www.yuribook-center.com
 
   
ตัวอย่างนิยาย...นิยามรักบทที่ 2
บทความ ณ. วันที่ : 27/9/2011        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 528 ครั้ง   

ในชุดรวมนิยายสั้น...นิยามรักบทที่ 2 นี้ มี 3 เรื่อง ได้แก่ นัชชารายา  เมษาวันดาวี  มายากินรี

ตัวอย่างบางตอนของ..นัชชารายา

ปัง ปัง ปัง!!!

เสียงคนข้างในพยายามทุบ และดันประตูไม้หนาหนักที่มีไม้ท่อนใหญ่ขัดไว้ ดวงตาลุกลนของนัชชามองไปทางใด ก็เห็นแต่ผนังหินแข็งอายุหลายร้อยปี

ของห้องใต้ดินที่ปิดทึบ ซึ่งคนชื่อนิติรักษ์ลากนัชชาลงมาคุยตรงนี้ และทั้งที่หญิงสาวขืนข้อมือไว้ ทว่าด้วยแรงกำลังซึ่งมีมากกว่า หญิงเหล็กจึงพาเธอมาได้

แล้วระหว่างพูดคุยกันนั้น นิติรักษ์ก็เอาแต่ต่อว่าเธอไม่หยุดหย่อน เรื่องนัชชาไม่ยอมเซ็นเช็คให้นิสิตาเพิ่ม ตัวเขาจึงเดือดร้อนไปด้วย เพราะไม่มีเงินหมุนในบริษัททัวร์ที่เพิ่งเปิดก่อนคุณชัชชล ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักเสียชีวิตได้ไม่นาน

ถัดมาไม่ถึง 5 นาที นิสิตาหรือคุณนายที่ 4 ได้ลงทุนต่อสายตรงข้ามประเทศคุยกับเธอ และเช่นเคยคือการข่มขู่แกมบังคับ ให้นัชชาเซ็นเช็คค่าเลี้ยงดูของเดือนหน้ามาให้ก่อน เพราะเศษเงิน 4 แสนที่ได้รับตอนต้นเดือนหมดเกลี้ยงแล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำมัน ค่าคนงานในบ้านที่มีตั้ง 3 - 4 คนอีก

และช่วงนัชชากำลังคร่ำเคร่งกับการพยายามอธิบายเหตุผล ซึ่งเธอไม่สามารถทำตามคำขอนั้นได้ จู่ ๆ แบตเตอรี่มือถือของหญิงสาวก็หมดลงดื้อ ๆ เลยเป็นการปิดฉากสนทนาอันน่ารำคาญใจ ทว่าพอนัชชาผินกลับมาทางนิติรักษ์ ร่างบางตื่นตระหนกทันควัน เมื่อพบว่า ประตูห้องใต้ดินถูกขัดไว้จากด้านนอก      

“คุณนิต...ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!เลิกเล่นบ้า ๆ ได้แล้ว ฉันบอกคุณแล้วไงคะ ว่าฉันช่วยพวกคุณไม่ได้จริง ๆ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามพินัยกรรม คุณนิต...ปล่อยฉันเถอะ คุณนิต ๆ ๆ!! ไม่นะ!รายด์ ๆ ๆ ช่วยนัชด้วย รายด์!!!”

นัชชาทั้งทุบประตู และพยายามตะโกนโหวกเหวกเรียกหาคนด้านนอกอย่างสุดเสียงจนแสบคอไปหมด แม้กระนั้นทุกสรรพเสียงยังคงเงียบกริบ มีเพียงเสียงลมหายใจอันเหนื่อยหอบของหญิงร่างเล็กเท่านั้น

และเมื่อไร้เสียงตอบรับ นัชชาได้มองไปรอบผนังหินทึบอีกครั้งด้วยดวงตาหวาดหวั่น ในที่สุดน้ำตาแห่งความหวาดกลัวสุดขีดได้ไหลรินลงมา อีกทั้งเหงื่อกาฬไหลอย่างเห็นได้ชัด มือเท้าเย็นเฉียบ ซ้ำร่างบางยังรู้สึกเย็นวาบอย่างหนักตรงช่องท้องจนคลื่นไส้ปั่นป่วนไปหมด ใจสั่นรัวหนัก กระทั่งกายทรุดฮวบลงกับพื้นหินเย็นยะเยือก เมื่ออดีตอันน่าสะพรึงกลัวในวัย 7 ขวบถาโถมเข้ามา

วันนั้นเป็นวันที่พ่อแม่เธอต้องขับรถไปดูงานในจังหวัดใกล้ ๆ พี่เลี้ยงซึ่งคุณแม่ไว้ใจก็ทำตัวเป็นโจรใจมาร จับเธอมัดมือมัดปากนำไปขังไว้ในห้องใต้บันไดมืดสนิทตรงเรือนคนใช้ เพื่อจะได้ไม่มีเสียงงอแงของเด็กมารบกวนเวลาขนของในบ้าน และกว่าพวกท่านจะกลับ มันก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว นับแต่นั้นมา นัชชาจึงกลัวกับการต้องอยู่ในที่มืด ๆ แคบ ๆ จนต้องรับการรักษาจากจิตแพทย์

แล้วตอนนี้อาการโรคกลัวความมืดของนัชชาที่หายไปนานถึง 20 ปี กำลังจู่โจมหญิงสาวอย่างรุนแรงเหลือเกิน จนร่างกายทนทรมานไม่ไหว

และก่อนนัชชาผู้น่าสงสารจะช็อกหมดสติกับพื้นอันเยียบเย็นของห้องใต้ดิน จิตใต้สำนึกก็ทำให้เธอเปล่งเสียงขาดห้วงแผ่วเบาราวคนใกล้สิ้นใจ จากปากซีดสั่นเป็นครั้งสุดท้ายว่า

“รายด์...ช่วยด้วย ๆ!ช่วยนัชออกไปจาก...ขุมนรกนี้ซักที ช...ช่วยนัชด้วย…ร...รายด์...”

เพียงสิ้นเสียงแผ่ว ริมฝีปากของสาวร่างเย็นก็ปิดสนิทลงทันควัน พร้อมกับมือเย็นสั่นที่พยายามเอื้อมมือไปข้างหน้าได้ตกลงบนพื้น  

หรือนัชชาจะสิ้นบุญวาสนาเพียงเท่านี้ ในห้องที่แสงด้านนอกเริ่มสลัว!

 

ตัวอย่างบางตอน...เมษาวันดาวี

“โอ๊ย!!”

วันดาวีเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทันที เพราะหมอสาวปล่อยมือออกกะทันหัน หงายหลังก้นจ้ำเบ้ากับผืนหญ้าดังปั้ก!

เมษาตาโตเช่นกันที่ยัยตัวแสบหงายผึ่งลงไปอย่างนั้น “เอ้ย!โทษที ๆ”

แพทย์หญิงร่างสูงขออภัยพร้อมประคองตัวคนร่างเล็ก ทว่าพอวันดาวียืนได้เรียบร้อยเท่านั้น ฝ่ามืออรหันต์ก็ฟาดตรงต้นแขนตัวต้นเหตุลั่นป่าดังป้าบ!

“ฮึ๋ย!เจ็บนะยัยบ้า!คนอุตส่าห์ช่วยดี ๆ ยังจะอกตัญญูทำร้ายเขาอีก หน็อยแน่...ยัยซาดิสม์หน้าแมว!” เมษาว่าเสียงดังด้วยความโมโห

“อกตัญญูเหรอะ!ก็ไม่ใช่เพราะเธอรึไง...ยัยหมอโรคจิต!ฉันถึงต้องเจ็บก้นยังงี้!เชอะ!โดนแค่นี้ยังน้อยไป คนอะไรปากจัดชะมัด เที่ยวมาตั้งฉายาให้คนอื่นอยู่เรื่อย เคยถามมั้ยว่าเขาอยากได้หรือเปล่า ตัวเองดีตายล่ะยัยเสากระโดง!”

ปากจิ้มลิ้มของวันดาวีอดตะเบ็งกลับไม่ได้เช่นกัน เพราะภายในเวลาไม่ถึงนาที เขาก็ตั้งฉายาให้เธอถึง 2 ชื่อด้วยกัน แต่แทนที่คนถูกต่อว่าจะขอโทษ  ขอโพย กลับยักคิ้วยียวน เถียงข้าง ๆ คู ๆ ใส่เธออีกว่า

“ถ้าถามก่อน...แล้วมันจะเรียกว่าการตั้งฉายาเหรอะ!ยัยต๊อง!”

เมษาโต้อย่างไม่ลดราวาศอกเช่นกัน และไม่สนว่า ตอนนี้พวกเธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ใด

ขณะปากแดงจัดของวันดาวีจะวีนกลับ พลันก้อนเมฆดำทะมึนได้เข้ามาบดเบียดแสงสุริยนอันน้อยนิด จนมืดมิดในเวลารวดเร็วอย่างแปลกประหลาด และเสียงน่าสะพรึงกลัวนี้ได้ดังสะท้อนไปทั่วพงไพร

โฮกกก!!!

สองคู่กัดหันขวับในทันทีทันควัน ตาเบิกโพลง ร่างเย็นเฉียบ ขนลุกชันด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อสบตาวาวแสงแดงฉานดั่งสีเลือดเข้มข้น ซึ่งเต็มไปด้วยพลังอำนาจของเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ยักษ์ ซ้ำแยกเขี้ยวคมขู่ด้วยความโกรธ ท่ามกลางแสงสลัวในป่ากว้างด้วยระยะไม่ถึง 10 เมตร

ทันใดนั้นเอง!เสือโคร่งตัวฉกาจได้วิ่งกระโจนเข้าใส่คนทั้งคู่

“อ๊ายยย…!!!”

วันดาวีหวีดลั่นอย่างสติแตก พร้อมโจนกอดคอเมษา ซึ่งยืนตะลึงหน้าซีด ใบ้กินไม่แพ้กัน

ฉับพลัน!ร่างคนทั้งคู่ก็หงายหลังร่วงหล่นลงไปในหลุมดำอันมืดสนิท ซึ่งคล้ายกับหุบเหวลึกอันเวิ้งว้างในห้วงอวกาศที่มีแรงดึงดูดมหาศาล

“ว้ายยย...!!!”

“อ๊ากกก...!!!”

เสียงหวีดร้องโหยหวนดังออกมาจากปากคนทั้งคู่ ด้วยความตระหนกกลัวสุดขีดในเวลาไม่กี่วินาที แล้วอยู่ ๆ ทุกสรรพเสียงในไพรสณฑ์ก็กลับมาเงียบสงัด ประหนึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์ระทึกขวัญเช่นนั้นมาก่อน รวมถึงร่างเสือโคร่ง  ดุร้ายที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน

ฤา...นี่คือพลังเร้นลับในเขาพลายดำตามตำนานที่ชาวบ้านร่ำลือ!!!

 

ตัวอย่างบางตอน...มายากินรี

โฮกกกก!!!

เสียงเสือโคร่งลายพาดกลอนตัวใหญ่ ซึ่งกรรโชกไกลมาตามอากาศที่ อยู่ ๆ มีก้อนเมฆมืดทะมึนเข้ามาบดบังแสงอาทิตย์ในยามตะวันคล้อยดิน เป็นตัวเร่งให้มายา...สาวโปร่งระหง 170 ซม. ผมซอยสั้นดกดำในชุดเดินป่าสีน้ำตาลเข้มที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงพลัดกับเพื่อน เพราะช้างป่าทั้งโขลงบุกอาละวาด ซ้ำพลายดุร้ายตัวหนึ่งยังตามราวี จึงยิ่งรีบโกยเท้าจนเหงื่อแตกกาฬหน้าซีดสลับแดง

แปร๋นนน!!!

เสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวเดือดดาลของพญาช้างเผือกผู้มีพละกำลังมากมาย ซึ่งกำลังตามไล่ล่าหญิงห้าวอย่างดุเดือดเลือดพล่านนั้น ยิ่งเร่งเร้าให้มายาต้องโกยแน่บอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งมันยังฟาดงวงฟาดงาพฤกษาน้อยใหญ่มาตามทาง และแม้หญิงสาวจะวิ่งซิกแซ็กไปมา แต่กำลังวังชาของมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ย่อมผิดกันลิบลับกับพลังช้างสารที่กำลังตกมัน

ดังนั้น เสียงขย่มขวัญเช่นนี้จึงดังไล่หลังเข้ามาเรื่อย ๆ   

ตึง ๆ ๆ ๆ !!!

ยิ่งเสียงเขย่าขวัญดังใกล้เข้ามาทุกที อะดรีนาลีนซึ่งซ่อนอยู่ในร่างมายาก็เร่งสูบเฉียดขุมพลังแห่งการเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นอย่างเฉียบพลัน ทำให้เธอซอยเท้าได้เร็วขึ้นมาก ราวเสือชีตาห์ที่กำลังวิ่งแข่งกับความตาย

และทันทีที่มายาวิ่งหน้าตั้งแหวกกอหญ้าออกมาจากเนินเขา

ทันใดนั้นเอง!

“อ๊า...!!!” มายาร้องเสียงหลงไปทั่วพงไพร ในตอนที่ตัวเธอกำลังพลัดตกลงใจกลางหลุมดำมืดมิดน่ากลัว ทั้งยังมีแรงดึงดูดมหาศาล

จนดูเหมือนว่า จะไม่มีสิ่งใดออกจากบริเวณนี้ไปได้ แม้แต่เสี้ยวแห่งแสง

และพลังอำนาจของหลุมดำในใจกลางดาราจักรแห่งนี้ จักดูดกลืนร่างมนุษย์ไร้ฤทธาเฉกเช่น น.ส. มายา  บริพารโพธิสัตว์ ไปที่ใด?

ไม่มีใครล่วงรู้...นอกจากผู้กุมชะตาแห่งเขาพลายดำอันลี้ลับซึ่งกำลังร่ายเวทในพิธีปลุกเสก ‘เพชรนาคา’ อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ 7 สีแห่งนครบาดาล!

....................................................................

หรือสามารถ search อ่านนิยายผ่านทาง Google โดยพิมพ์ชื่อ yนวิยา หรือชื่อนิยายเรื่องนั้นก็ได้ค่ะ







 

   

 


เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน

©2008-2009 SABUYJAISHOP.COM All Rights Reserved