แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
[โปรโมชั่น 5 โหล] นวดปู่คาด เชียงใหม่
ดูขนาดรูปภาพจริง
Coach F76636 Town tote in signature canvas
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตู้จดหมายฝังกำแพง
ดูขนาดรูปภาพจริง
LG เครื่องซักผ้าฝาบน ขนาด 12 KG.
ดูขนาดรูปภาพจริง
Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
แอร์ SHAPR PR13
ดูขนาดรูปภาพจริง
Magnetic Drive pumps ปั๊มแม่เหล็กสูบส่งเคมีชุบ เคลือบ
ดูขนาดรูปภาพจริง
เบบี้หมีพูห์ Disney Winney The Pooh Baby
ดูขนาดรูปภาพจริง
กรอบรูปพร้อมแสตมป์พระราชพิธี
ดูขนาดรูปภาพจริง
ปั๊มสูบส่งของเหลว ปั๊มสูบส่งของหนืด สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Natural Hair Spray 50ml. (เรียวแฮร์เนเชอรัลสเปรย์)
ดูขนาดรูปภาพจริง
เอมมูร่า เซซามิน งาดำ เชียงใหม่ (อย 12-1-05150-1-0105)
ดูขนาดรูปภาพจริง
สกรีนฟอยด์
ดูขนาดรูปภาพจริง
รุ่น PVC 0.46 VIP Member Card
ดูขนาดรูปภาพจริง
Clip Lens Super Wild "Selfie Cam Lens" สีแดง ชมพู ฟ้า ดำ c009
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair 4 กล่อง (เรียวแฮร์ เซรั่มปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ชุดราตรีเด็กกรุ๊ปโต(พร้อมส่ง)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Verena Nutroxsun นวัตกรรมใหม่ของผลิตภัณฑ์กันแดดในรูปแบบของการชงแล้วดื่ม
ดูขนาดรูปภาพจริง
ขนมขาไก่สามรส
ดูขนาดรูปภาพจริง
Reebok เสื้อยืดคอกลมสีม่วงเข้ม ไซส์ S ของมันต้องมี
ดูขนาดรูปภาพจริง
เครื่องไล่นกระบบไฟฟ้า BIRD PROTECT
ดูขนาดรูปภาพจริง
Inkjet Photo Sticker กระดาษอิงค์เจ็ทโฟโต้สติ๊กเกอร์
ดูขนาดรูปภาพจริง
เลนส์เสริมมือถือ รุ่น HPLQ-027 คลิปเลนส์ 0.45X Wide-angle 10X Macro-lens
ดูขนาดรูปภาพจริง
KALOW แกลโล
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Natural Hair Serum 50ml. 2 กล่อง (เรียวแฮร์ เนเชอรัล เซรั่ม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน [ ตอนที่ 25 - 26 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 559 ครั้ง            update : 27/5/2010

   
   
 

ซอนต๊อก 25 
 
 การสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงชอนมยองสร้างแรงบันดาลใจ ให้ต๊อกมาน เดินทางกลับซอนาบูเพื่อยึดกุมอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว
 คิม ยูซินถาม "เจ้าไม่อยากทำหรือ แล้วคิดจะทำอะไรต่อไป"
 "จะให้ข้าทำตามก็ ได้ แต่บอกซิว่าควรทำไงบ้าง"
 "แต่ว่า ที่องค์หญิงทรงเป็นห่วงก็คือเจ้าคนเดียว"
 "ก็ถึงบอกไงว่า องค์หญิงทรงเป็นห่วงข้า แถมยังตายแทนข้าอีก แล้วข้าจะไปได้ยังไง ให้อยู่อย่างมีความสุขในฐานะผู้หญิงน่ะหรือ หึ ไม่มีทางหรอก ความ สุขในชีวิตได้หมดไปแล้ว หึ"
 "เรื่องที่เกิด ไม่ใช่ความผิดของเจ้า การที่องค์หญิง ต้องสิ้นพระชนม์ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า"
 "ฮือ และไม่ใช่ความผิดของท่านด้วย แต่ไม่รู้ทำไม ข้ากลับรู้สึกไม่กล้าสู้หน้าท่านอีก ฮือ คิดว่าท่านก็คงเหมือนกัน ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเราสองคน ฮือ แต่เรากลับรู้สึกละอายใจ จนไม่กล้าที่จะ มองหน้ากันและกัน ฮือ" ต๊อกมานร้องไห้
 คิมยูซินร้องไห้ ตาม "เจ้าพูดมาก็ถูก แต่ว่า ข้าก็ต้องทำตามรับสั่งขององค์หญิง พาเจ้าหนีไปอย่างปลอดภัย เพราะฉะนั้นต๊อกมาน ต๊อกมาน เราไปจากที่นี่เถอะนะ ถ้าเจ้าไม่ยอมไป"
 "ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ข้าจะอยู่ชิลลา"
 "ถ้าอยู่ ต่อ เจ้าจะมีแต่ตายเท่านั้น"
 ต๊อกมานตอบอย่างมั่นใจ "ข้าสามารถหาวิธี ให้ตัวเองไม่ต้องตายและอยู่ต่อได้ ไม่ใช่สิ เพราะข้าไม่อยากตาย เลยต้องหาทางออกมากกว่า"
 "แล้วยังไง เจ้าคิดจะทำไงกันแน่"
 "ข้าคิด จะ ปกครองชิลลา บ้านเมืองถูกกระทำย่ำยีมากพอแล้ว ข้าจะให้ชิลลา ได้ปฏิรูปโฉมใหม่ แค่โค่นอำนาจของมีซิล ขอเพียงกำจัดนางได้ก็พอแล้ว"
 พี ดัมเข้ามาเรียกต๊อกมาน "เดี๋ยวซี่ อย่าเพิ่งไป มาคุยกันก่อน ข้าไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ เราเป็นเพื่อนไม่ใช่หรือ เจ้าจะไปไหนแน่"
 ต๊อก มานตอบ "ไปซอนาบู"
 "ซอนาบู เอ่อ เดี๋ยวๆๆ อย่าเพิ่งไป ฟังข้าซักนิด คือ ตอนนี้ใครๆ ก็จ้องจะจับเจ้าไปทั่ว แล้วยังไปที่นั่นทำไมอีก เดี๋ยว บอกว่าอย่าเพิ่งไป บอกข้าไม่ได้หรือ"
 "เจ้า จะไปกับข้ามั้ยล่ะ"
 "ทำ อะไร หึๆ ต้องบอกก่อนว่าจะให้ทำอะไรบ้าง"
 ต๊อกมานคิดในใจ "ข้าคิดจะ ปกครองชิลลา บ้านเมืองถูกกระทำย่ำยีมากพอแล้ว ข้าจะให้ชิลลา ได้ปฏิรูปโฉมใหม่"
 คิมยูซินเองก็คิดในใจ "อย่าบอกนะว่า ต๊อกมานคิดจะ"
 พี ดัมหัวเราะออกมา "หึ เฮ่อๆๆ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ หึ เจ้ากับท่านคิมยูซิน พูดตลกใช่ไหมนี่ หา"
 ต๊อกมานว่า "ถ้าอยากช่วยข้าจริง ก็ไปพบข้าที่โรงเตี๊ยม “กวางฮึง” ในเมืองหลวงได้"
 "หา เจ้า พูดจริง หรือนี่"
 "หรือไม่อย่างงั้น เราก็แยกกันตรงนี้"
 "เดี๋ยว นี่ จริงหรือเปล่าน่ะ ตั้งแต่เกิดมานี่ เพิ่งเคยฟังเรื่องเพ้อเจ้อก็วันนี้ เอ่อ ต๊อกมาน เป็นไปได้หรือนี่ เฮ่ย"
 พีดัมเข้าไปในเมือง จนมุนโนมาพบและสั่งให้พีดัมตามเขากลับไป
 มุนโนถาม "เจ้าบอกว่าอยากช่วยคนแปลกหน้าที่พลัดหลงมา ข้าเลยไปติดต่อเรือให้ แล้วตอนนี้พวกเขาไปไหนถึงเหลือเจ้าคนเดียว"
 "ครับ นั่นเป็นเพราะ"
 "ส่ง พวกเขาไปแล้วใช่ไหม"
 "เดิมทีก็น่าจะไปได้ แต่เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะครับ"
 "เจ้าคนกระล่อน มาเล่นตลกอะไรกับข้าอีก จะมาโกหกใช่ไหม"
 "เปล่านะครับ คราวนี้ข้าตั้งใจอยากช่วยพวกเขาจริงๆ ที่สำคัญ ข้าได้ช่วยไปแล้ว เพียงแต่ว่า เกิดเหตุผิดพลาดนิดหน่อย แม้แต่ข้า ก็อดใจหายไม่ได้"
 "เจ้าไปช่วยพวกเขาจริงหรือ"
 "ครับ"
 "ช่วยด้วย ความจริงใจ ไม่ได้หวังอะไรแน่นะ"
 "ครับ เป็นความจริงใจ"
 "ข้าจะไป จากที่นี่แล้ว เจ้าไปเก็บของเร็ว"
 พีดัมรับคำ "ครับ"
 เมื่อไปถึงที่ พัก มุนโนเห็นพีดัมนั่งเหม่อก็เข้าไปถามว่าคิดอะไร
 "เปล่าครับ คิดถึง คนที่ข้าไปช่วยเขา"
 "ใคร องครักษ์คนนั้นน่ะหรือ"
 "ไม่ใช่ครับ คนที่อยู่กับเขา เหมือนเป็นลูกน้องอีกคน ที่แท้เขา กับองค์หญิง เอ่อ อาจารย์ ข้าอยากจะ ไปช่วยพวกเขาได้ไหม"
 "ไปช่วยทำไม"
 พีดัมตอบว่า "คือ รู้สึกเห็นใจน่ะครับ"
 "ดูเหมือนเจ้าจะเห็นใจ สองคนนั้นด้วยความจริงใจนะ"
 "ใช่ครับ ข้าอยากช่วยพวกเขาจริงๆ ไม่ทราบท่านจะอนุญาต ให้ข้าไปได้ไหม ข้าพูดจริงน่ะครับ"
 "เอาเถอะ อยากไปก็ไป ข้าจะคอยส่งข่าวในที่ๆ เราเคยตกลงไว้ เจ้าไปช่วยเพื่อนทำงาน มีเวลาแล้วค่อยติดต่อ"
 "ครับ"
 ไอชองในเครื่องแต่งกายเต็มยศประกาศ ต่อราชสำนักว่าจะสืบหาสาเหตุการสิ้นพระชนม์ที่แท้จริงขององค์หญิงชอนมยองให้ ได้
 "ฝ่าบาท เกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงชอนมยอง ไม่ควรปล่อยให้ผ่านเลยง่ายๆ ใครที่ทำให้องค์หญิงสิ้นพระชนม์ สมควรไต่สวนให้รู้ โดยเฉพาะผู้บงการ ต้องสืบสาวราวเรื่อง และลงโทษให้หนักนะพะยะค่ะ ฝ่าบาท ตอนนี้งานพระศพได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถึงเวลาที่จะ ดำเนินการเอาผิดกับผู้คิดร้าย อย่าปล่อยให้ลอยนวล"
 มีซิ ลและพระเจ้าจินพยองตัดสินใจปกปิดเรื่องพระธิดาฝาแฝดไว้เป็นความลับ ทั้งสองต่างเห็นพ้องกันโดยปล่อยให้การสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงชอนมยองซาลงไป เอง
 "ฝ่าบาท แล้วตอนนี้ จะทรงทำไงดีเพคะ ยังจะสืบหาคนที่ทำให้องค์หญิงสิ้นพระ ชนม์อีกหรือเปล่า ถ้าไง ให้หม่อมฉันรับหน้าที่ก็ได้นะเพคะ แต่ว่า เราอาจต้องถกประเด็นองค์หญิงแฝดที่ทำให้องค์หญิงชอนมยองต้องไปยังที่เกิด เหตุอีกครั้ง" มีซิลทูลถาม
 พระเจ้าจินพยองตรัสว่า "หึ การตายของชอนมยอง เป็นอุบัติเหตุ"
 "เพคะ ฝ่าบาท ช่างเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้านัก หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจ ต่อฝ่าบาทและพระมเหสี และการประชุมเกี่ยวกับเรื่ององค์หญิงแฝด ก็ถือว่ายกเลิกกันไป นับแต่นี้ บ้านเมืองก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ"
 ไอชองยัง คงร้องขอ "ฝ่าบาท เกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ขององค์หญิงชอนมยอง จะปล่อยให้แล้วไปไม่ได้พะยะค่ะ ฝ่าบาท ได้โปรดพิจารณา"
 ซอวอนตอบแทนว่า "ฝ่าบาทมีรับสั่ง ว่าการสิ้นพระชนม์ เป็นเหตุสุดวิสัย"
 "ฝ่าบาท"
 "ต่อ ไปถ้าใครกล้าฟื้นฝอยหาตะเข็บอีก ข้าจะถือว่าคนๆ นั้น กระทำการอันเป็นภัยต่อราชสำนัก มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต"
 "ฝ่าบาทๆ ฮือ ฝ่าบาทๆ ฮือ ฝ่าบาท"
 จากนั้นซอวอนก็คุยกับมีซิลว่า
 "ท่านเซจู เป็นการแลกเปลี่ยนที่น่าเสียดายนัก เพราะนั่นเป็นโอกาสที่หายาก เรากลับต้องปล่อยให้เรื่องนี้เงียบลง เพื่อไม่ให้มีปัญหาทั้งสองฝ่าย"
 "แท นัมโพอยู่ไหน" มีซิลถาม
 "ท่านมีเซ็งส่งไปให้เมืองสุย รับคุณชายชุนชูกลับมา ไม่ให้ใครจับผิด"
 "แล้วสองคนนั้นล่ะ"
 "ยัง อยู่ในห้องลับของตำหนักเทพ"
 มีซิลนำยาพิษมาให้มีเซ็งดื่ม มีเซ็งตกใจมาก
 "อย่า ล้อเล่นได้ไหม ข้ากลัวจะแย่แล้วนะ หึ ยังไงข้าก็เป็นน้อง ใจคอจะให้ดื่มยาพิษได้ลงหรือ"
 "ขนาดลูกยังตัดขาดได้ น้องจะมีความหมายอะไร" มีซิลว่า "ใครก็ตามที่ขัดคำสั่ง ข้าสามารถตัดได้หมดทั้งนั้น"
 มีเซ็งอ้อนวอน "พี่ใหญ่ อภัยให้ข้าซักครั้งไม่ได้หรือ ข้าเพียงแต่ ได้ยินธิดาเทพบอกว่าให้ฆ่านางซะ"
 "ธิดา เทพมาสั่งแทนข้าได้หรือ"
 "ก็นางบอกว่า ดาวชอนจุนจะทาบรัศมีดาวปุกนักซานี่นา"
 "นางเป็นแค่โหรหลวงที่ทำนาย เรื่อยเปื่อยจะมากำหนดชะตาของข้าได้ยังไง"
 "นั่นสิ ข้าก็ว่างั้นแหละ แหะๆ ฮือๆๆ"
 "ดาวชอนจุน จะมีอิทธิพลอะไร กล้ามาทาบรัศมีดาวประจำราศีของข้าได้หรือ อยากรู้นัก หน้าไหนจะมาโค่นอำนาจข้าได้ ช่วยบอกหน่อยซิ"
 "ใช่ ถูกต้อง ฮือๆๆ"
 "โอกาส เป็นของเราแท้ๆ กลับต้องเสียไปเพราะการตายของชอนมยอง ฮือ เจ้ารู้หรือเปล่า"
 "ฮือ ใช่แล้ว ใช่ๆ ข้าลืมบอกไป คือ ใต้ซือวาชอนบอกว่า อีกไม่นานจะเกิด สุริยคราส ถ้าเกิดจริง นั่นเป็นปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าราหูอมจันทร์หลายเท่านัก ถ้ามันจริงละก้อ ท่านจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าคืออะไรก็ตามแต่"
 "แต่ว่า เท่าที่ข้ารู้ สุริยคราสไม่อาจคำนวณได้ง่ายๆ เหมือนจันทรคราส"
 "ใช่ ถูกต้อง มันเป็นอย่างงั้น แต่ว่า ข้าไปบอกให้ใต้ซือพยายามหน่อย เขาเลยใช้ปฏิทินชุดใหม่เป็นข้อมูลสำคัญ กำลังเร่งคำนวณให้รู้แน่ชัด เอ่อ ข้าพูดจริงนะพี่ใหญ่ ธิดาเทพคงหมดประโยชน์ไปแล้ว ถ้าไม่มีข้าอีกคน อีกหน่อยเรื่องพวกนี้ ใครจะช่วยท่านดูแลล่ะครับ ฮือ ข้าน่ะ อย่างน้อยก็พอมีประโยชน์บ้าง หึ พี่ใหญ่ แล้วก็แล้วไป ถือว่ายกโทษซักครั้ง แล้วต่อไป รับรองจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก แหะๆๆ แหะๆๆ พี่ใหญ่ ฮือๆๆ ฮือๆๆ" มีเซ็งร้องไห้โฮ
00000000000000

 มีซิลไปพบธิดาเทพที่ ตำหนักและถามว่า
 "ท่านทำอะไรอยู่"
 "ท่านเซจู ข้ากำลังตั้งจิต เพ่งมองท้องฟ้า ดูความเปลี่ยนแปลง จากนั้นค่อยถ่ายทอดบัญชาสวรรค์มายังท่าน"
 "เพราะ อย่างงี้ เราสองคนถึงร่วมมือมาจนวันนี้ สร้างอาณาจักรที่มั่นคง"
 "แต่ แล้ว นับวันท่านจะยิ่งเปลี่ยนไปมากขึ้น"
 "สมัยก่อนท่านเป็นคนบอกข้าเอง ว่า สวรรค์อยู่เคียงข้างข้าเสมอ"
 "นั่นมันก็ถูกอยู่ แต่จริงๆ แล้ว โชคชะตาฟ้าลิขิตนั้น มักจะผันแปรและยากจะคาดเดา ไม่เคยอยู่กับใครหรือที่ใดที่หนึ่งนานๆ"
 "แล้วยังไง"
 "โดยเฉพาะ กับคนที่ไม่รู้จักยำเกรงต่อฟ้าดิน ไม่นานจะได้รับบทเรียนล้ำค่า"
 "แล้ว ไง ท่านจะบอกว่านับแต่นี้สวรรค์ไม่เข้าข้างข้าอีกใช่ไหม"
 "ข้าอยากให้ ท่าน อย่าสบประมาทต่อพลังอำนาจที่เหนือกว่าเรา"
 "เอาเป็นว่าข้าเข้าใจ ว่าแต่ท่านเถอะ จะไม่ทบทวนตัวเองบ้างหรือ"
 ต๊อกมานมาพบไอชอง แต่ถูกไอชองว่า
 "เจ้าถอยไปซะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า"
 ต๊อกมาน เสียงเข้ม "บังอาจที่สุด หึ เพราะมีซิลไม่ยอมรับฐานะข้า ราชสำนักถือว่าข้าไม่มีตัวตน แม้แต่ท่านก็จะปฏิเสธข้างั้นหรือ"
 "ถ้า องค์หญิงยังจะอยู่นี่ต่อ"
 "ท่านห่วงความปลอดภัยของข้า หรือเป็นห่วงบ้านเมืองมากกว่า ต่อไปข้าจะไม่หนีอีกแล้ว ข้าจะอยู่ต่อไป อยู่ให้เข้มแข็ง เพื่อจะเป็นองค์หญิงแห่งชิลลา หลังจากนั้นแล้ว ข้าจะปกครององครักษ์ทั้งหมด เพราะฉะนั้น ท่านก็เหมือนกัน"
 "แต่ว่า ตอนนี้ข้า เหมือนเป็นคนบาปที่ละอายต่อฟ้าดินนัก เพราะข้าไม่อาจปกป้ององค์หญิงชอนมยอง"
 "ต้องอยู่ต่อไป แม้แต่ข้า ก็พยายามอยู่ต่อเหมือนกัน ถ้าคิดจะตายจริง ก็เอาความคิดตรงนั้นแปรเป็นความเข้มแข็งซะ ทนรับความอัปยศอดสู และความสิ้นหวัง เอาความคิดที่จะตายแปรเป็นความฮึดสู้ ข้าขอสั่งท่านในนาม นายแห่งองครักษ์"
 "ไอชองแห่งหน่วยองครักษ์บีชอน ขอฟังคำสั่ง องค์หญิงต๊อกมาน"
 จากนั้นไอชองก็นำจดหมายไปมอบให้พระเจ้าจินพยองจนได้
 พระ เจ้าจินพยองตรัสถาม "เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้าใช่ไหม นี่คือจดหมายอะไร"
 "หม่อม ฉันมีหน้าที่ นำจดหมายมาถวายให้ถึงพระหัตถ์เท่านั้น"
 ต๊อกมานเขียนว่า "ฝ่าบาท หม่อมฉัน เป็นธิดาองค์รองของฝ่าบาท องค์หญิงแห่งชิลลา ชื่อต๊อกมานเพคะ แม้ฝ่าบาทและคนอื่นๆ จะไม่ยินดีต้อนรับหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันก็ต้องการฐานะเดิมกลับคืน เป็นธิดาของฝ่าบาท องค์หญิงแห่งชิลลา เชื้อพระวงศ์ที่แท้จริง"
 จากนั้นไอชองก็ไปขอเข้าเฝ้าพระมเหสีมายาแต่นาง ในบอกว่าตอนนี้ยังเข้าเฝ้าไม่ได้เพราะทรงประชวร ไอชองยืนยันว่าจะเข้าเฝ้า ก่อนจะกลับมาก็พบว่าคิมยูซินรอถามเขาว่า
 "ท่านเห็นต๊อกมานหรือเปล่า ข้ากลัวนางจะทำอะไรวู่วาม นางอยู่ไหน ข้าจะขอพบนางหน่อย"
 เวลานั้นต๊อก มานอยู่กับพีดัม ต๊อกมานถามกับพีดัมว่า
 "ตัดสินใจอยู่กับข้าแล้วใช่ไหม"
 "ยัง ไม่แน่ ต้องดูผลงานซะก่อน"
 "มีมรรยาทหน่อย อย่าสามหาวให้มากนัก"
 "เฮ่ย นี่ อย่าทำเป็นเคร่งมากได้ไหม"
 "หึ ถึงข้าจะอยู่ในสภาพตกอับ แต่ยังไงก็เป็นถึงองค์หญิง เจ้าจะไม่ให้เกียรติหน่อยหรือ"
 "องค์หญิง หรือ เรื่องถือยศถือศักดิ์นี่ ข้าไม่ค่อยถูกโฉลก"
 "หึ ไม่ถูกโฉลกหรือ"
 "ต่อ ให้พระราชามาเอง เปลือกนอกข้าอาจจะนอบน้อม แต่ในใจคงไม่นับถือซักเท่าไหร่"
 "หมาย ความว่า ไม่ว่าเจ้าจะเจอใคร ก็ไม่เคยมีคำว่ากลัวหรือยำเกรงใช่ไหม"
 "กลัว หรือ ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือคำว่ากลัว แล้วจะให้ทำไงล่ะ"
 "คิดว่าคนอื่นจะ อ่านใจเจ้าไม่ออกด้วยหรือเปล่า"
 "ขนาดข้ายังไม่รู้ใจตัวเอง แล้วคนอื่นจะอ่านออกได้ไง"
 "ถ้าอย่างงั้น ต่อหน้าข้าก็ไม่ต้องสำรวมอะไรมาก ทำตัวปกติของเจ้าไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องเกรงใจข้า"
 "แค่นี้ มันก็ไม่ยากสำหรับข้าหรอก"
 "แน่ใจนะว่า ไม่ว่าเจอใคร เจ้าก็ไม่เกิดความกลัวทั้งนั้น"
 "เอ่อ ใช่"
 คิมยูซิ นตามมาจนพบกับต๊อกมาน
 "เจ้าจะทำอะไรกันแน่ ไม่ว่าขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ช่าง ข้าจะอยู่กับเจ้าเสมอ บอกมาเถอะ ไม่ต้องกลัวหรอก จะลอบสังหารมีซิลใช่ไหม จะทวงสิทธิ์ขององค์หญิงกลับคืนมา? หรือไม่งั้น ก็คือแก้แค้นชิลลาที่ตัดขาดกับเจ้า ต่อให้คิดอย่างงั้นก็เถอะ ตอนนี้เจ้าก็ไม่ควรอยู่ในเมืองหลวง รีบไปจากที่นี่ก่อน"
 "ข้ากำลังคิด อยู่ว่า จะให้ท่านมีส่วนร่วมในงานนี้ดีหรือเปล่า ข้าไม่รู้จริงๆ"
 "ข้า บอกแล้วว่า จะขอมีส่วนร่วมกับเจ้าทุกอย่าง ข้าไม่กลัว ข้าจะร่วมด้วย"
 "แต่ ว่าข้า ข้ากลัวตัวเองจะใจอ่อน ถ้าอยู่กับท่านนานๆ ต่อไปท่านจะ ไม่สามารถ ตบหัวข้าหรือดุด่าว่ากล่าว ไม่อาจจะ เรียกชื่อข้าตรงๆ ได้ ไม่อาจที่จะ ถูกตัวข้า หรือแม้แต่เข้าใกล้ข้าด้วยซ้ำ"
 ต๊อกมานคิดว่า "ถ้าเพียงแต่ มีท่านอยู่ในใจข้าอย่างเงียบๆ แค่นี้น่าจะพอ"
 พระเจ้าจินพยองมาเฝ้าดูแล พระมเหสีมายา
 "น้องหญิง เมื่อวานเจ้ายังนอนสลบไสลแทบไม่รู้ตัว แล้วทำไมพอฟื้นมาก็บอกว่าจะไปตำหนักเทพซะล่ะ"
 "ไม่เป็นไรหรอกเพคะ ที่หม่อมฉันตื่นมาก็เพื่อจะไปตำหนักเทพ"
 พระเจ้าจินพยองปราม "อย่าเพิ่งไปจะดีมั้ย"
 "งานศพของลูก หม่อมฉันไม่ได้ไปร่วมด้วย อย่างน้อยก็ขอไปเซ่นไหว้นางหน่อย"
 "ถ้าอย่างงั้น รอเจ้าหายดีก่อน ข้าจะให้จัดงานอุทิศส่วนกุศล"
 "ไม่ต้องหรอกเพคะ ให้หม่อมฉัน ไปทำพิธีวันนี้ เพื่อให้วิญญาณของลูกไปสู่สุขคติเถอะ ทรงอนุญาตเถอะเพคะ หม่อมฉันแค่ไปส่งนางเอง"
 และเมื่อไปทำพิธีพระมเหสีมายาก็พบกับต๊อกมาน ทรงตรัสถาม
 "เพราะอะไร เจ้าต้องกลับมาอีก"
 "หม่อมฉัน ได้ยินว่าพระมเหสีประชวรหนัก"
 "ต๊อกมาน ลูกรักของแม่ ฮือ พอท่านไอชองมาบอก เรื่องของเจ้าให้ข้ารู้ ข้าก็ฟื้นทันที เจ้าคิดจะทำไงต่อไปอีก"
 "หม่อมฉันอยากเข้าไปในห้องลับ ที่องค์หญิงเคยบอกว่าอยู่ในตำหนักเทพ"
 "หา เข้าไป ในนั้นทำไม เจ้าจะทำอะไรกันแน่"
 "เพื่อพิสูจน์เรื่องๆ หนึ่ง"
 พระมเหสีมายาทรง ร้องไห้ "หา ฮือ เจ้าจะให้แม่ ต้องเสียเจ้าไปอีกคนหรือไง ฮือ เข้าไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา"
 ขณะที่ธิดาเทพเองก็พบกับต๊อกมานก็แปลกใจ
 "เจ้า เองหรือ ทำไมถึงได้"
 ต๊อกมานว่า "คนที่รับบัญชาจากสวรรค์ กลับมีห้องลับ อยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ทำสิ่งที่หลอกลวงต่อสวรรค์และราษฎร หนำซ้ำ ยังใช้วิธีสกปรกแลกกับผลประโยชน์ คนอย่างท่าน ไม่คู่ควรเป็นธิดาเทพซักนิด"
 "แล้ว ยังไง เจ้าจะมาฆ่าข้าใช่ไหม"
 "หึ ฆ่าท่านน่ะหรือ ใครเป็นคนศึกษาเกี่ยวกับเรื่องปฏิทิน ข้าถามว่าใครศึกษาเกี่ยวกับปฏิทิน เขาอยู่ไหน" ต๊อกมานถาม
 "นี่ นี่แปลว่า ดาวแคยาง"
 "ดาวแคยาง"
 "หา คือเจ้าหรอกหรือ"
 "ข้าไม่รู้ท่านเพ้อเจ้ออะไร บอกมาเร็วๆ ใครเป็นคนศึกษาเรื่องปฏิทินกันแน่ เอ่อ"
 "หึ หึ เร็วเข้า ไปแอบไว้ก่อน ไปอยู่หลังฉากบังตา หึ ไปเร็วซี่" ธิดาเทพรีบบอกเมื่อรู้ว่ามีซิลจะเข้ามา
 มี ซิลถามธิดาเทพว่า "ข้าจะมาถามเป็นครั้งสุดท้าย จะยอมทำตามคำสั่งข้ามั้ย"
 "เช่น เดียวกัน ข้าก็ขอเตือนท่านเซจูเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน ถ้าจับองค์หญิงแฝดอีกคนได้เมื่อไหร่ ก็ให้สังหารนางทันที เพราะตอนนี้ท่าน มีอำนาจในมืออย่างชนิดไม่มีใครเทียบได้อยู่แล้ว ที่สำคัญคือ ดวงชะตาท่านจะไม่มีวันไปถึงตำแหน่งมเหสีแน่นอน"
 "อะไรนะ ท่านนึกว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาตัดสินชะตาข้าแบบนี้ คนอย่างท่านคู่ควรด้วยหรือ"
 "ใช่ ท่านเซจู ท้ายที่สุดแล้ว ยุคของท่านจะต้องสิ้นสุดไปตามกาลเวลา แต่ว่า ข้าไม่อยากอยู่ดูเหตุการณ์ที่จะเกิดในวันนั้น" ธิดาเทพกินยา "โอ๊ะ ต่อไป คนที่จะช่วยท่านทำงานได้ ฮือ คงมีแต่ ใต้ซือวาชอน ที่อยู่ในวัด “วาต๊อก” เท่านั้น ฮือ มีเขาคนเดียว โอ๊ะ ที่จะ ตีความในปฏิทินออกมาได้ หึ ใต้ซือ วาชอนที่อยู่ใน วัด “วาต๊อก” คนเดียวเท่านั้น ฮือ"
 ต๊อกมานได้ยินก็คิด "วัดวาต๊อก ใต้ซือวาชอน"
 ธิดาเทพกล่าวกับมีซิลอีกว่า "ท่านจง อย่าลืมคำพูดของข้า เอ่อ วัด วาต๊อก วัดวาต๊อก ใต้ ใต้ซือวาชอน คนเดียวเท่านั้น โอ๊ย โอย"
 มีเซ็งเข้ามาเห็นก็ตกใจ "อ้าว ใครเป็นอะไร เฮ้ย เอ่อ ธิดาเทพๆ เอ่อ พี่ใหญ่ ไม่ได้นะท่าน ถ้าปล่อยให้นางตาย ต่อไปเรื่องการทำนาย เราจะพึ่งใครได้อีก หา พี่ใหญ่ๆ ธิดาเทพๆ เดี๋ยว พี่ใหญ่ (ซ ) พี่ใหญ่ๆๆ แน่ใจหรือว่าคิดดีแล้ว"
 "เรื่องสุริยคราสเป็น ความจริงหรือเปล่า" มีซิลถาม
 มีเซ็งตอบว่า "จริงซี่ แน่นอนเลย"
 "ข้า จะไปคุยกับใต้ซือวาชอนเดี๋ยวนี้ เจ้าไปกับข้าด้วย"
 ต๊อกมานรีบไปหาพีดัม แล้วบอกให้เตรียมตัว ไปวัดวาต๊อกเดี๋ยวนี้เพื่อจับคนคนหนึ่ง จากนั้นต๊อกมานก็มาหาคิมยูซินและบอกว่า
 "ข้าจะพาใต้ซือวาชอนมาที่นี่"
 คิม ยูซินถาม "แล้วไงอีก"
 "ข้าจะริดรอนอำนาจของมีซิล"
 "แล้วไง"
 "จาก นั้น ก็จะทำลายอิทธิพลของนางซะ"
 "หลังจากนั้นแล้วจะทำไงต่ออีก อะไรคือเป้าหมายแท้จริงของเจ้า บอกหน่อยซิ"
จบ 25

ซอนต๊อก 26 

 คิม ยูซินถามต๊อกมานว่า "หลังจากนั้นจะทำไงต่ออีก อะไรคือเป้าหมายแท้จริงของเจ้า บอกหน่อยซิ สิ่งที่เจ้าต้องการจริงๆ คืออะไรกันแน่ ทำไมไม่พูดล่ะ"
 ต๊อกมานกล่าวว่า "เป็นประมุข ข้าต้องการจะเป็น ประมุขแห่งชิลลา และจะใช้วิธีเดียวกับที่ มีซิล สร้างตัวขึ้นมา ฉะนั้น ข้าจึงต้องการตัวใต้ซือวาชอน เพื่อทวงสิ่งที่เป็นของข้ากลับคืนมา ด้วยวิธีที่มีซิล ใช้สร้างอำนาจของนางขึ้นมา ด้วยเป้าหมายอันนี้ ข้าจึงต้องการตัวใต้ซือวาชอน"
 มีซิลมีคำสั่งให้โพจองไปสืบข่าวคราวความ เคลื่อนไหว แล้วก็ไปพบใต้ซือวาชอนถามเรื่องสุริยคราส
 ใต้ซือวาชอนกล่าว ว่า "ในฐานะคนที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดาราศาสตร์ คงไม่อาจสรุปว่าเกิดหรือไม่เกิดแน่"
 "แต่ว่า ถ้าท่านกล้าเอ่ยปากนั่นก็แสดงว่า"
 "ถึงอย่างงั้น กว่าจะคำนวณวันที่ได้แม่นยำ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เว้นแต่จะได้ปฏิทิน “จองกวาง” มาช่วยเสริมอีกเล่ม"
 มีเซ็งว่า "หา เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ท่านเคยบอกว่าปฏิทิน “จองกวาง” กับ “แทเมียง” มีความแม่นยำที่แตกต่างกันมากไม่ใช่หรือครับ"
 "ใช่ เป็นอย่างงั้นก็จริง แต่ว่า ถ้าจะคำนวณเรื่องวันที่ รู้สึกปฏิทินจองกวางจะแม่นกว่าปฏิทินแทเมียงหลายเท่า"
 มีซิลนิ่งคิด "ปฏิทินจองกวางหรือ"
 เวลาเดียวกันต๊อกมานก็กล่าวกับคิมยูซินว่า
 "ชาว บ้านมักมีความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งมีซิลรู้จุดอ่อนข้อนี้ดี ถ้าไม่ยึดเรื่องการทำนาย มีซิลจะไม่มีวันล้มได้ ต่อให้มีกำลังทหารหรือขุนนางเป็นพวกก็ทำอะไรนางไม่ได้ เพราะอิทธิพลของนาง เกิดจากความศรัทธาของชาวบ้านที่คิดว่านางเป็นเทพ ก่อนอื่นเราจึงต้องทำลายภาพลวงตาที่นางแสร้งว่าตัวเองเป็นธิดาแห่งสวรรค์ เพราะฉะนั้น คนแรกที่นางจะต้องสูญเสีย ก็คือใต้ซือวาชอน ไปซะเถอะท่านยูซิน ข้าอยากให้ท่าน ไปตามทางของตัวเองดีกว่า ข้าน่ะ ไม่อยากเห็นแก่ตัว ขอให้ท่านมาทำงานกับข้าด้วย อย่างน้อยที่สุด ข้าก็เห็นว่าไม่สมควร"
 "เพราะ อะไร"
 "เพราะทางที่ข้าจะเดิน เป็นทางหายนะ เส้นทางที่องค์หญิงบอกให้ข้าไป เป็นทางแห่งความสุข แต่ที่ข้าจะเดิน เป็นทางที่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ซึ่งทางนี้ ข้าไม่อยากให้ท่านไปด้วย"
 "เพราะ เห็นข้าแล้วนึกถึงองค์หญิงใช่ไหม รู้สึกผิดอย่างงั้นเชียวหรือ"
 "ไม่ใช่ เดิมทีข้าก็รู้สึกผิดเหมือนกัน แต่จริงๆ ไม่ใช่อย่างงั้น ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าท่าน ข้าจะนึกถึงเรื่องบางอย่าง ซึ่งทำให้รู้สึกสะเทือนใจ ครั้งหนึ่ง เราเคยหนีไปด้วยกัน เป็นความผูกพัน ฮือ ทุกครั้งที่อยู่กับท่าน ข้าจะนึกถึงเหตุการณ์ช่วงนั้น มันทำให้ข้าหวังจะพึ่งพาท่าน ที่สำคัญ อยากให้ตัวเองเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เห็นแววตาท่านแล้ว ข้าก็อดจะคิดวางมือไม่ได้ แต่ว่า ถ้าเราคิดเล่นการเมืองด้วยจิตใจที่อ่อนแอ มันคือทางตายเท่านั้น เพราะฉะนั้น ข้าไม่ต้องการ ข้าขอเพียง น้ำใจจากท่านก็พอแล้ว ความจริงใจจากท่านในฐานะปุถุชนคนธรรมดา มันจะหล่อเลี้ยงให้ข้าเข้มแข็งขึ้น ถ้าเราไปด้วยกัน ข้าก็อาจจะ เห็นท่านเป็นหมากตัวหนึ่งในการทำงาน ถ้าหาก เป็นอย่างงั้นจริง มันคงจะทารุณไม่น้อย"
 "ต๊อกมาน"
 "ฮือ ข้าจึงอยากให้ท่าน ตัดใจ ปล่อยข้าไปซะ"
 ต๊อกมานมาบอกพีดัมกับไอชองว่าต้องไปตามตัวใต้ซือวาชอน อยู่ในวัดที่ชื่อวาต๊อก ไอชองอาสาจัดการดูต้นทางให้ก่อน
 ซอแจกับแวยาบุก เข้าไปจับตัวใต้ซือวาชอน และเวลานั้นจุปังกับโกโตก็หนีออกจากที่คุมขังได้สำเร็จ ส่วนพีดัมกับต๊อกมานก็เข้ามาที่ห้องของใต้ซือวาชอน
 พีดัมเห็นก็บ่น "อะไรกันนี่ เขียนข้อความยุบยับไปหมด"
 "นี่เป็นห้องใต้ซือวาชอน"
 ไอ ชองบอกว่า "เป็นฝีมือกลุ่ม “โพยา” คนของเผ่าคาย่าที่รวมตัวกัน"
 ต๊อกมาน ตกใจ พีดัมถาม "กลุ่มโพยา คืออะไรน่ะ บอกข้าหน่อยสิ อยากรู้ว่ามันคืออะไรน่ะ"
 "ถ้าพวกนี้คิดจะลงมือจริง เป้าหมายต่อไปต้องเป็นครอบครัวท่านยูซินแน่"
 "มันเรื่องอะไรกันแน่ บอกข้าหน่อยได้ไหม กลุ่มโพยาคืออะไร ทำไมไม่พูดล่ะ" พีดัมว่า
 ขณะที่มี ซิลก็ทราบเรื่องจากโพจองก็แปลกใจ
 "กลุ่มโพยาหรือ"
 โพจองว่า "ตอนอยู่วัดวาต๊อก เห็นจดหมายฉบับหนึ่งพร้อมกับรูปเต่าครับ"
 "แสดงว่า พวกมันจับใต้ซือวาชอนไปหรือนี่"
 "ถ้าอย่างงั้น แล้วนางในที่ชื่อโซวาเป็นไงบ้าง" มีเซ็งถาม
 "ในระหว่างต่อสู้ จุปังกับโกโตพาโซวาหนีออกจากที่กักขังน่ะครับ จุปังกับโกโตไม่รู้หนีไปไหน แต่โซวาถูกจับกลับมาอีก พร้อมสภาพที่บาดเจ็บ กำลังรักษาอยู่น่ะครับ"
 "เฮ่ย พวกกลุ่มโพยาไม่น่ามาทำให้เราเสียเรื่องเลย พี่ใหญ่ เราส่งทหารไปปราบพวกมันซะดีมั้ย"
 "ข้าจะให้สายลับออกทำงานก่อน"
 ขณะ ที่เซจองก็ตกใจเมื่อทราบเรื่องธิดาเทพตาย ฮาจองบอกว่าคนในตำหนักเทพแอบเอาศพไปฝังเงียบๆ ไม่บอกใคร
 "แถมยังมีพวก กลุ่มโพยา จับตัวนักบวชที่ชื่อวาชอนไปอีก"
 "ใช่ครับ ท่านแม่เลยสั่งการ ยังไงก็ต้องช่วยเขากลับมาให้ได้ ท่าทางเหมือนจะเป็นคนสำคัญมากน่ะครับ"
 "สมัย ก่อนที่แม่เจ้ามีอำนาจขึ้นมา คนที่มีผลงานมากสุดก็คือธิดาเทพ แต่ทำไมเป็นแบบนี้ ช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ"
 "ทุกวันนี้ในวังก็ รู้สึกอึมครึมพิกล น่าแปลกจริงๆ"
 "นั่นเพราะว่าใครต่อใคร ไม่กล้าแตะปัญหาสำคัญที่ค้างคาอยู่"
 "ปัญหาอะไรครับ"
 "ก็เรื่อง รัชทายาทไงล่ะ เฮ่ย ตามหลักเวลานี้ น่าจะเป็นโอกาสของเรามากกว่า"
 "ก็ ถึงว่าน่ะสิครับ เฮ่ย ท่านแม่ก็แปลก ไม่รู้คิดอะไรอยู่"
 "เห็นทีจะอยู่ เฉยไม่ได้ซะแล้ว เราคงต้องทำอะไรบางอย่าง"
 พระเจ้าจินพยองตกพระทัยเมื่อ พระมเหสีมายาตรัสว่าต๊อกมานเข้ามาในวังหลวง
 "เจ้าบอกว่าไงนะ ต๊อกมานมาปรากฎตัวในวังงั้นหรือ"
 "เพคะ นางมาขอร้องหม่อมฉัน หม่อมฉันเลยพาเข้าไปในตำหนักเทพ"
 "หา ทำไมคิดเองทำเองเสร็จสรรพแบบนี้ เกิดนางถูกจับได้มิแย่หรอกหรือ"
 "ดูเหมือนว่านางจะมีความคิดบางอย่าง หม่อมฉันจึงยอมที่จะช่วยนาง"
 "ความคิดหรือ ปัญหาก็คือความคิดนี่แหละ เพราะเราต่างไม่รู้ว่าทุกวันนี้นางคิดอะไรอยู่ ไม่ได้การ ไม่ว่านางจะทำอะไรก็ช่าง มันเป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น ถ้านางจะเรียกร้องฐานะกลับคืน เรื่องฝาแฝดก็จะถูกเปิดเผย ซึ่งถ้าเรื่องนี้แดงขึ้นจริง เราก็จะแย่ตามไปด้วย"
 "หม่อมฉันเป็นแม่ที่ เสียลูกชายไป 3 ลูกสาวไป 1 คน แล้วตอนนี้จะให้เสียคนสุดท้ายไปอีกหรือเพคะ"
 "พระ มเหสี เมื่อเราเปิดเผยเรื่ององค์หญิงแฝดไม่ได้ นั่นก็เท่ากับว่า ต๊อกมานจะไม่มีวันได้รับการยอมรับในชิลลา เพราะฉะนั้นสิ่งที่นางทำ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้"
 "เฮ่ย หึ"
 ยองชุนทูล "ฝ่าบาท หม่อมฉันขอบังอาจทูลซักนิด นับแต่องค์หญิงชอนมยองสิ้นพระชนม์ไป ข้างนอกก็มีข่าวลือจนทำให้ผู้คนหวั่นไหว พร้อมกับโจรผู้ร้ายที่ชุกชุม ฉวยโอกาสปล้นชิงทรัพย์สิน ที่สำคัญ ได้ยินว่ากลุ่มโพยาเริ่มมีการเคลื่อนไหวด้วยพะยะค่ะ"
 "กลุ่มโพยาหรือ"
 คิม ซอยอนทูลว่า "จดหมายที่เราพบในวัดแห่งหนึ่งพะยะค่ะ"
 "เพราะเราขับไล่ เผ่าคาย่าออกไปเลยทำให้พวกเขาไม่พอใจ ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นความผิดของข้าทั้งนั้น เฮ่อ ข้าช่างทำบาปไว้มากนัก"
 คิมยูซินกลับมา หาพ่อ คิมซอยอนถามว่าเขาบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ก่อนจะถามว่าต๊อกมานเป็นยังไงบ้าง
 คิมยูซินเอ่ยว่า "องค์หญิงต๊อกมาน"
 "องค์ หญิงอะไรกัน พูดจาระวังปากหน่อย สิ้นองค์หญิงชอนมยองแล้วจะมีองค์หญิงที่ไหนอีก"
 "ท่านพ่อ"
 "ทีหลัง ห้ามพูดเหลวไหลแบบนี้อีก ไม่มีองค์หญิงแล้ว"
 "ต๊อกมานอยากกลับเข้าวัง หลวง ให้ทุกคนยอมรับในฐานะองค์หญิงน่ะครับ"
 "อะไรนะ เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือเปล่า ถ้านางเผยตัวในฐานะองค์หญิง ก็แปลว่ายอมรับเรื่องฝาแฝด และหากเป็นอย่างงั้น ทั้งนางและพระมเหสีก็จะถูกปลดหรือแม้แต่เนรเทศด้วยซ้ำ แล้วอย่างงี้ นางจะทวงสิทธิ์ความเป็นองค์หญิงกลับคืนได้ยังไง พ่อก็รู้ว่านางน่าสงสาร แต่ว่า เราก็ช่วยไม่ได้ เพราะมันเป็นสัจธรรม เหมือนน้ำที่ไม่มีวันไหลสู่ที่สูง ไม้ก็ไม่มีวันผ่าหินได้ พระอาทิตย์ไม่เคยขึ้นทางตะวันตก มันเป็นเรื่องตายตัวไปแล้ว ยูซิน รู้มั้ยว่าตอนนี้ บ้านเรากำลังเผชิญกับอะไรบ้าง เปิดอ่านดู ถ้าเดาไม่ผิด เป้าหมายของพวกมันก็คือบ้านเรา"
 "ทำไมต้องเป็นเราด้วยครับ"
 "สาเหตุ เพราะเราเนรเทศชาวคาย่าออกจากที่นี่ ไม่เพียงแค่นี้ กลุ่มโพยาคิดว่าเราหวังอยู่สบายเลยเข้ากับแคว้นชิลลา กลายเป็นความแค้นที่สั่งสม นานวันเข้า เราจะไม่สามารถปกป้องเผ่าคาย่าได้อีก ถึงขั้นนี้แล้ว เจ้ายังคิดแต่เรื่องส่วนตัวถ่ายเดียว ไม่นำพาต่อความอยู่รอดของวงศ์ตระกูลอีกหรือ ยูซิน"
 คิมยูซินฟันหิน ต๊อกมานมองและให้กำลังใจ "ท่านยูซิน เข้มแข็งหน่อยเถอะ อดทนไว้ อย่าเพิ่งท้อง่ายๆ"
 "ใช่ น้ำไม่มีวันไหลสู่ที่สูงฉันใด ไม้ก็ไม่มีวันผ่าหินได้ ถ้าไม่ยอมรับเรื่องฝาแฝดก่อน จะไม่มีทางเปิดเผยเรื่องฐานะของต๊อกมาน ต่อให้ข้าทรยศบ้านตัวเอง ก็ไม่อาจช่วยอะไรเจ้าได้ ไม่มีทางเลย"
 ในที่สุดคิมยูซินก็กลับมาบอกพ่อ กับแม่เขาว่า
 "ข้าเห็นด้วยกับคำพูดของท่าน ตอนนี้เรากำลังเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ แต่ว่า ต่อไปจะทำไงดีครับ ถ้ากลุ่มโพยาจะเล่นงานเราจริง แล้วเราต้องไปกวาดล้างให้หมดหรือเปล่า พอหมดกลุ่มนี้ก็จะมีกลุ่มอื่นมาเล่นงานเราอีก"
 "ที่พูดนี่หมายความว่า ไง"
 "เพราะเราเป็นชนชั้นปกครองของเผ่าคาย่า ฝ่าบาทจึงต้องการให้มาอยู่ใกล้ๆ มีซิลก็พยายามจะให้เราเป็นพวกให้ได้ แต่ว่า ถ้าไม่มีความนับถือจากชาวบ้าน ครอบครัวเรา ก็เท่ากับไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง"
 "แล้วยังไง"
 "ถึงเวลาที่เราต้อง เดิมพัน แลกกับชื่อเสียงเกียรติยศที่บ้านเรามี ให้ทุกอย่างนี้มาอยู่ที่ตัวข้าเถอะ"
 "เดิมพันที่เจ้าหรือ"
 "ท่านพ่อ ท่านจงเชื่อข้าได้ไหม ข้าอยากให้ท่านไว้ใจ มอบทุกอย่างให้ข้าจัดการแทน"
 และ ระหว่างที่สามพ่อแม่ลูกคุยกัน ก็มีธนูยิงมาหมายฆ่าคิมซอยอนกับคิมยูซิน องค์หญิงมานมยองตกใจมาก คิมยูซินตามไปจับตัวจนได้ และสั่งมัดเอาไว้ก่อนเพื่อพาไปหาหัวหน้า
 ด้านซอแจคุยกับแวยาว่า "การที่คิมซอยอนได้รับความเคารพจากชนเผ่าคาย่า เพราะครั้งหนึ่งยเขาเคยสัญญาว่าจะดูแลปกป้องชาวบ้านอย่างดี ตอนที่รบกับแคว้นแผ่กเจ ที่เราช่วยคิมซอยอนให้ปลอดภัย ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้หรอกหรือ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างที่คิด ชาวคาย่าถูกเนรเทศไปอยู่เมือง “ซังยางจู” ระหว่างอพยพยังมีหลายร้อยคนที่เสียชีวิต โดยที่คิมซอยอน ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเราเลย สัญญาก็เป็นแค่ลมปากเท่านั้น"
 แวยาว่า "แล้วยังไง"
 "ข้ากำลังวางแผนจะพาทหาร 1 พันคนไปเปิดศึกกับแคว้นชิลลาเร็วๆ นี้ และก่อนอื่น คือสังหารลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคิมซอยอนคือคิมยูซิน ให้มันรู้สำนึก"
 ลูก น้องเข้ามารายงานว่าคิมยูซินยอมถูกจับง่ายๆ
 ในเมือง ชาวบ้านมุงดูประกาศเรื่อง ปียิมซู พระมเหสีมายาประสูติ พระธิดาแฝด ทหารมาเห็นแล้วไล่ชาวบ้านไป ก่อนจะนำประกาศนี้กลับไปทูลพระเจ้าจินพยอง
 "ทำไม มีประกาศแบบนี้ออกมา"
 ยองชุนทูลว่า "ทหารกำลังตามเก็บอยู่ ไม่นานคงจะหมด แต่ชาวบ้านก็พูดกันปากต่อปาก"
 "แล้วใครกล้าบังอาจไปติด ประกาศแบบนี้"
 "กำลังสืบสวนอยู่พะยะค่ะ อาจเป็นแผนชั่วของพวกมีซิลก็เป็นได้"
 "ตกลงแล้วว่า เรื่องนี้ให้ระงับไว้ก่อนไงล่ะ"
 "แต่ว่า ถ้าไม่ใช่ฝีมือคนของมีซิลก็น่าแปลก แล้วจะเป็นใคร"
 "เอ่อ เด็กคนนั้น ไม่แน่อาจเป็นฝีมือของนางก็ได้"
 "ต๊อกมาน องค์หญิงแฝดหรือพะยะค่ะ"
 "องค์ หญิงอะไรกัน ระวังปากหน่อย นางจะทำลายข้าด้วยหรือไง เพราะข้าตัดขาดกับนาง เลยจะมาแก้แค้นก็ได้"
 ขณะที่พวกมีซิลทราบเรื่อง มีซิลนิ่งคิด ส่วนฮาจองกลับเห็นว่าเป็นผลดีที่ชาวบ้านพูดต่อๆ กันไป โพจองเองก็สงสัยว่าเป็นฝีมือใครกันแน่
 "เรื่องนี้เป็นฝีมือพวกไหนกันแน่ ครับ หรือจะเป็นต๊อกมาน?"
 ซอวอนว่า "เป็นฝีมือฮาจอง"
 "อะไรนะครับ"
 "พ่อ เขามีสิทธิ์ได้ครองราชย์ แล้วเรื่องอะไรจะอยู่เฉยล่ะ"
 "แต่ว่า ท่านแม่ไม่ได้สั่งให้ทำงานแบบนี้ เราไปบอกนางดีมั้ยครับ"
 "ท่านเซจูก็ รู้แก่ใจเหมือนกัน"
 "เมื่อรู้ว่าใครทำ แล้วทำไมไม่พูดซักคำล่ะครับ"
 "เพราะ เห็นว่ามันเป็นวิธีที่ดี แต่ว่า ถ้าให้นางออกคำสั่งด้วยตัวเองก็เหมือนไม่รักษาคำพูด เลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า"
 "ถ้าอย่างงั้น แล้วเราจะ"
 "เราก็ รอดูความเปลี่ยนแปลง บางครั้งสิ่งที่เหนือความคาดหมาย อาจนำผลดีมาสู่ฝ่ายเราก็ได้ แต่ถ้าเลวร้ายจริงๆ ค่อยโยนความผิดให้ท่านเซจองรับไป"
 "ท่านพ่อกับท่านแม่ ความคิดเฉียบแหลมจริงๆ"
 "พ่อไม่ได้เก่งหรอก เพียงแต่ ดูจากสีหน้าแม่เจ้าก็พอรู้ การมองคนและการวิเคราะห์ของนาง เหนือกว่าสมัยก่อนพระเจ้าจินฮึงซะอีก ใครก็ไม่สามารถ ตบตาท่านเซจูได้" ซอวอนสอนลูกชายไปในตัว
0000000000000

 พีดัมถามไอชองว่า "กลุ่มโพยาคืออะไรหรือ ข้าถามว่ากลุ่มโพยาคืออะไร"
 ไอชองตอบว่า "หลังจากเผ่าคาย่าล่มสลาย มีบางคนรวมกลุ่มเพื่อจะกอบกู้อีกครั้ง ในชื่อว่ากลุ่มโพยา"
 "อึม ว่าแต่ ทำไมพวกเขาต้องจับนักบวชที่ชื่อวาชอนไปด้วยล่ะครับ"
 "เพื่อจะทำลายคนของ เผ่าคาย่าที่ทำงานให้แคว้นชิลลา หรือไม่ก็เพราะเป็นคนสนิทมีซิล พวกเขาคิดว่าอาจจะล้วงความลับได้บ้าง"
 "เฮ่ย แล้วเราจะทำไงต่อดี เสียดายไปถึงช้า ไม่งั้นคงได้ตัวใต้ซือมาที่นี่"
 "ท่านนั่งคิดอะไรอยู่ ไม่ทราบ"
 "ก่อนอื่นต้องสืบว่ากลุ่มโพยาอยู่ไหน ถึงจะรู้ว่าใต้ซือวาชอนถูกจับไปไหน นี่ ข้าพูดถูกหรือเปล่า โอ๊ย"
 "นาง คือองค์หญิงนะ" ไอชองเสียงดุ
 "เฮ่ย รู้แล้วน่า นางอนุญาตให้ข้าทำไงก็ได้"
 "หึ องค์หญิง"
 ต๊อกมานว่า "ถ้าตอนนี้ข้าคือมีซิล จะทำไงต่อไป ข้ากำลังคิดอยู่"
 พีดัมงง "มีซิลหรือ"
 "นางก็คงตามหาใต้ซือวาชอนเหมือนกัน ถ้าเป็นนาง นางจะทำไงบ้าง"
 ซอแจมาพบคิมยูซินแล้วถามว่า
 "เจ้าคือคิมยูซินหรือ"
 คิม ยูซินตอบว่า "หลานของแม่ทัพ “คิมมูลัก” ลูกชายใต้เท้าคิมซอยอนก็คือข้า"
 "เรา ส่งภาพเต่าให้พ่อของเจ้าได้เห็นแล้ว บอกให้รู้ว่าพวกเจ้าจะมีรายชื่ออยู่ในบัญชีการแก้แค้นของเรา"
 "เรื่อง นี้ข้ารู้"
 "ถ้าอย่างงั้น ทำไมยังมารนหาที่อีก"
 "ข้าขอพบหัวหน้า กลุ่มหน่อยได้ไหม"
 ซอแจว่า "ข้าก็คือหัวหน้ากลุ่ม"
 "ถ้างั้น ท่านอยู่ฝ่ายไหนของเผ่าคาย่า"
 "เรื่องพวกนี้เจ้าไม่มีสิทธิ์มาถาม"
 "งั้น ข้าก็มาผิดแล้ว เพราะที่มานี่มีเรื่องหลายอย่างจะถามพวกท่าน"
 "อะไรนะ ฮ่าๆๆๆ หึ ต่อให้เจ้ามีวาทศิลป์จะเกลี้ยกล่อมให้ข้ายอมจำนนก็ช่าง แต่เรื่องบางอย่าง มันไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้อีก ครอบครัวเจ้าหวังเสวยสุขจึงไปอิงกับแคว้นชิลลลา โดยเฉพาะพ่อเจ้า เคยสัญญาว่าจะปกป้องชนเผ่าคาย่าแต่กลับทำไม่ได้ เพราะฉะนั้น ไม่เพียงชาวบ้านต้องถูกเนรเทศ แม้แต่ผู้หญิงเด็กเล็กก็ต้องตายในระหว่างทาง ที่สำคัญ จนวันนี้ยังมีชาวบ้านไร้ที่อยู่ อดอยากหิวโหย"
 "ไม่ว่าเผ่าคา ย่าจะล่มสลาย หรือถูกขับไล่ก็เป็นเรื่องธรรมดา"
 "หา อะไรนะ เจ้าคนสารเลวนี่ หึ ยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ บอกเหตุผลมาซิเป็นเพราะอะไร"
 "เพราะ คนในเผ่าแตกความสามัคคีนานแล้ว ขนาดบ้านเมืองล่มสลาย ยังมีขุนนางที่แบ่งเป็นสองฝ่ายและบาดหมางกันเอง เพราะฉะนั้น ต่อให้มีผู้นำที่เก่ง ก็ไม่สามารถปกครองชาวบ้านได้อีก"
 "ในที่สุดฝ่าย สกุลคิมของพวกเจ้าจึงยกชนเผ่าให้แคว้นชิลลาง่ายๆ ในขณะที่พวกเราปกป้องบ้านเมืองสุดชีวิต ฮือ แล้วพวกเจ้ายังไม่ถือว่าขายชาติอีกหรือ"
 "เพราะฉะนั้น ท่านเลยจะฆ่าคนที่เหลือให้หมดใช่ไหม"
 ซอแจอึ้ง "อะไรนะ"
 "ท่านมา สังหารข้า ปองร้ายพ่อข้าคิมซอยอน ฆ่าบุคคลสำคัญของแคว้นชิลลา จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นอีก ถ้าท่านเป็นผู้ครองแคว้นชิลลา จะทำไงกับเรื่องนี้ ถ้าตอนนี้เป็นข้า จะสั่งประหารชาวเผ่าคาย่ากว่าแสนคนให้หมด แล้วถ้าเป็นท่านจะคิดยังไง โดยเฉพาะขุนนางชิลลาที่จ้องเล่นงานเราอยู่ นี่เป็นโอกาสดีสำหรับพวกเขา กลุ่มโพยาจะมีความหมายอะไร พวกท่านกำลังจะทำร้ายชาวบ้านนับแสนให้พินาศย่อยยับ ท่านมีสิทธิ์ทำอย่างงั้นหรือเปล่า คิดว่าตัวเองเป็นใคร"
 "แต่ถ้าไม่ทำ อะไรเลย เราจะถูกกลืนหายไปกับประวัติศาสตร์ และสุดท้ายก็คือตายเหมือนกัน เราจึงไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว"
 "ไม่มีก็หาทางเข้าสิครับ มันเป็นหน้าที่ของผู้นำอยู่แล้ว และนี่คือ เหตุผลที่เรายอมอยู่กับพวกท่าน แม้ตายก็ไม่เกี่ยง"
 "ไม่มีก็หาทางอื่นไป เพราะนี่คือหน้าที่ของผู้นำ และนี่ คือเหตุผลที่ชาวบ้านยอมเชื่อฟังและภักดีต่อท่าน แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้วางมือไปซะ"
 "อย่าอยู่เลย ตายซะเถอะ"
 แวยาห้ามไว้ "หยุดก่อน มาเพื่อจะพูดเรื่องนี้ใช่ไหม เพื่อจะบอกเราว่าไม่มีสิทธิ์เป็นผู้นำชนเผ่าคาย่างั้นหรือ"
 คิมยูซินม องแวยา "เจ้าเป็นใคร"
 ซอแจสวนว่า "เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้"
 "เพียง เพื่อจะอธิบายเรื่องนี้ จึงยอมมารนหาที่ หึๆ ถ้านี่คือการเดิมพัน ดูเหมือนเจ้าจะจ่ายน้อยไปหน่อย"
 "ถ้าอยากเดิมพันกับข้าก็ต้องบอกชื่อมา ก่อน"
 "ชื่อข้าน่ะหรือ ข้าเป็นฝ่าย แทคาย่า”
 ซอแจปราม "อย่าบอกให้เขารู้นะ"
 "ถ้าเจ้าอยากรู้ชื่อข้าจริง ก็แปลว่าโอกาสจะตายก็มีมากขึ้นด้วย คนที่อยากรู้ชื่อข้า จะต้องแลกด้วยชีวิตของเขา"
 "ถ้าข้าไม่พร้อมจะตาย คงไม่มาถึงที่นี่หรอก"
 "ข้า เป็นผู้สืบทอดคนสุดท้ายของฝ่ายแทคาย่า ลูกชายคนโตขององค์ชาย “แว-กวาง” แห่งเผ่าคาย่า ข้ามีชื่อว่า “แวยา” หรือก็คือ ผู้นำที่แท้จริงของกลุ่มโพยา งั้นตอนนี้ เจ้าจะเพิ่มเดิมพันให้ข้าได้หรือยัง"
 ทางฝ่ายไอชองก็อธิบาย ให้ต๊อกมานฟังว่า
 "มีซิลมีสายลับที่พร้อมจะทำงานอยู่ทุกที่ ตอนนี้กำลังสืบข่าวของใต้ซือวาชอนอยู่"
 "กลุ่มโพยาเป็นหน่วยรบใต้ดิน แค่สายลับไม่มีทางพบได้หรอก ถ้าข้าเป็นมีซิล จะใช้วิธีที่รวดเร็วทันใจกว่านี้"
 พีดัมว่า "ข้าไม่รู้ว่ามีซิลเป็นใครและไม่สนใจอยากรับรู้ แต่ถ้าตอนนี้เป็นข้า จะให้คนของเผ่าคายามายืนเรียงแถว แล้วค่อยๆ ตัดหัวทีละคน บีบให้พูดว่าพวกมันอยู่ไหน"
 ไอชองดุ "บังอาจนัก หมายความว่า เราต้องไปฆ่าชาวคาย่าทีละคนหรือไง"
 "เปล่า ข้าไม่ได้หมายความอย่างงั้นซักหน่อย ท่านนี่ ทำไมชอบคิดอะไรตื้นๆ อยู่เรื่อย เป็นเพื่อนสนิทท่านยูซินใช่ไหม มิน่าถึงได้นิสัยเหมือนกัน"
 ต๊อก มานว่า "เมืองซังยางจู"
 พีดัมทำเสียงในลำคอ "หือ"
 "เมืองซังยางจู เป็นที่อยู่ของชาวคาย่าที่ถูกขับไล่ออกไป เราจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ พีดัม ไปดูหมู่บ้านของเผ่าคาย่า"
 "หึ ด้วยความยินดี หึๆ"
 ขณะที่คิมยูซิ นก็กล่าวกับซอแจและแวยาว่า
 "นี่คือหนังสือแบ่งเขต เมือง “อัมยางจู” ที่เราได้ครอบครอง ที่ดินผืนนี้ อาจไม่ได้อุดมสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยก็ให้ชาวคาย่าได้อาศัยทำกิน อยู่อย่างเป็นสุขได้"
 "เจ้ายอม มอบดินแดนทั้งหมด ให้ชาวคาย่าไปอาศัยงั้นหรือ" ซอแจแปลกใจ
 "นี่เป็น ทรัพย์สินทั้งหมดที่เรามี"
 "จะเอาที่ดินผืนนี้ แลกกับชีวิตเจ้าและพ่องั้นหรือ คิดว่าชีวิตพวกเจ้ามีค่าถึงเพียงนี้หรือเปล่า"
 "ไม่ใช่ ที่ข้าอยากจะแลกเปลี่ยน คือความภักดีของพวกเจ้า"
 "เจ้าคงไม่ได้บ้าไป หรอกนะ ความภักดีของเราหรือ"
 "สมัยก่อนพ่อของเจ้า องค์ชาย “แว-กวาง” แห่งแทคาย่า กับผู้ครองแคว้นคนสุดท้ายของบ้านข้า เคยร่วมมือในการปกครองแต่ล้มเหลว ปัจจุบันเราจะทำให้เป็นจริงอีกครั้ง"
 "หึ มันก็ เป็นเดิมพันที่สูงดี ร่วมมือหรือ? จะร่วมมือกับเราใช่ไหม"
 "พวก เจ้าต้องการดินแดน แต่ข้าต้องการกำลังคน"
 "คิมยูซิน เจ้าคิดทำอะไรกันแน่"
 "ข้ายอมทุ่มทุกอย่างเพื่อจะมาที่นี่ ถ้าจะให้ข้าเผยไต๋อีก เจ้าก็ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนเหมือนกัน"
 ต่อมา ต๊อกมานถึงรู้ความจริงว่าชนกลุ่มน้อยทำขึ้น พีดัมพาต๊อกมานกับไอชองไปที่หากลุ่มโพยา ในหมู่บ้านโนปัง
 ต๊อกมานถาม "หมู่บ้านโนปัง แน่หรือเปล่า"
 พีดัมว่า "อึ้ม เขาเขียนไว้อย่างงั้น"
 ไอ ชองถามอย่างแปลกใจ "ทำไมเจ้ารู้ภาษายึกยือพวกนี้ด้วยหรือ"
 "พวกนี้ อาจารย์เคยใช้ส่งข่าวกับข้าบ่อยๆ"
 "แล้วอาจารย์เจ้า เกี่ยวข้องกับ หน่วยรบใต้ดินกลุ่มนี้ด้วยหรือ"
 "เมื่อก่อนเคยได้ยินว่าเขาเป็นชาวคาย่า เหมือนกันน่ะนะ" พีดัมว่า
 ไอชองว่า "เอาเป็นว่า เมื่อรู้ตำแหน่งแน่ชัดแล้ว เราจะส่งคนไปปราบเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปเกณฑ์คนของหน่วยบีชอนมา"
 ต๊อกมานห้ามไว้ก่อน "ไม่ต้องหรอก เราไปเดี๋ยวนี้เลย"
 "แต่ว่า มีแค่พวกเราไม่กี่คน"
 "ถ้ายิ่งถ่วงไว้ นาน ชาวบ้านที่โกหกจะยิ่งมีอันตรายมากขึ้น เราต้องรีบไปช่วยใต้ซือวาชอน อย่าให้เกิดเหตุร้ายอีก ที่สำคัญ ถ้าเราไม่อยากบาดหมางกับกลุ่มโพยา ก็ควรทำงานเงียบๆ ดีกว่า ฉะนั้น ไปแค่ไม่กี่คนก็พอแล้ว"
 "เห็นด้วยเต็ม ที่เลย ยิ่งพาคนไปเยอะ ยิ่งเกะกะมากกว่า"
 "ถ้าอย่างงั้น เราจะไปเดี๋ยวนี้"
 แต่ไม่นานซอแจก็จะจับกุมพวกพีดัมกับไอชอง คิมยูซินเข้ามาห้ามไว้ แวยาถามว่าคิมยูซินรู้จักหรือ
 "ใช่แล้ว ทุกคนเก็บอาวุธไว้ก่อน"
 แวยาถาม "พวกเขาเป็นใครกันแน่"
 คิมยูซินว่า "เมื่อกี้เจ้าถามว่าสิ่งที่ข้าทำเพื่ออะไรใช่ไหม นี่คือคำตอบ"
 ต๊อกมาน จะเรียก "เอ่อ ท่านยูซิน"
 คิมยูซินกล่าวต่อ "คนนี้ คือคำตอบในการแลกเปลี่ยนของข้า นางคือนายของข้า ที่จะปกครองชิลลา"
 ต๊อก มานอึ้ง "ท่านยูซิน ทำไมท่าน"
 "นับแต่นี้เจ้าก็คือ นายของพวกเราทุกคน" คิมยูซินคุกเข่าลง "พวกเจ้ายังไม่คุกเข่า ให้นายเหนือหัวอีกหรือ"
 แวยา ทำตาม "นางคือนายใหม่ของเรา ทุกคนให้การต้อนรับ"
จบ 26




เครดิต : oknation.net/blog/lakorn




   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 25 - 26
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์