แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
โรจูคิส แอคเน่-พอร์เลส ออยล์ คอนโทรล โฟม เจล ,Rojukiss Acne-Poreless Oil Control Foam Gel
ดูขนาดรูปภาพจริง
Popular Set 1 เซ็ตรักษาสิวพร้อมการดูแลผิว
ดูขนาดรูปภาพจริง
แอร์ SHAPR PR13
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair 1 กล่อง (เรียวแฮร์ เซรั่มปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
เครื่องไล่นกระบบไฟฟ้า BIRD PROTECT
ดูขนาดรูปภาพจริง
Pitchy : New year / poppy E15 น้ำตาล 850
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมเขียนเช็ค , โปรแกรมพิมพ์เช็ค , โปรแกรมออกเช็ค , โปรแกรมบริหารงานพิมพ์เช็ค
ดูขนาดรูปภาพจริง
Rojukiss White Poreless Advanced Repair Serum
ดูขนาดรูปภาพจริง
City Garden Tropicana (ซิตี้ การ์เด้น ทรอปิคานา)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนมขาไก่สามรส
ดูขนาดรูปภาพจริง
แอร์ SHAPR PR24
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Natural Hair Serum 50ml. 2 กล่อง (เรียวแฮร์ เนเชอรัล เซรั่ม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair 2 กล่อง (เรียวแฮร์ เซรั่มปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ฟิล์มกันรอย Smart Phone (รวมรุ่น) update !!! 280959
ดูขนาดรูปภาพจริง
Best Korea มีโฟมล้างหน้าแล้วนะ 3 สูตรพิเศษ สำหรับปัญหาผิววัยรุ่น 100ml
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนมปังญวน ,ขนมปังเวียดนาม
ดูขนาดรูปภาพจริง
เครื่องสแกนลายนิ้วมือ ZK U260-C
ดูขนาดรูปภาพจริง
หมวก
ดูขนาดรูปภาพจริง
ฆ่าเชื้อในน้ำ และบำบัดน้ำเสียในโรงแรมและรีสอร์ท
ดูขนาดรูปภาพจริง
ชุดทดสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หาสารตกค้าง ในอาหาร,ยาแผนโบราณ,พืชผักผลไม้
ดูขนาดรูปภาพจริง
ใครที่กำลังมองหางายอยู่ มาถูกทางแล้วค่ะ โทรเข้ามาเลยค่ะ เรามีงานให้ทำแน่นอน
ดูขนาดรูปภาพจริง
วิธีการเลือกเครื่องขัดสีรถ เลือกเครื่องขัดสีรถรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
ดูขนาดรูปภาพจริง
เสื้อเชิ้ตพิมพ์ลาย
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอสไรคส์ จำหน่ายปั๊มเติมคลอรีน ปั๊มเติมสารส้ม บำบัดน้ำในสระ
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน [ ตอนที่ 15 - 16 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 244 ครั้ง            update : 10/8/2009

   
   
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 15 
 มูยุลกลับมาถึงก็บอกมาโนว่าโทจินก็อยู่ที่นี่ด้วย มาโนตกใจ
 "อะไรนะ โทจินยังไม่ตายหรือ แล้วเขาอยู่ไหน"
 "หึ ได้ยินว่าอยู่บ้านหัวหน้าเผ่าพีรู"
 "เผ่าพีรูหรือ"
 "คุณหนูยอนบอกว่า เคยเห็นเขาที่บ้านใต้เท้าซังกา"
 "แย่จัง ทำไมต้องเป็นเผ่าพีรู เพราะถ้าเป็นที่นั่น เราจะไปหาไม่ได้ เท่ากับไม่ได้เจออยู่ดี" มาโนบ่น
 องค์หญิงเซยูทรงทูลถามพระราชายูริว่า
 "สมัยก่อน น้องหม่อมฉันที่ตาย ถูกฝังอยู่ไหนหรือเพคะ"
 คูชูตกใจ "องค์หญิง ทำไมทรงมาถามเรื่องนี้ล่ะ"
 "ข้าแค่อยากไปเซ่นไหว้ น้องชายที่อายุสั้นคนนี้ซักหน่อย บอกหม่อมฉันได้ไหมเพคะ"
 "พ่อเคยบอกแล้ว ห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก"
 องค์หญิงเซยูตกพระทัย "เสด็จพ่อ"
 เมื่อออกมา คูชูอดถามองค์หญิงเซยูไม่ได้ว่า
 " องค์หญิง เกี่ยวกับเรื่องอนุชาองค์นี้ แทบไม่มีใครกล้ากล่าวถึงอีก แล้วทำไมทรงอยากรู้ล่ะพะยะค่ะ หึ องค์หญิงเอง ก็ทรงทราบดีกว่าฝ่าบาท ทรงเสียพระทัยกับเรื่องนี้ขนาดไหน"
 "ไม่แน่ว่า น้องคนนี้อาจยังไม่ตาย เขาอาจยังมีชีวิตอยู่ก็ได้"
 "เอ่อ ทำไมองค์หญิง ทรงมีความคิดแบบนี้ล่ะพะยะค่ะ"
 "ข้าเคยมอบสร้อยให้เขาเส้นหนึ่ง และคิดว่า สร้อยเส้นนั้นคงหายไปพร้อมกับเขานานแล้ว จนเมื่อหลายวันก่อน มันกลับมาอยู่กับข้าอีก"
 "เอ่อ หม่อมฉันไม่เข้าใจสิ่งที่องค์หญิงรับสั่ง ทรงอธิบายหน่อยได้ไหม"
 " ใต้เท้าแพกึยมีลูกน้องคนหนึ่งชื่อโทจิน ซึ่งข้าได้สร้อยมาจากเขา เขาบอกว่าเพื่อนคนหนึ่งให้เขามา และหลังจากไปทำงานที่พูยอด้วยกัน เพื่อนคนนี้ก็หายสาบสูญไป ท่านคิดว่าน้องข้าตายแน่หรือ หรือว่า จริงๆ เขายังไม่ตาย"
 "องค์หญิงทรงคิดมากไปแล้ว แม้หม่อมฉันจะไม่รู้ว่าที่มาที่ไปของสร้อย แต่สมัยก่อนองค์ชายได้สิ้นพระชนม์จริงๆ"
 "นั่นสิ ข้าอาจคิดมากไปเองก็ได้" องค์หญิงเซยูเสด็จไป
 แทชอง กล่าวว่า "ถ้าองค์หญิงรับสั่งเป็นเรื่องจริง งั้นที่สมัยก่อน โอรสที่ให้องค์ชายแฮเมียงไปเลี้ยงดู มิกลายเป็นคนของเผ่าพีรูหรอกหรือ"
 พักโซมาพามาโนกับมูยุลไปพบกับเคยู มาโนเห็นมีคนหลายคนก็ถามว่า
 "พวกเขาเป็นใครน่ะครับ"
 เคยูตอบว่า "สายที่จะส่งไปแคว้นพูยอ ไปแฝงตัวอยู่ในค่ายทหาร หัวหน้าบอกให้พวกเจ้าช่วยเป็นครูฝึกให้หน่อย"
 พักโซบ่น "แล้วทำไมต้องปิดบังด้วย ไม่ยอมบอกข้าก่อน"
 "เพราะกลัวเจ้าจะพูดมากน่ะสิ จำไว้ว่านี่เป็นความลับของเรา อย่าลืมล่ะ เริ่มได้แล้ว"
 มา โนเริ่มแนะนำ "ฮึ่ม ข้าคือ ครูฝึกของพวกเจ้าคือมาโน นับแต่นี้ชีวิตของพวกเจ้า จะอยู่ในมือข้า หรือก็คือ จะเป็นหรือตาย แล้วแต่ข้าจะสั่ง ใครก็ห้ามขัดขืนทั้งสิ้น ฮ่าๆๆ เฮ่อๆ"
 มูยุลกล่าวว่า "ข้าจะรายงานหัวหน้าเป็นระยะ ถ้าใครกลัวตัวกลัวตาย จะถอนตัวตอนนี้ก็ยังทัน นักรบแห่งพูยอ แม้เป็นนักฆ่าฝีมือสูงก็จริง แต่พวกเขาเหมือนไม่ใช่คน หลังจากผ่านการฝึก ที่โหดร้ายแล้ว สุดท้ายจะเหมือนหุ่นเชิด ที่คอยทำตามคำสั่งอ๋องเทโซ อนาคตถ้าใครเผชิญหน้ากับนักรบทมิฬ ก็ขอให้ ถ้อยทีถ้อยอาศัย ยั้งมือให้พวกเขาหน่อย"
 จากนั้นมูยุลกับมาโนก็ฝึกทุกคนอย่างหนัก เหมือนที่ทั้งสองได้รับการฝึกมา
 พระราชายูริทรงทราบว่าหัวหน้าเผ่าคีซานถูกลอบฆ่าก็รู้สึกเสียพระทัย คูชูบอกว่าชาวบ้านเริ่มเสียขวัญ ช่วงนี้คงโยกย้ายทหารไม่เหมาะ
 แพกึยเรียกโทจินมาพบเพื่อตบรางวัลให้เขาเป็นหัวหน้าหน่วยทหารของเผ่าพีรู
 "นับแต่นี้ ข้าจะตั้งใจทำงานมากขึ้น" โทจินกล่าว
 " ได้ข่าวว่าอ๋องเทโซอาการไม่สู้ดี ถ้าเขาตายตอนนี้ละก้อ บารมีของพระราชายูริจะยิ่งแผ่ไพศาลทันที ใจจริงข้าอยากให้ชนเผ่าต่างๆ มีกำลังทหารที่พอสูสีกับโกคูรยอ ก่อนอื่น ต้องให้ทุกชนเผ่ารวมใจเป็นหนึ่งเดียว แต่กลับมีหัวหน้าเผ่าบางคนกลัวพระราชายูริ จนไม่กล้ามาประชุมกับพวกเรา ข้า อยากให้เจ้าไปจัดการคนพวกนี้หน่อย"
 เฮยามาสั่งงานมูยุลกับมาโนว่า
 " มีงานชิ้นหนึ่ง อยากให้พวกเจ้าไปช่วยทำหน่อย หนังสือที่ฝ่าบาทจะมอบให้หัวหน้าเผ่าฮันนา รอให้เขาอ่านจบก่อน แล้วเอาคำตอบกลับมาด้วย หัวหน้าเผ่าฮันนา แม้จะภักดีต่อฝ่าบาทก็จริง แต่เพราะถูกหลายฝ่ายจับตา ทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าเฝ้า พวกเจ้าไปแล้วอาจเจอคนของเผ่าพีรู ต้องระวังให้มากล่ะ"
 ทั้งสองไปถึงกับ พบว่าหัวหน้าเผ่าถูกจับตัวไป จึงสะกดรอยตามไปจนรู้ว่าถูกซังกาจับตัวมาให้เลือกข้างว่าจะอยู่ข้างพระราชา ยูริหรือพวกเขา
 ทางด้านพระราชายูริทรงทอดพระเนตรหนังสือและถามเฮยาว่า
 "นี่คือตำราที่เด็กคนนั้นทำให้หรือ"
 " เพคะ องค์ชายมูยูล ใช้ประสบการณ์ที่รับมา ทำประโยชน์ให้เราได้อย่างมากเพคะ จดหมายของฝ่าบา ที่จะส่งถึงหัวหน้าเผ่าฮันนา หม่อมฉันก็ให้เขาจัดการเพคะ ฝ่าบาท ถ้าไง ทรงเปิดเผยฐานะเขาให้รู้เถอะเพคะ เพราะองค์ชาย เคยไปสังหารอ๋องเทโซ ทางพูยอ คงต้องมาเอาชีวิตเขาแน่ ถ้าให้อยู่แต่ข้างนอก ก็ไม่รู้ว่าวันไหน องค์ชายจะถูกปองร้าย น่าเป็นห่วงนะเพคะ ฝ่าบาท"
 "เรื่องนี้ไม่ต้องพูดอีก"
 "ฝ่าบาท หม่อมฉันเคยูพะยะค่ะ"
 "เข้ามาได้ มีธุระอะไร"
 "เผ่าพีรูจับใต้เท้าฮันนาไปพะยะค่ะ มูยุลกับมาโนสะกดรอยคนที่มาจับตัว พบว่าเป็นฝีมือเผ่าพีรูพะยะค่ะ"
 "ฝ่าบาท ทำแบบนี้เท่ากับเผ่าพีรูคิดทรยศนะเพคะ"
 "แต่หัวหน้าเผ่าฮันนา ถ้าถูกพวกเขาจับไปจริง ต่อไปคงไม่ซื่อสัตย์ต่อข้าอีกแน่  ไปจับตาพวกหัวหน้าเผ่าให้ดี"
 "เพคะ"
 พระราชายูริทรงลังเลด้วยไม่สามารถตัดสินพระทัยว่าจะสถาปนามูยุลเป็นองค์ชายดีหรือไม่
 โทจินมาพบยอน นางดีใจมาก ถามว่าเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
 "ไม่มี ท่านอำมาตย์เริ่มจะไว้ใจข้า ข้าสบายดี เจ้าต่างหาก รู้สึกจะผอมไป ทำงานหนักมากหรือ"
 " เวลารักษาให้ชาวบ้าน รู้สึกเหมือนไม่ได้เยียวยาให้พวกเขา ตรงข้าม พวกเขากลับช่วยรักษาแผลใจข้ามากกว่า ไม่ต้องห่วงข้าหรอก จริงสิ ท่านรู้หรือยัง เขาเพิ่งกลับมาจากพูยอ"
 "หมายถึงมูยุลหรือ"
 "ใช่ พอรู้ว่าพี่โทจินก็มาอยู่โกคูรยอ เขาดีใจมาก เป็นครั้งแรกที่เห็นเขามีรอยยิ้มปรากฎ ดูแล้วขำดี"
 "ข้าก็อยากเจอเขาเหมือนกัน สิ่งเดียวที่เป็นความทรงจำตอนอยู่ในค่ายฝึก ก็คือเขา ซึ่งข้าไม่อาจลืมได้"
 "เขาก็บอกว่าอยากเจอพี่โทจิน แถมยังว่า ถ้าใครรู้อดีตของท่าน ระวังจะมีอันตรายถึงชีวิต บอกให้ข้ามาเตือน ให้ท่านระวังตัว"
 "เจ้าเองก็หมดสิ้นทุกอย่าง มาตกระกำลำบากที่นี่ ทำไมไม่เห็นบอกข้าซักคำล่ะ ข้าอยากช่วยเจ้าแบ่งเบาความทุกข์"
 "พี่โทจิน"
 " สมัยก่อนข้าได้ชื่อว่าเป็นลูกกบฎ อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ข้ารู้สึกกลัวโลกนี้ ตอนท่านอำมาตย์จับมือข้า ให้ไปอยู่บ้านเจ้า ก่อนที่เจ้าจะมาจับมือและปลอบใจข้า ข้ากลัวแม้กระทั่งจะหายใจแรงไป ท่านอำมาตย์เคยบอกว่า ไว้ถึงเวลาที่เหมาะ จะให้เราสองคนได้แต่งงานกัน และบอกว่า ให้ข้าช่วยดูแลเจ้า ทางเดียวที่ข้าจะตอบแทนบุญคุณพ่อเจ้าได้ ก็คือทำให้เจ้ามีความสุข ข้าจะใช้ชั่วชีวิตตัวเอง อยู่ดูแลเจ้า"
 ยอนถึงกับอึ้งไป เพราะก่อนหน้านี้มูยุลก็พูดทำนองนี้กับนาง
 องค์ชายยอจินต้องการพบมูยุลให้ได้ จึงบังคับให้พักโซพาไปพบมูยุลจนได้
 "หม่อมฉัน ได้ทำความผิดฐานล่วงเกินองค์ชาย ขอทรงอภัยด้วย"
 " ข้ายกโทษให้นานแล้ว ข้ารู้ว่าสิ่งที่ท่านทำเพราะเห็นแก่เจ้าพี่แฮเมียง แล้วยังจะถือสาได้ยังไง ท่านต่างหาก ไม่รู้ว่ายังโกรธข้าหรือเปล่า"
 "เอ่อ หม่อมฉัน ไหนเลยจะกล้าโกรธองค์ชาย หึ"
 " จำได้ว่า ข้าเคยบอกอะไรท่านบางอย่าง เมื่อท่านหายโกรธแค้น แววตาจะมีความอ่อนโยน แค่ความภักดี จะไม่มีแววตาแบบนี้ และท่าน มักจะมองเจ้าพี่ด้วยแววตา แห่งความเทิดทูนใช่ไหม"
 "องค์ชาย"
 "ต่อไป มาเป็นคนสนิทของข้าได้ไหม"
 "หม่อมฉัน ยอมสละชีวิต เพื่อองค์ชายและโกคูรยอ ขอเพียงสั่งมาคำเดียว"
 " คนที่ยอมฟังคำสั่งข้ามีอยู่มากมาย แต่ว่าคนที่มีความซื่อสัตย์จริงๆ กลับมีน้อยมาก ข้าเป็นคนไม่เอาไหน และไม่ใช่ใครก็ได้ จะมาชดเชยส่วนที่บกพร่องของข้าได้หมด เหมือนที่ปฏิบัติต่อเจ้าพี่แฮเมียง ใช้ความภักดีของท่านมอบให้ข้าบ้าง อีกอย่าง คอยดูความบกพร่องของข้า และหมั่นเตือนสติ แค่นี้จะทำได้ไหม"
 "พะยะค่ะ หม่อมฉันจะพยายาม"
 มูยุลให้พักโซช่วยพาไปพบกับโทจิน ทั้งสามต่างดีใจมากที่ได้พบหน้ากัน และชวนกันไปสังสรรค์
 มาโนว่า "ฮ่า นี่ เมื่อก่อนอยู่ค่ายฝึก แล้วจู่ๆ มาเจอที่นี่เหมือนความฝันจริงๆ โทจิน ทำไมเจ้า ถึงออกจากพูยอได้ล่ะ"
 "ข้าไม่พอใจที่ฝ่าบาท ไม่เชื่อใจท่านอำมาตย์อีก"
 "แล้ว ได้พบคุณหนูยอนหรือยัง"
 "พบแล้ว"
 มาโนเริ่มมึนก็พร่ำ "ทุกวันนี้เจ้ามูยุล แทบจะขาดคุณหนูไม่ได้ ถ้าไม่เห็นหน้าก็กระสับกระส่าย แหะๆ"
 มูยุลดุ "เมาหรือเปล่าน่ะ พูดอะไรไม่รู้"
 "ทำไม ข้าพูดผิดตรงไหน ยอมสารภาพกับโทจินดีกว่า เขาชอบคุณหนูยอน หึๆๆ"
 "หึ พอแล้วน่า"
 โท จินอึ้งไปนานก่อนจะกล่าวว่า "ขอบใจที่ช่วยดูแลนางแทนข้า แต่ตอนนี้ ข้าจะดูแลนางเอง ก่อนท่านอำมาตย์จะตาย ได้ยกนางให้ข้า แม้จะไม่ถึงขนาดเป็นคำสั่งเสีย แต่ข้าก็ชอบนางมาก ชอบมาตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำ"
 "หึๆ เห็นมั้ยล่ะ ข้าเคยบอกว่าไง สิ่งที่เจ้าทำก็คือเสียเปล่า" มาโนว่า
 มูยุลตัดบท "อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย จริงสิ เจ้าอยู่กับเผ่าพีรูใช่ไหม"
 "ใช่"
 "ข้าดีใจที่เจ้ามีที่ปักหลัก แต่อยู่กับเผ่าพีรู มันน่าเป็นห่วงนะ"
 "เพราะอะไร"
 "เพราะใต้เท้าแพกึยกับข้า มีความแค้นต่อกัน" มูยุลว่า
 "ความแค้นหรือ"
 "ซักวันข้ากับมูยุล จะไปหาเขา เพื่อแก้แค้นให้ได้"
 และคำพูดของโทจินก็ทำให้ ยอน มูยุลและโทจินต่างตกอยู่ในวังวนรักสามเส้า 
 แชบูทูลพระราชาเทโซว่า
 " ฝ่าบาท วันที่ฝ่าบาททรงเกิดเรื่อง โทจินได้มาช่วยไว้ ถ้าเขาไม่มาทันเวลา เหตุการณ์อาจยิ่งเลวร้ายก็ได้ หม่อมฉัน ไม่รู้เจตนาของฝ่าบาท จึงเกือบพลั้งมือฆ่าเขาด้วยซ้ำ ถ้าฝ่าบาททรงปรึกษาหม่อมฉันซักนิด หม่อมฉันก็คงไม่เข้าใจผิด"
 "วันนั้น ใครที่รู้ว่าเป็นโทจินมาช่วยข้า ให้สังหารให้หมด"
 แชบูตกใจ "ฝ่าบาท"
 "ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องปกป้องโทจินไว้ จนกว่าจะเสร็จงานและกลับมาพูยอ ใครก็ห้ามรู้ฐานะเขา"
 "ทราบแล้วพะยะค่ะ"
 "ข้าจะส่งข่าวถึงโทจิน ไปเรียกนักรบคนหนึ่ง มาพบข้าเงียบๆ"
 "พะยะค่ะ"
 แพกึยพาโทจินมาคำนับซังกา และแนะนำว่า
 "เห็นว่าฝีมือดี จึงให้มาเป็นหัวหน้าทหารของเราน่ะครับ"
 "ไว้เจ้าอายุพอกับข้า จะเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่อาจมองทะลุได้" ซังกากล่าว
 "ข้าไม่เข้าใจความหมาย"
 "ข้าหมายถึงแววตาเขา ดูยังไงก็เหมือนจะพาเรื่องไม่ดีมาให้เรามากกว่า"
 "แต่ข้ามองว่า หนุ่มคนนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเราน่ะครับ"
 "งั้นหรือ ขอให้จริงอย่างว่าเถอะ"
00000000000000
 ด้านองค์หญิงเซยูทรงตรัสถามเฮยากับเคยูว่า
 "เกี่ยวกับคนชื่อโทจิน ไปสืบมาหรือยัง"
 "พะยะค่ะ แต่ในเผ่าพีรู ไม่มีใครรู้ประวัติเขา แม้จะเป็นคนโปรดของใต้เท้าแพกึย แต่เขาก็เพิ่งมาอยู่ที่นี่ไม่นาน"
 "เป็นไปไม่ได้ เขาบอกว่าเป็นคนของเผ่าพีรู"
 "หึ หม่อมฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม ทำไมองค์หญิงถึงสนพระทัยเขานัก"
 " หึ เพราะสร้อยเส้นนี้ สมัยก่อนข้าเคยมอบให้น้องชายคนหนึ่งที่เกิดมาไม่นานก็เสียไป แต่ไม่คิดว่า มันกลับไปอยู่กับโทจิน เขาบอกว่า มีเพื่อนคนหนึ่งมอบให้เขา ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า จึงอยากให้ไปสืบอีกที"
 เฮยากับเคยูออกมา เคยูพูดเรื่องสร้อยว่า
 " สร้อยเส้นนั้น เป็นของมูยุลไม่ใช่หรือครับ นี่มันอะไรกันแน่ หมายความว่า มูยุลเป็นองค์ชายงั้นหรือ ข้าเคยสงสัยมานาน ว่าทำไมเมื่อก่อนองค์ชายแฮเมียงถึงได้ปกป้องคนต่ำต้อยอย่างมูยุลนัก ช่วยบอกข้าทีเถอะ ว่ามูยุล ใช่องค์ชายจริงหรือเปล่า"
 "ถูกต้อง คนที่รู้เรื่องนี้ มีแต่ฝ่าบาทและข้า มูยุลไม่เคยรู้ประวัติตัวเอง เจ้าต้องปิดไว้ด้วยล่ะ"
 องค์หญิงเซยูทรงให้บ่าวมาเรียกโทจินไปพบ
 "เจ้าบอกว่าเป็นทหารของเผ่าพีรู ข้าคิดว่าเจ้าโกหก จะขอถามอีกครั้ง เจ้าของสร้อยเส้นนี้ อยู่ไหนกันแน่"
 "จากกันที่แคว้นพูยอ เราก็ขาดการติดต่อ"
 "ขืนโกหกอีก ข้าจะลงโทษเจ้า"
 "หม่อมฉัน เพิ่งมาอยู่กับเผ่าพีรูไม่นาน เพราะช่วยชีวิตท่านอำมาตย์ไว้ แต่เพื่อนหม่อมฉันคนนี้เคยอยู่กับเผ่าพีรูจริงๆ"
 เคยูตามมาจับตัวโทจินไปพบกับเฮยา
 "ต้องการอะไรกันแน่"
 " เจ้า สามารถเข้าออกวังหลวง ไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท และองค์หญิงเซยูอยู่หลายครั้ง ส่วนเรา ก็แค่ทำตามหน้าที่ สอบประวัติคนที่มาเข้าเฝ้า ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านี้ เจ้าอยู่กับเผ่าพีรูตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่สำคัญ ก่อนจะมาอยู่นี่ เจ้าทำอะไรบ้าง"
 "ไม่ได้ยินที่ถามหรือไง" เคยูดุ
 "ข้าเป็นทหารของเผ่าพีรู ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องถูกไต่สวนขนาดนี้"
 "ตอบคำถามเรามาก่อนซี่"
 "รีบพูดมาเร็ว"
 "เชิญท่านอำมาตย์มาพบข้า ไม่อย่างงั้น ข้าจะไม่พูดอะไรซักคำ"
 "บังอาจนัก รู้มั้ยว่านี่เป็นที่ไหน อยากตายหรือไง"
 "เก็บกระบี่ซะ อย่าลืมว่าพวกเรา จะคอยจับตาดูเจ้าไว้ จงจำไว้ด้วย" เฮยากล่าว
 เมื่อกลับไปถึงแพกึยก็ถามว่าองค์หญิงเซยูเรียกไปพบเรื่องอะไร และสร้อยเส้นนั้นสำคัญนักหรือ
 "เห็นว่าเคยมอบให้อนุชาที่สิ้นพระชนม์น่ะครับ"
 " อนุชาที่สิ้นพระชนม์หรือ องค์ชายยอจิน ไม่ใช่โอรสองค์ที่สามของฝ่าบาท ส่วนองค์ชายสาม คือคนที่โหรทำนายว่าจะเป็นกาลกิณี สุดท้ายเลยจับเป็นเครื่องสังเวย ถูกพระราชายูริสังหารด้วยพระองค์เอง ว่าแต่ ทำไมเจ้าได้สร้อยเส้นนี้ มาจากเพื่อนได้ล่ะ"
 "เรื่องนี้ข้าก็งงอยุ่เหมือนกัน แต่เพื่อนให้มาจริงๆ และตอนนี้ หน่วยข่าวกรองก็กำลังสืบเรื่องนี้อยู่"
 "อะไรนะ"
 "ถ้ารู้ว่าข้าเคยเป็นนักรบทมิฬ อาจทำให้ใต้เท้า นำมาซึ่งปัญหาก็ได้"
 "อึม ข้าจะให้เจ้าไปอยู่ที่อื่น หลบไปซักพักก่อน"
 "ครับ"
 โท จินจึงมีจังหวะออกไปพบนักรบที่พระราชาเทโซส่งมาพบเขา ซึ่งพระราชาเทโซรับสั่งให้เอาชีวิตของมูยุลกับมาโนให้ได้ โทจินจึงบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้
 "เพราะอะไร"
 "หน่วยข่าวกรองของโกคู รยอ กำลังสืบประวัติข้าอยู่ ช่วงนี้ข้าอาจต้องออกจากที่นี่ซักพัก นี่คือข้อมูลที่ข้าหาได้ เจ้าไปถวายฝ่าบาทก่อน"
จากนั้นโทจินก็ไปพบกับยอน และบอกนางว่า
 "หึ ข้า อาจต้องออกจากโกคูรยอซักพัก"
 "เกิดอะไรขึ้นกับท่านหรือ"
 "ไม่มีอะไร เฮ่อ ใจจริงข้าไม่อยากจากเจ้าไปไหนเลย"
 "หึ ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ดูแลตัวเองไว้ก่อน"
 โทจินเดินจากไป ยอนมองตามและถอนใจ
 น้องชายของพระมเหสีมียูกับแพกึยร่วมมือกันจับกุมมูยุลกับมาโนไป
 " หึ พวกเจ้าเคยเป็นลูกน้ององค์ชายแฮเมียง กลับลักพาตัวองค์ชายยอจิน และกลับมาเป็นลูกน้องเฮยาอีก มันช่างน่าสงสัยจริงๆ และทำไมตอนนี้ พวกเจ้ามาอยู่ในบ้านหัวหน้าหน่วยข่าวกรองได้"
 "รีบพูดมาเร็ว"
 แพกึย บอกต่อว่า "นี่คือเจ้าเมือง "ยองตัง" ซึ่งเป็นพระญาติ เขาจะมีวิธีทำให้พวกเจ้าเปิดปาก จะไม่ปรานีง่ายๆ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองสมคบแคว้นพูยอใช่ไหม ถึงให้พวกเจ้า ลักพาตัวองค์ชายยอจินไป"
 "รีบพูดมาซะ ไม่งั้นจะได้กลิ่นเนื้อไหม้จากตัวของเจ้า หือ"
 เวลานั้นเฮยารีบไปเข้าเฝ้าพระราชายูริ
 " ฝ่าบาท ถ้าไง ทรงเปิดเผยฐานะเขาให้รู้เถอะเพคะ เพราะองค์ชาย เคยไปสังหารอ๋องเทโซ ทางพูยอ คงต้องมาเอาชีวิตเขาแน่ ถ้าให้อยู่แต่ข้างนอก ก็ไม่รู้ว่าวันไหน องค์ชายจะถูกปองร้าย น่าเป็นห่วงนะเพคะ"
 ทันใดนั้นพระมเหสีมียูก็ทรงเสด็จมาเฝ้าและทูลว่า
 "เราจับคนที่ลักพายอจิน และคิดปองร้ายฝ่าบาทได้แล้วเพคะ"
 เคยูก็มากระซิบบอกเฮยา "เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ มูยุลกับมาโนถูกจับตัวไป"
 เฮยาตกใจมาก "หา"
 แพกึยกับน้องของพระมเหสีมียูกำลังคาดคั้นมูยุลกับมาโน
 "พูดเดี๋ยวนี้ ทำไมนางต้องปกป้องพวกเจ้า เพราะเฮยา สมคบแคว้นพูยอใช่ไหม"
 "ข้าไม่ได้กลิ่นเนื้อไหม้มานานเต็มที"
 เฮยาบุกเข้ามา "พวกท่านจะทำอะไร"
 มาโนดีใจ "หัวหน้า"
 "หึ รีบปล่อยพวกเขาเดี๋ยวนี้"
 "หึ ข้ากำลังจะส่งคนไปตามอยู่ มาก็ดีแล้ว นักรบทมิฬของพูยอ ทำไมไปอยู่ในบ้านของเจ้าได้"
 "พวกเขาคิดร้ายต่อฝ่าบาทและองค์ชายยอจิน ยังจะปกป้องเพื่ออะไรกัน หรือว่าพวกเจ้า มีการคบคิดกับแคว้นพูยอใช่ไหม" แพกึยว่า
 "ไม่ใช่อย่างงั้นน่ะครับ" เคยูปฏิเสธ
 "งั้นก็พูดความจริงมาให้รู้ซะสิ"
 แพกึยหันไปสั่งลูกน้อง "ยืนเฉยทำไม จับตัวพวกเขาไว้ด้วย"
 พระราชายูริทรงเสียงดังมาว่า "หยุดเดี๋ยวนี้ ปล่อยเขาซะ"
 "ฝ่าบาท ปล่อยทำไมเพคะ สองคนนี้ เคยลักพาตัวยอจินแถมยังคิดปองร้ายฝ่าบาทอีก" พระมเหสีมียูทรงทูลอย่างไม่พอพระทัย
 "ไม่ได้ยินที่สั่งหรือ ข้าบอกให้ปล่อยคนไง"
 พวกทหารปล่อยตัวมูยุลกับมาโนตามรับสั่ง แพกึยทูลว่า
 " ฝ่าบาท เรื่องนี้หม่อมฉันเห็นจะทำตามไม่ได้ เหมือนที่พระมเหสีทูล พวกเขาลักพาตัวองค์ชาย ซ้ำยังปองร้ายฝ่าบาท แม้จะเป็นลูกน้ององค์ชายแฮเมียงแต่กลับทรยศบ้านเมือง ไปเข้ากับแคว้นพูยอ แล้วจะอภัยง่ายๆ ได้ยังไง"
 "ที่พวกเขาไปเป็นนักรบทมิฬ เพราะเป็นคำสั่งจากข้า ถ้าพวกท่านได้รู้ผลงานที่พวกเขามีต่อบ้านเมือง ก็จะเข้าใจเอง หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง"
 "เพคะฝ่าบาท"
 "เอาผลงานของพวกเขา บอกให้ทุกคนฟัง"
 " พักก่อน มีข่าวว่าอ๋องเทโซ ถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ อาจมีอันตรายถึงชีวิต เชื่อว่าพวกท่านก็คงจะรู้ คนที่ไปสังหารอ๋องเทโซ ก็คือพวกเขา อีกอย่าง พวกเขาได้ข้อมูลการฝึกซ้อม และเอกสารสำคัญเกี่ยวกับนักรบทมิฬ มาจากแคว้นพูยอด้วย"
 พระราชายูริทรงเสริมว่า "สิ่งที่ทหารของเราไม่เคยทำได้ แต่พวกเขาทำได้หมด นับแต่นี้ไป พวกเขาจะอยู่กับหน่วยข่าวกรอง ทำงานเพื่อบ้านเมืองของเรา เพราะความโง่ของพวกท่าน ทำให้พวกเขาถูกเผยฐานะ ทีหลังถ้ามีอะไรเกิดกับพวกเขา ข้าจะให้ท่านทั้งสองรับผิดชอบหมด"
จบ 15

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 16  

 พระราชายูริตรัสถามมูยุล "พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม"
 "พะยะค่ะ”
 " ระหว่างที่พวกเจ้าไปทำงาน  ก็เพื่อให้บ้านเมืองได้อยู่อย่างมั่นคง สิ่งที่พวกเจ้าทำให้โกคูรยอ ข้ารับรู้หมดแล้ว นับแต่นี้ไป เฮยาจะดูแลความปลอดภัยให้ หน้าที่ของพวกเจ้า ก็คือรับใช้บ้านเมืองให้เต็มที่"
 "หึ พะยะค่ะ"
 เมื่ออยู่กันตามลำพัง มาโนคุยกับมูยุล
 " นี่ ตอนนี้ฝ่าบาทยอมรับเราแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ น่ะสิ ความผิดที่เคยเป็นนักรบทมิฬก็หมดไปด้วย และต่อไป เราไม่ต้องแอบอยู่ในบ้านเงียบๆ จะไปเดินเล่นที่ไหนก็ได้"
 "อึม น่าจะเป็นอย่างงั้น"
 "แหะ แหม แบบนี้ค่อยยังชั่ว"
 "ทำไมหรือ"
 " ถ้าเราไปไหนมาไหนได้ เจ้าก็ไปหาคุณหนูยอนตามสบาย จริงมั้ย เฮ่อๆๆ นี่ ถามจริงเถอะ วันก่อนคำพูดที่โทจินพูดกับเรา ทำให้ผิดหวังหรือเปล่า"
 "ไม่หรอก"
 "นี่ ไหนๆ ก็ไหนๆ เราไปคุยกับคุณหนูยอนดีกว่า หึๆๆ"
 เรื่อง ที่พระราชายูริทรงช่วยชีวิตมูยุลเอาไว้เป็นเหตุให้คนจำนวนมากเกิดความเคลือบ แคลงสงสัยขึ้นมา แพกึยได้รับรายงานว่าโทจินเกี่ยวพันกับสร้อยคอที่องค์หญิงเซยูทรงประทานให้ มูยุล เรื่องนี้เองทำให้แพกึยเกิดความเคลือบแคลงสงสัยฐานะที่แท้จริงของมูยุลขึ้น มา
 องค์ชายยอจินมาพบมูยุลด้วยความเป็นห่วง
 "ได้ยินว่าพวกท่านถูกจับกุม ไม่เป็นไรใช่ไหม"
 "พะยะค่ะ"
 "ขอโทษด้วยนะ ทุกอย่างเพราะข้าเป็นต้นเหตุ ข้าต้องขอโทษแทนเสด็จแม่ด้วย"
 "ไม่เป็นไรพะยะค่ะ ตอนนี้ เราสองคนถือว่าได้ปลดแอกตัวเอง กลายเป็นว่า ยิ่งเป็นอิสระมากขึ้น"
 "เราได้รับการยอมรับ ให้ทำงานกับหน่วยข่าวกรองอย่างเปิดเผย ต่อไปไม่ต้องหลบซ่อนอีก"
 "จริงหรือ งั้นก็ดี ยินดีด้วยนะ ต่อไป เราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น"
 ยุนวาเตือน "องค์ชาย"
 "รู้แล้วน่า อย่าบ่นเลย ข้าจะไม่ให้เสด็จแม่รู้ และไม่ให้เจ้าลำบากด้วย ต่อไป อย่าลืมมาหาข้าบ่อยๆ นะ"
 "พะยะค่ะ องค์ชาย"
 ด้านเฮยาก็พยายามทูลให้พระราชายูริเปิดเผยฐานะของมูยุล
 "ฝ่าบาท คราวนี้ฝ่าบาท ได้เสด็จไปช่วยองค์ชาย และให้การยอมรับพวกเขา ถ้าไง ทรงเปิดเผยฐานะองค์ชาย จะดีมั้ยเพคะ"
 "ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา"
 "เอ่อ ฝ่าบาท"
 " แม้ข้าจะคืนฐานะองค์ชายให้เขาไม่ได้ แต่จะคอยดูเขาไว้ เพราะทุกวันนี้ยังไม่ลืมคำทำนายของโหรหลวง แต่ข้าจะดูว่า เขาสามารถพลิกชะตาอันวิบากของตัวเองได้แค่ไหน เพื่อจะยืนหยัดในอนาคต"
 "หึ ฮือ ฝ่าบาท"
 มาวังตัดสินใจถามยอนว่า ยอนเป็นลูกสาวของทังโนใช่หรือไม่
 "เอ่อ เจ้า เป็นลูกสาวทังโนใช่ไหม พูดมาตรงๆ อย่าคิดโกหก เป็นองค์หญิงของแคว้นพูยอใช่ไหม"
 ยอนยอมรับความจริง "ใช่"
 มาวังตกใจ "ว้าย ล้อเล่น แล้วทำไมถึงได้ตกอับ เป็นทาสให้เขาซื้อมาขายไป อย่างงี้ล่ะ"
 "พ่อข้ามีโทษฐานก่อกบฎ ถูกประหารชีวิต"
 "กบฎหรือ ตายล่ะ โอย คุณพระช่วย เฮ่ย โอ๊ย" มาวังตกใจมาก
 เฮยาเชื้อเชิญคูชูถ่ายทอดความรู้แขนงต่างๆ ขององค์ชายให้มูยุล ทำให้มูยุลซึ่งไม่รู้ความในมาก่อนมีโอกาสได้เรียนรู้ความรู้แขนงต่างๆ
 มาโนถาม "ให้เราไปรับการอบรมหรือ"
 "เพราะตอนนี้พวกเจ้าเป็นคนของหน่วยข่าวกรองอย่างเต็มตัว จึงต้องรับการฝึกในหลักสูตรเฉพาะ"
 "เฮ้ย ฝึกไปทำไหม ไม่จำเป็นสำหรับเราสองคนหรอกครับ"
 เฮยาตอบว่า "จริงอยู่ ข้าเชื่อว่าเจ้ากับมูยุลมีความสามารถทั้งคู่ แต่ว่า เพื่อให้ทำงานดีขึ้น ยังต้องมีความรู้ด้านอื่นอีก"
 "เช่นอะไรบ้าง"
 "รู้เหตุการณ์ในบ้านเมืองตัวเอง และความสัมพันธ์กับชนเผ่าต่างๆ รวมถึงภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์และหลักการปกครอง"
 มาโนแปลกใจ "ทั้งหมดนี้ ต้องรู้หมดหรือ"
 เคยูตอบ "ก็ใช่น่ะสิ"
 "นึกว่าจะได้อยู่สบาย กลับต้องมาเหนื่อยอีก เรื่องเรียนหนังสือ ปล่อยให้มูยุลไปเรียนเถอะ ถึงไม่รู้อะไร ข้าก็ทำงานได้"
 เคยูดุ "เจ้านี่แปลกจริง อยากเป็นลูกน้องทั้งชาติหรือไง ในสมองต้องมีอะไรบ้าง ถึงจะสอนคนอื่นได้"
 "เรียนรู้ไว้ ซักวันคงได้ใช้ประโยชน์ อย่าเลี่ยงเลยนะ"
 "ครับ เรียนอะไรก็ไม่รู้ ภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ ของพวกนี้จะเรียนไปทำไม" มาโนบ่นกับมูยุล
 "รู้ไว้ก็ไม่เสียหลายหรอก" มูยุลว่า
 นางในเข้ามาบอกมูยุลว่าองค์หญิงเซยูรับสั่งให้ไปเข้าเฝ้า
 "องค์หญิง ยังทรงจำเราได้หรือ" มูยุลทูลถาม
 " ข้าจะลืมคนของเจ้าพี่ได้ยังไง เชิญนั่งก่อน ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าไปลำบากมาขนาดไหน ข้าได้ยินเคยูพูดหมดแล้ว แต่แม้ตัวเองจะลำบาก ก็ยังห่วงใยบ้านเมือง ถือว่าน่าชมเชย ทุกครั้งที่เห็นเจ้า ข้าก็ยิ่งคิดถึงเจ้าพี่มากขึ้น ไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกเจ้าจะเหมือนเขามาก หึ เห็นพวกเจ้าก็เหมือนเจ้าพี่มาอยู่ใกล้ๆ ต่อไปถ้ามีเวลาก็แวะมาคุยกับข้านะ"
 "พะยะค่ะ"
 ด้านนักรบมารายงานแชบูว่าพบยอน และเห็นโทจินไปพบยอนด้วย แชบูสั่งนักรบว่าห้ามบอกใคร
 เวลา นั้นเจ้ากรมทหารกับเจ้ากรมปกครองถูกลอบสังหาร พระราชายูริทรงสั่งให้องค์ชายยอจินไปปลอบใจครอบครัววผู้ตาย และให้เฮยาสืบว่าเป็นฝีมือพวกไหน
 พักโซบอกว่า "ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่าคนร้ายมาคนเดียวครับ"
 เคยูถามย้ำ "คนเดียวหรือ"
 พักโซยืนยัน "อึม"
 "คนเดียวทำได้ขนาดนี้ น่าจะเป็นฝีมือนักรบทมิฬไม่ผิด"
 "ไม่เกี่ยวกับนักรบทมิฬหรอกครับ" มูยุลว่า
 "ทำไมพูดอย่างงั้น แน่ใจหรือเปล่า" เฮยาถาม
 " ที่แล้วมา ข้าศึกษาอาวุธทุกชนิด แต่ไม่มีอย่างไหนที่ก่อให้เกิดบาดแผลอย่างที่เห็น ถ้าเป็นอาวุธที่นักรบทมิฬใช้อยู่ ไม่ว่าชนิดไหน ออกมาเป็นบาดแผลหน้าตายังไง เชื่อว่าข้ากับมาโน ไม่มีทางที่จะไม่รู้"
 "ใช่ครับ ท่านหัวหน้า"
 "เพื่อความมั่นใจ ข้าจะไปดูศพของเจ้ากรมทหาร แล้วค่อยมารายงานอีกที"
 "รีบไปรีบมาล่ะ ไม่แน่ว่า ที่เกิดเหตุอาจมีร่องรอยบางอย่าง เจ้าพาคนไปดูให้ละเอียดหน่อย"
 มาโนคุยกับมูยุลว่า "ดูเผินๆ เหมือนอาวุธที่ยาวแต่แหลมคม"
 "น่าเสียดายที่ว่า คนร้ายทิ้งไว้แค่แผลเดียว และดูจากบาดแผล คนที่ถูกแทง น่าจะสิ้นใจทันที หรือต่อให้ไม่ตาย ก็อยู่ได้ไม่ถึงอึดใจ"
 "แปลว่าคนร้ายลงมือแม่นมาก ครั้งเดียวก็โดนจุดสำคัญสิ เฮ่ย"
 องค์ชายยอจินเข้ามาหาทั้งสองคน "ทำไมพวกเจ้ามาอยู่แถวนี้"
 "รับคำสั่งจากหัวหน้า ให้มาดูศพเจ้ากรมทหารพะยะค่ะ"
 "แล้วทำไมองค์ชาย ก็มาอยู่นี่ด้วยล่ะ"
 "ฝ่าบาทรับสั่งให้ข้ามาปลอบใจครอบครัวผู้ตาย พอตรวจเสร็จแล้ว จะรีบกลับวังใช่ไหม"
 "พะยะค่ะ"
 "ถ้าอย่างงั้น พวกเจ้ารออยู่นี่ เดี๋ยวข้าออกมา และจะไปที่ๆ หนึ่งด้วย" องค์ชายยอจินชวน
 "ไปไหนหรือพะยะค่ะ"
 "ข้าไม่ได้ออกจากวังมานานหลายเดือน อยากชวนพวกเจ้าไปเดินเล่นด้วยกันหน่อย ทำไมหรือ มีอะไรจะพูดกับข้า" องค์ชายยอจินถามมูยุล
 "หึ หม่อมฉัน อยากให้องค์ชายอยู่กับครอบครัวผู้ตาย"
 "ทำไม? จำเป็นอย่างงั้นหรือ"
 " องค์ชายเคยรับสั่ง ว่าอิจฉาองค์ชายแฮเมียง แม้สิ้นพระชนม์ไปนาน ยังมีคนภักดีอยู่ใช่ไหม ที่เราภักดีต่อองค์ชายแฮเมียง เหตุผลหลักใหญ่ก็คือ ไม่ว่าทุกข์หรือสุข องค์ชายจะทรงแบ่งปันกับพวกเราอยู่เสมอ ขุนนางที่มีอยู่ตอนนี้ แม้จะเป็นคนของฝ่าบาท แต่อนาคต จะเป็นคนขององค์ชาย องค์ชาย จึงควรที่จะ ใส่ใจพวกเขาบ้าง แล้วหลังจากนั้น พวกเขาก็จะเห็นความดี ยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อองค์ชาย"
 "ข้าก็ไม่ทันคิด ถ้าไงจะไม่ลืมคำเตือนของท่าน"
 "หม่อมฉัน บังอาจสั่งสอนองค์ชาย ต้องขออภัยด้วย"
 "ไม่เป็นไร ข้าเคยบอกให้ท่านช่วยเตือนสติอยู่แล้วนี่นา"
 "ขอบพระทัยองค์ชายพะยะค่ะ"
000000000000000000
 เฮยาเข้าเฝ้าพระราชายูริและทูลถึงเรื่องที่ไปสืบ
 "ไม่มีหลักฐานยืนยัน ว่าเป็นฝีมือนักรบทมิฬจากพูยอเพคะ"
 "ถ้าอย่างงั้น คนที่สามารถทำได้ขนาดนี้จะมีใครอีก เผ่าพีรูงั้นหรือ"
 " แต่ว่าฝ่าบาทเพคะ ทุกวันนี้แม้แต่เผ่าพีรู ก็ไม่กล้าทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัย หม่อมฉันไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าเหิมเกริม มาก่อเรื่องในเวลานี้"
 "ไม่ใช่ พวกเขาจะลองใจข้ามากกว่า เรียกประชุมหัวหน้าเผ่าเดี๋ยวนี้"
 ซังกาสอบถามแพกึยว่าเขาเป็นคนบงการใช่ไหม
 แพกึยตอบว่า "ขุนนางสองคนที่ตาย ไม่เหมือนกับการลอบสังหารหัวหน้าเผ่าคีซานนะครับ"
 "ถ้าอย่างงั้น เป็นฝีมือแคว้นพูยอหรือ"
 บ่าวของซังกาตอบว่า "ได้ยินว่าไม่เกี่ยวกับนักรบทมิฬ"
 "เฮ่อ แล้วจะมีใครอีก ทำแบบนี้ผู้ต้องสงสัยในสายตาฝ่าบาทมิต้องเป็น"
 "เรียนใต้เท้า ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ไปประชุมครับ"
 พระ ราชายูริทรงตรัสว่า "เมื่อคืนเจ้ากรมทหารและเจ้ากรมปกครองถูกสังหาร จากการสืบสวนของหน่วยข่าวกรอง พบว่าไม่ใช่ฝีมือคนของแคว้นพูยอ และข้า กลับคิดว่า ผู้บงการน่าจะเป็นคนที่อยู่นี่ เป็นใคร ใครต้องการเอาชีวิตขุนนางของข้า"
 ซังการีบบอกว่า "เราไม่เกี่ยวนะพะยะค่ะ"
 "ตอนนี้เราก็กำลังสืบหาคนร้ายอยู่เหมือนกัน ขอเพียงให้เวลาซักนิด เชื่อว่าน่าจะ"
 พระราชายูริตรัสแทรกว่า "คนร้ายอยู่ที่นี่จะต้องไปหาที่ไหนอีก"
 แพกึยทูลว่า "รับสั่งผิดแล้วพะยะค่ะ ทำไมทรงเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับพูยอ แต่เป็นฝีมือชนเผ่าอย่างเรา ทรงมีหลักฐานหรือเปล่า"
 "งั้นท่านรู้หรือว่าเป็นฝีมือใคร"
 " ฝ่าบาท ทรงลืมแล้วหรือพะยะค่ะ เหมือนที่คราวก่อนองค์ชายยอจินถูกลักพาตัว พวกหม่อมฉันก็ถูกหาว่าเป็นตัวการ ต้องอดทนต่อข้อสงสัยของฝ่าบาท แล้วสุดท้าย ผลเป็นยังไงบ้าง ไม่ใช่ฝีมือนักรบจากพูยอหรอกหรือ หัวหน้าเผ่าต่างๆ เป็นตัวแทนชนเผ่าที่ขึ้นตรงต่อโกคูรยอ แต่ฝ่าบาท กลับทรงอคติมองเราในแง่ร้าย  แบบนี้มิทำให้บ้านเมืองสั่นคลอนหรือพะยะค่ะ ถ้าทรงทำแบบนี้อีก เราเห็นจะไม่อยู่เฉยแน่"
 "พูดแบบนี้คือจะขู่ข้าใช่ ไหม เมื่อก่อนพวกท่านเคยแข็งข้อ ข้าก็ทำไม่รู้ไม่เห็น อภัยได้ก็อภัยอยู่หลายครั้ง เพราะเห็นว่าการประนีประนอมจะทำให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข แต่แล้ว พวกท่านได้ทำอะไรบ้าง มีแต่คอยหาโอกาสยุยง ก่อความไม่สงบไม่ว่าจะเป็นในวังหรือนอกวัง มาตอนนี้ยังจะฆ่าขุนนางที่ภักดีต่อข้าอีก  ตกลงใครกันแน่ ที่จะทำให้บ้านเมืองสั่นคลอน"
 คูชูรีบทูลเตือน "ฝ่าบาท ทรงมีสติไว้ก่อน"
 มูยุลนึกถึงตำราอาวุธและการต่อสู้ที่โทจินมอบให้ และไปขอใช้ห้องผลิตอาวุธกับองค์ชายยอจิน องค์ชายยอจินทรงตรัสถามว่า
 "ท่านกำลังทำอะไรอยู่น่ะ"
 "อ้อ องค์ชาย หม่อมฉันจะผลิตอาวุธตามรูปที่เห็น"
 "ท่าน ผลิตอาวุธเป็นด้วยหรือ"
 "หึ ตอนเป็นนักรบทมิฬ พวกเขาได้สอนให้รู้วิธีผลิตอาวุธด้วย"
 "งั้นหรือ แล้วทำไม ต้องลงมือด้วยตัวเอง ถ้าจะผลิตอาวุธ เรามีทหารช่าง ที่ชำนาญเรื่องอาวุธทุกแขนง"
 "เรื่องนี้ หม่อมฉันอยากให้เป็นความลับ ระหว่างเราสองคน"
 "ท่านบอกว่า เป็นความลับระหว่างเราสองคนหรือ"
 "ใช่"
 "งั้นก็ได้ ข้าจะช่วยปิดเป็นความลับไว้"
 "ขอบพระทัยพะยะค่ะ องค์ชาย"
 มูยุลนำเรื่องนี้มาบอกมาโน
 "เจ้าบอกว่าความรู้ตรงนี้ ได้จากโทจินหรือ งั้น แสดงว่าคนร้ายที่มา คือเขาน่ะสิ" มาโนว่า
 "ดูเหมือนจะใช่"
 "หึ ถ้าหาก เป็นอย่างที่เราคิด ผู้บงการก็คือแพกึย เมื่อเขาสั่ง โทจินก็ต้องทำตาม"
 "เรื่องนี้ อย่าเพิ่งไปบอกใคร"
 "แม้แต่หัวหน้าก็ไม่พูดหรือ"
 "ข้าจะไปพบโทจินก่อน"
 มาวังคิดไปคิดมาแล้วก็ตัดสินใจมาบอกยอนว่า
 " เฮ่อ หึ ข้าน่ะ คิดสะระตะอยู่หลายตลบ ตั้งแต่รู้ฐานะเจ้า ข้าก็แทบกินนอนไม่เป็นสุข ตอนนี้ไม่ต้องห่วงคนไข้อีกแล้ว ไปอยู่กับท่านซังกาดีกว่า แม้ว่าที่นี่จะเป็นโกคูรยอ แต่เจ้าเป็นชนชั้นสูงของแคว้นพูยอ อาจทำให้ข้าเดือดร้อน"
 "หา ท่านมาวัง"
 "ไปอยู่กับท่านซังกาจะปลอดภัยกว่า อีกอย่างเขาพอใจการรักษาของเจ้ามาก ต่อให้รู้ว่าเป็นองค์หญิง เขาก็ยังปกป้องได้อยู่ดีน่ะนะ"
 "ให้ข้าอยู่นี่เถอะค่ะ ข้าให้สัญญา จะไม่ทำให้ท่านเดือดร้อนซักนิด"
 "ยอน"
 "ข้าไม่เป็นภาระให้ท่านด้วย โปรดเชื่อข้า ถ้าให้ข้าอยู่ด้วย รับรอง อีกหน่อยท่านจะมีโชคลาภ" มาวังลำบากใจ
 ด้านแพกึยก็บ่นให้โทจินฟัวว่า
 " วันก่อน ขุนนางสองคนที่เป็นคนโปรดของพระราชายูริถูกสังหาร รู้ทั้งรู้ว่าไม่เกี่ยวกับเผ่าพีรูของเรา แต่ก็ยังสงสัยเราอยู่ แถมยังมาคาดคั้นอีก ทุกวันนี้ทรงเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งว่าเห็นเราเป็นศัตรู รู้มั้ยว่าเพราะอะไร เพื่อจะถือโอกาสนี้ ถอนรากถอนโคนเผ่าพีรูของเราซะ ซึ่งข้าจะไม่ยอมอยู่เฉย อยากให้เจ้า ช่วยหาวิธีรับมือพระราชายูริหน่อย"
 "ความหมายก็คือ แม้แต่ลอบปลงพระชนม์ก็ทำได้หรือ" แพกึยมองเขานิ่ง
 โทจินแวะมาหายอน นางถามด้วยความเป็นห่วงว่าหายไปไหนมา
 โทจินตอบว่า "ท่านอำมาตย์ส่งข้าไปทำงาน เลยไปอยู่เมืองโชบุนหลายวัน"
 "หึ เห็นท่านปลอดภัยก็ค่อยเบาใจหน่อย"
 "ขอบใจมาก"
 "วันนี้รู้สึกสีหน้าไม่สู้ดี เอายาไปกินนะ"
 "ยอน ข้าคิดถึงเจ้า วันหลังข้าจะมาเยี่ยมอีก"
 "ได้ค่ะพี่โทจิน" พอดีมูยุลก็มาพบยอน "เอ่อ เราสามคนไม่ได้อยู่พร้อมหน้าตั้งนาน เข้าไปข้างในก่อนมั้ย"
 "หึ ขอโทษด้วย วันนี้ ข้ามีเรื่องจะคุยกับโทจินตามลำพัง" มูยุลบอก
 และพออยู่กันตามลำพัง มูยุลถามโทจินว่า
 "นี่คือ เจ้าทำใช่ไหม"
 "หมายความว่าไง"
 "ขุนนางสองคนของโกคูรยอ ตายด้วยอาวุธที่มีลักษณะคล้ายแบบนี้ เจ้าน่าจะ คุ้นเคยกับมันดี ใต้เท้าแพกึยเป็นคนสั่งใช่ไหม"
 "ข้าไม่รู้เจ้าพูดอะไร"
 "ไม่ ทั้งเจ้า และข้า ต่างก็รู้แก่ใจ ถอนตัวจากพวกเขาเถอะ"
 "พวกเขารับข้าไว้ตอนออกจากพูยอ ข้าทิ้งไม่ได้"
 " ถ้าทำงานให้เผ่าพีรูอีก ยิ่งถลำลึกมาก เจ้าจะไม่ได้กลับตัว แล้วสุดท้ายจะได้อะไรรู้มั้ย เราสองคน อาจต้องเผชิญหน้าด้วยอาวุธและห้ำหั่นกันเอง"
 "ต่อให้เป็นอย่างงั้น มันก็ช่วยไม่ได้"
 มูยุลอึ้ง "โทจิน"
 "ถึงจะเคยเป็นเพื่อนมาก่อน ซักวันเปลี่ยนไปก็ไม่เห็นแปลก เราสองคนอาจจะเคยเป็นเพื่อนร่วมทาง แต่วันนี้กลายเป็นเส้นขนานแล้ว"
000000000000000
 โทจินตัดสินใจบอกแพกึยว่ามูยุลคือคนที่มอบสร้อยเจ้าปัญหาให้กับเขา
 "คนที่มอบสร้อยคอให้เจ้า ก็คือเขาหรือ ถ้าอย่างงั้น ทำไมป่านนี้เพิ่งมาบอกล่ะ"
 " เขาเป็นเพื่อนที่ข้ารู้จัก ตอนอยู่ค่ายนักรบทมิฬ เมื่อก่อนไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับองค์ชายแฮเมียง ทำให้ข้าไม่รู้ถึงความสำคัญของสร้อยเส้นนี้ด้วย"
 "ถ้ามูยุลคือเจ้าของสร้อยเส้นนั้นจริง"
 "โอรสองค์ที่สามของพระราชายูริ อาจเป็นมูยุลก็ได้" โทจินว่า
 แพกึยนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ซังกาฟัง ซังกาหน้าตาตื่น
 "เจ้าพูดจริงหรือนี่"
 " แม้จะไม่แน่ชัด แต่โอกาสเป็นไปได้สูง ครั้งหนึ่งฝ่าบาทไปอยู่แคว้นพูยอ องค์ชายแฮเมียงยังพาทหารไปที่ชายแดน เพื่อช่วยมูยุลให้ได้ ส่วนฝ่าบาทก็ปกป้องเขา แม้จะเคยลักพาตัวองค์ชายยอจินก็ตาม"
 "นั่นสิครับใต้เท้า ดูจากที่ฝ่าบาทและองค์ชายแฮเมียงปกป้องเขา แสดงว่าท่านอำมาตย์เดาไม่ผิด"
 "ตอนนี้ ข้ามีวิธีจะเล่นงานฝ่าบาทได้บ้าง"
 หลังจากที่แพกึยรู้ความจริงทั้งหมดแล้วก็ทำพิธีเพื่อให้เรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นในแผ่นดินให้บังเกิดขึ้นมาอีกครั้ง
 มี ซากนกมาตกอยู่ในวัง เป็นร้อยตัว เฮยาให้ทุกคนไปสืบว่าเกิดอะไรขึ้น พักโซกลับมารายงานว่าบ่อน้ำในตัวเมืองกลายเป็นสีแดง บางแห่งก็มีโรคระบาด ชาวบ้านบอกว่า เกิดจากอาเพท แต่เฮยาคิดว่าน่าจะมีใครอยู่เบื้องหลัง
 มู ยุลไปสืบพบหลายบ้าน ที่สัตว์เลี้ยงถูกฆ่าแล้วควักเอาอวัยวะออกมา หึ และอวัยวะของสัตว์ มูยุลคิดว่าการที่น้ำในบ่อกลายเป็นสีแดง ไม่ใช่เพราะเกิดอาเพท แต่มีคนคิดร้าย เอาเครื่องในของสัตว์ ไปทิ้งในบ่อต่างหาก
 "ตอนนี้ทางการ กำลังสืบหาคนร้ายอยู่ ขอให้ทุกท่านวางใจ และนับแต่นี้ อย่าตื่นกลัวเพราะข่าวไร้สาระ ขอให้เชื่อใจทางการ ประตูเมืองทิศใต้ ทางโน้นเป็นไงบ้าง" มูยุลกล่าวกับชาวบ้าน
 มูยุลยังไปช่วยพาชาวบ้านไปรักษากับยอน และถามยอนว่าพวกชาวบ้านป่วยเป็นโรคอะไร
 "ข้าก็เพิ่งเคยเจออาการแบบนี้ ตอนนี้แค่ใช้ยาประทังชั่วคราว ถ้าหาสาเหตุของโรคไม่ได้ อาจมีคนล้มตายมากขึ้น คนช่วยดูแลก็ไม่พอด้วย"
 "ไปบอกหัวหน้าให้รู้ ขอให้หมอหลวงมาช่วย เร็วเข้า"
 มาโนรีบไป ยอนกล่าวกับมูยุล "หึ ขอบใจมากนะ"
 "หมอหลวงมาถึง เจ้าก็พักผ่อนบ้างล่ะ"
 "ไม่เป็นไร ยังมีคนไข้อีกเยอะ ขอตัวก่อนนะ หึ"
 มูยุลเห็นเด็กวาดรูปก็เข้าไปถามว่ารูปที่เขาวาดหมายถึงอะไร จนได้เรื่อง มูยุลกับเฮยาจึงไปเข้าเฝ้าพระราชายูริ
 พระราชายูริตรัสถาม "สืบได้อะไรบ้าง"
 "แม้ว่า ยังไม่รู้ตัวผู้บงการ แต่มูยุล ได้พบต้นตอที่เกิดเหตุ มีผลงานอย่างมากเพคะ"
 "เรื่องคนร้ายเอาไว้ก่อน ยังมีเรื่องสำคัญกว่านั้นพะยะค่ะ"
 "เรื่องอะไร"
 "ตอนนี้ข้างนอก มีข่าวลือบางอย่างเกิดขึ้น"
 "ข่าวลืออะไรกัน"
 " เป็นเรื่องเกี่ยวกับผีสางพะยะค่ะ มีคนไปเล่าให้เด็กฟัง กลายเป็นข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง และที่น่ากลัวกว่าเรื่องของผีสางก็คือ ชาวบ้านที่หูเบา  หลงเชื่อข่าวง่ายๆ พะยะค่ะ ถ้าไม่ระงับข่าวลือก่อน ไม่แน่ว่า เหตุการณ์อาจยิ่งบานปลายก็ได้ หม่อมฉันคิดว่า อาจถึงเวลาที่ฝ่าบาท ต้องเปิดเผยความจริงซะที"
 "เจ้าพูดมาให้ฟังก่อน ว่าข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องอะไร"
 "บอกว่ามีคนตายแล้วคืนชีพ ทำให้เกิดอาเพทหลายอย่างพะยะค่ะ"
 "คนตายฟื้นคืนชีพหรือ"
 " คนตายที่ว่า ก็คือเมื่อ 20 ปีก่อน องค์ชายที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว ชาวบ้านบอกว่าองค์ชายองค์นั้น ถ้าไม่เพราะยังไม่สิ้นพระชนม์ หรือไม่ก็เพราะ วิญญาณกลับมา ทำลายบ้านเมืองอีกครั้ง"
 พระราชายูริทรง อึ้งเมื่อฟังคำเล่าขานของพสกนิกรที่ว่าองค์ชายที่สิ้นพระชนม์ไปแล้วได้กลาย เป็นปิศาจกลับมายังแคว้นอีกครั้ง จากปากของมูยุล
จบ 16



เครดิต: oknation.net/blog/lakorn

   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 15 - 16
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์