงนำหนังสือมาให้แพกึย
 "หนังสือที่พระมเหสีทรงฝากมาให้ ข้อเสนอแบบนี้ ท่านคงเห็นด้วยใช่ไหม"
 " หึๆๆ ใครจะปฏิเสธให้โง่ พระมเหสีจะทรงเลือกชายาให้องค์ชายยอจิน จากเผ่าพีรูของเรา พูดมาตรงๆ เถอะ พระมเหสีน่ะ ทรงต้องการอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยน ไม่ต้องอ้อมค้อมหรอก"
 "ให้ท่านสังหารมูยุลซะ"
 "หึ ท่านช่วยไปทูลพระมเหสี สิ่งที่รับสั่งมา ข้าจะจัดให้ตามพระประสงค์"
 "งั้นก็รบกวนท่านหน่อยล่ะ"
 แพ กึยบอกโทจินว่า "พระมเหสีรับสั่ง อยากให้เราช่วยสังหารมูยุล เพราะถ้าเขาคือองค์ชายสามจริง องค์ชายยอจินอาจไม่ได้เป็นรัชทายาท เลยปล่อยไว้ไม่ได้"
 "ท่านบอกว่า จะฆ่ามูยุลจริงหรือครับ"
 "ช้าเร็ว ก็ต้องฆ่าเขา แต่ว่า ยังไม่ใช่เวลานี้ กว่าจะทำให้พระราชายูริเพลี่ยงพล้ำ แล้วเรื่องอะไรจะยอมปิดฉากง่ายๆ แต่ว่า วันใดที่ข้าสั่ง เจ้าต้องทำงานทันทีโดยไม่มีเกี่ยงงอน"
00000000000000000
 มูยุลเดิน ทางไปที่เมืองพยองชองสถานที่ฝังพระศพองค์รัชทายาทแฮเมียง ถึงแม้ว่ามูยุลดีใจที่เป็นพี่น้องกับองค์รัชทายาทแฮเมียง แต่ก็ทุกข์ระทมที่องค์รัชทายาทแฮเมียงทรงมีโชคชะตาอันโหดร้ายต้องสิ้นพระ ชนม์ก่อนถึงวัยอันควร
 "องค์ชายแฮเมียง ทรงเป็นพี่ชายข้าจริงหรือ และข้า เป็นน้องแท้ๆ ขององค์ชายจริงหรือ เพราะอย่างงี้ แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ก็จะปกป้องข้าให้ได้  ฮือ ทำไม ฮือ เพราะอะไรถึงไม่บอกให้ข้ารู้ก่อน ฮือๆ ทำไมไม่บอกให้ข้ารู้ก่อน ฮือๆๆ แล้วข้าจะทำไงดี ฮือ ตอนนี้ข้าจะทำไงดี เหลือข้าอยู่คนเดียว จะให้ข้าทำยังไงต่อไป ฮือๆๆ ฮือๆๆ ฮือ พี่ใหญ่ ฮือๆๆ ฮือๆๆ"
 เฮยารู้ เรื่องมูยุลหายตัวไปจากมาโนและพักโซ เฮยารีบไปทูลพระราชายูริ ให้ทรงทราบว่ามูยุลรู้ความจริงแล้ว เพราะเขาไปหาความจริงที่ตำหนักเทพ พระราชายูริทรงสั่งให้ตามหามูยุลเงียบๆ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ฐานะของมูยุล เกรงว่าเขาจะมีอันตราย
 เกิดโรงระบายอย่างมาก ยุนวาเองก็ติดเชื้อ องค์ชายยอจินไปเอายาจากหมอหลวงมาให้ยุนวา
 "ฮือๆๆ ฮือ ทรงไล่หม่อมฉันออกจากวังเถอะเพคะ ไม่อย่างงั้น ฮือ ถ้าไปถึงองค์ชายคงเป็นเรื่องใหญ่แน่"
 "ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย ใครๆ ก็ว่า จิตป่วยจะทำให้ร่างกายป่วยตามด้วย ถึงเจ้าจะเป็นโรคอะไรก็ช่าง ข้า ก็ไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า"
 "ฮือ องค์ชาย ฮือๆๆ"
 "เร็วเข้า กินยาเข้าไป เร็วซี่"
 พระ เจ้าเทโซแห่งแคว้นพูยอทรงรอดพ้นความตายไปได้ แต่ทุกครั้งที่พระองค์ทรงสุบินก็มักจะถูกรังควานด้วยทังโน ทำให้พระเจ้าเทโซทรงเชื่อว่าทังโนต้องตายอย่างไม่เป็นธรรมอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยสั่งแชบูให้ตามหายอนซึ่งหาย สาบสูญไป ด้วยตั้งพระทัยว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี 
 ขุนนางทูลถาม "ฝ่าบาท เกิดอะไรขึ้นหรือพะยะค่ะ"
 "หมู่นี้ข้าฝันร้ายทุกคืน ฝันเห็นทังโน บอกว่าเขาถูกปรักปรำ และให้ดูแลลูกสาวเขาคือยอนดีๆ"
 "ฝ่าบาท อาจเพราะคราวก่อน ทรงได้รับบาดเจ็บจนทำให้อ่อนแอ ถ้าไงหม่อมฉันจะให้ทำพิธีบวงสรวงแก้เคล็ด" แชบูแนะนำ
 "ท่านบอกว่าข้าอ่อนแองั้นหรือ หมายความว่า ข้าเริ่มแก่จนเลอะหรือยังไง"
 "ไม่ใช่อย่างงั้นพะยะค่ะ"
 "เพราะข้าเชื่อท่านถึงได้เอาชีวิตทังโน แต่มาถึงวันนี้ ข้าชักเสียใจที่ไม่เชื่อในความภักดีของเขา"
 "ฝ่าบาท ที่เขาคิดกบฎมีหลักฐานยืนยันนะพะยะค่ะ"
 "หลักฐานที่ว่า ใครก็สามารถ ทำออกมาตบตาข้าได้ทั้งนั้น"
 "ฝ่าบาท ทรงสงสัยหม่อมฉันหรือพะยะค่ะ" แชบูร้อนตัว
 "ข้าไม่ได้สงสัยท่านหรอก แต่คิดว่าอาจมีใครบางคน ให้ร้ายท่านทังโนก็เป็นได้ รีบไปตามหายอนให้พบเร็วๆ และพานางมาพบข้าด้วย"
 โทจินพบยอน และชวนไปหาที่เงียบๆ คุยกัน โทจินถามว่ามีอะไรหรือ
 " หึ หึ อาจมีนักรบทมิฬมาถึงที่นี่ ข้าสงสัยว่าที่ชาวบ้านป่วยเป็นโรคประหลาด หึ เหมือนพิษบางอย่าง ที่นักรบทมิฬได้รับการฝึกมา หึ ทำไงดีล่ะ ถ้าเป็นฝีมือพวกเขาจริง ทั้งท่านและคนๆ นั้นก็อาจมีอันตรายทั้งคู่"
 "ข้ากับมูยุลไม่เป็นไรหรอก เจ้าอย่าห่วงนักเลย"
 "หึ งั้นท่านต้องระวัง อย่าประมาทล่ะ"
 ด้าน พระราชายูริทรงตรัสถามวิธีรักษาโรคระบาด คูชูทูลว่าหมอหลวงกำลังหาวิธีอยู่ ทรงให้ส่งทูตไปเผ่าต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นทรงถามถึงการตามหามูยุล คูชูบอกว่าคนของหน่วยข่าวกรองกำลังตามหาอยู่ แต่ยังไม่มีเบาะแส
 ยอนถาม มาโนถึงมูยุล ทำให้รู้ว่าเขาหายตัวไป ยอนจึงเตือนมาโนเรื่องชาวบ้านที่เป็นโรคนั้นเหมือนถูกยาพิษ ที่พวกนักรบทมิฬเคยใช้ มาโนฟังแล้วก็ตกใจมาก มาโนนำเรื่องนี้ไปบอกเล่าให้พวกเฮยากับเคยูฟัง
 เคยูถาม "ยาพิษของนักรบทมิฬหรือ ใครเป็นคนพูด"
 "พ่อค้าชื่อมาวัง มีหมอเก่งคนหนึ่งน่ะครับ"
 "อย่าเพ้อเจ้อได้ไหม พ่อค้าจะมีหมอไปอยู่ด้วยได้ไง" พักโซดุ
 เฮ ยาเสียงดังขึ้น "พวกเจ้าเงียบก่อน หึ บ่อน้ำในเมืองหลวง หลังจากปนเปื้อนด้วยเลือด ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถดื่มกินได้ แต่ว่า จากนั้นไม่นานก็มีผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นฝีมือนักรบทมิฬจริง เชื่อว่า น่าจะมีเบาะแสบางอย่าง"
 เฮยากับเคยูไไปดูบ่อน้ำ เห็นว่าน้ำสกปรก แล้วก็พวกสารบางอย่าง เฮยาสั่งให้เคยูดูลาดเลาไปก่อน ขณะที่พักโซก็กลับมารายงานว่าพบเห็ดมีพิษ และจับชายน่าสงสัยนำกลับมาให้มาโนดูสองคน
 เฮยาถามว่า "เป็นนักรบทมิฬหรือเปล่า"
 "ไม่ใช่ครับ" มาโนตอบ
 เฮยาคาดคั้น "ใครใช้ให้พวกเจ้ามา"
 ชายสองคนนั้นไม่ยอมตอบ โทจินเห็นก็กลับมารายงานแพกึย
 "เจ้าว่าไงนะ พวกเขารู้ว่า เป็นพิษมาจากเห็ดงั้นหรือ" แพกึยตกใจ
 "ครับ"
 "ถ้าอย่างงั้น รู้มั้ยว่าเป็นฝีมือพวกเราน่ะ"
 "ไม่ทราบครับ เพราะข้าได้ทำลายหลักฐานเกี่ยวกับเผ่าพีรูจนหมดสิ้น คงไม่มีใครรู้"
 "เฮ่อ แล้วพวกเขา จะหายาถอนพิษได้หรือเปล่า"
 "โปรดวางใจเถอะครับ ยาถอนพิษไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายๆ" โทจินว่า
 มู ยุลปักใจเชื่อว่าหายนะทั้งหมดมีสาเหตุมาจากตนเพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้มูยุลจึงไปหายอนเพื่อชวนนางไปจากแคว้นโกคูรยอ ยอนพบความจริงว่าการตายของทหารไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคร้าย แต่สาเหตุที่แท้จริงมาจากพิษร้ายต่างหาก เมื่อเป็นเช่นนี้ยอนจึงปฏิเสธคำเชิญชวนของมูยุลโดยขอตัวไปเข้าเฝ้าพระเจ้ายู ริ ตามที่เฮยามาบอก
 "ข้าไปด้วย ไม่ว่าเจ้าจะไปไหน ข้าก็ขอติดตาม" ยอนว่า
 มูยุลดีใจ "หึ คุณหนู"
 " แต่ว่า ก่อนไป ข้ามีงานต้องทำอีก โรคประหลาดที่เกิดในเมืองนี้ ทำให้ชาวบ้านได้รับทุกข์ทรมาน และพิษชนิดนี้ ก็เกิดจากเห็ดพิษที่นักรบทมิฬของพูยอใช้อยู่"
 "แน่ใจว่า เป็นพิษจากพวกเขาหรือครับ"
 "ใช่ คิดว่าไม่ผิด เป็นพิษที่นักรบทมิฬใช้กันบ่อยครั้ง เฮ่อ เมื่อเป็นความผิดของแคว้นพูยอ ข้าก็ควรไถ่บาปให้"
 "แล้วคุณหนู หาวิธีถอนพิษได้ไหม"
 "มียาถอนพิษในวังหลวงของแคว้นพูยอ แต่ด้วยสภาพของโกคูรยอคงไม่อาจไปขอได้"
 มาวังพายอนไปเฝ้าพระราชายูริ ทรงตรัสถามว่า
 "ได้ยินว่าโรคประหลาดที่เกิดขึ้น หลังจากตรวจสอบแล้ว เป็นพิษชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถแพร่ได้เร็วใช่ไหม มันเป็นพิษอะไร"
 "เอ่อ รีบทูลฝ่าบาทเร็วเข้า ยอนจ๋า"
 "เป็นพิษจากเห็ดเพคะ"
 "พอมียารักษามั้ย"
 "เอ่อ มีพะยะค่ะ แต่ค่อนข้างจะหายาก นางก็ไม่ละความพยายาม เชื่อว่าไม่นานคงจะได้ยาถอนพิษมาแน่พะยะค่ะ" มาวังตอบแทน
 "ถ้าเจ้าสามารถรักษาได้ ก็เท่ากับช่วยข้าและโกคูรยอของเรา ข้าจะให้การสนับสนุนเต็มที่ ยังไงก็ต้องมียาถอน"
 "เพคะ ฝ่าบาท"
 "เอ่อ ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องบางอย่างจะทูล"
 "เชิญพูดมา"
 " ทรงจำเรื่องอดีตได้ไหมพะยะคะ เหมือนอย่างตอนนี้ มีซากนกทั่ววังและบ่อน้ำกลายเป็นสีเลือด สมัยก่อนหม่อมฉันรับคำสั่งจากองค์ชายแฮเมียง ให้ผ่าซากนกที่ตายจนพบเศษอาหารในท้อง ปรากฎว่าเป็นพิษมาจากเผ่าพีรู"
 "หมายความว่า พิษที่แพร่ระบาด ก็มาจากเผ่าพีรูงั้นหรือ"
 เฮยาแปลกใจ "ไหนท่านว่า เป็นพิษที่นักรบทมิฬของพูยอใช้อยู่"
 มา วังตอบว่า "ก็นั่นแหละครับ ถ้าเป้าหมายการวางยามีจุดประสงค์เดียวกับเมื่อก่อน การรักษาก็ไม่ยาก แต่นี่กลับเป็นพิษที่นักรบทมิฬใช้อยู่ ลองคิดให้ดี มิเป็นเรื่องแปลกหรือพะยะค่ะ เผ่าพีรู ไปใช้พิษของแคว้นพูยอ"
 "ความหมายก็คือ เผ่าพีรูมีการติดต่อกับแคว้นพูยอหรือ"
 " เอ่อ คือ เรื่องนี้หม่อมฉันเองก็ไม่มั่นใจ แต่หลังจากเกิดเรื่อง หม่อมฉันได้จับตาคนของเผ่าพีรู พบว่าหลายคนเก็บตัวเงียบ ไม่ใช่ๆ ไม่มีใครซักคน ที่ถูกพิษชนิดนี้ มันน่าแปลกมั้ยล่ะพะยะค่ะ"
 หลังจากมาวังกับยอนกลับออกไปแล้ว คูชูก็ทูลว่า
 "ถ้าท่านมาวังพูดจริงละก้อ เราควรส่งทหารไปปราบเผ่าพีรูนะพะยะค่ะ"
 เฮยาแย้งว่า "นั่นไม่ใช่เผ่าเล็กๆ ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานชัด เราไม่ควรวู่วาม"
 "หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง ให้ไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของเผ่าพีรู ถ้าพบเหตุการณ์ตรงกับที่มาวังพูดมา ก็ให้รายงานทันที"
 "ทราบแล้วเพคะ"
 "ส่วนท่านคูชู ไปสั่งหมอหลวงทั้งหมด ให้รีบหาทางรักษาโรคประหลาด เพราะตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุด คือช่วยราษฎรไว้ก่อน"
 "ทราบแล้วพะยะค่ะ"
 พระราชายูริตรัสถามต่อว่า "มูยุลล่ะ ตอนนี้เขาเป็นไงบ้าง ยังไม่เจอตัวอีกหรือ"
จบ 17

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 18  


 โรคร้ายได้ระบาดไปทั่ว แม้แต่พระเจ้ายูริก็ทรงโชคร้ายได้รับพิษร้ายเข้าไปด้วย
 มูยุลลอบเข้าไปในแคว้นพูยอเพื่อค้นหายาถอนพิษ
 บรรดา ผู้เฒ่าของชนเผ่าทั้งหลาย พากันมาชุมนุมกันที่หน้าพระตำหนักเพื่อคาดคั้นเอาความจริงจากพระเจ้ายูริถึง การสิ้นพระชนม์ขององค์ชายสาม
 ซังกาทูลถาม "ฝ่าบาททรงประชวรมากหรือพะยะค่ะ"
 "ต้องการพบข้ามีเรื่องอะไร"
 "ฝ่าบาท ทรงทราบเรื่องวุ่นวายที่เกิดในเมืองหลวง รวมถึงชาวบ้านล้มป่วยมั้ยพะยะค่ะ"
 "ข้าเป็นพระราชา จะไม่รู้ได้ยังไง"
 "ถ้าอย่างงั้น ทรงทราบถึงต้นตอเหตุร้ายเหล่านี้หรือไม่พะยะค่ะ"
 "ข้าอยากถามท่านมากกว่า ที่ก่อให้เกิดเหตุอาเพศ ปล่อยข่าวลือทั่วเมือง ทำให้ราษฎรเป็นปรปักษ์กับทางการเพื่ออะไรกันแน่"
 "ฝ่าบาท ทรงสงสัยพวกเราหรือพะยะค่ะ" แพกึยทูล
 "ข้าไม่ได้สงสัย แต่เชื่อว่าจริง"
 แพกึยไม่พอใจ "มีหลักฐานอะไรที่จะทรงเชื่อว่าเราเป็นคนทำ"
 ซังกาเสริม "ชาวบ้านต่างเชื่อว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้น เป็นเพราะองค์ชายที่น่าจะสิ้นพระชนม์เมื่อ 20 ปีก่อนเป็นต้นเหตุ" 
 " ใช่แล้วพะยะค่ะ เป็นความปักใจของชาวบ้านเอง แต่ฝ่าบาทกลับทรงระแวง ว่าเรากุเรื่องขึ้นมา ใครกันแน่ที่ทำให้ราษฎรเดือดร้อน ใครกันแน่ที่หลอกลวงผู้คนแล้วไม่ยอมรับ"
 "แปลว่าพวกท่านจะโยนบาปให้ข้าใช่ไหม"
 " ฝ่าบาท จนวันนี้ทุกคนยังจำได้ ว่าสมัยก่อนฝ่าบาททรงขจัดอาเพทของบ้านเมืองด้วยวิธีไหน แต่แล้ว ตอนนี้ราษฎร กลับคิดว่าองค์ชายสามยังอยู่ ยังไม่สิ้นพระชนม์ เป็นเพราะอะไรกันแน่พะยะค่ะ"
 "รับสั่งมาตามตรงเถอะ เพราะฝ่าบาททรงใจอ่อน ละเว้นชีวิตองค์ชายใช่ไหม"
 "ฝ่าบาท เราแค่อยากรู้ความจริง โปรดรับสั่งมาเถอะพะยะค่ะ"
 "โปรดรับสั่งมาเถอะ"
 "ทุกคนออกไปก่อน"
 "โปรดอย่าทรงเลี่ยงอีกเลยพะยะค่ะ ฝ่าบาทต้องเปิดเผยความจริง ปัญหาถึงจะแก้ได้นะพะยะค่ะ" ซังกายังไม่ยอมไป
 คูชูเสียงดัง "รับสั่งให้ออกไปไม่ได้ยินหรือไง"
 แพ กึยตวาด "หุบปาก นึกว่าไล่เราไปแล้ว จะขจัดข้อสงสัยของราษฎรทั้งหมดได้หรือ ถ้าหาก สิ่งที่ชาวบ้านรู้เป็นความจริง พวกเราทั้งหลาย จะไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน คนที่หลอกชาวบ้าน หลอกลวงชนเผ่าทั้งหลาย จะไม่คู่ควรเป็นพระราชาอีก"
 "บังอาจนัก ท่านกล้าปฏิเสธตำแหน่งของข้าหรือ โอ๊ะ" พระราชายูริทรงล้มหมดสติ
 ทุกคนตกใจ "ฝ่าบาทๆๆๆๆ"
 ภายในวังหลวงเกิดความโกลาหลขึ้นมา เมื่อพระราชายูริทรงประชวรหนัก
 มูยุลต้องลำบากลำบนแสนสาหัสจนในที่สุดก็เดินทางกลับแคว้นโกคูรยอพร้อมด้วยยาถอนพิษ มูยุลมอบยาถอนพิษให้ยอน
 "นี่มันเกิดอะไรขึ้น เจ้าหายไปไหนตั้งนานน่ะ"
 "หึ ไปเอายาถอนพิษ ที่แคว้นพูยอ"
 "หา หึ เจ้าบอกว่า กลับไปพูยองั้นหรือ"
 "ใช่ครับ"
 "ทำไมต้องไปเสี่ยงขนาดนั้น"
 "รีบเอายาพวกนี้ หึ ให้ผู้ป่วยกินเร็วเข้า"
 "หึ แบ่งส่วนหนึ่งไว้ทางนี้ ที่เหลือเอาเข้าวังเถอะ เพราะตอนนี้ฝ่าบาท ก็ถูกพิษด้วย" มูยุลได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไป
 มูยุลมาบอกเฮยาว่าเขาได้ยามารักษาพระราชายูริแล้ว พอเขาออกมามาโนก็เข้ามาต่อว่า
 "บอกหน่อยได้ไหม เจ้าเล่นตลกอะไร รู้มั้ยว่าเราเป็นห่วงน่ะ จะไปไหนก็น่าจะบอกกล่าวกันบ้าง"
 "ขอโทษก็ได้"
 พักโซบ่นต่อ "เจ้าหมอนี่ พอเจ้าไม่อยู่ เขาก็แทบกินข้าวไม่ลง"
 "ถ้ายังหายไปเงียบๆ เราไม่ต้องเป็นเพื่อนอีก" มาโนขู่
 เคยูเห็นเฮยาเข้ามาก็รีบถาม "ฝ่าบาททรงเป็นไงบ้างครับ"
 "ยังต้องรอดูอีกหน่อย แต่ถือว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว"
 "แสดงว่า มูยุลได้ช่วยชีวิตฝ่าบาทไว้ และโกคูรยอด้วย ใช่ไหมครับท่านหัวหน้า" มาโนดีใจ
 เฮยาตอบ "ใช่"
 "นี่ ยืนเฉยทำไม รู้มั้ยว่าหัวหน้าเป็นห่วงเจ้าขนาดไหน ยังไม่รีบขอโทษนางอีก" มาโนดุเพื่อน
 เฮยาสั่งว่า "พวกเจ้า ออกไปข้างนอกก่อน"
 เมื่อพวกมาโน ออกไปแล้ว มูยุลก็กล่าวขอโทษเฮยา
 "หัวหน้าครับ ข้าขอโทษ"
 เฮยาคุกเข่า "หม่อมฉันขออภัย องค์ชายด้วย นานแล้วที่หม่อมฉัน รู้ฐานะขององค์ชายดี แต่ไม่เคยบอกให้รู้"
 " หึ ถ้าข้าไม่รู้อะไรเลย ถ้าหาก ข้าเป็นช่างเขียนรูปทั้งชาติ หรือเป็นแค่ลูกน้องขององค์ชายแฮเมียง คงไม่ต้องเจ็บปวดขนาดนี้ แต่ว่า ข้าคือมูยุล ที่เกิดมาพร้อมกับคำสาป อันน่ากลัว"
 "องค์ชาย"
 "ข้ารู้สึกยอมรับไม่ได้ ข้าไม่อยากเชื่อ ว่านี่เป็นเรื่องจริง"
 "ยอมรับชะตาเถอะเพคะ เราต้องยอมรับ ถึงจะเอาชนะชะตากรรม และอยู่อย่างมีความหมาย"
 " จะให้ข้ายอมรับได้ยังไง ในเมื่อ บอกว่าข้าจะฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพี่น้อง แม้กระทั่งทำลายโกคูรยอ แล้วใครจะยอมรับได้ ต่อไป ข้าจะไม่ทำอะไรอีก จะไปจากที่นี่ หึ"
 "ต่อให้หนีไป องค์ชายก็ไม่อาจ กลับไปเป็นมูยุลคนเดิมได้อีก ถึงจะหลบหนีหรือปฏิเสธความจริง ที่นี่ก็คือบ้านเกิดขององค์ชาย และสิ่งที่องค์ชายต้องทำ ก็คือปกป้องบ้านเมืองไว้ เพราะอะไรองค์ชาย ถึงถูกทอดทิ้ง ทำไมองค์ชายแฮเมียง ต้องจบชีวิตลง ทำไมอ๋องเทโซมากดขี่เราครั้งแล้วครั้งเล่า ในเมืองหลวง ยังมีหัวหน้าเผ่าต่างๆ ที่พร้อมจะทรยศ ไม่มีใครรู้ว่าโกคูรยอจะล่มสลายเมื่อไหร่ แล้วองค์ชายจะทิ้งไปได้หรือ"
 "เรื่องนี้อย่ามาถามข้า"
 "ไม่ องค์ชายต้องตอบมา"
 "อีกไม่นานฝ่าบาทก็จะหายดี และยังมีองค์ชายยอจิน แล้วข้าจะทำอะไรได้ ทำไมต้องให้ข้า แบกรับความอยู่รอดของบ้านเมืองด้วย"
 " นี่คือคำถามที่องค์ชายแฮเมียง ฝากให้มาถามองค์ชายมากกว่า องค์ชายแฮเมียง เคยตรัสว่าถ้าองค์ชาย สามารถต่อสู้จนพ้นจากชะตาอันเลวร้าย อีกหน่อย จะได้เป็นพระราชาองค์ใหม่ องค์ชายแฮเมียง แม้จะสิ้นพระชนม์ไปนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่า จะให้องค์ชายกอบกู้ แผ่นดินของเรา ที่เคยสูญเสียไป กลับคืนมาให้หมด นี่คือสิ่งที่องค์ชายทรงหวังไว้"
 ด้านมาโนออกมาพร้อมกับพักโซและเคยู เขาก็อดบ่นอย่างน้อยใจมูยุลไม่ได้ว่า
 " ทุกวันนี้มูยุล เหมือนไม่เห็นข้า อยู่ในสายตาอีก หึ รู้ทั้งรู้ว่าข้าเป็นห่วงเขา ยังหายไปดื้อๆ ไม่บอกซักคำ หึ ท่านแม่ทัพ ทำไมเขาทำแบบนี้ครับ ท่านน่าจะรู้ดีไม่ใช่หรือ ว่าข้ากับมูยุล ซี้กันขนาดไหน เมื่อก่อน เราออกจากถ้ำกิเลนมาด้วยกัน ถูกท่านกลั่นแกล้งสารพัด ตอนนั้นท่านก็น่าจะดูออกว่าเราสองคน เป็นเพื่อนตายแทนกันได้ ฮือ"
 พักโซบ่นเคยู "ท่านแม่ทัพ ยังไม่ยอมบอกเราอีกหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่"
 เคยูตัดสินใจบอกทั้งสอง "หึ หึ มูยุล ก็คือองค์ชายสาม"
 "หึ อย่าล้อเล่นได้ไหม ไม่น่าขำหรอกนะ"
 "ใครมีอารมณ์พูดเล่นกับเจ้า หึ เป็นเรื่องจริง"
 มาโนยังอึ้งไป "เอ่อ ท่าน บอกว่าไงนะ มูยุล เป็นองค์ชายสามงั้นหรือ"
 "หึ ต่อไป ห้ามเรียกเขาว่ามูยุลอีก ต้องเรียกว่าองค์ชาย"
000000000000000
 แพ กึยรู้จากบ่าวว่ามีคนพบยารักษา และพระราชายูริทรงมีอาการดีขึ้น ก็ต่อว่าโทจินและสั่งให้ไปสืบหาสาเหตุมาโดยเร็ว โทจินจึงไปหายอนและทราบว่ามูยุลไปเอายาถอนพิษมา
 "เจ้าบอกว่า มูยุลไปเอายาถอนพิษมางั้นหรือ"
 "ใช่ค่ะ"
 "แสดงว่า เขาไปถึงพูยอด้วยน่ะสิ"
 "ข้าก็ไม่นึกว่า เขาจะกล้าเสี่ยงขนาดนี้ แล้วทางท่านเป็นไงบ้าง ถ้าไงข้าจะแบ่งยาให้ ไปรักษาคนของเผ่าพีรูดีมั้ย"
 "ไม่ต้อง ในเผ่าพีรู ไม่มีใครถูกพิษชนิดนี้ ข้าไม่กวนล่ะ" โทจินออกไป
 โทจินกลับมารายงานแพกึย เขาสั่งให้โทจินฆ่ามูยุลซะ
 ระหว่างนี้เคยูจับได้ว่ามีคนมาแอบดู จึงจะเข้าไปจัดการแต่เขากลับถูกทำร้าย มูยุลเห็นก็รีบถาม
 "ท่านแม่ทัพ หา เอ่อ เกิดอะไรขึ้นน่ะ"
 "หึ มีคนแปลกหน้า หึ มาดูความเคลื่อนไหวขององค์ชาย"
 "หา ไปทำแผลก่อน เร็วเข้า"
 " เฮ่ย มีเหตุผลอะไร ถึงต้องทิ้งฝ่าบาทไป โอ๊ะ ข้าได้ยินหัวหน้าพูดแล้ว หึ พวกหัวหน้าเผ่า ไม่รู้เมื่อไหร่จะแข็งข้ออีก แล้วทำไมองค์ชาย ไม่คิดช่วยฝ่าบาทบ้างหรือไง"
 "หึ ท่านบาดเจ็บไม่น้อย ไปรักษาก่อนเถอะ"
 " บอกหม่อมฉันมาก่อน เพราะเป็นคนใจเสาะ ไม่กล้าสู้ความจริงใช่ไหม ถ้าคิดไปจากที่นี่จริง จะเอายาถอนพิษมาทำไมอีก ทำไมต้องไปเสี่ยงอันตรายเพื่อฝ่าบาทและโกคูรยอด้วย ไม่ว่ายังไงก็ช่าง องค์ชาย ห้ามไปจากที่นี่ ถ้าไปจริง ก็แสดงว่าลืมองค์ชายแฮเมียงไปแล้ว ทรงลืมได้จริงหรือ"
 ในวังหลวง พระราชายูริทรงรู้สึกพระองค์ คูชูรีบทูลถาม
 "ฝ่าบาท เอ่อ ทรงรู้สึกยังไงบ้าง หึ ฝ่าบาท ทรงจำหม่อมฉันได้ไหม"
 "คนไข้ข้างนอกเป็นไงบ้าง"
 "เอ่อ เฮ่อ ตอนนี้ ทรงหายห่วงได้แล้วพะยะค่ะ"
 "มียารักษาแล้วใช่ไหม"
 "พะยะค่ะ องค์ชายมูยุลเป็นคนนำมาให้ หึ เสด็จไปแคว้นพูยอคนเดียวเพื่อหายาถอนพิษ เพราะองค์ชาย เป็นคนช่วยชีวิตฝ่าบาทไว้"
 เฮยาบอกข่าวดีกับมูยุล และบอกว่าพระราชายูริทรงอยากพบมูยุลมาก แถมยังเสด็จมาพบด้วยพระองค์เอง
 " เดินมาใกล้ๆ ข้า รู้มั้ยว่านี่คืออะไร ของที่ข้านำมาจากพูยอเมื่อสมัยก่อนโน้น เพราะเกิดมาข้าก็ไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลย มันเป็นของสิ่งเดียว ที่พ่อข้าเหลือไว้ให้ อดีตพระราชาจูมง เห็นปลายกระบี่เล่มนี้ตรงกับด้ามที่เขามีอยู่ เลยยอมรับข้าเป็นลูก ข้าเคยคิดว่าถ้าเจอพ่อ ความทุกข์ทั้งหลายก็จะหมดสิ้นไป สมัยก่อนพ่อข้าทอดทิ้งข้ากับแม่ ออกจากแคว้นพูยอมา ความเจ็บปวดและอ้างว้างที่ข้าได้รับ นึกว่าถ้าเห็นหน้าพ่อ ทุกอย่างก็จะหมดสิ้นไป แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างงั้น หลังจากได้รับยกย่องเป็นองค์ชาย ข้ายังมีความน้อยใจต่อเสด็จพ่ออยู่ เพราะฉะนั้น ข้าถึงรู้ดีว่า เจ้าคิดยังไง รู้มั้ยว่าข้าให้เจ้ามาที่นี่ทำไม เพราะที่แห่งนี้ โหรหลวงเคยทำนายชะตาเจ้า แถมยังคิดจะเอาชีวิต ขณะเจ้ายังแบเบาะอยู่"
 " แล้วทำไมไม่ฆ่าหม่อมฉันซะล่ะ ทำไมต้องทรงฝืนลิขิตสวรรค์ ปล่อยให้หม่อมฉันอยู่รอดถึงวันนี้ ฮือ นี่ยังไม่สายไป ที่จะทรงฆ่าหม่อมฉัน หม่อมฉันอยากให้ฝ่าบาทช่วยยุติชะตาอันเลวร้าย ให้มันจบสิ้นไป"
 "ข้าจะรับเจ้า เป็นลูกของข้า เป็นองค์ชายแห่งโกคูรยอ"
 " ทำแบบนี้ ซักวันฝ่าบาทอาจมีอันตรายได้ แม้กระนั้น ฝ่าบาท ยังจะทรงรับหม่อมฉันอีกหรือ ฮือ ถ้าทรงรับหม่อมฉันจริง อย่าว่าแต่พวกหัวหน้าเผ่า แม้แต่ราษฎร ก็จะเสื่อมศรัทธาต่อฝ่าบาท แม้กระนั้น ฝ่าบาท ก็จะทรงรับหม่อมฉันอีกหรือ"
 "นับแต่นี้ ข้าจะไม่กลัวโชคชะตาอีกแล้ว ไม่ว่าอนาคตจะเลวร้ายยังไง เจ้าก็คือลูกของข้า"
 พระเจ้าเทโซทรงมีพระบัญชาให้กลุ่มนักรบทมิฬไปที่ร้านหมอของมาวังเพื่อลักพาตัวยอน มูยุลมาเห็นและต่อสู้
 ยอนกล่าว กับมูยุลว่า "ในเมื่อพวกเขารู้ร่องรอยของเรา ที่นี่คงไม่ปลอดภัยอีก หึ รีบไปดีกว่า ไม่ว่าที่ไหน ข้าก็จะไปด้วย ทำไมหรือ เจ้ายังเป็นห่วงอะไรอีก"
 " วันก่อน ที่ข้าบอกว่าจะไปจากที่นี่ นั่นเป็นความเห็นแก่ตัว ที่จะหลบหนีความจริง แต่ตอนนี้ ข้ามาคิดดูใหม่ รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดไปมาก นับแต่นี้ ข้าจะไม่หนีอีกแล้ว คุณหนู นับแต่นี้ไป ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้า เจ้าอย่าตกใจนะ ข้าจะไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้ อยู่กับคุณหนูตลอดไป"
 มูยุลกลับมาถึง มาโนกับพักโซรีบเข้ามาขออภัยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
 " หึ จะบ้าหรือไง หึ ถ้าแม้แต่พวกเจ้ายังทำแบบนี้ ข้าคงยิ่งอึดอัดมากขึ้น มาโน พักโซ พวกเจ้า เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทที่สุด ไม่มีวันเปลี่ยน หึ" ทั้งสองซาบซึ้งใจยิ่งนัก
 พระเจ้ายูริก็ทรงมีรับสั่งให้ประชุมขุนนางใหญ่ทันที องค์หญิงเซยูกับองค์ชายยอจินพากันแปลกพระทัยว่ามีเรื่องอะไร เฮยาก็ไม่ยอมบอก
 " เชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ คงได้ยินข่าวลือที่ชาวบ้านข้างนอกลือกันอย่างหนาหู พวกเขาต่างเชื่อว่า เพราะองค์ชายสามยังมีชีวิตอยู่จึงเป็นเหตุให้บ้านเมืองเกิดอาเพทต่างๆ แต่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากฝีมือมนุษย์ และโรคประหลาด ก็เกิดจากการวางยาของผู้ไม่ประสงค์ดีบางคน"
 "ถ้าอย่างงั้น หม่อมฉันขอทูลถามว่าสมัยก่อนองค์ชายสามได้สิ้นพระชนม์จริงหรือไม่" ซังกาทูลถาม
 แพกึยย้ำอีกว่า "ได้โปรดรับสั่งมาตามตรง องค์ชายยังอยู่หรือตายกันแน่"
 เฮยาร้องบอก "เชิญเข้ามาได้"
 มูยุลปรากฏกายต่อที่ประชุมขุนนางใหญ่ด้วยชุดองค์ชายอันทรงพระเกียรติ
 "หนุ่มคนนี้ ก็คือลูกชายข้า ชื่อว่ามูยุล"
 ซัง กาทูลทันที "ฝ่าบาท ทำไมทรงรับเขาเป็นองค์ชาย ทรงลืมรับสั่งเมื่อ 20 ปีก่อนแล้วหรือพะยะค่ะ บอกว่าองค์ชายสามทรงเป็นกาลกิณี จะทำให้โกคูรยอถึงกาลวิบัติ แล้วทำไมมาวันนี้ กลับยอมรับเขาเป็นองค์ชายซะได้"
 แพกึยเสริมต่อ "ต่อให้เป็นสายพระโลหิตจริง เราก็ไม่ยอมรับว่าเขาเป็นองค์ชาย ถ้าฝ่าบาทจะทรงยืนกรานอย่างงั้น ต่อไปชนเผ่าทั้งหลาย อาจไม่สวามิภักดิ์ต่อฝ่าบาทอีก"
 มูยุลกล่าวว่า "ข้ารู้ว่าพวกท่าน เป็นตายร้ายดี จะไม่มีวันยอมรับข้า ในฐานะองค์ชาย และข้าก็รู้ ว่าพวกท่านมีความโกรธแค้น ไม่พอใจแค่ไหน แต่ว่า ได้โปรด ให้โอกาสข้าซักครั้ง ให้โอกาสข้า ได้พิสูจน์ชะตากรรมของตัวเอง ว่าเลวร้ายจริงหรือเปล่า"
 "จะให้เราให้โอกาสยังไงไม่ทราบ"
 "ขอเพียง ให้เวลาข้าหน่อย ถึงจะเป็นองค์ชาย แต่ถ้าไม่มีผลงานให้ผู้คนนับถือ ที่สำคัญ ให้ทุกท่านยอมรับความสามารถไม่ได้ ข้าก็พร้อมจะ จัดการ ปลิดชีพตัวเอง"
 พระมเหสีมียูทรงคร่ำครวญกับอันซึงน้องชายของพระนางด้วยความเจ็บใจ
 "ทำไมฝ่าบาททำกับข้าแบบนี้ ไม่มาปรึกษาด้วยซักคำ ก็ยอมรับเขาเป็นลูกอีกคน ยังทรงเห็นข้าเป็นมเหสีหรือเปล่า หึ"
 "พี่ใหญ่"
 "ถ้าทรงห่วงยอจินของเราบ้าง ฝ่าบาทคงไม่ทำแบบนี้"
 "ใจเย็นไว้ก่อน ยิ่งเป็นเวลานี้ เรายิ่งต้องใช้สติให้มาก"
 "น่าเจ็บใจที่ไม่กำจัดหมอนี่ซะแต่แรก หึ อีกไม่นาน มันต้องเป็นขวากหนามของยอจินแน่นอน แล้วตอนนี้ข้าจะทำไงดี หึ"
 ด้านเฮยาเองก็รู้สึกหนักใจมาก
 "ทำแบบนี้มันเสี่ยงมากรู้มั้ย เท่ากับเอาชีวิตองค์ชาย ไปฝากไว้กับพวกหัวหน้าเผ่า"
 มู ยุลกล่าวว่า "เพราะไม่รู้จะทำให้พวกเขาหุบปากยังไง เลยต้องพูดแบบนี้ เพราะสิ่งที่ข้ามีอยู่ ก็คือชีวิตเท่านั้น แต่ว่า ข้าจะใช้ชีวิตนี้ เป็นเดิมพันครั้งใหญ่ที่สุด"
 มาโนไปรับยอนมาพบมูยุล พร้อมแนะนำว่า
 "นี่คือองค์ชายมุยุล"
จบ 18



เครดิต: oknation.net/blog/lakorn

   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 17 - 18
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์