ความเป็นมาของ "มาดามเฮง"
เดิมที่เริ่มจากการทำแป้งร่ำมาก่อน คุณปู่ (สามีมาดามเฮง) เป็นผู้บุกเบิก หลังจากนั้นพอมาช่วงของคุณย่า (มาดามเฮง) จะเป็นผู้คิดสูตรทำสบู่ ทำสบู่ใช้เอง พวกเราจะใช้สบู่ที่คุณย่าทำมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยซื้อสบู่ใช้เลย ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนถ้าวันไหนที่คุณย่าทำสบู่ชาวบ้านละแวกนั้นรู้เข้าก็จะมาเข้าคิวรับแจกสบู่ ท่านจะหั่นเป็นก้อนๆ ไว้คอยแจก หลังจากนั้นก็เริ่มทำขาย ขายแบบเป็นก้อนเปลือย ๆ ยังไม่มีกล่อง ไม่มีชื่อไม่มีโลโก้สินค้าด้วยซ้ำไป จนกระทั่งคุณวรรณชัย ลูกชายคนเล็กของมาดามเฮง ได้เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และตั้งชื่อแบรนด์ เมอรี่เบลล์ ในยุคแรกๆ ใช้เป็นสบู่แคมเฟอร์ หรือเรียกกันติดปากว่าสบู่ขิงพอหลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนาสูตรเรื่อยมา จนมาเป็นสูตรต้นตำรับมาดามเฮง และได้รับการกล่าวขานมาจนทุกวันนี้ มาดามเฮง ชื่อจริงว่า เฮ้งชุยกุ่ง คุณวรรณชัยเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนที่ติดต่อธุรกิจกับบริษัทน้ำหอม
ทางฝรั่งเศส เค้ามาเมืองไทย แรกๆ ที่มาเจอคุณย่า เขาเรียกว่า มาดาม ท่านฟังแล้วชอบ และขณะนั้นก็เผอิญว่ามีหนังฮ่องกงเข้ามา เรื่อง มาดามเซอร์ ผนวกกับคุณย่าชื่อเฮ้งซุยกุ่ง ก็เลยเรียกคุณย่าว่า มาดามเฮงเซอร์ ด้วยมาดของมาดามเฮงแล้วยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนมาดามจริงๆ ทุกวันนี้ก็เรียกคุณย่าว่ามาดามๆ มาดามเฮง ตอนนี้อายุก็ 88 ปี แล้ว ยังน่ารักเป็นที่รักใคร่ของพนักงานในบริษัทฯ 

สบู่มาดามเฮงส่วนใหญ่ที่หลายคนใช้แล้วติดใจ เพราะว่าเกิดการเปลี่ยนแปลง เขาประหลาดใจว่า
ใช้สบู่ไปแค่ก้อนเดียวทำไมหน้าใสขึ้น กลิ่นตัวไม่มี คนที่เป็นสิว สิวแผ่นหลัง สิวหาย บางคนเป็นฝ้าหนาเตอะ พอเค้าเอาไปใช้ แล้วกลับมาให้เราดูว่านี้นะ มันหายได้จริงๆ นี่แหละคือสิ่งที่ผู้บริโภคพูดถึงและเล่าสู่กันฟังคนแล้วคนเล่า จนทำให้สบู่มาดามเฮงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคกล่าวขานและให้การตอบรับ และยอมรับถึงคุณภาพของสบู่มาดามเฮงทุกตัว และไม่ว่ามาดามเฮงจะทำอะไรออกมาจึงเป็นเครื่องการันตีสำรับผู้บริโภคไปแล้วว่าผลิตภัณฑ์นั้นต้องมีคุณภาพเท่านั้น
สบู่ที่ดีเนื้อต้องมีความเหนียว ไม่แห้งเปราะ และต้องหมดเร็ว คนจะบอกว่าสบู่มาดามเฮงทำไมหมดเร็ว เพราะเราไม่ผสมแป้ง สบู่ของเราฟองค่อนข้างเยอะ ทุกคนคิดว่าใส่เคมีหรือเปล่า แต่จริงๆ ไม่ใช่ มันคือความบาลานซ์ เราไม่ได้เอาความบริสุทธิ์ของไขออก สบู่อื่นๆ พอใช้ไปสักพักจะเริ่มพอง แล้วเละ ใช้หมดก้อนได้บางเท่าแผ่นกระดาษยังใช้ได้ ใช้หมดก้อนก็ยังมีกลิ่น
บางคนบอกว่าสบู่เราด่างเยอะ แต่ความจริงแล้วยิ่งด่างเยอะยิ่งไม่มีฟอง แต่สบู่ของเราเกิดจากไข
สบู่ ( กลีเซอรีน ) ยิ่งเยอะฟองก็เยอะ ถ้าน้ำมันบริสุทธิ์ยังอยู่มันจะมีฟอง ส่วนใหญ่ทั่วไปเขาจะเอากลีเซอรีนที่สกัดจากออกจากไขสบู่ไปทำโลชั่น และครีม แต่สบู่ของเราไม่ใช่ ฉะนั้นกระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ สมุนไพรที่ใช้สิ่งแรกที่เราต้องรู้ว่าสมุนไพรตัวนั้นออกฤทธิ์ด้วยอะไร แหล่งวัตถุดิบสมุนไพรที่ดีที่สุดมาจากไหน เราจะไม่ใช้ของถูก สมุนไพรที่นำมาใช้ในการผลิตจะถูกคัดเลือกมาจากแหล่งที่ดีที่สุด