แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
Coach F76636 Town tote in signature canvas
ดูขนาดรูปภาพจริง
หมวก
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอมมูร่า เซซามิน งาดำ เชียงใหม่ (อย 12-1-05150-1-0105)
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมจิวเวลรี่ , โปรแกรมขายจิวเวลรี่ , โปรแกรมขายหน้าร้านจิวเวลรี่ , JEWELRY SOFTWARE
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lovely : Seecon ดำ E18
ดูขนาดรูปภาพจริง
LG เครื่องซักผ้าฝาบน ขนาด 12 KG.
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรโมชั่น ROCKZ X Ceramic (3in1) แม่แพท ณปภา-น้องเรสซิ่ง สเปรย์เคลือบฟิล์มแก้ว
ดูขนาดรูปภาพจริง
Revitox Creme ครีมหน้าเด้ง โบท๊อก
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนมปังญวน ,ขนมปังเวียดนาม
ดูขนาดรูปภาพจริง
Music D.J. (700E) +USB แถม Microphone - c0132
ดูขนาดรูปภาพจริง
ปั๊มสูบส่งของเหลว ปั๊มสูบส่งของหนืด สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
ดูขนาดรูปภาพจริง
Olympus City Garden (โอลิมปุส ซิตี้ การ์เด้น)
ดูขนาดรูปภาพจริง
เลนส์เสริมมือถือ รุ่น HPLQ-027 คลิปเลนส์ 0.45X Wide-angle 10X Macro-lens
ดูขนาดรูปภาพจริง
Skin Biology Super CP Serum Set (2 Items) เซ็ต
ดูขนาดรูปภาพจริง
พระขุนแผนพรายกัญญา พรายแม่นิด เนื้อลองพิมพ์ ฝังตะกรุดเงิน ญาครูจุณฑ์ เสนาสนะวัตร์ป่าเจ้าสัว อุบลฯ
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย ถั่วเขียวมอนสเตอร์ มินิ สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมเช็คสต๊อคผ่าน Ipad หรือ Tablet , โปรแกรมนับสต๊อคผ่าน Ipad หรือ Tablet
ดูขนาดรูปภาพจริง
ไอเดียการ์ดใส ปั๊มเคเงิน-เคทอง ประกายวาว
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair 4 กล่อง (เรียวแฮร์ เซรั่มปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
คอนโดสำหรับเช่า 1 ห้องนอน City Garden Pratumnak (ซิตี้ การ์เด้น พระตำหนัก)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Verena Nutroxsun นวัตกรรมใหม่ของผลิตภัณฑ์กันแดดในรูปแบบของการชงแล้วดื่ม
ดูขนาดรูปภาพจริง
Cable CLIP (3M) Black c030
ดูขนาดรูปภาพจริง
COLLY PLUS 10,000 MG.
ดูขนาดรูปภาพจริง
Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ปั๊มโดสสารละลาย เติมวิตามินความแม่นยำสูง เพื่อกระบวนการผลิตน้ำดื่ม
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน [ ตอนที่ 5 - 6 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 408 ครั้ง            update : 17/7/2009

   
   
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 5  
 มูยุลถูกทังโนนำตัวไปลงโทษที่มาพาตัวยอนหนี
 ขณะที่ทังโนกับยอนยังเฝ้าพระราชาเทโซอยู่
 ทังโนทูลว่า “อึ้ม เฮ่อๆๆ เพราะความสามารถในการบริหารของฝ่าบาท เทียบกับสมัยก่อน นับว่าเจริญกว่ามากนัก ถ้าไงต่อไปอย่าทรงงานให้หนัก ห่วงพระวรกายไว้บ้าง”
 "ทำไมอยากให้ข้าวางมือซะจริง เฮ่อๆๆ เจ้าเห็นด้วยหรือเปล่า" พระราชาเทโซถามยอน
 "หม่อมฉันเห็นแต่สีพระพักตร์ไม่สู้ดี คงถึงเวลา ควรจะสละบัลลังก์ได้แล้ว"
 ทังโนตกใจรีบดุ "ลูกยอน"
 พระราชาเทโซยกมือปราม "เฮ่อๆๆ ไม่เป็นไร หมู่นี้ข้าก็รู้สึกอ่อนเพลียอย่างบอกไม่ถูก ก็น่าอยู่หรอก กรำศึกมาหลายสิบปี ไม่เหนื่อยก็แปลกแล้ว ถ้าไงข้าคงต้องใช้งานพ่อเจ้าให้มากขึ้น ท่านอำมาตย์"
 "พะยะค่ะฝ่าบาท"
 "ข้าอยากให้ท่าน รับตำแหน่งผู้ดูแลเชื้อพระวงศ์ และเหล่าขุนนางทั้งหลายให้อยู่ในกรอบ เชื่อว่าท่านน่าจะทำงานได้ดี ให้ราชสำนักเป็นที่เทิดทูนยิ่งกว่าทุกวันนี้"
 "หม่อมฉันพร้อมจะทำตามพระบัญชา"
 "เฮ่อๆๆ เป็นไงล่ะ โอนงานบางส่วนให้พ่อเจ้าแล้ว ข้ายังจะครองบัลลังก์ต่อไปได้ไหม"
 "ได้เพคะ หม่อมฉันขอดื่มให้ฝ่าบาท"
 "เฮ่อๆๆ ขอบใจมาก เฮ่อๆๆ"
 ยอนกับทังโนกลับออกมาจากตำหนัก ยอนกล่าวกับทังโนว่า
 "ข้าดูยังไง ก็รู้สึกพระพักตร์ไม่ค่อยปกติ เหมือนพระอนามัยของฝ่าบาทไม่สู้ดีน่ะค่ะ"
 "หึๆ เจ้าอย่าห่วงนักเลย ทุกวันนี้ฝ่าบาททรงอยู่ใกล้หมอเพื่อจะให้พระชนม์ยืนยาว และเพื่อป้องกันการถูกวางยา ทั้งเครื่องเสวยและโอสถล้วนมีการตรวจอย่างเข้มงวด ลำพังแค่องครักษ์ก็มีถึงร้อยกว่าคน อีกหน่อยอาจเอาอย่างจิ๋นซีฮ่องเต้ ส่งคนไปแสวงหายาอายุวัฒนะ เจ้าไม่ต้องห่วงแทนหรอก หึๆๆ"
 ขณะที่มูยุลอยู่ในห้องขัง สายลับเมืองฮวางกุกซึ่งต้องโทษประหารไหว้วานให้นำจดหมายลับออกไป มูยุลรับปากให้ความช่วยเหลือ
 "เอานี่ไปให้พ่อค้าในตัวเมือง ที่ชื่อ "ซองแป" ให้ได้"
 "เราอยู่ในสภาพเดียวกัน ข้าจะส่งไปได้ยังไง"
 นักโทษไม่ทันได้ตอบก็แน่นิ่งเสียชีวิตไปก่อน
 ทังโนรู้เรื่องนักโทษเสียชีวิตจากแทชอง เขาดุแทชองว่า
 "อะไรนะ ไม่ทันพูดจะปล่อยให้ตายได้ไง"
 "ขอโทษด้วยครับ"
 ทังโนเดินออกไป ยอนเห็นก็ถามพ่อบ้านว่า
 "มีเรื่องอะไรน่ะ"
 "ได้ตัวสายลับมาจากเมือง "ฮวางยง" แต่ตายในระหว่างไต่สวนน่ะครับ คุณหนูข้าจับหมอนั่นมาได้แล้ว"
 ยอนไปพบมูยุล และถามเขาว่า
 "เจ้าเป็นใครกันแน่ วันก่อนอยู่ชายแดน เจ้าใส่ชุดทหารของโกคูรยอ เมื่อเป็นคนต่างเผ่าแล้วมาอยู่ในพูยอได้ยังไง เป็นสายลับใช่ไหม"
 "ไม่ใช่ครับ ตอนเจอคุณหนูครั้งแรก ข้าเป็นทหารก็จริง แต่เพราะหนีข้ามพรมแดนมาก็เลยถูกจับ สุดท้าย เลยมาอยู่พูยอซะเลย วันนั้นบังเอิญเจอคุณหนูในตัวเมือง เลยตามไปที่โรงหมอ นึกว่าคุณหนูถูกพวกเขาจับตัว อยากตอบแทนบุญคุณก็เลยออกหน้าไปช่วย ทำให้ล่วงเกินคุณหนูไป ต้องขอโทษด้วย"
 "มาอยู่พูยอมีที่พักหรือยัง ที่นี่ เป็นบ้านใต้เท้า "ทังโน" ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์และอำมาตย์แห่งพูยอ เพราะข้ามารักษาใต้เท้าบ่อยๆ เลยสนิทกับเขามาก แค่พูดคำเดียว เขาจะช่วยให้เจ้ามีที่อยู่อาศัย"
 "อ้อ ไม่ต้องหรอกครับ ข้าพอรู้จักพ่อค้าคนหนึ่งและตอนนี้พักอยู่กับเขา ขอแค่ปล่อยข้าออกไป ก็เป็นพระคุณมากแล้ว"
 "งั้นก็ได้ ถ้าไงวันหลัง อยากให้ช่วยอะไร ก็ไปหาที่โรงหมอได้"
 ยอนปล่อยตัวมูยุลออกมา มาโนเห็นหน้ามูยุลก็รีบถาม
 "ไปไหนมาน่ะ เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม ข้ารอจนจะแย่"
 "เปล่า แค่ไปเดินเล่นในตัวเมือง"
 "รีบไปเถอะ องค์ชายกลับมาแล้ว"
 "ปลอดภัยดีมั้ย"
 มาโนพยักหน้า "อึ้ม"
 เวลานั้นองค์ชายแฮเมียงทรงคุยกับมาวัง
 "หึ เป็นไงบ้าง ไปดูค่ายฝึกแล้วน่าทึ่งขนาดไหน" มาวังถาม
 "หึ ข้าพอรู้แล้วว่า ทำไมพูยอถึงเป็นแคว้นที่เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ หึ เพราะใช้คนเป็นๆ ทดสอบยาพิษ"
 "หลายปีก่อน อ๋องแห่งแคว้น "ฮวางยง" ลอบปลงพระชนม์อ๋ององค์ก่อนเพื่อหวังชิงบัลลังก์ พูยอก็มีส่วนร่วมด้วย แต่อ๋องเทโซไม่ต้องใช้กำลังทหาร แค่อาศัยนักรบทมิฬก็สามารถส่งคนของตัวเองครองราชย์ได้แล้ว"
 "ข้าอยากรู้ความเคลื่อนไหวของอ๋องเทโซ มีบ้างมั้ย กำหนดการไปไหนมาไหน ถ้ามีละก้อ เขาจะไปไหนเมื่อไหร่ บอกเวลาและเป้าหมายให้ข้ารู้"
 "ถามทำไม เฮ้ย ล้อเล่น"
 "ใช่ ท่านคาดการณ์ถูกแล้ว ถ้าเราไม่กำจัดอ๋องเทโซซะ ก็ไม่อาจชนะความแข็งแกร่งของแคว้นพูยอ และโกคูรยอ ก็จะเป็นเบี้ยล่างพูยอตลอดไป"
 "หา องค์ชาย ข้างกายอ๋องเทโซมีองครักษ์นับไม่ถ้วนนะพะยะค่ะ เราจะสามารถลงมือได้หรือ"
 "ขอแค่รู้กำหนดการเดินทางของเขา เราก็จะหาช่องโหว่ได้" องค์ชายแฮเมียงยืนยัน
 มูยุลนึกถึงตอนที่เขาได้คุยกับนักโทษในคุกว่า
 นักโทษกล่าวว่า "ข้า เป็นชาวเมือง "ฮวางยง" ที่จะมาลอบฆ่าเทโซ หึ"
 "พูยอกับแคว้นฮวางยง เป็นมิตรที่ดีไม่ใช่หรือ" มูยุลแปลกใจ
 "ทุกวันนี้ อ๋องที่ครองราชย์อยู่ เพราะแผนชั่วของเทโซ ช่วยให้เขาเป็นใหญ่ หึ และข้า เป็นองครักษ์ของอดีตอ๋อง แห่ง แคว้นฮวางยง เอานี่ไปให้พ่อค้าในตัวเมือง ที่ชื่อ "ซองแป" ให้ได้"
 "หึ ใต้ปากมีสองขา ใต้ตามีสองขา ใต้ขุนนางมีสองขา จะทำการลับๆ หึ แปลว่าอะไรนะนี่" มูยุลอ่านข้อความของนักโทษแล้วงง
 มูยุลให้มาโนพาไปหาพ่อค้าที่ชื่อซองแป พอเห็นร้านเขาก็สั่งให้มาโนรอเขาอยู่ที่หนึ่ง ส่วนตัวเขาก็ตรงไปที่ร้านค้า แต่เผอิญทหารมาจับคุม แทชองเห็นมูยุลก็สั่งทหารให้ไล่จับกุม มูยุลวิ่งหนีพลางร้องบอกให้มาโนวิ่งหนีด้วย พวกทหารไล่ตามมูยุลไปเรื่อยง
 ทางด้านพระราชาเทโซก็ทรงทราบว่าในอาหารมียาพิษ ทรงตรัสถามทังโนว่า
 "อะไรกันนี่ เกิดอะไรขึ้นน่ะ"
 "เพื่อลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาท ไส้ศึกของเมืองฮวางยง ได้แอบเข้ามาถึงในวังพะยะค่ะ"
 "ลอบฆ่าข้าหรือ"
 "พอรู้ว่าฝ่าบาทโปรดการแช่น้ำแร่ จึงผสมยาพิษในน้ำมันหอมระเหย ตอนนี้ฝ่าบาท ได้รับพิษเข้าสู่พระวรกายแล้ว"
 "เป็นไปได้ไง ทำไมมีคนร้ายเข้ามา แต่ไม่มีใครรู้"
 "ฝ่าบาท หม่อมฉันยินดีรับความตาย" แชบูกล่าว
 ทังโนทูลพระราชาเทโซว่า "ระยะนี้ เครื่องบรรณาการของเมืองฮวางยงมักถูกปล้นชิงอยู่เรื่อย ก็เป็นฝีมือทหารที่คิดกบฎพะยะค่ะ พวกเขาเอาของที่ปล้นได้ ไปเปิดร้านขายในตัวเมือง เพื่อเป็นเงินสมทบทุน ในการลอบปลงพระชนม์ต่อไป ฝ่าบาท ดูจากรูปการณ์แล้ว น่าจะมีผู้ก่อการร้าย ที่แฝงตัวเป็นพ่อค้าอยู่ในเมืองพูยอเป็นจำนวนมาก แต่เราก็ยากจะสืบได้พะยะค่ะ"
 "สั่งเพิ่มกำลังตรวจตราให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มการค้าที่มาจากต่างแดน เจอใครน่าสงสัยก็ให้จับไว้ อย่าปล่อยออกไป"
 "พะยะคะฝ่าบาท"
 แทชองนำทหารออกไปตรวจค้นพวกชาวบ้าน
 พวกองค์ชายแฮเมียงเห็นเหตุการณ์ก็แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น มาโนบอกว่า
 "คือว่า จริงๆ พวกทหารจะไปจับพ่อค้าต่างเมืองที่ต้องสงสัยมากกว่า แต่บังเอิญเราเจอลูกหลงด้วยน่ะครับ"
 มาวังวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "องค์ชายๆ เกิดเรื่องใหญ่แล้วพะยะค่ะ ต้องรีบหาที่หลบก่อน"
 "เกิดเรื่องอะไร"
 "หึ ทหารเมืองฮวางยง ปลอมเป็นพ่อค้ามาอยู่ในเมืองพูยอ ถูกคนจับได้ หึ หึ ตอนนี้พวกทหารกำลังตรวจค้นร้านค้าของพ่อค้าต่างเมืองเป็นการใหญ่ ถ้าอยู่ต่อจะมีอันตรายมาก"
 "ที่พวกเจ้าถูกตามล่าก็เพราะอย่างงี้หรือ"
 "หึ ไม่มีเวลาอีกแล้ว รีบไปเถอะพะยะค่ะ ถ้าองค์ชายถูกจับ หม่อมฉันจะพลอยแย่ไปด้วย"
 แม่ทัพคนหนึ่งมาเคาะเรียกให้เปิดประตูเร็ว องค์ชายแฮเมียงสั่งให้ทุกคนรีบไป ทั้งหมดวิ่งหนีออกมา และมาพักที่หนึ่ง
 "คงต้องข้ามเขา "โชยอง" ไปอีก แม้เส้นทางจะคดเคี้ยว แต่จะถึงโชบุนได้เร็วขึ้น"
 "ท่านแม่ทัพ" มาโนเข้ามา
 เคยูถาม "ได้อะไรมาบ้าง"
 "เชิญไปดูทางโน้นก่อน ดูนั่นสิครับ"
 เคยูตามไปดู "เป็นเครื่องบรรณาการของเราที่จะส่งไปพูยอ"
 พวกเคยูเห็นพวกทาสถูกทารุณ มูยุลจะเข้าไปช่วย เคยูห้ามไว้
 "อย่า จะทำอะไร"
 "ข้ากลัวจะมีคนตาย ต้องไปช่วยเขา"
 "ที่นี่เป็นเขตพูยอ ต่อให้พวกเราเอง ก็ไม่มีสิทธิ์ปล้นเครื่องบรรณาการหรอกนะ"
 "แต่ว่า หึ"
 มาโนถาม "ถ้าอย่างงั้น จะปล่อยให้พวกมัน"
 "ยังไม่เงียบอีก ขืนมีเรื่องบาดหมางกับแคว้นพูยออีก ใครจะรับผิดชอบผลที่ตามมา"
 เคยูทูลองค์ชายแฮเมียง "ไปเถอะพะยะค่ะ องค์ชาย"
 "ข้าอยากไปช่วยพวกเขา"
 "องค์ชาย"
 "ชั่วชีวิตมูยุลกับมาโน ที่เขียนภาพฝาผนังอยู่ในถ้ำ พวกเขาเห็นความทุกข์ของการเป็นทาสอย่างดี สิ่งที่พวกเขายังรู้ แล้วข้าเป็นองค์ชายกลับไม่รู้สึกรู้สม มันคงน่าละอาย"
000000000000000
 ทังโนจับพวกพ่อค้าที่ต้องสงสัยว่าจะมีส่วนในการลอบปลงพระชนม์พระราชาเทโซ ยอนมองหานึกว่าจะเห็นมูยุล
 องค์ชายแฮเมียงทำให้เกิดไฟไหม้แล้วเข้าไปช่วยพวกทาสมาได้
 "ข้า คือองค์ชายโกคูรยอชื่อแฮเมียง"
 พวกทาสตกใจนิดหนึ่งก่อนจะดีใจ "หา เอ่อ ขอบพระทัยที่มาช่วยเรา ขอบคุณองค์ชาย ขอบพระทัยมาก ขอบพระทัยเพคะ"
 "ข้า ไม่คู่ควรได้รับคำขอบคุณจากพวกท่าน การช่วยพวกท่านคราวนี้ อาจทำให้เกิดความหวังที่จะรอดชีวิต หรือยิ่งมีความเป็นอยู่ลำบากกว่านี้หรือเปล่า ข้าก็ไม่รู้ได้ เพราะไม่อาจพาพวกท่านกลับไปโกคูรยอได้อีก ไม่อาจรับรองความปลอดภัยในอนาคตวันหน้า ในฐานะเป็นองค์ชาย สิ่งที่ข้าจะทำเพื่อพวกท่านได้ ก็มีเพียงแค่นี้ แต่ว่าข้าขอให้สัญญากับพวกท่าน จะลบล้างความอัปยศในคราวนี้ ให้พวกท่าน ได้กลับไปบ้านเกิด อยู่กับญาติพี่น้องโดยเร็ว"
 พวกทาสร้องไห้ออกมา "ฮือๆๆ"
 "ไปซะ ก่อนที่ทหารพูยอจะตามมา รีบไปจากที่นี่"
 "องค์ชาย เราก็รีบไปเถอะ"
 "ข้าจะไม่กลับโชบุน จะไปเมืองหลวง เข้าเฝ้าฝ่าบาทแทน"
 เมื่อถึงเมืองหลวง องค์ชายแฮเมียงก็เข้าวังหลวงทันที มียูตรัสว่า
 "นานแล้วที่ไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้านะ"
 องค์ชายยอจินว่า "เจ้าพี่ ถ้ายังไง กลับมาอยู่เมืองหลวงเถอะนะ"
 "หึ ข้าน่ะ ทำผิดใหญ่หลวง กำลังอยู่ในช่วงรับโทษ และมีงานต้องทำที่โชบุนอีก ปล่อยให้เจ้าช่วยฝ่าบาทดีกว่า"
 องค์หญิงเซยูรับสั่งทันทีว่า "วัน มีแต่ทำเครื่องประดับ บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้น ดีหรือร้ายยังไง  ไม่เห็นเขาจะสนใจเลย แล้วจะช่วยฝ่าบาทได้ยังไง"
 พระมเหสีมียูรีบตรัสว่า "นั่นเพราะองค์หญิงไม่เข้าใจต่างหาก ยอจินก็ได้ทำหน้าที่องค์ชาย เรียนรู้หลักการปกครองชั้นสูงจากขุนนางที่มีประสบการณ์"
 "ขุนนางที่พระมเหสีทรงหมายถึง ก็คือ ท่านซังกาแห่งเผ่าพีรูใช่ไหม"
 "หมายความว่าไง"
 "หึ คนในวังพูดกันอย่างงั้น ว่าหมู่นี้ ทรงให้ท่านซังกาเข้าเฝ้าบ่อยๆ"
 พระมเหสีมียูรีบปฏิเสธ "เอ่อ ไม่จริงเลยซักนิด ฝ่าบาทเพคะ ถ้าได้ยินข่าวลืออะไรก็อย่าทรงใส่พระทัยนะเพคะ เพราะมันเหลวไหลมาก"
 พระราชายูริไม่ทรงสนพระทัย ตรัสถามองค์ชายแฮเมียงว่า
 "เจ้าเมืองโชบุนส่งข่าวมาว่าเจ้าขอไปเมืองเทียนเฉา แล้วยังไง เหตุการณ์ทางโน้นเป็นไงบ้าง"
 "หม่อฉัน ไม่ได้ไปเมืองเทียนเฉา"
 พระราชายูริทรงแปลกพระทัย องค์ชายแฮเมียงให้มูยุลนำของเข้ามา
 "หนุ่มคนนี้ เป็นช่างเขียนรูปที่อยู่ในสุสานพระราชาจูมงนี่นา" พระราชายูริทรงจำได้
 "พะยะค่ะ หม่อมฉันให้เขามา เป็นคนอารักขาความปลอดภัย เอาของมา เชิญทอดพระเนตร โครงสร้างทางทหารของพูยอ และกำหนดการของอ๋องเทโซ"
 "เจ้าไปถึงค่ายฝึกนักรบทมิฬจริงหรือ"
 "พะยะค่ะ หม่อมฉันได้ไปดูของจริงกับตา เห็นพวกนักรบทมิฬ ใช้คนเป็นทดลองยาพิษ เพิ่มประสิทธิภาพของนักฆ่า หลายปีก่อน เกิดเหตุจลาจลในเมืองฮวางยง ก็เป็นฝีมือนักรบทมิฬของอ๋องเทโซ หม่อมฉันคิดว่าช้าเร็ว เขาต้องส่งคนกลุ่มนี้มากุมอำนาจการปกครองของเราแน่ ฝ่าบาททรงมอบทหารให้หม่อมฉันเพื่อที่จะ ลอบสังหารอ๋องเทโซเถอะ แม้ว่ากำลังของพูยอจะเหนือกว่าเรามาก แต่ถ้าไม่มีอ๋องเทโซซักคน กำลังใจของทหารก็จะสั่นคลอนอย่างมาก ถึงตอนนั้นเราค่อยเปิดศึกกับพวกเขาก็ยังไม่สาย"
 "ถ้าไม่มีอ๋องเทโซซักคน แน่นอนว่าโอกาสจะเป็นของเรา แต่เราจะทำไงถึงสังหารเขาได้"
 "ทุกวันนี้เขาต้องไปเยี่ยมทหาร ที่นอกเมืองเดือนละครั้งเป็นกิจวัตรประจำ ถึงตอนนั้นถ้าเราจะลงมือ อาจมีหวังก็ได้"
 "ถ้าเข้าไปถึงพูยอ ถูกจับได้ เจ้ากับทหารจะตายหมด ข้าไม่เห็นด้วย"
 "ขอเพียงเอาชีวิตเทโซได้ หม่อมฉัน พร้อมจะพลีชีพพะยะค่ะ"
 "แล้วที่ข้าคุกเข่าให้อ๋องเทโซ ยอมรับความอัปยศเพื่ออะไรกัน ไม่ใช่เพื่อรอโอกาสหรอกหรือ เพราะฉะนั้น ข้าจะไม่ให้เจ้าทำอะไรวู่วาม"
 ขณะที่พระมเหสีมียูมีรับสั่งให้คนไปตามซังกามาเฝ้า
 "ท่านมาแล้วหรือ รู้หรือยังว่า องค์ชายแฮเมียงได้กลับมาเมืองหลวง"
 "รู้พะยะค่ะ แล้วมีอะไรไม่ทราบ"
 "เขากำลังวางแผนจะทำสิ่งที่น่ากลัว ไปขอทหารจากฝ่าบาทเพื่อลอบสังหารอ๋องเทโซ ตั้งแต่เขาเสียตำแหน่งเจ้าเมืองไป อำนาจทางทหารก็ถูกลดลงด้วย เลยพยายามทำทุกอย่างที่จะกอบกู้ฐานะคืนมาใหม่ ซึ่งเราจะเปิดโอกาสให้เขาไม่ได้ คำพูดของข้า ท่านเข้าใจความหมายใช่ไหม"
 ซังกาฟังแล้วอึ้งคิดหนัก
 เมื่อมีโอกาสอยู่กันตามลำพัง องค์ชายเซยูก็ตรัสกับองค์ชายแฮเมียงอีกว่า
 "ใครๆ ก็รู้ว่านางคิดยังไง จะใช้หัวหน้าเผ่าพีรู ช่วยให้ยอจินได้เป็นรัชทายาท เรื่องของเรื่อง เพราะเจ้าพี่ไม่ค่อยได้อยู่เมืองหลวง ฝ่าบาทก็ดูเหมือนจะหายกริ้วมากแล้ว หึ ถ้าไงกลับมาอยู่นี่เถอะนะ"
 "ข้ายังมีงานต้องทำอีกมาก ไว้เสร็จงานทั้งหมดแล้ว ค่อยกลับมาดีกว่า หึ"
 ด้านมูยุลก็นั่งคิดเรื่องจดหมายที่เขาได้มา มาโนเข้ามาถามก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่มาโนเห็นจดหมายเสียก่อน
 "ไม่มีอะไรก็มาดูซี่ ชอบมีความลับกับข้าเรื่อย เฮ้ย นี่มัน กำหนดการของเบื้องสูง วันที่ 10 เดือน 10 ใต้ปากมี 2 ขา ใต้ตามี 2 ขา ใต้ขุนนางมี 2 ขา"
 "เบื้องสูงคงหมายถึงอ๋องเทโซ แต่นอกนั้น ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรบ้าง"
 "ใต้ปากมี 2 ขาๆ ใต้ตามี 2 ขา ใต้ขุนนางมี 2 ขา ใต้ปากจะมีขาได้ไง ปากบวกกับ เฮ้ย มูยุล นี่มัน เป็นอักษร "จี" ใช่ไหม นี่ไง ใต้ปากมีขา เห็นหรือเปล่า ส่วนนี่ ใต้ตามี 2 ขาก็คืออักษร "แพ"  ใช่แล้ว เห็นมั้ย"
 มูยุลอึ้ง "เจ้า"
 "แหม ก็แค่ปริศนากล้วยๆ"
 มูยุลตาโต "จริงหรือ ถ้าอย่างงั้น ใต้ขุนนางมี 2 ขา ก็คือ "ยอน" "จีแพยอน" อ๋องเทโซ วันที่ 10 เดือน 10 จะเดินทางไป จีแพยอน"

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 5 ต่อ 
 คูชูทูลพระราชายูริว่า "หัวหน้าเผ่าทั้งหลายรวมถึงท่านซังกา ล้วนไม่เห็นด้วยที่จะสู้กับพูยอ หากอ๋องเทโซสิ้นพระชนม์เมื่อไหร่ แคว้นพูยอจะมีปัญหาเรื่องการสืบบัลลังก์ แต่เราก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะพวกเขา เลยไม่ควรเสี่ยงพะยะค่ะ"
 "แทชองเข้ามาซิ ไปตามองค์ชายแฮเมียงมาพบข้า"
 แทชองรับคำ "พะยะค่ะ"
 องค์ชายแฮเมียงเข้าเฝ้าพระราชายูริตามรับสั่ง
 "ข้าถามความเห็นหัวหน้าเผ่าทั้งหลายแล้ว พวกเขาคัดค้านที่เราจะเปิดศึกกับแคว้นพูยอ ต่อให้อ๋องเทโซตายไป ถ้าไม่มีทหารจากเผ่าต่างๆ มาช่วย เราก็ไม่อาจต่อกรกับพูยอได้"
 "หม่อมฉัน สามารถทำงานนี้ให้สำเร็จ ฝ่าบาท โปรดเชื่อหม่อมฉันเถอะพะยะค่ะ"
 "อย่าเพิ่งคิดการใหญ่ตอนนี้เลย กลับไปโชบุนเถอะ"
 องค์ชายแฮเมียงอึ้ง "ฝ่าบาท"
 มาโนเห็นเคยูมองบางอย่างก็เข้าไปทัก
 "ยืนดูอะไรแทบไม่กระพริบตา"
 เคยูกระแอม มาโนตาโต "ว้าว ผู้หญิงอะไรจะเก่งขนาดนี้"
 "มานี่ซิ" องค์หญิงเซยูเรียก "ถ้าเดาไม่ผิด พวกเจ้าคงเป็นทหารที่มาใหม่ ถ้าเอาชนะข้าได้ ข้าจะช่วยให้เลื่อนตำแหน่งเร็วๆ"
 องค์หญิงเซยูสู้ เคยูก็ลงมือทันที ก่อนจะบอกว่า
 "ไม่รู้ว่าเจ้ามีหน้าที่อะไรในวัง รู้แต่หน้าตาไม่เลว แถมฝีมือก็ใช้ได้ หึ ข้าน่ะ เป็นคนสนิทขององค์ชายแฮเมียงชื่อว่า "เคยู" ต่อไป ให้ข้าช่วยเจ้าดีกว่า"
 มูยุลรีบเข้ามาบอก "เฮ้ย ท่านแม่ทัพ หึ องค์หญิง หึ โปรดอภัยให้ด้วย หึ ท่านแม่ทัพ ไม่รู้ว่าทรงเป็นองค์หญิง"
 "เอ่อ หม่อมฉันไม่รู้ว่าเป็นองค์หญิง ขอทรงอภัยด้วย หึ"
 องค์หญิงเซยูไม่ว่าอะไร เสด็จออกไป เคยูหันมาเล่นงานมาโน
 "เฮ่ย เจ้าตัวแสบนี่ ทำไมไม่บอกก่อนว่านางเป็นใคร"
 "ก็ ไหนท่านบอกว่า รู้ทุกอย่างในวังดีไงล่ะ แล้วทำไม แม้แต่องค์หญิงยังไม่รู้จัก"
 เคยูสะอึก "หึ เฮ่ย"
 "หึๆ มูยุล วันนี้ข้าอารมณ์ดี เราไปเดินเล่นในตัวเมืองมั้ย นี่อะไรน่ะ โอ๊ะ อะไร"
 "ไปเถอะน่า"
 มาโนบ่น "โธ่เอ๊ย ซื้อของไปฝากหัวหน้าดีกว่า นี่ดีมั้ย"
 "ก็พอไหว"
 "เป็นของดีนะครับ มาจากเมืองฮวางยง คุณภาพชั้นหนึ่งเลยล่ะ แหะๆ"
 "แสดงว่าท่าน รู้จักเมืองฮวางยงหรือ"
 พ่อค้าบอกว่า "ก็เป็นชาวฮวางยงแท้ๆ จะไม่รู้จักได้ไง แหม"
 "ถ้าอย่างงั้น คำว่า "จีแพยอน" หมายถึงอะไรน่ะ"
 พ่อค้าบอกมาว่า "จีแพยอน? ก็เป็นที่ตั้งวังหลวงเมืองฮวางยงไงล่ะน้องชาย สมัยก่อนตอนสถาปนาเมืองฮวางยง ใครๆ ก็เรียกที่นั่นว่าจีแพยอน ทุกวันนี้แม้แต่ชาว ฮวางยงเองก็ลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว ว่าแต่ เจ้าไปฟังมาจากไหนน่ะ"
 มูยุลรีบไป มาโนรีบเรียก "เดี๋ยว เฮ้ย มูยุล"
 มูยุลไปเฝ้าองค์ชายแฮเมียง
 "องค์ชาย หม่อมฉันมูยุล"
 "อ้อ เข้ามาสิ"
 "หม่อมฉันมีเรื่องสำคัญ จะมาทูลให้องค์ชายทราบ"
 "เรื่องอะไร"
 "หม่อมฉัน ปิดบังเรื่องบางอย่างต่อองค์ชาย"
 มูยุลนำจดหมายของนักโทษมอบให้องค์ชายแฮเมียง
 "นี่มันอะไรกัน"
 "นี่คือ วันที่ 10 เดือน 10 อ๋องเทโซจะทำพิธีบูชาฟ้า ในเขตวังหลวงของเมืองฮวางยง เป็นข่าวที่ได้จากสายลับคนหนึ่ง ที่คิดวางแผนลอบปลงพระชนม์ เชื่อว่าคงไม่ผิดแน่"
 "ให้เคยูกับมาโนมาพบข้า"
 "พะยะค่ะ"
 เมื่อทุกคนมาครบ องค์ชายแฮเมียงตรัสว่า
 "เราจะเดินทางกลับเมืองโชบุน ไปเก็บของซะ"
 "มีเรื่องด่วนหรือพะยะค่ะ"
 "เราจะวางแผน ฆ่าอ๋องเทโซ"
 ทังโนทูลพระราชาเทโซว่าเครื่องบรรณาการที่โกคูรยอส่งมา ถูกทหารเมืองฮวางยงดักปล้นอีกแล้ว คนของเราล้มตายหมด ทั้งข้าวของและทาส อันตรธานหายไปไม่รู้ร่องรอย
 พระราชาเทโซตรัสถาม "แน่ใจหรือว่าเป็นฝีมือทหารเมืองฮวางยงน่ะ"
 "ในที่เกิดเหตุ พบธนูของเมืองฮวางยงพะยะค่ะ และจากสาส์นท้ารบที่พวกมันส่งมา จากเหตุการณ์คราวที่แล้ว อาจมีการแก้แค้นตามมาเป็นระยะ ฝ่าบาท ที่จะเสด็จไปเมืองฮวางยง ทรงยกเลิกดีมั้ยพะยะค่ะ ตราบใดที่ยังปราบพวกกบฎไม่ได้ มันจะเสี่ยงเกินไป อีกอย่าง ถ้าให้พวกมันรู้เส้นทางการเสด็จละก้อ"
 แชบูถาม "รู้ได้ไง มันเป็นความลับสุดยอดไม่ใช่หรือ ฝ่าบาท นี่เป็นงานที่ถูกกำหนดไว้นานแล้ว หากยกเลิกกระทันหัน จะมีผลต่อพระเกียรติของฝ่าบาท ส่วนเรื่องความปลอดภัย หม่อมฉันจะดูแลให้เอง ทรงวางพระทัยได้"
 "ท่านเจ้ากรม มั่นใจขนาดนี้เชียวหรือ ท่านกล้ารับรองความปลอดภัยของฝ่าบาทได้หรือ"
 "ข้าได้เตรียมถวายอารักขาอย่างรัดกุม ไม่ต้องห่วงหรอก"
 "เตรียมการยังไง ทำไมข้าไม่เห็นรู้ซักนิด" ทังโนว่า
 พระราชาเทโซทรงปราม "อย่าทะเลาะกัน ข้าจะไปตามกำหนดเดิม"
 "ฝ่าบาท"
 "คนอย่างข้ามีหรือจะกลัวคนถ่อยพวกนี้ ถ้าเราจะต่อกรกับเทียนเฉา ก็ต้องรักษาสายสัมพันธ์กับเมืองฮวางยงไว้อย่างเหนียวแน่น เพราะฉะนั้น ทุกคน ไปเตรียมตัวได้"
 ทังโนกลับไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยอนเห็นจึงถาม
 "ท่านพ่อ กลุ้มใจอะไรหรือคะ"
 "อึม เรื่องที่ฝ่าบาท จะเสด็จไปเมืองฮวางยงให้ได้"
 "ไปเมืองฮวางยงตอนนี้ มันจะค่อนข้างเสี่ยงนะคะ"
 "พ่อก็ทูลแล้วทูลอีก แต่ฝ่าบาทก็ทรงดื้อแพ่งไม่ยอมฟัง พ่อก็เลยจนปัญญา"
 "งั้น" ยอนอึกอักไปนิด
 "มีอะไรจะพูดอีกหรือ"
 "ข้าอยากไปค่ายฝึกนักรบทมิฬค่ะ"
 ทังโนมองหน้าลูกสาว "หือ"
 "เพราะพี่ "โทจิน" เขียนจดหมายมา บอกว่ามีหลายคนรับการฝึกจนบาดเจ็บสาหัส ข้าอยากไปช่วยพวกเขาน่ะค่ะ"
 "หึ ถ้าเจ้าต้องการอย่างงั้น ก็ตามใจเถอะ แต่ว่า ที่นั่นค่อนข้างเข้มงวด ต้องระวังด้วยล่ะ"
 ยอนดีใจ "ค่ะ"
 มูยุลกับมาโนนำของฝากมามอบให้เฮยา
 เฮยาชม "หึ น่ารักดี"
 "ซื้อมาจากเมืองหลวงน่ะครับ" มาโนคุย
 "ไปถึงเมืองหลวงเชียวหรือ"
 "ครับ"
 "ได้เปิดหูเปิดตาสมใจแล้วสิ ออกไปเห็นโลกภายนอก รู้สึกยังไง"
 "ก็ดีครับ โดยเฉพาะ ได้ติดตามองค์ชายผจญภัย ก็ยิ่งสนุกมากขึ้น างครั้งที่อยู่กับองค์ชาย มีความรู้สึก อยากให้ตัวเองมีพ่อหรือพี่ชายซักคน"
 "มีความคิดแบบนี้ก็ดี จะได้ตั้งใจช่วยองค์ชายมากขึ้น เพราะคนๆ นี้ ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง"
 มูยุลเข้าใจ "อึม"
 "ถ้าอย่างงั้น เราคงต้องขอลา"
 "ดูแลตัวเองดีๆ และตั้งใจทำงานล่ะ" เฮยาอวยพร
 มูยุลรับคำ "ครับ"
 แม่ทัพเมื่อได้รับรู้แผนการขององค์ชายแฮเมียงก็อึ้งไป
 "รับสั่งว่า จะลอบสังหารอ๋องเทโซหรือ"
 "วันที่ 10 เดือน 10 เมืองฮวางยงจะมีพิธีบูชาฟ้า อ๋องเทโซจะไปร่วมด้วย และข้าจะไปลอบสังหาร อ๋องเทโซในระหว่างเดินทาง"
 "องค์ชาย แต่ตอนนี้ไม่มีกำลังทหาร เราไม่มีผู้ช่วยแล้วจะคิดการใหญ่ได้ยังไงพะยะค่ะ ถ้างานนี้ล้มเหลว อาจไม่ใช่แค่ปลดจากตำแหน่งเจ้าเมืองเท่านั้น หมายถึงชีวิตองค์ชายด้วย นี่ยังไม่ถึงเวลา รอให้ครองราชย์แล้วมีกำลังเพียงพอ ซักวันเราต้องเอาชีวิตอ๋องเทโซได้"
 "ใช่ ท่านพูดมาก็ถูก ซักวันหนึ่ง ทหารนับหมื่นของโกคูรยอ คงได้ปะทะ กับพูยออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ว่า ตอนนี้แค่ให้ข้าตายคนเดียวเท่านั้น"
 เคยูถามว่า "องค์ชาย แล้วเรื่องทหารจะทำยังไง"
 "ข้าจะใช้ทหารรับจ้างที่อยู่ในป่า ส่วนใหญ่คนพวกนี้  ก็พลัดพรากจากบ้านเกิดเพราะถุกพูยอรุกราน เชื่อว่าน่าจะยอมช่วยเรา"
 "ทหารรับจ้างเก่งกาจก็จริง แต่มีจำนวนแค่หลักสิบ จะให้สู้กับทหารพูยอ มันจะไหวหรือพะยะค่ะ"
 "ขอเพียงมุ่งมั่นในการทำงาน ไม่ว่าอะไรก็ต้องสำเร็จ"
 มาโนไปสืบหาที่อยู่ของพักโซจนพบ แล้วมูยุลก็เข้าไปคุยกับพักโซ
 "เฮ้ย นั่นใครน่ะ เจ้าสองคนเองหรือ เรื่องที่ชายแดน เราซาบซึ้งก็จริง แต่ถ้ามาหาเรื่องอีก คงไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะ"
 "ข้าไม่ได้มาหาเรื่อง แต่จะช่วยพวกเจ้า แต่ว่ามีเรื่องจะพูดก่อน"
 มูยุลบอกความประสงค์ให้พักโซรับทราบ พักโซสบถออกมา
 "จะบ้าหรือ งานแบบนี้ทำไมเราต้องไปเสี่ยง"
 "ไปหรือไม่ไป อยู่ที่ความสมัครใจ แต่ถ้าไปจะคุ้มกว่า"
 "เพราะอะไร"
 "ถ้าพวกเจ้ายอมไปด้วย จะมีผลงานให้องค์ชายได้เห็น และองค์ชายแฮเมียง ก็คือว่าที่พระราชา อาจช่วยให้พวกเจ้าเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่งั้นจะอยู่ในบ่อนทั้งชาติ ขายของเถื่อนตลอดไปหรือ โอกาสไม่ได้มีบ่อยหรอกนะ"
 "เราไม่ได้สนิทกันมากมาย และข้าก็ไม่คิดจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ อยู่แบบนี้ก็พอแล้ว"
 "หึ แต่ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ พรุ่งนี้ไปพบข้าที่เนินขา "ชางชอน" ได้"
 ผู้ช่วยของแพกึยมาบอกว่ามีการฝึกทหารรับจ้างสิบกว่าคน แพกึยจึงไปดูด้วยตัวเอง พอดีมาโนกับมูยุลเห็น มูยุลสั่งให้มาโนรีบกลับไปที่ค่ายฝึกเพื่อบอกองค์ชายแฮเมียงให้รู้
 "แล้วเจ้าล่ะ" มาโนถาม
 "ข้าจะหลอกพวกเขาไปอีกทาง ยังไม่ไปอีก"
 มาโนรีบไปบอกองค์ชายแฮเมียง ทรงสั่งใหสลายตัวก่อน ส่วนมูยุลก็หลอกล่อพวกแพกึยไปอีกทางหนึ่ง และเจอกับพวกพักโซ 
 พักโซถาม "เกิดอะไรขึ้น"
 "หึ เดี๋ยวค่อยบอกให้รู้ รีบไปจากที่นี่ก่อน"
 ว่าแล้วก็พากันหนีไปอย่างเร็ว ผู้ช่วยนำแพกึยตามมาแต่ไม่ทัน
 "พวกมันหายไปหมดเลยครับ"
 "องค์ชายระดมพลขนาดนี้ จุดประสงค์เพื่ออะไรกันแน่"
 "หรือว่า จะวางแผนก่อกบฏหรือเปล่า"
 "กบฏหรือ"
 "ใช่ครับ เพราะสภาพขององค์ชายตอนนี้ อาจคิดว่าถูกฝ่าบาทมองข้ามความสำคัญก็ได้
 "หึ เขาไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้น น่าจะมีแผนอื่น มีแผนอะไรที่เราไม่รู้ ไปหาร่องรอยองค์ชายให้พบ"
 แม่ทัพสองคนกำลังปรึกษากับองค์ชายแฮเมียง
 "แพกึยมาด้วยตัวเอง แสดงว่ารู้ความเคลื่อนไหวขององค์ชายดี"
 "ถ้าอย่างงั้น ที่เราวางแผนจะสังหารอ๋องเทโซ เขาก็รู้ด้วยน่ะสิ"
 "ไม่หรอก คิดว่าตอนนี้เขายังไม่รู้ แต่ว่า คงรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง จะทำไงดีพะยะค่ะ"
 "อย่าให้พลาดโอกาสที่หายาก ป่านนี้แพกึยคงจะเที่ยวสืบหาร่องรอยพวกเรา เราต้องรีบเดินทางแล้ว"
 แม่ทัพเข้าใจ "อึม"
 องค์ชายแฮเมียงกล่าวต่อว่า "ขบวนของอ๋องเทโซ เป็นไปได้ว่า อาจจะผ่านตรงจุดนี้ ก่อนอื่น  เราจะอยู่ที่นี่ วางกำลังไว้ก่อน"
 "พะยะค่ะ พวกเรา ไปได้แล้ว"
 "ทำงานได้แล้ว รีบไปเร็ว พวกเรา"
0000000000000
 ยอนเดินทางมาหาโทจิน
 "พี่โทจิน"
 "หึ พอส่งจดหมายไปแล้ว ข้ารู้สึกคิดผิด"
 "ทำไมล่ะ"
 "เพราะไม่รู้เจ้าจะมาหรือเปล่า วันๆ เฝ้ารอแล้วรออีก ไม่เป็นอันฝึกฝน แต่ว่า ไม่นึกว่าเจ้าจะมาเร็วขนาดนี้"
 "ท่านมีเรื่องไหว้วาน ข้าจะไม่ช่วยได้ไง แล้วท่านเป็นไงบ้าง คนอื่นมีแต่เจ็บหนักทั้งนั้น"
 "ข้ายังอิจฉาพวกเขามากกว่า ที่ได้นอนสบายบนเตียง ทุกวันนี้ แค่คิดว่าตัวเองยังอยู่รอดก็เหมือนปาฏิหาริย์แล้ว พ่อเจ้าเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย"
 "สบายดี แต่จะตามฝ่าบาทไปเมืองฮวางยง"
 "ฝ่าบาทจะเสด็จเมืองฮวางยงหรือ ไม่เห็นรู้เลย"
 "ในเมืองพูยอ ก็มีน้อยคนจะรู้เรื่องนี้"
 องค์ชายแฮเมียงเสด็จไปดูที่หมายด้วยตนเอง
 เคยูกล่าวว่า "พรุ่งนี้เช้าขบวนของอ๋องเทโซจะผ่านมาทางนี้"
 "คงมีทหารอารักขาเป็นจำนวนมาก ต่อให้ซุ่มโจมตี คนของเราก็น้อยกว่าอยู่ดี"
 "ทำตามแผนที่วางไว้"
 แม่ทัพถึงกับถอนหายใจกล่าวอะไรไม่ออก
 เวลานั้นพักโซก็ถามมูยุลว่า
 "นี่ ตอนนี้จะบอกได้หรือยัง"
 "อะไร" มูยุลย้อนถาม
 "ศัตรูที่เราจะเล่นงานเป็นใคร"
 "แหะ รู้แล้วจะทำไม"
 "เผื่อเห็นท่าไม่ดีจะได้เผ่น พวกเจ้าเป็นทหารต้องทำตามคำสั่งองค์ชาย แต่เราไม่ใช่ เรื่องอะไรยอมตายง่ายๆ"
 "มาถึงขนาดนี้ กลับลำไม่ทันแล้ว ครั้งแรกในชีวิตที่ได้ทำงานสำคัญ หึ ตั้งใจหน่อยล่ะ"
 "เขาพูดอะไร"
 "อยากรู้มั้ยว่าศัตรูเป็นใคร"
 "พูดมาสิ"
 "หึ อ๋องเทโซ" มาโนตอบ
 พักโซตกใจ "อะไรนะ"
 "ถ้าสังหารเขาได้ เราจะเป็นวีรบุรุษของโกคูรยอ"
 "วีรบุรุษหรือ หัวจะหลุดน่ะสิ สงสัยจะบ้าแล้ว"
 "ตอนนี้ ถึงกลับตัวก็สายไปแล้ว หึ หึๆ" มาโนขำ
 องค์ชายแฮเมียงเห็นมูยุลยังไม่นอนก็เข้ามาคุยด้วย
 "อ้อ หึ ยังไม่นอนอีกหรือ"
 "พะยะค่ะ หม่อมฉันนอนไม่หลับ"
 "กลัวหรือไง"
 "พะยะค่ะ มันก็ กลัวนิดหน่อย"
 "ถ้าอย่างงั้น เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ"
 "ไม่พะยะค่ะ ถึงจะกลัว หม่อมฉันก็ขอสู้ เพราะองค์ชาย เป็นแรงบันดาลใจให้หม่อมฉัน สมัยก่อนที่อยู่ในถ้ำ หม่อมฉันเคยตั้งความหวังไว้ว่า ซักวันจะออกไปดูโลกภายนอก ก็ไม่รู้ทำไม ถึงอยากออกไปผจญภัยนักหนา รู้แต่ว่าต้องออกมาให้ได้ แต่ว่า พอได้รู้จักกับองค์ชาย หม่อมฉันถึงรู้ว่าจะทำอะไร และอยู่เพื่ออะไรกันแน่ รู้ว่าหม่อมฉันเป็นชาวโกคูรยอ มีหน้าที่หวงแหน และปกป้องบ้านเมืองให้พ้นภัย ตอนเห็นชาวบ้านถูกจับไปแคว้นพูยอ นั่นเป็นครั้งแรก ที่รู้สึก แค้นจนอยากทำอะไรซักอย่าง แม้จะรู้สึกกลัวบ้าง แต่ความแค้นที่อยู่ในใจ ทำให้หม่อมฉันกล้าขึ้น"
 "ความแค้น สามารถทำให้คนเรา เกิดพลังในการทำลายล้าง แต่มนุษย์จะอยู่ด้วยความแค้นไม่ได้ ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านี้อีก"
 "นั่นคือ อะไรหรือพะยะค่ะ"
 "หึๆ มันคืออะไร อีกหน่อยเจ้าจะเข้าใจเอง นี่คือนกหวีด ถ้าใช้มันร่วมกับการยิงธนู มันจะออกเสียงคล้ายๆ สัตว์ป่า เป็นสิ่งที่ทหารทั้งหลาย ใช้บอกทิศทางของศัตรู เฮ่อๆๆ ตอนข้าออกศึกครั้งแรก เสด็จพ่อประทานให้ข้า"
 "ของมีค่าแบบนี้ จะมาให้หม่อมฉันได้ไง"
 "เฮ่อๆๆ เจ้ามีสิทธิ์รับไว้อยู่แล้ว นี่เป็นศึกที่หนักหน่วงนัก เจ้าต้องอยู่รอดให้ได้ ถ้าเราได้กลับไปอีกครั้ง ข้าจะสอนวิธีใช้นกหวีดตัวนี้"
จบ 5

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 6  
 ทังโนทูลพระราชาเทโซให้ยุติการเดินทาง พระราชาเทโซแปลกพระทัย
 "ทำไมต้องยุติ"
 "ทหารที่ไปดูลาดเลาจนป่านนี้ยังไม่กลับ แสดงว่า ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ก่อนจะสืบให้รู้ เราอย่าเพิ่งเดินทางเลย"
 "เตรียมการเดินทางเดี๋ยวนี้" พระราชาเทโซตรัสเสียงเข้ม
 "แต่ว่าฝ่าบาท นี่เป็นเขตของเมืองฮวางยง มีกลุ่มกบฏอยู่ทั่ว ไว้ใจไม่ได้นะพะยะค่ะ"
 "ถ้ามัวแต่กลัวทหารแค่หยิบมือ  ข้าคงไม่ต้องทำอะไรแล้ว"
 แชบูทูลว่า "ถ้าเราหยุดการเดินทางตอนนี้ จะไม่ทันฤกษ์บูชาฟ้าของเมืองฮวางยงนะ"
 "ก็แค่งานบวงสรวง จะสำคัญกว่าชีวิตฝ่าบาทได้ยังไง"
 "ความปลอดภัยของฝ่าบาท ข้าบอกแล้วว่าจะดูแลเอง" แชบูว่า
 "เดินทางต่อไปเหมือนเดิมแหละ" พระราชาเทโซตรัส
 ระหว่างที่ดักทำร้ายพระราชาเทโซ องค์ชายแฮเมียงก็ได้รับบาดเจ็บ มูยุลต้องร้องบอกให้ทุกคนถอย
 เคยูเรียก "องค์ชาย"
 องค์ชายแฮเมียงเห็นมีคนตามมารีบบอก "มีทหารตามมาอีก รีบหนีเร็ว"
 "ถ้าไปต่ออีก องค์ชายจะมีอันตราย"
 "เราจะขวางพวกมันไว้เอง องค์ชายหนีไปก่อน หึ มูยุล มาโน พักโซ พวกเจ้าคุ้มครององค์ชายไว้" เคยูสั่ง
 ทั้งสามรับคำ "ครับ"
 มูยุลพาองค์ชายแฮเมียงไปที่ถ้ำ เฮยาเห็นองค์ชายได้รับบาดเจ็บก็ตกใจมาก รีบทำแผลให้ จนองค์ชายแฮเมียงรู้สึกตัว
 "ทรงรู้สึกตัวแล้วหรือเพคะ"
 "โอ๊ะ โอย มูยุล หึ"
 "พะยะค่ะ"
 "เจ้ารีบกลับไป เมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ทูลฝ่าบาทให้รู้ ว่าอ๋องเทโซสิ้นพระชนม์แล้ว หึ หึ ถ้าแสดงป้ายนี้ ก็จะได้เข้าเฝ้าทันที ไม่ว่ายังไงก็ตาม เจ้าต้อง ไปทูลให้ได้ หึ หึ"
 "ทรงวางพระทัย หม่อมฉัน จะไปทูลฝ่าบาทให้รู้"
 มูยุลเดินทางไปเมืองหลวงทันที และบอกทหารเพื่อขอเข้าเฝ้าพระราชายูริ แต่ทหารไม่ยอมให้เข้า มูยุลต้องมอบป้ายขององค์ชายแฮเมียงให้ทหารดู
 แทชองถาม "องค์ชายให้เจ้ามา มีเรื่องสำคัญอะไรงั้นหรือ"
 "ขอโทษด้วยครับ ถ้าไม่ได้เข้าเฝ้า ข้าจะบอกใครไม่ได้"
 "บังอาจรู้มั้ยว่าข้าเป็นใคร หัวหน้าองครักษ์ของฝ่าบาท ถ้าข้าไม่อนุญาต ใครก็ห้ามเข้าเฝ้า บอกมาเร็วเข้า"
 มูยุลไม่ยอมบอก แทชองจำยอมพามูยุลเข้าเฝ้าพระราชายูริ
 "มีข่าวมาจากองค์ชายแฮเมียงพะยะค่ะ"
 "เขาให้เจ้ามามีเรื่องอะไรหรือ"
 "ไม่ได้ยินหรือ รีบทูลฝ่าบาทเร็วเข้า" แทชองดุ
 "เจ้าออกไปก่อน" พระราชายูริปราม
 "เอ่อ แต่ว่าฝ่าบาท แม้จะเป็นคนที่องค์ชายส่งมา แต่ว่า ถ้ามีจุดประสงค์อื่น"
 "บอกให้ออกไป" แทชองยอมออกไป
 "เดินมาใกล้ๆ ซิ เอาล่ะ ทีนี้พูดได้หรือยัง เขาให้เจ้ามาส่งข่าวอะไร"
 "เอ่อ อ๋องเทโซ สิ้นพระชนม์แล้ว"
 "เจ้าเอาอะไรมาพูด"
 "องค์ชายแฮเมียง เสด็จไปเมืองฮวางยง สังหารอ๋องเทโซได้แล้ว"
 "เป็นความจริงหรือนี่"
 "พะยะค่ะ หม่อมฉันเอง ก็ได้เห็นกับตาว่าสิ้นพระชนม์ไปแล้ว"
 พระราชายูริเรียกแม่ทัพ คูชู และขุนนางเข้าเฝ้ายามดึก
 "ฝ่าบาท ทำไมรับสั่งให้มาประชุมตอนนี้ล่ะพะยะค่ะ"
 "สิ่งที่ข้าจะพูด ให้ถือเป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายออกไป โดยเฉพาะพวกเผ่าต่างๆ อย่าให้รู้เด็ดขาด เมื่อกี้องค์ชายแฮเมียง ได้ส่งข่าวมา ใจความของข่าวนั้น คืออ๋องเทโซซึ่งเดินทางไปเมืองฮวางยง ได้ถูกเขาสังหารแล้ว"
 "หา ฝ่าบาท ถ้านี่เป็นเรื่องจริง เราต้องเรียกประชุมหัวหน้าเผ่าเพื่อเตรียมทำสงคราม เพราะถ้าอ๋องเทโซสิ้นพระชนม์ พูยอต้องมาเปิดศึกกับเราแน่"
 "แต่ไม่ใช่แค่ฟังข่าวมาก็จะเคลื่อนย้ายทหาร แม่ทัพใหญ่"
 "พะยะค่ะ"
 "ตรึงกำลังที่ชายแดนให้เข้มงวด เพราะถ้าอ๋องเทโซสิ้นพระชนม์จริง ทหารพูยอคงไม่ปล่อยเราไว้"
 "พะยะค่ะ ฝ่าบาท"
 "ท่านคูชู"
 "พะยะค่ะ"
 "ติดต่อสายลับของเราที่อยู่พูยอ ให้สืบดูว่าอ๋องเทโซสิ้นพระชนม์จริงหรือเปล่า"
 "พะยะค่ะ"
 แม่ทัพมาบอกเล่าให้ซังกาฟัง บ่าวถามว่า
 "ท่านบอกว่าองค์ชายแฮเมียง สังหารอ๋องเทโซได้จริงหรือ"
 "คนขององค์ชายกลับมาแจ้งข่าวอย่างงั้น แต่จะจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้"
 "ถ้าอ๋องเทโซสิ้นพระชนม์จริง ฝ่าบาทคงต้องเปิดศึกกับแคว้นพูยอและถ้าชนะ พระเกียรติก็จะยิ่งเป็นที่เลื่องลือ และความหวังของท่าน ที่จะเลื่อนฐานะเผ่าพีรูของเราให้เป็นแว่นแคว้น มิต้องสิ้นหวังหรอกหรือ"
 "แต่ถ้าหัวหน้าเผ่าทั้งหลายคัดค้านการเปิดศึก ฝ่าบาทก็จะทำอะไรไม่ได้"
 "ท่านคาดการณ์ผิดแล้ว ถ้าตอนนี้อ๋องเทโซสิ้นพระชนม์จริง พระราชายูริ ไม่ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากชนเผ่า แค่นำทหารจากส่วนกลาง ก็สามารถเปิดศึกได้แล้ว"
 "ถึงมีกำลังจากส่วนกลางก็ไม่ถึง 2 หมื่นนาย  จำนวนแค่นี้ไม่พอรับมือทหาร  พูยอได้หรอกครับ"
 "แต่แคว้นพูยอ เติบใหญ่ได้ก็ด้วยบารมีของอ๋องเทโซที่สั่งสมมานาน  ถ้าไม่มีเขาก็พร้อมจะล่มสลายได้ทันที ฉะนั้นถึงเรามีทหารแค่ 2 หมื่นก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้  รีบส่งข่าวไปยังแพกึย ให้จับตาความเคลื่อนไหวของแคว้นพูยอ"
 องค์หญิงเซยูให้นางในไปตามมูยุลมาเฝ้า
 "ได้ยินว่าเจ้าพี่แฮเมียงสังหารอ๋องเทโซได้หรือ"
 "พะยะค่ะ"
 "แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน ทำไมไม่กลับมาพร้อมเจ้า"
 "เพราะองค์ชาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสพะยะค่ะ แต่มีหมอรักษาแล้ว ทรงวางพระทัยได้"
 "พาข้าไปหาเขา ข้าจะดูแลด้วยตัวเอง"
 "ขอทรงอภัย หม่อมฉัน ยังต้องรอรับสั่งจากฝ่าบาท ทันทีที่มีพระบัญชา หม่อมฉันถึงจะกลับได้"
 ทางด้านยอนกับโทจินก็ทราบเรื่องการลอบสังหารจากพวกนักรบ ยอนจะกลับไปดูด้วยตัวเอง เพราะต้องการเห็นกับตา โทจินบอกว่าจะไปด้วย
 ด้านองค์ชายแฮเมียงก็คอยถามข่าวจากเฮยาว่ามีข่าวจากมูยุลหรือยัง เฮยาบอกว่ายัง
 "หม่อมฉันมีเรื่องจะทูลถาม องค์ชายกับเขา มีความสัมพันธ์อะไรแน่ จะบอกหม่อมฉันได้หรือยัง หม่อมฉันเห็นมูยุล มีความสามารถที่เหนือกว่าคนอื่น แล้วทำไมองค์ชาย ถึงได้ห่วงเขา คอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา เพราะอะไรหรือเพคะ"
 "เพราะมูยุล เป็นองค์ชาย แห่งโกคูรยอ และเป็นน้องข้า เมื่อก่อนตอนเขาเกิดมา โหรทำนายว่าชะตาของเขา จะทำให้โกคูรยอไปสู่ความหายนะ ทางเดียวที่จะแก้คำสาปนี้ได้  ก็คือต้องเอาชีวิตเขา แต่เสด็จพ่อทรงใจอ่อน  ไม่อาจเข่นฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไข แค่ให้ปลดเป็นสามัญชนและไปอยู่ข้างนอกก็พอ  นี่ก็คือ สาเหตุที่เจ้า เป็นผู้เลี้ยงดูเขามาแต่เกิด"
 "ถ้าอย่างงั้น จะให้เขา อยู่อย่างงี้ตลอดไปหรือเพคะ"
 "หึ ไม่หรอก ทุกวันนี้เขา เติบใหญ่เป็นหนุ่มที่มีความสามารถ ข้ากำลังหาโอกาสจะช่วยเขา ให้คืนตำแหน่งองค์ชายเหมือนเดิม และคิดว่าวันนั้นคงอยู่ไม่ไกลนัก"
 เวลานั้นมูยุลไปขอเข้าเฝ้าพระราชายูริแ
 "ให้เข้ามา มีอะไรจะพูดใช่ไหม"
 "เอ่อ หม่อมฉันมาทูลเรื่องของอ๋องเทโซ นี่ก็ผ่านไป 5 วันแล้ว ทำไมป่านนี้ ในเมืองยังเงียบสงบอยู่ องค์ชายเสี่ยงชีวิตเปิดโอกาสถึงขนาดนี้ ฝ่าบาทจะไม่ทำอะไรบ้างหรือพะยะค่ะ"
 "เจ้ากล้าเสียมรรยาทต่อฝ่าบาทหรือ" คูชูดุ
 "เดินมาใกล้ๆ ซิ ไม่พอใจข้าใช่ไหม"
 "พะยะค่ะ"
 "เพราะข้า ยังไม่เชื่อสนิทใจว่า อ๋องเทโซจะตายจริงๆ"
 "แต่ว่าฝ่าบาท นี่เป็นสิ่งที่ หม่อมฉันเห็นกับตานะพะยะค่ะ"
 "ข้าจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของบ้านเมือง ไม่ควรตัดสินใจบุ่มบ่ามจนพาให้ทุกคนไปตาย ฉะนั้น เจ้าพูดจริงหรือไม่ แฮเมียงสังหารอ๋องเทโซจริงหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ แต่ข้าจะไม่ให้ผลงานของเขาเสียเปล่าแน่ เจ้าออกไปได้"
 "เอ่อ หึ" มูยุลออกไป
 คูชูทูลว่า "เป็นเด็กหนุ่มที่ใจกล้ามากนะพะยะค่ะ คล้ายกับ ฝ่าบาทสมัยยังหนุ่มไม่มีผิด"
 "ข้าดีใจที่แฮเมียงมีลูกน้องที่ดี"
 แทชองเข้ามา "ฝ่าบาท สายที่อยู่แคว้นพูยอส่งข่าวมาแล้วพะยะค่ะ ตอนนี้ทหารพูยอกำลังจะมาประชิดชายแดนของเรา"
 "เรียกประชุมหัวหน้าเผ่าเดี๋ยวนี้"
 "พะยะค่ะ"
 เวลาต่อมาหัวหน้าเผ่ามาเข้าประชุม พระราชายูริตรัสว่า
 "ข้า จะขอประกาศศึกกับแคว้นพูยอ หัวหน้าเผ่าทั้งหลาย แม้จะแสดงท่าทีไม่ต้องการสู้รบกับพูยอก็จริง แต่ถึงพวกท่านจะคัดค้าน ข้าก็ยังจะเปิดศึกอยู่ดี"
 "ฝ่าบาท ถ้าเราไม่เห็นด้วย จะทรงโยกย้ายทหารไม่ได้ แล้วทำไม ยังจะดึงดันสู้รบอีก"
 "เพราะมีโอกาสชนะ องค์ชายแฮเมียง ได้สังหารอ๋องเทโซแล้ว เป็นเรื่องจริงที่ข้าตรวจสอบแน่ชัด ท่านซังกา"
 "พะยะค่ะฝ่าบาท"
 "มีความเห็นยังไง"
 "หึ หม่อมฉันก็ได้ข่าว เกี่ยวกับเหตุร้ายที่เกิดกับอ๋องเทโซเช่นกัน  เมื่อมีหวังชนะแล้วเรื่องอะไรจะไม่สู้ เผ่าพีรูจะส่งทหาร 3 หมื่นและยุทโธปกรณ์เป็นกองหนุน"
 เมื่อเลิกประชุมแล้ว แทชองก็ทูลถามพระราชายูริอีกครั้ง
 "เราตัดสินใจจะรบกับพูยอแล้ว"
 "จริงหรือครับ"
 "จริงสิเจ้าหนุ่ม ยังไงก็ตาม เป็นผลงานของเจ้า" มูยุลหัวเราะหึๆ
000000000000000
 แพกึยกับชองบูไปดูที่ชายแดน เขาแปลกใจว่าถ้าพระราชาเทโซสิ้นพระชนม์แล้วทำไมถึงมีองครักษ์มาอยู่แถวชายแดน ความจริงคือพระราชาเทโซยังไม่สิ้นพระชนม์ แถมพระราชาเทโซยังสั่งแชบูว่า
 "ไปบอกพระราชายูริเดี๋ยวนี้ ให้พาองค์ชายแฮเมียงมาลงโทษต่อหน้าข้า ไม่งั้นข้าจะกวาดล้างโกคูรยอให้ราบเป็นหน้ากลอง"
 "พะยะค่ะ"
 ทังโนทูล "ฝ่าบาท ลูกยอนกับโทจินมาพะยะค่ะ"
 "ฝ่าบาท หึ"
 "โทจินก็มาด้วยหรือนี่"
 "ขอบคุณสวรรค์ที่ยังทรงปลอดภัย หม่อมฉันได้ยินว่าฝ่าบาทถูกทหารโกคูรยอลอบปลงพระชนม์ระหว่างทาง แล้วทรงเป็นไรหรือเปล่าเพคะ"
 พระราชาเทโซทรงหัวเราะ "ฮ่าๆๆ พวกโกคูรยอมันโง่ สังหารตัวแทนของข้ายังไม่รู้เรื่องอีก เฮ่อๆๆ ข้าไม่เป็นไร อย่าห่วงเลย เฮ่อๆๆ การฝึกของพวกเจ้าเป็นไงบ้าง"
 "นักรบทมิฬกำลังรอฟังคำสั่ง เพื่อจะแก้แค้นให้ฝ่าบาท"
 "อึม ท่านอำมาตย์"
 "พะยะค่ะ"
 "ศึกนี้ไม่จำเป็นต้องให้นักรบทมิฬเข้ามาร่วมด้วย  การทำงานของพวกเขา  ต้องรัดกุมให้มาก"
 ทังโนรับคำ "พะยะค่ะ"
 พอออกมายอนกับโทจินก็ถามทังโนว่า
 "นี่มันอะไรกันคะ ข้านึกว่าฝ่าบาททรงแย่แล้วจริงๆ"
 "รับสั่งว่าคนที่ตายคือตัวแทน จริงหรือเปล่าครับ"
 ทังโนว่า "หึ แม่ทัพแชบู คำนึงถึงความปลอดภัย จึงหาคนที่คล้ายฝ่าบาทมาเป็นตัวแทน แม้แต่ข้าก็ถูกปิดหูปิดตาด้วย เราต้องระวังคนๆ นี้ให้มาก เพราะชอบชี้นำความคิดของฝ่าบาทนัก ซักวันเขาจะเป็นศัตรูกับข้าแน่"
 โทจินรับคำ "ข้าจะจำไว้ครับ"
 มูยุลมาเฝ้าองค์หญิงเซยู และทูลขอความช่วยเหลือว่า
 "หม่อมฉันอยากให้องค์หญิงช่วยพูดกับหัวหน้าองครักษ์หน่อย เพื่อจะรีบกลับไปหาองค์ชาย"
 "หึ ไว้เตรียมการณ์ออกศึกพร้อมแล้ว ฝ่าบาทจะตามเจ้าไปพบเจ้าพี่ด้วยกัน และข้าก็จะตามเสด็จไปด้วย อดทนหน่อยเถอะนะ"
 องค์ชายยอจินเสด็จเข้ามา "พี่หญิง"
 "หึ แปลกตาดี เจ้ายอมใส่ชุดทหารด้วยหรือ"
 "หม่อมฉันได้รับพระบัญชาให้ไปออกศึกด้วย เลยอยากให้พี่หญิงช่วยฝึกการต่อสู้ให้หน่อย"
 "หึๆ เอาสิ ไปที่ลานฝึกเร็ว เอาไม้พลองมาให้ข้า ไม่ต้องหรอก ให้เจ้าสอนองค์ชายยอจิน"
 มูยุลกล่าวว่า "เอ่อ หึ หม่อมฉันมิบังอาจ"
 "ให้หม่อมฉัน ฝึกกับทหารงั้นหรือ ทำไมไม่สอนหม่อมฉันเอง"
 องค์หญิงเซยูทรงตรัสสอนว่า "อยู่ในสนามรบ คนที่จะฆ่าเจ้ามีอยู่ทั่ว ไม่เกี่ยงฐานะชนชั้น แม้แต่ไพร่ก็ลงมือได้ จำไว้ให้ดี หึ สอนเขาโดยไม่ต้องยั้งมือ"
 องค์ชายยอจินยอมฝึกกับมูยุล พระมเหสีมียูเสด็จมาเห็นก็ทรงโกรธมาก รับสั่งให้หยุด แล้วทรงตบหน้ามูยุล
 องค์ชายยอจินตกพระทัย "เสด็จแม่"
 "ทำแบบนี้หมายความว่าไง ปล่อยให้ไพร่คนหนึ่งมาล่วงเกินองค์ชาย แล้วเจ้ายังยืนดูเฉยอีก"
 "เสด็จแม่ หม่อมฉันขอสู้กับเขาเอง"
 "หึ ทำไมทำอย่างงั้นล่ะลูก ดูหน้าตาเข้าซิ พวกเจ้ายืนเฉยทำไม ไม่รีบพาองค์ชายเข้าไปอีก หึ" พระมเหสีมียูเสด็จไปเลย
 "ทรงอภัยด้วย" มูยุลทูลองค์หญิงเซยู
 "หึ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า หึ"
 ทางด้านพระราชายูริทรงตรัสกับแม่ทัพว่า
 "ข้าจะนำทัพใหญ่ไปทางทุ่งหญ้า "พยองชอง" เพื่อตรึงกำลังไว้  ส่วนแม่ทัพซัง  ให้ข้ามแม่น้ำ "พีริว" บุกจากทางเหนือลงไป"
 "พะยะค่ะฝ่าบาท"
 แพกึยกระหืดกระหอบเข้ามา "ฝ่าบาท หึ"
 "อะไรกันนี่ เจ้าเมืองโชบุนจู่ๆ มาเมืองหลวงทำไม"
 "ฝ่าบาท ระงับการเคลื่อนพลไว้ก่อน"
 "ทำไมต้องให้ระงับ"
 "อ๋องเทโซยังไม่ตายพะยะค่ะ หม่อมฉันเห็นกับตา ว่าอ๋องเทโซยังมีชีวิตอยู่พะยะค่ะ"
 แชบูเข้าเฝ้าพระราชายูริและทูลว่า
 "ฝ่าบาททรงสำราญดีมั้ย ชาวเมืองโกคูรยอ ต่างคิดว่าองค์ชายแฮเมียงปลงพระชนม์อ๋องเทโซได้ ฝ่าบาททรงคิดอย่างงั้นด้วยหรือเปล่า แต่คนที่ถูกสังหาร คือตัวแทนของอ๋องเทโซต่างหาก แคว้นพูยอเรา คำนึงถึงความปลอดภัยเสมอ จึงมีการเตรียมบุคคลไว้เป็นตัวสำรอง เรียกคนพวกนี้ว่า ตัวตายตัวแทนแห่งเบื้องบน และคนที่องค์ชายแฮเมียงสังหาร ก็คือตัวแทนคนหนึ่งของอ๋องเทโซ ตอนนี้ฝ่าบาทของเรา กำลังจะข้ามพรมแดนโกคูรยอมาแล้ว ทรงมีรับสั่งว่า ให้จับกุมองค์ชายแฮเมียงไว้ นำไปลงโทษต่อหน้าพระพักตร์ให้เห็น ไม่อย่างงั้น ชาวเมืองโกคูรยอทั้งหลาย จะเป็นผู้รับเคราะห์แทน"
 บ่าวเข้ามาบอกข่าวแพกึยว่า
 "ทหารพูยอยึดเมือง "ปูซาน" กับ "นัมซอ" ได้แล้ว  กำลังจะต่อไปยัง "พยองชอง" น่ะครับ พวกมันไปถึงไหนก็เผาทำลายถึงนั่น ชาวบ้านก็ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด"
 "สิ่งที่เกิดขึ้น องค์ชายแฮเมียงต้องรับผิดชอบ เราไปจับเขามา แล้วมอบให้อ๋องเทโซดีกว่า ได้ยินว่าคนส่งข่าว ป่านนี้ยังอยู่ในเมืองหลวง ต้องจับคนๆ นี้ไว้ก่อน"
 พวกทหารจะมาจับตัวมูยุล เขาต่อสู้และหนีไปได้
 มูยุลเข้าเฝ้าองค์หญิงเซยูและทูลยืนยัน
 "เป็นไปไม่ได้ หม่อมฉัน เห็นกับตาว่าเขาตายชัดๆ"
 "หึ คนที่เจ้ากับเจ้าพี่ไปสังหาร คือตัวแทนอ๋องเทโซต่างหาก เจ้ารีบกลับไปหาเจ้าพี่ บอกความจริงให้รู้และหาที่หลบซ่อนตัวก่อน"
 "หลบซ่อนตัว ทำไมองค์ชายต้องหลบด้วย"
 "หึ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าพี่ต้องรับผิดชอบ ถ้าให้พวกหัวหน้าเผ่ารู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน จะมีอันตรายถึงชีวิตทันที รีบไปเร็วเข้า"
 มูยุลออกเดินทางทันที เวลานั้นคูชูถามแทชองว่า
 "คนส่งข่าวขององค์ชายเป็นไงบ้าง"
 "ได้ยินว่าหนีออกจากวังไปแล้ว" แทชองตอบ
 "ถ้าอย่างงั้น ก็ไม่มีใครรู้ที่ซ่อนขององค์ชายน่ะสิ"
 "ครับ แต่คงไปได้ไม่ไกล ส่งคนไปตามดีมั้ยพะยะค่ะ"
 "ไม่ต้อง" พระราชายูริตรัส
 "ฝ่าบาท ถ้าให้พวกหัวหน้าเผ่าพบเห็นองค์ชายก่อนจะมีอันตราย เพราะฉะนั้น เราต้องไปคุ้มครองไว้ก่อนนะพะยะค่ะ"
 "ทุกวันนี้โกคูรยอ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกแล้ว"
 "หึ หนุ่มคนนั้นไม่ยอมบอกใครว่าองค์ชายอยู่ไหน แสดงว่าเป็นคนฉลาดไม่น้อย ไม่ต้องห่วงหรอกพะยะค่ะ"
 มูยุลกลับไปทูลองค์ชายแฮเมียงถึงความจริงทั้งหมด องค์ชายแฮเมียงทรงตกพระทัย
 "ข้าจะกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้"
 "เอ่อ กลับไปไม่ได้ ตอนนี้องค์ชาย ต้องหาที่ซ่อนตัวก่อน"
 "เกิดเรื่องขนาดนี้จะให้ข้าหลบซ่อนได้ยังไง"
 "หึ ตอนนี้อ๋องเทโซ พาทหารพูยอจำนวนมากข้ามพรมแดนของเรามาแล้ว พวกหัวหน้าเผ่าก็รวมตัว บอกว่าทั้งหมดนี้องค์ชายต้องรับผิดชอบ หึ"
 เฮยาแทรกขึ้น "มูยุลพูดถูกนะเพคะ ก่อนที่เรื่องจะกระจ่าง ทรงหลบก่อนดีกว่า"
 "ถ้าหาก องค์ชายเกิดเป็นไรไปละก้อ หม่อมฉัน จะเป็นคนแรกที่ต้องเสียใจไปชั่วชีวิต เพราะเป็นคนมอบหนังสือเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางของอ๋องเทโซให้ทอดพระเนตร เพราะหม่อมฉันสะเพร่า ถึงทำให้องค์ชาย หลงกลศัตรูจนตกที่นั่งลำบาก"
 "ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรอก เพราะข้าประมาท ไม่รู้ทันแผนของศัตรู"
 "หึ องค์ชาย หม่อมฉัน จะไปช่วยแม่ทัพทั้งสองกลับมาก่อน แต่ตอนนี้ ขอได้โปรด ทรงดูแลตัวเองดีๆ ได้ไหม"
 มาวังหาหญิงสาวมามอบให้ซังกา
 "เป็นไงบ้างครับ ถึงจะแต่งตัวพื้นๆ ไปหน่อย แต่หน้าตาผิวพรรณหาไม่ได้อีกแล้ว ท่านซังกา ตอนนี้ข้าแทบไม่มีอะไรเหลือ นอกจากเสื้อผ้าที่ใส่ติดตัวชุดเดียว ถ้าท่านยอมให้ความช่วยเหลือละก้อ"
 "เอาเงินไป 500 ตำลึงพอมั้ย เด็กคนนั้นไม่ต้องมาให้ข้าหรอก เอาเงินไปลงทุนทำอะไรก็ไป"
 "หึ ช่วยบอกหน่อยว่าข้าต้องตอบแทนอะไรท่านบ้าง"
 "จับแฮเมียงมาให้ข้า ตอนนี้อ๋องเทโซข้ามแดนมาแล้ว แม้แต่เมือง "พยองซอง" และ "พยองวอน" ก็ถูกพวกเขายึดหมด ถ้าจะให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็ว  ก็ต้องส่งตัวองค์ชายแฮเมียงไปให้อ๋องเทโซโดยเร็วที่สุด นี่คือทางแก้ปัญหาที่ฝ่ายพูยอเสนอมา คิดว่าเจ้า น่าจะรู้ดีกว่าใครว่าองค์ชายแฮเมียงไปซ่อนตัวอยู่ไหนสินะ ขอเพียงจับตัวเขามาได้ ข้าจะช่วยให้เจ้าเป็นเศรษฐีอีกครั้ง หือ"
 มาวังไปที่ถ้ำ พบกับเฮยา และบอกว่าจะมาพบองค์ชายแฮเมียง แต่เฮยาบอกว่า
 "องค์ชายอะไรกัน จะหาองค์ชาย ทำไมมาแถวนี้"
 "อย่าพูดแบบนี้ซี่ ข้าคือมาวังนะ เป็นคนที่รู้จักองค์ชายมานานยิ่งกว่าเจ้าซะอีก ไม่มีใครตามมาหรอก อย่าห่วงไปเลย ข้ามีเรื่องด่วนจะทูล รีบพาไปเร็วเข้า"
 เฮยาเข้าไปก็พบจดหมายขององค์ชายแฮเมียง
 "ข้าไม่อยากเอาตัวรอดคนเดียว โดยผลักภาระให้คนอื่นรับแทน มันเป็นสิ่งที่ข้าก่อไว้  ข้าก็ควรรับผิดชอบเอง ถ้าอีกหน่อยข้าเป็นไรไป ช่วยดูแลมูยุลด้วย ขอเพียงขจัดมลทินที่ติดตัวเขามาแต่เกิดได้ เด็กคนนี้ อนาคตจะเป็นพระราชาของเรา เพราะฉะนั้น เจ้าต้องดูแลเขาดีๆ"
 เฮยาร้องไห้ "ข้า นอกจากคำว่าขอโทษแล้ว คงไม่กล้าพูดอะไรอีก ตลอดเวลา ในใจข้า มีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้น"
 เฮยาร้องไห้ มูยุลเข้ามาหาเฮยา และถามว่า
 "หัวหน้าครับ หึ องค์ชายอยู่ไหนน่ะ หึ หัวหน้า หึ"
 มาโนรีบถามอย่างร้อนใจ "หัวหน้า เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ"
 "ป่านนี้องค์ชาย หึ กลับไปเมืองหลวงแล้ว"
 พระราชายูริทรงเห็นองค์ชายแฮเมียงก็รับสั่งว่า
 "รู้อยู่ว่าทุกคนจะให้เจ้ารับผิดชอบเรื่องนี้ แล้วกลับมาทำไม"
 "หม่อมฉัน ทำให้เสด็จพ่อและบ้านเมือง เผชิญกับวิกฤติใหญ่หลวง จึงจะขอมอบชีวิต เป็นการชดเชย"
 "โลกนี้จะมีพ่อคนไหน เอาลูกในไส้เป็นเกราะคุ้มกันให้ตัวเองปลอดภัย จะมีพ่อคนไหนเอาตัวรอดโดยให้ลูกตายแทนมีมั้ย"
 "ฮือ โปรดทิ้งหม่อมฉัน แล้วปกป้องราษฎรไว้เถอะ"
 "ข้าเคยทิ้งพี่ชายกับน้องเจ้าไปแล้ว ยังจะให้ทิ้งเจ้าอีกคนหรือ ข้าทำไม่ได้"
 "เสด็จพ่อ"
 "จากที่เคยอัปยศอดสู ถูกหยามเหยียดว่าเป็นคนอ่อนแอ ข้าแอบหวังว่าซักวันหนึ่ง จะได้แก้แค้นอ๋องเทโซอย่างสาสม แต่หากไม่สามารถทำได้ อนาคต เชื่อว่าเจ้าคงกลับมาแก้แค้นให้ข้าเอง"
 "ถ้าไม่ทรงทิ้งหม่อมฉัน ราษฎรก็จะรับเคราะห์แทน โปรดทิ้งหม่อมฉันดีกว่า"
 "อย่าโง่หน่อยเลย เมื่อเป็นรัชทายาทแล้ว นึกจะตายก็ตายได้ง่ายๆ หรือ เจ้าต้องอยู่ต่อไป ปัญหาทุกอย่างข้าจะรับผิดชอบให้ ถ้าการตายของข้าสามารถช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เจ้าก็ช่วยแก้แค้นให้ข้าละกัน"
 องค์ชายแฮเมียงทรงร้องไห้ "ฮือ เสด็จพ่อ ฮือๆๆ ฮือๆๆ"
จบ 6



เครดิตร : oknation.net/blog/lakorn

   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 5 - 6
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์