เอนไซม์บำบัด
เจนิฟู้ด เอนไซม์ โครงการฟื้นฟูสุขภาพ เลขที่ อย.10-3-10838-1-0001
การบรรจุ 1
กล่องมี 60 ซอง
ผลิตภันฑ์เอนไซม์เจนิฟู้ดคือพืชผักผสมชนิดผง
อาหารเสริมที่สกัดมาจากพืชหลายชนิด
อาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต
อาหารเสริมที่ใช้ในการโภชนบำบัดได้
คุณสมบัติสารอาหารในผลิตภัณฑ์พืชผักผสมชนิดผงตราเจนิฟู้ดมีสารอาหารที่แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆตามหน้าที่ที่สำคัญในร่างกายได้ดังนี้
1. 370
เอนไซม์ชนิดช่วยฟื้นฟูเซลในร่างกายคืนสู่สภาพปกติ
2. ให้พลังงานคาร์โบไฮเดรต ไขมัน
โปรตีน
3. เป็นของร่างกายส่วนประกอบเกลือแร่หรือธาตุต่างๆแร่
4.
ควบคุมกระบวนการทางชีวเคมีร่างกายต่างๆในวิตามิน
คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) ส่วนประกอบที่มีความสำคัญของเซลล์และเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเผาผลาญทำให้เกิดพลังงานภายในเซลล์นอกจากนั้นยังมีอาหารประเภทสารเส้นใยอาหาร
(Fiber)
ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อร่างกายเป็นเส้นใยอาหารในผลิตภัณฑ์ผักผสมพืช ชนิดผงตราเจนิฟู้ดประกอบด้วย
1. เซลลูโลส
ขจัดสารพิษออกจากร่างกายช่วย
2. เฮมิเซลลูโลส
ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
3. เพกติน
ช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด
4. ลิกนินและแวกซ์
ทำให้อุจจาระไม่แข็งท้องไม่ผูกลดการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
ไขมัน (Lipid) ไขมันในผลิตภัณฑ์พืชผักผสมชนิดผงตราเจนิฟู้ดจะเป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวประกอบด้วยกรดไขมัน
ได้แก่ ชนิด 3
1. กรดไขมันไลเลอิกโน
2. กรดไขมันเลอิกโอ
3. กรดไขมันไลโนกเลนิ
ประโยชน์ของกรดไขมันดังกล่าวคือให้พลังงานและช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันอัน
ได้แก่
วิตามินเอวิตามินดีวิตามินอีและวิตามินเคช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดไขมันเป็นส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆเช่นเลซิตินเป็นส่วนประกอบ
ของเนื้อสมองกรดไลโนเลอิกทำให้ผิวหนังไม่อักเสบและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดทำให้ไม่มีไขมันเกาะผนังของหลอดเลือด
โปรตีน (Protein) อาหารโปรตีนประกอบด้วยหน่วยเล็ก
ๆ เรียกว่าสาร ? อะกรดมิโน ? เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สิ่งมีชีวิตโปรตีนในเหยิน
เบิ่นเป็นโปรตีนที่ได้มาจากพืชมีกรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์กับร่างกายและมีกรดอะมิโนที่จำเป็น
( Essential Amino acid ) จำนวนมาก
เอมไซม์คือสารโปรตีนเป็นตัวเร่งการทำงานของระบบต่าง
ๆ ในสิ่งมีชีวิตทำให้เซลล์เป็นล้าน ๆ เซลล์ , เนื้อเยื่อของเหลวและอวัยวะต่าง
ๆ ทำงานได้อย่างปกติ หากร่างกายขาดเอนไซม์หรือปริมาณเอนไซม์ลดลง
จะทำให้การทำงานของระบบต่าง
ๆ
เช่นการย่อยอาหารการขับถ่ายการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอการขจัดสารพิษของร่างกายระบบภูมิคุ้มกันระบบเลือดในร่างกายผิดปกติของเอนไซม์หน้าที่
- ช่วยย่อยอาหารเพื่อให้สารอาหารได้
- ช่วยดูดซึมนำพาอาหารและ
- ซ่อมแซมที่สึกหรอส่วน
- ช่วยเผาผลาญพลังงานและสลายไขมันย่อย
- ช่วยในการทำงานระบบภูมิคุ้มกันของ
- ช่วยป้องกันอาการติดเชื้ออักเสบ
- ขจัดสารพิษของร่างกาย /
ช่วยอนุมูลอิสระต้าน
- ทำให้ฮอร์โมนวิตามินเกลือแร่และสารอื่น
ๆ ทำงานตามคุณสมบัติ
กินไปมากเท่าไหร่ก็นำไปใช้ไม่ได้ถ้าเอนไซม์บกพร่องของเอนไซม์คุณสมบัติ
- เอนไซม์ที่ร่างกายต้องการมากกว่า
370 ชนิด
- เอนไซม์ไม่อยู่ในรูปเฉื่อยชาเพียงผสมน้ำอุ่นก็พร้อมทำปฏิกิริยาทันที
- ทำปฏิกิริยาได้ดีเป็น 3 เท่าที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส
- สามารถเก็บรักษาได้นานแรมปีเป็น
- มีสารอาหารครบ 5 หมู่
- สารอาหารจากธรรมชาติ 100% ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใดๆ
เอนไซม์
GENUFOOD
ช่วยแก้ปัญหาการทำงานผิดปกติของระบบอวัยวะต่าง
ๆ ในร่างกายเช่น
- ระบบหัวใจ /
หลอดเลือดเช่นโรคหัวใจความดันโลหิตไขมันในเลือดสูง
- ระบบทางเดินอาหารการขับถ่ายเช่นโรคกระเพาะโรคลำไส้อักเสบริดสีดวงทวารมะเร็งกระเพาะ
/ ลำไส้ท้องผูกอาหารไม่ย่อยโรคนิ่วถุงน้ำดีอักเสบโรคไตอักเสบ / ไตวายต่อมลูกหมากโต
/ มะเร็งโรคตับ
- ระบบทางเดินหายใจ /
ระบบภูมิคุ้มกันเช่นโรคไซนัสอักเสบหลอมลมอักเสบโรคภูมิแพ้หอบหืดโรคปอดไข้หวัดใหญ่โรคหัดต่าง
ๆ ช่วยขจัดสารพิษเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ระบบผิวหนังเช่นกลากเกลื้อนบำรุงผิวพรรณสิวผ้ารักษาจุดด่างดำผิวหนังอักเสบรักษาแผลสด
/ น้ำร้อนลวก / ไฟไหม้ / แผลในปากสะเก็ดเงิน
- ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกเช่นกล้ามเนื้ออักเสบโรคอัมพฤกษ์อัมพาตโปลิโอปวดเมื่อยลำตัว
/ ปวดหลังโรคเก๊าท์โรคกระดูกพรุน / กระดูกอักเสบไขข้ออักเสบ / รูมาติซึม
- ระบบต่อมไร้ท่อเช่นโรคเบาหวานต่อมไทรอยต์อักเสบ
- ระบบสืบพันธุ์เช่นความผิดปกติของประจำเดือนรักษาความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ระบบสร้างเม็ดเลือดเช่นโรคโลหิตจางโรคลูคิเมีย
นอกจากนี้เอนไซม์ยังในการช่วย
:
- ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอหรือการเสื่อมสภาพของอวัยวะ
- ย่อยสลายส่วนเกินไขมัน
- ชลอความชรา
ท่านใดที่ควรใช้เอนไซม์
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
- ผู้ที่ภูมิต้านทานอ่อน และมักติดเชื้อง่าย
เช่น วัณโรค โรคเอดส์
- ผู้ป่วยก่อน ? หลังผ่าตัด
- สตรีก่อน ? หลังคลอด
- ผู้ที่มีประสิทธิภาพตับไม่ดี
เหนื่อยง่าย เช่น ตับอักเสบ
- ผู้ที่มีประสาทอ่อน ไม่ปกติ
ตกใจง่าย เบื่ออาหาร
- ผู้ที่มีกระเพาะลำไส้ไม่ดีแต่กำเนิด
ทำให้ผอมแห้ง แรงน้อย
- ผู้ที่การทำงานของประสาทไม่เต็มที่
มักสลึมสลือ กระปรกกระเปลี้ย
- ผู้ที่มีร่างกายแก่ก่อนวัย
เจ็บป่วยบ่อย
- ผู้ที่มีอาการติดเชื้อแปลก ๆ
ทำให้ร่างกายเจ็บออด ๆ แอด ๆ
- ผู้ที่อยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อโรคกรรมพันธุ์
เช่น มีญาติเป็นเบาหวาน มะเร็ง ปัญญาอ่อน โรคเลือด Thalassemia
วิธีการใช้เอนไซม์
เอนไซม์ต้องดื่มขณะท้องว่าง
การกินเอนไซม์เป็นอาหารเสริม เพื่อให้ทำลายโมเลกุลโปรตีนที่แปลกปลอมเข้ามาในเลือด
ต้องดื่มเวลาท้องว่างคือ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนอาหาร หรือ 2 ชั่วโมง หลังอาหาร เอนไซม์จะซึมเข้ากระแสเลือดได้ภายใน 5 นาที มิฉะนั้นจะหมดเปลืองไปจากการทำหน้าที่ย่อยอาหารเสียก่อน
ถ้ากรณีมีอาหารอยู่ในกระเพาะจนไม่เข้ากระแสเลือดตามต้องการ
การดื่มเอนไซม์เสริม
จะเลือกวิธีใดแล้วแต่จุดประสงค์ของการใช้ จะดื่มเอนไซม์เสริมขนาดเท่าใด เมื่อไร
ขึ้นอยู่กับสภาวะความรู้สึกไม่ค่อยสบายของท่าน ทางการแพทย์ถือว่า ?คนสองคนไม่เหมือนกัน?
ถึงแม้จะทำโคลนนิ่งก็ตาม การบกพร่องของเอนไซม์แต่ละคนไม่เท่ากัน
ขนาดของเอนไซม์ที่จะใช้เป็นอาหารเสริมจึงไม่สามารถกำหนดให้เป็นตัวเลขที่ตายตัวได้
โดยความเห็นของเภสัชกร จะกำหนดให้ดื่ม ครั้งละ 1-2 ซอง วันละ
3 ครั้ง จึงต้องสังเกตด้วยตัวท่านเองว่าดื่มเท่าใด
จะเหมาะสมกับตนเอง อาการดีขึ้นหรืออาจลดขนาดลง และทุกครั้งที่ดื่มเอนไซม์
ต้องดื่มน้ำตามอย่างน้อย 1 แก้ว
เนื่องจากเอนไซม์รวมจากธรรมชาติ
มีพลังการทำงานหลากหลาย การใช้เอนไซม์ชนิดเดียวกัน ก่อนหรือหลังอาหาร
จะให้ผลการใช้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ใช้ควรทำความเข้าใจพื้นฐานของการใช้เอนไซม์
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้เอนไซม์เพื่อแก้ปัญหาในระบบการย่อย
และดูดซึมอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องผูก โรคกระเพาะ โรคลำไส้ ควรดื่มเอนไซม์หลังอาหาร
30 นาที วันละ 2-4 ครั้ง
ผ่านการวิเคราะห์วิจัย
ตรวจสอบคุณภาพจากสถาบันวิจัยชั้นนำของประเทศ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ได้ดีถึง
คุณภาพและส่วนประกอบของสารอาหารที่ร่างกายได้รับ