ใช้น้ำหอมอย่างมีเทคนิค ช่วยให้มีกลิ่นกายหอมฟุ้งไปได้ทั้งวัน
บทความ ณ. วันที่ : 7/7/2010        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 2851 ครั้ง   

นับ หนึ่ง สอง…..คลิ้กเปิดขวดน้ำหอมกันได้เลยจ้ะสาวๆๆ

              ให้พรมน้ำหอมลงไปบนผิวหลังจากเพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาดๆ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผิวของเรากำลังสะอาดมีความสามารถในการดูดซับน้ำหอมและกลิ่นได้ดีที่สุด

            

 

                สำนวน “Less is more” ยังคงเป็นอะไรที่ใช้ได้ตลอด “ยิ่งน้อยยิ่งดี” โดยเฉพาะเมื่อใช้ในวงการความงาม เวลาสาวๆ จะฉีดน้ำหอม ก็ควรที่จะให้มันหอมอ่อนๆ ถึงจะดูมีเสน่ห์ ประมาณ “แม่สาวผู้มีกลิ่นดอกไม้จางๆ” อะไรประมาณนี้ ไม่ใช่พรมซะกลิ่นฉุนอย่างกับไปตกบ่อน้ำหอมมา คนรอบข้างเขาจะพาลแหวะเอาได้ง่ายๆ ถ้าใช้น้ำหอมแบบขวดแต้ม แนะนำว่าให้แตะน้ำหอมที่ ปลายนิ้วพอชุ่ม จากนั้นให้นำไปแต้มๆ อย่างบางเบาบริเวณจุดชีพจร ก็คือบริเวณข้อมือทั้งสองข้าง บริเวณคอปกเสื้อ บริเวณหลังใบหู และบริเวณลำคอ รวมทั้งบริเวณหน้าอก ข้อพับแขน หัวเข่า และบริเวณต้นขาด้วย ที่ต้องเป็นบริเวณเหล่านี้ก็เพราะว่าบริเวณเหล่านี้เป็นบริเวณที่เลือดมีการ ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา เมื่อเลือดไหลเวียนมาบริเวณจุดต่างๆ ดังกล่าว ผิวหนังจะเกิดความร้อนซึ่งเป็นเหตุให้กลิ่นน้ำหอมกระจายได้อย่างรวดเร็ว หอมฟุ้ง

                   ถ้าน้ำหอมที่เราใช้เป็นแบบขวดสเปรย์ ให้ฉีดน้ำหอมในตำแหน่งชีพจร โดยฉีดให้ได้ระยะห่างหนึ่งฟุตเพื่อให้กลิ่นหอมกระจายอย่างพอเหมาะ ก่อนฉีดให้ลองฉีดในอากาศก่อนซัก 2-3 ครั้ง เพื่อไล่ให้น้ำหอมเข้ามาในสายฉีด

 

                     หลักวิทยาศาสตร์ที่ว่าความร้อนมักเคลื่อนตัวไปยังที่สูงเนื่องจากความหนาแน่นเบาบางกว่า ดังนั้นเราจึงควรฉีดน้ำหอมจากล่างขึ้นบนเช่นกัน ฉีดไปตามการเคลื่อนที่ของอุณภูมิร่างกาย วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นคงทนยาวนานตลอดทั้งวัน

                   สิ่งหนึ่งที่น่ารู้ก็คือทั้งชายและหญิงที่มีผิวแห้ง เวลาฉีดน้ำหอมลงไปแล้วกลิ่นจะติดไม่ค่อยทนเท่ากับผู้ที่มีผิวมัน เพราะความมันจากไขมันของผิวหนังเมื่อถูกผสมรวมเข้ากับน้ำหอมที่ฉีดไปแล้วมันจะกลายเป็นน้ำมันหอมระเหย ให้กลิ่นหอมจางๆ ที่ติดทนนานกว่า วิธีแก้ไขก็คือให้ฉีดน้ำหอมซ้ำซัก 1-2 ครั้งต่อวัน หรือให้ทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ก่อนที่จะฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดของเรา ก็จะพอช่วยให้น้ำหอมติดทนนานขึ้นมาได้บ้าง

                         เมื่อฉีดน้ำหอมลงบนผิวกายแล้ว ก็ควรจะปล่อยให้มันแห้งเสียก่อนแล้วค่อยสวมใส่เสื้อผ้า หลายๆคนเลยมักจะสวมใส่เสื้อผ้าทันทีที่ฉีดน้ำหอมเสร็จแล้ว การทำเช่นนี้จะทำให้กลิ่นถูกผ้าดูดซับไว้ โดยปกติแล้วกว่ากลิ่นน้ำหอมจะ ซึมลงสู่ผิวจนกระทั่งติดผิวได้อย่างทนนานมักจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย กว่ามันจะเซ็ตเข้าสู่ผิวจนได้กลิ่นที่เป็นธรรมชาติเนี่ย สาวๆ หนุ่มๆ ฉีดน้ำหอมเสร็จแล้วก็ใส่เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว แล้วก็ทำกิจกรรมอื่นๆ ไปก่อนก็แล้วกัน ไปกินข้าวก่อนก็ได้จ้า

อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การที่หนุ่มๆ สาวๆ ประโคมใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัวจนทำให้กลิ่นกายตีกันมั่วซั่วไปหมด บังเกิดกลายเป็นกลิ่นใหม่ขึ้นมา หากลิ่นน้ำหอมที่แท้จริง ไม่เจอ บางคนตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็สระผมด้วยแชมพูกลิ่นหอมฟุ้ง ตามด้วยครีมนวดผม อาบน้ำด้วยเจลอาบน้ำอโรมาเทอรพี เสริมความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วยโลชั่นทาผิวกลิ่นหอม สยบกลิ่นเต่าด้วยโรลออน หรือหนุ่มก็อาจปิดท้ายด้วยอาฟเตอร์เชฟ (After shave) หลังการโกนหนวด และอื่นๆ อีกมากมาย กลิ่นทั้งหลายจากกิจกรรมดังกล่าวก็ตีกันเป็นกลิ่นอะไรก็ไม่รู้ เลยไม่รู้เลยว่าน้ำหอมที่เราฉีดมากลิ่นมันเป็นอย่างไรกันแน่ ฉะนั้นถ้าเราต้องการให้กลิ่นน้ำหอมของเรามันโดดเด่นขึ้นมาก็ให้เรารู้จัก แบ่งขั้นตอน ในการใช้เครื่องประทินผิวให้ดีๆ มาปรับเปลี่ยนการใช้ผลิตภัณฑ์เสียใหม่ กลิ่นน้ำหอมจะได้ส่งกลิ่นอย่างคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปหน่อย ก็คือให้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นใกล้เคียงกับกลิ่นน้ำหอมกลิ่นโปรดของเราให้มากที่สุด






 
   
เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน

©2008-2009 SABUYJAISHOP All Rights Reserved