.
Madames Product ChiangMai
 สถานะของเว็บ
วันที่สร้างเว็บ :9/8/2012
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :30/10/2014
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :183192
บันทึกกำเนิดสบู่ก้อนแรก
บทความ ณ. วันที่ : 10/9/2012        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 357 ครั้ง   

 

บันทึกกำเนิดสบู่ก้อนแรกว่า มาจากไขมันแพะต้มกับขี้เถ้าจากการเผาไม้  ซึ่งเป็นการค้นพบโดยบังเอิญในยุคโรมันอันมีการบูชายัญสัตว์บนแท่นบูชาที่ทำ ด้วยไม้  แท่น บูชานี้ตั้งอยู่บนเนินเขา เมื่อสัตว์และแท่นไม้ถูกเผาพร้อมกัน ไขมันสัตว์ออกมาผสมกับขี้เถ้า เมื่อฝนตกลงมาก็เกิดเป็นก้อนสีขาวไหลจากเชิงเขาสู่ลำธาร คุณแม่บ้านสังเกตพบว่า หากนำเสื้อผ้ามาซักที่ลำธารหลังจากฝนตก ก้อนขาวๆ นี้จะช่วยทำให้ซักผ้าได้ง่ายขึ้น สะอาดขึ้น
 
 เวลาล่วงเลยมา มีการทำสบู่ใช้ เพียงแต่ไม่ได้ผลิตเป็นจำนวนมาก เป็นการทำใช้กันในครัวเรือน และเพราะมีสบู่ใช้ไม่มาก ผู้คนก่อนศตวรรษที่ 20 จึงไม่ได้อาบ น้ำกันบ่อยนัก อย่างไรก็ตาม ต่อมาการทำสบู่กลายเป็นอุตสาหกรรมเก่าแก่ที่สุดของโลกประเภทหนึ่ง โดยโรงงานแรกๆ เกิดขึ้นในยุโรป
การทำสบู่เป็น ทั้งวิทยาศาสตร์และศิลปะ มีการพัฒนาก้าวหน้าจนปัจจุบันรูปแบบและสภาพแตกต่างไปจากบรรพบุรุษ ที่หน้าตาเดิมเป็นเพียงก้อนสบู่ ทั้งนี้ หลักการพื้นฐานของสบู่เกิดจากการทำปฏิกริยาทางเคมีระหว่างสารละลายกับน้ำมัน อาจ เป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ และกลีเซอรีนสำหรับทำสะอาด ขจัดคราบสกปรก
 
แต่ข้อ เสียคือ ความที่ล้างความมันได้ดีมาก จึงทำลายไขมันคุ้มกันผิวไป ทำให้ผิวแห้งตึง และสบู่ยังมีฤทธิ์เป็นด่าง (ค่า pH มากกว่า 7)ทำให้ค่า pH บนผิวซึ่งปกติมีค่าประมาณ 5.5 คือมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เปลี่ยนไป การที่ค่า pH สูงกว่าภาวะปกติเป็นเวลา นานๆ ทำให้ผิวระคายเคือง อักเสบ และส่งเสริมให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบนผิวหนัง ปัจจุบันนี้จึงนิยมใช้สารชำระล้างชนิดสังเคราะห์ใหม่ๆ(synthetic detergents หรือ soapless) ซึ่งสามารถปรับค่า pH ให้มีค่าใกล้ เคียงกับผิวหนังปกติ ระคายเคืองน้อยกว่าสบู่แบบเดิม ล้างออกได้สะดวกโดยไม่ ทิ้งคราบไว้บนผิวหนัง
 
ประเภท ของสบู่มี  
 
1.สบู่ ก้อนขุ่น (Opaque Soap) เป็นประเภทที่เรารู้จักกันดี เพราะใช้มานานก่อนกำเนิดของสบู่ชนิดอื่นๆ โดยทั่วไปมีสารเพิ่มความชุ่มชื้นผสมอยู่ไม่มากนัก แม้ทำความสะอาดผิวได้ดี แต่อาจทำลายน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติและไขมันที่จำเป็น คนที่มีสภาพผิวธรรมดาหรือผิวมันสามารถผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงมาทดแทนได้ แต่คนที่มีผิวแห้ง การสร้างน้ำมันหล่อเลี้ยงทดแทนทำได้ช้า และอาจช้ากว่าการทำความสะอาดผิวครั้งต่อไป การใช้สบู่ประเภทนี้จึงอาจทำให้ผิวแห้งตึงและเกิดการระคายเคืองได้
 
2.สบู่ก้อนใส (Transparent Soap) มีปริมาณของ สารเพิ่มความชุ่มชื้นบำรุงผิวมากกว่าสบู่ก้อนขุ่น ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้านได้มากกว่า แต่มีปริมาณฟองน้อยกว่าและละลายหมดเร็วกว่า คนที่คิดว่าสบู่ที่ดีต้องมีฟองมาก คงไม่ชอบใช้สบู่ใสนัก ทั้งที่ดีกว่า และ 
 
3.สบู่เหลว (Liquid Soap)
 
ยังมีสบู่ที่ส่วนประกอบแตกต่างกันไปตามวัตถุ ประสงค์ เช่น สบู่ยาที่มีส่วนผสมของไทรโคลซาน และไทรโคคาร์บอน มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรีย หรือสบู่ที่มีส่วนผสมของลาโนลินเพื่อเพิ่มความ ชุ่มชื้นให้ผิวมากกว่าปกติ เป็นต้น





เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน
©2008-2010 SABUYJAISHOP All Rights Reserved