แหล่ง shopping
   สินค้าจากร้านค้า
เลนส์เสริมมือถือ รุ่น HPLQ-025 คลิปเลนส์ 0.6X Wide-angle 15X Macro-lens
ดูขนาดรูปภาพจริง
ตุ๊กตาอัดเสียง Doraemon 10 นิ้ว
ดูขนาดรูปภาพจริง
Car Camera "Magic Tech" G-30
ดูขนาดรูปภาพจริง
Paradise Ocean View Condominium (พาราไดซ์ โอเชี่ยน วิว คอนโดมิเนียม)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Joy Stick T.Flight Stick X C0071 280959
ดูขนาดรูปภาพจริง
เครื่องอบผ้า Siemens รุ่น WT47W540BY
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมเขียนเช็ค , โปรแกรมพิมพ์เช็ค , โปรแกรมออกเช็ค , โปรแกรมบริหารงานพิมพ์เช็ค
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมใบเสนอราคา, โปรแกรม, ใบเสนอราคา, โปรแกรม ใบเสนอราคา, Program Quotation, Aristo Quotation, Quotation Program, Program, Quotation, Program Quotations, เสนอราคา, โปรแกรมเสนอราคา, การเสนอราคา, ทำใบ
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมคลินิก , โปรแกรมคลินิค , โปรแกรมบริหารงานคลินิก , โปรแกรมโรงพยาบาล , สถานเสริมความงาม ,CLINIC
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair 2 กล่อง (เรียวแฮร์ เซรั่มปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย HPJBL X3 สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมร้านอาหาร บน android, โปรแกรมร้านอาหาร บน Smart Phone, โปรแกรมร้านอาหาร บน iPad, โปรแกรมร้านอาหาร บน iPhone, โปรแกรมร้านอาหาร รองรับ PDA, โปรแกรมร้านอาหาร รองรับ Android, โปรแกรมขายอาหารออนไลน
ดูขนาดรูปภาพจริง
รุ่น PVC 0.46 VIP Member Card
ดูขนาดรูปภาพจริง
Lovely : Lava E18 เทา - 450
ดูขนาดรูปภาพจริง
CP Serum แก้ปัญหารูขุมขน หลุมสิวสำหรับคนผิวแพ้ง่าย
ดูขนาดรูปภาพจริง
KALOW แกลโล
ดูขนาดรูปภาพจริง
ที่นอน Sleep Care 6 ฟุต หนา6 นิ้ว
ดูขนาดรูปภาพจริง
ปั๊มสูบส่งของเหลว ปั๊มสูบส่งของหนืด สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
ดูขนาดรูปภาพจริง
Kinesys (คินเนซิส) SPF50 กันแดดสำหรับคนเป็นสิว
ดูขนาดรูปภาพจริง
Real Hair : Natural Hair Spray 50ml. 2 กล่อง(เรียวแฮร์เนเชอรัลสเปรย์)
ดูขนาดรูปภาพจริง
Popular Set 1 เซ็ตรักษาสิวพร้อมการดูแลผิว
ดูขนาดรูปภาพจริง
โปรแกรมคลินิกสัตว์เลี้ยง , สถานพยาบาลสัตว์เลี้ยง , โรงพยาบาลสัตว์ , ร้านขายของสัตว์เลี้ยง
ดูขนาดรูปภาพจริง
ลำโพงบลูทูธ Wireless Speaker Bluetooth ไร้สาย ทรานฟอเมอร์ HPP 58 ลำโพงตู้เท่ห์ๆ สเตอริโอ ขนาดพกพา
ดูขนาดรูปภาพจริง
ชุดราตรียาวของเด็ก หรูหราสีเขียวแขนจั๊ม (พร้อมส่ง)
ดูขนาดรูปภาพจริง
ต้นกฐิน
ดูขนาดรูปภาพจริง
 
เรื่องย่อละคร ตามบทโทรทัศน์
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน [ ตอนที่ 31 - 32 ]

 

จำนวนคนเข้าชม : 507 ครั้ง            update : 12/9/2009

   
   
 

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน 31 
 องค์ชายมูยุลรีบไปเฝ้าพระราชายูริทันที รวมทั้งองค์หญิงเซยู
 "ฮือๆๆ เสด็จพ่อ"
 "ฮือ ฮือ ข้ารู้สึกเสียใจที่ไม่อาจรักษารากฐานที่เสด็จพ่อทรงสร้างมาแม้จะพยายามบากบั่นแค่ไหน ใครๆ ก็ว่าเทียบกับเสด็จพ่อแล้ว ข้ายังห่างไกลนัก แถมยังว่าข้าได้ครองบัลลังก์เพราะกระบี่หักเล่มหนึ่ง รู้มั้ยว่านี่คืออะไร มันเป็นของสิ่งเดียว ที่พ่อข้าเหลือไว้ให้ ข้าเคยคิดว่าถ้าเจอพ่อ ความทุกข์ทั้งหลายก็จะหมดสิ้นไป แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างงั้น ข้ายังมีความน้อยใจต่อเสด็จพ่ออยู่ เพราะฉะนั้น ข้าถึงรู้ดีว่า เจ้าคิดยังไง เมื่อคืนข้าฝันเห็นยอจินมา ถึงเขาจะตาย แต่หน้าตายังเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด ข้ายังเห็นเจ้าพี่ใหญ่ของเจ้า รวมถึงแฮเมียงด้วย ไม่น่าเชื่อว่าลูกชายสามคน จะด่วนจากข้าไปซะหมด แล้วทำไมข้า ยังมีชีวิตอยู่ถึงป่านนี้ โลกนี้ จะหาพ่อคนไหนเหมือนข้าไม่มีอีกแล้ว เจ้ายังจะช่วยข้าหรือเปล่า เจ้าอาจต้องใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบจนตาย อยู่กับการต่อสู้และนองเลือด ถึงอย่างงั้น เจ้ายังจะช่วยหรือเปล่า นับแต่นี้ ข้าจะไม่กลัวโชคชะตาอีกแล้ว"
 "หึ ฝ่าบาท"
 "ฮือ ฮือ ฮือ มาใกล้ๆ ข้าซิ เห็นทีว่า ข้าคงเหลือเวลาจะอยู่อีกไม่นานแล้ว"
 พระมเหสีมียูได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งร้องไห้ "ฮือๆๆ ฮือๆๆ"
 "เสด็จพ่อ"
 "ข้า อยากไปตำหนักเทพซักครั้ง พระราชา ไม่ควรจบชีวิตตัวเอง อยู่ในวังหลวงแห่งนี้ อย่าให้เหล่าขุนนาง มาเห็นพระราชาในวาระสุดท้าย ก่อนที่จะไป มีเพียงรัชทายาทที่จะอยู่เคียงข้าง"
 "หึ หม่อมฉันจะให้ฝ่าบาท ไปอยู่ตำหนักเทพได้ยังไง"
 "แต่นี่คือ คำสั่งของบรรพชน"
 "แม้จะอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต ก็ให้คนมาเฝ้าไม่ได้หรือ เป็นถึงพระราชา แม้แต่เวลาที่เป็นส่วนตัว ก็มีไม่ได้หรือพะยะค่ะ หม่อมฉัน จะไม่ยอมให้เสด็จพ่อไปง่ายๆ"
 องค์หญิงเซยูกับพระมเหสีมียูได้แต่ร่ำไห้
 มาโนถามเคยูว่า "ฝ่าบาทรับสั่ง จะไปตำหนักเทพจริงหรือครับ"
 "นี่เป็นพระบัญชา แต่องค์ชายไม่ยอม ยังไงก็ไม่ให้เสด็จไป"
 "น่าแปลกจริงๆ อยู่ในวังก็ดีแล้ว ทำไมต้องไปที่นั่น"
 "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็อย่าประมาทเป็นอันขาด ตอนนี้พวกกบฎกำลังคุมเชิงอยู่ ถ้ารู้เรื่องทางนี้ ก็ไม่รู้แพกึยจะทำอะไรอีก"
 ด้านเฮยาก็กล่าวขึ้นกับองค์หญิงเซยูและองค์ชายมูยุลว่า
 "ไม่มีเวลาให้คิดอีกแล้ว ประกาศเรื่องนี้ไปทั่วเมือง ทำตามรับสั่งของฝ่าบาทเถอะเพคะ"
 องค์หญิงเซยูไม่เห็นด้วย "เราจะทำแบบนี้ได้ไง ต่อให้เสด็จพ่อทรงยืนกราน เราก็ยอมไม่ได้"
 "องค์หญิง ตอนนี้ทรงรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน หม่อมฉันเข้าใจดี แต่ว่า"
 "ชั่วชีวิตเสด็จพ่อ อยู่กับความสิ้นหวังและอ้างว้างมาตลอด แล้วจะให้เรา ปล่อยพระองค์อยู่ตามลำพังได้ยังไง รบกวนท่านคูชู ไปทูลเสด็จพ่อหน่อยได้ไหม เพราะท่าน เป็นคนสนิทที่เสด็จพ่อทรงไว้วางพระทัย ถ้าท่านไปเกลี้ยกล่อม ไม่แน่เสด็จพ่ออาจทรงฟังก็ได้"
 "นี่แสดงถึงว่า พระราชาแห่งโกคูรยอ ไม่ว่าอยู่หรือสวรรคตก็จะอยู่กับบ้านเมืองเสมอ ฝ่าบาททรงคิดว่า จะให้ราษฎรได้เห็นว่าพระองค์ไม่เคยทิ้งพวกเขาไปไหน เมื่อทรงตัดสินพระทัยแน่วแน่ แล้วหม่อมฉันจะเอาเหตุผลอะไรไปทูลอีก"
 "ส่งฝ่าบาท เสด็จไปตำหนักเทพเดี๋ยวนี้ ไปเตรียมการเร็ว" องค์ชายมูยุลตัดสินใจสั่งการ
 เฮยาน้อมรับคำสั่ง องค์หญิงเซยูร้องไห้ออกมา องค์ชายมูยุลกล่าวอีกว่า
 "ประกาศเรื่องนี้ไปยังหัวเมืองทั้งหลาย ให้เตรียมการบูชาฟ้า และงานนี้ ให้ราษฎรมีสิทธิ์เข้าร่วม เพื่อช่วยอธิษฐาน ให้สวรรค์ได้รับรู้ น้อมส่งฝ่าบาท"
 "พะยะค่ะ"
 องค์หญิงเซยูเฝ้าพระราชายูริด้วยน้ำตานองหน้า
 "เสด็จพ่อ"
 "หึ ขอโทษด้วยนะ"
 พระราชายูริทรงกล่าวกับคูชู "ขอบใจท่านมากนะ"
 พระราชายูริทรงตรัสกับทุกคนว่า "ข้าไม่ได้ตายจากไปไหน เพราะยังมีลูกชายที่จะสานต่อเจตนารมณ์ แม้ว่าอีกไม่นาน ข้าจะเหลือแต่วิญญาณ ก็จะอยู่กับโกคูรยอไม่ไปไหน ส่วนพวกเจ้า ก็ต้องช่วยมูยุลทำงานต่อไป"
 เหล่าขุนนางน้อมรับ "พะยะค่ะฝ่าบาท"
 "ไปได้"
 "พะยะค่ะ" องค์ชายมูยุลนำไป
 องค์หญิงเซยูร้องไห้ คูชูถอนใจ พวกชาวบ้านต่างตะโกนเรียก "ฝ่าบาทๆๆ"
0000000000000
 แพกึยถามมยองจินว่า เหตุการณ์เป็นไงบ้าง
 "เจ้าอันซึง ไม่เห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ"
 "ทำไมอย่างงั้นล่ะ"
 "ได้ยินว่ามูยุลจัดทหารเฝ้าอย่างแน่นหนา และมีข่าวว่า เจ้าอันซึง หันไปสวามิภักดิ์ต่อมูยุลแทนพะยะค่ะ"
 "เจ้าคนทรยศนี่ ที่มันมีทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะเราหรอกหรือ"
 "ถ้าไงรีบหนีก่อนเถอะ มีข่าวว่ายูริใกล้จะตาย มูยุลจะพาไปตำหนักเทพที่อยู่นอกเมือง เพราะฉะนั้น นี่เป็นโอกาสดีที่จะหลบหนี"
 "เฮ่อๆๆ สวรรค์ยังเข้าข้างเราอยู่ ถ้ามูยุลพายูริไปอยู่ตำหนักเทพจริง แสดงว่าที่นั่น จะมีแต่พวกเขาสองคน ถือโอกาสนี้ ข้าจะใช้กระบี่จูมงสังหารพวกเขาซะเลย ทีนี้สถานการณ์ก็จะพลิกกลับ"
 "แต่ว่า แค่มีกระบี่เล่มเดียว คิดว่าจะบุกเข้าไปในตำหนักเทพได้หรือพะยะค่ะ"
 "ยังไงก็ต้องลองดู ดีกว่าหนีหัวซุกหัวซุนล่ะ เจ้าไม่ต้องพูดอีกแล้ว หึ"
 เวลานั้นอันซึงออกมาเจอชาวบ้าน และพวกชาวบ้านจำได้ว่าอันซึงกับพระมเหสีมียูทรยศต่อพระราชายูริ จึงพากันซ้อมอันซึง ดีที่องค์หญิงเซยูมาเห็นและห้ามไว้
 "ทำไมฝ่าบาท ถึงทรงเลือกที่จะไปจากโลกนี้ตามลำพังรู้มั้ย เพราะฝ่าบาททรงมีความคาดหวังว่า ทุกคนจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ช่วยฟันฝ่าอุปสรรค เพราะฉะนั้น ทุกคนขอให้ทำตามด้วย" อันซึงฟังแล้วยิ่งร้องไห้เสียใจ
 เคยูสั่งทหาร "คอยเฝ้าให้ดี อย่าให้ใครเข้าใกล้ตำหนักเทพ ต้องระวังให้มากล่ะ"
 เฮยาถามทุกคน "เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม"
 "ครับ ตลอดเส้นทางจนถึงตำหนักเทพ มีทหารเฝ้าตามจุดต่างๆ"
 "หลังเขาก็ไม่มีปัญหาครับ" พักโซรายงาน
 "เราจะไปดูชาวบ้านแถวนี้ ยะ ยะ"
 แพกึยกับมยองจินสั่งรวมพล ทันใดนั้นโทจินก็เข้ามาหาแพกึย
 "เจ้านี่บังอาจนัก ไม่กลัวตายหรือไง กล้าโผล่มาให้ข้าเห็นอีกหรือ"
 "ข้าว่าคนที่น่าจะเป็นห่วง ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านมากกว่า ยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกหรือ ท่านทะเยอทะยานเกินเหตุไปแล้ว อ๋องเทโซมีรับสั่ง ให้จับท่านกลับไปลงโทษ แต่เห็นว่าท่านเคยเป็นนายข้า เลยจะไว้ชีวิตซักครั้ง หึ มอบกระบี่ให้ข้าเดี๋ยวนี้ ยังจะพูดไม่รู้ฟังอีกใช่ไหม มูยุลใช้กระบี่เล่มนี้ ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับอ๋องเทโซ ตอนนี้ทั้งท่านและอ๋องเทโซ ล้วนถูกมุยุลปั่นหัวทั้งคู่"
 "พูดแบบนี้ หมายความว่าไง ขนาดเจ้ามูยุล ยอมทิ้งกระบี่จูมงแล้ว อ๋องเทโซยังจะหลงโง่ ดึงดันเอากระบี่กลับไปอีกใช่ไหม"
 "หุบปาก ถ้ากล้าลบหลู่ฝ่าบาทของเราๆ จะไม่เกรงใจ" นักรบจะเอาเรื่องแพกึย
 "มอบกระบี่จูมงมาให้ข้าซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตท่าน"
 "ฮึ่ม แต่ว่า ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าจะยึดโกคูรยอกลับมา เจ้าจะยอมช่วยมั้ย ข้าจะสังหารมูยุลซะ เจ้าส่งทหารพูยอมาช่วยข้าหน่อย อย่าเพิ่งไป ข้ามีวิธีที่จะเอาชีวิตมูยุลได้ ถ้าเราไปตำหนักเทพเดี๋ยวนี้ จะฆ่ามูยุลกับยูริได้ทันที"
 โทจินสั่งนักรบให้รีบไปที่ตำหนักเทพทันที
 ภายในตำหนักเทพ พระราชายูริทรงตรัสกับองค์ชายมูยุลว่า
 "คิดว่า เวลาสำหรับชีวิตข้า คงเหลือน้อยเต็มที"
 "หึ เสด็จพ่อ"
 "เปิดหีบนั้นดูสิ ของพวกนี้ ข้าเตรียมไว้สำหรับมอบให้เจ้า ครั้งหนึ่ง ที่ข้าเคยไปสวามิภักดิ์ต่อพูยอ หลายคนนึกว่าข้าใจเสาะ กลัวแคว้นพูยอนักหนา แต่เพราะที่นี่ มีรากฐานที่อดีตพระราชาของเราสร้างมาอย่างยากเย็น และยังมีสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อบ้านเมือง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เป็นจริงซักครั้ง เพราะข้าไม่เอาไหน จึงไม่อาจทำเพื่อบ้านเมืองได้อีก ต่อไป คงต้องให้เจ้าสานต่อ"
 "หม่อมฉัน จะทำตามรับสั่งของเสด็จพ่อ"
 "กระบี่เล่มนั้น เป็นกระบี่ที่ สมัยก่อนเกือบจะเอาชีวิตเจ้าเพื่อสังเวยแก่สวรรค์ ข้า ใช้มันยุติชะตาที่อาภัพของเจ้า ขณะเดียวกันก็ได้ปกป้องชีวิตเจ้าไว้ กลับทำให้เจ้าต้องไปอยู่ข้างนอก ข้าเสียใจนัก อภัยให้ข้าเถอะนะ เจ้าจะอโหสิให้ข้าได้ไหม"
 "หึ เสด็จพ่อ หึ หม่อมฉันเคยเกลียดเสด็จพ่อ แต่ตอนนี้คิดได้และจะกลับมาดูแล แต่กลับทรง ไม่เปิดโอกาสให้หม่อมฉัน สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ"
 "แต่เจ้าได้ทำให้ข้าพอใจหลายอย่าง คำทำนายของโหรหลวง บอกว่าเจ้าจะฆ่าพ่อและทำให้บ้านเมืองไปสู่ความหายนะ นั่นแปลว่าเจ้าจะเหนือกว่า สามารถสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าบรรพชน เสียดายข้าไม่เข้าใจความหมายนี้ ว่าเจ้า จะเหนือว่าเสด็จปู่และข้าอีก เจ้าจะสร้างเมืองใหม่ ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร เจ้าจึงต้องเข้มแข็งไว้ วันหลังเมื่อครองราชย์ เจ้าต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย อาจมีความมืดมิด ที่จะค่อยๆ กลืนกินเจ้า แต่ว่า เจ้าก็ต้องเดินหน้าต่อไป อย่าลืมว่าเบื้องหลัง ยังมีพ่อ ที่จะคอยเป็นกำลังใจให้ และคอยดูเจ้าอยู่"
 "เสด็จพ่อ"
 ด้านนอกตำหนักเทพ นักรบกล่าวกับโทจินว่า
 "โจมตีตำหนักเทพ มันยากนะ"
 "ข้าจะไม่ให้พลาดโอกาสที่จะได้สังหารมูยุล"
 "อย่าเห็นแก่เรื่องส่วนตัวจนขาดสติได้ไหมไ
 "เจ้ารู้อะไร กล้ามาสอนข้าหรือ" โทจินไม่พอใจ
 "ถ้าไม่เพราะความแค้นส่วนตัว ทำไมเจ้ายอมช่วยแพกึยโดยไม่มีพระบัญชาล่ะ"
 "หุบปากเดี๋ยวนี้"
 "ดีไม่ดี อาจถูกแพกึยหลอกใช้และเอากระบี่กลับไปอีก ถ้าไงกลับไปก่อนเถอะ โอกาสยังมีอีกเยอะ" นักรบเตือนสติโทจิน
 พอโทจินไปบอกแพกึยว่าจะกลับแคว้นพูยอ แพกึยก็กล่อมอีก
 "จะไม่ลองคิดอีกหน่อยหรือ ถึงเราจะไม่ใช่นายกับบ่าวอีก แต่มีศัตรูคนเดียวกัน ก็น่าจะร่วมมือกันได้นี่นา"
 "ต่อไปเราจะไม่ร่วมมืออีก ถ้าท่านอยากเห็นมูยุลตายละก้อ อย่าให้ตัวเองอายุสั้นละกัน"
 มยองจินเองก็เตือนแพกึยว่า
 "ฝ่าบาท ทรงคิดให้ดีก่อน เรามีกำลังน้อยมากนะ"
 "อย่าห่วงไปเลยน่า ถึงไม่มีเจ้าโทจินมาช่วย ข้าก็สามารถยึดเมืองหลวงกลับได้"
 "ถึงอย่างงั้นก็ต้องรอเวลา และวางแผนให้ดีก่อน"
 "ถ้าเราหนีวันนี้ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีโอกาสอีก"
 "ขนาดนี้ยังจะดื้อแพ่งอีก"
 "หุบปาก ขืนพูดอีกคำเดียวข้าจะตัดหัวเจ้า สภาพข้าตอนนี้ ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว ถ้าไม่สังหารเจ้ามูยุล ข้าก็ต้องตาย เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ว่าไง จะไปทางไหน ไปตำหนักเทพกับข้าดีๆ หรือจะตายอยู่ที่นี่"
 "ฝ่าบาท"
 "ตามข้ามา"
 และพวกแพกึยก็บุกเข้ามา เฮยาได้รับบาดเจ็บแต่ก็สั่งให้ทุกคนช่วยกันไม่ให้พวกนั้นเข้าถึงตำหนักเทพได้ ภายในตำหนักเทพ แทชองรีบบอกองค์ชายมูยุลว่า
 "องค์ชาย เราคงต้องปิดทางเข้าออกที่นี่แล้ว"
 "เกิดอะไรขึ้น"
 "แพกึย พาทหารบุกมาพะยะค่ะ"
 องค์ชายมูยุลรีบออกไปสู้กับพวกแพกึย
 "ไม่อยากตายก็ทิ้งอาวุธซะ หึ ข้าบอกพูดย้ำอีกครั้ง คนไหนไม่อยากตาย ฮึ่ม ทิ้งกระบี่เดี๋ยวนี้"
 แพกึยสั่งทหาร "ยืนเฉยทำไม รีบสังหารเจ้ามูยุลเร็ว หึ"
 "ต่อให้เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงแค่ไหน ก็ไม่ควรสิ้นคิดถึงขนาดนี้ แม้จะเป็นศัตรูก็ยังคิดถึงความสัมพันธ์เก่าก่อน ท่านเคยเป็นอำมาตย์ของโกคูรยอ ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้"
 "เฮ่อๆๆ อย่าหลงตัวเองนักเลย นึกว่าเจ้าเกิดมาวิเศษนักหรือ ถ้าให้เลือกใหม่อีกครั้ง ข้าก็จะเลือกเดินทางนี้อยู่ดี เสียดายที่เมื่อก่อนปรานีเจ้า ไม่จัดการซะแต่แรก เอาซี่ มาฆ่าข้าเลย ตอนนี้ ข้าตายก็ไม่เสียดาย ฮึ่ม"
 "ข้าไม่อยากให้เลือดของท่าน แปดเปื้อนเส้นทางที่ฝ่าบาทจะเดิน เอาตัวกลับไปก่อน ขังไว้ในเรือนจำที่เมืองหลวง แล้วค่อยตัดสินโทษอีกที"
 เฮยาน้อมรับ "เพคะ"
 แทชองรีบบอก "องค์ชาย ฝ่าบาททรง"
 องค์ชายมูยุลเข้ามาเฝ้าพระราชายูริที่ทรงหายใจหอบ
 "หึ หึ หึ เสด็จพ่อ"
 "หึ ข้าคง หมดห่วงได้แล้ว โตชิ หึ แฮเมียง หึ และยอจินอีกคน หึ หึ พวกเขากำลังรอข้าอยู่ เฮ่อๆ หึๆๆ" พระราชายูริทรงสวรรคต
 "เสด็จพ่อๆ หึ ฮือๆๆ เสด็จพ่อ ฮือ เสด็จพ่อๆ"
 "ฝ่าบาททรง สวรรคตแล้ว"
 "ฝ่าบาทได้ เสด็จสู่สรวงสวรรค์แล้ว"
 เหล่าขุนนางต่างร้องเรียก "ฝ่าบาทๆๆ"
 องค์หญิงเซยูรับสั่งว่า "ฝ่าบาทรับสั่งว่า จะทรงอยู่กับมูยุล เก็บน้ำตาของพวกเจ้าไว้ เพื่อต้อนรับ พระราชาองค์ใหม่ของเราเถอะ"
 "ฝ่าบาทๆๆ"
0000000000000000
 โทจินนำกระบี่วิเศษของจูมงไปถวายพระราชาเทโซ
 "นี่ก็คือ กระบี่ของจูมงหรือ"
 "ใช่แล้วพะยะค่ะ"
 "ยินดีด้วยพะยะค่ะ"
 "อึม ขอบใจเจ้ามาก"
 "แล้วจัดการกับแพกึยยังไง" 
 "ข้าไม่ได้ฆ่าเขา"
 "ทำไมไม่ฆ่าเขา"
 "ถึงหม่อมฉันไม่ลงมือเอง เขาก็ต้องตายด้วยน้ำมือมูยุล"
 "ทำดีมาก ให้เขาตายแบบนั้นจะยิ่งทรมาน"
 "ฝ่าบาท พระราชายูริ สวรรคตแล้ว"
 "เจ้าบอกว่าเขา ตายแล้วงั้นหรือ"
 "พะยะค่ะ"
 โทจินกลับไปหาองค์หญิงยอน องค์หญิงยอนกล่าวกับโทจินว่า
 "ข้ามีเรื่องบางอย่างจะพูดกับท่าน ต่อไป ข้าจะไม่ขอให้ท่านปล่อยตัวข้ากลับไปโกคูรยออีก ข้าจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เกี่ยวกับองค์ชายมูยุลให้หมด"
 "ข้าเพิ่งกลับจากโกคูรยอ พระราชายูริสิ้นแล้ว ตอนนี้มูยุลจะขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่ ส่วนข้า ก็อาจได้ครองแคว้นพูยอ ต่อจากฝ่าบาทก็เป็นได้ ถ้าเจ้าลืมเขาได้จริง เมื่อนั้น ข้าก็จะพยายามลืมความแค้น ที่มีต่อเขา เมื่อเจ้าตัดสินใจแบบนี้ ก็ถือว่าดีแล้ว อีกหน่อยลูกของมูยุลเกิดมา ข้าจะดีต่อเขาให้มาก ไม่ต้องเป็นห่วง"
 นักรบไปรายงานแชบูว่าโทจินดูแลองค์หญิงยอนที่กำลังตั้งครรภ์กับองค์ชายมูยุลอยู่
 แคว้นโกคูรยอ องค์หญิงเซยูทรงปลอบองค์ชายมูยุล ที่ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ที่ตำหนักเทพกับพระราชายูริ
 "ฮือ เฮ่อ มูยุล เจ้าต้องเข้มแข็งไว้นะ ข้ารู้ดีว่า ตอนนี้เจ้ารู้สึกเสียใจแค่ไหน แต่ว่า เจ้าเป็นพระราชาแล้ว เมื่อเป็นประมุขแห่งโกคูรยอ ก็ต้องมีความหนักแน่น ทนรับความเจ็บปวดได้ทุกอย่าง ถ้าพระราชาหลั่งน้ำตา ราษฎรก็จะยิ่งเสียใจ ถ้าพระราชาเจ็บปวด บ้านเมืองนี้ จะยิ่งตกอยู่ในความลำบากยากเข็ญ หึ ทำตัวให้เข้มแข็งได้แล้ว จากนั้น ออกไปยืนต่อหน้าคนที่รอเจ้า เร็วเข้า"
 องค์ชายมูยุลค่อยๆ คิดทบทวนสิ่งที่พระราชายูริทรงตรัส แล้วก็ทำให้องค์ชายมูยุลมีกำลังใจออกมาเผชิญกับทุกคน
 "หึ เพราะการสิ้นพระชนม์ของฝ่าบาท ทำให้ข้าเสียใจไปชั่วขณะ แต่ต่อไปข้าจะเข้มแข็ง ร่วมมือกับทุกท่าน ช่วยกันทำนุบำรุงบ้านเมืองของเรา"
 "เราได้เห็นองค์ชายพ้นจากความโศกเศร้า กลับมายืนหยัดอีกครั้ง รู้สึกปลื้ม ปิติอย่างยิ่งพะยะค่ะ" คูชูกล่าว
 "เราจะประกาศให้รู้กันทั่ว ให้ทุกคนร่วมฉลองและแสดงความยินดี ที่เราจะมีพระราชาองค์ใหม่"
 "ขอบคุณทุกท่านที่หวังดี แต่ตอนนี้ เรามีทั้งศึกนอกและใน ความเป็นอยู่ของราษฎรก็ยังลำบาก ถ้าฟุ่มเฟือยกับการจัดงาน รังแต่ยิ่งซ้ำเติมราษฎรเท่านั้น"
 "แต่ว่า"
 "ตอนนี้ สิ่งสำคัญไม่ใช่พิธีเถลิงราษฎร์ แต่ต้องคิดว่าเมื่อเป็นพระราชาแล้ว ควรทำอะไรบ้าง พิธีเถลิงราชย์ ให้จัดอย่างเรียบง่ายก็พอ"
 เมื่อถึงเวลาทำพิธีเถลิงราชย์ พระราชามูยุลตรัสว่า
 "พระราชาแห่งโกคูรยอ มูยุลขอสาบานต่อฟ้า ข้ามูยุล ได้ครองแผ่นดินนี้ ก็ด้วยบัญชาแห่งสวรรค์ ข้าจะปกป้องรักษาบ้านเมือง ดูแลทุกข์สุขของราษฎรอย่างดี"
 "ยินดีด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท"
 "ยินดีด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท 
 มาวังดีใจมากที่พระราชามูยุลเถลิงราชย์แล้ว
 "และแล้ว ในที่สุด ก็มาถึง ยุคของข้ามหาเศรษฐีมาวังอีกครั้ง ยุคแห่งความร่ำรวย ฮ๋าๆๆ"
 "เฮ้ ใครบอกว่านี่เป็นยุคของท่าน พูดผิดหรือเปล่า" กงชอนว่า
 "พูดผิดได้ไง อีกหน่อยจะมีฝ่าบาทคอยหนุนหลัง คิดดูซิ ใครจะกล้าขัดขวางความยิ่งใหญ่ของข้าได้ ฮ๋าๆๆ"
 "อ้อ งั้นก็ยินดีด้วยน่ะครับ"
 "ขอบใจๆ เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ใช่เวลาจะมาดีอกดีใจ ป่านนี้ ฝ่าบาทและโกคูรยอกำลังต้องการข้าอยู่"
 "ถูกต้อง"
 "ไปเถอะ เร็วเข้า ฮ๋าๆๆ"
 พระมเหสีมียูเสด็จมาแสดงความยินดีพร้อมกับอันซึง ต่อพระราชามูยุล
 "ยินดีด้วยนะ" พระมเหสีมียูตรัส
 "ยินดีด้วยพะยะค่ะ" อันซึงทูล
 "บัดนี้พระนาง ถือเป็นเชื้อพระวงศ์สูงสุดของฝ่ายใน ต้องโทษหม่อมฉันที่ไร้ความดี ไม่อาจให้พระนางยอมรับได้"
 "อย่าพูดอย่างงั้น ข้าทำผิดไว้มากจนไม่มีหน้าจะอยู่นี่ได้อีก ข้าจะออกไปอยู่ข้างนอก ข้างกายฝ่าบาทยังมีคนเก่งอีกมาก จงใช้พวกเขาให้ดี เป็นที่ปรึกษาหารือ แค่นี้ก็พอแล้ว"
 ลีจีอาทูล "อย่าเสด็จไปไหนเลยเพคะ อยู่เป็นพระพันปีที่นี่ เป็นเสาหลักให้ฝ่ายในก็ยังดี"
 "หึ ข้าเป็นคนบาปสำหรับทุกคน โดยเฉพาะฝ่าบาทและยอจินด้วยแล้ว ต่อไป จะขอใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อการไถ่บาป" พระราชามูยุลทรงถอนใจ
 พระราชามูยุลทรงเรียกหาเฮยา
 "รับสั่งให้หาหรือเพคะ"
 "ข้าให้ทุกคนมาพบ เพราะมีงานสำคัญจะมอบหมาย"
 "เชิญรับสั่งมาได้" เคยูทูล
 "ตั้งแต่วันนี้ไป ให้หัวหน้าเฮยาเป็นเสนาขวา แม่ทัพเคยูขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ บัญชาทหารในส่วนกลาง"
 "หึ ฝ่าบาท"
 "มาโนกับพักโซ รับผิดชอบหน่วยองครักษ์"
 "เราเป็นคนต่ำต้อย จะรับหน้าที่สำคัญได้ยังไง"
 "ที่ข้าเลื่อนตำแหน่งให้ ไม่ใช่เพื่อตอบแทนความดีความชอบ แต่จะให้พวกเจ้าทำงานเพื่อบ้านเมือง ตามเป้าหมายที่ข้าวางไว้ หลายปีนี้ที่เราเหนื่อยมา ก็เพื่อหวังว่าซักวันจะได้สบาย แต่ตอนนี้บ้านเมืองยังไม่เป็นตามที่คิด จึงอยากให้ทุกคน เข้าใจความคิดข้า ช่วยกันทำงานต่อไป"
 "เราจะขอถวายชีวิตเพื่อฝ่าบาท"
 พอพ้นจากทุกคน พักโซกระแอมเสียงดัง มาโนมองพักโซที่ยิ้มไม่หุบ
 "อึม ตั้งใจทำงานหน่อยนะ อีกหน่อยจะได้ดีเหมือนพวกเรา นี่ ทำไมไม่วางมาดให้เคร่งขรึมหน่อย หือ"
 "แหะๆ ข้าก็อยากเคร่งขรึมกว่านี้ แต่ปากมันยิ้มจนหุบไม่ลง หึๆ เจ้าก็รู้ สมัยก่อนข้าเป็นอะไร แค่อันธพาลในตัวเมือง แล้วได้เป็นถึงหัวหน้าองครักษ์ ฝันไปหรือเปล่านี่"
 "มันก็จริง คนอย่างเจ้าไม่น่าดูแลองครักษ์ ให้ไปดูนางในดีกว่า"
 "เดี๋ยวนี้ข้าเป็นหัวหน้าพักโซแล้วนะ หือ หัวหน้ามาโน"
 มาโนมอง "หือ"
 "ต่อไปข้าจะไม่ยุ่งกับพวกนางในอีก"
 "ดูซิจะทนได้กี่น้ำ นี่ เรียกอีกทีซิ"
 "หัวหน้ามาโน"
 "หัวหน้าพักโซ"
 พักโซและมาโนต่างบอกกัน "ยินดี"
 มาวังเข้ามาหาทั้งสอง "ฮ่าๆๆ ยินดีด้วยนะจ๊ะ ทั้งสองคนเป็นหัวหน้าองครักษ์แล้วสิ"
 "ท่านมาวัง มานี่ทำไมไม่ทราบ"
 "แหะๆ ข้ามีเรื่องสำคัญจะมาบอกท่านมาโน"
 "เรื่องอะไร"
 "เดี๋ยวก่อน ทำไมพูดกับเขาคนเดียว บอกข้าบ้างไม่ได้หรือ"
 "เฮ้ย ก็ไม่มีอะไร อีกไม่นานข้าจะจัดงานเลี้ยงที่บ้าน ซึ่ง มีเหล้ายาปลาปิ้งเพียบ อย่าลืมให้เกียรติไปด้วยล่ะ"
 "อึม ลำบากเจ้าหน่อยนะ"
 "ลำบากเจ้าด้วย หึๆ"
 "มีเรื่องอะไร" มาโนถามมาวัง
 "มีข่าวเกี่ยวกับคุณหนูยอน" มาวังทำเสียงซี้ดปาก "ข้ามีเพื่อนคนหนึ่งอยู่แคว้นพูยอ เลยวานให้เขาสืบเรื่องคุณหนูยอน จนพอได้เรื่องบ้าง"
 "นางอยู่ไหน เป็นไงบ้าง"
 "เอ่อ เฮ่ย คือว่า"
 "บอกข้ามาเร็ว"
 "ข่าวว่าอยู่ใต้การดูแลของโทจิน แต่ว่า ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่"
 "หา กับใคร เป็นลูกโทจินหรือ"
 "ไม่ใช่ๆ คือ ข่าวแจ้งมาว่า อาจจะเป็นลูกของฝ่าบาท แล้วทำไงดี จะทูลดีมั้ย"
 มาโนอึ้งไป "เฮ่ย หึ หึ"
 สาวใช้ของพระมเหสีลีจีอาได้ยินก็รีบไปทูลบอกพระมเหสีลีจีอา
จบ 31

มูยุล มหาบุรุษพิชิตแผ่นดิน32 

 มาโนกับมาวังจะเข้าเฝ้าพระราชามูยุล แต่พบกับพระมเหสีลีจีอาที่ดักรออยู่
 "คิดจะทำยังไง คุณหนูยอน ตั้งครรภ์ลูกของฝ่าบาท ข้ารู้หมดแล้ว คิดว่า จะทูลให้ฝ่าบาททรงทราบมั้ย ข้าขอสั่งพวกเจ้าเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ ต้องบอกว่าขอร้อง อย่าไปทูลเลย ถึงฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้ แล้วจะทำอะไรได้ มีแต่ทำให้พระองค์ยิ่งเป็นทุกข์ ฉะนั้นอย่าพูดดีกว่า"
 "เอ่อ พะยะค่ะ หม่อมฉันก็คิดเช่นเดียวกับพระมเหสี ไม่ต้องห่วง" มาวังทูล
 มาโนก็ทูลว่า "หม่อมฉันก็ไม่ทูล"
 "ข้าจะลองเชื่อซักครั้ง แต่ถ้าวันหลัง ฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้เข้า ข้าจะไม่ละเว้นพวกเจ้าสองคน"
 มาโนเข้าเฝ้าพระราชามูยุล
 "ฝ่าบาท หม่อมฉันมาโน"
 "เข้ามาได้"
 "หม่อมฉันขอรินเหล้าให้" พระราชามูยุลทรงรินให้ "ไม่ได้พะยะค่ะ"
 "เอาเถอะ"
 "ฝ่าบาท"
 "เจ้า พอได้ข่าวคุณหนูมาหรือยัง"
 "ไม่มีพะยะค่ะ"
 "เฮ่อ งั้นหรือ แต่เจ้าก็ยุ่งหลายอย่างนะ"
 "ฝ่าบาท นี่ก็ดึกมากแล้ว"
 "ข้ารู้ ไม่ควรคาดหวังกับเรื่องนี้ให้มาก แต่ว่าในใจก็บอกว่า อย่าไปหานางอีกเลย เพื่อข้าแล้ว  นางต้องเผชิญกับความลำบาก ไม่รู้ว่า ป่านนี้นางจะเป็นไงบ้าง"
 วันต่อมา พระราชามูยุลทรงประกาศว่า
 "ต่อไปเรื่องใหญ่น้อยในเมือง ก็รบกวนท่านคูชูกับใต้เท้าฮันนาช่วยกันดูแลนะ"
 ขุนนางทูลถาม "ทำไมอย่างงั้นล่ะพะยะค่ะ ฝ่าบาทไม่ประทับอยู่ในวังแล้วหรือ"
 "ข้าจะทำตามรับสั่งของเสด็จพ่อ ไปปราบชนเผ่าที่แข็งข้อต่อเรา สมัยก่อนเสด็จปู่ ย้ายเมืองหลวงจากโชบุนมาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อจะให้เป็นศูนย์กลาง สร้างอาณาจักรยิ่งใหญ่ในแถบนี้ ตอนนี้ข้าจะเป็นตัวแทน สานต่อเจตนารมณ์ให้สำเร็จ"
 "แต่ว่าฝ่าบาท เพราะการก่อกบฎของแพกึย ทำให้เศรษฐกิจเราถดถอยจนไม่มีงบประมาณเพื่อจะทำศึกอีก"
 "ปัญหานี้ ไว้ข้าปราบเผ่าต่างๆ ได้แล้ว ค่อยยึดอาวุธและปัจจัยมาชดเชย"
 "ในเมื่อฝ่าบาทจะออกรบ แล้วแพกึยทำไงเพคะ"
 พระราชามูยุลเสด็จไปพบแพกึย
 "ไม่ต้องหาข้ออ้างมาลบหลู่ข้าอีก จะฆ่าก็เชิญเลย"
 "ข้าไม่ฆ่าท่านหรอก แต่ว่าจะให้ท่านเป็นทาสชั่วชีวิต ให้ไปทำงานในเหมืองเหล็ก อยู่กับความเหน็บหนาว เป็นคนงานที่อดมื้อกินมื้อ ให้อยู่อย่างทุกข์ทรมาน จะได้รู้ถึงความเจ็บปวดของคนที่ตายเพราะท่าน ให้รู้จักสำนึก ในความผิดของตัวเอง เอาตัวไปได้"
 "พะยะค่ะ"
 "หึ ฆ่าข้าซะดีกว่า ถ้าวันนี้ไม่เอาชีวิตข้า ซักวันเจ้าต้องเสียใจ"
 คูชูสั่งทหาร "ยังไม่รีบเอาตัวไปอีก"
 พระมเหสีลีจีอาเรียกหัวหน้าเผ่าที่รอดตายมาพบ
 "หัวหน้าเผ่าที่รอดตายมีแค่นี้เองหรือ"
 "พะยะค่ะพระมเหสี"
 "หึ เผ่าพีรู ต้องเผชิญกับวิกฤติ เพราะการก่อกบฎของแพกึย ในฐานะพระมเหสี ข้าไม่อาจละเว้นคนที่คิดไม่ซื่อก็จริง แต่ในฐานะคนของเผ่าพีรู ข้าคงไม่อาจทนเห็นชนเผ่าซึ่งเป็นเสาหลักของโกคูรยอ ถูกตราหน้าว่าทรยศ ซ้ำยังถูกผู้คนประณามอีก วันนี้ที่ให้ทุกท่านมาพบ เพราะข้าคิดจะกอบกู้เผ่าพีรูใหม่ เข้ามาได้ ทุกท่านคงรู้ว่า ท่านมยองจิน คนนี้ เคยช่วยแพกึยก่อกบฎ ถือว่ามีความผิดมาก แต่ว่าเขาเป็นคนสำคัญ ที่เคยช่วยเราทำงาน ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไร ข้าจะสั่งผ่านเขา และจะตั้งให้เขา เป็นหัวหน้าเผ่าพีรูคนใหม่ด้วย"
 "ทุกวันนี้ ฝ่าบาทยังไม่อภัยโทษให้ข้า จึงออกหน้าไม่สะดวกนัก ต่อไปถ้ามีอะไรจะมาปรึกษา ขอให้ทุกคนระวังความเคลื่อนไหวหน่อย" มยองจินกล่าว
พวกหัวหน้ารับคำ "ครับ"
 "เพื่อตอบแทนน้ำพระทัยเมตตาของพระมเหสี หม่อมฉันยินดีเป็นบ่าวรับใช้"
 ด้วยคำพูดขององค์ชายแฮเมียงที่ว่า
 "เจ้า เคยได้ยินเมือง "พูโต" มั้ย  นั่นเป็นที่ๆ พ่อบังเกิดเกล้า ของพระราชาจูมง รวมถึงบรรพชนเคยอยู่อาศัย เป็นที่ทำกินมา สมัยก่อนพระราชาจูมง เคยตั้งความหวังไว้ว่า จะเอาดินแดนผืนนี้ หรือก็คือ "พูโต" กลับคืนมา ทุกวันนี้โกคูรยอ แม้จะถูกพูยอและเทียนเฉากดขี่ แต่ความหวังของข้า  ก็คือซักวันจะได้ยึดครองพูโต เจ้ายินดีจะช่วยข้า สร้างฝันให้เป็นจริงได้ไหม งั้นเจ้าจงจำไว้  ที่ๆ เราจะช่วยกันกอบกู้คืนมา เรียกว่าเมืองพูโต"
 พระราชายูริก็ตรัสไว้ว่า "เจ้า ต้องเหนือกว่าเสด็จปู่และข้า ทำให้โกคูรยอ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่"
 พระราชามูยุลจึงตัดสินใจยึดครองเมืองพูโต แล้วก็สำเร็จ
 ยอนให้กำเนิดทารกเพศชายที่แคว้นพูยอชื่อว่าฮอตง โทจินรักลูกของยอนดุจกับลูกในไส้ของตนเอง
 2 ปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยศึกสงคราม พระราชามูยุลตรากตรำทำศึกได้รับชัยชนะจนสามารถกลับเข้าแคว้นโกคูรยอดังเดิม
 โทจินดูและฮอตงอย่างดี วันนี้เขารู้สึกว่าองค์หญิงยอนดูเศร้าผิดปกติ
 "มีอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า"
 "ไม่มี"
 "เพราะว่า วันนี้ครบวันตายของพ่อเจ้าใช่ไหม หึ อย่าห่วงไปเลย งานเซ่นไหว้ปีนี้ ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีก จะให้จัดโต๊ะเซ่นไหว้ท่านทังโนอย่างเปิดเผย"
 "ข้ายังไงก็ได้ ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ว่า ข้าไม่อยากสร้างปัญหาให้ท่านมากกว่า"
 "หึ เจ้าห่วงข้าเป็นด้วยหรือ ไหนๆ ก็เป็นวันสำคัญ ข้ามีของขวัญจะให้เจ้ากับลูก"
 โทจินจับนักรบที่ฆ่าพ่อขององค์หญิงยอนมา
 "หลายปีก่อน เจ้าเคยทำอะไรไว้บ้าง ใต้เท้าแชบูวางแผนชั่ว เจ้าก็มีส่วนรู้เห็นด้วยใช่ไหม"
 "เอ่อ ข้า ข้าไม่เข้าใจที่พูด เอ่อ"
 "ตอนนี้ การจะเอาชีวิตเจ้าคนเดียว มันง่ายสำหรับข้านัก แต่เพื่อรอวันนี้ ข้าต้องอดทนอดกลั้นตั้งเท่าไหร่ คิดว่าเจ้าคงไม่มีทางรู้ ถ้าคิดว่าใต้เท้าแชบูสามารถปกป้องเจ้า ก็ขอให้เลิกคิดได้แล้ว เพราะนับแต่นี้ชีวิตเจ้า จะขึ้นอยู่กับคำพูดเจ้าเท่านั้น"
 โทจินเป็นที่ไว้วางพระทัยของพระเจ้าเทโซ
 "ถ้าข้าสั่งตามที่เจ้าแนะนำมา คิดว่าเหล่าเชื้อพระวงศ์จะยอมง่ายๆ หรือ"
 "เพื่อให้เรามีกำลัง พอจะต่อกรกับโกคูรยอได้ สิ่งสำคัญคือต้องมีกองกำลังที่ขึ้นตรงต่อฝ่าบาทองค์เดียว"
 "ทำอย่างงั้นพวกเขาต้องแข็งข้อแน่"
 "ถ้าใครกล้าแข็งข้อ หม่อมฉันจะจัดการให้เอง ฝ่าบาททรงวางพระทัยได้"
 "ตลอด 2 ปีที่ผ่าน ทุกครั้งที่เห็นมูยุลขยายอาณาเขตออกไป ใจข้า จะรู้สึกราวกับมีมีดมากรีด ก่อนที่มันจะมาเล่นงานพวกเรา ข้าคงต้องชิงลงมือก่อน"
 "หม่อมฉัน จะทำให้ฝ่าบาททรงสมหวังเอง"
 แล้วโทจินก็ทำให้แชบูได้รับผลกรรมเหมือนที่เคยทำกับพ่อขององค์หญิงยอน เมื่อแชบูถูกจับฐานลอบปลงพระชนม์ขณะพระราชาเทโซไปล่าสัตว์
 "เจ้าคนเลี้ยงไม่เชื่อง ถึงขนาดคิดฆ่าข้าเชียวหรือ"
 "มิได้พะยะค่ะ ฝ่าบาททรงเข้าพระทัยผิด"
 ขุนนางที่โดนด้วยช่วยทูล "พวกเราบริสุทธิ์ สวรรค์เป็นพยานได้พะยะค่ะ"
 "หม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาท ถูกปิดบังพระเนตรพระกรรณ มันเป็นแผนชั่วของคนบางคน ที่คิดใส่ร้ายหม่อมฉัน ขอฝ่าบาททรงพิจารณาด้วย" แชบูทูล
 "แต่ข้าเห็นกับตา และได้ยินพวกทหารรับสารภาพ ว่าพวกเจ้าวางแผนปองร้ายข้าขณะไปล่าสัตว์ บวกกับ มีจดหมายที่เขียนด้วยลายมือและประทับ ตราของท่านในบ้านหัวโจกคนหนึ่ง ขนาดนี้แล้วยังคิดปฏิเสธอีกหรือ"
 "เรื่องแบบนี้ สามารถเสกสรรปั้นแต่งยังไงก็ได้พะยะค่ะ"
 "ปั้นแต่งหรือ"
 "พะยะค่ะ ในเมืองหลวง มีคนๆ หนึ่งเลียนแบบลายมือได้เก่งนัก ไม่ว่าลายมือใคร ก็ปลอมแปลงได้หมด ซ้ำยังเหมือนจริงมากพะยะค่ะ"
 "อ้อ แล้วท่านรู้จักเขาได้ไง"
 "เอ่อ คือ หม่อมฉัน"
 "เพราะท่านเคยให้เขาเขียนจดหมายใส่ร้ายทังโน หาว่าเขาคิดการไม่ซื่อใช่ไหม"
 "เอ่อ ทั้งหมดนี้ เป็นแผนชั่วพะยะค่ะ"
 "ใช่ เป็นแผนชั่วจริงๆ และท่านก็จะหลอกข้า หาว่าโทจินใส่ร้ายป้ายสี ว่าเขาคิดกบฎอีกล่ะสิ"
 "ฝ่าบาท โปรดให้หม่อมฉันได้พิสูจน์ตัวเอง หม่อมฉันจะทำให้ดูว่า ทั้งหมดนี้มีการวางแผน เพื่อเล่นงานหม่อมฉันพะยะค่ะ"
 โทจินเรียกนักรบ "เข้ามาหน่อยซิ เขาเป็นคนสนิทของท่าน เคยรายงานความเคลื่อนไหวของใต้เท้าทังโนให้รู้"
 "เป็นความจริงหรือเปล่า" พระราชาเทโซตรัสถาม
 "เอ่อ จริงพะยะค่ะ หึ นอกจากนี้แล้ว เขายังสั่งให้หม่อมฉัน จับตาดูแม่ทัพโทจิน และเมื่อวาน ที่เกิดเหตุร้ายขึ้น ก็เป็นแผนที่จะให้ร้ายแม่ทัพโทจิน"
 "หุบปาก เจ้าคนสารเลว ข้าเคยสั่งอย่างงั้นเมื่อไหร่ ฝ่าบาท โปรดทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย ให้โอกาสหม่อมฉันได้ล้างมลทินบ้างเถอะพะยะค่ะ" แชบูโกรธมาก
 "เจ้ายังต้องการโอกาสอีกหรือ ลากตัวสองคนนี้ ไปขังคุกไว้ก่อน"
 "พะยะค่ะ"
 "ฝ่าบาท โปรดทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย"
 "ฝ่าบาทๆ ทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย ฝ่าบาท ทรงเชื่อหม่อมฉันด้วย ฝ่าบาทๆ"
 องค์หญิงยอนเข้าเฝ้าพระราชาเทโซ
 "มาใกล้ๆ ข้าซิ ข้ารู้แล้วว่าพ่อเจ้าถูกใส่ร้าย การเปิดเผยเรื่องนี้เท่ากับยอมรับความผิดของข้าด้วย ข้ารู้สึกเสียใจนัก ถ้าไงจะคืนยศศักดิ์ให้เขาส่วนหลุมฝังศพ ก็ให้ย้ายไปอยู่ในสุสานหลวง อภัยให้ข้าเถอะนะ"
 องค์หญิงยอนดีใจจนร้องไห้ออกมา แล้วกล่าวกับโทจินว่า
 "ฮือฮือๆๆ ในที่สุด พ่อข้าก็ได้ล้างมลทินซะที ขอบคุณพี่โทจินมาก"
 "ระหว่างทางอาจมีอันตราย ดูแลให้ดีล่ะ" โทจินสั่งลูกน้อง
 "ถ้าไง ท่านจะไปด้วยมั้ย คิดว่าท่านพ่อ คงคิดถึงพี่โทจินเหมือนกัน"
 "เฮ่ย อยากให้ข้าไปด้วยหรือเปล่า หือ หึ ก็ได้ งั้นเราไปด้วยกัน หึ"
00000000000000
 พระราชามูยุลทรงสะดุ้งตื่นและหอบ ก่อนจะลุกออกไปข้างนอก มาโนเห็นก็ทัก
 "ทำไมมาอยู่ข้างนอกล่ะ ข้างนอกอากาศเย็น เสด็จไปข้างในเถอะ"
 "เมื่อกี้ข้าฝันร้าย ฝันเห็นคุณหนูยอน ถูกคนตามล่าจนต้องหลบหนี นางมีอันตราย อยู่ต่อหน้าข้าแท้ๆ ข้ากลับได้แต่เฝ้าดู โดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย"
 "ฝ่าบาท ทรงถนอมพระวรกายไว้บ้างเถอะ ตั้งแต่เราออกศึกมา ถึงวันนี้ก็ 2 ปีแล้ว บรรลุเป้าหมายที่ฝ่าบาททรงตั้งไว้ บวกกับทหารก็เหนื่อย ถ้าไงถอนทัพดีมั้ยพะยะค่ะ"
 "ข้ารู้สึกว่าชีวิตตัวเองแทบอยู่ห่างสนามรบไม่ได้ เทียบกับวังหลวงแล้ว อยู่นี่สบายใจกว่า"
 "แต่ราษฎรรอคอยฝ่าบาทอยู่ น่าจะกลับไปเมืองหลวง ดูแลทุกข์สุขของพวกเขาบ้าง ถ้าไง เสด็จกลับเถอะพะยะค่ะ"
 มาวังมาเฝ้าองค์หญิงเซยูในวังหลวง
 "ทรงสำราญดีมั้ยพะยะค่ะ"
 "ข้ากำลังอยากพบท่านอยู่ ตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ไหน"
 "ฝ่าบาทหรือพะยะค่ะ ปราบเผ่า "ซอนบี"ได้แล้ว เตรียมจะคืบหน้าต่อไปเพื่อยึดครองเผ่าอื่นๆ แต่นี่เป็นเหตุการณ์เมื่อ 4 เดือนก่อนพะยะค่ะ แหะๆ"
 "หมายความว่า ป่านนี้น่าจะรบกับเมืองยางแบ แล้วสิ"
 "อีกไม่นานเมืองยางแบก็ต้องสวามิภักดิ์ให้เราแน่ คิดดูก็น่าทึ่งนะพะยะค่ะ แค่ 2 ปีครึ่งเท่านั้น ฝ่าบาทก็ขยายอาณาเขตมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เฮ่อๆๆ"
 "ใช่ เป็นอย่างงั้นจริงๆ แล้วฝ่าบาททรงสบายดีมั้ย"
 มาวังทำเสียงซี้ดปาก "เรื่องนี้ ให้องค์หญิงทอดพระเนตรเองจะดีกว่า เพราะฝ่าบาทกำลังจะเสด็จกลับมาแล้ว ฮ่าๆๆ"
 องค์หญิงเซยูดีพระทัย "หึ เป็นความจริงหรือ"
 "พะยะค่ะ เฮ่อๆๆ"
 พระราชามูยุลเสด็จกลับถึงวังหลวง องค์หญิงเซยูกับคูชูก็จัดการต้อนรับพร้อมเหล่าขุนนาง
 "ยินดีต้อนรับฝ่าบาทพะยะค่ะ"
 "ราษฎรรู้ถึงผลงานของฝ่าบาท ต่างก็แซ่ซ้องยินดีพะยะค่ะ"
 "แต่ทั้งหมดนี้ เป็นความเหนื่อยยากของเหล่าทหารด้วย" พระราชามูยุลตรัส
 องค์หญิงเซยูทูล "เพราะมีผู้นำที่เก่งกล้า ทหารถึงมีกำลังใจสู้รบ"
 "ฝ่าบาท เชิญพะยะค่ะ"
 พระมเหสีลีจีอาทูล "เห็นฝ่าบาททรงปลอดภัยดี หม่อมฉันก็หายห่วง"
 "เจ้าก็สบายดีใช่ไหม"
 "เพคะฝ่าบาท"
 มาวังทูลพระราชามูยุลถึงเหตุการณ์แคว้นพูยอ
 "ระหว่างที่ฝ่าบาทไปออกศึก แคว้นพูยอก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อย"
 "ใต้เท้าแชบูถูกปลดจากตำแหน่ง เป็นความจริงหรือ"
 "พะยะค่ะ และคนที่เล่นงานเขา ก็คือโทจิน ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ทุกวันนี้คนที่มีอำนาจสูงสุดไม่ใช่อ๋องเทโซ หากแต่เป็นโทจิน ใช้เวลาไม่นานก็ไต่เต้าขึ้นเป็นคนโปรด ไม่เพียงแต่อ๋องเทโซ แม้แต่ราษฎรก็นับถือเขามาก"
 "แปลว่าอ๋องเทโซ จะให้เขาสืบอำนาจต่อหรือไง"
 "หึ จะว่าอย่างงั้นก็ได้พะยะค่ะ"
 "คนๆ นี้ รู้สภาพในโกคูรยอดีกว่าใคร อนาคตถ้าเขาได้ครองแคว้นพูยอ จะเป็นภัยต่อเราอย่างมากนะเพคะ เราคงต้องหาทางป้องกันไว้ก่อน" เฮยาทูล
 มาโนกลับมาก็นำของมามอบให้ยุนวา พักโซเห็นก็แซว
 "เฮ่อๆๆ ทำเนียนนักนะ คิดว่า นี่คงเหมาะกับเจ้า ดีมาก ใจกล้าดี"
 "เจ้าทำอะไร มาแอบดูข้าหรือ"
 "อายอะไรเล่า ชอบนางก็พูดไปตรงๆ หรือไม่ก็คว้ามากอดไว้"
 "อย่าพูดบ้าๆ นะ มันไม่ใช่อย่างงั้น"
 "ไม่ใช่อะไร นี่ ถ้าไม่กล้าพอ ให้ข้าช่วยมั้ยล่ะ"
 "พูดพอหรือยัง เจ้าก็รู้ ป่านนี้นางยังไม่ลืมองค์ชายยอจิน ข้าไม่มีสิทธิ์หรอก เฮ่ย"
 "โธ่เอ๊ย ทำยั๊วะ เรื่องแบบนี้ข้าถนัดนัก เดี๋ยวจะช่วยเอง ไม่ต้องห่วง หึๆ"
 องค์หญิงเซยูก็มาคุยกับเคยูด้วยความเป็นห่วง
 "เห็นเจ้าปลอดภัยกลับมา ข้าก็ดีใจแล้ว"
 "องค์หญิงทรงสบายดีหรือเปล่าพะยะค่ะ"
 "สบายกายน่ะใช่ แต่ในใจ ไม่ค่อยสบายนัก"
 "หึ องค์หญิง หม่อมฉัน"
 "แม่ทัพเคยู ยังจำที่เราสองคน พบครั้งแรกได้ไหม"
 "หึ ตอนนั้น หม่อมฉันไม่รู้ฐานะขององค์หญิง เลยเกือบจะล่วงเกินไป"
 "หึ คนส่วนใหญ่ ต่างอิจฉาที่ข้าเกิดเป็นองค์หญิง แต่ข้าไม่คิดว่า การเป็นองค์หญิงจะมีอะไรดี แต่เล็กจนโต ข้าเฝ้าดูโศกนาฏกรรมในวังซึ่งคนนอกไม่อาจรับรู้ เพื่อเห็นแก่เสด็จพ่อและบ้านเมือง ข้าต้องแต่งไปอยู่เผ่าคีซานที่แสนไกล หึ อาจจะสายไป ที่เราสองคนได้รู้จัก แต่ท่านก็ค่อยๆ เข้าสู่จิตใจข้า จนถึงวันนี้ ข้าถึงรู้สึกอุ่นใจจริง หึ ด้วยเหตุนี้ ข้าอยากบอกว่าขอบคุณท่านมาก"
 "หม่อมฉันฐานะต่ำต้อย แม้จะถูกผู้คนประนามเพราะชื่นชมองค์หญิง หม่อมฉันก็ไม่กลัวคำครหา จะขอภักดีต่อองค์หญิง จนกว่าชีวิตจะหาไม่"
 องค์หญิงเซยูเสด็จกลับมาเห็นพระราชามูยุลยังไม่บรรทมจึงเข้ามาทัก
 "ดึกป่านนี้แล้ว ยังไม่เข้านอนอีกหรือ"
 "อ้อ ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ต้องรบกวนพี่หญิงมาก"
 "หึ เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ"
 "ได้"
 "ราษฎรต่างคาดหวัง เมื่อพระราชากลับมาพร้อมกับชัยชนะ ก็อยากให้มีทายาทซักคน พระมเหสีกำลังรอเจ้าอยู่ รีบไปหานางเถอะ สองปีนี้ นางเฝ้ารอเจ้าด้วยความห่วงใยและอ้างว้าง ในเมื่อกลับมา ก็น่าจะไปปลอบใจนางบ้าง ไปเร็วเข้า"
 พระราชามูยุลเสด็จไปพบพระมเหสีลีจีอา
 "ขอบใจที่รอข้ามานาน และที่ข้าห่างเหินไป ต้องขอโทษด้วย อย่าถือเลยนะ ข้ามักจะหลอกตัวเองว่าไม่อยากให้เจ้าเสียใจกว่านี้ แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่ทำไว้กับเจ้า มันหนักหนาสาหัส ขอโทษด้วย"
 "ฝ่าบาท ขณะที่ฝ่าบาทอยู่ในสนามรบ ต้องเผชิญกับความยากลำบาก อุปสรรคมากมาย แต่ในวังที่ไม่มีฝ่าบาท หึ มันก็เงียบเหงา อ้างว้างไม่แพ้กัน"
 วันต่อมาพระราชามูยุลเรียกมาวังมาเฝ้า และบอกว่ามีเรื่องรบกวน
 "อยากให้ท่าน ไปแคว้นพูยอซักครั้ง ข้าอยากรู้ว่าอ๋องเทโซ จะให้โทจินเป็นรัชทายาทสืบต่อจริงมั้ย ถ้าโทจินมีอำนาจในแคว้นพูยอจริง อีกไม่นานคงจะยกทัพมาตีเราแน่ เรื่องนี้ อยากให้ท่านสืบให้ชัดเจน ข้าจะให้มาโนกับพักโซไปกับท่านด้วย"
 "อ้อ ทราบแล้วพะยะค่ะ ข่าวที่ฝ่าบาททรงต้องการ หม่อมฉันจะไปสืบมาให้ครบถ้วน"
และเมื่อประชุมรวม พระราชามูยุลตรัสว่า
 "เมือง "นัมซอ" ตรงนี้ เป็นพรมแดนสำคัญของเราที่จะให้ทหารพูยอมาล่วงล้ำไม่ได้ สั่งการลงไป ให้ส่งทหารไปเฝ้าอย่างเข้มงวด"
 "ทราบแล้วเพคะ"
 "แม่ทัพใหญ่ ไปจัดระเบียบกองทัพ และเกาะติดสถานการณ์ชายแดนทุกระยะ"
 "ทราบแล้วพะยะค่ะ"
 มาโนกับพักโซเดินทางไปแคว้นพูยอพร้อมกับมาวังและกงชอน ระหว่างผ่านแดนพักโซถามมาวังว่า
 "ฐานะเราถูกเปิดเผยหรือเปล่า"
 "นั่นสิ ปกติไม่เห็นตรวจเข้มขนาดนี้เลย"
 "หึ เทียบกับคราวก่อนที่มาแคว้นพูยอ สถานการณ์ต่างกันมาก"
 "ใช่ ต่างกันมากจริงๆ"
 "เห็นเขาว่า เพราะโทจินกุมอำนาจถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ ตอนนี้ เราได้ข้อมูลมากพอแล้ว กลับไปโกคูรยอก่อนดีมั้ย"
 "ข้ามีเรื่องจะขอปรึกษาท่านหน่อย" มาโนบอกมาวัง
 "หือ ว่าไง จะพูดอะไรกับข้า คงไม่ใช่ เกี่ยวกับคุณหนูยอนหรอกนะ"
 "ใช่ ข้าอยากรู้ข่าวของคุณหนู"
 "เป็นรับสั่งของฝ่าบาทหรือ"
 "ไม่ใช่ แต่ไหนๆ มาแล้ว ข้าไม่อยากกลับไปมือเปล่า"
 "เฮ่อ หึ งั้นก็ได้ จะลองไปสืบดู"
 เวลานั้น โทจินก็บอกกับองค์หญิงยอนว่า
 "ข้าอาจต้องออกจากเมืองไปพักใหญ่"
 "ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือคะ"
 "อีกไม่นาน สิ่งที่ข้ารอคอยมาหลายปี ใกล้จะเป็นจริงแล้ว"
 มาวังพามาโนมาที่บ้านของโทจิน แต่ไม่พบองค์หญิงยอน ทั้งสองเฝ้าอยู่ครู่ก็เห็นเด็กผู้ชาย
 "เด็กคนนั้น ต้องเป็นลูกฝ่าบาทแน่ องค์ชายแห่งโกคูรยอ หึ โอรสของฝ่าบาท จะไปอยู่กับโทจินไม่ได้ หึ รีบไปช่วยคุณหนูกับองค์ชายน้อยเถอะ"
 "จะบ้า เอ่อ ไม่ใช่ เจ้าคิดมันก็ถูก แต่เรามีแค่ 4 คน บุกเข้าถ้ำเสืออย่างงั้น เกิดพลาดพลั้งมิต้องตายหรอกหรือ หา" มาวังเตือน
 "ข้าไม่เคยกลัวตาย"
 "แต่ข้ากลัว กลัวๆๆๆๆ คือว่า ไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวจะถูก พวกมันจับไปทรมานมากกว่า หึๆ"
 มาโนกับพักโซบุกเข้าไป แต่สู้ไม่ได้จึงต้องถอยออกมา และเดินถามกลับโกคูรยอนทันที เข้าเฝ้าพระราชามูยุล
 "เฮ่อ ใต้เท้าแชบูต้องโทษประหารชีวิต แปลว่าตอนนี้ โทจินกุมอำนาจเบ็ดเสร็จแล้วสิ"
 "พะยะค่ะ แคว้นพูยอทั้งหมด ล้วนอยู่ใต้อำนาจโทจินคนเดียว"
 มาวังทำเสียงซี้ดปาก "เท่าที่ดูเหมือนไม่ต้องเตรียมการอะไร ทั้งอาวุธและยุทธปัจจัยก็มีพร้อม ไม่ว่าเวลาไหน แค่สั่งคำเดียว สงครามก็เกิดขึ้นได้พะยะค่ะ"
 "ท่านอำมาตย์ ไปเชิญท่านคูชูมาหน่อย บอกว่าข้ามีเรื่องจะหารือ"
 "ทราบแล้วเพคะ"
 "หึ เจ้า มีอะไรจะพูดใช่ไหม" พระราชามูยุลถามมาโน
 "เอ่อ ไม่มีพะยะค่ะ"
 "งั้นก็ขอบใจ ไปพักผ่อนได้ หึ"
 มาวัง มาโนและพักโซออกมา มาวังก็บอกกับมาโนว่า
 "นี่ ท่านมาโน ทำดีแล้ว ทำดีมากๆ ถึงเราจะทูลว่าพบองค์ชายน้อยและคุณหนูยอน ก็รังแต่สร้างความทุกข์ใจให้ฝ่าบาทมากกว่า"
 พักโซเห็นด้วย "ท่านมาวังพูดถูก ทูลฝ่าบาทตอนนี้ คงยังไม่เหมาะนัก"
 มาโนฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็อึดอัดจนทนไม่ได้ต้องไปพบเฮยา บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แล้วเขาก็บอกเรื่ององค์หญิงยอน
 "หา เจ้าบอกว่าคุณหนูยอน มีโอรสให้ฝ่าบาทจริงหรือ"
 "ครับ"
 "หึ แล้วฝ่าบาททรงทราบหรือเปล่า"
 "ตอนนี้ยังไม่ทราบ คนที่รู้เรื่องนี้มีแต่ท่านมาวังและพักโซ รวมถึงพระมเหสี"
 "พระมเหสีก็ทรงทราบด้วยหรือ"
 "ครับ อาจไม่ทราบว่าเป็นโอรสและประสูติที่ไหน แต่รู้ว่าคุณหนูยอนตั้งครรภ์กับฝ่าบาท เคยสั่งให้ข้ากับท่านมาวัง เป็นตายร้ายดีก็ห้ามทูลฝ่าบาทน่ะครับ เราจะทำไงดีครับ"
 "ปิดเป็นความลับต่อไป อย่าให้ฝ่าบาท ทรงทราบเรื่องนี้เป็นอันขาด ถ้าอีกหน่อย มีใครรู้ว่าฝ่าบาททรงมีโอรส อาจนำภัยมาสู่ราชสำนักก็ได้"
 เฮยาตัดสินใจจะเดินทางไปแคว้นพูยอ นางบอกกับเคยูว่ามีเรื่องต้องไปจัดการด้วยตัวเอง
 "เรื่องสำคัญอะไรนักถึงต้องไปด้วยตัวเองน่ะ ฝ่าบาทต้องไม่ทรงยินยอมแน่"
 "อย่าให้ฝ่าบาททรงทราบ เลือกทหารฝีมือดีซัก 2-3 คน ไปกับข้าเงียบๆ ก็พอแล้ว"
 "ท่านอำมาตย์"
 "หลายปีนี้ เราถวายงานให้ฝ่าบาท และฝ่าบาทก็ทรงมี พระเมตตาต่อเรามาก ตอนนี้ถึงเวลา ที่เราจะตอบแทนพระองค์บ้าง ฉะนั้นไม่ต้องถามอะไร ทำตามที่สั่งก็พอ"
 พักโซนำเฮยาไปถึงที่พักของโทจิน เห็นทหารเฝ้าอยู่มาก
 เวลาเดียวกันเคยูก็มาทูลพระราชามูยุลว่าเมืองนัมซอถูกแคว้นพูยอตีไปได้แล้ว
 "แน่ใจหรือว่าข่าวนี้ไม่ผิดน่ะ  ข้าสั่งให้เฝ้าเมืองนัมซอดีๆ อย่าให้ข้าศึกมาตีได้ไงล่ะ"
 "คนที่นำทัพมา ก็คือโทจิน"
 "หึ ฝ่าบาท ถ้าเมืองนัมซอถูกตีแตก จะมีผลต่อการค้าระหว่างแคว้นต่างๆ ที่ชายแดนนะพะยะค่ะ"
 "ให้ท่านอำมาตย์มาพบข้า"
 "ตอนนี้ท่านอำมาตย์ ไม่อยู่ในเมืองหลวงพะยะค่ะ"
 "ไม่อยู่แล้วไปไหน"
 "ท่านอำมาตย์ เดินทางไปแคว้นพูยอ" เคยูทูล
 "นี่มันหมายความว่าไง ทำไมไม่มาบอกข้า จู่ๆ ไปแคว้นพูยอซะได้"
 "สาเหตุเพราะอะไรนั้น คิดว่าท่านมาวังอาจจะรู้"
 "หึ ไปเชิญท่านมาวังมาพบข้า"
 "พะยะค่ะ"
 มาวังมาเฝ้าพระราชามูยุลและตัดสินใจบอกความจริง
 "สมัยก่อน ตอนคุณหนูหายไปจากเมืองโชบุน คาดว่าตอนนั้นน่าจะตั้งครรภ์แล้ว คราวก่อนหม่อมฉันไปแอบดูที่แคว้นพูยอ เห็นองค์ชายน้อยคล้ายฝ่าบาทมาก"
 "ความหมายของท่านก็คือ คุณหนูอยู่ใต้การดูแลของโทจิน และลูกของข้า ก็เติบใหญ่อยู่ในแคว้นพูยองั้นหรือ"
 "ถูกแล้วพะยะค่ะ"
 มาโนรีบขออภัย "ทรงอภัยให้หม่อมฉันด้วย"
 "หึ หึ ทำไมไม่มาบอกข้า เจ้ารู้อยู่แก่ใจ ทำไมไม่บอกให้ข้ารู้"
 "หม่อมฉันไม่อยากเห็นฝ่าบาททรงเป็นทุกข์"
 "แต่ลูกข้า เติบใหญ่อยู่ในเมืองของศัตรู ในขณะที่ข้า ไม่รู้อะไรเลย เจ้าทำได้ไง"
 "ถ้าย้อนเวลากลับได้ หม่อมฉันก็จะทำเหมือนเดิม ไหนๆ เรื่องก็ได้เกิดแล้ว คุณหนูเองก็จงใจ ไม่ส่งข่าวให้ฝ่าบาทรู้เพราะคิดเช่นเดียวกับหม่อมฉัน หม่อมฉันอาจไม่รู้อะไรมากนัก แต่เชื่อว่าคุณหนู คงไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้ฝ่าบาท ฝ่าบาททรงมีพระมเหสีแล้ว ทรงมีหน้าที่ต่อบ้านเมือง คุณหนูอยากให้ฝ่าบาททรงลืมเรื่องในอดีตให้หมด"
 "เงียบเดี๋ยวนี้นะ"
จบ 32



เครดิต : oknation.net/blog/lakorn

   
 
ความคิดเห็น


.: ต้องการแสดงความคิดเห็น กรุณาบันทึกความคิดเห็นของคุณลงบนแบบฟอร์มข้างล่างนี้ ขอบคุณค่ะ :.

ละครปัจจุบันตอนล่าสุด
(ตอนอื่น ๆ)
ตอนที่ 31 - 32
ละครที่ฉายอยู่ปัจจุบัน
จามอง ยอดหญิงผู้พิทักษ์แผ่นดิน (3)
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (15)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
* ชื่อ :  
   
อีเมล์ :  
   
* รายละเอียด  
 

ใส่ข้อมูลได้อีก ตัวอักษร
 
* ใส่ค่าตามภาพ  
 
 
 
SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน โดยเรามีเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดร้านค้า โฆษณาสินค้า และระบบการสั่งซื้อสินค้าไว้พร้อมสรรพแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่องทางในการทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์