CoQ10 (Coenzyme Q10) คืออะไร? ประโยชน์ของ CoQ10
CoQ10 สารที่หลายคนๆคงคุ้นชื่อคุ้นหูกันดี โดยเฉพาะสาวๆที่รักสวยรักงาม และคนที่ต้องการดูแลหัวใจ แต่ถ้าใครยังไม่เคยทำความรู้จักกับสาร CoQ10 ว่ามันมีดียังไง ทำไมหลายคนโดยเฉพาะสาวๆถึงนิยมทานกัน วันนี้จะพาไปแนะนำให้รู้จักเจ้าสารตัวนี้กัน
บทบาทหน้าที่ของ CoQ10 (Coenzyme Q10)
Coenzyme Q10 หรือชื่ออื่นๆเช่น Ubidecarenone, Ubiquinone 10, Ubiquinole หรือที่คนส่วนใหญ่ชอบเรียกกันว่า CoQ10 มีชื่อเรียกทางเคมีคือ 2 ,3-dimethoxy-5-methyl-6-decaprenyl benzoquinone
CoQ10 เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้และมีความจำเป็นต่อร่างกาย พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกาย จัดเป็นสารจำพวกวิตามิน หรือคล้ายวิตามิน มีโครงสร้างเหมือนวิตามิน K มีคุณสมบัติในการละลายในไขมัน มีบทบาทในการเพิ่มพลังงานให้แก่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานในร่างกาย
CoQ10 ไม่ได้ให้พลังงานแก่ร่างกายโดยตรง แต่เป็นสารสำคัญในการสังเคราะห์ Adeno-sinetriphosphate (ATP) ซึ่งเปรียบได้กับขุมพลังงานของเซลล์ทั่วร่างกาย โดย CoQ10 ทำหน้าที่เป็นตัวร่วมจุดประกาย การเกิดปฏิกิริยาเคมีที่สำคัญในกระบวนการสร้างพลังงานของ Mitochondria แห่งเซลล์ของกล้ามเนื้อ
CoQ10 ถูกพบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง ซึ่งจะมีจำนวน Mitochondrial มาก เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต และตับอ่อน โดย CoQ10 มีบทบาทสำคัญ ในการขนส่งอิเล็กตรอนใน Mitochondria และการสร้าง Adrenosine triphosphate (ATP)
CoQ10 มีคุณสมบัติในการเป็น Membrane Stabilizing โดยตรง จากบทบาทหน้าที่ของ CoQ10 จึงมีความสำคัญต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ เพราะหัวใจต้องทำงานตลอดเวลา โดยมีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนที่แสดงให้เห็นว่า CoQ10 ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น ถ้าหากขาด CoQ10 กล้ามเนื้อหัวใจจะอ่อนแรงลงและทำงานได้ไม่ดี ทำให้มีการใช้ CoQ10 เกี่ยวกับการช่วยบำรุงหัวใจอย่างกว้างขวาง
ถ้าให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพ CoQ10 ก็เปรียบเสมือนหัวเทียน ที่คอยจุดประกายให้เครื่องยนต์ทำงานได้นั่นเอง
CoQ10 ช่วยลดริ้วรอยและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง
บทบาทอีกอย่างหนึ่งของ CoQ10 คือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถลดริ้วรอยและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง
CoQ10 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองโดยธรรมชาติ ปัจจุบัน CoQ10 จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องที่ช่วยในการลดริ้วรอย ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังที่ได้รับจากแสงแดด
กล่าวคือ ผิวหนังมีหน้าที่ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ เชื้อโรค สารพิษ
โดยรังสีอุลตราไวโอเลต มี 2 ชนิด คือ UVA และ UVB แต่ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดริ้วรอยจะเป็นรังสี UVA โดย UVA สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังถึงชั้นหนังแท้ และเริ่มต้นในการผลิตอนุมูลอิสระ โดยผลิตจากกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) และอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นก็จะทำอันตรายต่อไขมัน โปรตีน และสารพันธุกรรม (DNA) ในเซลล์ผิวหนัง รวมถึงการทำลายของคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแห้ง ดูไม่มีน้ำมีนวล และเกิดริ้วรอย หมองคล้ำได้
แต่ร่างกายเรามีกระบวนการป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระดังกล่าวโดยกระบวนการทางธรรมชาติ โดยที่ผิวหนังคนเราจะมีสารที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดชั่น (Antioxidant) เช่น วิตามินอี วิตามินซี โดยสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้เกิดกระบวนการออกซิเดชั่นที่จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนัง
มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับผลของ CoQ10 ต่อการลดริ้วรอยว่าสามารถทำให้ความลึกของริ้วรอยลดลง ซึ่งหมายถึง ทำให้ริ้วรอยนั้นตื้นขึ้นได้นั่นเอง
เราสามารถพบสาร CoQ10 ในอาหารตามธรรมชาติได้ที่ไหนบ้าง
เราสามารถพบ CoQ10 ได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ไข่ ถั่วเปลือกแข็ง งา ข้าวกล้อง และ เครื่องในสัตว์
ทำไมเมื่อเราอายุมากขึ้นเราจึงควรได้รับ CoQ10 เพิ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าร่างกายจะสามารถสังเคราะห์ CoQ10 ได้เอง แต่ความสามารถนี้จะลดลง เมื่ออายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป โดยที่ปริมาณที่ร่างกายเราต้องการ CoQ10 ในแต่ละวันกลับไม่ลดลง
ถ้าต้องการทาน CoQ10 เพิ่มเป็นอาหารเสริมควรทานเท่าไหร่ต่อวันดี
ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดปริมาณ CoQ10 มาตรฐานที่ร่างกายต้องการต่อหนึ่งวัน แต่ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า ขนาดที่ควรรับประทานเพื่อจุดประสงค์เป็นอาหารเสริมคือ 30 – 90 มิลลิกรรมต่อวัน