จากกรณีน.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกคนร้ายเป็นกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่งรวม 9 บัญชี จนส่งผลให้เป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง ถึงขั้นต้องติดคุกนาน 3 วัน ก่อนได้รับการประกันตัว จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว น.ส.ปวีณา อายุ 30 ปี เข้ามาปากคำหลังพบว่าเป็นผู้ที่นำบัตรประชาชนของน.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 14 ม.ค. ที่สน.ห้วยขวาง น.ส.ณิชา พร้อมด้วยน.ส.ปุญญาดา ก๊กมาศ พี่สาว ร่วมกันเดินทางมาเข้าพบกับพนักงานสอบสวน โดยน.ส.ณิชา กล่าวว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิหน้าที่ได้อย่างรวด เร็ว ทั้งนี้ ตนขอยืนยันความบริสุทธิ์ อีกทั้งยังคงต้องรอผลการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เพราะที่ผ่านมาก็ให้ปากคำและข้อมูลการโทรศัพท์ และบัญชีธนาคารไปหมดแล้ว รวมทั้งไม่เคยติดต่อและรู้จักส่วนตัวกับผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจคุมตัวมาสอบสวน
น.ส.ณิชา กล่าวต่อว่า ส่วนข้อมูลที่ว่าตนโทรศัพท์ติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหานั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะถูกนำชื่อไปใช้เปิดซิมทั้ง 4 หมายเลข ที่ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ส่วนบัตรประชาชนยืนยันว่าทำหายไปทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกตั้งแต่ปี 57 และปี 60 อีกสองครั้ง ก่อนไปทำใหม่โดยที่ไม่ได้แจ้งความ ส่วนเรื่องเงินที่หมุนเวียนในบัญชีของตนกว่า 6 ล้านบาท เป็นของครอบครัวที่ได้มาจากการทำธุรกิจ ซึ่งอยู่ในบัญชีตนมาตั้งแต่อายุ 18 ปี เฉลี่ยแล้วเป็นเงินหมุนเวียนในรอบ 6 ปี ตกเดือนละ 100,000 บาท ซึ่งปัจจุบันก็มีเงินเหลืออยู่ไม่มากและไม่ได้เหลือถึง 6 ล้านบาท ส่วนกรณีเงิน 300,000 ที่มีการโอนเข้ามาในบัญชีนั้นตนไม่ทราบจริงๆ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีของน.ส.ณิชานั้นตนยังไม่ได้รับรายงานทั้งนี้คดีดังกล่าวสำนวนอยู่ ที่ บช.ภ.6 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบเป็นเพียงผู้ขยายผลสืบสวนเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ว่าตัวละครใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐาน ไว้อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ขอเวลาทำงานให้เกิดความชัดเจนเสียก่อน สำหรับ น.ส.ณิชา ขณะนี้อยู่ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาเพราะฉะนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเชิญ ตัวมาสอบได้ ในส่วนของน.ส.ปวีณา ยังอยู่ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาเนื่องจากยังไม่พบหลักฐานที่เพียงพอในการขอศาล อนุมัติออกหมายจับ โดยเบื้องต้นน.ส.ปวีณา ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้อยู่ระหว่างการขยายผล
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการที่เปิดบัญชีธนาคาร ได้ครบทั้งหมดแล้ว โดยพบว่าเป็นขบวนการแก๊งโรแมนสแกม และในวันที่ 15 ม.ค. ที่จะถึงนี้ จะประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบว่ามีการถ่ายโอนเงินไปยัง บัญชีใดหรือไม่ ก่อนจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการกับสื่อมวลชนในวันที่ 16 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ที่มา:https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_706696
-------
อยากได้แบตสำรอง คุณภาพดี ราคาประหยัด รับประกัน 1 ปีเต็ม
คลิกเลย http://bit.ly/2s5Fj9g
|