ด้านนายพิเชษฐ พ่อน้องเมย กล่าวว่า ทางครอบครัวคิดอยู่อย่างเดียวว่า หาคนกระทำความผิด หาเรื่องจริงมาตอบเสียที จะได้หายแคลงใจ คนที่ตายไปแล้วถูกกล่าวหาอย่างเดียวเลย ว่ามีโรคประจำตัวบ้าง ไม่ตั้งใจมาเรียนบ้าง ถูกบังคับมาเรียน เราจะอ้างอิงด้วยคำพูดไม่ได้ ครอบครัวขอผลเกี่ยวกับการตรวจโรค ตรวจร่างกาย น้องเมยอยู่ในสังกัดกองทัพบก โรงเรียนนายร้อยจปร. เราขอเอกสารตัวนี้มา ปรากฏแล้วว่าเด็กมีร่างกายปกติทุกอย่าง ไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลย ซึ่งเป็นผลการตรวจโรคก่อนที่จะเข้าเรียน ไม่มีแม้แต่โรคหัวใจ

จึงอยากทราบว่าาการสอบสวนทางทหารไปสอบจุดไหน ถึงพบว่าเด็กมีอาการป่วยตลอดเวลา ถ้าเด็กป่วยตลอดเวลาทำไมตอนอยู่โรงเรียนถึงปล่อยให้เรื้อรังไม่พาไปรักษา แสดงว่าละเลยหรือไม่ วันที่หนักที่สุด 23 ส.ค. ที่โดนนักเรียนบังคับบัญชาทำโทษจนสลบไป จนชีพจรต่ำ เป็นจุดตั้งต้นของการเจ็บป่วย

นักเรียนดังกล่าวถูกปลดออกจากนักเรียนบังคับบัญชาและโดนตัดคะแนน เพราะเป็นการลงโทษที่อยู่นอกเหนือการธำรงวินัย ท่าหัวปักซึ่งเป็นท่าที่ผิดระเบียบ นักเรียนบังคับบัญชาคุณโดนอะไรมาเราไม่รู้ แต่เมื่อผิดกฎระเบียบโรงเรียน คุณรู้ว่ามันผิดทำไปแล้วพลาด แสดงว่าคุณจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ วันที่ 23 ส.ค. เขาถูกธำรงวินัย หรือที่โรงเรียนเขาเรียกว่าแดก ครั้งแรกโดนกี่โมงตนไม่ทราบ แต่ประมาณ 2 ทุ่ม รุ่นพี่ที่สั่งลงโทษ ถามว่าอ่านหนังสือหรือยัง น้องเมยก็บอกว่ายังไม่ได้อ่าน รุ่นพี่เลยให้ไปอ่านหนังสือก่อนแล้วค่อยมาแดกใหม่ พออ่านเสร็จ 4 ทุ่ม ก็มาแดกใหม่ยาวกันจนสลบเลย

น้องเมยขึ้นกองพยาบาลบ่อยเพราะอะไร เพราะน้องเมยกลับไปก็โดนรุ่นพี่เล่นถึงขั้นขึ้นกองพยาบาลมาตลอด กองพยาบาลเหมือนที่ปลอดภัยของน้องเมย มีคนหวังดีบอกเราว่า เป็นการโดนทำร้ายร่างกาย นอกเหนือจากการลงโทษ เด็กคนอื่นก็โดน ผบ.โรงเรียนบอกว่าการลงโทษห้ามถูกเนื้อต้องตัว แต่พอข่าวช่วงแรกออกมาว่าน้องเมยโดนต่อยท้อง มีนักเรียนที่จบจากโรงเรียนเตรียมทหาร ทักมาหาทางเฟซบุ๊กว่า “คุณรู้ไหมการที่รุ่นพี่ต่อยรุ่นน้องคือการทักทาย ตนเลยตอบไปว่าไม่รู้หรอก สังคมตนไม่ใช่แบบนี้ การทักทายคือพูดสวัสดี ไม่ใช่การต่อยท้อง เชื่อว่ายังไงก็ต้องมีการถูกเนื้อต้องตัว”

“เมื่อกองทัพจะเสนอเรื่องปัญหาสุขภาพ เราจะเอาเอกสารเกี่ยวกับการแพทย์ขึ้นมาต่อสู้ หลังช่วงปีใหม่ เดือนม.ค. จะทำหนังสือเข้าไปขอเกี่ยวกับการสอบสวนที่ บก.กองทัพไทย ปกติดช่วงปีใหม่ กิจกรรมครอบครัวคือไปเที่ยวเขาใหญ่ แต่ปีนี้คงไม่ได้ไป เพราะเมยไม่อยู่แล้ว ทางผู้ใหญ่ของกองทัพไม่เคยมีใครติดต่อมาเลย”

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_685677