.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :23/5/2012
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :11/1/2019
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :650367
พรมปูพื้นรถยนต์ แบบไหนดีกว่ากัน? พรมกระดุม พรมไวนิลดักฝุ่น
บทความ ณ. วันที่ : 16/7/2013        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 13747 ครั้ง   

คนซื้อรถใหม่ป้ายแดง หรือแม้กระทั่งซื้อรถมือสอง ถอยมาจากเต๊นท์ก็ตาม ร้อยทั้งร้อย ก็เริ่มมาพิจารณาดูส่วนประกอบอื่นๆ ของรถคู่ใจ หลังจากที่ปวดหัวกับการเลือกรุ่นรถ สีรถ มาแล้ว เรื่องปวดหัวยังไม่จบค่ะ... ก็ Accessory ต่างๆ นี่อีกงัย

อย่างเช่น ถาดรองพื้นรถเนี่ย มันมีให้เลือกหลายอย่าง หลากประเภท ไหนจะรูปแบบ ไหนจะสี แบบไหนจะเหมาะกับรถของเราที่สุด และแบบไหนดีจริงๆ ถ้าไม่เคยต้องเลือกซื้อ จะไม่รู้เลยว่าปวดหัวแค่ไหน

คำตอบ วิขอให้รายละเอียดแบบคร่าวๆ แยกเป็นประเภทนะ

ประเภทของพรมปูพื้นรถยนต์ หรือจะเรียกว่า พรมรองพื้นรถ หรือผ้ายางปูรถ หรือ... อื่นๆ อีกมากมายที่จะเรียกกันนะ.. มี 2 แบบหลักๆ ขอแบ่งตามลักษณะการทำงานของพรมนะ

ประเภทแรก คือแบบรองฝุ่น

ประเภทสอง คือแบบดักฝุ่น

แบบแรก รองฝุ่น เอาไว้ให้เรานำฝุ่นไปเททิ้ง บางแบบเป็นแบบเรียบ เช่น ผ้ายางปูพื้น แบบยางสีดำๆ หรือแบบพรมกระดุม พรมลายศร ฯลฯ คือแบบที่ตัดขอบ เย็บขอบให้ตรงกับส่วนโค้งเว้าของช่องวางเท้าของรถแต่ละรุ่น เพื่อให้วางได้เรียบเนียนแนบสนิทไปกับพื้นรถได้ แบบนี้ มีหลากหลายรูปแบบย่อยอีกที หลากหลายสีสัน และวัสดุ ให้เลือกใช้งานตามความชอบ

แบบสอง คือแบบดักฝุ่น แบบนี้ จะเป็นไวนิลของ 3M แบบนี้มีหลายสีให้เลือกเช่นกัน สีสดๆก็มี เช่นสีแดง เป็นต้น ลักษณะการทำงานของพรมนี้ คือ มันเป็นไวนิลอ่อนๆ ยวบๆ ด้านบนเป็นขนไวนิล ทำฟูๆ หน้าตาเหมือนพรมบ้าน แต่วัสดุเป็นไวนิล เปียกน้ำได้ มันจะดักฝุ่นไว้พื้นข้างล่าง ด้านบนเราจะเหยียบเจอขนไวนิลของมัน ให้ความรู้สึกเหมือนรถไม่มีฝุ่น เวลาทำความสะอาด ก็นำพรมออกไปสะบัด ตบ เคาะ ให้ฝุ่น เศษผง ที่ตกลงไปด้านล่าง ให้กระเด็นออกจากพรม ซึ่งอาจจะหมด หรือไม่หมด ตามแรกตบ การล้างให้สะอาดหมดจด จะยากยิ่ง (กว่าแบบแรกมาก) การแปรงล้างด้วยน้ำ ทำได้ แต่คงสะอาดไม่ถึงด้านล่างใต้ขนๆของมัน

หลายท่านอาจจะชอบแบบดักฝุ่น ดูเหมือนรถสะอาดดี แต่ก็อีกหลายท่าน ที่คิดไปอีกทางนึง ว่าฝุ่นจริง ยังมีอยู่ แต่เราไม่รู้สึกต่างหาก ถ้าคนในครอบครัวไม่ได้แพ้ฝุ่นละออง หรือแพ้อากาศ ก็เลือกง่ายค่ะ แต่ถ้ามีเด็กเล็ก หรือน้องเล็กๆที่อาจมีอาการจาม ไอ คันจมูก เวลาเจอฝุ่นละออง ก็ต้องหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ว่า แบบไหน จะเหมาะกับเราที่สุด แบบดักฝุ่นนี้ ถ้าดูในมุมของฝุ่นละออง ดิน ทราย เล็กๆน้อยๆ อาจจะไม่รู้สึกเท่าไหร่  ลองคิดถึงตอนที่เจ้าของรถ เท้าเปรอะดินโคลนที่ยังเปียกอยู่ และเหยียบขึ้นพรมไวนิลดักฝุ่น โคลนจะเข้าไปซึมลึกอยู่ใต้ขนไวนิล แข็งเกาะกับขนนั้น ล้างไม่ง่ายนักหรอก เศษขนมของเจ้าตัวเล็ก ตกอยู่เมื่อไหร่ไม่รู้เหมือนกัน รู้อีกที เจ้าตัวเล็กโดนมดกัดในรถเราซะงั้น!

บางท่าน บอกว่า ต้องใช้แบบดักฝุ่น ฝุ่นจะไม่คลุ้งขึ้นมาตอนเหยียบ ทำให้ฝุ่นเข้าไปในช่องแอร์ ทำให้ตู้แอร์สกปรก ตัน เหม็น ฯลฯ ถ้าเป็นแบบผ้ายาง เหยียบที ฝุ่นจะกระดอนขึ้นมาตามแรงเหยียบ และเท้าดำเวลาเหยียบ

บางท่านบอกว่า แบบเห็นฝุ่นนี่แหละดีกว่า ทำความสะอาดง่าย สะอาดเกลี้ยงเกลา หมดจด ล้างง่าย เอาฝุ่นออกไปเทก็ง่าย ทำได้บ่อยๆ ไม่สะสมฝุ่นและเศษดินดีกว่า และอะไรหกเลอะเทอะ เหนียวๆ ก็สามารถล้างขัดออกได้เรี่ยมเร้ ไม่ต้องกลัวมดขึ้นรถ (มีจริงๆอ่ะ มดขึ้นรถ.. แทบจะอาศัยอยู่ในรถเลยก็ว่าได้ บ้านไหนมีเด็กเล็ก จะเข้าใจวิค่ะ)

สำหรับวิ วิเลือกความเห็นแบบที่สองค่ะ คือวิขอแบบไม่มีฝุ่นจริงๆ ดีกว่าดูเหมือนไม่มีฝุ่น!  เห็นเศษขนมตกให้ตำตาไปเลย จะได้รีบเอาออกก่อนมดจะมากัดเจ้าตัวเล็ก  และดำมอมให้รู้ว่าดำ จะได้ทนไม่ได้ และนำไปล้างซะที...5555

ส่วนเรื่องกันน้ำ 55555 ข้อนี้ วิมีคำตอบเด็ด..!

ทั้ง 2 ประเภทที่ว่ามาข้างต้น ด้วยวัสดุ มันกันน้ำ ไม่ซึมน้ำ ดังนั้น พรมรถที่อยู่ด้านใต้แผ่นยาง หรือไวนิลจะไม่เปียก ไม่ชื้น เมื่อเจ้าของรถนำรองเท้าเปียกๆ เหยียบขึ้นรถ

แต่ถ้าเจ้าตัวเล็ก ทำน้ำหกจากกระติกน้ำที่ปิดไม่สนิท หรือปัดแก้วกาแฟคุณพ่อตกใส่แผ่นยาง พรมกระดุม หรือแผ่นไวนิล 3M ของคุณ ปริมาณน้ำที่มากขนาดนั้น แผ่นที่ว่าทั้ง 2 ประเภทนี้จะไม่สามารถกันให้น้ำไม่ไหลไปทั่วทั้งแผ่น หรือเทไปทางขอบพรมได้ ทำให้สุดท้าย พรมรถของคุณก็จะต้องเปียก หรือแย่กว่านั้น คือเลอะ (ถ้าเป็นโค้ก, น้ำแดง, กาแฟ.. อะไรที่มีสี และสีติดพรมคุณด้วย ถ้าพรมคุณเป็นสีครีมละก็......) แล้วคุณผู้ใช้รถอยู่แล้วจะทราบดี ถึงผลของการที่พรมรถเปียกน้ำ ชื้น หมาด ฯลฯ ม้นจะส่งกลิ่นไปทั่วทั้งรถ นาน.. บางที แห้งแล้ว ก็ยังไม่วายส่งกลิ่น.. อ้อ..ไม่ใช่กลิ่นกาแฟ หรือกลิ่นน้ำแดงที่หกนะคะ มันเป็นกลิ่นอับชื้นของพรม ติดเหม็นอับๆ บางคันออกกลิ่นเปรี้ยวๆ (ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นเชื้อราหรือเปล่า!) ทางที่ดีที่สุด อย่าให้น้ำหกลงพื้นรถ..555555

ปัญหานี้ แก้ได้อยู่ประเภทเดียวของพรมรถยนต์ คือของมาใหม่ ที่กำลังมาแรงอยู่ในตอนนี้ คือพรม 3D หรือจะเรียกว่า พรมเข้ารูป 3D หรือพรม 3 มิติ  จริงๆแล้วมันไม่ใช่พรมซักนิด มันคือถาดรองพื้นรถยนต์ดีๆนั่นเอง เราๆท่านๆอาจจะเคยเห็นมาบ้างแล้ว ในรถกระบะ ที่เขาวางถาดยาง เป็นเหมือนกล่อง ไว้ให้เราเหยียบในถาด แต่ถาดที่เราเห็นมา จะดูไม่ค่อยเข้ากับรถยนต์คันโปรดของเราเลยสักนิด เพราะมันเหมือนบังคับให้เราวางเท้าอยู่แต่ในถาดนี้ เพราะมันเล็กกว่าบล๊อควางเท้าของรถของเราตั้งเยอะ  แต่พรม 3D นี้ จะวิจิตรกว่านั้น มันเป็นพลาสติกโฟม (ที่ไม่ใช่ยาง) ปั๊มขึ้นรูปทำขอบขึ้นสูงโดยรอบถาด หรือบางชิ้น เช่นชิ้นหน้า ขอบจะไม่ยกสูงรอบ เพราะด้านหน้าจะวางสูงอยู่แล้ว น้ำยังไงก็ไม่ไหลขึ้นข้างบน จริงไหม! แต่จุดไหนที่น้ำจะไหลลงพรมคุณได้ มันมีขอบกันหมด และเป็นชิ้นเดียวกัน ไม่มีรั่ว ดังนั้น ปัญหาเรื่องกันน้ำ ต้องยกให้พรม 3D นี่จริงๆ กันน้ำ กันโค้ก กันนมหก กันกาแฟหกรดพรมรถคุณได้ 99% เหลืออีก % นึงไว้สำหรับหากทำหกแบบเทลงถาดเลย มันอาจมีน้ำไปกระเด็นโดนพรมด้านบนๆ ตามข้าง Body รถ อันนี้ ถือว่าเป็นโชคละกันนะคะ (อาจเกิดขึ้นด้ายยยย...)

พรม 3D แบบสุดท้ายที่ว่ามานี้ จะเป็นแนวเดียวกับประเภทแรก คือลักษณะการทำงานคล้ายผ้ายางปูพื้น หรือพรมกระดุม ที่เป็นแผ่นเรียบๆ ที่วิกล่าวมาด้านบน คือรองฝุ่น แล้วนำฝุ่นออกไปเททิ้งตามวาระและโอกาสอำนวย ถอดไปเทได้ง่ายดาย เหมือนผ้ายาง  รูปที่ลงไว้ด้านบน คือตัวอย่างของพรม 3D ค่ะ (แบบสีเบจ)

ส่วนวัสดุ ก็เป็นวัสดุเบา ทนทาน กันน้ำ (คือวัสดุเคลือบผิวกันน้ำ) ตัวมันเอง จะไม่ซึมน้ำเหมือนพรมผ้า หรือยาง (ยางยังเปียกได้ ต้องตากแดดให้แห้ง เวลาแห้งจริง จะสีดำอ่อน ๆ แต่เวลาเปียกน้ำ จะดูสีดำสนิท) ดังนั้น การถอดล้างด้วยน้ำ หรือสบู่ ทำได้ในเวลาอันสั้น เพราะผิวเคลือบกันน้ำของมัน จะทำให้แห้งง่ายมาก สะบัดๆ เคาะๆ กับเสาบ้าน ก็เกือบแห้งสนิทแล้ว ใส่กลับเข้ารถได้เลย

 

ที่สำคัญ ถาด 3D กันน้ำนี้  เขาทำเข้ารูปเป๊ะกับเบ้ารองพื้นของรถยนต์แต่ละรุ่น กันไปเลย ตรงไหนโค้ง ตรงไหนเว้า เว้นตรงขาเก้าอี้แค่ไหน ยังไง ดูมันช่างพอดิบพอดี (ก็เค้าเอาช่างตัดมาวัดจากตัวรถทุกรุ่นนี่นา) ใส่แล้วทำให้ดูเนี๊ยบ คม สะอาดสะอ้าน หรูหราขึ้นมาทันตาเห็น  แถมยังมีสีให้เลือกเข้ากับสีพรมรถอีกด้วย สีดำ เข้ากับพรมสีดำของรถแนวสปอร์ต สีเบจ สีเข้ากับพรมสีเบจของรถแนวหรูหรา Luxury  และสีเทาสำหรับรถที่พรมสีเทา หรือใส่กับรถพรมสีดำก็ได้ ดูสว่างขึ้น  ส่วนบางรุ่น ที่รถแนวสปอร์ต ตัดเย็บเก้าอี้ด้วยหนังสีดำตัดด้ายแดง ถาดนี้ก็ทำให้เข้ากัน เย็บด้วยด้ายแดงกับถาดสีดำ ดูแนวๆนิดนึง

 

อ่านถึงตรงนี้ คุณๆได้คำตอบสำหรับรถตัวเองกันหรือยังคะ?

ว่างๆ วิจะมาเสริมให้อีกน๊าา.. ตอนนี้ขอไปก่อนล่ะค่ะ

 

วิ