.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :1/2/2009
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :18/2/2024
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :1539272
จำนวนคนเข้าชม : 34274 ครั้ง

ขั้นตอนและวิธีใช้ชุดทาสิว

ขั้นตอนที่ 1 ใช้โลชั่นทำความสะอาดผิวหน้าทาและนวดคลึงให้ทั่วบริเวณผิวหน้า เพื่อให้เนื้อโลชั่นแทรกซึมสู่การทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ช่วยลดการอุดตันของผิวจากสิ่งสกปรก หลังจากนั้นใช้สำลีเช็ดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้าออกให้สะอาดหมดจด
ขั้นตอนที่ 2 หลังจากนั้นล้างหน้าด้วยสบู่เหลวโดยเลือกตามสภาพผิว การล้างหน้าด้วยสบู่เหลวจะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และน้ำมันส่วนเกินที่ตกค้างบริเวณผิวหน้าให้สะอาด และถ้าต้องการเพิ่มการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกควรทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จึงล้างออก
ขั้นตอนที่ 3 ทาเฮอร์เบิล อาย ครีม ฟอร์ ไฟน์ ไลน์ บริเวณรอบดวงตา บำรุงทั้งส่วนบน และส่วนล่างของดวงตา เพื่อป้องกัน ริ้วรอยเหี่ยวย่นและรอยหมองคล้ำให้แลดูจางลง
ขั้นตอนที่ 4 ทา สมุนไพรสกัดบางๆ ให้ทั่วใบหน้า ( เลือกสูตรตามสภาพผิว สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันมากเป็นพิเศษ ควรเลือกใช้ เฮอร์เบิล เอ๊กซ์แทร็คท์ ดับเบิ้ลเค สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันมาก ควรเลือกใช้
เฮอร์เบิล เอ๊กซ์แทร็คท์ เจล และสำหรับผิวบอบบางและทุกสภาพผิวควรเลือกใช้ ดร.สาโรช เฮอร์เบิล เอ๊กซ์แทร็คท์ ) เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก พร้อมนวดคลึงเบาๆ จนแห้ง เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพของการผลัดเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 5 ใช้แอคเน่ เคลียร์ โลชั่นทาให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก โดยเน้นบริเวณที่เป็นสิว ริ้วรอยจากเกิดสิว จุดด่างดำ และบริเวณผิวหน้าไม่เรียบเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่มีหัวสิวอักเสบให้ใช้
ครีมทาสิว แต้มบริเวณที่มีหัวสิวอักเสบ หัวสิวจะแห้ง ยุบตัวลง ปราศจากไขมันที่อุดตันบริเวณหัวสิวโดยไร้ ร่องรอยแผลเป็นจากสิว
ขั้นตอนที่ 6 สำหรับ ผู้ที่ต้องการลดปัญหาสิวอย่างเร่งด่วน ก่อนนอนควรใช้แผ่นมาส์คลดปัญหาสิวร่วมด้วย สารสกัดจากสมุนไพรที่เข้มข้นในแผ่นมาส์คจะช่วยลดความมันของผิวหน้า ทำให้หัวสิวแห้งหดตัว และหลุดออกจากผิวหน้า พร้อมช่วยบำรุงผิว โดยปราศจากร่องรอยแผลเป็น ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วลอกออกโดยไม่ต้องล้างหน้า
ขั้นตอนที่ 7 บำรุงริมฝีปากด้วยการทาเฮอร์เบิล ลิปแคร์ เพื่อลดการแตกแห้งและร่องลึกของริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากนุ่ม ชุ่มชื่น หมายเหตุ
** กรณีที่มีผิวมันถึงมันมาก ควรใช้สบู่เหลว ดร.สาโรช ล้างหน้าในขั้นตอนแรก
** กรณีมีสิวอักเสบ ควรใช้ ดร.สาโรช เฮอร์เบิล แอคเน่เคลียร์ ครีม แต้มหัวสิวด้วยทุกครั้ง
** กรณีที่ผิวบอบบางและแพ้ง่ายควรใช้ ดร.สาโรช เฮอร์เบิล รีทัช ครีม หรือ ซีรัมบำรุงผิวผสมสมุนไพร ดร.สาโรช ร่วมด้วย
** หากต้องการปรับสภาพผิวหน้าหลังการล้างหน้า ควรใช้ โทนเนอร์ผสมสมุนไพร ดร.สาโรช เช็ดทำความสะอาดผิวร่วมด้วย แต่ไม่ควรใช้ขณะที่กำลังผลัดเซลล์ผิวหน้า


• เคล็ดลับและการป้องกันการเกิดสิว
สาเหตุของการเกิดสิวนอกจากการทำงานผิดปกติของต่อมไขมันที่ถูกกระตุ้นเพราะ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงแล้ว สิวยังมีปัจจัยอื่นๆที่เป็นเหตุทำให้สิวขึ้นได้ อาทิ การทำความสะอาดผิวหน้า สภาพร่างกายที่อ่อนแอ ความเครียด เป็นต้น ซึ่งวิธีป้องกันการเกิดสิวทำง่ายๆดังนี้ค่ะ
1. ดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย และจิตใจให้แข็งแรง การพักผ่อนให้เพียงพอ ขจัดความเครียดให้จางหายไปจากจิตใจ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควรทำความสะอาดหลังออกกำลังกายทุกครั้ง เพราะการหมักหมมของเหงื่อและสิ่งสกปรกก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้
2. ทำความสะอาดผิวหน้า โดยใช้โลชั่นทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อขจัดเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกก่อนล้าง หน้า และควรล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้งเท่านั้นเช้าและเย็น ถ้าผิวหน้ามันมาก อาจล้างหน้าในช่วงกลางวันด้วย โดยใช้สบู่เหลวสำหรับผิวธรรมดาและผิวมันมากฟอกทิ้งไว้สักครู่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ยิ่งขึ้นไม่ควรใช้สบู่ที่มีความ เป็นกรด-เบส ที่แรงเกิดไปล้างหน้า เพราะสบู่อาจไปเปลี่ยนแปลงความสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์บนใบหน้า ซึ่งจะส่งผลให้อาการสิวอักเสบลุกลามมากยิ่งขึ้นได้
3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางประเภทครีมที่มีปริมาณน้ำมันสูง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมัน เพราะความมันจากส่วนผสมของเครื่องสำอางอาจแทรกซึมเข้าไปอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิวได้ และควรใช้เครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้ก่อนสิว
4. ไม่ควรแกะหัวสิว เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนัง และเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ สิวอักจะยิ่งกำเริบเพิ่มขึ้น ทั้งยังส่งผลให้เซลล์สร้างสีถูกทำลายเกิดเป็นรอยด่างดำและเกิดรอยแผลเป็นได้
ทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยปกป้องผิวหน้าจากการเกิดสิวได้ก็คือ การดูแลรักษาความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันควรหลีกเลี่ยงภาวะความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เป็น ต้นเหตุ แต่ถ้ายังไม่อาจสกัดกั้นการเกิดของสิวได้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี คุณสมบัติเฉพาะช่วยบรรเทาความรุนแรง และป้องกันการเกิดใหม่ของสิว เครื่องสำอาง ดร.สาโรช จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณ

 

ขั้นตอนและวิธีใช้ชุดทาฝ้า ดร.สาโรช

ขั้นตอนที่ 1 ใช้โลชั่นทำความสะอาดผิวหน้าทาและนวดคลึงให้ทั่วบริเวณผิวหน้า เพื่อให้เนื้อโลชั่นแทรกซึมสู่การทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ช่วยลดการอุดตันของผิวจากสิ่งสกปรก หลังจากนั้นใช้สำลีเช็ดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้าออกให้สะอาดหมดจด
ขั้นตอนที่ 2 หลัง จากนั้นล้างหน้าด้วยสบู่เหลว โดยเลือกตามสภาพผิว การล้างหน้าด้วยสบู่เหลวจะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และน้ำมันส่วนเกินที่ตกค้างบริเวณผิวหน้าให้สะอาด และถ้าต้องการเพิ่มการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกควรทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงล้างออก
ขั้นตอนที่ 3 ทา เฮอร์เบิล อาย ครีม ฟอร์ ไฟน์ ไลน์ บริเวณรอบดวงตา บำรุงทั้งส่วนบนและส่วนล่างของดวงตา เพื่อป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นและรอยหมองคล้ำให้แลดูจางลง
ขั้นตอนที่ 4 ทาสมุนไพรสกัดบางๆ ให้ทั่วใบหน้า ( เลือกสูตรตามสภาพผิว สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันมากเป็นพิเศษ ควรเลือกใช้ เฮอร์เบิล เอ๊กซ์แทร็คท์ ดับเบิ้ลเค สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันมาก ควรเลือกใช้ เฮอร์เบิล เอ๊กซ์แทร็คท์ เจล หรือ เฮอร์เบิล เอ๊กซ์แทร็คท์ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก พร้อมนวดคลึงเบาๆ จนแห้ง เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพของการผลัดเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 5 ทาผลิตภัณฑ์ชุดทาฝ้า (เลือกใช้ตามสภาพผิว) ให้ทั่วใบหน้า โดยเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก พร้อมนวดคลึงจนแห้ง เน้นบริเวณที่เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ และบริเวณผิวหน้าไม่เรียบเป็นพิเศษ
ขั้นตอนที่ 6 บำรุงริมฝีปากด้วยการทาลิปบำรุงริมฝีปากสมุนไพร เพื่อป้องกันการแตกแห้งและร่องลึกของริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื่น หมายเหตุ
** กรณีที่มีผิวมันถึงมันมาก ควรใช้สบู่เหลว ดร.สาโรช ล้างหน้าในขั้นตอนแรก
** กรณีที่ผิวบอบบางและแพ้ง่ายควรใช้ เฮอร์เบิล รีทัช ครีม หรือ ซีรัมบำรุงผิวผสมสมุนไพร ดร.สาโรช ทาก่อนใช้ชุดทาฝ้าประมาณ 2-4 สัปดาห์
** หากผิวหน้ามีอาการระหว่างใช้ชุดรักษาควรใช้ เฮอร์เบิล รีทัช ครีม หรือ ซีรัมบำรุงผิวผสมสมุนไพร ดร.สาโรช ร่วมด้วย
** หากต้องการปรับสภาพผิวหน้าหลังการล้างหน้า ควรใช้ โทนเนอร์ผสมสมุนไพร ดร.สาโรช เช็ดทำความสะอาดผิวร่วมด้วย แต่ไม่ควรใช้ขณะที่กำลังผลัดเซลล์ผิวหน้า
** ทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้เป็นประจำทุกเช้า และก่อนนอน เป็นประจำทุกวัน จนกว่าจะมีการผลัดเซลล์เกิดขึ้น ( ระยะเวลาการผลัดเซลล์ผิวขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน )
** ระยะที่มีการใช้ชุดทาฝ้าควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของครีมรองพื้น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และผลิตภัณฑ์ของสารที่ให้ความรู้สึกเย็น (เมนทอล) เช่น แป้งเย็น ผ้าเย็น เนื่องจากครีมรองพื้นอาจอุดตันตามรูขุมขนได้ และก่อให้เกิดเป็นสิวอักเสบ ส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะทำให้ชะลอการผลัดเซลล์ หรือมีการผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลง


คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ชุดทาฝ้า
1. หลังใช้ประมาณ 10-15 วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพผิว) ผิวหน้าอาจดูคล้ำ ฝ้าดูเด่นขึ้น รู้สึกผิวหน้าแห้งกร้าน และเกิดการหลุดลอกเป็นขุย เนื่องจากสมุนไพรจะเร่งสร้างเซลล์ผิวใหม่ทำให้ฝ้าที่ฝังตัวใต้ขั้นผิวหนัง ลอยเด่นออกมาสู่ผิวหนังชั้นนอก และผลัดเซลล์ หลังจากนั้นให้ดูแลผิวด้วยชุดบำรุงผิวสมุนไพร ดร.สาโรช แต่สำหรับผู้ที่มีผิวมัน อาจมองไม่เห็นการผลัดเซลล์และใช้ระยะเวลาในการผลัดเซลล์นานกว่าผู้ที่มีผิว แห้ง
2. ในระหว่างใช้ชุดทาฝ้าทุกกรณี ควรใช้สบู่เหลว ดร.สาโรช สำหรับผิวมันในการทำความสะอาดใบหน้า เนื่องจากสบู่สำหรับผิวมันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการหลุดลอกของฝ้า กระ รอยด่างดำ หลุมสิว หน้าไม่เรียบ และรูขุมขนกระชับขึ้น
3. ในกรณีที่คุณเป็นคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือเคยใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีมาก่อน ก่อนใช้ชุดทาฝ้าขอแนะนำให้ใช้โลชั่นทำความสะอาดผิว และล้างหน้าด้ายสบู่เหลว (เลือกตามสภาพผิว) พร้อมกับทาดร.สาโรช เฮอร์เบิล รีทัช ครีม ก่อนที่จะใช้ชุดทาฝ้าค่ะ
4. สำหรับผู้ที่มีการระคายเคืองในขณะใช้ชุดทาฝ้า ขอแนะนำให้หยุดใช้ก่อน 2 วันแรก ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าและถึงใช้สบู่เหลวสมุนไพรหรือเจลล้างหน้า เพื่อลดความตึงของผิวพร้อมกับทาซีรัมหรือดร.สาโรช เฮอร์เบิล รีทัช ครีมหรือใช้น้ำนมสเตอริไรซ์ เพื่อลดอาการระคายเคืองลงแล้วถึงกลับมาใช้ชุดทาฝ้าอีกครั้ง

 

 

ดิฉันมีปัญหาหน้าเป็นกระ ผิวแห้งกร้านและเริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่น โดยเฉพาะเวลายิ้ม จะเห็นรอยตีนกาชัดเจนมาก ทั้งๆ ที่เพิ่งอายุ 27 ปี ไม่ทราบว่ามีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้างคะ
 
กระนั้นเป็นความผิดปกติของผิวหน้าถาวร ไม่สามารถทำให้หายขาดได้ แต่ทำให้จางลงไปได้ โดยใช้ชุดทาฝ้าของ ดร.สาโรช เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องปัญหาฝ้าแล้ว ยังทำให้กระจางหายไป ผิวหน้าคุณจะขาวสดใส ไม่มีกระมารบกวนสายตา ประมาณ 5-6 เดือน จากนั้นก็จะเริ่มเห็นกระจางๆ ขึ้นมาอีกครับ ส่วนปัญหาริ้วรอย ถ้าเทียบกับอายุของคุณที่เพิ่งจะ 27 ปี ถือว่ายังไม่มาก สามารถแก้ไขได้ครับ โดยใช้ครีมถนอมผิวที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์มากเป็นพิเศษทุกๆ วัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า และทาไฮอีในบริเวณที่มีริ้วรอย จะช่วยเสริมการบำรุงผิวหน้า และจับอนุมูลอิสระไม่ให้ทำอันตรายองค์ประกอบภายในเซลล์ผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ถ้าคุณปฏิบัติได้อย่างนี้ทุกวันรับรองว่าผิวหน้าคุณจะสวยสดใส ดูอ่อนกว่าวัยแน่นอนครับ.
 
 
 
ดิฉันเป็นคนผิวแพ้ง่ายมาก ใบหน้าเป็นสิวเยอะ และชอบบีบแกะตลอดเวลาจนหน้าเป็นหลุม ไม่เรียบ มีรอยแผลเป็น รูขุมขนใหญ่ ไม่ทราบจะใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดไหนดี และมีวิธีแก้ไขอย่างไรคะ
 
ผมเข้าใจว่าคุณคงเป็นสิวที่เรื้อรังมานาน ผิวหน้าจึงไม่เรียบ และปัจจุบันยังคงเป็นสิวอยู่ ที่สำคัญคือมีผิวหน้าที่แพ้ง่าย ผมขอแนะนำให้ใช้ครีมฟื้นฟูสภาพผิว เพื่อป้องกันอาการแพ้ ร่วมกับชุดทาสิวทั้งชุด คือล้างหน้าด้วยสบู่เหลวผสมสมุนไพร สำหรับผิวแห้งและบอบบาง แล้วทาครีมฟื้นฟูสภาพผิวให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นทาสมุนไพรสกัดให้ทั่วใบหน้า ตามด้วยโลชั่นทาสิว และแต้มหัวสิวด้วยครีมทาสิว ครีมทาสิวจะช่วยให้หัวสิวแห้ง หลุดออกมาโดยไม่มีรอยแผลเป็น โลชั่นทาสิวและสมุนไพรสกัดจะช่วยให้ใบหน้าลดความมันลง พร้อมกับมีการผลัดเซลล์ คือเซลล์ผิวชั้นนอกหลุดออกไป เซลล์ผิวชั้นในแบ่งตัวมาแทนที่ เป็นผลให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเนียนเรียบ ไร้ร่องรอยของหลุมจากหัวสิว
 
 
 
ปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องของใบหน้าสักเท่าไหร่จนกระทั่ง ผมไปชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เวลาคุยกับเขาผมรู้สึกอาย ไม่ค่อยมั่นใจ ไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ เพราะใบหน้าผมจะมี สิวเสี้ยน และสิวหัวดำมาก พอดีมีเพื่อน (ผู้หญิง) ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดร.สาโรช เขาบอกว่าดี เพราะเมื่อก่อนเขาเป็นฝ้าบางๆ ตรงโหนกแก้ม ตอนนี้หายไปหมดแล้ว ผมเลยอยากใช้ดูบ้าง แต่ไม่ทราบจะใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดใด เพื่อให้หน้าดูดีขึ้น ขอความกรุณาท่าน ดร.สาโรช ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ
 
ถ้ากรณีที่เป็นสิวเสี้ยนและสิวหัวดำอย่างเดียว ให้ใช้สบู่เหลวผสมสมุนไพร สำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันทำความสะอาดผิวหน้า ตามด้วยสมุนไพรสกัด และโลชั่นทาสิวทาบางๆ ให้ทั่วใบหน้า สิวเสี้ยนก็จะหายไปในที่สุด สำหรับผู้ที่เป็นทั้งสิวเสี้ยน สิวหัวดำ และสิวอักเสบ ควรใช้ชุดทาสิวทั้งชุดครับ
 
 
 
หนูอายุ 20 ปี ไม่มีปัญหาเรื่องสิว-ฝ้า แต่อยากให้ใบหน้าสดใส นวลเนียน ไม่ทราบว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ชุดไหนดีคะ เพราะมีเพื่อนหลายคนที่ทักว่าใบหน้าดูหมองคล้ำ ทำให้รู้สึกเป็นกังวลมาก รบกวนท่าน ดร.สาโรช ช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ
 
ถ้าผิวหน้าเนียนเรียบอยู่แล้ว ไม่เป็นทั้งสิวและฝ้า ควรใช้ชุดบำรุงผิวทั้งชุด คือบำรุงผิวหน้าด้วยครีมถนอมผิวร่วมกับไฮอี ผิวส่วนอื่นๆ บำรุงด้วยโลชั่นทาผิวสมุนไพร และอย่าลืมก่อนออกแดดทุกครั้ง ให้ใช้โลชั่นกันแดดทาให้ทั่วใบหน้า ผลิตภัณฑ์ทุกตัวทาแล้วสามารถแต่งหน้าทับได้เลย การบำรุงผิวด้วยเครื่องสำอางที่ดีและทำอย่างถูกวิธีจะทำให้ผิวสาวอยู่คู่คุณ ได้นาน ริ้วรอยเหี่ยวย่นต่างๆ ก็จะมาเยือนช้าลง ช่วยให้คุณดูสาวอยู่เสมอ สำหรับผู้ไม่เป็นทั้งสิวและฝ้า แต่หน้ายังไม่ขาวใส เนียนเรียบ หรือมีรูขุมขนใหญ่ ทำให้แลดูผิวหน้าหยาบกร้าน คงต้องผลัดเซลล์ผิวใหม่ด้วยชุดทาฝ้า หลังเซลล์ผิวหน้าเดิมหลุดออกไป เซลล์ใหม่มาแทนที่ ผิวก็จะเรียบเนียน ขาวสดใสเป็นธรรมชาติ จากนั้นให้ใช้ชุดบำรุงผิวตามคำอธิบายข้างต้นครับ
 
 
 
ใบหน้าดิฉันมีปัญหาเป็นฝ้าบางจุด ถ้าใช้ชุดทาฝ้าเฉพาะจุดที่เป็นฝ้าแล้วบริเวณอื่นๆ ใช้ชุดบำรุงไปพร้อมกันได้ไหมคะ และถ้าหยุดใช้จะกลับมาเป็นอีกหรือเปล่า ถ้าใช้ไปเรื่อยๆ ไม่ทราบว่าจะมีผลเสียอย่างไรคะ
 
ไม่ควรทาชุดทาฝ้าเฉพาะจุดที่เป็นฝ้า ควรทาทั้งใบหน้า เพราะหลังจากหายเป็นฝ้าแล้วผิวจะได้ขาวเนียนเรียบสม่ำเสมอทั่วทั้งใบหน้า และที่ถามผมว่าถ้าหยุดใช้จะกลับมาเป็นอีกหรือเปล่านั้น ผมขอตอบว่าเครื่องสำอางสมุนไพรชุดทาฝ้าของ ดร.สาโรช ไม่มีสารเคมีหรือสมุนไพรประเภทระงับการสร้างเม็ดสีผิวด้วยการยับยั้งการทำ งานของเอ็นไซม์ไทโรซิเนส (ซึ่งจำเป็นสำหรับเร่งปฏิกิริยาสร้างเม็ดสีผิว) เช่น ไฮโดรควิโนนและอาร์บูติน เป็นต้น เครื่องสำอางพวกนี้หยุดใช้เมื่อไรหน้าก็จะดำคล้ำ ถ้าใช้ต่อเนื่องหน้าก็จะดำคล้ำอย่างถาวรในที่สุด เครื่องสำอางชุดทาฝ้า ดร.สาโรช ประกอบด้วยสมุนไพรที่ช่วยให้ฝ้าที่ฝังตัวอยู่ใต้ผิวหนังกำพร้าหลุดลอกออก และช่วยให้การสร้างเม็ดสีผิวของบริเวณที่เป็นฝ้ากลับคืนสภาพปกติ ดังนั้นเมื่อหายจากเป็นฝ้าแล้วก็จะไม่กลับมาเป็นฝ้าอีกต่อไปครับ
 
 
 
ดิฉันรู้สึกประทับใจในผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดร.สาโรช มาก เพราะจากหน้าที่เคยเป็นสิวและฝ้า ตอนนี้หน้าขาวสดใสจนเพื่อนๆ ประหลาดใจและได้แนะนำให้เพื่อนใช้ ซึ่งได้ผลดีมากค่ะ แต่ก่อนที่หน้าจะสวยบางคนมีปัญหาที่ว่า ตอนฝ้ากำลังจะหลุดลอก บริเวณที่เป็นฝ้าจะมีลักษณะดำเด่นชัดขึ้นกว่าเดิม บางคนก็จะมีอาการเป็นผื่นเม็ดเล็กๆ และคัน ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ
 
ฝ้านั้นจะฝังตัวอยู่ระหว่างหนังกำพร้าและหนังแท้ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ทาฝ้าของ ดร.สาโรช ผิวชั้นหนังกำพร้าจะค่อยๆ หลุดลอกออกเป็นขุยเล็กๆ ทีละน้อย เซลล์ผิวใหม่จะแบ่งตัวมาแทนที่ ดันเซลล์ผิวที่เป็นฝ้าขึ้นมาจึงทำให้บริเวณที่เป็นฝ้าฝังตัวอยู่เห็นฝ้าเด่น ชัดขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดเมื่อถึงจุดที่ฝ้าฝังตัวอยู่ฝ้าก็จะหลุดออกไป ใบหน้าก็จะกลับมาเนียนขาวสวยเหมือนเดิม ดังนั้นคุณอย่าเพิ่งตกใจ ที่จริงควรจะ ดีใจ เพราะถือเป็นอาการที่บ่งบอกว่าความสวยกำลังจะมาเยือนแล้ว และอาการระคายเคืองดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง และผ่านการใช้สารเคมีมาเยอะ ถ้ามีอาการดังกล่าวควรหยุดใช้สัก 2-3 วัน ถึงเริ่มทาใหม่บางๆ หรือทาครีมฟื้นฟูสภาพผิว หรือซีรัม ให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วทาตามด้วยครีมทาฝ้า อาการระคายเคืองก็จะทุเลาและหายไปในที่สุดครับ