ผู้ เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและกุมารเวช ทั่วโลกต่างยกย่องและให้การสนับสนุนว่านมผึ้งเป็นอาหารที่มีคุณค่าและคุณภาพ สูง เหมาะสมกับเด็กวัยเจริญเติบโต  นมผึ้งจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของเด็ก  และยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก ระบบต่างๆของร่างกาย ทำให้เจริญเติบโตแข็งแรงตามวัยและสมองดี

                Dr. Yoshieaki  ของมหาวิทยาลัย  Tohoku  ใน ญี่ปุ่นได้รายงานผลการรักษาคนไข้โรคมะเร็งที่ทำการรักษาโดยการฉายแสง สุขภาพพลานามัยจะลดลงอย่างรวดเร็วไม่เจริญอาหาร โดยใช้นมผึ้งรักษาปรากฏว่าได้ผลดี

               Dr. Takao  Takeuchi  ในมหาวิทยาลัย  keio  ได้รายงานว่า  นมผึ้งสามารถชะลอความแก่และทำให้มีอายุยืน สามารถบำรุงเด็กให้มีพลานามัยแข็งแรง หรือเด็กที่เจริญเติบโตไม่เต็มที่  สามารถรักษาอาการโรคหืดหอบ  หลอดลมอักเสบ ลำไส้อักเสบ ระบบการย่อย*** และช่วยเพิ่มความต้านทานโรค ไม่เป็นไข้หวัด

                Dr. Yoshinabu  ผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่นคนหนึ่งได้รายงานในหนังสือชื่อ “พลานามัยและ อายุยืนด้วยนมผึ้ง”พบว่านมผึ้งมีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อมนุษย์มาก มีบทบาทต่อการเจริญเติบ โตของร่างกาย  ทำให้ร่างกายแข็งแรง  มีพลานามัยดี  การเจริญเติบโตเป็นไปตามวัยและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ระบบการทำงานส่วนต่างๆของร่างกายดี  และชะลอความแก่                

                                ศาสตราจารย์  Hiroshi  Mator  ในมหาวิทยาลัย  Tlkuda  ได้เขียนตำรา  “เคล็ดลับของการมีอายุยืน  และพลานามัยที่แข็งแรงได้ทดลองใช้นมผึ้งรักษาระบบหัวใจ  ระบบย่อยอาหาร  ระบบหมุนเวียนของโลหิต  ตับ  ข้อบกพร่องในวัยหมดประจำเดือน  โรคผิวหนัง  การบำรุงรักษาหลังการผ่าตัด  มะเร็ง  อาการความรู้สึกทางเพศลดลง  ริดสีดวงทวาร  แก่เกินวัย  ประสาทอ่อนแอ  และ  อาการปวดประสาทต่างๆ  ของคนไข้  จำนวน  218  คน  ปรากฏว่าหาย  193  คน  คิดเป็นร้อยละ  88.5

                        นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น  Dr. Katsuji  Kushima  ได้ทำการทดลองหนู(พ้นวัยเจริญพันธ์)ให้รับนมผึ้ง  หนู เริ่มมีไข่ พร้อมที่จะผสมพันธ์ได้ นมผึ้งสามารถที่จะกระตุ้นสมองส่วนกลางซึ่งเป็นตัวควบคุมศูนย์กลางประสาท ความรู้สึกทางอารมณ์ และฮอร์โมนทำให้พลังงานและชีวิตที่กำลังจะเสื่อมถอยให้ดีขึ้นได้ อาการนอนไม่หลับ อาการความรู้สึกทางเพศลดลง ความกระวนกระวายไม่เจริญอาหาร  ความดันโลหิตสูง  โรคเบาหวานสามารถที่จะใช้นมผึ้งรักษาให้หายได้

                        ในปี ค.ศ. 1954 พระสันตะปาปาเซ็นต์เปาโล  ที่ 12 ของอาณาจักรโรมันคาธอลิค มีอายุ 80 ปี  ได้ทรงพระประชวรอาการหนักมาก บรรดาแพทย์ไม่กล้าถวายการรักษา แนะนำให้รับประทานนมผึ้งจำนวนมากเพียงอย่างเดียว  หลังจากนั้นไม่นานพระอาการก็ดีขึ้นเป็นลำดับ ร่างกายฟื้นฟูแข็งแรงเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว  พระสันตะปาปาเซ็นต์เปาโล ที่ 12 ได้ตรัสชมเชยความมหัศจรรย์ของนมผึ้งเมื่อพระองค์เสด็จร่วมประชุมการเลี้ยง ผึ้งสากล  ครั้งที่ 12

                  กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา  ได้ทำการทดลองว่าในนมผึ้ง  ANTI  CANCER  AGENT  ผลการทดลองได้รายงานใน

The  Journal of  the Nation  Cancer Institute  ว่านมผึ้งมีความสามารถที่จะป้องกันและระงับการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งได้จริงทำ ให้ผู้ที่เป็นอยู่แล้วก็สามารถบรรเทา อาการลงได้ นมผึ้งจึงเป็นอาหารมหัศจรรย์ที่มนุษย์ค้นพบว่า  มีโปรตีน ไวตามิน  ไขมัน   แร่ธาตุ  เกลือแร่  กรดอามิโน  กรดแพนโท-เทนิค  ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นจำนวนมาก

                จากรายงานของประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการแผนใหม่และมีความนิยม ในการบริโภคนมผึ้งเป็นประจำสามารถพิสูจน์ได้ว่า  นมผึ้งเป็นอาหารธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการทางการแพทย์สูงมาก  สามารถที่จะบริโภคเป็นจำนวนมากและตลอดไป  ไม่มีปฏิกิริยาแทรกซ้อน  หรือ ทำให้ร่างกายผิดปกติแต่อย่างใด ถ้าบริโภคเป็นประจำนานกว่าครึ่งปีขึ้นไป จะได้ผลดีมาก ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง  การบริโภคเป็นประจำเป็นวิธีที่ให้ผลสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะการบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานานและต่อเนื่องจะส่งผลให้ร่างกายดีที่ สุด

                Dr.  Lar  Erik  Essen  นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังของสวีเดนได้รายงานว่า  นมผึ้งมีส่วนประกอบ  Nucleic-acid  และกรดอมิโนในปริมาณที่สูงมากรวมทั้งปริมาณของไวตามินชนิดต่างๆ ทำให้สามารถแก้อาการอาหารเป็นพิษหรือยาเป็นพิษได้เป็นอย่างดี

                Dr.  Kelmer  McCully  และ  Dr. Peter  Nurnuss  ได้ค้นพบว่า  นมผึ้งสามารถลดปริมาณที่เป็นพิษในเลือด  เช่น Glu-tamic, Oxaloacetic,  Transaminase,  Malotehydrogenas, Hemo-custeine  เป็นต้น  นอกจากนั้นโรคหัวใจ  โรคเบาหวาน  โรคความดันโลหิตสูง  เส้นโลหิตแข็ง  เส้นโลหิตอุดตัน

                Dr. Keyoshi  Kobayashi ได้รายงานว่า นมผึ้งป็นสารที่เปรียบเสมือน