.
Madames Product ChiangMai
 สถานะของเว็บ
วันที่สร้างเว็บ :9/8/2012
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :30/10/2014
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :183189
ควรทำอย่างไร เมื่อเกิดสิว...เพื่อผิวสวย
บทความ ณ. วันที่ : 14/8/2012        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 333 ครั้ง   

 

สิวเป็นสิ่งที่วัยรุ่นและหนุ่มสาวทุกคนรุ้จักกันดีหลายคนอาจจะเคยเป็นมาแล้วและมีแผลเป็นฝากรอยไว้เป็นที่ระลึก 

ในขณะที่บางคนอาจกำลังมีเม็ดตุ่มแดง ตุ่มมีหนองอยู่บนใบหน้าตามแผ่นกลัง หรือหน้าอก 
สิวเป็นสัญญาณของการแตกเนื้อหนุ่มเนื้อสาว วัยรุ่นประมาณ 80% เคยเป็นสิวแบบรุนแรง และไม่รุนแรงมาแล้วแทบทั้งสิ้น 
หลังจากผ่านช่วงวัยรุ่นเข้าสู่วัยหนุ่มสาวก็ยังมีโอกาสถูกสิวตามรังควานได้อีก

ศัตรูของความน่ารัก

สิวเกิดจากการที่ฮอร์โมนกระตุ้นให้ต้อมไขมันโตขึ้นประกอบกับการอุดตันของต่อมไขมัน 
และเชื้อแบคทีเรีย P.acnes บนผิวหนังทำให้เกิดการอับเสบ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่มีส่วนทำให้เกิดสิว ได้แก่
- การใช้เครื่องสำอางบางชนิด เช่นการใช้ออยล์หรือครีมทาผิวผสมตัวยาสตีรอยด์ บางคนอาจแพ้สารเคมีบางชนิดในน้ำมันแต่งผม หรือยาย้อมผม
- การล้างหน้าบ่อยๆ อาจเกิดการระคายเคืองทำให้เป็นสิวได้
- การที่ต้องสัมผัสกับน้ำมัน หรือความร้อน
- การรับประทานยาบางประเภท เช่นฮอร์โมน

วิธีป้องกันสิว

สิวเป็นเรื่องธรรมชาติการหลีกเลี่ยงสิวจึงเป็นไปได้ยากแต่ถ้าสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวกำเริบ 
โอกาสเป็นสิวก็จะลดน้อยลง

วิธีปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดสิวมีดังนี้

- รักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอเพื่อลดความมันบนใบหน้า เวลาล้างหน้าไม่ควรถูแรงๆ
- เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไขมัน หรือมีส่วนผสมของสารเคมีที่ทำให้เกิดสิว
- ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า
- อย่าใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสใบหน้า
- อย่าบีบหรือแกะสิว เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็น
- อย่าปล่อยให้ผมมัน สำหรับผู้ที่มีผมมันมีรังแค ควรสระผมบ่อยๆ พร้อมทั้งงดการใช้น้ำมันใส่ผม
- หลีกเลี่ยงความเครียด อารมณ์หงุดหงิดและการนอนดึก
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง เมื่อเป็น…สิว

สิวจัดเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งสิวบนใบหน้าบางตำแหน่งอาจเป็นอันตราย โดยเกิดการอักเสบรุนแรงและลุกลามมากขึ้นจนอาจกลายเป็นแผลเป็น วัยรุ่นที่เป็นสิวอักเสบมากๆ อาจมีอาการเจ็บปวดเพราะฝีหนอง 
บางคนยังเกิดความกังวลและสูญเสียความมั่นใจในตนเองถึงแม้เป็นสิวเพียงเล็กน้อย

ปัจจุบัน 
แม้จะมีการโฆษณาของร้านเสริมสวยบริการรักษาสิวมากมายทั้งตามห้างสรรพสินค้าและย่านชุมชนซึ่งร้านเหล่านี้
จะไม่มีแพทย์ผ็เชี่ยวชาญโรคผิวหนังประจำ แต่อ้างว่าสามารถรักษาสิวได้ถ้าท่านเป็นสิว ไม่ควรให้ร้านเสริมสวยเหล่านี้ทำการรักษา เนื่องจากร้านเสริมสวยไม่มีใบอนุญาตในการประกอบการรักษาโรค 
นอกจากนี้ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการอับเสบเพราะติดเชื้อจากเครื่องมือไม่สะอาดอาจกลายเป็นรอยแผลเป็นได้

การรักษาสิวที่ถูกวิธี

ขั้นตอนการรักษาสิว

- ใช้ยาทาเช่น ยาฆ่าเชื้อชนิดครีมหรือโลชั่นยาลอกผิวซึ่งมีฤทธิ์ละลายตุ่มสิวอุดตันทำให้สิวหลุดลอก
- ใช้ยารับประทาน ได้แก่ ยาปฏิชีวนะ เช่น เตตร้าซัยคลิน อิริโทรมายซิน
- ยาประเภทฮอร์โมน เช่น ไซโปรเทอโรน อะซีเตต
- ยาเรตินอยด์ เช่น ไอโสเตตริโนอิน มีฤทธิ์ลดการสร้างซีบุ้มที่ต่อมไขมัน ลด จำนวนเชื้อ P.acnes ลดการอุดตันและการอับเสบของสิวทำให้สิวแห้ง แต่ห้ามผู้รับประทานยานี้ตั้งครรภ์และต้องหยุดการใช้ยาให้ครบ 1 เดือนจึงจะตั้งครรภ์ได้ การใช้ยานี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังเท่านั้น

- วิธีอื่นๆ เช่น การใช้ไอเย็นสำหรับสิวอักเสบ สิวหายโดยไร้ริ้วรอยได้หรือไม่
ริ้วรอยที่เหลือจากการเป็นสิวจะมาน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวที่เป็นและการรักษาที่ถูกวิธีหรือไม่

การรักษาสิวอาจจะต้องใช้เวลา สำหรับคนที่เป็นเล็กน้อย ใช้แค่ยาทาเฉพาะที่ก็เพียงพอ ส่วนผู้ที่เป็นมาก อาจจะต้องรักษาด้วยยารับประทานติดต่อกันนานจนกว่าจะหาย

ดังนั้นท่านควรรักษาสิวให้ถูกวิธีตั้งแต่แรกเพื่อลดโอกาสการเป็นแผลเป็น หากมีปัญหาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง

รอยแผลเป็นจาก... สิว


ผิวสวยหน้าใสเป็นสิ่งปรารถนาสำหรับทุกท่าน การดูแลสุขภาพผิวที่ถูกวิธีจะช่วยให้ท่านมีผิวพรรณที่ดี ช่วยเสริมบุคลิกภาพ
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การพักผ่อนที่เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 1-2 ลิตร รวมถึงการหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยการสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม และใช้ยาทากันแดดจะช่วยชะลอปัญหาผิวพรรณ หมองคล้ำหยาบกร้านก่อนวัยอันสมควร อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะได้มีการดูแลผิวพรรณแล้ว แต่มีปัจจัยบางอย่างในแต่ละช่วงอายุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณ เช่น ปัญหาการเกิดสิวในช่วงวัยรุ่น, ปัญหาฝ้า กระในผู้สูงอายุ


เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งทำให้การทำงานของต่อมไขมันเพิ่มมากขึ้น เป็นผลให้เกิดเป็นสิวอักเสบ บางครั้งทิ้งริ้วรอยไว้เป็นผลและรอยขรุขระที่ผิวหนัง ทำให้วัยรุ่นบางคนขาดความมั่นใจในตนเอง
การแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นจากสิวทำได้โดยการ หลีกเลี่ยงสาเหตุกระตุ้นการเกิดสิวซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดแผลเป็น โดยการดูแลสุขภาพผิว เช่น การพักผ่อนที่เพียงพอ หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว เช่น ความร้อน แสงแดด มลภาวะจากควันรถยนต์ การแต่งหน้าเข้มเกินไป พยายามหลีกเลี่ยงการบีบ แคะ แกะ เกา เพราะจะทำให้เกิดแผลเป็นเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี แพทย์ผิวหนังมีการรักษาที่ช่วยเหลือในกรณีเกิดแผลเป็นแล้วได้แก่

• การใช้ยาทากลุ่มกรดวิตามิน เอ ช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างเส้นใยคอลลาเจนทำให้แผลตื้นขึ้น

• การแต้มแผลเป็นด้วยน้ำยา TCA หลังแต้มน้ำยาแล้วจะเกิดสะเก็ดสีดำที่ตำแหน่งแต้มยา สะเก็ดจะหลุดลอกภายใน 1 สัปดาห์

• การทำไอออนโต (Iontophoresis) เป็นวิธีการที่ใช้กระแสไฟฟ้าอย่างอ่อน ๆ ช่วยผลักประจุยาเข้าสู่ผิวหนัง หลังจากทำอาจมีใบหน้าแดงเรื่อ ๆ ซึ่งจะหายไปได้เองภายใน 1 วัน

• การผลัดผิวโดยวิธี MD (Microdermabrasion) เป็นการผลัดผิวโดยใช้หลัก
การพ่นผง Crystal ซึ่งทำด้วยผลึกอลูมิเนียมอ๊อกไซด์ที่มีขนาดเล็กเท่าทรายละเอียด เพื่อขัดผิวส่วนขี้ไคล และหนังกำพร้าส่วนบนให้หลุดไป หลังจากนั้นจะมีการสร้างเซลล์ขึ้นใหม่เพื่อทดแทน
ยังมีการผลัดผิวแบบใหม่ เรียกว่า MD Plus (Microdermabrasion Plus) 
เป็นการเพิ่มวิธีการบำบัดผิวโดยการใช้ระบบสูญญากาศนวดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต แล้วจึงพ่นผง Crystal ทำการผลัดผิว ตามมาด้วยการใช้แสง blue light เพื่อลดการอักเสบของสิวอักเสบ

• การรักษาโดยการใช้เลเซอร์ ในปัจจุบันมีเลเซอร์ที่สามารถกระตุ้นเส้นใจคอลลาเจน เพื่อช่วยให้แผลเป็นจากสิวตื้นขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดแผลที่ใบหน้าและไม่มีอาการเจ็บ หลังทำการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ แต่ต้องอาศัยการรักษาหลายครั้ง


การรักษาโดยวิธีดังกล่าวข้างต้นให้ผลการรักษาที่แตกต่างขึ้นกับลักษณะของแผลเป็น 
อย่างไรก็ดี ผลที่ได้จากการรักษาคือ 
ทำให้สภาพผิวเรียบเนียนขึ้นจากเดิมซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการรักษาตามแต่ลักษณะผิวเดิม






เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน
©2008-2010 SABUYJAISHOP All Rights Reserved