Always Stainless
 
 
 
 
    สินค้าในตะกร้า [ 0 ชิ้น ]
 
บทความจากร้านค้า
ค่าไฟตู้เค้ก ตู้แช่
บทความ ณ. วันที่ : 19/6/2015        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 33037 ครั้ง   

ค่าไฟตู้แช่เค้ก มันเท่าไหร่กันนะ

วิธีคิดค่าไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างง่ายๆ

  แจ้งก่อนนะคะ เป็นการคำนวณแบบคร่าวๆนะคะ ไม่เป๊ะ100% สามารถใช้ได้กับทุกเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ

สมมุตว่าตู้แช่เค้ก 600 วัตต์ ,ใช้ตู้แช่วันละ 8 ชั่วโมง ,ค่าไฟของหลวง เก็บหน่วยละ 3บาท

1.เริ่มเลย อ่านดูให้แน่ใจสิว่า เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นกี่วัตต์ สมมุตตู้แช่เค้ก600วัตต์ ก็นำ 600/1000 = 0.6

2.นำคำตอบในข้อ1 มาคูณกับจำนวนชั่วโมงที่ใช้ในแต่ละวัน ก็จะได้จำนวนหน่วยที่ใช้ไฟ เช่น 0.6 * 8 ชั่วโมงต่อวัน = 4.8 หน่วย

3.นำจำนวนหน่วยต่อวันมาคูณค่าไฟที่ถูกเรียกเก็บต่อหน่วย เช่นไฟของหลวงคิดหน่วยละ3บาท ก็จะได้ 4.8 * 3 = 14.4บาท เท่ากับว่าเราต้องจ่ายค่าไฟเจ้าตู้แช่ใบนี้วันละ 14.4บาท ถ้าใช้งาน30วันก็คูณ30เข้าไป ก็จะได้ค่าไฟคร่าวๆต่อเดือนค่ะ

4.พอจะเข้าใจกันไหมคะ จะคำนวณค่าไฟเบื้องต้นได้ เราต้องรู้ วัตต์รวมของเครื่องใช้ไฟฟ้า ใช้งานวันละกี่ชั่วโมง ค่าไฟหน่วยละกี่บาท เมื่อหา3สิ่งนี้ได้ก็เริ่มคำนวณกันเลยค่ะ

5.ทำไมถึงย้ำว่าเป็นค่าประมาณ เพราะจริงๆแล้ว ค่าไฟก็มีปัจจัยอื่นๆให้แปรไปมาได้หลายปัจจัยอยู่ค่ะ ลองศึกษา หัวข้อถัดไปนะคะ

 

วิธีประหยัดไฟฟ้าเกี่ยวกับการใช้งานตู้เค้ก ตู้แช่เค้ก ตู้แช่เย็น 

 

1. สังเกตและปรับพฤติกรรมการใช้งานตู้เค้กของเราว่า...
   

1.1 นำอาหารร้อน ของร้อนเข้าแช่ในตู้เค้ก ตู้แช่หรือไม่ ถ้าทำ ต้องเลิกนำอาหารที่ร้อนหรือยังอุ่นแช่ในตู้เค้ก ตู้แช่ เพราะเมื่อของที่แช่ยิ่งมีอุณภูมิสูงเท่าไหร่ ตู้เค้กของเราก็ต้องทำงานหนักมากเท่านั้น
   

1.2 ลดการเปิดตู้เค้ก ตู้แช่โดยไม่จำเป็น เพราะค่าไฟฟ้าจะเพิ่มตามจำนวนครั้งของการเปิดตู้เค้ก บางคนเปิดจัดวางเค้กเดี๋ยวเปลี่ยนมุมนั้น เดี๋ยวจัดมุมนี้ ย้ายไปย้ายมา เปิดประตูบ่อยๆเปลืองค่าไฟนะจ๊ะ (ยกเว้นว่าเปิดหยิบเค้กให้ลูกค้า บ่อยแค่ไหนก็คุ้มอยู่แล้วค่ะ)    

1.3 เลิกเปิดประตูตู้เย็นค้างไว้เป็นเวลานานๆ อันนี้บอกลูกค้าให้เลือกไว้ในใจก่อนสั่งนะคะ ไม่ใช่ว่ามาชี้อันนั้น พอเปิดตู้จะหยิบให้ แล้วก็เปลี่ยนใจเอาอันโน้น เปิดประตูตู้เค้กรอการตัดสินใจของลูกค้านี่ ถ้านานไปก็แย่นะคะ ลองสังเกตดูที่ประตูตู้แช่หรือตู้ไอศครีมตามร้านมินิมาร์ทสิคะ ส่วนใหญ่จะเขียนว่า "เลือกสินค้าก่อนเปิด"  ตู้แช่เค้กเป็นกระจกใส สะดวกในการมองเห็น ลูกค้าก็ควรช่วยเจ้าของร้านด้วยนะคะ ถือเป็นการช่วยโลกด้วยค่ะ
   

1.4 ไม่แช่ของจนแน่นเกินไป เพราะความเย็นจะไหลเวียนไม่สะดวก ในตู้แช่เค้กจะเป็นระบบเป่าลมเย็น ใช้ลมหมุนเวียน ให้สังเกตว่าหน้าตู้เค้กกับหลังตู้เค้ก จะมีช่องเป่าลมวนเป็นช่องยาวๆอยู่ค่ะ ด้านหลังจะเป็นเป่าลมขึ้น และช่องด้านหน้าจะเป็นดูดลมลง หมุนเวียนไปแบบนี้เพื่อเป็นการกระจายความเย็นค่ะ ถ้าเราเอาป้ายชื่อเค้ก กล่องขนมเค้ก ขวดน้ำ ขวดเบียร์ไปวางบัง ลมวนที่ควรจะเดินได้สะดวกๆ ก็จะถูกปิดกั้นทางเดินไปค่ะ ส่งผลให้อุณหภูมิในตู้เค้ก อาจไม่เย็นเท่าที่ควร ยิ่งบังมากก็ยิ่งเย็นน้อยค่ะ บางครั้งเตือนลูกค้าถึงเรื่องนี้ เตือนดีๆ ยังมีการมาค้อนใส่แล้วพูดประชดว่า "วางแค่นี้เอง พี่ไม่เห็นว่ามันจะบังอะไรมากมาย อย่าเอามาพูดงั้นงี้เลย" เอ่อ..เตือนด้วยความหวังดี ลูกค้าเข้าใจกันบ้างเถอะค่ะ ตู้แช่เค้กไม่เย็นก็โทรเรียก ไปบริการให้แนะนำให้ ก็ยังจะมาว่าเราอีก
   

1.5 อย่าตั้งตู้เค้ก ตู้แช่ ใกล้เตาไฟ,กระติกน้ำร้อน,หรือหม้อหุงข้าว หรือถูกแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะจะทำให้ตู้เค้ก ตู้แช่ได้รับความร้อน ตู้เค้ก ตู้แช่ต้องต่อสู้กับอุณหภูมิที่สูง สิ้นเปลืองไฟเปล่าๆค่ะ
   

1.6 อย่าเอาสิ่งของ ถังขยะ เก้าอี้ กองหนังสือ ลังใส่ของ มาวางไว้หลังตู้เค้ก ตรงที่ที่มีแผงระบายความร้อนน่ะค่ะ ตู้เค้กจะระบายความร้อนได้ไม่ดี กินไฟมาก และส่งผลต่อการทำงานหนักของคอมเพรสเซอร์อีกด้วย


   
2. การดูแล และบำรุงรักษาตู้แช่
   

2.1 ควรตั้งดิจิตอลควบคุมอุณหภูมิของตู้เค้กให้เหมาะสม ควรตั้งอุณหภูมิที่โชว์ที่หน้าปัดดิจิตอล 1- 4 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเป็นอุณหภูมิที่วัดจากหน้าคอยล์เย็นด้านล่างนะคะ เมื่อสูงขึ้นไปในแต่ละชั้นวาง อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นไปด้วย  เราจะตั้งดิจิตอลที่เท่าไร ก็แล้วแต่ชนิดของเค้กค่ะ(ถามคนส่งเค้กนะคะ ว่าเค้กแต่ละชนิด ควรแช่ที่อุณหภูมิเท่าไร) ถ้าในตู้มีเค้กหลายชนิด ก็มาเน้นที่การจัดเรียงเค้กในชั้นวางเค้กให้เหมาะสมค่ะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ เรื่องอุณหภูมิในตู้เค้ก  ถ้าตั้งไว้เย็นกว่าที่ควรจะเป็น 1 องศาเซลเซียส จะสิ้นเปลืองไฟเพิ่มขึ้นนิดนึงค่ะ
   

2.2 หมั่นดูแลอย่าให้นม น้ำส้ม กรด(น้ำผลไม้ต่างๆ) หกใส่ตู้เค้ก ตู้แช่ ถ้าหกให้รีบใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด บางส่วนของตู้เค้ก ตู้แช่จะเทน้ำล้างตามได้ค่ะ ดูให้ดีๆก่อนเทน้ำตามนะคะ ไม่แน่ใจโทรถามได้ค่ะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ นมจะเกิดการเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นอับไปทั่วตู้เค้ก แล้วทีนี้จะแก้ยากค่ะ เคยเจอนะคะ ลูกค้าแจ้งว่าตู้เหม็นอับ เหม็นบูด โทษว่าตู้ไม่ดี สืบสาวราวเรื่อง มีร่องรอยคราบนมเน่า อยู่ใกล้คอยล์เย็น คาดว่าเด็กในร้านทำนมหก เช็ดในส่วนที่มองเห็นได้ไปหมดแล้ว แต่ในส่วนที่มองไม่เห็น ยังหลงเหลืออยู่จนเน่าบูดค่ะ ถ้าไม่ได้ดูแลตู้แช่เค้กเอง เวลาตู้มีอาการแปลกๆ ลองสังเกต สันนิษฐานเบื้องต้น  โทรปรึกษา ลองแก้ด้วยตัวเองก่อนดีไหมคะ ไม่ต้องเสียค่าเซอร์วิสด้วย ส่วนถ้าอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด ถ้าหกแล้วไม่รีบเช็ดก็จะกัดกร่อนตู้เค้กได้ค่ะ
   

2.3 ควรตั้งตู้แช่ห่างจากผนังทั้งด้านซ้ายและขวา อย่างน้อยด้านละ 3 เซนติเมตร เพื่อให้การระบายความร้อนดีขึ้น ประหยัดไฟขึ้นกว่าการที่ต้องชิดติดกับสิ่งของอื่นๆแบบทึบทั้งซ้าย ขวา หน้า หลัง
   

2.4 ข้อนี้สำคัญที่สุดค่ะ ควรทำความสะอาดแผงคอยล์ร้อนทุกๆเดือน อย่างมากที่สุดก็ไม่ให้เกิน 3 เดือน ทำเองได้ง่ายๆ ผู้หญิงก็ทำได้ ไม่ต้องจ้างใครมาทำนะคะ แค่มีไขควงแฉกกับแปรงสีฟันเก่าๆก็ทำได้แล้ว มีวิธีอยู่ในคู่มือที่แจกให้ลูกค้าทุกคนตอนที่ซื้อตู้เค้กค่ะ อ่านก่อนใช้งานก็ดีนะคะ เป็นเรื่องที่ควรทำทุกครั้งที่จะใช้สิ่งของ เครื่องใช้อะไรใหม่ๆ ควรอ่านให้เข้าใจก่อนใช้ ไม่เว้นแม้กระทั่งคำแนะนำการดูแลรักษาเสื้อผ้า ซึ่งดูแล้วเหมือนจะดูแลง่าย แต่ถ้าลองอ่านป้ายของเสื้อผ้าแต่ละชนิด ก็มีวิธีซักที่ต่างกันค่ะ
   

2.5 ตู้เย็น/ตู้แช่ ชนิดกดปุ่มละลายน้ำแข็งกินไฟน้อยกว่าชนิดละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ (No Frost) ตู้เค้กปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบ No Frostค่ะ  เอาค่าไฟไปเปรียบเทียบกับตู้เย็นที่บ้านไม่ได้นะคะ คนละระบบกันค่ะ
   

2.6 เวลาปิดประตูตู้เค้ก ลองมองดูว่าเราปิดประตูสนิทมั้ยนะคะ บางทีปิดยังไม่ถึงครึ่งทางแล้วค้างไว้ ความเย็นรั่วไหล ค่าไฟก็รั่วออกค่ะ
 

3.คำถามยอดฮิต  อ่านแล้วนำไปปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ทำอยู่กันดูนะคะ
  

3.1 นำน้ำมาแช่ในตู้เค้ก จะทำให้ตู้เค้กกินไฟมากไหม ?
   ตอบ : เรานำน้ำมาแช่ในตู้เค้กได้ค่ะ กินไฟเพิ่มขึ้นนิดนึง แต่อย่าแช่มากๆนะคะ ให้สูงสุดเลยที่ 10 ขวด เพราะอะไรทราบไหมคะ เพราะของเหลวต้องใช้อุณหภูมิที่ต่ำและนานพอ กว่าของเหลวนั้นจะเย็น และยังต้องคำนึงถึงภาชนะใส่ของเหลวนั้นด้วย  ถ้าเป็นภาชนะแบบพลาสติก จะรับความเย็นและคลายความเย็นช้า  ถ้าเป็นภาชนะแบบแก้วหรือพวกอลูมิเนียม จะรับความเย็นและคลายความเย็นเร็ว ดังนั้นตู้ก็ทำงานน้อยกว่า ควรเลือกภาชนะที่ใส่แบบแก้วหรืออลูมิเนียมจะดีกว่า กินไฟน้อยกว่า
    พวกง่ายๆ สมมตินำน้ำเข้าไปวาง10ขวด มีขวดน้ำพลาสติก ขวดเบียร์ แล้วก็กระป๋องโค้ก แบบที่กินไฟมากสุดคือ ขวดน้ำพลาสติกค่ะ
  

3.2 การที่บอกว่าไฟดับให้ถอดปลั๊กออกเป็นความจริงหรือไม่ ? ถ้าไม่ถอดตู้เค้ก/ตู้แช่/แอร์คอนดิชั่นเนอร์ อาจพังได้ ?
   ตอบ : เรื่องจริง เพราะเมื่อไฟมาแล้ว บางครั้งแรงดันอาจจะมามากกว่าหรือน้อยกว่า 220 โวลท์ ทำให้ตัวคอมเพรสเซอร์ทำงานไม่เต็มที่ ทำให้ขดลวดในคอมเพรสเซอร์เสียเร็วกว่าเดิม  บางครั้งอาจน็อคไปในครั้งนั้นเลยก็ได้ค่ะ ถ้าโชคดีก็เสียเฉพาะที่ดิจิตอล ถ้าโชคร้ายการเสียทั้งดิจิตอลทั้งคอมเพรสเซอร์ การเสียหายจากไฟตก ไฟกระชากนี้ ช่างสามารถตรวจรู้ และไม่อยู่ในประกันนะคะ แนะนำว่าให้ใช้เครื่องกันกระแสไฟตก ชื่อทางการค้าคือ safe guard (เครื่องละประมาณ1000บาท) หรือติดเซฟทีคัทไว้ที่ร้านด้วยค่ะ เซฟทีคัทนี่ ถ้าเราตั้งแอมป์ไว้สูงๆ หรือมดเข้าไปทำรัง บางทีก็ไม่ตัดค่ะ เชื่อใจ100%ไม่ได้ ต้องหมั่นตรวจสอบดู
  

3.3 ใช้ตู้เค้กนอกห้องแอร์ กินไฟมากมั้ย
   ตอบ : ต้องกินไฟกว่าในห้องแอร์แน่นอนค่ะ เพราะอุณหภูมิข้างนอกกับในตู้เค้กต่างกันเยอะมากค่ะ ยิ่งต่างมากคอมเพรสเซอร์ก็ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้นค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ ตู้เค้กกระจกโค้ง70ซม. ใช้ในห้องแอร์เปิดใช้ 24 ชม.ค่าไฟประมาณ 1000บาท/เดือน ถ้าใช้นอกห้องแอร์ค่าไฟก็ต้องมากกว่าการใช้ในห้องแอร์เกือบเท่าตัว อาจเป็น1700บาท/เดือน  ดังนั้นเราจึงคิดค้นตู้เค้กกระจกตรง/ตู้เค้กเหลี่ยม ที่ใช้กระจกแบบพิเศษขึ้นมา เพื่อการนี้โดยเฉพาะค่ะ ถ้าเรานำตู้เค้กเหลี่ยมมาใช้นอกห้องแอร์ค่าไฟก็จะไม่เยอะเท่าเอาตู้เค้กโค้งมาใช้นอกห้องแอร์ค่ะ อาจอยู่ที่1300บาท/เดือนค่ะ  ทั้งนี้ค่าไฟจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมอื่นๆตามข้อ 1 ด้วยค่ะ  ปล.ตู้เค้กเหลี่ยมราคาสูงกว่าก็จริง แต่ถ้าไปคำนวณเรื่องค่าไฟด้วย ก็ถือว่าคุ้มในระยะยาวค่ะ
  

3.4 เอาตู้เค้กเหลี่ยมไปใช้ในห้องแอร์ได้ไหม
   ตอบ : ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา แถมดีเสียอีก เพราะเมื่อตู้เหลี่ยมถูกนำมาใช้ในห้องแอร์ ก็จะเสียค่าไฟน้อยลงกว่าการเอาตู้ไปตั้งข้างนอกห้องแอร์ค่ะ จากข้อ3.3ที่อาจต้องจ่ายค่าไฟเดือนละ 1000บาท เมื่อมาใช้ในห้องแอร์ก็จะเหลือ800ค่ะ การประมาณค่าไฟเหล่านี้เป็นค่าประมาณการนะคะ ค่าไฟยังแปรไปตามพฤติกรรมการใช้กับการดูแลทำความสะอาดคอยล์ร้อนด้วยค่ะ
  

3.5 หากเปิดตู้ตอนเช้า แล้วปิดตู้ในตอนกลางคืน เช้ามาก็สตาร์ทใหม่ จะกินไฟมากกว่าหรือน้อยกว่า การเปิดตู้ทั้งวัน 24 ช.ม. และจริงๆแล้วปิดตู้เค้กได้ไหมคะ
   ตอบ : ปิดตู้ได้นะคะ บางคนเข้าใจว่าตู้เค้กปิดไม่ได้ ปิดตามสบายเลยค่ะ การเปิดใหม่ในวันรุ่งขึ้น ไม่ได้ทำให้ตู้เค้กกินไฟมากขึ้นค่ะ และยังประหยัดไฟขึ้นอีกนะคะ วันไหนที่เค้กเหลือน้อย หรือมีที่ว่างในตู้เย็นเยอะ ย้ายเค้กเข้าตู้เย็นได้ค่ะ ปิดตู้แช่เค้กย้ายเค้กเข้าตู้เย็นได้เลย (แต่เค้กต้องมีแพคเกจจิ้งครอบนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวเค้กดูดกลิ่นในตู้เย็นเข้าไปหมด)  เช้ามาก็เปิดตู้เค้ก พอเย็นแล้วก็เอาเค้กไปวางได้เลย ทำแบบนี้สักพัก จะเห็นว่าค่าไฟลลดลงแน่ๆค่ะ
 
อ่านจบแล้วลองปรับพฤติกรรมการใช้ตู้แช่ ตู้เค้กของเรา ก่อนที่จะตกใจกับค่าไฟนะคะ  ปล.แต่ถ้าพยายามทำทุกวิธีแล้ว ค่าไฟยังแพงเว่อร์อยู่ ต้องตรวจมิเตอร์ หรือหน่วยค่าไฟของคุณบ้างแล้วค่ะ
 






 
   
เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน

©2008-2009 SABUYJAISHOP All Rights Reserved