Vite Perfecta (ไวท์เพอร์เฟคต้า) โฉมใหม่
""รับสมัครตัวแทนจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ""
ปฏิบัติการความขาวทั่วเรือนร่างผลลัพธ์เกิดขึ้นภายใน 7 วัน
ความขาวกระจ่างใส หรือความหมองคล้ำของผิว เกิดขึ้นจากการผลิตเม็ดสีผิว ของเมลาโนไซต์ ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานผลิตเม็ดสีผิว โดยปกติเมลาโนไซต์ จะผลิตเม็ดสีผิวให้กับผิวที่กำเนิดใหม่ในอัตราปกติ ซึ่งเป็นสีผิวธรรมชาติของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไปตามพันธุกรรม ซึ่งนั่นคือสีผิวแรกของเรา ซึ่งจะมีการกระจายตัวของเม็ดสีผิว สม่ำเสมอ ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส ไม่กระดำ กระด่าง
แต่เมื่อผิวของเรามีอายุมากขึ้นจะมีความหมองคล้ำ เนื่องมากจากเมลาโนไซต์ ถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีผิวที่เกินจำเป็น จากปัจจัยหลายประการทั้งภายในและภายนอก และการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวชั้นนอกของเราช้าลง ก็จะยิ่งทำให้ผิวแลดูหมองคล้ำไม่สดใส
โปรแกรมดูแลผิวด้วย ไวท์ เพอร์เฟคต้า คือ นวัตกรรมของการดูแลร่างกายไปพร้อมๆ กับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับการพัฒนาให้ส่งเสริมประสิทธิภาพในการชะลอการผลิตเม็ดสีผิวที่มากเกินความจำเป็นของเมลาโนไซต์ และช่วยส่งผ่านเม็ดสีผิวที่ผลิตขึ้นให้เกิดการกระจายตัวได้สม่ำเสมอมากขึ้น ผิวจึงแลดูขาวกระจ่างใสได้ใน 7 วัน
ส่วนประกอบสำคัญของ ไวท์เพอร์เฟคต้า คือ แอล-กลูต้าไธโอน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าสามารถช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสได้อย่างปลอดภัย พร้อมด้วยพลังของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ได้จากสารสกัดจากทับทิม มะเขือเทศ เปลือกสน และเมล็ดองุ่น ช่วยให้ผิวของคุณ มีความกระชับ ยืดหยุ่น และมีภูมิต้านทานสูงขึ้น ทำให้เมลาโนไซต์ ถูกกระตุ้นการผลิตเม็ดสีผิวได้น้อยลง
ผลิตภัณฑ์ ไวท์เพอร์เฟคต้า ได้รับการตรวจสอบ และขึ้นทะเบียน จากคณะกรรมการอาหารและยา เรียบร้อยแล้ว คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่า ไวท์เพอร์เฟคต้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อการบริโภค
ผู้ใช้กว่า 85% จะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลง ภายใน 7 วันและ 100% จะเห็นผลลัพธ์ภายใน 14 วัน
ผลิตตามมาตรฐาน GMP,
( อ.ย. ) รับรอง เลขทะเบียน อ.ย. 12-1-08152-1-0021
วิธีรับประทาน
เพียงวันละ 1 แคปซูบ ก่อนนอน และดื่มน้ำระหว่างวัน 12-15 แก้ว ต่อเนื่อง 7 วัน หลังจากนั้น เพียง วันเว้นวัน ก่อนนอน เพื่อรักษาระดับสีผิวให้สม่ำเสมอ
ส่วนประกอบที่สำคัญ ทั้งหมด 11 ชนิด ของ Vite Perfecta (ไวท์เพอร์เฟคต้า)
- คอลลาเจน เปปไทด์ (Collagen Peptide) 500 มก.
- แอลกลูต้าไธโอน (L-Glutathione) 150 มก.
- สารสกัดจากทับทิม (Pomegramate Extract) 100 มก.
- วิตามิน ซี (Viamin C) 60 มก.
- อัลฟาไลโปอิค (Alpha Lipoic Acid) 50 มก.
- โคเอนไซม์ คิว เท็น (Coenzyme Q10) 29 มก.
- สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) 25 มก.
- สารสกัดจากมะเขือเทศ (Tomato Extract) 25 มก.
- สารสกัดจากเปลือกสน (Pine Bark Extract) 25 มก.
- ซิงค์ อมิโน แอชิด คีเลต (Zinc Amino Acid Chelate) 20 มก.
- วิตามิน อี (d-alpha tocopherol) 10 มก.
น้ำหนักสุธิ 994 มก.
1. คอลลาเจน เปปไทด์ ( Collagen Peptide )
คอลลาเจนที่ผ่านระบบการย่อยด้วยเอนไซม์จนมีโมเลกุลที่เล็กมาก ส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วพร้อมประสิทธิภาพที่ได้รับอย่างเต็มที่ มากกว่าคอลลาเจนในรูปแบบอื่น หน้าที่ของคอลลาเจน
ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น และรักษาไว้ซึ่งความชุ่มชื้นให้กับผิว
2. แอลกลูต้าไธโอน ( L-Glutathione )
เป็นกรดอะมิโนที่สำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกระ, ฝ้า และจุดด่างดำ นอกจากนี้พบว่าผู้ที่มีสภาพการทำงานของตับบกพร่อง
ผู้ที่ทานแอลกอฮอล์เป็นประจำ รวมทั้งผู้ป่วยโรคตับอักเสบและตับแข็ง จะพบ L-Glutathione (แอลกลูต้าไธโอน)ในตับมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ประโยชน์ได้
จำเป็นต้องได้รับเสริมเข้าไปโดยตรงจากแหล่งอาหารอื่นๆ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์บางชนิด รวมทั้งที่อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วย
3. สารสกัดจากทับทิม ( Pomegramate Extract )
ทับทิม เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วย สารอาหารนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน เกลือแร่ และ โดยเฉพาะสารกลุ่ม โพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญ มีคุณสมบัติเป็น สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงจึงมีการศึกษาถึงผลประโยชน์นี้ต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ และผลการวิจัย สนับสนุนว่ามีประโยชน์ต่อ สุขภาพมากมาย
สำหรับผิว ช่วยยับยั้งการสร้าง เม็ดสี เมลานิล ทำให้ผิว ขาว ใส ขึ้น สามารถ กระตุ้น การสร้าง คอลลาเจน ใน ผิวได้ ทำให้ผิวพรรณ เนียน ใส
4. วิตามิน ซี ( Viamin C )
มีประโยชน์มากมากหลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยปกป้องเซล เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับ เส้นเอ็น และคอลลาเจน ก็มีผลมาจากปริมาณวิตามินซี ในร่างกาย
วิตามินซี ยังมีฤทธิ์ในการเป็นสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่ดี จึงสามารถป้องกันการทำลายเซลจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และมันช่วยให้ร่างกายสามารถรีไซเคิลสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ
แหล่งอาหารที่พบวิตามินซีมาก ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว สตรอเบอรี่ เชอรี่ สับปะรด ฝรั่ง มะขามป้อม มะเขือเทศ ผักต่างๆ เช่น ผักโขม ตำลึง คะน้า พริก และกะหล่ำปลี เป็นต้น
5. อัลฟาไลโปอิค ( Alpha Lipoic Acid )
หน้าที่หลักของกรดอัลฟาไลโปอิคคือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกลูตาไธโอน ซึ่งมีหน้าที่ขจัดสารพิษในตับ กรดอัลฟาไลโปอิคนั้นดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ง่าย
พบได้มากในผักและเนื้อสัตว์ เนื่องจากกรดอัลฟาไลโปอิคสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน
สามารถไปเลี้ยงเซลล์ได้ทุกส่วน ความสามารถอันยอดเยี่ยมนี้ทำงานได้เองภายในเซลล์เพื่อช่วยกำจัดสารพิษที่อยู่ในร่างกาย และยังต่อต้านการอักเสบอันเป็นเหตุให้เกิดสิว ช่วยรักษาการอักเสบไม่ให้สิวนั้นอักเสบลุกลามมากไป
6. โคเอนไซม์ คิว เท็น ( Coenzyme Q10 )
Coenzyme Q10 (CoQ10) คืออะไร ?
โคเอนไซม์ คิวเทน หรือ โคคิว 10 หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ยูบิควิโนน (Ubiquinone) เป็นสารคล้ายวิตามินที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์ อันจะส่งผลให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
ช่วยลดริ้วรอยและชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น ส่งผลให้หัวใจดีขึ้น ความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงลดลง ได้รับจากอาหารประเภทต่าง ๆ ได้แก่ เนื้อปลา เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง ธัญพืชที่ไม่ขัดสี ผักอย่างปวยเล้งและบรอกโคลี
7. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ( Grape Seed Extract )
เป็นสารที่มีประสิทธิภาพมาก มันเป็นองค์ประกอบของพืชธรรมชาติ (bioflavonoid) ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งและปกป้องเซลผิว
สารสกัดเมล็ดองุ่น หรือ OPC นี้ยังพบในเปลือกต้นมะนาว ถั่วลิสง เชอรี่ เปลือกส้ม เปลือกและเมล็ดองุ่น (สีแดงจะมีมากกว่า)
ในประเทศทางยุโรป เช่น ฝรั่งเศสจะใช้สารสกัด OPC จากเมล็ดองุ่นและเปลือกต้นสนที่อุดมด้วยวิตามินซีมาใช้เป็นยารักษาโรค
8. สารสกัดจากมะเขือเทศ ( Tomato Extract )
เนื่องจากในมะเขือเทศมีสารไลโคปีน ซึ่งจัดเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง แคโรทีนอยด์นี้เป็นเม็ดสีธรรมชาติที่ละลายในไขมันซึ่งให้สีเหลืองสด ส้ม แดง และเขียวสดกับผัก ผลไม้ อย่างเช่น แครอท ฟักทอง บร็อคโคลี่ ฯลฯ
คุณสมบัติช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้อนุมูลของเซลล์ในร่างกายมีอนุภาคเป็นกลาง ช่วยหยุดยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งเจ้าไลโคปีนนี้จัดว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่สุด และช่างบังเอิญเสียจริงที่มะเขือเทศนั้นมีไลโคปีนอยู่มากเหนือกว่าแตงโม เกือบสองเท่า นั่นเท่ากับว่าหากเรากินมะเขือเทศเป็นประจำ ก็จะช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระได้ไม่น้อยเลยทีเดียว มันจะช่วยชะลอความแก่ชรา และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บอย่างเช่น มะเร็ง หรือโรคหัวใจได้
9. สารสกัดจากเปลือกสน ( Pine Bark Extract )
ในที่นี้หมายถึง เปลือกของต้นสนมาริไทม์ในประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง (Super Antioxidation)เเละยังเสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามิน C เเละวิตามิน E ช่วยป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา รวมทั้งปัจจัยภายนอกต่างๆ อันเป็นสาเหตุของความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น หลอดเลือด หัวใจ ดวงตา ผิวหนัง รวมไปถึงระบบประสาท
10. ซิงค์ อะมิโน แอซิค คีเลต (Zinc Amino Acid Chelate)
แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อยแต่ไม่สามารถขาดได้ พบมากในผม เล็บ อัณฑะ กระดูก กล้ามเนื้อและ ตับ เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ในร่างกายมากกว่า 300 ชนิด เพื่อช่วยให้ร่างกายทำหน้าที่ได้เป็นปกติ
นอกจากนี้ยังมีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกัน การสมานแผล และประโยชน์อื่นๆ ต่อร่างกายอีกมากมาย แหล่งอาหารที่สำคัญของสังกะสี: หอยนางรม เนื้อสัตว์ อาหารทะเล จมูกถั่วเหลือง ไข่แดง ธัญพืชและถั่วต่าง ๆ
11. วิตามิน อี ( d-alpha tocopherol )
เป็นวิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน วิตามินอี (Vitamin E) ยังมีอีกชื่อเรียกอีกอย่างว่า โทโคฟีรอล(tocopherol) วิตามินอีจะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เล็กได้ต้องอาศัยพวกเกลือน้ำดีและไขมันช่วยในการดูดซึมวิตามินอีในร่างกายมักสะสมตามกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อไขมัน ส่วนเนื้อเยื่ออื่นๆ จะมี วิตามินอีอยู่เพียงเล็กน้อย
บทบาทที่สำคัญของ วิตามินอี (Vitamin E) คือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลว รักษาสุขภาพของหัวใจ เป็นต้น