www.yuribook-center.com
 
   
ตัวอย่างนิยาย...หัวใจไร้บัญชา
บทความ ณ. วันที่ : 27/4/2011        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 1854 ครั้ง   

บทนำ

 

พิมพ์มาดา...คนแบบฉันมันน่ารังเกียจใช่มั้ย?

                พื้นที่ในสมองของหนึ่งหทัยเต็มไปด้วยคำปฏิเสธอย่างหนักแน่นของพิมพ์มาดาที่เอ่ยกับศินีย์ ความในใจที่อยากรู้มานานได้เปิดเผยแล้ว นี่สินะคำตอบที่แท้จริง!

                หัวใจในตอนนี้ช่างร้าวระทดดั่งถูกมีดกรีดเจ็บปวดทรมานไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย น้ำตาที่ควรไหลกลับเจิ่งนองอยู่ภายในใจ นัยน์ตาแดงก่ำบ่งบอกถึงความร้าวรานทั้งหมดที่มี  ใบหน้าขาวซีดก้มลงอย่างผู้แพ้ ส่วนแขนทั้งสองก็ตกข้างลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง  กระทั่งเท้ายังถูกตรึงอยู่กับที่เหมือนกลไกต่าง ๆ ในร่างกายโดนปิดสวิตช์โดยอัตโนมัติ ไม่เว้นแม้กระทั่ง...สมอง

                หนึ่งหทัย...สาวนัยน์ตาโศกยืนนิ่งท่ามกลางดงดอกไม้บานสะพรั่งที่พากันอวดโฉมความงามพิศุทธ์ของมวลดอกไม้เพื่อเชื้อเชิญเหล่าภมรมาผสมเกสร หากทว่า ณ เวลานี้ ไม่ว่าสิ่งที่เห็นเบื้องหน้านั้นจะงดงามดุจสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าสักเพียงไร แต่คนหัวใจสลาย...ย่อมตามืดบอดเห็นเป็นนรกโลกันต์ใต้ผืนพิภพได้เช่นกัน ร่างกายหญิงสาวแข็งทื่อประดุจก้อนหินที่ถูกนำมาประดับไว้หลังกันเกราสีเหลืองต้นใหญ่ซึ่งแวดล้อมไปด้วยดงดอกแก้ว หากจะไม่มีเสียงใด ๆ มากระทบโสตประสาท

                ตูม!เสียงของหนักบางอย่างตกกระทบผืนน้ำจนแตกกระจายเป็นวงกว้าง

                “ช่วยด้วย!คนตกน้ำ ใครก็ได้ช่วยที!”

เสียงโหวกเหวกขอความช่วยเหลือจากหญิงคนนึงดังขึ้น

 

                “พิมพ์มาดาตกน้ำ!ช่วยด้วย ๆ ๆ…”เสียงนั้นเร่งเร้ามากขึ้น เมื่อร่างพิมพ์มาดาซึ่งพยายามพุ้ยน้ำอย่างกระเสือกกระสนเข้าหาฝั่งค่อย ๆ จมหายไปต่อหน้าต่อตา

                ‘พิมพ์มาดา’ชื่อผู้หญิงคนนี้เปรียบเสมือนมนตร์วิเศษที่สามารถปลุกสติสัมปชัญญะของหนึ่งหทัยพร้อมร่างกาย ซึ่งไร้การตอบสนองให้กลับมาทำงานดังเดิม เรี่ยวแรงหดหายในคราแรกได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ร่างสูงเพรียววิ่งเร็วราวลูกธนูพุ่งจากคันศรออกจากดงดอกแก้วไปยังต้นเสียง  ครั้นมาถึงเชิงสะพานสูงกลับไม่พบอะไร เห็นเพียงศินีย์กำลังยืนตัวสั่นงันงก เบิกตาโตอย่างตื่นตกใจด้วยใบหน้าซีดเผือด

                “พริมอยู่ไหน!!!”

หนึ่งหทัยตะคอกด้วยเสียงเกรี้ยวกราดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนศินีย์สะดุ้งเฮือกเช่นกัน รีบยกมือสั่น ๆ ชี้ไปกลางสะพาน ขายาว ๆ ของคนถามผละออกจากตรงนั้นทันที แม้นหนึ่งหทัยจะพยายามวิ่งให้เร็วสักปานใด  แต่ยังไม่เร็วเท่าใจปรารถนา  ด้วยเวลาที่เสียไปในวินาทีสั้น ๆ นั้นอาจทำให้เจ้าของหัวใจต้องจากไปตลอดกาล

 

ลึกลงไปภายใต้เวิ้งน้ำ ร่างเล็กบางของสาวน้อยพิมพ์มาดาเริ่มหยุดนิ่งจากการดิ้นรนไขว่คว้าหาอากาศ ลำแขนกลมกลึงทั้งสองข้างปล่อยลอยคว้างข้างลำตัว จมูกมีฟองอากาศพ่นออกมาเป็นระลอกสุดท้าย เปลือกตาหนาสีน้ำตาลคู่สวยซึ่งปรืออยู่คราแรก บัดนี้ได้ปิดสนิทลงในที่สุด มีเพียงมโนสำนึกในห้วงจิตของหัวใจที่ยังดำเนินไปในช่วงนาทีสุดท้ายของชีวิต

                หทัย...ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้รักกันสมดั่งใจปรารถนาด้วยเถิด อย่าได้มีอุปสรรคใดๆ มากีดขวางแบบนี้อีกเลย  ชาตินี้คงสายเกินไปแล้วสำหรับฉันที่จะเอ่ยคำว่า รักเธอ... ลาก่อน คนดีของฉัน

เสียงอธิษฐานจากหัวใจของพิมพ์มาดา   อัศวภูวนารถ  ซึ่งกำลังจมดิ่งสู่ความดำมืดแห่งสายน้ำ  แม้นร่างกายจักดับสูญ ขอเพียงพันธหัวใจเป็นนิรันดร์แค่นั้นพอ

และแล้ว... ร่างแบบบางของสาวน้อยก็ทอดนอนลงบนดินอ่อนนุ่มใต้เวิ้งน้ำอย่างสงบ ใบหน้าซึ่งเคยขาวอมชมพูระเรื่ออย่างธรรมชาติเปลี่ยนเป็นสีซีดแทน ริมฝีปากมีสีกลืนเช่นเดียวกับสีผิวหน้า ลำแขนเรียวเล็กกางออกเล็กน้อย เธอนอนนิ่งในท่านั้นราวกับเจ้าหญิงนิทราในนิทานอันแสนสุข

ฤา...จักจบสิ้นกันเพียงชาตินี้!

                หลายปีต่อมา... ขาเรียวของสาวร่างสูงก้าวลงจากเบาะหลังรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่วิ่งเร็วราวติดจรวด ซึ่งสาเหตุที่ยานพาหนะต้องเปลี่ยนไป เนื่องจากระหว่างทางมีการประท้วงปิดถนนทำให้รถที่ติดเป็นทุนเดิมนั้น แทบถึงขั้นอัมพาตกันทีเดียว พอจ่ายเงินเสร็จก็รีบสอดสายตาหาสถานที่นัดพบเพราะเลยเวลามาพอสมควร นัยน์ตาสีเข้มมองไปรอบบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่กำลังเร่งรีบขึ้นรถโดยสาร  แม้ไม่ได้เป็นช่วงวันหยุด กระนั้นคนยังคงพลุกพล่านเหมือนเช่นเคย

โอย...ทำไมคนถึงได้เยอะอย่างนี้นะ แล้วต้องไปทางไหนล่ะเนี่ย?

หนึ่งหทัย...สาวร่างสูงเพรียวใบหน้าขาวอมชมพู  ดวงตากลมโตสีดำดั่งสีนิล ริมฝีปากแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียนขาวผ่อง ผมดำขลับดังเส้นไหมยาวถึงกลางหลังถูกรวบให้เรียบตึงด้วยหนังยางสีดำกำลังคิดและมองหาเส้นทางที่จะไป หญิงสาวสะพายเป้ใบใหญ่สีเข้มอย่างทะมัดทะแมงอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวทับด้วยแจ็กเกตยีนสีซีด กางเกงยีนลีวายขายาวทรงกระบอกสีเดียวกัน  สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวแบบเรียบ ๆ แต่กลับโดดเด่นท่ามกลางกลุ่มคนที่อยู่แวดล้อม

 

ขณะเธอกำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ  ทันใดนั้นก็ต้องหยุดชะงักเหมือนถูกสาปให้ตรึงอยู่กับที่   สาเหตุมาจากเสียงอินโทรของเพลง ๆ หนึ่ง  แม้จะแผ่วเบาราวสายลมโชยแต่กลับทำให้คนที่ตราไว้ในหัวใจ ไม่สามารถขยับเท้าต่อไปได้อีก  ทำได้เพียงเงยหน้ามองที่มาของตัวต้นเหตุ

ร้านขายซีดีเพลง

“เพลงนี้...”  ถึงเป็นแค่เสียงแผ่ว ๆ ที่ลอดจากริมฝีปากบาง แต่ถ้าว่ามันช่างบาดลึกลงกลางทรวงยิ่งนัก เปลือกตาได้รูปแฝงแววเจ็บช้ำปิดลงพร้อมจินตนาการถึงวงหน้าของใครบางคนที่มีนัยน์ตาสีน้ำผึ้ง น้ำเสียงอ่อนหวานยามเรียกขาน รอยยิ้มกระจ่างใสและเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถบันดาลให้เธอมีทั้งความสุข  ความทุกข์  ความกลัว  และความคิดถึง ซึ่งความรู้สึกสุดท้ายยิ่งทำให้ถวิลหา

หนึ่งหทัยยังคงยืนนิ่งเช่นนั้น เพียงลำพังท่ามกลางผู้คนมากมายที่สัญจรไปมา

ณ ขณะนี้ เหมือนเวลาของหญิงสาวหยุดนิ่งลงชั่วคราว ต่างกับเวลาแห่งความเร่งรีบของปัจจุบันกาล ขนตางอนงามกะพริบถี่ ๆ หลายครั้งเพื่อไล่น้ำสีใสที่เริ่มรื้นขึ้นบนขอบตา แหงนหน้ามองท้องฟ้ายามอาทิตย์อัสดง หมายให้น้ำตาแห่งความชอกช้ำอ่อนไหวได้ย้อนลงสู่กลางใจเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม ลมหายใจแห่งความคิดถึงของหนึ่งหทัยในส่วนลึกยังคงพร่ำถามคนในจินตนาการอย่างอ่อนแอว่า

นานแค่ไหนแล้ว? พิมพ์มาดา…ที่เธอจากฉันไปไกลจนเกินไขว่คว้า 







 

   

 


เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน

©2008-2009 SABUYJAISHOP.COM All Rights Reserved