วันที่ 5 ม.ค. นางกานดา ถาวรวงศ์ เจ้าของร้านอาหาร อีสานบ้านสวน ซึ่งเป็นสถานที่เสกโลโซ นั่งรับประทานอาหาร เมื่อคืนวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยนางกานดาได้เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า ข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับเรื่องเสกโลโซและตำรวจในนครศรีธรรมราชโดยระบุว่านัดหมายกันมาปาร์ตี้นั้น ไม่ได้เป็นความจริงตามข่าวแต่อย่างใด ตนเป็นเจ้าของร้านและอยู่ในเหตุการณ์ ในวันเกิดเหตุนั้น เสกโลโซซึ่งได้รู้จักและสนิทสนมกับตนมากกว่า 10 ปี

โดยทุกครั้งที่เสกมานครฯก็จะมาทานอาหารที่ร้าน โดยตนเองก็ชอบเพลงของเสกอยู่แล้วจึงสนิทกันมานานมากในวันที่ 4 ม.ค. เสกและอีฟพร้อมกับทนายและนายทวีวัฒน์พร้อมลูกชายได้เดินทางมากินอาหารที่ร้านโดยเดินทางมาถึงประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ โดยเสกนั่งอยู่ที่โต๊ะริมคลองด้านในของร้าน และตนซึ่งได้เดินบริการลูกค้าทักทายลูกค้าในร้านตามปกติ โดยคืนนั้นที่ร้านของตนมีลูกค้าเข้ามากินอาหารเป็นจำนวนมาก ตนได้เดินผ่านไปที่โต๊ะซุ้มที่ 8 ก็ได้เจอกับ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และพวกอีก 2 นาย กำลังนั่งกินอาหารกันอยู่โดยในบินที่เด็กเสิร์ฟได้ระบุกับตนนั้น พ.ต.อ.รังสรรค์ได้เดินทางมานั่งอยู่ประมาณ 2 ทุ่มกว่า

เมื่อตนเดินมาเห็นพ.ต.อ.รังสรรค์ ตนเลยบอกว่าเสกนั่งอยู่ที่โต๊ะริมคลองได้ยินเสกพูดว่าจะมาเล่นคอนเสิร์ตให้กับตำรวจพรหมคีรี ตนจึงแนะนำให้ไปคุยกับเสก เรื่องของคอนเสิร์ตเป็นอย่างไร ซึ่งทางพ.ต.อ.รังสรรค์ ได้เดินไปที่โต๊ะของเสกพร้อมกับพูดคุยกันอยู่สักพักหนึ่งและมีคนเดินเข้ามาเพื่อที่จะขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมากทางตนเห็นว่าแขกเริ่มรู้ว่ามีเสกนั่งอยู่และเข้ามาขอถ่ายรูปเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเสกตนจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นมาถ่ายรวมกันครั้งเดียวเลยจะดีไหมและเมื่อทุกคนมาอยู่รวมกันตนก็ได้บอกว่า ให้ช่วยกันกดไลก์ เมื่อถ่ายรูปเสร็จต่างก็แยกย้ายกันไปโต๊ะใครโต๊ะมัน

นางกานดา ระบุว่า เสกไม่ได้ รู้จักกับ พ.ต.อ.รังสรรค์และรองสวป. สภ. เมืองแต่อย่างใด บังเอิญมาเจออย่างบังเอิญจริงๆตนยืนยันได้ วันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบปากคำตนเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงไปตามที่ได้บอกมา ตนรู้สึกเห็นใจพ.ต.อ.รังสรรค์และรองสวป. สภ. เมืองเป็นอย่างมากที่ไม่ได้รู้เรื่องและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ต้องมาถูกกระแสและโดนทำโทษเช่นนี้ ซึ่งตนก็ได้เอาหลักฐานที่เป็นบิลโต๊ะของเสกและบิลโต๊ะของพ.ต.อ.รังสรรค์ให้กับคณะกรรมการที่มาสอบปากคำตนว่าเวลาของแต่ละโต๊ะที่เข้ามานั้น ไม่ได้มาพร้อมกันและเป็นการต่างคนต่างนั่งกินอาหารไม่ได้มาร่วมปาร์ตี้กัน

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_695083