.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :1/10/2012
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :18/9/2013
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :370078


มีเชฟ ลดน้ำหนักลดเร็วลดด่วนต้องมีเชฟ โฉมใหม่
มีเชฟ ลดน้ำหนักลดเร็วลดด่วนต้องมีเชฟ โฉมใหม่

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า / บริการ : มีเชฟ ลดน้ำหนักลดเร็วลดด่วนต้องมีเชฟ โฉมใหม่
รหัสสินค้า :000089
วันที่ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด : 9/6/2013
ราคาสินค้า(ปกติ) : 1,600.00
ราคาพิเศษ : 790.00
ค่าขนส่ง/ชิ้น : -
สถานะสินค้า : สินค้ามาใหม่
 ระบุความต้องการเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้ก่อนหยิบสินค้าลงตระกร้า
* [สินค้าคงเหลือ 0 ชิ้น]    QTY :

Mee Shape (มีเชฟ) โฉมใหม่

แล้วคุณล่ะ มีเชฟ แล้วหรือยัง

มีเชฟ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญ และลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ หลากหลายชนิด เช่น สารสกัดจาก ส้มแขก สารสกัดจาพริก และชาเขียว   

ผลิตตามมาตรฐาน GMP,

( อ.ย. ) รับรอง เลขทะเบียน อ.ย. 12-1-08152-1-0007

วิธีรับประทาน

วันละ 1-2 แคปซูลก่อนอาหารเช้าอย่างน้อย 15-30 นาที  ควรดื่มน้ำในวันละ 12-15 แก้วเพื่อช่วยในการเผาผลาญ และขับของเสียออกจากร่างกาย จะทำให้เห็นผลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ข้อแนะนำระหว่างทานมีเชฟ

1.ควรทานน้ำตามมากๆ 2.5-3 ลิตรขึ้นไป/วัน
2.ทานมีเชฟ ตามเวลาอย่างสม่ำเสมอ หากลืมทานให้ทานในขณะท้องว่าง
3.ทานอาหารให้ครบ มื้อ ทานมื้อเช้าอิ่ม มื้อกลางวันให้พอดี แต่มื้อเย็นทานให้น้อยลง
4.ควรระมัดระวังการรับประทานอาหารประเภทแป้ง,ไขมัน และลดปริมาณลง ปรับเปลี่ยนมาทานผักผลไม้และโปรตีนให้เพรียงพอ
5.ไม่ทานควบคู่กับนม/อาหารและเครืองดื่มที่เป็นกรด
6.หากออกกำลังกายร่วมด้วยจะช่วยลดได้ดีมากขึ้นค่ะ
7.หากเกิดอาการแพ้ให้หยุดทานทันทีแล้วทานน้ำตามมากๆ

 

คล็ดลับวิธีรับประทานมีเชฟให้ได้ผลสูงสุด

ให้รับประทาน 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า 15-30 นาที
แนะนำทานกาแฟลดนำหนักมีแอล ควบคู่ด้วย วันละ ซอง หลังอาหารกลางวัน จะช่วยให้ไม่หิวจุบจิ๊บ


กรณี ลดเร่งด่วนหรือผู้ต้องการลดมากกว่า 10 กก. ให้รับประทานในช่วง สัปดาห์แรกวันละ เม็ด จากนั้นสัปดาห์ที่สอง พอร่างกายปรับตัวได้ค่อยเพิ่มขนาดเป็น เม็ด โดยให้รับประทาน 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า 15-30 นาที และควรทานน้ำตามมากๆ

(การทานในช่วงอาหารเย็นอาจทำให้นอนไม่หลับได้)

!! ผลที่ได้รับจากการทานอาหารเสริม มีเชฟ อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้วแต่บุคคล !!

ส่วนประกอบที่สำคัญ ทั้งหมด 9 ชนิด ของ Mee Shape (มีเชฟ)

  1. สารสกัดจากโสม ( Ginseng Extract  ) 100 มก.
  2. อล-คาร์นิทีน แอล-ทาเทรท (L-Carnitine L-tartrate100 มก. (ให้ อล-คาร์นิทีน 68.2 มก.)
  3. สารสกัดจากส้มแขก 75เอช ซี เอ (Garcenia Extract 75% HCA) 100 มก.
  4. ผงชะเอมเทศ (Glycyrrhiza Glabra Powder75 มก.
  5. สารสกัดจากพริก (Capsicum Extract) 60 มก.
  6. โคเอนไซม์ คิว เท็น (Coenzyme Q1029 มก.
  7. สารสกัดจากกระบองเพชร (Cactus Extract) 25 มก.
  8. สารสกัดจากขิง (Ginger Extract) 20 มก.
  9. โครเมียม อมิโน แอชิด คีเลต (Choromium Amino Acid Chelate) 1 มก. (ให้ โครเมียม 20 ไมโครกรัม)

น้ำหนักสุธิ 550 มก.

1. สารสกัดจากโสม ( Ginseng Extract )

อาหารเสริม โสม (Ginseng

เป็น พืชสมุนไพรชนิดหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่า 5,000 ปีมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชนชาวจีน, ญี่ปุ่น, และเกาหลี มีความเชื่อกันว่า รากโสมสามารถรักษาได้สารพัดโรค สารสกัดจากโสมมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ช่วยต้านความเครียด ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและช่วยชะลอความแก่

Ginseng Extract for Skin

สารสกัด จากโสม ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต พร้อมนำพาออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ผิว และถ่ายเทของเสียออกจากเซลล์ผิว ลดการอุดตันและการสะสมของเสียภายใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง

Ginseng Extract for Men

สารสกัด จากโสมมีสรรพคุณในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตไปยังส่วนต่างๆในร่างกายได้ อย่างดี ช่วยให้เนื้อเยื่อแข็งแรง ช่วยให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กระบวนการเผาพลาญในร่างกายเพิ่มขึ้น ให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แข็งแรง  ลดอาการอ่อนเพลีย  รวมทั้งในโสมยังมีองค์ประกอบที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่า “ไฟโตรแอนโดรเจน” ที่ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย

2. แอล-คาร์นิทีน แอล-ทาเทรท (L-Carnitine L-tartrate)

แอล-คา ร์นิทีน เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายได้รับจาก 2 ทางคือ ร่างกายสามารถสร้างเองได้ และได้รับจากการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์

 คน เอเชียจะพบแอล-คาร์นิทีน ในร่างกายน้อยกว่าคนยุโรป เนื่องจากเนื้อสัตว์ที่รับประทานส่วนใหญ่เป็นสีขาว ซึ่งมีปริมาณ แอล-คาร์นิทีน น้อยกว่าเนื้อสัตว์ชนิดสีแดง

แอล-คา ร์นิทีน ทำหน้าที่นำากรดไขมันเข้าไปเผาผลาญเป็นพลังงานให้แก่ร่างกาย  ดังนั้นถ้าหากร่างกายได้รับ แอล-คาร์นิทีน ไม่เพียงพอ การเผาผลาญพลังงานก็จะลดลง และจะทำให้ไขมันถูกสะสมในร่างกายมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มีอาการปวดเมื่อย อ่อนแรง และที่สำคัญคือโรคอ้วน

การ ได้รับแอล-คาร์นิทีนเสริมเข้าไป เพื่อให้ร่างกายนำไปเผาผลาญเป็นพลังงาน และเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมในปัจจุบันนี้ แอล-คาร์นิทีนมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น การควบคุมน้ำหนัก ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ภาวะผู้มีบุตรยากในเพศชาย การออกกำลังกาย เล่นกีฬา ระบบการเผาผลาญพลังงาน ฯลฯ

3. สารสกัดจากส้มแขก 75% เอช ซี เอ (Garcenia Extract 75% HCA)

มีสารสกัดสำคัญที่ชื่อว่า กรดไฮดรอกซีซิติกช่วยยับยั้งกระบวนการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน และยังช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย

ผลส้มแขก (Garcenia Cambogia)

เป็น พืชพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย นิยมนำมาประกอบอาหาร ลักษณะของผลส้มแขก จะคล้ายฟักทองขนาดเล็ก มีมากทางภาคใต้ ซึ่งมีการนำมาปรุงเป็นอาหารโดย ใช้เพิ่มรสเปรี้ยวให้อาหาร…

ได้มีการค้นคว้าพบว่า ผล ส้มแขก มีสาร HCA หรือ Hydroxy-citric acid อยู่เป็นจำนวนมาก โดยพบว่า HCA นี้มีคุณสมบัติในการยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกาย และลดความอยากอาหารได้ จึงได้มีบางคนนำผลส้มแขกมาใช้ในการควบคุมน้ำหนัก

กลไก การออกฤทธิ์ของ HCA จะออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ ATP Citrate Lyase ในวงจร Kreb’s cycle (วงจรการย่อยสลายกลูโคส ของเซลร่างกาย) ทำให้ยับยั้งการนำน้ำตาล จากอาหารประเภท แป้ง ข้าว และน้ำตาล ไม่ให้เปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามร่างกายแต่จะนำไปใช้เป็นพลังงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่นไม่อ่อนเพลีย และ เมื่อในกระแสเลือดไม่ขาดน้ำตาล ก็จะทำให้ความรู้สึกหิวอาหารลดลง ไปด้วย ขณะเดียวกัน ก็ จะนำไปสะสมเป็นพลังงานสำรองในรูปของไกลโคเจนที่ตับ ทำให้ร่างกายรับรู้ว่ามีพลังงานสำรองเพียงพอ ทำให้ไม่รู้สึกหิวมาก นอกจากนี้ ยังมีผลไปกระตุ้น ให้มีการดึงเอาไขมันที่สะสมออกมาใช้เป็นพลังงานทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ลดลง ซึ่งจะมีผล ทำให้รูปร่างดีขึ้น

จาก การนำสารสกัดจากผลส้มแขกมารับประทานเพื่อให้น้ำหนักลดลง พบว่าน้ำหนักตัวอาจจะไม่ลดลงเร็วมากนัก ประมาณ 1 กิโลภายใน 3-4 อาทิตย์ แต่รูปร่างจะดีขึ้น เอว(พุง) ลดลง ความอึดอัดลดน้อยลง เนื่องจากไขมันมีน้ำหนักเบากว่ากล้ามเนื้อ ( แต่ถ้าร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อก็จะเกิดการอ่อนแอและโรคแทรกซ้อนได้ง่าย)

ขณะ ที่ใช้สารสกัดจากส้มแขก คุณสามารถ รับประทานอาหารได้ตามสมควร แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันลงบ้าง และเมื่อความรู้สึกหิวน้อยลงจากการที่ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเพียงพอ แล้วจะทำให้ นิสัยการกินอาหารจุๆ จำนวนมากก็จะค่อยๆ ลดลง และไม่กลับมาอ้วนใหม่

ผล ส้มแขก จนถึงบัดนี้ ยังไม่พบผลข้างเคียงหรืออันตรายที่เกิดขึ้นจากการรับประทานตามขนาดที่แนะนำ แต่ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก ด้วยวิธีใด การปรับเปลี่ยน พฤติกรรมในการกินอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ได้ผลเร็วและปลอดภัยกว่ายาใดๆ ทั้งหมด

4. ผงชะเอมเทศ (Glycyrrhiza Glabra Powder)

ชะเอมเทศ (Glycyrrhiza glabra L.) หรือ Licorice

เป็น สมุนไพรที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย สรรพคุณพื้นบ้านใช้รากเป็นยาขับเสมหะทำให้ชุ่มคอ แก้ไอ แก้น้ำลายเหนียว แก้คอแห้ง ขับลม แก้คัน บำรุงร่างกาย ขับเลือดเน่า และเจริญซึ่งหทัยวาตให้สดชื่น เนื่องจากรากของชะเอมเทศพบสารสำคัญคือสาร glycyrrhizin (หรือ glycyrrhizic acid หรือ glycyrrhizinic acid) และ 24-hydroxyglyrrhizin ซึ่งสารเหล่านี้ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 50 – 100 เท่า รากชะเอมจึงถูกนำไปแต่งรสอาหาร ปรุงยาสมุนไพร หรือใช้เป็นแต่งรสหวานในขนมและลูกอม

มี รายงานว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์จากชะเอมเทศติดต่อกันนานๆ มีผลต่อความดันโลหิต โดยพบรายงานในหญิงอายุ 31 ปีที่รับประทานฝรั่งจิ้มผงชะเอมเทศ (asam boi) ครั้งละน้อยๆ จนถึง 3 ช้อนโต๊ะ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนาน 6 สัปดาห์ ชายสูงอายุวัย 70 ปี ที่รับประทานลูกอมชะเอมเทศวันละ 60 – 100 ก. (เม็ดละ 2.5 ก. พบ glycyrrhizic acid 0.3% ต่อเม็ด) ทุกวันเป็นเวลา 4 – 5 ปี หญิงสูงอายุที่รับประทานยาระบายที่มีส่วนผสมของชะเอมเทศ วันละ 2 ครั้ง (ได้รับ glycyrrhizic acid 94 มก./วัน) และหญิง 2 รายที่รับประทานหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของชะเอมเทศติดต่อกันทุกวัน (รับประทาน glycyrrhizic acid เฉลี่ยวันละ 50 มก.) ทุกรายถูกนำส่งโรงพยาบาลเนื่องจากมีค่าความดันโลหิตสูง (190 – 200/120 มม.ปรอท) ร่วมกับมีอาการปวดหัว อ่อนแรงตามข้อต่อ และเมื่อตรวจวัดค่าชีวเคมีในเลือดพบว่า ทุกรายมีปริมาณโพแทสเซียมต่ำ (hypokalemia) เกิดภาวะ hypermineralocotiodism (ทำให้ระดับ aldosterone เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายกักเก็บโซเดียมไว้มากขึ้น จนร่างกายมีน้ำเกิน เกิดอาการบวมและเพิ่มความดันโลหิต)และมีรายงานในอาสาสมัคร 37 คน ที่รับประทานยาสมุนไพรในประเทศญี่ปุ่น Shakuyaku-kanzo-To (SKT) หรือ Shosaiko-To (SST) ซึ่งส่วนผสมของชะเอมเทศขนาด 6 ก. และ 1.5 ก. ตามลำดับ พบว่ากลุ่มที่รับประทาน SKT เกิดภาวะ pseudoaldosteronism (ภาวะที่มีปริมาณฮอร์โมน aldoterone สูงกว่าปกติ) เฉลี่ยในวันที่ 35 หลังจากรับประทาน ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับ SST ผลจะแสดงออกในวันที่ 450 และเมื่อเทียบกับการรับประทานผลิตภัณฑ์อื่นจากชะเอมเทศที่มี glycyrrhizin พบว่าจะมีผลในวันที่ 210 โดยพบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณ glycyrrhizin ว่ามีผลต่อการเกิด pseudoaldosteronism อย่างมีนัยสำคัญ และพบว่ากว่า 80% ของผู้ที่รับประทานSKT ติดต่อกันนาน 30 วัน มีผลโพแทสเซียมในเลือดต่ำเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี จึงอาจกล่าวได้ว่าผู้สูงอายุที่รับประทาน SKTเกิน 30 วัน เสี่ยงต่อการเกิดโพแทสเซียมในเลือดต่ำได้

5. สารสกัดจากพริก (Capsicum Extract)

ไม่มีอะไรดีไปกว่า การเผาผลาญไขมัน จากพลังของสุดยอดสมุนไพรไทยที่เราเรียกกันว่า พริก

Capsicum Extract

ภายในพริกมีสารสำคัญที่ชื่อว่า แคปซิคัม (Capsicum) ซึ่งมีฤทธิ์ระคายเคืองต่อสัตว์เลี้ยงลูก

ด้วยนม จึงทำให้เกิดรสเผ็ดร้อนเมื่อรับประทานพริก โดยพบสารนี้ในเนื้อเยื่อของพริกสด มากกว่าในเมล็ด

ประโยชน์

มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันเก่า และลดการสะสมไขมันใหม่จากการรับประทานอาหาร

นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญอาหารโดยรวมของร่างกายดีขึ้นอีกด้วย

แหล่งที่พบ

ในเนื้อเยื่อของพริกสด

ปริมาณที่แนะนำต่อวัน

มิได้กำหนด

หน้าที่หลัก

+ เร่งการเผาผลาญไขมันเก่า

+ ลดอัตราการสะสมไขมันใหม่

+ ช่วยให้การเผาผลาญอาหารโดยรวมดีขึ้น

เคล็ดลับ

พริกมีถิ่นกำเนิดอยุ่ที่ประเทศ อินเดีย

ชาวอินเดียจึงผูกผันกับพริกมากว่า 5,000 ปีแล้ว

6. โคเอนไซม์ คิว เท็น (Coenzyme Q10)

Coenzyme Q10 (CoQ10) คืออะไร ?

เซลล์ เป็นโครงสร้างที่สำคัญมากที่สุดของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด แต่ละเซลล์มีองค์ประกอบและสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยการนำสารอาหารเข้าไปและเปลี่ยนสารอาหารให้กลายเป็นพลังงานเพื่อความอยู่ รอดของเซลล์นั้นๆ

ใน การสร้างพลังงานนั้นจะเกิดขึ้นบริเวณเซลล์ในส่วนที่เรียกว่า “ไมโตครอนเดรีย (Mitochondria)” ดังนั้นถ้าเซลล์ได้รับพลังงานไม่เพียงพอก็จะทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติ ตัวอย่างเช่น หากเซลล์หัวใจไม่ได้รับพลังงาน หัวใจก็ไม่สามารถที่จะทำงานได้ตามปกติ หรือหากเซลล์ผิวหนังไม่มีพลังงานก็จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ดังนั้นพลังงานระดับเซลล์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเรา เมื่อเรามองเห็นถึงความสำคัญของพลังงานระดับเซลล์แล้วก็จะเกิดคำถามว่าแล้ว เราจะทำให้มีการผลิตพลังงานระดับเซลล์ได้อย่างสมบูรณ์อย่างไร ซึ่งคำตอบคือ “โคเอ็นไซม์คิวเท็น”

CoQ10 เป็นสารซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในไมโตคอนเดรีย(Mitochondria) ซึงไมโตคอนเดรียนี้ ทำหน้าที่ผลิตพลังงานให้แก่เซลล์โดยพลังงานดังกล่าวจะอยู่ในรูป ATP(Adenosine triphosphate) ซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานของเซลล์ หน้าที่หลักของ CoQ10 คือช่วยในการเร่งปฏิกิริยาผลิตพลังงานภายในร่างกายทั้งหมด

Coenzyme Q10 (CoQ10) มีประโยชน์อย่างไร ?

ใน ปัจจุบันพบว่า CoQ10 มีประโยชน์อย่างมากทั้งในเรื่องของการเป็นสารที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆมากมาย (แต่ในที่นี้จะขอกล่างถึงเฉพาะประโยชน์ทางด้านความสวยความงาม)

โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด Cardiovascular disease

ภาวะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ (Congestive Heart Failure)

ความดันโลหิตสูง(Hypertension)

กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง, หัวใจโต (Cardiomyopathy)

มะเร็ง (Cancer)

ลดริ้วรอย ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง (Anti-aging/Skin care)

ผิว หนังมีหน้าที่ในการป้องกันสารพิษ เชื้อโรค และรังสีอัลต้าไวโอเลต(Ultraviolet) จากแสงอาทิตย์ โดยรังสีอัลตร้าไวโอเลตนี้มี 2 ชนิด คือ UVA และ UVB แต่ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดริ้วรอยจะเป็นรังสี UVA โดย UVA สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังถึงชั้นหนังแท้ และจะเริ่มต้นในการสร้างอนุมูลอิสระ (Free Radical) ซึ่งอนุมูลอิสระนี้เป็นผลิตผลที่เกิดขึ้นจากกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) อนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นนี้ก็จะทำอันตรายต่อไขมัน โปรตีน และสารพันธุกรรม(DNA) ในเซลล์ผิวหนัง รวมถึงทำให้เกิดการทำลายของ คอลลาเจน(Collagen) และโครงสร้างอื่นๆของผิวหนัง สูญเสียความยืดหยุ่น ขาดความกระชับเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ CoQ10 เป็นสารต้านออกซิเดชั่น (Antioxidant) โดยจะไปป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ที่จะทำให้อนุมูลอิสระซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนัง นอกจากนี้ CoQ10 พบมากที่ผิวหนังชั้นนอก(Epidermis)มากกว่าที่ผิวหนังชั้นใน(Dermis)ซึ่งเป็น ผิวหนังชั้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากรังสี UVA จึงเป็นข้อดีอีกประการที่จะช่วยขจัดอนุมูลอิสระ(Free radical) ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคล้ำ

นอก จากหน้าที่ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของผิวแล้ว Coenzyme Q10 คิวเท็นเปรียบเสมือนแหล่งผลิตพลังงานให้กับเซลล์ผิวหนัง หากเซลล์ผิวหนังได้รับพลังงานไม่เพียงพอก็จะทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติก็จะทำ ให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร

มี งานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลของ CoQ10 ต่อการลดริ้วรอยมากมายว่าสามารถทำให้ความลึกของริ้วรอยลดลง เช่นการศึกษาของ Gerson Unna พบว่าภายหลังที่กลุ่มทดลองได้รับ CoQ10 ในระยะเวลา 6 สัปดาห์ ริ้วรอยลดลงกว่า 27 % และเมื่อได้รับ CoQ10 ต่อไปเป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ริ้วรอยลดลงกว่า 43%

เหตุใดจึงต้องทาน Coenzyme Q10 คิวเท็น ในรูปของอาหารเสริม ?

แม้ ว่าเราสามารถสังเคราะห์ Coenzyme Q10 ได้เองที่ตับ ประกอบกับยังได้รับจากอาหารที่รับประทาน ซึ่งอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน เครื่องในสัตว์ ไข่ ถั่วเปลือกแข็ง ข้าวกล้อง และงา ซึ่งจะให้ Q10 สูง แต่ด้วยกระบวกการผลิต แปรรูป ปรุงอาหาร ด้วยความร้อน แสง และอากาศ จะทำให้ Q10 เสื่อมสลายไม่พอเพียงต่อความต้องการ แต่จะสร้าง Coenzyme Q10 จะมีปริมาณที่ลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มากกว่า 20ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ทำให้ปริมาณ โคเอนไซม์ Q10 ในร่างกายลดลงได้อีก เช่น ผลกระทบจากสภาพแวดล้อม การพักผ่อนไม่เพียงพอ การได้รับยา หรือสารเคมี แม้แต่ความเครียด ก็ล้วนแต่มีผลทำให้ปริมาณโคเอนไซม์ Q10 ในร่างกายลดลงทั้งสิ้น

7. สารสกัดจากกระบองเพชร  (Cactus Extract)

Cactus Extract

สารสกัดจากกระบองเพชร (Opuntia ficus indica L.) เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในแถบ

ทะเลทราย ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วง 5-10 ปีมานี้ เนื่องจากได้รับการรับ

รองจากงานวิจัยทางการแพทย์เพื่อสุขภาพและผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลดนำหนัก

มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

ประโยชน์

เนื่องจากเป็นพืชที่ให้ปริมาณไฟเบอร์สูงมาก จึงมีส่วนสำคัญในการช่วย

ควบคุมอาการอยากอาหาร (Appetite Control) และยังมีคุณสมบัติพิเศษ ที่จะเข้า

ไปจับกับโมเลกุลไขมันที่ลอยตัวอยู่เหนือกระเพาะอาหาร ทำให้ไขมันไม่สามารถถูก

ดูดซับเข้าไปทางผนังลำไส้เล็กได้ และจะถูกกำจัดออกจากร่างกาย โดย การขับถ่าย

นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ โดยมีกลไกที่ทำให้อาหาร

ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ช้าลง จึงช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้

แหล่งที่พบ

พบ กระบองเพชร มากมายในแถบทวีปที่มีทะเลทราย ร้อนระอุ

ปริมาณที่แนะนำต่อวัน

500 mg.

หน้าที่หลัก

+ ลดความอยากอาหารระหว่างมื้อ

+ กำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย

+ มีส่วนช่วยรักษาระดับนําตาลในร่างกาย

เคล็ดลับ

เพื่อประสิทธิที่ดีที่สุด ควรรับประทานก่อนอาหาร

อย่างน้อย 30 นาที

8. สารสกัดจากขิง (Ginger Extract)

Ginger Extract

สมุนไพรใกล้ตัว ที่ถูกลืม ช่วยขับลม ช่วยย่อย และ ประโยชน์อีกมากมายที่คุณอาจยังไม่รู้

ขิง เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรแห่งเกียรติยศและความภาคภูมิใจของชาวไทย ตั้งแต่สมัยอดีต

โดยสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาหาร หรือ นำมาใช้เป็นสมุนไพรให้ผลทางยา ก็ได้

ส่วนที่นิยมนำมาใช้เป็นสมุนไพรคือ เหง้าแก่สด

ประโยชน์

จึงมีส่วนช่วยในการ ขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร

กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และในบางตำราทางการแพทย์ยืนยันว่า ขิง มีส่วนช่วยในการ ยับยั้งการแพร่

กระจายของเซลล์มะเร็ง ได้อีกด้วย

แหล่งที่พบ

พบคุณค่าครบถ้วนตามที่คุณตามหาได้จาก ขิงคุณภาพดี ราคาแพง ชั้นนำทั่วไป หรือ ตามหาคุณค่าง่ายๆจาก WellUp C-Rum ทุกกล่อง

หน้าที่หลัก

+ ช่วยขับเหงื่อ ขับลม บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ

+ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

+ มีส่วนช่วยในการยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

เคล็ดลับ

ในทางยานิยมใช้ขิงแก่ เพราะขิงยิ่งแก่จะยิ่งเผ็ดร้อน

จะยิ่งมีใยอาหารมาก และจะยิ่งมีประสิทธิภาพสูง

9. โครเมี่ยม อะมิโน แอซิค คีเลต (Chromium Amino Acid Chelate)

เพิ่มการดูดซึมโครเมี่ยมให้ดูดซึมเร็วขึ้น 3-10 เท่า

Chromium Amino Acid Chelate

คือ โครเมี่ยม ที่ผ่านการคีเลชันโดยการจับเข้ากันกับ กรดอะมิโน เป็นกระบวนการที่แร่ธาตุถูกเปลี่ยน

ให้เป็นรูปที่่ย่อยและดูดซึมได้ จะเพิ่มการดูดซึมโครเมี่ยมได้ดีกว่าแบบไม่ผ่านการคีเลชั่น 3-10 เท่า

ประโยชน์

ช่วยป้องกันอาการขาดน้ำตาลและอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรง ทำงานเป็นเกราะป้องกันโรคเบาหวาน

และ ยังทำงานร่วมกับอินซูลินในกระบวนการเผาผลาญน้ำตาล และ ป้องกันความดันโลหิตสูง                                                                                                   

แหล่งที่พบ

พบได้ในเมล็ดธัญพืช ซีเรียล

ปริมาณที่แนะนำต่อวัน

130 ไมโครกรัม

หน้าที่หลัก

+ ทำงานร่วมกับอินนูลินในการเผาผลาญน้ำตาล

+ ทำงานเป็นเกราะป้องกันโรคเบาหวาน

+ ช่วยการเจริญเติบโต

+ ป้องกันอาการขาดน้ำตาลและอ่อนช้าหมดเรี่ยวแรง

เคล็ดลับ

โครเมียมทำงานร่วมกับ แอลคาร์นิทีน ในการช่วยเผาผลาญไขมัน และยังทำงานร่วมกับสารสกัดจากถั่วขาวในการควบคุมน้ำหนัก

  เปิดเว็บร้านค้าออนไลน์ฟรี หรือชอปปิ้งเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการอย่างสบายใจ  

Tag :  ลดน้ำหนัก ลดไขมัน ลดพุง ลดส่วนเกิน ลดหน้าท้อง มีเชฟ มีเชฟ2 มีชิววิ่ง มีชิ่ววิ่ง มีิเชฟใฟหม่