มีโทรศัพท์ถึงลูกค้าประกันชีวิต บอกจะมาช่วยบริหารกรมธรรม์ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่ม แต่สามารถเพิ่มความคุ้มครอง ทั้งทุนประกันชีวิต และค่ารักษาพยาบาลและยังบอกว่าตัวแทนที่ดูแลไม่ใส่ใจที่จะช่วยบริหารกรมธรรม์ เรื่องนี้จริง หรือ หลอก
ในระยะหลายเดือนที่ผ่านมา ผมได้รับข้อมูลจากเพื่อนๆตัวแทนที่ดูแลเรื่องกรมธรรมประกันชีวิตว่าได้รับการติดต่อจากลูกค้าของตัวเองว่า มีคนอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทนายหน้าแห่งหนึ่งที่ได้รับการมอบหมายจากบริษัทประกันชีวิต 24 แห่งให้มาดูแลกรมธรรม์ โดยการเพิ่มผลประโยชน์ ทั้งทุนประกันชีวิต และความคุ้มครองสวัสดิการต่างๆ แต่จ่ายเบี้ยประกันเท่าเดิม และในที่สุดลูกค้าผมก็ได้ติดต่อมาเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
วิธีการคือ คนกลุ่มนี้จะขอนัดเข้าพบพร้อมขอให้เตรียมกรมธรรม์ เพื่อดูหน้าตารางมูลค่ากรมธรรม์ และจะช่วยบริหารกรมธรรม์ ระหว่างนั้นจะถามว่ายังติดต่อตัวแทนอยู่หรือเปล่า ตัวแทนได้อธิบายผลประโยชน์เรื่องนี้ให้ทราบหรือไม่ ทำให้คุณสงสัยในการบริการของตัวแทน
ผมขออธิบายให้เข้าใจถึงวิธีการ และช่องทางที่คนกลุ่มนี้จะบริหารกรมธรรม์จากหน้าตารางกรมธรรม์ เรามาทำความเข้าใจศัพท์แสงทางการประกันชีวิตกันเล็กน้อย
สิ้นสัญญาปีที่ ณ ปลายปีของกรมธรรม์ที่ดูมูลค่า
มูลค่าเวนคืน ปิดกรมธรรม์ ถอนมูลค่าเงินที่เหลืออยู่ในกรมธรรม์
มูลค่าสำเร็จ แปลงกรมธรรม์โดยใช้มูลค่าเงินสดมาซื้อความคุ้มครองที่ลดลงแต่รับผลประโยชน์ตามสัญญาเดิม
มูลค่าขยายเวลา(ปี-วัน)แปลงกรมธรรม์โดยใช้มูลค่าเงินสดมาซื้อความคุ้มครองจำนวนเท่าเดิมแต่ระยะเวลาจะปรับตามมูลค่าเงินสดที่เหลือว่าจะได้กี่ปี กี่วัน
มูลค่าครบกำหนดสัญญา จำนวนเงินเมื่อครบกำหนดตามสัญญากรมธรรม์
มูลค่าเงินคืน จำนวนเงินที่คืนให้ ณ วันแปลงกรมธรรม์ (เงินส่วนเกินจากที่ใช้ในการแปลง)
ตัวแทนที่ขอนัดพบพร้อมที่จะหยิบตัวเลขต่างๆมาใช้งาน ขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่คุณส่งกรมธรรม์มา และจำนวนเงินมูลค่าเงินสดที่มีอยู่ จะแตกต่างตามประเภทของกรมธรรม์ที่คุณถืออยู่ โดยกรมธรรม์ประเภทออมทรัพย์จะมีมูลค่าเงินสดมากที่สุด
โดยการเสนออันดับแรกคิอปิดกรมธรรม์แบบขยายเวลา นั่นจะทำให้คุณหยุดส่งเบี้ยประกันฉบับดังกล่าว และจะเสนอให้คุณนำเงินจำนวนนั้นมาซื้อประกันฉบับใหม่ ตัวแทนจะอธิบายได้ว่าคุณมีความคุ้มครองเพิ่มขึ้น(จากฉบับใหม่)โดยจ่ายเบี้ยประกันเท่าเดิม
ขอควรคำนึงสำหรับคุณถ้าจะเลือกวิธีนี้คือ กรมธรรม์ใหม่จะมีระยะเวลา 2 ปีตามเงื่อนไข การไม่โต้แย้งหรือคัดค้าน พูดกันตรงประเด็นคือถ้าคุณมีโรคภัยที่เกิดขึ้นแล้ว มาทำประกันฉบับใหม่ ต้องพ้นระยะเวลา 2 ปีไปแล้ว เสียชีวิตถึงจะได้รับการจ่ายสินไหมประกันชีวิต แต่สำหรับการประกันสุขภาพอื่นๆไม่อยู่ในเงื่อนไขนี้ ถ้าประกันฉบับใหม่ของคุณมีประกันสุขภาพด้วย นั่นหมายความว่าสุขภาพคุณต้องดีพอที่จะทำได้ แต่ถ้าไม่ใช่กรมธรรม์จะได้รับข้อเสนอจากบริษัทใหม่หรืออาจจะถึงขั้นการปฏิเสธรับประกัน
กรมธรรม์เก่าที่อนุมัติโดยมีเงื่อนไขบางอย่าง อาจจะไม่สามารถเลือกการขยายเวลาที่ทุนประกันเท่าเดิม
ถ้าคุณอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่านี้คือมีประวัติสุขภาพ แต่กรมธรรม์ของคุณฉบับใหม่ได้รับการอนุมัติในเงื่อนไขมาตรฐาน ขอให้คุณอ่านข้อความในสำเนาใบคำขอที่แนบอยู่ในกรมธรรม์ว่าใช่คำตอบที่คุณตอบไปหรือไม่
ในกรณีที่ทุนประกันชีวิตฉบับใหม่ไม่สูงนัก และอยู่ในเงื่อนไขที่บริษัทส่วนใหญ่รับประกันได้โดยไม่ต้องตรวจเพียงแค่ตอบคำถามในใบสมัคร ถ้าตัวแทนไม่ได้กรอกใบสมัครตามจริง กรมธรรม์ก็จะอยู่ในสถานะโมฆียะ ถ้าเสียชีวิตภายใน 2 ปี บริษัทพิสูจน์ได้ก็จะบอกล้างสัญญาเป็นโมฆะ
แต่สำหรับการชดเชยค่ารักษาตามประกันสุขภาพ เมื่อมีการเรียกร้องและบริษัทพบว่าเคยเป็นมาก่อนบริษัทปฏิเสธการจ่ายได้ตลอดเวลา แต่ในทางปฏิบัติถ้ากรมธรรม์มีอายุหลายปี บริษัทมักจะไม่มีการตรวจสอบถือว่าคุ้มครองกันมานาน แต่ถ้าบังเอิญเกิดปัญหาในระยะเวลาใกล้ๆ กรมธรรม์ฉบับเดิมที่มีค่ารักษาซื้อไว้นานแล้วจะต้องจ่ายสินไหมให้ คุณได้แปลงกรมธรรม์ไปแล้ว ความคุ้มครองก็หมดไปแล้ว ฉบับใหม่ก็เบิกไม่ได้
ประเด็นที่ 2 คือกรมธรรม์ฉบับนี้คุณมีเป้าหมายในการทำอย่างไร เพื่ออะไร การเปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ทำให้เป้าหมายเดิมเปลี่ยนไปและคุณยอมรับได้หรือไม่ ประเด็นนี้ตัวแทนเก่าจะไม่มายุ่งกับการแปลงกรมธรรม์เดิมของคุณที่เขาดูแลอยู่ เพราะเป้าหมายได้กำหนดไว้แล้ว การที่ผู้ที่เสนอการบริหารกรมธรรม์พูดให้คุณรู้สึกว่าตัวแทนไม่ดูแลก็ไม่ใช่ประเด็นนะครับ การเริ่มกรมธรรม์ฉบับใหม่คุณมีภาระที่จะต้องส่งเบี้ยประกันต่อไปอีกตามระยะเวลาของสัญญา ซึ่งต้องพิจารณาว่าเกินระยะเวลาที่คุณรับภาระได้หรือไม่
ถ้าคุณมีข้อสงสัยต้องการคำตอบที่ตรงไปตรงมา ผมยินดีที่จะให้คำตอบ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซื้อประกันกับผม และคุณสามารถตรวจสอบคำตอบของผมกับตัวแทนของคุณ หรือตัวแทนที่จะมาบริหารกรมธรรม์ให้คุณได้ เพื่อความมั่นใจ และสบายใจ
สมนึก ธนวัฒน์โกศล
081 331 3463
www.fineplanner.com