วันที่ 11 พ.ย. ร.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ตกจากลานจอดรถอาคารทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 26-7 ซอยไผ่สิงห์โต ถนนพระราม 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 26 ชั้น ด้านหลังอาคารพบรถยนต์อีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนซ์ หมายเลข ทะเบียน ฌฐ-8148 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ารถทิ่มลงพื้น ท้ายชี้ฟ้า หลังคารถพาดติดกับกำแพง จากการตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถ ทราบชื่อคือ ร.อ.อนุกูล วรรณสุข อายุ 62 ปี อดีตทหารเรือ เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลือนำตัวส่งรักษาตัวที่ ร.พ.คามิลเลียน จากการตรวจสอบภายในรถพบว่าเกียร์อยู่ในตำแหน่ง D เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอีดยที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนางปวีณา วรรณสุข ภรรยาผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา สามีตนออกจากห้องมาเช็ดรถเพื่อเตรียมนำไปใช้งานช่วงเย็นนี้ ที่บริเวณลานจอดชั้นที่ 4 ของอาคาร ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. ตนได้ยินเสียงดังโครม จึงรีบออกมาดู ก็เห็นรถของสามีตกลงมาด้านล่าง จึงรีบตามเพื่อนบ้านให้ช่วยนำตัวสามีออกมา โดยสามียังมีสติ แต่มีเลือดไหลที่ตาและปาก เจ็บตามเนื้อตัว ตาซ้ายบวม จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลคามิเลี่ยน ซึ่งต้องรอผลตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากแพทย์อีกครั้ง

ต่อมานางอัจฉราวดี ชัยสุวิรัตน์ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า อาคารแห่งนี้เป็นอาคารทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี เปิดเป็นแฟลตให้ประชาชนเข้ามาเช่าพักอาศัย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธากรุงเทพมหานคร เข้ามาตรวจสอบสภาพอาคาร ตอนนี้ยังไม่สามารถให้บุคคลใดเข้าใช้พื้นที่ลานจอดรถได้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบ

ด้านร.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 4 พบว่าแต่ละช่องจะมีหมายเลขทะเบียนรถที่จอดประจำติดอยู่ ซึ่งรถยนต์คันเกิดเหตุจอดอยู่อีกฝั่งหนึ่ง จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.อ.อนุกูล ได้มาเช็ดรถเพื่อทำความสะอาด และตรวจเช็กเครื่องยนต์เพื่อจะนำไปใช้ในช่วงเย็น ก่อนขึ้นรถไปสตาร์ทรถ แต่รถเข้าเกียร์ถอยหลังข้ามแท่งปูนที่กั้นล้อ ก่อนที่ ร.อ.อนุกูล จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ D และเหยียบคันเร่งล้อฟรีทำให้รถพุ่งเป็นทางยาว ทะลุกำแพงลานจอดรถ หล่นลงไปด้านล่างจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการดีขึ้นก่อนจะได้สอบปากคำหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_630085