Video Marketing

ปัจจุบัน มีสื่อออนไลน์ที่ให้บริการในลักษณะของ "วีดีโอ" ซึ่งแสดงทั้งภาพและเสียง สื่อสารถึงผู้ชมได้ในระยะเวลาไม่กี่นาที ซึ่งเป็นวิธีการที่รวดเร็ว จดจำง่าย อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเจ้าของธุรกิจ จึงทำให้การประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาผ่านวีดีโอ ได้รับความนิยมสูงในยุคปัจจุบัน

ข้อดีของการโฆษณาด้วยวีดีโอ

• เรียกความสนใจได้ง่าย
• สามารถสื่อได้ทั้งภาพและเสียง ทำให้ลูกค้าเข้าใจง่าย
• สามารถแชร์และส่งต่อวีดีโอถึงกันได้ในวงกว้าง
• ลูกค้าจดจำได้ง่าย

ปัจจุบัน สามารถถ่ายทำวีดีโอได้ด้วยตัวเอง แค่มี smart phone หรือกล้องดิจิตอลรุ่นดี ๆ
ก็สามารถถ่ายทำวีดีโอตามที่ต้องการได้แล้ว

รูปแบบโฆษณาด้วยวีดีโอ

การจะทำโฆษณาด้วยวีดีโอ สามารถทำได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่ต้องการสื่อสารถึงผู้รับ ตัวอย่างเช่น

• วีดีโอรีวิวสินค้าจากลูกค้า
• ภาพยนต์สั้น ๆ แฝงด้วยโฆษณา
• วีดีโอสาธิต วิธีการใช้งานสินค้า
• วีดีโอแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจ / บริการ / สินค้าใหม่ ๆ
• วีดีโอให้ความรู้ต่าง ๆ แฝงด้วยลิงค์ที่เปิดต่อเข้าไปที่เว็บของเรา
• วีดีโอแสดงถึงบรรยากาศงานต่าง ๆ ของธุรกิจ/ ร้านค้า / สินค้า

ปัจจุบันมีโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อวีดีโอมากมายหลายแบบ มีให้เลือกใช้ตั้งแต่โปรแกรมเล็ก ๆ ใช้งานง่าย
ไปจนถึงโปรแกรมสำหรับมืออาชีพ ใครสนใจจะลองโหลดโปรแกรมตัดต่อวีดีโอก็ลองเข้าไปดูที่ลิงค์นี้

http://software.thaiware.com/download/โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ

หรือถ้าใครอยากใช้โปรแกรมที่เทพมากขึ้นหน่อย ก็จะมีโปรแกรม Adobe Premier หรือโปรแกรม Finalcut
ดูรายละเอียดหรือสนใจจ้างผู้เชี่ยวชาญทำวีดีโอให้ ก็ลองไปที่นี่ได้

https://www.facebook.com/FinalCutTutor

(ตัวอย่างรูปแบบหน้าตาโปรแกรมตัดต่อวีดีโอ)

การออกแบบโฆษณาวีดีโอ

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อโฆษณาถึง (เช่น เป็นกลุ่มเพศชาย หรือเพศหญิง อายุประมาณเท่าไร ถึงเท่าไร?) กลุ่มเป้าหมายนี้จะเป็นการกำหนดอารมณ์และรูปแบบของวีดีโอโฆษณาที่คุณจะทำ เช่นถ้าเป็นวัยรุ่น คุณอาจจะต้องทำวีดีโอที่ดูสนุกสนานน่าตื่นตา หรือถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่ และเป็นธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือ โฆษณาที่ทำก็ต้องดูเป็นทางการ เพื่อให้ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย
2. "วัตถุประสงค์หลักที่ต้องการสื่อ" ถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการทำโฆษณา ควรจะสื่อเรื่องหลัก ๆ เท่านั้น จะทำให้ลูกค้าเข้าใจง่าย และจดจำได้มากกว่าการสื่อสารอะไรถึงกลุ่มเป้าหมายหลาย ๆ เรื่องในคราวเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความสับสนและลูกค้าจะจำโฆษณาของคุณไม่ได้
3. ออกแบบวีดีโอที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย ที่สำคัญ ต้องดึงดูดความสนใจลูกค้าได้มากและรวดเร็วที่สุด ซึ่งถือเป็นจุดที่สำคัญและยากที่สุดในการทำโฆษณาด้วยวีดีโอ เพราะถ้าหากโฆษณาของคุณไม่น่าสนใจเพียงพอ ก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเบื่อและข้ามโฆษณาของคุณไปในทันที
4. เริ่มถ่ายทำ และตัดต่อวีดีโอให้ลงตัวตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งสมัยนี้จะมีโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อวีดีโอมากมายหลายแบบให้เลือกใช้ หรือคุณอาจจะใช้บริการจากมืออาชีพในการถ่ายทำและตัดต่อเพื่อให้ได้โฆษณาตามแบบที่คุณต้องการ
5. เริ่มเผยแพร่และถ่ายทอดวีดีโอโฆษณาของคุณ ซึ่งการแพร่วีดีโอสมัยนี้ทำได้หลายทาง เช่นในเว็บ youtube.com (เว็บไซต์วีดีโอขนาดใหญ่) หรือเผยแพร่ผ่าน Social Network (เช่น Facebook) ซึ่งถ้าหากมีคนชื่นชอบวีดีโอของคุณ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการแชร์วีดีโอของคุณให้คนอีกมากมายได้เห็นด้วย

(ตัวอย่างวีดีโอโฆษณาที่แทรกในหน้าเพจของ facebook)

เทคนิคการออกแบบโฆษณาให้น่าสนใจ

• นำเสนอโฆษณาที่ "คนอยากดู" ซึ่งเราอาจจะลองคิด ว่าถ้าเป็นตัวเราเองได้ดูโฆษณานั้นแล้ว รู้สึกสนใจและอยากดูต่อหรือไม่? แต่ก็ไม่ควรใช้อคติหรือเข้าข้างตัวเองและนำเสนอโฆษณาในแบบที่เราต้องการเพียงอย่างเดียว โดยเราอาจจะลองปรึกษากับเพื่อนร่วมงาน เพื่อแชร์ไอเดียรูปแบบโฆษณาที่เราคิดให้เพื่อนร่วมงานช่วยติ/ชม ว่าโฆษณานั้นน่าสนใจหรือไม่ ก่อนจะตัดสินใจทำโฆษณานั้น ๆ
• ตั้งชื่อวีดีโอให้สั้น แต่น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกันกับเนื้อหาของวีดีโอที่เราทำด้วย เช่น วีดีโอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนัก อาจจะเขียนชื่อโฆษณาที่ดึงดูดใจแบบสั้น ๆ ว่า "เหลือเชื่อ!! ทำได้ยังไง.. ลดน้ำหนักใน 14 วัน"
• วีดีโอต้องสร้างแรงดึงดูดใจตั้งแต่เริ่มให้มากที่สุด ภายในระยะเวลา 7 - 10 วินาที เพราะถ้าภายในช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้ เขาก็อาจจะข้ามโฆษณาของคุณทันที
• โฆษณาต้องดูเข้าใจง่าย สื่อสิ่งที่ต้องการโฆษณาให้ชัดเจน เช่น ต้องการโฆษณาอะไร ก็เน้นเรื่องนั้น ๆ เฉพาะเพียงเรื่องเดียว เพื่อไม่ให้ลูกค้าสับสนและจดจำโฆษณาเราได้ง่ายยิ่งขึ้น วีดีโอที่ดูเข้าใจยาก หรือสื่อเรื่องต่าง ๆ มากเกินไป จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเบื่อและไม่อยากดูโฆษณานั้น ๆ
• โฆษณาที่ดี ต้องสร้างอารมณ์ร่วมให้เกิดกับผู้ชมด้วย ยกตัวอย่างเช่น การใส่อารมณ์เรื่องความรัก ความสงสาร ความตื่นตาตื่นใจ ลงในโฆษณา เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับโฆษณานั้น ๆ ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังอยากแชร์โฆษณาให้เพื่อน ๆ ของตนดูด้วย ตัวอย่างเช่น โฆษณาประกันชีวิต มักจะเน้นเรื่องความรัก หรือความน่าสงสาร ที่ทำให้คนที่ชมโฆษณารู้สึกสะเทือนใจและซาบซึ้งไปกับความรักของโฆษณาจนอยากแชร์โฆษณานั้นต่อ ๆ กันให้เพื่อน ๆ ดู

ตัวอย่างโฆษณาที่ดีและน่าสนใจ

เช่นโฆษณาของ samsung ที่ใช้แมวดังอย่าง "เสือโคร่ง" (ทูนหัวของบ่าว) นำความน่ารักมาเป็นจุดดึงดูดใจให้คนอยากชมโฆษณาจนจบ
ซึ่งโฆษณานี้ นอกจากจะทำให้คนอยากดูจนจบแล้ว ยังมีการวิจารณ์ในเชิงบวกมากมาย และมีการแชร์คลิปออกไปอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมาก
ถือว่าประสบความสำเร็จ และเป็นตัวอย่างการโฆษณาด้วยวีดีโอที่ได้ผลอย่างสูง