ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปั๊มลม แอร์บรัช ตอนที่ 1
เนื้อหาในตอนนี้จะว่าด้วยเรื่องปั๊มลมแต่ล่ะชนิด และข้อดี ข้อเสียครับ
ปั๊มลม (Compressors) นั้นมีหน้าที่สร้างลมให้แอร์บรัช จึงถือได้ว่าปั้มลมนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ปั้มลมที่สามารถนำมาใช้กับแอร์บรัชนั้น มีกันอยู่หลายชนิด ซึ่งแต่ล่ะชนิดก็มี ข้อดีข้อเสีย และราคาที่แตกต่างกัน การเลือกปั้มลมให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะปั้มลมเป็นอุปกรณ์ที่ราคาสูงบางรุ่นอาจสูงกว่าตัวแอร์บรัชด้วยซ้ำไปนะครับ
ปั๊มลมที่มีใช้กับแอร์บรัชกันอยู่ในปัจจุบันนั้น แบ่งได้เป็น 5ชนิด หลักๆครับ
1. ปั๊มลมชนิด Diaphragm
2. ปั๊มลมชนิด Silent Compressors
3. ปั๊มลมชนิด ลูกสูบพูเล่
4. ปั๊มลมชนิด Rotary
5. ปั๊มลมชนิด Twin Piston
มาเริ่มกันที่ชนิดแรก Diaphragm
เป็นปั้มลมที่มีขนาดเล็กที่สุดจนนับเป็นปั้มลมแบบพกพาได้ด้วยและทำงานได้โดยไม่มีถังพักลมก็ได้ ปั้มลมแบบนี้ยังแยกได้อีก 3 แบบ นั่นคือ
1.แบบลูกสูบเดี่ยว
2.แบบลูกสูบคู่
3.แบบมีถังพัก
ปั๊มลมDiaphragm แบบลูกสูบเดี่ยว
เป็นปั้มลมที่มีขนาดเล็กที่สุด ขนาดส่วนใหญ่มักจะยาวไม่เกิน 1ฟุต ด้วยขนาดที่เล็กของมันนี้เองจึงเหมาะกับการพกพาไปนอกสถานที่ แต่ข้อเสียของมันก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
ข้อดี: 1.ขนาดเล็ก น้ำหนักน้อย
2.ราคาไม่แพงมากจนเกินไป จึงทำให้หลายๆคนเลือกมันมาใช้งานเป็นอันดับแรกๆ
3.ถูกสร้างมาให้ใช้งานกับแอร์บรัชโดยตรงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องดัดแปลงอะไรอีก
4.มีเสียงขณะทำงานน้อย สามารถใช้ในหอพักได้โดยไม่รบกวนใคร
ข้อเสีย: 1.เพราะด้วยขนาดที่เล็กนี่เอง จึงให้กำลังลมได้น้อยส่วนใหญ่มักจะให้กำลังลมได้ไม่ เกิน 0.7CFMทำให้ใช้งานกับแอร์บรัชประเภทกรวยล่างได้ไม่ดีนักเพราะส่งลมมาให้ ไม่พอทำให้เกิดอาการพ่นสะดุดได้
2.มีความร้อนขณะทำงานสูงเพราะลูกสูบต้องทำงานแทบจะตลอดเวลา ทำให้ปั้มลม ชนิดนี้ไม่สามารถทำงานต่อเนื่องได้นาน
3.มีไอน้ำในระบบมากแทบจะใช้งานไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ติดตั้งตัวกรองดักไอน้ำเพิ่ม เพราะถ้าอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน(ความชิ้นสัมพัทธ์เกิน80%) ปั้มลมแบบนี้ก็ไม่ต่าง จากเครื่องพ่นน้ำดีๆนี่เอง
4.ใช้งานกับแอร์บรัชได้เพียงตัวเดียว (แหมแค่ตัวเดียวก็เหนื่อยแล้ว สองตัวยิ่งเป็น ไปไม่ได้เลยครับ)
5.เพราะไม่มีถังพักลมจึงทำให้ลมที่ส่งออกมาไม่นิ่งจะเป็นช่วงๆตามจังหวะขึ้นลงของ ลูกสูบ ถ้าพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์ จะมีอาการสะดุดให้เห็นทันที
ปั้มลม Diaphragm แบบลูกสูบคู่
ลักษณะการทำงานและข้อดีข้อเสียนั้นเหมือนกับแบบ ลูกสูบเดี่ยว แต่เพิ่มลูกสูบขึ้นมาอีกตัว ทำให้มีกำลังลมมากกว่าแบบลูกสูบเดี่ยวอีกเกือบเท่าตัว แต่ถึงจะมากกว่าอีกเท่าตัวแต่ก็ยังไม่พอที่จะใช้กับแอร์บรัชขนาดใหญ่ที่ต้องการแรงลมที่มากกว่า 1.5CFMอยู่ดีครับ
ปั๊มลม Diaphragm แบบมีถังพัก
ปั้มลมแบบนี้คือการนำเอาถังพักเข้ามาต่อเพิ่มให้ตัวปั้มลม เพื่อทำให้ลมที่ส่งออกมานิ่งขึ้น และยังช่วยให้ปั้มลมไม่ต้องทำงานอยู่ตลอด เพราะเมื่อลมมีแรงดันได้ตามที่กำหนดก็จะตัดการทำงานของปั้มลมอัตโนมัติ จึงทำให้ปั้มลมแบบนี้มีความร้อนในการทำงานน้อยกว่าแบบเดี่ยวอยู่มากครับ
ชนิดที่สอง Silent Compressors
เป็นปั้มลมที่หลายคนอยากมีไว้ในครอบครองที่สุด เพราะออกแบบมาให้เหมาะสมกับแอร์บรัชทุกชนิด ให้กำลังลมได้มากพอและมีเสียงที่เงียบมากๆ เงียบจนแทบจะไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่แพงระยับ บางตัวราคาสูงถึง สองหมื่นบาทเลยที่เดียว ปั้มลมแบบนี้จะต้องมีถังพักเท่านั้นไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่มีถังพัก และยังมีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปตามแต่ล่ะยี่ห้อจะดีไซน์ครับแต่ถ้าใช้คอมเพรสเซอร์ที่มีเสียงเงียบแล้วก็นับเป็นแบบเดี่ยวกันทั้งหมดครับ ซึ่งผมเองก็เลือกปั้มลมชนิดนี้ไว้ใช้งานเหมือนกันครับ แต่ไม่ได้ซื้อของยี่ห้อไหนทั้งนั้นเพราะผมสร้างมันขึ้นมาเองครับ เพื่อตอบสนองการใช้งานของผมได้เหมาะสมที่สุด อิอิอิ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยนะครับ
ข้อดี: 1.ให้กำลังลมมากพอกับการใช้งานของแอร์บรัชทุกแบบ (2.0CFMขึ้นไป)
2.เกิดเสียงขณะทำงานน้อยมากๆ
3.มีถังพักลมทำให้ลมนิ่ง ปราศจากอาการพ่นสะดุด
4.ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ จะตัดการทำงานเมื่อแรงดันลมถึงที่กำหนดไว้และจะทำงาน ใหม่เมื่อแรงดันต่ำลงจนถึงที่กำหนด
5.มีไอน้ำในระบบน้อยที่สุดในบรรดาปั้มลมทั้งหมด
6.บางรุ่นสามารถต่อกับแอร์บรัชได้มากกว่าหนึ่งตัว
7.เกิดความร้อนในขณะทำงานปานกลาง สามารถทำงานต่อเนื่องได้ดี แต่ก็มักจะไม่เกิน 3ชม.ถ้าพ่นต่อเนื่อง
ข้อเสีย: 1.ราคาแพงมากๆๆๆๆๆๆครับ ถูกที่สุดที่มีขายในท้องตลาดก็ยังเกินหนึ่งหมื่นบาท
2.มีน้ำหนักมากพอตัว คุณผู้หญิงบางท่านอาจเคลื่อนย้ายมันไม่ได้
3.ถ้าตัวเครื่องร้อนจน เทอโมสตาทสั่งหยุดการทำงาน จะต้องรอไม่ต่ำกว่า15นาที จึงจะกลับมาทำงานได้อีกครั้งนึง แต่ถ้าคำนวนวงรอบการพ่นดีๆไม่ปล่อยให้เครื่อง ร้อนเกินไปก็ทำงานได้ทั้งคืนล่ะครับ
4.ต้องคอยเติมน้ำมันเครื่องอยู่เสมอครับ และขนย้ายลำบากเพราะต้องระวังน้ำมัน
ในเครื่องจะหกได้ครับ
รูปของปั้มลม Silent Compressors แต่ล่ะแบบครับ
ชนิดที่สามแล้วครับ ปั๊มลมลูกสูบพูเล่
ปั้มลมชนิดนี้เรามักจะเห็นได้ตามอู่ซ่อมรถ หรือร้านปะยาง แต่อย่าคิดว่ามันไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้นะครับ ขอบอกเลยว่ามันใช้ได้ครับและใช้ดีด้วย เพียงแต่เราต้องหาซื้อข้อต่อแปลงมาติดเพิ่มให้เข้ากับเกลียวสายลมของแอร์บรัชเราและติดกรองไอน้ำเพิ่มไปอีกตัวก็ใช้ได้แล้วครับ ปั้มลมชนิดนี้ทำงานโดยมีมอเตอร์ต่อสายพานไปหมุนลูกสูบอัดลมเข้าถังพักนั่นเอง ด้วยขนาดถังพักที่ใหญ่และให้กำลังลมแรงมาก จึงสามารถใช้กับกาพ่นสีได้ด้วยครับ พี่โมดี โปรโมเดลเลอร์ประจำนิตยสาร Topgunก็ใช้ปั้มลมรุ่นนี้มาโดยตลอดครับ
ข้อดี: 1.ให้กำลังลมแรงมากๆเกิน 15CFMขึ้นไปทุกรุ่น
2.ให้กำลังลมเพียงพอที่จะใช้กับ กาพ่นสีได้ด้วย
3.มีถังพัก จึงให้กระแสลมที่นิ่ง
4.ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ จะตัดการทำงานเองเมื่ออัดลมเต็ม
5.มีความร้อนในการทำงานน้อย ทำงานได้ต่อเนื่องเป็นวันๆ
6.ราคาถูกครับ ประมาณ4-5พันเท่านั้น
7.ทนทานมาก ถ้าไม่ปล่อยให้เป็นสนิมซะก่อนก็อยู่ได้เป็นสิบปีเลยนะครับ
ข้อเสีย: 1.ขนาดใหญ่มาก และหนักมาก รุ่นเล็กสุดก็ยังยาวเกินเมตรและหนักร่วมๆ15กิโล
2.เสียงดังมากครับ ไม่สามารถใช้ในหอพักได้แน่(เพราะข้างห้องจะต้องมาด่าท่านแน่ๆ)
3.ไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้โดยตรง ต้องซื้อข้อต่อลมและกรองดักไอน้ำมาต่อเพิ่ม
4.ตัวฟิลเตอร์กรองอากาศของเครื่องต้องคอยเอาออกมาทำความสะอาดบ่อยๆอย่าปล่อยให้ตันเพราะจะทำให้สูบติดได้
ชนิดสี่ครับ ปั้มลมโรตารี่
ปั้มลมชนิดนี้เป็นปั้มลมที่ให้กำลังลม ได้แรงที่สุดในบรรดาปั้มลมทั้งหมด และมีขนาดย่อมกว่าปั้มลมลูกสูบพูเล่อยู่นิดหน่อย มีล้อขนาดใหญ่ทำให้เข็นเคลื่อนย้ายได้ง่ายหน่อย แต่ก็เหมือนปั้มลมลูกสูบพูเล่คือ ไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้โดยตรง ต้องไปซื้อข้อต่อลมกับกรองไอน้ำมาติดตั้งเพิ่มเข้าไปครับ
ข้อดี: 1.ให้กำลังลมแรงมากที่สุด 20CFMขึ้นไป
2.ใช้กับกาพ่นสีขนาดใหญ่ได้ไม่ต่ำกว่าสองตัวขึ้นไป
3.มีถังพักลม จึงทำให้กระแสลมนิ่ง
4.ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ
5.ทำงานได้ต่อเนื่องเป็นวันๆ
6.ราคาไม่แพง 4-5พันบาทเท่านั้น
7.ทนทานมาก อายุการใช้งานสิบปีขึ้นไปครับ
ข้อเสีย: 1.เสียงการทำงานดังมากๆๆๆๆครับเรียกว่าเหมือนมีเรือหางยาววิ่งผ่านหน้าบ้านท่านก็ไม่ปาน
2.ขนาดก็ใหญ่พอตัวเลย คนเดียวไม่สามารถยกมันได้แน่ต้องลากเอา
3.ไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้โดยตรงต้องแปลงข้อต่อเพิ่มครับ
4.ฟิลเตอร์กรองอากาศของเครื่องต้องคอยทำความสะอาดบ่อยๆครับไม่งั้นสูบจะไหม้ได้
ชนิดสุดท้ายครับ ปั้มลมTwinPiston
ปั้มลมชนิดนี้ จัดเป็นสุดยอดปั้มลมเพื่องานแอร์บรัชอย่างแท้จริงครับ มันถูกพัฒนาขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้เอง ที่บอกว่ามันเป็นสุดยอดนั้นก็เพราะว่า มันตอบโจทย์การใช้งานได้ครบหมดครับ ด้วยกำลังลมที่แรงมากความแรงของลมนั้นจะเป็นรองก็เพียงแค่ ระบบRotaryเท่านั้นครับ แต่เสียงการทำงานนั้นกลับตรงกันข้ามเพราะปั้มTwinPistonทำงานได้เงียบมากครับ อาจจะไม่กริบเหมือน ระบบSilent แต่ก็เงียบพอที่ท่านจะใช้ทำงานในห้องพักได้โดยไม่มีใครรู้ครับ ตัวมอเตอร์ปั้มลมยังเป็นระบบ OilFreeไม่ต้องดูแลเหมือนกับระบบอื่นๆด้วยครับ
ข้อดี: 1. ให้กำลังลมแรงมาก เกิน15CFMขึ้นไป
2. สามารถใช้กับกาพ่นสีได้
3. เสียงในการทำงานเงียบ
4. ไม่ต้องดูแลรักษามาก
5. มีถังพักลม ทำให้กระแสลมนิ่ง
6. ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ จะตัดการทำงานเองเมื่อลมเต็ม และทำงานใหม่เมื่อลมลดลง
7. ทนทานต่อการใช้งาน อายุการใช้งานเกิน5ปีขึ้นไปครับ
ข้อเสีย: 1. ราคาค่อนข้างแพงครับ ราวๆ8,500-10,000บาท
2. ขนาดใหญ่พอตัวครับ คนเดียวเคลื่อนย้ายลำบาก
สรุป
ถ้าท่านมีงบประมาณจำกัด และอาศัยอยู่ในหอพัก ปั้มลมDiaphragm เป็นทางเลือกสำหรับท่านครับ
แต่ถ้ามีงบประมาณไม่จำกัด และกังวลเรื่องเสียง ปั้มลมSilent ก็เป็นทางเลือกของท่านครับ
ถ้ามีงบประมาณจำกัดแต่ไม่มีปัญหากับเสียง และยังใช้งานกาพ่นสีได้ด้วย ปั้มลมโรตารี่ และลูกสูบพูเล่ก็ตอบสนองการทำงานของท่านได้ดีที่สุดครับ
ถ้ามีงบประมาณพอสมควร และกังวลเรื่องเสียง แต่ต้องการใช้งานกาพ่นสีด้วย TwinPistonก็ตอบโจทย์ของท่านได้ดีที่สุดครับ
บทความโดย BBboy
|