.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :18/6/2009
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :28/7/2015
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :893886
ad
สอนทำ Page Post Engagement (การมีส่วนร่วมในหน้า)
บทความ ณ. วันที่ : 30/7/2015        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 378 ครั้ง   

สอนลงโฆษณาบน facebook ล่าสุด ปี 2014 วิธีลงโฆษณา facebook ง่ายๆ คุณก็ทำได้

วันนี้เราจะมาพูดถึงการโฆษณาอีกประเภทหนึ่งที่ได้ผลดีมากๆ ที่เหมาะกับคนที่เน้นขายของบน Facebook อย่างเดียว นั่นก็คือ “การ Promote Post” นั่นเอง : )

ตัวอย่างโพสที่ได้รับการโปรโมต ใส่ Text ได้ยาวตามใจชอบ
ตัวอย่างโพสที่ได้รับการโปรโมต ที่ขึ้นบนหน้า News Feed ใส่ Text ได้ยาวตามใจชอบ

ตอนเล่นเฟสบุ้ค หลายคนคงจะเคยเห็นโพสจากเพจอื่นที่เราไม่เคยกดไลค์ไว้ ปรากฏขึ้นมาบน New Feed ของเรา บางครั้งก็มีปรากฎขึ้นมาบนแถบด้านขวามือด้วย

โพสที่ขึ้นตรงแถบขวา ซึ่งการขึ้นบน News Feed และแบบแถบขวา จะถูกสุ่มขึ้นมาแสดงผล

โพสที่ขึ้นตรงแถบขวา ซึ่งการขึ้นบน News Feed และแบบแถบขวา จะถูกสุ่มขึ้นมาแสดงผลสลับกัน

รูปแบบการทำโฆษณา โดยการโปรโมตโพสที่เราได้โพสลงบน Timeline แบบนี้เราเรียกว่าการโฆษณาแบบ “การมีส่วนร่วมในหน้า Page Post Engagement” หรือบางคนอาจจะเรียกว่าการ “Boost Post (โปรโมทโพสต์)” ก็ได้ 

การ Promote Post เหมาะกับใคร?
1. คนที่โพสรูปขายของ แล้วอยากโปรโมตโพสนั้นๆ
2. คนที่มีแคมเปญ/กิจกรรม/โปรโมชั่นลดราคา นู้นนี้นั่น แล้วอยากเผยแพร่กิจกรรมนั้นๆเข้าสู่ Social Media
3. คนที่อยากได้คามคุ้มค่า เพราะนอกจากที่คนจะมากดไลค์โพส คอมเม้นโพสเราแล้ว ยังมีโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะกดไลค์เพจเพิ่มด้วยเป็นผลพลอยได้

เริ่มทำ Promote Post กันเลย !

การเริ่มทำ Promote Post ทำได้ 2 ทาง (แต่ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน) นั่นก็คือ
– Page Post Engagement
– Boost Post

ในการเริ่ม Page Post Engagement เราต้องเข้าไปที่มุมบนขวา แล้วเลือก “Create Ads”

fbad1

ส่วนในการเริ่ม Boost Post ก็ทำได้ง่ายๆเลย แค่เลื่อนหาโพสที่เราอยากโปรโมสต์บนทามไลน์ของเรา แล้วคลิก “Boost Post” ที่อยู่มุมขวาล่างของโพสนั้นๆได้เลย

เริ่มโปรโมตโพสทางนี้ก็ได้เหมือนกัน สะดวกดี แต่ข้อเสียคือ "เลือกกลุ่มเป้าหมายได้น้อยกว่า" แบบแรก

เริ่มโปรโมตโพสทางนี้ก็ได้เหมือนกัน สะดวกดี แต่ข้อเสียคือ “เลือกกลุ่มเป้าหมายได้น้อยกว่า” แบบแรก

—————————

การทำ Boost Post แม้จะสะดวกกว่า คลิกเดียวเริ่มสร้างโฆษณาจากโพสได้เลย แต่ก็มีข้อเสียคือ  Boost Post  เลือกกลุ่มเป้าหมายได้แคบกว่า (เพราะเฟสบุ้คเค้าออกแบบให้หน้าจอสร้างโฆษณาของ boost post ดูใช้งานง่าย ปุ่มน้อยที่สุด ค่ะ)

ดังนั้น วันนี้เราจะสอนการสร้าง Page Post Engagement 

2. เลือกโพสที่อยากจะโปรโมต

เลือกเพจ และเลือกโพสที่เราอยากโปรโมตเลือกเพจ และเลือกโพสที่เราอยากโปรโมต

 

 

3.เลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ที่อยากให้มองเห็นโฆษณาของเรา

Screen Shot 2557-08-21 at 12.56.58 AM
Location = อยากให้ Ads ของเราแสดงผลกับผู้ใช้ที่เล่นอยู่ที่ประเทศไทย/จังหวัดไหน/เขตไหน

Age = ช่วงอายุของคนเล่นเฟส ที่เราอยากให้เห็น Ads เรา

Gender = เพศของคนที่เราอยากให้เห็น Ads เรา

Language = ภาษาที่ใช้ของคนเล่นเฟส ที่เราอยากให้เห็น Ads เรา

Interests = ความสนใจของคนเล่นเฟส ที่เราอยากให้เห็น Ads เรา <แอบบอกหน่อยว่า facebook นั้น ตามเก็บพฤติกรรมความชอบ/ความสนใจของเรา โดยดูจากรูปแบบเพจที่เราชอบกดไลค์ และอื่นๆที่แสนลึกล้ำ และยังคงเป็นปริศนา>

Behaviour = รูปแบบพฤติกรรม สำหรับมุ่งเน้นโชว์ Ads ไปที่บุคคลที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ เช่น กำลังท่องเที่ยว <Traveling to…> หรือกำลังเล่นเกมออนไลน์ <Playing online game> ฯลฯ

Connection = เราสามารถเลือกได้ว่า คนที่เห็น Ads นี้คือคนที่เคยกด/ไม่เคยกดไลค์เพจเราไว้แล้วเท่านั้น หรือ เลือกทั้งสองอย่างก็ได้

Screen Shot 2557-08-29 at 5.13.54 AM

ตัวอย่าง ถ้าเราโพสรูปขายชุดกระโปรงที่ค่อนข้างมีราคา เราก็ควรจะเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เป็น

1. อยู่ประเทศไทย 2.เป็นผู้หญิง 3.อายุ 19-30 <วัยทำงาน> 6.จบการศึกษาระดับป.ตรี 5.ชอบใส่กระโปรง (Interest > Skirt)

เคล็ดลับ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเปิดร้าน มีงบโฆษณาไม่มาก ขอให้เราพยายามเจาะจงกลุ่มเป้าหมายให้แคบเข้าไว้ เพื่อให้งบที่เราลงทุนไปทุกบาทถูกใช้อย่างคุ้มค่า ก่อนที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่กว่านี้เหมือนแบรนด์ใหญ่ๆค่ะ

Screen Shot 2557-08-20 at 11.49.31 PM

3. สำหรับ Campaign and Ad Set และ Bidding and Pricing (การเลือกรูปแบบการจ่ายเงิน) ของการทำโฆษณาประเภทนี้ จะเหมือนกับการทำ Page Like ที่เราแนะนำกันไปเมื่อตอนที่แล้ว ซึ่งจะบอกว่าการจ่ายเงินแบบไหนคุ้มที่สุด อ่านได้ที่นี่

4. กด “Place Order” เพื่อเริ่มเผยแพร่โฆษณาได้เลย

5. สำหรับคนที่ยังไม่เคยโฆษณากับเฟสบุ้คเลย ทางเฟสบุ้คก็จะมีให้เลือกว่าจะใช้อะไรจ่ายเงินค่าโฆษณา ในที่นี้ เราใช้บัตรเดบิตของกสิกรไทย ค่ะ

Screen Shot 2557-08-29 at 5.22.36 AM

6. เมื่อเลือกช่องทางการชำระเงินเรียบร้อย โฆษณาของเราก็เริ่มเผยแพร่ออกไปสู่กลุ่มเป้าหมายแล้ว  จากนี้ เราก็จะสามารถเข้าไปที่หน้า “Manage Ads” ได้ ที่แห่งนี้ ทำให้เราเห็นภาพรวมของการลงทุนกับโฆษณาของเรา เราสามารถ เปิด/ปิด โฆษณาได้ กำหนดวงเงินโฆษณาได้ รวมไปถึงดูสถิติการเข้าถึงโฆษณาของเราได้ด้วยล่ะ

rrr

kkkk

 

ขอบคุณบทความดีๆ คัดลอกบทความจาก http://blog.sellsuki.com