.
 สถานะของเว็บ
วันที่สร้างเว็บ :22/4/2011
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :9/4/2014
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :475306
ตอบคำถามลูกอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
บทความ ณ. วันที่ : 28/5/2013        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 558 ครั้ง   

ตอบคำถามลูกอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ลูกวัย 3-6 ขวบ เป็นวัยที่มีการพัฒนาการทางภาษาดีขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรใช้โอกาสนี้ในการส่งเสริมความช่วงพูด ช่างถามให้เกิดประโยชน์กับตัวลูกมากที่สุดค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก วัย 2-3 ขวบ เป็นวัยที่เริ่มเรียนรู้โลก จึงไม่แปลกที่ลูกจะชอบถามนู่น ถามนี่อยู่บ่อยเช่น อันนี้อะไร ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมเป็นแบบนั้น บางครั้งเราก็รู้สึกว่า ทำไมลูกถึงถามอะไรซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งๆที่เราตอบไปแล้วด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจอย่างยิ่งว่า เด็กวัยนี้จะเข้าใจและเรียนรู้ได้เร็วกับสิ่งที่เป็นรูปธรรม ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา ได้ยินกับหู หรือสัมผัสได้ด้วยกาย ส่วนเรื่องนามธรรม หรือความเป็นเหตุเป็นผล เช่น ความดี ความไม่ดี เขาจะยังเข้าใจได้ไม่ดีเท่ากับสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องอาศัยการอธิบายและการเรียนรู้ที่ถูกต้องจากคุณพ่อ คุณแม่


เมื่อลูกเป็นเจ้าหนูทำไม…การเป็นเจ้าหนูทำไมของลูก นอกจากความอยากรู้อยากเห็นแล้ว ลูกวัยนี้ กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาหลักเหตุผลและฝึกฝนการแยกแยะสิ่งต่างฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรเสริมพัฒนาการส่วนนี้ของลูกด้วยวิธีเหล่านี้ค่ะ

ตอบคำถามด้วยภาษาง่าย

เวลาลูกสงสัยเรื่องอะไร บางทีเขาอาจจะมีคำตอบอยู่ในใจ แต่ยังพูดอธิบายเองไม่ถูก และถ้าคำตอบของเราไม่ตรงกับที่เขาคิดไว้ เขาก็มักจะถามย้ำอยู่เรื่อยจนบางครั้งอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกรำคาญได้ เช่น เขาอาจเข้าใจว่าผลไม้สีแดงเป็นแอปเปิ้ล ทั้งที่มันคือมะเขือเทศ ถ้าเราบอกว่านั่นคือมะเขือเทศ ถ้าเขาไม่เข้าใจ เขาก็จะยังคงถามย้ำอยู่เรื่อยหากเป็นเช่นนี้คุณพ่อคุณแม่อาจถามเขากลับว่า “แล้วหนูคิดว่ามันเป็นอะไรคะลูก” เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าลูกเข้าใจว่าอย่างไร หรือสิ่งที่ลูกอยากรู้จริงคืออะไร ซึ่งตรงนี้ก็เป็นโอกาสที่เราจะสอนเขาต่อด้วยการอธิบายอย่างง่ายได้ว่า “หนู เห็นมันเป็นสีแดงเหมือนกับที่เรากินที่บ้านใช่มั้ยคะ แต่มันไม่ใช่แอปเปิ้ลนะ หนูลองดูดีสิคะ เห็นมั้ยคะว่าเปลือกมันนิ่มกว่า มีจุกมีก้านที่หัวด้วย อันนี้ไงที่เขาเอามาทำซอสมะเขือเทศ เวลาที่ลูกกินกับเฟร์นฟรายซ์ทอดไง หรือว่าจะทานกับสลัดก็ได้ จำได้มั๊ยคะ หนูก็เคยทานนะ ตรงจุดนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนเจาะลงในเรื่องที่ลูกยังไม่เข้าใจได้ค่ะ

ตั้งคำถามกับลูกจากเรื่องใกล้ ๆ ตัว

หากลูกขี้สงสัยแล้วไม่อยากหาคำตอบ เราเองต้องทำตัวเป็นคนขี้สงสัย เพื่อกระตุ้นให้ลูกอยากหาคำตอบ ซึ่งเริ่มจากเรื่องง่ายหรือสิ่งที่ลูกรู้อยู่แล้ว เช่น ทำไมหมามันต้องเห่านะ ทำไมดอกไม้มีสีสวยลูกอาจจะตอบในแบบที่เขาคิด เขาอาจคิดว่าดอกไม้มีสีสวย เพราะหนูชอบ ในมุมของเด็กที่เขาตอบแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ แต่การถามหรือกระตุ้นให้ลูกตอบแล้วต่อยอดไปเรื่อยจะทำให้เรารู้ว่าเขายังไม่รู้ในจุดไหน และคุณพ่อคุณแม่ต้องเสริมเพิ่มเติมให้เขาเรื่องไหนบ้างค่ะ

สอนลูกรู้จักเหตุผล…ผ่านการเล่น

เด็กวัยนี้ยังเข้าใจความเป็นเหตุเป็นผลได้ไม่ดีนัก อาจยังสับสนว่าสิ่งใดเป็นต้นเหตุและสิ่งใดเป็นผลลัพธ์ หรือสิ่งใดเกิดก่อนสิ่งใดเกิดหลัง โดยเริ่มต้นสอนได้จากการเล่นค่ะ เพราะจริงๆ การเล่นเปรียบเหมือนการลองผิดลองถูก เมื่อมีอุปสรรคหรือความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างเล่น จะเป็นโอกาสที่จะสอนลูกเกี่ยวกับเหตุผล และแก้ปัญหาด้วยตนเองได้

เสริมกิจกรรมที่สร้างสรรค์

1. เกมอะไร-ทำไม
คำถาม “ทำไม” เป็นสิ่งที่ลูกคุ้นเคยดีอยู่แล้ว อาจเล่นเกมตั้งคำถามกับลูก เช่น “ลูกจ๋าทำไมช้างถึงมีงวง” จากนั้นก็รอฟังคำตอบ แต่ถ้าเขายังไม่ตอบ เราก็อาจจะกระตุ้นว่า “เป็นแบบนี้ได้มั้ยลูก ช้างมีงวงเพราะว่าจะได้ช่วยหยิบอาหารใส่ปากไงลูช้างตัวใหญ่ขาใหญ่ถ้าใช้ขาอาจจะไม่สะดวก เลยใช้งวงดีกว่าไงคะ” ซึ่งวิธีนี้อาจช่วยกระตุ้นให้เขามีคำตอบและมีแนวทางมากขึ้น

2. เกมคาดเดาเหตุการณ์
เวลา ขับรถพาลูกไปข้างนอก เราก็อาจจะให้เขาลองคาดเดาเหตุการณ์จากสัญญาณไฟจราจร เช่น ถามว่า “ต่อจากไฟแดง จะเป็นไฟอะไรนะ แล้วถ้าไฟเขียวเราทำยังไง” วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกได้คิดและเข้าใจความเป็นเหตุเป็นผลด้วย ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่สามารถหยิบยกทุกอย่างรอบตัวทั้งในบ้านและนอกบ้านได้

3. เกมตั้งคำถาม…สร้างจินตนาการ
เกม ตั้งคำถามเหนือธรรมชาติ “หนูคิดว่าถ้าเรามี 4 แขนจะเป็นยังไงลูก” หรือ “ลูกว่าบ้านเราไม่มีตู้เย็นเลยจะอยู่ได้มั้ย จะทำยังไงดีน้า ลองช่วยกันคิดหน่อยสิคะ” ให้เขาได้บริหารสมองและใช้จินตนาการค่ะ
เกม ตั้งคำถามจากธรรมชาติรอบตัว เช่น เดินไปเจอใบไม้ ก็ลองให้ลูกคิดต่อว่า ใบไม้ไปทำอะไรได้บ้าง เขาอาจจะตอบว่าเอาไปลอยน้ำ เป็นเรือ แค่นี้ก็ช่วยให้เขาได้ใช้จินตนาการแล้วล่ะค่ะ

4. เกมฝึกประสาทสัมผัส
เกมนี่เสียงอะไร : ฝึกการได้ยิน โดยนำของเล่นที่ลูกคุ้นเคย เช่น เครื่องเขย่า รถ กีต้าร์ เปียโน จากนั้นก็ให้เปิดตา แล้วเขาทายว่านี่เสียงอะไร ลูกก็จะได้ให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5


เกมหาของ : ฝึกสายตา ซ่อนของไว้ในมือให้ลูกทายว่าอยู่ข้างไหน เวลาเล่นควรสลับไปสลับมาช้าให้เขาได้เล่นไปกับเราเกมจับของ : ฝึกการสัมผัส อาจนำขวดปากแคบหรือกล่องทึบใส่ของที่ลูกคุ้นเคย เช่น รถของเล่น ตุ๊กตา ขนม หรือของที่เจอในชีวิตประจำวัน จากนั้นก็ให้ลูกเอามือล้วงลงไป ช่วยฝึกความจำและได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
เกมจับคู่ : ชวนลูกเก็บของตามประเภทของ เช่น กล่องหนังสือนิทาน กล่องตุ๊กตา กล่องสำหรับลูกบอล เกมนี้นอกจากจะเสริมพัฒนาการลูกและฝึกระเบียบวินัยแล้ว ยังช่วยคุณแม่ทุ่นแรงในการตามเก็บของลูกได้เยอะเชียวค่ะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวและทาง www.bkkidshop.com หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะว่า แค่คุณพ่อคุณแม่พร้อมที่จะเรียนรู้ไปกับลูก และหากิจกรรมง่ายที่สามารถจะหยิบยกมาจากสิ่งต่างรอบตัวให้เขาได้เล่นบ้าง ก็จะช่วยเสริมให้เจ้าหนูของเรากลายเป็นเจ้าหนูทำไมที่ เก่ง ฉลาด และสร้างสรรค์ได้แล้วล่ะค่ะ
ลองไปเล่นไปฝึกเจ้าตัวน้อยของคุณดูนะคะ






เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน
©2008-2010 SABUYJAISHOP All Rights Reserved