ตอนแรกว่าจะเขียนคำแนะนำเอง แต่เจอของ Thai2Hand ที่เขียนแนะวิธีที่ ดูแล้ว ละเอียดกว่าที่ผมคิดไว้ ก็เลยขออนุญาต Copy มาละกันครับ
ข้อมูลบางส่วน ผมก็เขียนเพิ่มเข้าไปบ้างเล็กน้อย
หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่หัดขายบนเน็ตนะครับ 
------------------------------------------------------------------------------------
คำแนะนำในการ"ขาย"สินค้า
- ก่อนตั้งราคาควรเสนอราคาอย่างสมเหตุสมผล
- เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ท่านจะขายให้พร้อม เช่น คู่มือ, ใบรับประกัน หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมากับสินค้า
- เปรียบเทียบราคากับราคาตลาด อย่าลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายหากมีการการปรับปรุง ซ่อมแซม ส่วนที่จำเป็น เป็นต้นในกรณีที่ท่านไม่ได้ดำเนินการซ่อมแซมใดๆ ควรแจ้งให้ผู้ซื้อทราบล่วงหน้า
- เมื่อนัดหมายให้ผู้ซื้อมาดูสถานที่ ไม่ควรอยู่ตามลำพัง นัดหมายเพื่อนของท่านมาด้วย และเก็บเงินหรือของมีค่าไว้กับตัวท่าน
- ควรขอชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ และติดต่อกลับไปเพื่อเป็นการตรวจสอบว่า บุคคลที่สนใจนั้นมีตัวตนจริง
สำคัญคือ เราควรจะตรวจสอบสภาพสินค้าของเราให้เรียบร้อยก่อน ว่าไม่มีปัญหาแน่ ๆ เวลาส่งไป จะได้ไม่มีปัญหาสินค้าตีคืนเนื่องจากความผิดพลาด ซึ่งจะทำให้เสียทั้งเวลา ต้นทุน และที่สำเคัญ คือเสียความไว้วางใจจากลูกค้า
คำแนะนำในการ ส่ง-มอบ สินค้า 1. ในกรณี ที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน พื้นที่ใกล้เคียงกัน จะนัดเจอ โดยคุยโทรศัพท์ติดต่อ เพื่อนัดหมายสถานที่ และเวลากัน ก็ดีครับ โดยมีข้อควรระวังดังนี้
ควรนัดพบในที่สาธารณะที่ๆมีคนมาก เช่นห้างสรรพสินค้า
ไม่ควรนัดยามวิกาลจนเกินไป
อาจจะพาเพื่อนไปด้วย เพื่อความปลอดภัยในการ รับหรือส่งสินค้า
ไม่ควรนัดมารับสินค้าที่บ้าน
หากไม่แน่ใจ ควรจะให้เค้าแสดงหลักฐานบัตรประชาชน หรือ ข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการติดตามได้ในอนาคต ก่อนทำการซื้อ-ขาย
2. ถ้าไม่สะดวกในการนัดเจอ จำเป็นต้องใช้บริการส่งทางไปรษณีย์
ควรหีบห่อสินค้า ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะสินค้าที่เสียง่าย เช่น ฮาร์ดดิสค์, มือถือ กับ แท่นซาร์ตถ้าใส่รวม ควรมีอุปกรณ์กันกระแทก และการส่งสินค้ามีหลายแบบได้แก่
2.1 ส่งทางพัสดุไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือ ไปรษณีย์ EMS
โดยให้ผู้ซื้อชำระเงินทาง ธนานัติ/โอนเงินเข้าบัญชีผู้ขาย ก่อน หรือหลังส่งสินค้า แล้วแต่ตกลงกัน วิธีนี้จำเป็นที่ ผู้ซื้อ และผู้ขาย ไว้ใจกันและกัน!!! โดยควรมีการพูดคุยกัน ทางโทรศัพท์ หรือวิธีอื่นใด เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีการโกง
2.2 ส่งทางพัสดุไปรษณีย์เก็บเงินปลายทาง (พกง.)
คล้ายกับส่งทางพัสดุไปรษณีย์ จะมีแบบฟอร์มให้กรอก รายละเอียดว่าต้องการให้ส่ง พัสดุไปที่ ไปรษณีย์ไหน (ต้องสอบถามจาก ผู้ซื้อว่าสะดวกไปรับ ที่ไปรษณีย์ไหน), และมีฟอร์มธนานัติให้กรอก รายละเอียดของผู้ขาย จากนั้นนำใส่ซอง ที่จ่าหน้าถึงผู้ขายเอง เพื่อที่ไปรษณีย์ จะได้ส่งธนานัติกลับ (ค่าบริการส่ง พกง. 60 บาท)
จากนั้น เมื่อพัสดุไปถึง ไปรษณีย์ปลายทาง ทางไปรษณีย์ปลายทาง จะแจ้งไปยังผู้ซื้อ ให้ไปรับพัสดุ เมื่อผู้ซื้อไปถึงไปรษณีย์ ต้องชำระเงิน ก่อนที่จะได้รับห่อสินค้า จากนั้นไปรษณีย์จะส่งเงินที่ได้ มาทางธนานัติ โดยใส่ซอง ที่ผู้ขายแนบไป เพื่อให้ผู้ขายนำไปขึ้นเงิน ในกรณีที่ผู้รับ ไม่ไปรับสินค้าใน 30 วัน พัสดุจะตีกลับ ไปยังไปรษณีย์ต้นทาง และจะมี จม. แจ้งให้ไปรับคืน (ต้องเสียค่าส่ง พกง. ครึ่งนึง)
** ดูวิธีและขั้นตอนการส่ง พ.ก.ง. (พัสดุเก็บเงินปลายทาง)
2.3. การโอนเงินเข้าบัญชีไปก่อน แล้วส่งสินค้าตามไป
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่อยุ่ห่างกันคนละจังหวัด โดยเป็นการโอนเงินไปให้กับผู้ขายก่อน แล้วหลังจากนั้นผู้ขายก็จะทำการส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ หรือตามแต่การตกลงกัน ซึ่งวิธีนี้อาจจะ ต้องวัดดวงกันนิดนึง หากคุณซื้อขายกับคนที่คุณไม่เคยซื้อด้วยมาก่อน เพราะหากคุณโอนเงินไปแล้วเค้าไปให้สินค้ามา ก็ถือว่าคุณ ต้องเสี่ยงกับการส่งสินค้าแบบนี้
------------------------------------------------------------------------------
| วิธีและขั้นตอนในการการส่ง พ.ก.ง.สิ่งที่ต้องใช้ในการส่ง พ.ก.ง. (พัศดุเก็บเงินปลายทาง) ขอได้ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศ ฟรี.....!!! - แบบฟอร์ม "ใบรับฝากไปรษณีย์เก็บเงิน"
- ซองขาว
- ซองพลาสติกใส
- ซองหรือวัสดุที่จะห่อเพื่อส่งสินค้า (จัดหาเองหรือซื้อได้ที่ไปรษณีย์ฯ)
| | 1. เริ่มจากนำ แบบฟอร์ม "ใบรับฝากไปรษณีย์เก็บเงิน" มากรอกรายละเอียด |
|
| 2. กรอกรายละเอียดลงในแบบฟอร์ม (กรุณากดปากกาแรงๆ เพราะเป็นกระดาษคาร์บอนก๊อปปี้)
- ที่อยู่ของผู้ที่ต้องการจะจัดส่งไปให้
- ที่อยู่ของคุณเอง
- ไปรษณีย์ที่ผู้รับต้องการไปรับ และรหัสไปรษณีย์
- ลักษณะของการส่ง แบบเร็วหรือธรรมดา
- เมื่อไม่มีผู้รับจะให้ส่งกลับ (เสียค่าส่งครึ่งหนึ่ง) หรือทิ้งไปเลย (ไม่เสียค่าใช่จ่าย) | | 3. กรอกรายละเอียดชื่อที่อยู่ของ ผู้รับที่ซองหรือวัสดุห่อสินค้า หรือของที่ต้องการส่ง
- กรอกชื่อที่อยู่ของคุณ เพื่อสะดวกในการส่งกลับ | | 4. แกะเทปกาวที่หลังซองพลาสติกใสที่มีอยู่ (ขอได้จากไปรษณีย์ฯทุกแห่ง..ฟรี) ทั้งสองด้านของซองพลาสติก |
|
| 5. แปะซองพลาสติกใสที่หลังซองหรือวัสดุห่อสินค้า หรือของที่ต้องการส่ง | | ุ6. กรอกชื่อที่อยู่ของตัวท่านเองลงในซองสีขาวซึ่งมีมาพร้อมกับซองพลาสติกใสข้างต้น (ขอได้จากไปรษณีย์ฯทุกแห่ง..ฟรี) ที่ต้องกรอกซองนี้เพราะว่าซองนี้จะนำธนาณัติที่ผู้ซื้อสินค้าท่านจ่ายเงินผ่านไปรษณีย์ฯทีซื่งซื้อสินค้าของท่าน กลับมาหาท่าน
- เขียนข้างหน้าซองว่า "พ.ก.ง." | | 7. นำซองขาวที่กรอกชื่อที่อยู่ของท่านนำมาใส่ลงในซองพลาสติกใสที่ติดอยู่ข้างหลังซองพัสดุ หรือวัสดุห่อสินค้า |
|
| 8. นำสินค้าหรือของที่ต้องการส่งใส่ในซองหรือห่อวัสดุ | | 9. ผนึกซองหรือห่อวัสดุ เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย นำไปส่งที่ไปรษณีย์ฯ พร้อมกับนำใบ "ใบรับฝากไปรษณีย์เก็บเงิน" ที่เรากรอกแล้วไปด้วยกัน ยื่นใบ"ใบรับฝากไปรษณีย์เก็บเงิน" ให้พนักงานแล้วเค้าจะนำไปชั่ง น้ำหนักถ้าเกิน 1 กิโลต้องโดนคิดเพิ่มเท่าไรจำไม่ได้ครับ อิอิ ราคาสินค้า | ราคาค่าส่ง | ต่ำกว่า 1000 บาท | 60 บาท (รวมทุกอย่าง) | 1000 ต่อไป | คิด 1 บาท / 1000 บาทที่เพิ่มขึ้น |
| | 10. โชคดดีในการส่ง
คำเตือน... สิ่งเสพติดและอาวุธสงครามไม่ควรนำไปส่งนะครับ เพราะไม่มีใครเค้าค้าอาวุธและยาเสพติดทาง พ.ก.ง. นะครับ |
|