ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปั้มลม แอร์บรัช ตอนที่1
บทความ ณ. วันที่ : 11/5/2014        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 84153 ครั้ง   

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปั๊มลม แอร์บรัช ตอนที่ 1

 

เนื้อหาในตอนนี้จะว่าด้วยเรื่องปั๊มลมแต่ล่ะชนิด และข้อดี ข้อเสียครับ 

   ปั๊มลม (Compressors) นั้นมีหน้าที่สร้างลมให้แอร์บรัช จึงถือได้ว่าปั้มลมนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ปั้มลมที่สามารถนำมาใช้กับแอร์บรัชนั้น มีกันอยู่หลายชนิด ซึ่งแต่ล่ะชนิดก็มี ข้อดีข้อเสีย และราคาที่แตกต่างกัน การเลือกปั้มลมให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะปั้มลมเป็นอุปกรณ์ที่ราคาสูงบางรุ่นอาจสูงกว่าตัวแอร์บรัชด้วยซ้ำไปนะครับ

ปั๊มลมที่มีใช้กับแอร์บรัชกันอยู่ในปัจจุบันนั้น แบ่งได้เป็น 5ชนิด หลักๆครับ

1. ปั๊มลมชนิด Diaphragm

2. ปั๊มลมชนิด Silent Compressors

3. ปั๊มลมชนิด ลูกสูบพูเล่

4. ปั๊มลมชนิด Rotary

5. ปั๊มลมชนิด Twin Piston

   มาเริ่มกันที่ชนิดแรก Diaphragm

   เป็นปั้มลมที่มีขนาดเล็กที่สุดจนนับเป็นปั้มลมแบบพกพาได้ด้วยและทำงานได้โดยไม่มีถังพักลมก็ได้ ปั้มลมแบบนี้ยังแยกได้อีก 3 แบบ นั่นคือ

1.แบบลูกสูบเดี่ยว

2.แบบลูกสูบคู่

3.แบบมีถังพัก

   ปั๊มลมDiaphragm แบบลูกสูบเดี่ยว

เป็นปั้มลมที่มีขนาดเล็กที่สุด ขนาดส่วนใหญ่มักจะยาวไม่เกิน 1ฟุต ด้วยขนาดที่เล็กของมันนี้เองจึงเหมาะกับการพกพาไปนอกสถานที่ แต่ข้อเสียของมันก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน 

ข้อดี: 1.ขนาดเล็ก น้ำหนักน้อย

       2.ราคาไม่แพงมากจนเกินไป จึงทำให้หลายๆคนเลือกมันมาใช้งานเป็นอันดับแรกๆ

       3.ถูกสร้างมาให้ใช้งานกับแอร์บรัชโดยตรงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องดัดแปลงอะไรอีก

       4.มีเสียงขณะทำงานน้อย สามารถใช้ในหอพักได้โดยไม่รบกวนใคร

ข้อเสีย: 1.เพราะด้วยขนาดที่เล็กนี่เอง จึงให้กำลังลมได้น้อยส่วนใหญ่มักจะให้กำลังลมได้ไม่             เกิน 0.7CFMทำให้ใช้งานกับแอร์บรัชประเภทกรวยล่างได้ไม่ดีนักเพราะส่งลมมาให้             ไม่พอทำให้เกิดอาการพ่นสะดุดได้ 

          2.มีความร้อนขณะทำงานสูงเพราะลูกสูบต้องทำงานแทบจะตลอดเวลา ทำให้ปั้มลม              ชนิดนี้ไม่สามารถทำงานต่อเนื่องได้นาน

          3.มีไอน้ำในระบบมากแทบจะใช้งานไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ติดตั้งตัวกรองดักไอน้ำเพิ่ม                  เพราะถ้าอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน(ความชิ้นสัมพัทธ์เกิน80%) ปั้มลมแบบนี้ก็ไม่ต่าง              จากเครื่องพ่นน้ำดีๆนี่เอง

          4.ใช้งานกับแอร์บรัชได้เพียงตัวเดียว (แหมแค่ตัวเดียวก็เหนื่อยแล้ว สองตัวยิ่งเป็น                ไปไม่ได้เลยครับ)

          5.เพราะไม่มีถังพักลมจึงทำให้ลมที่ส่งออกมาไม่นิ่งจะเป็นช่วงๆตามจังหวะขึ้นลงของ              ลูกสูบ ถ้าพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์ จะมีอาการสะดุดให้เห็นทันที

   ปั้มลม Diaphragm แบบลูกสูบคู่

ลักษณะการทำงานและข้อดีข้อเสียนั้นเหมือนกับแบบ ลูกสูบเดี่ยว แต่เพิ่มลูกสูบขึ้นมาอีกตัว ทำให้มีกำลังลมมากกว่าแบบลูกสูบเดี่ยวอีกเกือบเท่าตัว แต่ถึงจะมากกว่าอีกเท่าตัวแต่ก็ยังไม่พอที่จะใช้กับแอร์บรัชขนาดใหญ่ที่ต้องการแรงลมที่มากกว่า 1.5CFMอยู่ดีครับ

ปั๊มลม Diaphragm แบบมีถังพัก

ปั้มลมแบบนี้คือการนำเอาถังพักเข้ามาต่อเพิ่มให้ตัวปั้มลม เพื่อทำให้ลมที่ส่งออกมานิ่งขึ้น และยังช่วยให้ปั้มลมไม่ต้องทำงานอยู่ตลอด เพราะเมื่อลมมีแรงดันได้ตามที่กำหนดก็จะตัดการทำงานของปั้มลมอัตโนมัติ จึงทำให้ปั้มลมแบบนี้มีความร้อนในการทำงานน้อยกว่าแบบเดี่ยวอยู่มากครับ

 

   ชนิดที่สอง Silent Compressors

 

   เป็นปั้มลมที่หลายคนอยากมีไว้ในครอบครองที่สุด เพราะออกแบบมาให้เหมาะสมกับแอร์บรัชทุกชนิด ให้กำลังลมได้มากพอและมีเสียงที่เงียบมากๆ เงียบจนแทบจะไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่แพงระยับ บางตัวราคาสูงถึง สองหมื่นบาทเลยที่เดียว ปั้มลมแบบนี้จะต้องมีถังพักเท่านั้นไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่มีถังพัก และยังมีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปตามแต่ล่ะยี่ห้อจะดีไซน์ครับแต่ถ้าใช้คอมเพรสเซอร์ที่มีเสียงเงียบแล้วก็นับเป็นแบบเดี่ยวกันทั้งหมดครับ ซึ่งผมเองก็เลือกปั้มลมชนิดนี้ไว้ใช้งานเหมือนกันครับ แต่ไม่ได้ซื้อของยี่ห้อไหนทั้งนั้นเพราะผมสร้างมันขึ้นมาเองครับ เพื่อตอบสนองการใช้งานของผมได้เหมาะสมที่สุด อิอิอิ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยนะครับ

ข้อดี: 1.ให้กำลังลมมากพอกับการใช้งานของแอร์บรัชทุกแบบ (2.0CFMขึ้นไป)

        2.เกิดเสียงขณะทำงานน้อยมากๆ

       3.มีถังพักลมทำให้ลมนิ่ง ปราศจากอาการพ่นสะดุด

       4.ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ จะตัดการทำงานเมื่อแรงดันลมถึงที่กำหนดไว้และจะทำงาน           ใหม่เมื่อแรงดันต่ำลงจนถึงที่กำหนด

       5.มีไอน้ำในระบบน้อยที่สุดในบรรดาปั้มลมทั้งหมด

       6.บางรุ่นสามารถต่อกับแอร์บรัชได้มากกว่าหนึ่งตัว

        7.เกิดความร้อนในขณะทำงานปานกลาง สามารถทำงานต่อเนื่องได้ดี แต่ก็มักจะไม่เกิน          3ชม.ถ้าพ่นต่อเนื่อง

ข้อเสีย: 1.ราคาแพงมากๆๆๆๆๆๆครับ ถูกที่สุดที่มีขายในท้องตลาดก็ยังเกินหนึ่งหมื่นบาท

           2.มีน้ำหนักมากพอตัว คุณผู้หญิงบางท่านอาจเคลื่อนย้ายมันไม่ได้

          3.ถ้าตัวเครื่องร้อนจน เทอโมสตาทสั่งหยุดการทำงาน จะต้องรอไม่ต่ำกว่า15นาที               จึงจะกลับมาทำงานได้อีกครั้งนึง แต่ถ้าคำนวนวงรอบการพ่นดีๆไม่ปล่อยให้เครื่อง               ร้อนเกินไปก็ทำงานได้ทั้งคืนล่ะครับ

          4.ต้องคอยเติมน้ำมันเครื่องอยู่เสมอครับ และขนย้ายลำบากเพราะต้องระวังน้ำมัน

ในเครื่องจะหกได้ครับ

 

รูปของปั้มลม Silent Compressors แต่ล่ะแบบครับ

 

  

   ชนิดที่สามแล้วครับ ปั๊มลมลูกสูบพูเล่

   ปั้มลมชนิดนี้เรามักจะเห็นได้ตามอู่ซ่อมรถ หรือร้านปะยาง แต่อย่าคิดว่ามันไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้นะครับ ขอบอกเลยว่ามันใช้ได้ครับและใช้ดีด้วย เพียงแต่เราต้องหาซื้อข้อต่อแปลงมาติดเพิ่มให้เข้ากับเกลียวสายลมของแอร์บรัชเราและติดกรองไอน้ำเพิ่มไปอีกตัวก็ใช้ได้แล้วครับ ปั้มลมชนิดนี้ทำงานโดยมีมอเตอร์ต่อสายพานไปหมุนลูกสูบอัดลมเข้าถังพักนั่นเอง ด้วยขนาดถังพักที่ใหญ่และให้กำลังลมแรงมาก จึงสามารถใช้กับกาพ่นสีได้ด้วยครับ พี่โมดี โปรโมเดลเลอร์ประจำนิตยสาร Topgunก็ใช้ปั้มลมรุ่นนี้มาโดยตลอดครับ

ข้อดี: 1.ให้กำลังลมแรงมากๆเกิน 15CFMขึ้นไปทุกรุ่น

       2.ให้กำลังลมเพียงพอที่จะใช้กับ กาพ่นสีได้ด้วย

       3.มีถังพัก จึงให้กระแสลมที่นิ่ง

       4.ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ จะตัดการทำงานเองเมื่ออัดลมเต็ม

       5.มีความร้อนในการทำงานน้อย ทำงานได้ต่อเนื่องเป็นวันๆ

       6.ราคาถูกครับ ประมาณ4-5พันเท่านั้น

       7.ทนทานมาก ถ้าไม่ปล่อยให้เป็นสนิมซะก่อนก็อยู่ได้เป็นสิบปีเลยนะครับ

ข้อเสีย: 1.ขนาดใหญ่มาก และหนักมาก รุ่นเล็กสุดก็ยังยาวเกินเมตรและหนักร่วมๆ15กิโล

          2.เสียงดังมากครับ ไม่สามารถใช้ในหอพักได้แน่(เพราะข้างห้องจะต้องมาด่าท่านแน่ๆ)

          3.ไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้โดยตรง ต้องซื้อข้อต่อลมและกรองดักไอน้ำมาต่อเพิ่ม

          4.ตัวฟิลเตอร์กรองอากาศของเครื่องต้องคอยเอาออกมาทำความสะอาดบ่อยๆอย่าปล่อยให้ตันเพราะจะทำให้สูบติดได้

 

   ชนิดสี่ครับ ปั้มลมโรตารี่

  ปั้มลมชนิดนี้เป็นปั้มลมที่ให้กำลังลม ได้แรงที่สุดในบรรดาปั้มลมทั้งหมด และมีขนาดย่อมกว่าปั้มลมลูกสูบพูเล่อยู่นิดหน่อย มีล้อขนาดใหญ่ทำให้เข็นเคลื่อนย้ายได้ง่ายหน่อย แต่ก็เหมือนปั้มลมลูกสูบพูเล่คือ ไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้โดยตรง ต้องไปซื้อข้อต่อลมกับกรองไอน้ำมาติดตั้งเพิ่มเข้าไปครับ

ข้อดี: 1.ให้กำลังลมแรงมากที่สุด 20CFMขึ้นไป

       2.ใช้กับกาพ่นสีขนาดใหญ่ได้ไม่ต่ำกว่าสองตัวขึ้นไป

       3.มีถังพักลม จึงทำให้กระแสลมนิ่ง

       4.ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ

       5.ทำงานได้ต่อเนื่องเป็นวันๆ

       6.ราคาไม่แพง 4-5พันบาทเท่านั้น

       7.ทนทานมาก อายุการใช้งานสิบปีขึ้นไปครับ

ข้อเสีย: 1.เสียงการทำงานดังมากๆๆๆๆครับเรียกว่าเหมือนมีเรือหางยาววิ่งผ่านหน้าบ้านท่านก็ไม่ปาน

          2.ขนาดก็ใหญ่พอตัวเลย คนเดียวไม่สามารถยกมันได้แน่ต้องลากเอา

          3.ไม่สามารถใช้งานกับแอร์บรัชได้โดยตรงต้องแปลงข้อต่อเพิ่มครับ

          4.ฟิลเตอร์กรองอากาศของเครื่องต้องคอยทำความสะอาดบ่อยๆครับไม่งั้นสูบจะไหม้ได้

 

   ชนิดสุดท้ายครับ ปั้มลมTwinPiston

  ปั้มลมชนิดนี้ จัดเป็นสุดยอดปั้มลมเพื่องานแอร์บรัชอย่างแท้จริงครับ มันถูกพัฒนาขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้เอง ที่บอกว่ามันเป็นสุดยอดนั้นก็เพราะว่า มันตอบโจทย์การใช้งานได้ครบหมดครับ ด้วยกำลังลมที่แรงมากความแรงของลมนั้นจะเป็นรองก็เพียงแค่ ระบบRotaryเท่านั้นครับ แต่เสียงการทำงานนั้นกลับตรงกันข้ามเพราะปั้มTwinPistonทำงานได้เงียบมากครับ อาจจะไม่กริบเหมือน ระบบSilent แต่ก็เงียบพอที่ท่านจะใช้ทำงานในห้องพักได้โดยไม่มีใครรู้ครับ ตัวมอเตอร์ปั้มลมยังเป็นระบบ OilFreeไม่ต้องดูแลเหมือนกับระบบอื่นๆด้วยครับ

 ข้อดี:  1. ให้กำลังลมแรงมาก เกิน15CFMขึ้นไป

         2. สามารถใช้กับกาพ่นสีได้

         3. เสียงในการทำงานเงียบ

         4. ไม่ต้องดูแลรักษามาก

         5. มีถังพักลม ทำให้กระแสลมนิ่ง

         6. ทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ จะตัดการทำงานเองเมื่อลมเต็ม และทำงานใหม่เมื่อลมลดลง

         7. ทนทานต่อการใช้งาน อายุการใช้งานเกิน5ปีขึ้นไปครับ

 

 ข้อเสีย: 1. ราคาค่อนข้างแพงครับ ราวๆ8,500-10,000บาท

           2. ขนาดใหญ่พอตัวครับ คนเดียวเคลื่อนย้ายลำบาก

 

 สรุป

   ถ้าท่านมีงบประมาณจำกัด และอาศัยอยู่ในหอพัก ปั้มลมDiaphragm เป็นทางเลือกสำหรับท่านครับ

   แต่ถ้ามีงบประมาณไม่จำกัด และกังวลเรื่องเสียง ปั้มลมSilent ก็เป็นทางเลือกของท่านครับ

   ถ้ามีงบประมาณจำกัดแต่ไม่มีปัญหากับเสียง และยังใช้งานกาพ่นสีได้ด้วย ปั้มลมโรตารี่ และลูกสูบพูเล่ก็ตอบสนองการทำงานของท่านได้ดีที่สุดครับ

  ถ้ามีงบประมาณพอสมควร และกังวลเรื่องเสียง แต่ต้องการใช้งานกาพ่นสีด้วย TwinPistonก็ตอบโจทย์ของท่านได้ดีที่สุดครับ

 

   บทความโดย BBboy

 

 






 
   
เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน

©2008-2009 SABUYJAISHOP All Rights Reserved