.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :18/6/2013
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :30/12/2013
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :303700
ระวัง! ต้อหินจากเบาหวาน
บทความ ณ. วันที่ : 29/6/2013        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 644 ครั้ง   
ระวัง! ต้อหินจากเบาหวาน


โดย...รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ 
ภาควิชาจักษุวิทยา



ผู้ที่เป็นเบาหวานทราบหรือไม่ว่า จะเสี่ยงต่อการเป็นต้อหินมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และถ้าไม่ได้รับ การตรวจจากจักษุแพทย์ อาจมีโอกาสตาบอดถาวรได้



ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานและไม่เคยรับการตรวจจอประสาทตาจากจักษุแพทย์ อาจเกิดภาวะเบาหวาน ขึ้นจอตาได้ เนื่องจากเบาหวานทำให้เส้นเลือดที่จอตาผิดปกติทีละน้อยๆ จนจอตาบวม มีเลือดออกที่จอตา หรือวุ้นตา ส่งผลให้เกิดอาการตามัวและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางตา เช่น ต้อหินได้
หลายท่านอาจยังไม่ทราบว่าต้อหินนั้นอันตรายอย่างไร



อันตรายอยู่ที่เส้นประสาทตาจะถูกทำลาย โดยความดันลูกตาเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากที่สุด ซึ่งความดันลูกตาจะถูกควบคุมด้วยระบบไหลเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงภายในลูกตา หากภาวะสมดุลระหว่างการ สร้างน้ำหล่อเลี้ยงและการระบายน้ำออกจากลูกตาเสียไป จะทำให้ความดันลูกตาสูง เกิดภาวะต้อหิน ซึ่งในระยะแรกอาจไม่พบความผิดปกติใดๆ ต่อมาตาจะค่อยๆ มัวลง และยิ่งเป็นผู้ป่วยเบาหวานที่มี เบาหวานขึ้นตาด้วยแล้วหากปล่อยทิ้งไว้จนมีภาวะต้อหินแทรกซ้อน ก็จะตามัวมากขึ้นปวดตา ตาแดง และ อาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด 



อย่างไรก็ดี การวินิจฉัยภาวะต้อหินจากเบาหวาน จะเริ่มจากวัดการมองเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ ตรวจวัดความดันลูกตา ซึ่งเป็นการตรวจที่สำคัญมากในการวินิจฉัยต้อหิน รวมถึงตรวจจอตาและขั้วประสาทตา ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อการเป็นต้อหิน



จะว่าไปแล้ว การรักษาต้อหินจากเบาหวาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา ฉายแสงเลเซอร์ หรือแม้กระทั่งการผ่าตัด มักไม่ค่อยได้ผล เป็นแค่เพียงบรรเทาอาการ ไม่สามารถแก้ไขให้สายตากลับมาเป็นปกติได้ แต่สามารถยับยั้งไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ทางที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้เบาหวานขึ้นจอตา โดยผู้ป่วยเบาหวานจะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและควบคุมค่าความดันลูกตาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงรับการตรวจจอตาโดยจักษุแพทย์เป็นประจำทุกปี

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์

 

*****ต้องการจัดโปรแกรมเพื่อลดเบาหวาน*****  โทร. 083-635-3996