Znor ซีนอร์ บรรเทานอนกรน หยุดหายใจขณะนอนหลับ�อย.เลขที่ G 172/54
บรรเทาอาการนอนกรน และลดภาวะการหยุดหายใจในขณะนอนหลับ
นอนกรน...อันตรายถึงชีวิต....อันตรายใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
คุณรู้หรือไม่ว่า.. การนอนกรนอาจมีอันตรายถึงชีวิต...
ลองมาสำรวจตัวคุณเอง และคนใกล้ตัวของคุณว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่
o กรนเสียงดังและมีลักษณะติดขัด
o หายใจเฮือกหรือสำลักกรนระหว่างนอน
o นอนหลับในช่วงกลางวันมากเกินไป รู้สึกง่วงบ่อย
o ปวดศรีษะในตอนเช้า
o มีปัญหาเรื่องความจำหรือการเรียนรู้
o มักมีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียง่าย
o ไม่มีสมาธิในการทำงาน
o อารมณ์แปรปรวน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพ บางทีรู้สึกซึมเศร้า
o คอแห้งขณะตื่น
o ปวดปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน
o มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง
o เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวของคุณมีอาการข้างต้น นั่นแสดงว่าคุณกำลังมีปัญหาการนอนกรน
หลายคนอาจคิดว่า ปัญหาการนอนกรน เป็นปัญหาทั่วๆไป ที่ใครหลายคนก็สามารถเป็นกันได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ปัญหาการนอนกรนนั้น สามารถทำให้คุณเสียชีวิตได้ โดยที่ตัวคุณเอง คนที่คุณรัก หรือคนใกล้ตัว ไม่อาจป้องกันหรือรักษาได้ทัน...
�
สาเหตุของการนอนกรน
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีปัญหานอนกรน มักจะมีเนื้อเยื่อในลำคอหนามากกว่าปกติหรือเกิดการหย่อนหยานของลิ้นไก่ และเพดานอ่อน ซึ่งทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเสียงดังในขณะที่หายใจ�� นอกจากนี้การนอนกรนยังมีสาเหตุมาจาก
�
1. พันธุกรรม�เช่นหลอดลมแคบ ปากแหว่ง หรือสาเหตุผิดปกติทางร่างกายจากสาเหตุทางพันธุกรรมอื่นๆ�
2. อายุเริ่มเข้าสู่วัยกลางคน� เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้หลอดลมแคบขึ้นและประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อในการเปล่งเสียงลดลง�
3. เพศชาย� โดยเพศชายนั้นจะมีหลอดลมแคบกว่าเพศหญิง� ซึ่งจะทำให้มีโอกาส� ในการนอนกรนมากกว่า�
4. อ้วนและมีน้ำหนักมากเกินไป� เกิดจากการมีเนื้อเยื่อไขมันมากเกินไป และเนื้อเยื่อในการเปล่งเสียงน้อยเกินไป อาจทำให้เกิดการนอนกรนได้�
5. การสูบบุหรี่� การสูบบุหรี่ ( หรือได้รับควันบุหรี่จากคนใกล้ชิด ) ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และอุดตันทางเดินลมหายใจ ทำให้เกิดการนอนกรน�
6. ดื่มแอลกอฮอล์� แอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและนำไปสู่การนอนกรน�
7. ความเครียด�ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักในขณะเครียด� แต่เมื่อเวลานอนกล้ามเนื้อก็จะเกิดการคลายตัวอย่างมากจากการทำงานหนัก ซึ่งจะทำให้เกิดการนอนกรน���
ทางเลือกใหม่ของการรักษาอาการนอนกรนด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ
การรักษาอาการนอนกรนนั้น สามารถทำได้หลายวิธี อาทิ การใช้เครื่องช่วยสร้างแรงดันบวก ในทางเดินหายใจ (Continuous positive airway pressure, CPAP) การใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรมสำหรับถ่างขากรรไกร� การให้ออกซิเจนขณะนอนหลับ และการผ่าตัดขยายหลอดลมซึ่งแต่ละวิธีต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง�ปัจจุบันนี้มีทางเลือกใหม่ ของการรักษาอาการนอนกรนด้วยการศึกษาค้นคว้าวิจัยและพัฒนาโดยการแพทย์แผนไทย� ควบคุมการผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งได้รับการรับรองและยอมรับอย่างกว้างขวางในการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติมาช่วยบรรเทาอาการนอนกรนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผล โดยไม่ต้องทนเจ็บและรำคาญกับการใชัอุปกรณ์ทางการแพทย์ อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษา����
สมุนไพรสำคัญที่ช่วยให้อาการนอนกรนดีขึ้น
1.ขมิ้นชัน�
สมุนไพรที่ประกอบไปด้วยวิตามิน A , C และ E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยทำความสะอาดเยื่อเมือกและสารก่อภูมิแพ้ที่เกาะอยู่ที่ช่องทางเดินหายใจ อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดการระคายเคือง การอักเสบและบวมของช่องทางเดินหายใจ และยังช่วยทำความสะอาดคราบไขมันที่เกาะอยู่ที่ช่องทางเดินหายใจ เพื่อทำให้หายใจสะดวกขึ้นในขณะนอนหลับ
2.ว่านเหลืองหรือขมิ้นอ้อย
สมุนไพรที่ช่วยทำให้หลับสบาย ตื่นขึ้นมารู้สึกสดชื่น� ไม่อ่อนเพลีย มีส่วนช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อในร่างกาย ทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก
3. ไพล
มีสาร� Cassumunarin A,B,C� โดยมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและเป็นตัวแทนAntihistamine ธรรมชาติ� ลดการอักเสบ และบวม
4. เจตพังคี
ทำให้รู้สึกสดชื่นแก้อ่อนเพลีย ฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อในร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง
5. กระทือ�
ช่วยขับลมในกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น�
��
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอื่นๆอีกหลายชนิด ที่สามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อต่างๆจากภาวะความเสื่อมโทรมของร่างกาย อันเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น มลภาวะทางอากาศ ควันบุหรี่ สารนิโคติน แอลกอฮอล์ ยาฆ่าแมลง
วิธีรับประทาน Znor ซีนอร์�
รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด ทาน 1 ชม.ก่อนอาหาร 3 ครั้ง เช้า เย็น ก่อนนอน
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 80 กก. ทานครั้งละ 1 เม็ด
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน 80 กก. ทานครั้งละ 2 เม็ด
ข้อห้ามใช้ : เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน�
หมายเหตุ:ซีนอร์ เป็นอาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค ผลจากการทานซีนอร์ไม่เหมือนกันทุกคน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ล่ะท่าน และควรทานอาหารให้ครบ 5หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย
การเก็บรักษา : เก็บไว้ที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ให้พ้นแสงแดด และในที่ๆเด็กเอื้อมไม่ถึง
ข้อแนะนำ ควรทาน วันละ 3 เม็ด ติดต่อกัน 21 วัน เพื่อประสิทธิภาพที่เห็นผล (3 กล่อง)