Passion (2012)
ความยาว 105 นาที
ประเภท Crime | Drama | Mystery เรตติ้ง imdb: 5.5
ผู้กำกับ : Brian De Palma
เนื้อเรื่อง/เขียนบท : Brian De Palma, Natalie Carter (film "Crime d'amour")
ดารานำแสดง : Rachel McAdams, Noomi Rapace, Karoline Herfurth
จากการที่หนังหลักที่เข้าใหม่ในสัปดาห์นี้อย่าง After Earth
มีฟอร์มเห่ยและเรทติ้งอ่อนยวบอย่างเป็นเอกฉันท์
จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เลือกที่จะเขียนรีวิว Passion แทน
ซึ่งอาจมีเนื้อหาแตกต่างออกไปจากหนังกระแสหลัก
แต่ต้องยอมรับว่าหนังมีเซอร์ไพรส์และความน่าสนใจมากกว่าที่คาด
สำหรับ Passion (2012) เป็นเป็นผลงานความร่วมมือของเยอรมัน-ฝรั่งเศส
โดยนำเนื้อเรื่องจากภาพยนต์ฝรั่งเศสเรื่อง Crime d’amour (2010) มารีเมคใหม่
ซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องมีกระแสเสียงความเห็นของผู้ที่ชมเวอร์ชั่นก่อนออกมาต่อต้าน
และวิพากวิจารณ์เป็นแน่แท้
หนังได้ Rachel McAdams รับบทคริสติน เจ้าแม่วงการโฆษณา
ซึ่งเรียกได้ว่าสวยทุกชุด จัดเต็มทุกเม็ด ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม
ทำให้เราเคลิบเคล้มไปกับโลกที่เธอกำลังลั้นลาอยู่
ด้านนักแสดงสมทบได้ Roomi Rapace รับบทอิซาเบล
สมุนมือขวาของเจ้าแม่วงการโฆษณาที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา
และด้วยความที่อิสเบลล่าเป็นเบ๊มาก เสื้อผ้าหน้าผมก็จะกระเซิงวุ่นวาย
เสริมลุคให้หล่อนได้โดดเด่นเช่นกัน
ซึ่งบุคลิกและบทของทั้งสองสาวที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ทำให้เธอทั้งสองที่ต้องเป็นผู้เดินเรื่องหลัก
สามารถวางตัวและเชือดเฉือนกันด้วยไหวพริบ-ไอเดียอย่างสนุก
และที่ขาดไม่ได้คือจิ๊กซอร์อีกสองตัวที่ทำให้หนังซับซ้อนยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น สมทบชาย Paul Anderson รับบท เดิร์ค
แฟนหนุ่มนักบัญชีของคริสติน
ส่วนสมทบหญิง Karoline Hurfurth รับบท แดนี่ เลขาฯ เลสเบี้ยนของอิซเบล
ตัวคริสตินนั้นเป็นหญิงสาวสวย สังคมเก่ง และเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจ
แม้ว่าเธอจะมีรสนิยมส่วนตัวที่ประหลาดสักหน่อย
แต่นั่นก็เป็นสิ่งซ่อนอยู่ภายใต้รูปลักษณ์อันงดงาม
อันยากที่ใครจะคาดคิดถึง แม้กระทั่งลูกน้องคนสนิทอย่างอิซาเบลเอง
ตัวอิซาเบลเองก็เป็นหญิงสาวที่งดงามไม่แพ้กัน
เพียงแต่ความงามนั้นถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้การแต่งตัวที่เรียบง่าย
ด้วยความที่เธอเป็นสาวทำงานเก่ง จึงมักละเลยที่จะดูแลตัวเอง
นั่่นทำให้เมื่อภาพบอสสาว กับลูกน้องสาว ปรากฎกายขึ้นพร้อมกัน
จึงเป็นภาพของหญิงสาวสองคนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ความสัมพันธ์ของเจ้านายลูกน้องเกือบจะไปได้ด้วยดี
เมื่อทั้งคู่ได้มีโอกาสทำโปรเจคหนึ่งร่วมกัน
และผลตอบรับมันออกมาดีมาก แม้จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้อิสซาเบลต้องอึ้ง
จากการกระทำของคริสตินที่เธอเริ่มไว้ใจเชื่อใจก็ตาม
แต่นั้นก็ยังไม่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บใจ ช้ำใจ จนกระทั่งกลายเป็นแรงแค้น
เท่ากับเมื่อมีเรื่องชู้สาว ระหว่างเธอ ชายหนุ่มคนรัก และคริสตินเข้ามาเกี่ยวข้อง
เขาถึงว่าบอกว่าแรงรัก แรงแค้น แรงริษยา ของผู้หญิงน่ะรุนแรง
คริสติน กับ อิซาเบลก็เช่นเดียวกัน
หลังจากที่หนังช่วงแรกเกริ่นให้เราได้รู้จักที่มาที่มาของตัวละครแล้ว
ในช่วงหลังจะเป็นการเชือดเฉือนกันระหว่างสองสาว
การวางแผนแก้แค้นอันแยบยล จึงไปถึงการฆาตรกรรม และการปกปิดความลับ
หนังปูพื้นช่วงแรกได้ฝืดมาก เหมือนเครื่องยังไม่ร้อน จับประเด็นอะไรยังไม่ได้นัก
ทั้งมุมกล้องที่ดูลอยๆ กลวงๆ สถานที่-ไฟที่เหมือนหนังทุนต่ำ
รวมทั้งซาวด์ประกอบที่ดับสนิท ทำให้หนังนิ่งเนิบและขาดอรรถรสไปพอสมควร
ซึ่งเมื่อนำกลับมาคิดในภายหลัง ทำให้มองว่านั่นมันเป็นความตั้งใจล้วนๆ
ที่จะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดและนอยด์ไปกับสถานการณ์ บทพูด
และการถ่ายทอดอารมณ์ของนักแสดง
เพื่อให้เราอินและจดจำจุดเริ่มต้นของสองสาวเอาไว้เป็นบรรทัดฐานในหัว
หนังเริ่มมีการย้ำประเด็นที่ทำให้สองสาวเกิดความขัดแย้งกัน
ทั้งด้วยเรื่องงานก็ดี เรื่องอำนาจเงินตราก็ดี และรวมไปถึงเรื่องความรัก
ซึ่งแม้บทจะออกไปแนวละครน้ำเน่าแบบช่อง7สักเล็กน้อย
ทั้งอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่น จ้องจะล้างแค้น
แต่หนังก็ทำให้เราเห็นว่า มันมีจุดแข็งอยู่ที่บท
และใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ทั้งการให้น้ำหนักของนักแสดงแต่ละตัว
มันมีเหตุผลมารองรับทั้งหมด สร้างให้เราเชื่อ
และจำภาพและตัวตนของพวกเขาได้อย่างแม่นยำ
หนังเริ่มมาเข้มข้นหลังจากใช้เวลาปูพื้นค่อนข้างนาน
และเริ่มแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของบท ที่เริ่มแตกหน่อ
สร้างมิติที่ต่างออกไปจากช่วงแรกเริ่มที่ปูไว้ มันเริ่มขมวดเป็นปม
และชวนให้เราร่วมติดตามไปถึงช่วงครึ่งหลัง
ประเด็นของอำนาจ เงินตราอาจเป็นกลิ่นบางๆ
แต่กลิ่นของเล่ห์กล หลอกลวงนั้นโชยออกมาให้เราเห็นได้เด่นชัดขึ้น
และที่แน่นอนที่สุดคือมารยาหญิงที่ขับเคี่ยวกันได้อย่างมีพลัง
ทำให้หนังหลุดออกจากกรอบที่วาดไว้ไปสู่ห้วงลึกของความล่องลอย
ความไร้ซึ่งความหวัง ซึ่งมิติในส่วนนี้ต้องขอยอมรับว่า
หนังมีความกล้าที่จะฉีกกรอบแถมเอามาคลุกเคล้าเข้ากันได้อย่างลงตัว
ทำให้หนังในช่วงไคลแม็กซ์นั้นสวยงามเหลือเกิน
ไม่เพียงเท่านั้น หนังยังกล้าเล่น
กล้าเสริมบรรยากาศของหนังในช่วงท้ายให้มีอารมณ์มากยิ่งขึ้น
ทั้งด้วยการจัดไฟที่แตกต่างเพื่อสะท้อนถึงความลึกลับมืดมน
การเพิ่มซาวด์ชวนติดตามเพื่อให้หนังมีรสชาติกลมกล่อมขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งยังเสริมประเด็นที่ไกลกว่าที่กล่าวมาข้างต้น
ไกลไปอีกชั้นอย่างที่เชื่ออย่างยิ่งว่า ผู้ชมส่วนใหญ่คาดไม่ถึงแน่นอน
มันจึงเป็นความตื่นเต้นชวนติดตามแบบต่อเนื่องของต่อเนื่องของต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
จนท้ายที่สุดมันเป็นสวยงามกำลังสอง เรียกได้ว่าเป็นหนังที่มีเสน่ห์
มีสุนทรียะ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเรื่องหนึ่งที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดชม!!