“พ่อ หมอปอ” จี้เอา ผิด “กิ๊กสาว” ด้วย เชื่อมีส่วนรู้เห็น เหตุขับรถมาส่ง “เก่ง” และรับกลับ หลังยิงลูกสาว เชื่อต้อง มีคนชักนำ หรือกดดันให้ลงมืออีกทั้งยังข้องใจเงิน 7 แสน กับทองคำ 10 บาท ถูกเบิกจากธนาคารหายไป ส่วนตร.ยันไม่มีมวยล้ม หลักฐานโยงถึงใครต้องดำเนินคดี ไม่มีละเว้น ด้าน “พ่อแม่เก่ง” รุดเยี่ยมลูกชาย ไม่คาดคิดจะฆ่าว่าที่ลูกสะใภ้ ระบุพักหลังทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย เก่งเคยบ่นให้ฟังว่าหนักขึ้นทุกวัน ยอมรับลูกชายเจ้าชู้ ส่วนปอก็ขี้หึง ครวญขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวด้วย

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นายวินัย ปานชาติ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 1 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ และนางยุวพเยาว์ ปานชาติ อายุ 51 ปี พ่อแม่เข้าเยี่ยมนายรณชัย หรือเก่ง ปานชาติ อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.หลังสวน ผู้ต้องหายิงฆ่า น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส อายุ 25 ปี หรือหมอปอ เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สลุย อ.ท่าแซะ แฟนสาว ที่กำลังจะแต่งงานกัน โดยพ่อแม่นายเก่ง นำข้าว 2 กล่องมาให้ลูกชายที่ถูกคุมขังอยู่ในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา

นางยุวพเยาว์กล่าวว่าลูกเป็นคนเงียบ มีปัญหาอะไรเก็บเงียบอย่างเดียว ไม่คาดคิดว่าลูกชายจะคิดสั้น ทราบว่าช่วงหลังทั้งคู่ทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อย พูดปริปากเพียงว่าเรื่อง มันหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ จึงบอกลูกไปว่า มีปัญหาต้องคุยกันให้เข้าใจ ยอมรับว่าลูกเป็นคนเจ้าชู้ ส่วนปอขี้หึง

แม่นายเก่งกล่าวว่า ส่วนเรื่องเงินนั้น ขอชี้แจงว่าครั้งแรกเก่งกู้เงิน 400,000 บาท กับธนาคารออมสินเมื่อเดือนพ.ย.2559 สำหรับจัดงานบวช และให้แม่ส่วนหนึ่ง ซื้อทองรูปพรรณ 10 บาท ครั้งที่ 2 กู้ 600,000 บาท นำมาซื้อโทรศัพท์มือถือราคา 20,000 กว่าบาท รวมเงินกู้ทั้งหมด 1,000,000 บาท เงินส่วนใหญ่ปอเป็นคนเก็บ เพราะเป็นคนบอกให้เก่งกู้ เพราะเป็นคนซื่อ ตอนที่มีพิธีหมั้นหมายกันมีเพียงทอง 10 บาทเท่านั้น ไม่มีเงินแต่อย่างใด ล่าสุดตอนที่เก่งคุยกับพ่อแม่ เหมือนมีความกดดันมากเรื่องเงิน ที่ก่อนแต่งมีเงินสินสอดอยู่ 100,000 บาท

นางยุวพเยาว์กล่าวต่อว่าส่วนกรณีอ้างว่าหมอปอเป็นคนส่งเสียให้เก่งเรียน จบการศึกษานั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง คนที่ส่งเสียคือพ่อเก่ง แม้มีฐานะยากจน มีอาชีพทำนาเลี้ยงครอบครัว หลังทำนาพ่อเก่งจะรับจ้างรับเหมาติดตั้งเดินสายไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือน ทั่วไป เก่งเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนใน จ.บุรีรัมย์ คบกับปอมาหลายปี จนทางบ้านรักและเอ็นดูปอเหมือนลูกแท้ๆ เมื่อ 2-3 เดือน พ่อแม่ปอโทรศัพท์มาบอกว่าจะให้ทั้ง 2 คนแต่งงานกัน ได้ฤกษ์วิวาห์วันที่ 24 ธ.ค.นี้ ครอบครัวเราก็จัดเตรียมทุกอย่างแล้ว แต่ไม่เป็นไปตามที่วาดฝันไว้

“ยอมรับว่าลูกชายคิดสั้นไป น่าจะมาปรึกษาพ่อแม่ก่อน ครอบครัวขอความเป็นธรรมด้วย กรณีมีข่าวออกไปในทางลบ ไม่ว่าจะเรื่องเงิน เรื่องทุนเรียนของเก่ง และเรื่องคบหากับเพื่อนหญิงคนสนิทที่ทำงานการไฟฟ้าเดียวกันฉันชู้สาว เรื่องนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจจะดีกว่า หลังเยี่ยมลูกชายแล้วจะกลับบุรีรัมย์ทันที เพราะเช่ารถมาค่าใช้จ่ายสูง ฝากบอกถึงพ่อแม่ปอด้วยว่าครอบครัวเราขอแสดงความเสียใจกับเรื่องราวที่เกิด ขึ้น” แม่เก่งกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนนายเก่งถูกคุมขังอยู่ในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา สภ.สลุย ตลอดทั้งคืน ภายหลังไปทำแผนฯ ขณะก่อเหตุยิงหมอปอ ที่รพ.สต.สลุย โดยนายเก่งมีอาการนิ่งเฉย ไม่พูดไม่จา ขณะเดียวกัน พล.ต.ต. สนธิชัย อาวัฒนกุลชัย ผบก.ชุมพร สั่งการให้ พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ รองผบก.ชุมพร เดินทางมายังสภ.สลุย ร่วมกับพนักงานสอบสวนสอบปากคำนายเก่งเพิ่มเติม

พล.ต.ต.สนธิชัยกล่าวว่าส่วนเพื่อนสาวคนสนิทของนายเก่งนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง วางใจได้ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด และเฝ้าติดตามตัวอย่างใกล้ชิด ไม่ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ตามที่ลือกัน ถ้าสรุปว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร จะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี อีกทั้งพูดคุยทำความเข้าใจกับพ่อแม่พี่ของหมอปอแล้ว ทุกคนเข้าใจ ไม่ติดใจในการทำงานของตำรวจ และขอบคุณตำรวจที่จับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว

ส่วน พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช. ภาค 8 กล่าวว่ากรณีที่ญาติผู้ตายกังวล เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินคดีเพื่อนสาวของนายเก่งนั้น ไม่ต้องกังวล ตำรวจดำเนินคดีตรงไปตรงมาตาม พยานหลักฐาน แต่การจะทำอะไรต้องไม่ผลีผลาม โดยสั่งการให้ ผบก.ชุมพร เร่งรวบ รวมพยานหลักฐาน ถ้าหลักฐานเพียงพอก็พร้อมดำเนินการทันที ไม่ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดแน่นอน

“คดีนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน ไม่เกินคืนนี้ (วันที่ 21 ธ.ค.) น่าจะรู้เรื่อง แต่ทั้งหมดต้องดูที่พยานหลักฐานเป็นหลัก หากเชื่อมโยงถึง ไม่ว่าจะเป็นตัวการ หรือร่วมขบวนการ ต้องดำเนินคดีไม่มีละเว้น รวมถึงประเด็นเงินสินสอด และทองคำที่ยังเป็นปริศนาเช่นกัน” ผบช.ภาค 8 กล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.สำราญ รองผบก.ชุมพร กล่าวว่าขณะนี้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ผู้ต้องหาให้การว่านำไปโยนทิ้งน้ำ และในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ จะนำกำลังไปค้นหาให้เจอ

ส่วนที่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 10 ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.นนทิญา หรือหมอปอ ทางครอบครัวและญาติพี่น้องช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ และประกอบอาหารเลี้ยงแขกเหรื่อที่จะมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนที่ 2 โดยนายเชาว์ ครัวจัตุรัส พ่อหมอปอ อายุ 54 ปี กล่าวว่าครอบครัวรู้จักนายเก่งมา 6-7 ปี ตั้งแต่นายเก่งและปอยังเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะฆ่าลูกสาว เพราะทุกวันเสาร์และอาทิตย์นายเก่งจะมาหาลูกสาวที่บ้าน มีนิสัยดี พูดจาอ่อนน้อม จนเมื่อต้นปี 2560 นายเก่งพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ ขอหมั้นด้วยทองคำ 10 บาท มีกำหนดแต่งงานวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.นี้

นายเชาว์กล่าวต่อว่าก่อนลูกสาวจะถูกฆ่า เคยโทร.มาเล่าปัญหาให้ฟังว่านายเก่งแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมงาน ครอบครัวจึงรู้ว่าลูกสาวกำลังทุกข์ใจจริงๆ เพราะถ้าไม่มีปัญหาหนัก ลูกสาวจะไม่เล่าให้ฟัง แต่นายเก่งยังยืนยันว่าจะแต่งงาน เพื่อพิสูจน์ว่าได้เลือกลูกสาวตน ไม่เคยคิดว่านายเก่งจะฆ่าลูกสาวก่อนถึงวันแต่งงานไม่กี่วันเท่านั้น

“ญาติๆ กำหนดจัดงานรดน้ำสังข์ให้เก่งกับน้องปอที่บ้านในช่วงเช้า แล้วจัดงานฉลองแต่งงานที่สนามกีฬาโรงเรียนน้ำลอดน้อย จัดเตรียมทุกอย่างไว้เกือบหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนจากงานแต่งงานมาเป็นงานเผาศพลูกสาวแทน” พ่อหมอปอกล่าว พร้อมระบุว่าจะตั้งบำเพ็ญกุศลไปจนถึงคืนวันที่ 23 ธ.ค. และฌาปนกิจวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค. เวลา 13.00 น. ที่เมรุวัดถ้ำฤๅษี ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร

พ่อหมอปอกล่าวถึงเงินสด 700,000 บาท และทองคำ 10 บาท ที่ลูกสาวเตรียมใช้จัดงานแต่งงาน และถูกเบิกจากธนาคารก่อนลูกสาวเสียชีวิตว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอยู่ไหน เพราะบัญชีสูญหาย หาไม่พบ อยากให้ตำรวจช่วยสืบสวนด้วยว่าเงินและทองคำไปอยู่ที่ไหน ส่วนเรื่องคดีต้องขอขอบคุณตำรวจที่ช่วยคลี่คลายในเวลาอันรวดเร็ว และญาติๆ อยากให้ลงโทษนายเก่งจนถึงที่สุดด้วยการประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน

“เรื่องแฟนใหม่ของนายเก่ง ครอบครัวทราบจากน้องปอได้ประมาณ 3 เดือน โทร.มาเล่าให้ฟัง และมั่นใจว่าแฟนใหม่ของนายเก่งต้องมีส่วนรู้เห็นในการฆ่าน้องปอด้วย เพราะในวันเกิดเหตุทำหน้าที่ขับรถรับส่งนายเก่งทั้งก่อนและหลังก่อคดี จึงอยากให้แฟนใหม่ของนายเก่งถูกดำเนินคดีด้วย” พ่อหมอปอกล่าว

นายเชาว์กล่าวอีกว่า เชื่อว่าแฟนใหม่นายเก่งต้องรู้เห็นตั้งแต่เตรียมการ และยังขับรถเก๋งคันของตนเองไปส่งและรับ พาหลบหนีแล้วนำของกลางบางส่วนไปทิ้งลงคลอง เพราะนายเก่งไม่มีรถและขับไม่ชำนาญ รู้ดีว่านายเก่งเป็นคนหัวอ่อน จะต้องมีคนชักนำหรือกดดันให้ก่อเหตุ ที่ผ่านมานายเก่งเข้าออกอาศัยอยู่ที่บ้านตนเป็นประจำ ไม่เคยมีอาวุธปืน จะต้องมีคนจัดหาให้ ก่อนเกิดเหตุลูกสาวมีปัญหาทะเลาะกับฝ่ายหญิงที่เป็นกิ๊กนายเก่งหลายครั้ง ทำให้มีความโกรธแค้นส่วนตัวกับลูกสาวมาตลอด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีส่วนรู้เห็น และร่วมสนับสนุนกระทำความผิดในครั้งนี้

พ่อหมอปอกล่าวต่อว่าการจัดงานแต่งงาน ลูกสาวเป็นผู้ดำเนินการ และออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ส่วนนายเก่งนั้น ลูกสาวจะคอยดูแลช่วยเหลือมาตลอด พาไปสอบเข้าทำงาน เพราะมีฐานะไม่ค่อยดี ไม่มีรถขับ ก็ให้รถจักรยานยนต์ขับไปทำงาน ครอบครัวมีลูกสองคน ผู้ตายเป็นลูกสาวคนสุดท้อง เรียนจบได้ทำงานรับราชการ ถือเป็นหลักของครอบครัว

“ก่อนเกิดเหตุวันเสาร์ อาทิตย์ เก่งยังมานอนที่บ้านอยู่กับลูกสาว พอช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 18 ธ.ค. ยังรีดเสื้อผ้าชุดทำงานสีกากีให้เก่งใส่ และยังขับรถเก๋งไปส่งที่การไฟฟ้าหลังสวน แล้วลูกสาวขับต่อไปทำงานที่สลุย ทำไมช่างเลือดเย็นใจร้ายอย่างนี้ พอตกกลางคืนให้กิ๊กขับรถเก๋งพาไปฆ่าลูกสาวที่ดีแสนดีกับเขาจนตายอย่างโหด เหี้ยม” พ่อหมอปอกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดตำรวจมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า กิ๊กสาวน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับนายเก่งบุกยิงหมอปอ จึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพรออกหมายจับ พร้อมทั้งส่งชุดสืบสวนเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวกิ๊กสาว หากศาลอนุมัติหมายจับก็พร้อมเข้าจับกุมตัวทันที

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_678736