ในชุดรวมนิยายสั้น...นิยามรักบทที่ 2 นี้ มี 3 เรื่อง ได้แก่ นัชชารายา เมษาวันดาวี มายากินรี
ตัวอย่างบางตอนของ..นัชชารายา
ปัง ปัง ปัง!!!
เสียงคนข้างในพยายามทุบ และดันประตูไม้หนาหนักที่มีไม้ท่อนใหญ่ขัดไว้ ดวงตาลุกลนของนัชชามองไปทางใด ก็เห็นแต่ผนังหินแข็งอายุหลายร้อยปี
ของห้องใต้ดินที่ปิดทึบ ซึ่งคนชื่อนิติรักษ์ลากนัชชาลงมาคุยตรงนี้ และทั้งที่หญิงสาวขืนข้อมือไว้ ทว่าด้วยแรงกำลังซึ่งมีมากกว่า หญิงเหล็กจึงพาเธอมาได้
แล้วระหว่างพูดคุยกันนั้น นิติรักษ์ก็เอาแต่ต่อว่าเธอไม่หยุดหย่อน เรื่องนัชชาไม่ยอมเซ็นเช็คให้นิสิตาเพิ่ม ตัวเขาจึงเดือดร้อนไปด้วย เพราะไม่มีเงินหมุนในบริษัททัวร์ที่เพิ่งเปิดก่อนคุณชัชชล ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักเสียชีวิตได้ไม่นาน
ถัดมาไม่ถึง 5 นาที นิสิตาหรือคุณนายที่ 4 ได้ลงทุนต่อสายตรงข้ามประเทศคุยกับเธอ และเช่นเคยคือการข่มขู่แกมบังคับ ให้นัชชาเซ็นเช็คค่าเลี้ยงดูของเดือนหน้ามาให้ก่อน เพราะเศษเงิน 4 แสนที่ได้รับตอนต้นเดือนหมดเกลี้ยงแล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำมัน ค่าคนงานในบ้านที่มีตั้ง 3 - 4 คนอีก
และช่วงนัชชากำลังคร่ำเคร่งกับการพยายามอธิบายเหตุผล ซึ่งเธอไม่สามารถทำตามคำขอนั้นได้ จู่ ๆ แบตเตอรี่มือถือของหญิงสาวก็หมดลงดื้อ ๆ เลยเป็นการปิดฉากสนทนาอันน่ารำคาญใจ ทว่าพอนัชชาผินกลับมาทางนิติรักษ์ ร่างบางตื่นตระหนกทันควัน เมื่อพบว่า ประตูห้องใต้ดินถูกขัดไว้จากด้านนอก
“คุณนิต...ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!เลิกเล่นบ้า ๆ ได้แล้ว ฉันบอกคุณแล้วไงคะ ว่าฉันช่วยพวกคุณไม่ได้จริง ๆ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามพินัยกรรม คุณนิต...ปล่อยฉันเถอะ คุณนิต ๆ ๆ!! ไม่นะ!รายด์ ๆ ๆ ช่วยนัชด้วย รายด์!!!”
นัชชาทั้งทุบประตู และพยายามตะโกนโหวกเหวกเรียกหาคนด้านนอกอย่างสุดเสียงจนแสบคอไปหมด แม้กระนั้นทุกสรรพเสียงยังคงเงียบกริบ มีเพียงเสียงลมหายใจอันเหนื่อยหอบของหญิงร่างเล็กเท่านั้น
และเมื่อไร้เสียงตอบรับ นัชชาได้มองไปรอบผนังหินทึบอีกครั้งด้วยดวงตาหวาดหวั่น ในที่สุดน้ำตาแห่งความหวาดกลัวสุดขีดได้ไหลรินลงมา อีกทั้งเหงื่อกาฬไหลอย่างเห็นได้ชัด มือเท้าเย็นเฉียบ ซ้ำร่างบางยังรู้สึกเย็นวาบอย่างหนักตรงช่องท้องจนคลื่นไส้ปั่นป่วนไปหมด ใจสั่นรัวหนัก กระทั่งกายทรุดฮวบลงกับพื้นหินเย็นยะเยือก เมื่ออดีตอันน่าสะพรึงกลัวในวัย 7 ขวบถาโถมเข้ามา
วันนั้นเป็นวันที่พ่อแม่เธอต้องขับรถไปดูงานในจังหวัดใกล้ ๆ พี่เลี้ยงซึ่งคุณแม่ไว้ใจก็ทำตัวเป็นโจรใจมาร จับเธอมัดมือมัดปากนำไปขังไว้ในห้องใต้บันไดมืดสนิทตรงเรือนคนใช้ เพื่อจะได้ไม่มีเสียงงอแงของเด็กมารบกวนเวลาขนของในบ้าน และกว่าพวกท่านจะกลับ มันก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว นับแต่นั้นมา นัชชาจึงกลัวกับการต้องอยู่ในที่มืด ๆ แคบ ๆ จนต้องรับการรักษาจากจิตแพทย์
แล้วตอนนี้อาการโรคกลัวความมืดของนัชชาที่หายไปนานถึง 20 ปี กำลังจู่โจมหญิงสาวอย่างรุนแรงเหลือเกิน จนร่างกายทนทรมานไม่ไหว
และก่อนนัชชาผู้น่าสงสารจะช็อกหมดสติกับพื้นอันเยียบเย็นของห้องใต้ดิน จิตใต้สำนึกก็ทำให้เธอเปล่งเสียงขาดห้วงแผ่วเบาราวคนใกล้สิ้นใจ จากปากซีดสั่นเป็นครั้งสุดท้ายว่า
“รายด์...ช่วยด้วย ๆ!ช่วยนัชออกไปจาก...ขุมนรกนี้ซักที ช...ช่วยนัชด้วย…ร...รายด์...”
เพียงสิ้นเสียงแผ่ว ริมฝีปากของสาวร่างเย็นก็ปิดสนิทลงทันควัน พร้อมกับมือเย็นสั่นที่พยายามเอื้อมมือไปข้างหน้าได้ตกลงบนพื้น
หรือนัชชาจะสิ้นบุญวาสนาเพียงเท่านี้ ในห้องที่แสงด้านนอกเริ่มสลัว!
ตัวอย่างบางตอน...เมษาวันดาวี
“โอ๊ย!!”
วันดาวีเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทันที เพราะหมอสาวปล่อยมือออกกะทันหัน หงายหลังก้นจ้ำเบ้ากับผืนหญ้าดังปั้ก!
เมษาตาโตเช่นกันที่ยัยตัวแสบหงายผึ่งลงไปอย่างนั้น “เอ้ย!โทษที ๆ”
แพทย์หญิงร่างสูงขออภัยพร้อมประคองตัวคนร่างเล็ก ทว่าพอวันดาวียืนได้เรียบร้อยเท่านั้น ฝ่ามืออรหันต์ก็ฟาดตรงต้นแขนตัวต้นเหตุลั่นป่าดังป้าบ!
“ฮึ๋ย!เจ็บนะยัยบ้า!คนอุตส่าห์ช่วยดี ๆ ยังจะอกตัญญูทำร้ายเขาอีก หน็อยแน่...ยัยซาดิสม์หน้าแมว!” เมษาว่าเสียงดังด้วยความโมโห
“อกตัญญูเหรอะ!ก็ไม่ใช่เพราะเธอรึไง...ยัยหมอโรคจิต!ฉันถึงต้องเจ็บก้นยังงี้!เชอะ!โดนแค่นี้ยังน้อยไป คนอะไรปากจัดชะมัด เที่ยวมาตั้งฉายาให้คนอื่นอยู่เรื่อย เคยถามมั้ยว่าเขาอยากได้หรือเปล่า ตัวเองดีตายล่ะยัยเสากระโดง!”
ปากจิ้มลิ้มของวันดาวีอดตะเบ็งกลับไม่ได้เช่นกัน เพราะภายในเวลาไม่ถึงนาที เขาก็ตั้งฉายาให้เธอถึง 2 ชื่อด้วยกัน แต่แทนที่คนถูกต่อว่าจะขอโทษ ขอโพย กลับยักคิ้วยียวน เถียงข้าง ๆ คู ๆ ใส่เธออีกว่า
“ถ้าถามก่อน...แล้วมันจะเรียกว่าการตั้งฉายาเหรอะ!ยัยต๊อง!”
เมษาโต้อย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกัน และไม่สนว่า ตอนนี้พวกเธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ใด
ขณะปากแดงจัดของวันดาวีจะวีนกลับ พลันก้อนเมฆดำทะมึนได้เข้ามาบดเบียดแสงสุริยนอันน้อยนิด จนมืดมิดในเวลารวดเร็วอย่างแปลกประหลาด และเสียงน่าสะพรึงกลัวนี้ได้ดังสะท้อนไปทั่วพงไพร
โฮกกก!!!
สองคู่กัดหันขวับในทันทีทันควัน ตาเบิกโพลง ร่างเย็นเฉียบ ขนลุกชันด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อสบตาวาวแสงแดงฉานดั่งสีเลือดเข้มข้น ซึ่งเต็มไปด้วยพลังอำนาจของเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ยักษ์ ซ้ำแยกเขี้ยวคมขู่ด้วยความโกรธ ท่ามกลางแสงสลัวในป่ากว้างด้วยระยะไม่ถึง 10 เมตร
ทันใดนั้นเอง!เสือโคร่งตัวฉกาจได้วิ่งกระโจนเข้าใส่คนทั้งคู่
“อ๊ายยย…!!!”
วันดาวีหวีดลั่นอย่างสติแตก พร้อมโจนกอดคอเมษา ซึ่งยืนตะลึงหน้าซีด ใบ้กินไม่แพ้กัน
ฉับพลัน!ร่างคนทั้งคู่ก็หงายหลังร่วงหล่นลงไปในหลุมดำอันมืดสนิท ซึ่งคล้ายกับหุบเหวลึกอันเวิ้งว้างในห้วงอวกาศที่มีแรงดึงดูดมหาศาล
“ว้ายยย...!!!”
“อ๊ากกก...!!!”
เสียงหวีดร้องโหยหวนดังออกมาจากปากคนทั้งคู่ ด้วยความตระหนกกลัวสุดขีดในเวลาไม่กี่วินาที แล้วอยู่ ๆ ทุกสรรพเสียงในไพรสณฑ์ก็กลับมาเงียบสงัด ประหนึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์ระทึกขวัญเช่นนั้นมาก่อน รวมถึงร่างเสือโคร่ง ดุร้ายที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน
ฤา...นี่คือพลังเร้นลับในเขาพลายดำตามตำนานที่ชาวบ้านร่ำลือ!!!
ตัวอย่างบางตอน...มายากินรี
โฮกกกก!!!
เสียงเสือโคร่งลายพาดกลอนตัวใหญ่ ซึ่งกรรโชกไกลมาตามอากาศที่ อยู่ ๆ มีก้อนเมฆมืดทะมึนเข้ามาบดบังแสงอาทิตย์ในยามตะวันคล้อยดิน เป็นตัวเร่งให้มายา...สาวโปร่งระหง 170 ซม. ผมซอยสั้นดกดำในชุดเดินป่าสีน้ำตาลเข้มที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงพลัดกับเพื่อน เพราะช้างป่าทั้งโขลงบุกอาละวาด ซ้ำพลายดุร้ายตัวหนึ่งยังตามราวี จึงยิ่งรีบโกยเท้าจนเหงื่อแตกกาฬหน้าซีดสลับแดง
แปร๋นนน!!!
เสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวเดือดดาลของพญาช้างเผือกผู้มีพละกำลังมากมาย ซึ่งกำลังตามไล่ล่าหญิงห้าวอย่างดุเดือดเลือดพล่านนั้น ยิ่งเร่งเร้าให้มายาต้องโกยแน่บอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งมันยังฟาดงวงฟาดงาพฤกษาน้อยใหญ่มาตามทาง และแม้หญิงสาวจะวิ่งซิกแซ็กไปมา แต่กำลังวังชาของมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ย่อมผิดกันลิบลับกับพลังช้างสารที่กำลังตกมัน
ดังนั้น เสียงขย่มขวัญเช่นนี้จึงดังไล่หลังเข้ามาเรื่อย ๆ
ตึง ๆ ๆ ๆ !!!
ยิ่งเสียงเขย่าขวัญดังใกล้เข้ามาทุกที อะดรีนาลีนซึ่งซ่อนอยู่ในร่างมายาก็เร่งสูบเฉียดขุมพลังแห่งการเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นอย่างเฉียบพลัน ทำให้เธอซอยเท้าได้เร็วขึ้นมาก ราวเสือชีตาห์ที่กำลังวิ่งแข่งกับความตาย
และทันทีที่มายาวิ่งหน้าตั้งแหวกกอหญ้าออกมาจากเนินเขา
ทันใดนั้นเอง!
“อ๊า...!!!” มายาร้องเสียงหลงไปทั่วพงไพร ในตอนที่ตัวเธอกำลังพลัดตกลงใจกลางหลุมดำมืดมิดน่ากลัว ทั้งยังมีแรงดึงดูดมหาศาล
จนดูเหมือนว่า จะไม่มีสิ่งใดออกจากบริเวณนี้ไปได้ แม้แต่เสี้ยวแห่งแสง
และพลังอำนาจของหลุมดำในใจกลางดาราจักรแห่งนี้ จักดูดกลืนร่างมนุษย์ไร้ฤทธาเฉกเช่น น.ส. มายา บริพารโพธิสัตว์ ไปที่ใด?
ไม่มีใครล่วงรู้...นอกจากผู้กุมชะตาแห่งเขาพลายดำอันลี้ลับซึ่งกำลังร่ายเวทในพิธีปลุกเสก ‘เพชรนาคา’ อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ 7 สีแห่งนครบาดาล!
....................................................................
หรือสามารถ search อ่านนิยายผ่านทาง Google โดยพิมพ์ชื่อ yนวิยา หรือชื่อนิยายเรื่องนั้นก็ได้ค่ะ
|