ลองดูกันสักนิดว่า ความเชื่อทั้งหมดนี้ อยู่ในความคิดของคุณพ่อแม่บ้างหรือไม่
ถ้าใช่ เรามีคำอธิบายที่ถูกต้อง ชัดเจน ที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้คงช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์เรื่องกินของลูกให้กับคุณอีกโขเลยนะคะ
* สายตาสั้น...น้ำมันตับปลาช่วยได้?
มีคุณพ่อคุณแม่หลายท่านเชื่อว่า น้ำมันตับปลาช่วยทำให้สายตาลูกที่สั้นดีขึ้น (สั้นน้อยลงนั่นเอง) ก็ชวนให้เชื่ออยู่หรอกค่ะเพราะว่าน้ำมันตับปลามีวิตามินเอ วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ฟังดูมีเหตุผล แต่จริงๆแล้วภาวะสายตาสั้นไม่ได้เกี่ยวกับการขาดวิตามินเอเลย แต่เกี่ยวกับความผิดปกติของเลนส์และการรับภาพของจอตา ซึ่งทำงานไม่ประสานกัน
เพราะฉะนั้นเป็นการเข้าใจผิดอย่างมากค่ะ ที่คิดว่าน้ำมันตับปลาจะช่วยได้ วิตามินเอมีหน้าที่เพียงช่วยให้ประสาทตาและจอตาทำหน้าที่ได้ดี มองเห็นภาพชัดตอนกลางคืนเท่านั้น
* ซีอิ๊วมีโปรตีนจากถั่วเหลือง?
จริงอยู่ค่ะที่ว่าซีอิ๊วทั้งขาวทั้งดำประกอบด้วยถั่วเหลือง มีแป้งและน้ำตาลผสมและหมักกับเกลือ แต่ซีอิ๊วนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยชูรสอาหารเท่านั้น การกินแต่ละครั้งจึงควรกินในปริมาณที่จำกัดเพราะมีความเค็มจากโซเดียมคลอไรด์ จึงไม่ได้ให้คุณค่าอาหารแต่อย่างใด
การคิดว่าจะให้ลูกได้โปรตีนจากซีอิ๊วจึงเป็นสิ่งที่ผิด และเสี่ยงต่อการขาดอาหารอย่างมาก
ทางที่ดีที่สุดควรฝึกให้ลูกกินอาหารรสกลางๆ เพราะการหัดให้ลูกกินอาหารรสเค็มตั้งแต่เด็ก จะทำให้ติดนิสัยกินอาหารรสเค็ม ซึ่งทำให้ได้โซเดียมมากไป ต่อไปอาจกลายเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงได้
* หนองหรือน้ำเหลือง ห้ามกินไข่ เนื้อ และอาหารทะเล?
ผู้ใหญ่มักห้ามเด็กที่น้ำเหลืองเสียกินไข่ อาหารทะเลหรือเนื้อวัว เพราะเชื่อว่าจะยิ่งทำให้อาการอักเสบ และน้ำหนองลุกลาม
ความจริงกลับตรงกันข้าม เพราะยิ่งเด็กได้ไข่หรืออาหารทะเลหรือเนื้อวัวที่มีโปรตีนครบถ้วน ยิ่งเป็นส่วนช่วยให้น้ำเหลืองของเด็กๆมีคุณภาพดีขึ้น สร้างเม็ดเลือดขาวได้มากขึ้น มีพลังในการต่อสู้เชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น แต่ถ้าเรางดอาหารเหล่านี้ ร่างกายก็ยิ่งขาดแคลน ทรุดโทรม เชื้อโรคยิ่งเจริญเติบโตได้ง่าย และอาจลามไปทั่วทุกระบบเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
* น้ำแร่ น้ำบริสุทธิ์สำหรับเด็ก?
ว่ากันว่า "น้ำแร่" เป็นน้ำที่แสนจะบริสุทธิ์มีคุณค่าเพราะต้องผ่านการกลั่นกรองจากหินและแร่หลายชนิด น่าจะเหมาะกับเจ้าตัวน้อยของคุณ
แต่ถ้าถามถึงความจำเป็น ตอบได้ทันทีค่ะว่า "ไม่" เพราะแม้ว่าน้ำแร่เป็นน้ำที่ได้จากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ประกอบด้วยน้ำเป็นหลัก ส่วนเกลือแร่ต่างๆ เช่น โซเดียม แมกนีเซียมคลอไรด์ ฯลฯ มีน้อยมาก ที่สำคัญมีราคาแพง คุณค่าที่ได้ไม่คุ้มกับเงินที่ต้องเสียไป แต่สาเหตุที่นิยมดื่มกันเนื่องมาจากผลจากการโฆษณาและค่านิยมของผู้บริโภค
โดยปกติแล้วเด็กๆจะได้น้ำจากอาหารและน้ำที่ดื่มเป็นประจำควบคู่กับนมและอาหารต่างๆ อยู่แล้ว สำหรับเกลือแร่ก็จะได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ นม พืช ผักและผลไม้ต่างๆ ซึ่งได้ในปริมาณมากและดีกว่าที่ได้จากน้ำแร่เสียอีก จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องให้ลูกดื่มน้ำแร่
* น้ำตาล ทำให้ซน?
จริงหรือที่ "น้ำตาล" ทำให้ลูกกลายเป็นเด็กซน สมาธิสั้น คือคำถามที่คุณพ่อคุณแม่สงสัย
โดยปกติแล้วเรื่องของพฤติกรรมและความซนของเด็ก มีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ มากรวมถึงอาหารการกินต่างๆด้วย เช่น เด็กที่ขาดธาตุเหล็กจนเกิดโรคโลหิตจางจะขาดสมาธิในการเรียน และทำให้ผลการเรียนต่ำ แต่สำหรับการกินน้ำตาลมากๆนั้น จะส่งผลโดยตรงต่อการทำให้เด็กเบื่ออาหาร บางคนอาจมีปัญหาเรื่องโรคอ้วนและฟันผุตามมา
ส่วนเรื่องความซนนั้นไม่มีผลกระทบโดยตรง แต่โดยทั่วไปก็ไม่ควรให้ลูกกินน้ำตาลมากอยู่แล้วค่ะ เพราะไม่มีผลดีต่อสุขภาพของลูกเลยค่ะ
*เรียบเรียงจาก 108 ปัญหาเรื่องกินของลูกโดย ศ.นพ.ไกรสิทธ์ ตันติศิรินทร์