ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเฟสบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ภาพพร้อม เปรียบเทียบธนบัตรใบละ 1,000 บาท 2 ใบ ซึ่งเป็นธนบัตรจริงและธนบัตรปลอม พร้อมระบุข้อความว่า “เตือนภัยเจอมาเองกับตัว ระวังแบงค์ 1,000ปลอมระบาด วันนี้ขายของ ลูกค้าเยอะมาก เข้าร้านตลอด ช่วงคนเยอะชุลมุน เลยไม่มีเวลาเช็คและไม่ทันระวัง กลับบ้านมานับเงิน เจอแบงค์ปลอม 1 ใบ (ภาพแรก)ใบบนใบปลอม สังเกตได้จากตราครุฑ ใบปลอมจะเห็นปีกแค่ครึ่งขวา และฟอยสีเงินด้านซ้ายมันเป็นสติ๊กเกอร์ เอามาตัดแปะ คือสามารถลอกออกมาได้เลย

ผิวสัมผัสของแบงค์เหมือนแบงค์กาโม่ เลยรีบดูเงินของเมื่อวานที่ยังไม่เอาเข้าธนาคาร สรุปคือเจออีกใบ โดนไป 2 พันจ้าาา (ภาพ2) ชัดเจนมากว่าแบงค์ปลอมจากมิจฉาชีพ เพราะเลขธนบัตรเดียวกัน คือ 2 E 5081610 เมื่อวานคงได้ทั้งรองเท้าทั้งเงินทอนและเห็นว่าลูกค้าเยอะ ชุลมุน วันนี้เลยมาใช้แบงค์ปลอมที่ร้านเราอีก ไม่แน่ใจว่าลูกค้าไทยหรือต่างชาติ  เลวจริงๆ ขอให้ไม่เจริญ ขายของเหนื่อยก็เหนื่อย มาเจอแบบนี้ เซ็งเลยยยย อยากแชร์ให้ทุกคนระวังยอมเสียเวลาเช็คแบงค์สักนิด จะได้ไม่เจอแบบเรา #ระวังเงินปลอมระบาดย่านเซ็นทรัลเวิร์ล

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง น.ส.พรพิมล (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข้อความและเป็นผู้เสียหาย โดย น.ส.พรพิมล เปิดเผยว่า วันที่ 12-14 ม.ค. ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปขายรองเท้า ภายในงานๆหนึ่งที่จัดขึ้นที่ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน เป็นเวลา 3 วันโดยแบงค์พันปลอมที่เจอนั้น ตนเองมารู้ตัวอีกทีคือ วันที่ 14 ม.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้าย หลังจากที่ตนเองขายของเสร็จ เมื่อนำเงินที่ได้มานับจึงสังเกตเห็นแบงค์พัน มีลักษณะผิดปกติจากแบงค์พันใบอื่น คือ สีจางและผิวสัมผัส เหมือนแบงค์กาโม่

น.ส.พรพิมล เผยต่อว่า พอสังเกตดีๆจึงเห็นว่สแถบสีเงินตราครุฑเหมือนทำจากสติกเกอร์ จึงเอะใจและนำซองเงินที่ขายของได้จากวันที่ 13 ม.ค. มาตรวจดูถึงพบแบงค์พันปลอมอีก 1 ใบ ซึ่งมีแถบตัวเลขธนบัตรเหมือนกันคือ 2 E 5081610 ตนเองจึงแน่ใจแล้วว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพนำแบงค์ปลอมมาซื้อของ ถึง 2 วันติด คาดว่าคนที่นำแบงค์ปลอมมาซื้อของน่าจะเป็นคนๆเดียวกันหรือเป็นแก๊งมิจฉาชีพ แก๊งเดียวกัน

ที่มา:https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_707551