.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :1/10/2012
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :18/9/2013
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :370009


เอนไซม์เจนิฟู้ด (Genufood Enzyme) ของแท้ต้องมีตรา มิลาเคิลออ
เอนไซม์เจนิฟู้ด (Genufood Enzyme) ของแท้ต้องมีตรา มิลาเคิลออ

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า / บริการ : เอนไซม์เจนิฟู้ด (Genufood Enzyme) ของแท้ต้องมีตรา มิลาเคิลออ
รหัสสินค้า :000017
วันที่ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด : 18/2/2013
ราคาสินค้า(ปกติ) : 3,600.00
ราคาพิเศษ : 2,590.00
ค่าขนส่ง/ชิ้น : -
สถานะสินค้า : สินค้ามาใหม่
 ระบุความต้องการเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้ก่อนหยิบสินค้าลงตระกร้า
* [สินค้าคงเหลือ 0 ชิ้น]    QTY :

เอนไซม์เจนิฟู้ด (Genufood Enzyme) ของแท้ต้องมีตรา มิลาเคิลออฟไลฟ์ (MOL)

เอนไซม์บำบัด 370 ชนิด ศาสตร์ แห่งการแพทย์ทางเลือก อาหารเสริมในรูปเอนไซม์เพื่อการฟื้นฟูสุขภาพจากภาวะของโรคเสื่อมถอยของร่าง กาย การันตีคุณภาพสินค้าด้วยผู้ใช้มากกว่า 50,000 คน

คุณสามารถรับชมและรับฟังได้ทางรายการนายพลคนขอนแก่นโครงการ ฟื้นฟูสุขภาพด้วยเอนไซม์ทาง MVTV5 วันอาทิตย์ 15.00-16.00 Channel และ TCNN I, คลื่นวิทยุ AM 1251

เอนไซม์ เจนิฟู้ด (Enzyme Genufood) หรือ เอนไซม์บำบัด คือ สุดยอดอาหารเสริมที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมายหลายชนิด โดยนำธัญพืชมาผ่านกรรมวิธีการสกัด จนเกิดเป็นอาหารเสริมที่รับประทานง่ายแต่ได้คุณค่ามากมาย อาทิ เอนไซม์กว่า 370 ชนิด สารอาหารต่างๆ เกลือแร่ วิตามิน ที่จำเป็นต่อร่างกายของคนเรา ช่วยฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย คืนสู่สภาพปกติ เอนไซม์เจนิฟู้ดยังสามารถนำมาใช้ในการโภชนบำบัด หรือ เอนไซม์บำบัดได้ผลดีเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน 

เหตุผลอันเนื่องมาจาก 80% ของพลังงานในร่างกายคนเรานั้นถูกใช้ไปกับขบวนการย่อยอาหาร ดังนั้น หากคุณอ่อนเพลีย เครียด อยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด ตั้งครรภ์ หรือเดินทางโดยเครื่องบินบ่อยๆ คุณจะต้องการเอนไซม์เสริมเป็นจำนวนมากให้ร่างกาย เนื่องจากกระบวนการทำงานทั้งหมดของร่างกายนั้นต้องอาศัยเอนไซม์

 

เราจึงต้องเสริมเอนไซม์ให้ร่างกาย อายุที่มากขึ้นนั้นก็เป็นสาเหตุของการผลิตเอนไซม์ที่ลดลง ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้กล่าวว่า โรคต่างๆนั้น เกิดขึ้นจากการขาดแคลนหรือความไม่สมดุลของเอนไซม์ในร่างกาย เราทุกคนจึงไม่สามารถขาดเอนไซม์ได้ หากหวังที่จะมีสุขภาพที่ดีได้

 

ในสมัยก่อน ปู่ย่าตายายมีอายุยืนยาวอยู่กันมาได้ โดยไม่ต้องกินอาหารเสริมหรือกินเอนไซม์เสริม ถือว่าโชคดีเพราะเกิดมาในขณะที่สิ่งแวดล้อมสะอาด อาหารสด ไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง ไม่มีการเติมสารเคมีให้พืชผัก ซึ่งแตกต่างกับในยุคปัจจุบันมาก ซึ่งมีสิ่งปนเปื้อนมเพิ่มขึ้นมาก ถ้าเราไปอ่านรายงานสถิติชีพของกระทรวงสาธารณสุขย้อนหลังกลับไปจะพบว่า  โรคหัวใจเบาหวาน ข้ออักเสบและมะเร็งในสมัยนั้นแทบจะไม่มีให้เห็น  ซึ่งคำว่ามะเร็งในสมัยนั้นจะเป็นคำที่แปลกประหลาดไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

การใช้เอนไซม์บำบัด มีประโยชน์อย่างไร

 

  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทั้งจากภายในและภายนอก
  • ช่วยป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ
  • ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน
  • ช่วยในการทำงานของระบบภูมิต้านทาน
  • ช่วยในกระบวนการขจัดสารพิษของร่างกาย
  • ช่วยรักษาความสมดุลในการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย
  • ช่วยในกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
  • ช่วยรักษาสภาวะสมดุลต่างๆในร่างกายเช่นระดับฮอร์โมนความเป็นกรดเป็นด่างของเลือด

 

 

เอนไซม์มีประโยชน์อะไรบ้าง

น.พ. Edward Howell ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการรักษาโรคด้วยเอนไซม์กล่าวว่าเอนไซม์เกือบทุกตัวประกอบ ด้วยโปรตีนเกลือแร่วิตามินเอนไซม์เป็นโมเลกุลที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการเร่ง ขบวนการทางเคมีที่จำเป็นในการทำงานของร่างกายเอนไซม์จะทำงานร่วมกับวิตามิน ซึ่งทำ หน้าที่เป็นโค -- เอนไซม์และทำงานร่วมกับเกลือแร่ถ้าร่างกายขาดสารอาหารพวกนี้ก็จะขาดเอนไซม์ ไปด้วยเอนไซม์ทำงานคล้ายกับกรรมกรก่อสร้างร่างกายถ้าร่างกายมีโปรตีนไขมัน และคาร์โบไฮเดรตพร้อม แต่ไม่มีคนก่อสร้างพอก็ไม่สามารถเสริมสร้าง ร่างกายให้แข็งแรงได้ถ้าไม่มีเอนไซม์ก็จะไม่มีการย่อยอาหารไม่มีการเจริญ เติบโตไม่มีการแข็งตัวของเลือดเวลาเลือดออกและไม่มีการหายใจเอนไซม์แต่ละตัว จะทำเฉพาะอย่างหน้าที่
ในภาวะปกติร่างกายสามารถผลิตเอนไซม์หลายพันชนิดตลอดเวลา แต่เวลาเราเจ็บป่วยหรือรับประทานอาหารไม่ครบหมู่ร่างกายจะขาดวัตถุดิบที่จะ นำมาสร้างเอนไซม์บางตัวทันทีนั่นคือสาเหตุที่ร่างกายอ่อนแออ่อนเพลียติดเชื้อ มึนงง วิงเวียนศรีษะ

เอนไซม์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก ๆ คือเอนไซม์ย่อยอาหารและเอนไซม์ระบบทำงานร่างกายเอนไซม์ย่อยอาหารสร้างในร่าง กายคนเราประมาณ 22 ชนิดทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลแป้งไขมันโปรตีนโดยเริ่มย่อยจากปากไปจนถึงลำไส้ พืชและเนื้อสัตว์ที่เรารับประทานก็มีเอนไซม์ผสมอยู่ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้ก็จะทำงานร่วมกันกับเอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้น แต่เนื่องจากเอนไซม์สลายตัวตัวได้ง่ายเมื่อถูกความร้อนอาหารที่เรารับประทาน ที่ปรุงสุกด้วยความร้อนสูงได้ทำลายเอนไซม์เมื่อเรารับประทาน อาหารเหล่านั้นเป็นประจำร่างกายต้องสร้างเอนไซม์อย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับเอนไซม์ตายแล้วทำให้กำลังสำรองที่จะไปสร้างเอนไซม์ระบบทำงานร่างกาย มีน้อยลงตับอ่อนต้องทำงานหนักเพื่อสร้างเอนไซม์มากขึ้นถ้าตับอ่อนสร้าง เอนไซม์ได้น้อย กว่าปริมาณอาหารที่กินเข้าไปอาหารบางส่วนก็จะไม่ถูกย่อยและบูดเน่าด้วยเชื้อ จูลินทรีย์ในลำไส้แล้วปล่อยของเสีย ( พิษ ) เข้าสู่กระแสเลือดทำให้ตับต้องทำงานหนักในการสลายสารพิษเหล่านั้น ถ้าสารพิษไม่ถูกขจัดออกหมดที่ตับร่างกายก็จะขับออกทางผิวหนังทำให้เกิดสิวและ ภูมิแพ้ต่างๆ
ใช้เอนไซม์อย่างประหยัด

ธรรมชาติไม่ได้ให้เอนไซม์ฟุ่มเฟือยเอนไซม์ที่ผลิตขึ้นในร่างกายแต่ละคนมี จำนวน จำกัด ต้องช่วยตัวเองประหยัดเอนไซม์ให้มีใช้นานที่สุดถ้าต้องการมีอายุที่ยืนยาวและสุขภาพที่ดี
                
เอนไซม์ที่สำคัญ คือ เมตาบอลิค เอนไซม์ใช้ซ่อมแซม และสร้างเซลล์ต่านทานโรค ป้องกันความเสื่อมโทรม แต่กฎธรรมชาติให้ไว้ว่า ถ้าเอนไซม์ใช้ย่อยอาหารไม่เพียงพอร่างกายต้องดึงเมตาบอลิค เอนไซม์ในเซลล์ต่าง ๆ มาทำงานที่ต่ำชั้นกว่าคือ ย่อยอาหาร ทำให้เมตาบอลิคเอนไซม์หมด เปลือง พลังของชีวิต (Life Force) จึงบกพร่องและไม่เพียงพอ เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ง่าย การใช้เอนไซม์เสริมช่วยย่อยอาหารเป็นสิ่งจำเป็นเมื่ออายุมากขึ้น เพื่อประหยัดเมตาบอลิค เอนไซม์ การกินเอนไซม์เสริม และกินอาหารสดจะมีเอนไซม์พอใช้เมื่อแก่ตัวลง ความชราและโรคแห่งความเสื่อมทั้งหลายก็ไม่มากล้ำกลาย
 
ตัวห้ามการทำงานของเอนไซม์
                
     การกินไข่ข่าวดิบ ๆ จะมีสารชื่อ อไวดิน (Avidin) เป็นตัวห้ามการทำงานของเอนไซม์ (Enzyme inhibitor) โดยจะเข้าไปเบียด และแซงโคเอนไซม์ (Coenzyme) ซึ่งเป็นวิตามินบี (ไบโอติน - Biotin) ทำ ให้ไม่สามารถจับกับเอนไซม์คู่ของมันได้ตามปกติ ผลก็คือ เกิดขาดวิตามินบีได้ ไข่ขาวดิบ ๆ จึงไม่ควรกินเป็นประจำ การลวดไข่จะทำให้อไวดินถูกทำลายด้วยความร้อนจึงปลอดภัยในการบริโภค
     การทำงานหนัก การออกกำลังกายมากเกินไป การออกกำลังกายระบบการเผาผลาญอาหารต้องทำงานเพิ่มขึ้น ถ้าแข่งกีฬาซึ่งต้องเอาแพ้ เอาชนะกัน ยิ่งต้องใช้พลังงานสูงมาก ย่อมหมดเปลืองเอนไซม์
                
    โลกมนุษย์ในยุคสารเคมีใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย หลังจาก ค.ศ.1930 เป็นต้นมา ได้มีการมีการมีการใช้สารเคมีเพื่อการอุตสาหกรรม การปฏิวัติทางเกษตรกรรม และการเร่งผลผลิตเพิ่มมาก ทั้งพืชและสัตว์จึงได้รับสารเคมีต่าง ๆ เข้ามาสะสมในตัวตั้งแต่ลืมตาดูโลก มนุษย์ได้สารเคมีปนเปื้อนผ่านมาทางวงจรอาหาร ทำให้เอนไซม์ในอาหาร และตัวคนเสื่อมคุณภาพ เกิดการขาดแคลนเอนไซม์ขึ้น พวกเราทุกคนกำลังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยมลพิษ (Polluted World) เอนไซม์ในร่างกายจึงขาดแคลน ปัญหาจะมีมาก ถ้าเป็นเด็กเล็ก ๆ ซึ่งสมองกำลังพัฒนา
                
    มนุษย์สมัยใหม่มีรสนิยมในการกินของที่ผ่านการหุงต้ม (Cooked Food) มากกว่าอาหารดิบ (Raw Food) คนส่วนใหญ่พอใจที่จะกินอาหารที่ปรุงแต่ง อาหารที่อาบรังสี อาหารที่ใช้วิธีปิ้ง ย่าง มากกว่าอาหารดิบ เพราะชอบในความปลอดภัยจากเชื้อจุลินทรีย์ การที่เราปิ้งหรือย่างเนื้อสัตว์ทำให้เราสูญเสียเอนไซม์ในอาหาร และยิ่งถ้ามีอายุมากขึ้นเอนไซม์ในตัวเราก็ลดต่ำลง การย่อยโปรตีนจึงมีอุปสรรค ไม่ได้สารอาหารกรดอะมิโน (Amino Acid) ร่างกายจะขาดกรดอะมิโน ซึ่งจะนำมาใช้ในการผลิตเอนไซม์ของร่างกาย ดังนั้นผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป การใช้เอนไซม์เสริมจึงจะสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ขาดเอนไซม์

สภาพเมื่อขาดเอนไซม์
- รู้สึกเหนื่อยหลังจากกินอาหารมื้อหนัก
- อ่อนเพลียเป็นประจำ (Chronic Fatigue Syndrome)
- ท้องผูก ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ บางครั้งมีอาการจุกเสียด
- ลมแน่นท้อง ผายลมมีกลิ่นเหม็นมาก มีกลิ่นปาก
- มีอาการของโรคภูมิแพ้ง่าย บางครั้งถึงขนาดหอบหืด
- เวลาเป็นแผลจะหายช้า
- น้ำหนักตัวเพิ่มง่าย

อาการที่แพทย์ตรวจพบ (Sign) ว่าท่านกำลังขาดเอนไซม์
- ตับอ่อนบวม
- เม็ดโลหิตขาวเพิ่มจำนวนมากกว่าปกติหลังกินอาหาร 30 นาที
- น้ำลายมีฤทธิ์เป็นกรด (pH ต่ำกว่า 7)
- ในปัสสาวะมีสารพิษมาก เกิดการอาหารไม่ย่อยจึงบูดเน่าในลำไส้ใหญ่ ร่างกายจะดูดซึมพร้อมกับนำเข้าไปในกระแสเลือด ตับและไตจะกรองสารพิษเอาไว้ และจะขับสารพิษนี้ออกทางปัสสาวะ
- ระดับเอนไซม์ต่ำกว่าปกติในเลือด
- ความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย

อย.เลขที่ 10-3-10838-1-0001

  เปิดเว็บร้านค้าออนไลน์ฟรี หรือชอปปิ้งเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการอย่างสบายใจ  

Tag :  อาหารเสริม ลดไขมัน เบาหวาน