อย. 10-1-06045-1-0043

ฟื้นฟูร่างกายให้สดชื่น กระฉับกระเฉง ดุจย้อนวัยกลับสู่ภาวะหนุ่มสาว ด้วยสารสกัดจากถังเช่า โสมและหลินจือ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับไมโตรคอนเดรีย ที่เปรียบเสมือน แหล่งสร้างพลังงานของเซลล์
 
คุณสมบัติสารประกอบ

สารสกัดจากโสม Ginseng ExtractUntitled
โสมมีคุณสมบัติเป็น “adaptogen” ซึ่งหมายถึง ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับภาวะกดดัน และ เป็นยาบำรุงทั้งร่างกาย อย่างไรก็ตามพบว่าจินเซโนไซด์ บางตัวมีฤทธิ์ต้านกัน เช่น จินเซโนไซด์ Rg มีฤทธิ์เพิ่มความดันโลหิต และกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่ จินเซโนไซด์ Rb มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต และกดระบบประสาท เป็นต้น
จากการศึกษาวิจัยพบว่าโสมมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ที่สำคัญๆ ได้แก่
1) เพิ่มสมรรถนะในการทำงานของร่างกายให้สูงขึ้น เนื่องจากโสมมีสรรพคุณในการต้านความเมื่อยล้า (antifatigue effect) จากกลไกร่วมกันหลายอย่าง เช่น การเพิ่มการดูดซึมออกซิเจนของผนังเซล เซลจึงสามารถสร้างพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นโสมยังช่วยปรับการเต้นของหัวใจ ให้กลับสู่ภาวะปรกติเร็วขึ้น ร่างกายจึงเหนื่อยช้าลง มีความอดทนต่อการทำงานมากขึ้น ซึ่งช่วยทำให้ผู้สูงอายุมีสมรรถภาพการทำงานของร่างกายดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยในระหว่างพักฟื้น ให้หายเจ็บป่วย เป็นปกติได้เร็วขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื่อกันว่าโสมมีสรรพคุณกระตุ้นสมรรถนะทางเพศ ทั้งนี้มีรายงานว่าโสมมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดด้วย
2) คุณสมบัติต่อต้านความเครียด (antistress effect) โดยจะช่วยปรับร่างกาย และจิตใจ ให้ทนต่อความกดดันจากภายนอก โดยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่มีผลป้องกัน และลดความเครียดจากต่อมใต้สมอง และช่วยคลายความวิตกกังวล
3) กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง มีผลให้รู้สึกมีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่า โดยไม่ทำให้เกิดการอ่อนเพลีย หรืออ่อนล้าตามมา เหมือนยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอื่นๆ โดยพบว่าซาโปนินจากโสมเมื่อให้ในขนาดน้อยๆ จะมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่เมื่อให้ในขนาดสูงๆจะมีฤทธิ์กดประสาท ดังนั้นควรรับประทานในขนาดที่พอเหมาะ มิเช่นนั้นอาจได้ผลตรงกันข้าม
4) เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน โดยมีผลกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบไม่เฉพาะเจาะจง มีรายงานว่าเพิ่มเม็ดเลือดขาวบางชนิดจึงเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
5) มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยมีฤทธิ์กระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลิน มาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
6) ชะลอความแก่ เนื่องจากโสมมีฤทธิ์ทำลายอนุมูลอิสระของออกซิเจนที่เกิดจากการทำลายไขมัน (lipid oxidation) อนุมูลอิสระนี้มีอนุภาพทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เสื่อมสลายลงก่อนเวลาอันควร ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลทำให้เกิด “ชราภาพ (aging)” เนื่องจากผลของโสมในการปรับสภาพร่างกาย และจิตใจให้ทนต่อความกดดัน เชื่อว่าช่วยเสริมฤทธิ์กันทำให้โสมมีสรรพคุณ “ชะลอความชรา” ได้
 
ถั่งเช่า Cordyceps

• บำบัดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง อาการหอบหืด อาการวัณโรค
• ถุงลมโป่งพองหรืออาการผิดปกติในระบบปอดและหัวใจ
• เสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับและไต
• มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่และการเสื่อมของเซลล์ร่างกาย
• Ÿ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล
• Ÿ ออกฤทธิ์ยับยั้งพิษของแบคทีเรีย รวมทั้งแบคทีเรียวัณโรค
• Ÿ ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด เพิ่มปริมาณเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจและปอด
• Ÿ เพิ่มระดับออกซิเจนและช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต
• Ÿ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก และอาการอ่อนเพลีย
• Ÿ บรรเทาอาการขาดออกซิเจน ช่วยระงับประสาท ลดระดับไขมันในเลือด
• Ÿ ต้านเซลล์มะเร็ง และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการออกซิเดชั่นของเซลล์
• ป้องกันอาการหลอดเลือดแข็งตัว อาการโรคหัวใจ และอาการประสาทเสื่อม
• มีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบไหลเวียนให้คล่องตัว
•  ช่วยเสริมสมรรถภาพเพศชาย
• Ÿ ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม ลดการตายของเซลล์สมอง
• สามารถช่วยต้านและลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในสัตว์ทดลอง และเพิ่มประสิทธิภาพออกซิเดชั่นของเซลล์ในร่างกาย

สารสกัดเห็ดหลินจือ 
เห็ดหลินจือมีสารโพลีแซคคาไซค์ ซึ่งมีผลทางการรักษาทางการแพทย์มากมาย ได้แก่ 

• ฤทธิ์ต้านมะเร็ง โดยการส่งเสริมภูมิคุ้มกัน กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ง ในญี่ปุ่นมีการใช้เห็ดหลินจือควบคู่กับเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง ช่วยแก้พิษจากรังสี, คีโม เช่น ท้องเสียอักเสบจากการฉายรังสี, เม็ดเลือดขาวต่ำจากคีโม, อาการปวดจากพิษบาดแผล
• ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด
• ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน
• เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด
• ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันในสมองและหัวใจ
• ยับยั้งเชื้อไวรัสในเซลเพาะเลี้ยง เช่น ไวรัสโรคเอดส์ อีสุกอีใส งูสวัด
• บำรุงและป้องกันตับ มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างพังผืดในโรคตับแข็ง ป้องกันตับจากสารพิษ ช่วยให้ใยแผลเป็นอ่อนนิ่มคลายตัว ไม่ไปรัดเส้นเลือดและเนื้อเยื่อตับ อีกทั้งยังกระตุ้นให้ตับสร้างเซลล์ใหม่
• รักษาโรคตับอักเสบ สามารถลดค่า SGOT และ SGPT ที่สูงเกินมาตรฐานในเลือด
• ช่วยเซลล์ตับฟื้นฟูสภาพตับเป็นไขมัน (fatty liver)
• เผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยให้นอนหลับสนิท
• ป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
• ช่วยรักษาโรคไตเรื้อรังบางชนิด โดยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น จากฤทธิ์สลายใยแผลเป็น (fibrosis scar)

อาร์ติโช๊ค (Cynara scolymus) 
  เป็นพืชที่นิยมปลูกในต่างประเทศ เฉพาะภูเขาสูงมากกว่า 1,500 เมตร เท่านั้น ปี 2513 นักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรป ได้ค้นพบสารไซนาริน ” มีคุณค่าทางอาหาร และยา นำมาบริโภคสด หรือปรุงอาหารได้ทุกส่วน หรือนำมาสกัดสารไซนาริน(Synarin) รับประทานเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพได้ดี” ในยุคโบราณอาร์ติโช๊คเป็นอาหาร และยารักษาโรคของชาวอียิปต์ ชาวกรีก และชาวโรมัน และเป็นเมนูอาหารที่สำคัญในทุกงานเลี้ยงของกรุงโรม นอกจากจะเป็นอาหารเสริม แล้วยังมีสรรพคุณทางยา ดังนี้
1. ช่วยบำรุง กระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งตับเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ทำหน้าที่ในการสกัดสารพิษ หรือสิ่งแปลกปลอมออกจากกระแสโลหิต สร้างน้ำดีและน้ำย่อย และเปลี่ยนแปลงหรือสร้างสารอาหาร ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
2. กระตุ้น การสร้างน้ำดีของตับ ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดไขมัน (Chloresteral) ในเลือด ช่วยให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำงานดี ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
3. เสริมสร้างการทำงานของถุงน้ำดี ช่วยสร้างน้ำดีป้องกันถุงน้ำดีอักเสบ ซึ่งมักเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ทำให้ระบบการย่อยอาหารดี ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก
4. ช่วยป้องกันตับอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคดีซ่าน และโรคตับแข็ง (Cirrhosis) ในประเทศบราซิล อาร์ติโช๊ค เป็นยาสมุนไพรพื้นฐาน

ที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของตับ และโรคอื่นหลายโรค ได้อย่างกว้างขวาง เช่น โรคโลหิตจาง เบาหวาน ไข้ รักษาบาดแผล และเกาส์
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยออสโล ประเทศนอร์เวย์ พบว่า อาร์ติโช๊ค มีสารต้านอนุมูลอิสระ 8.5 มิลลิโมล (Millimole หรือหน่วยวัดค่าต้านอนุมูลอิสระต่อ 100 กิโลแคลอรี่)

 สารสกัดซีซานดร้า Schisandra Berry Extract
ตามทฤษฎีการแพทย์แผนจีน ที่ใช้เข้าตำรับยาบำรุง และฟื้นคืนสภาพ เป็นยาปรับสภาพร่างกายโดยรวม และมีคุณสมบัติโดดเด่นคือ เป็นยาปกป้องตับและปรับระบบภูมิคุ้มกันที่ดี โดยสารที่ออกฤทธิ์เป็นสารในกลุ่ม ลิกแนน อาทิ ซีแซนดริน (schizandrin), ดีออกซีสคิแซนดริน (deoxyschizandrin), โกมิซิน (gomisins) และ พรีโกมิซิน (pregomisin) ในทางการแพทย์แผนจีน ได้ระบุสรรพคุณของซีซานดร้าไว้ว่ามีสรรพคุณบำรุงไต ฝาดสมานแก้ท้องเสีย แก้อาการเหงื่อออกมาผิดปรกติ บำรุงหัวใจ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ในรัสเซียใช้บำรุงสายตาทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้นโดยเฉพาะในเวลากลางคืน และใช้บำรุงร่างกายสามารถให้พลังงานทดแทนอาหารได้ การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของซีซานดร้าได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มีคุณสมบัติกระตุ้นร่างกาย ทำให้ร่างกายมีความทนต่อผลกระทบจากภาวะกดดันต่างๆ เช่น ภาวะการอักเสบ การโดนรังสี การเกิดพิษจากโลหะหนัก การอยู่ในสภาวะที่มีความกดอากาศต่ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ปรับสภาพสรีระต่างๆ ของร่างกายให้กลับสู่สภาวะสมดุล ไม่ว่าจะเป็น ระบบประสาทส่วนกลาง ระบบประสาทซิมแพเทติก ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร ระบบเมแทบอลิสมของน้ำตาลและไขมัน และทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อมดลูกดีขึ้นนอกจากนี้สารกลุ่มลิกแนน (lignans) ที่พบหลักๆ คือ ซีแซนดริน (schisandrin) และ โกมิซิน เอ (gomisin A) ยังแสดงฤทธิ์ในการเหนี่ยวนำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น

ขนาดบรรจุ 30 เม็ด/กล่อง

วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 เม็ด เช้า หรือ ก่อนนอน