Goldfish Memory
เนื้อเรื่องย่อ :
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักหลายรูปแบบ ของคนหลายคู่
ทั้งความรักระหว่างหญิงชาย ความรักระหว่างเพื่อนชายและเพื่อนสาว
ความรักระหว่างชาย2 คน และหญิง 2คน ทุกคน ทุกคู่ต่าง
มีชีวิตที่เกี่ยวพันกัน ทุกคู่ผ่านประสบการณ์ที่ทั้ง สมหวัง และผิดหวัง
ต้องช่วยกันลุ้นค่ะ ว่าสุดท้ายแล้ว ความรักของพวกเค้าจะลงเอยอย่างไร
เนื้อเรื่องไม่ค่อยย่อ :
Goldfish Memory
เป็นความเชื่อของคน
จำนวนมากว่าปลาทองมีความทรงจำแค่สามวินาทีเท่านั้น
และทุกครั้งที่มันว่ายวนรอบโหลแก้วก็เหมือนมันเพิ่งได้ค้นพบโลกใหม่เป็น
ครั้งแรกในแต่ละครั้งไป
ลักษณะเช่นนี้ถูกนำมาจำลองให้เห็น
ผ่านภาพยนตร์ Goldfish Memory
หนังที่นำเสนอความสัมพันธ์ต่อกันของมนุษย์ที่สะท้อนให้เห็นสภาพความสัมพันธ์
ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และหลายครั้งก็น่าเบื่อเกินกว่าบรรยาย
หนังเล่าเรื่องผ่านกลุ่มคนเล็กๆ
ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์
ซึ่งคนเมืองกลุ่มนี้ต่างก็มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันที่ไม่ต่างจากการเปรียบเปรย
ถึงความทรงจำของปลาทองที่ถูกระบุว่ามีเพียงสามวินาที
หนังพาไปดูชีวิตคนเมืองที่พบกันรู้จักกันง่ายดาย
แต่ในความสัมพันธ์แบบผิวเผินที่พวกเขาพูดคุย ทำความรู้จัก คบกัน และเลิกกัน
หรือห่างกันไปในที่สุด กลับไม่มีอะไรตกผลึกผูกพันระหว่างกัน
เป็นความสัมพันธ์ที่เปราะบาง
และเมื่อมองย้อนกลับมาก็ไม่มีอดีตหรือความทรงจำดีๆ ที่ควรค่าแก่การจดจำ
หนังเปิดเรื่องด้วยการประชดประชัน
ความสัมพันธ์แบบความทรงจำสามวินาทีของปลาทองด้วยการที่ "ทอม"
โปรเฟสเซอร์ด้านวรรณคดีกำลังนั่งจีบนักศึกษาสาวนางหนึ่ง
ด้วยการอ่านบทกวีของ "ไรเนอร์ มาเรีย ริลเก้"
ที่เนื้อหาสุดแสนโรแมนติคพูดถึงรักแท้ยั่งยืน-
-เป็นพฤติกรรมสูตรสำเร็จโดยใช้บทกวีจากกวีชาวเยอรมันในการจีบหญิง
โดยเฉพาะเด็กสาวรุ่นที่วาดฝันและชื่นชมความโรแมนติคเข้ามาติดบ่วงได้อย่าง
ง่ายดาย
แม้บทกวีของริลเก้จะพูดถึงความรัก
และความสัมพันธ์อันยั่งยืน แต่ช่างแตกต่างจากมนุษย์ปลาทองอย่าง "ทอม"
ที่เขามักจะกระโดดข้ามความสัมพันธ์ไปมาอย่างรวดเร็ว
และไปต่อข้างหน้าอย่างไม่รู้จบ โดยไม่เคยคิดคำนึงถึงอดีต
กระทั่งมาจนถึงความสัมพันธ์ล่าสุดที่จบลงด้วยฝ่ายหญิงผละหนีออกจากเขา
และเธอได้หันไปสานความสัมพันธ์กับนักศึกษาหญิงอีกคน
ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบรรดาสาวๆ ของทอมเช่นกัน
เขาก็ไม่เคยตระหนักถึงความผิดพลาดในอดีตของตนได้
หนังตัดสลับไปเล่าเรื่องราวของ
เหล่าคนเมืองที่ต่างก็รู้จักกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในแบบทฤษฎี 6 degrees
ที่นิยามว่าคนเราต่างก็จะรู้จักกันและกันอย่างโยงใยไขว้ไปมาทั้งทางตรงและ
ทางอ้อม เพราะเมื่อ "ทอม" นอกใจ "คลาร่า" แฟนสาวคนเก่า
และหันไปคบกับสาวคนใหม่ ซึ่งต่อมาก็ลงเอยที่ทั้งสองสาวคบกันเอง
หลังจาก "คลาร่า"
เคยถูกทอมหักอกจนตัดสินใจทดลองการดำรงความสัมพันธ์แบบไบเซ็กชวล
โดยเริ่มต้นความสัมพันธ์กับ "แองจี้"
ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ที่ประกาศความเป็นโฮโมเซ็กชวลชัดเจน
แต่แล้วทั้งคลาร่าและแองจี้ก็ไปไม่รอด ด้วย "คลาร่า"
ไม่สามารถดำรงความสัมพันธ์ที่เริ่มลึกซึ้งผูกพันมากขึ้นเรื่อยๆ
จากการเรียกร้องของแองจี้ได้ ซึ่งตัวละคร "คลาร่า"
เองก็เป็นตัวแทนความสัมพันธ์จากฝ่ายหญิงที่ยังคงแสวงหาความสัมพันธ์ฉาบฉวย
ใหม่ๆ ไม่รู้จบไม่ต่างจากทอม
อย่างไรก็ตาม
ใช่ว่าสังคมในเมืองจะดำรงแต่ความสัมพันธ์ฉาบฉวยระยะสั้นจนไม่มีใครสนใจจะหา
ความซาบซึ้งและดำเนินความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างมีชีวิตชีวาเฉกเช่นบท
กวีของริลเก้เขียนไว้
เพราะยังมีตัวละครอีกกลุ่มที่พยายามให้คุณค่าความสัมพันธ์แสนฉาบฉวยนั้น
อย่างมีความหวัง แม้จะดูยากลำบากในสายตาของคนทั่วไป
เช่นคู่รักเพศที่สามผ่านคู่ของแองจี้กับแฟนสาวคนใหม่ที่พยายามจะสร้างครอบ
ครัวและมีลูกด้วยกัน
รวมทั้งคู่ของ "เรด"
เพื่อนเกย์ที่ขยับความสัมพันธ์จากแค่การหลงใหลชั่วคราวมาเป็นความสัมพันธ์
อีกระดับกับ "เดวิด"
หนุ่มบาร์เทนเดอร์ที่ยอมสารภาพกับแฟนสาวว่าเขาเปลี่ยนใจไปมีความสัมพันธ์กับ
ชายด้วยกัน และลงเอยที่ "ทอม" โปรเฟสเซอร์ที่มีความสัมพันธ์ใหม่ในทุกรอบ 3
เดือน หันกลับมามองความสัมพันธ์แบบปลาทองที่ผ่านมาของตัวเองใหม่
และเริ่มต้นสานสัมพันธ์ที่มีความผูกพันมากขึ้น
Goldfish Memory
หนังจากไอร์แลนด์ที่ผูกเรื่องราวของตัวละครมากมายไขว้เข้าหากันในแนวทาง
เดียวกับหนังรักจากอังกฤษ Love Actually
จะต่างกันตรงที่ภาพยนตร์จากไอร์แลนด์เพิ่มน้ำหนักให้มีพลังด้านความสัมพันธ์
และมุมมองทางเพศอันหลากหลาย
ท่ามกลางความสัมพันธ์แบบคนเมืองที่นับวันจะถูกตราประทับว่าเป็นความชั่วคราว
ระยะสั้นวนไปวนมาในอ่างครั้งแล้วครั้งเล่าแบบความทรงจำปลาทอง
จาก คอลัมน์ เล่าเรื่องหนัง โดย ติสตู มติชนรายวัน
วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11572 หน้า 22