.
ตะกร้า [0]
เลือกภาษา
วันที่สร้างเว็บ :9/8/2010
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :16/3/2013
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :743289
เข้าสู่เว็บเข้าสู่เว็บARTDEE
เข้าสู่เว็บเข้าสู่เว็บwww.bangkokcoach.com
เสื้อผ้าเด็กราคาถูก  เสื้อผ้าเด็กน่ารักๆ
เข้าสู่เว็บเข้าสู่เว็บสติ๊กเกอร์น่ารักpav_koi@hotmail.com  086-9122690
เสื้อผ้าเด็กพร้อมส่ง แบบน่ารักๆ ราคาไม่แพง
Pr.mamashop > <
(1) ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ "หนุ่มเมืองจันท์"
บทความ ณ. วันที่ : 18/10/2011        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 772 ครั้ง   

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

"หนุ่มเมืองจันท์"

เจ้าชายจิกมี

ก่อน หน้านี้เคยมีคนเล่าเรื่องประเทศภูฏานให้ผมฟังเหมือนกันทั้งเรื่อง "ดัชนีวัดความสุข" และเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติของประชาชนในประเทศนี้

มีน้องคนหนึ่งบอกว่าเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งหนึ่งในภูฏาน

หมู่บ้านนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ วันหนึ่งรัฐก็เริ่มตั้งเสาและลากสายไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน

ยามค่ำคืนหมู่บ้านนี้จึงเริ่มมีแสงไฟสว่างไสวแทนความมืดมิด

จนวันหนึ่งมีนกบินไปเกาะสายไฟฟ้าแล้วถูกไฟดูดตาย

ความตายของนก 1 ตัวกลายเป็นเรื่องใหญ่ของหมู่บ้าน

ชาวบ้านนัดประชุมกัน หลังจากถกเถียงกันพักใหญ่ชาวบ้านก็ลงมติยกเลิกไม่ใช้ไฟฟ้า

ยอมทนมืดต่อไป เพราะไม่อยากให้มีนกตายเพิ่มขึ้นอีก

วิธีคิดของเขาน่ารักจริงๆ

จากนั้นหมู่บ้านนี้ก็เกิดปัญหาใหม่ ประชากรในหมู่บ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เพราะตอนกลางคืนไม่มีอะไรทำ

พูดเล่นครับ

"อมร" เขาจินตนาการต่อตามประสบการณ์ของเขาแล้วมาเล่าให้ผมฟัง

เรื่องราวของประเทศภูฏานก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีคนรู้มากนัก จนเจ้าชายจิกมีเสด็จเยือนเมืองไทย

"ภูฏาน" กลายเป็นประเทศที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี

สื่อต่างๆ เขียนถึง "ภูฏาน" ในทุกแง่มุมอย่างละเอียด

ภาพพจน์ของ "ภูฏาน" ในวันนี้คือประเทศเล็กๆ ที่งดงาม รักษาธรรมชาติและวัฒนธรรมเป็นอย่างดี

คิดภาษีนักท่องเที่ยวแพง เพื่อจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้มากเกินไป

และที่สำคัญเชื่อว่าสาวๆ คงคาดหวังว่าหนุ่มๆ ที่นั่นจะหน้าตาดีเหมือนเจ้าชายจิกมี

ในเชิงการตลาดต้องบอกว่าการมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้ของเจ้าชายจิกมีถือว่าคุ้มมาก

ไม่เสียเงินลงโฆษณาสักบาทเดียว แต่ทำให้คนไทยจำนวนมากรู้จักประเทศภูฏาน

และอยากไปเที่ยว "ภูฏาน"

ถ้าเป็นหนังโฆษณาก็ต้องถือว่าเป็นโฆษณาที่แรงมาก

ไม่ใช่แค่ทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์นี้เพิ่มมากขึ้น แต่ยังทำให้เกิดความรู้สึกอยากบริโภคอีกด้วย

ปรากฏการณ์ "ภูฏานฟีเวอร์" ครั้งนี้ทำให้ผมนึกถึง "K-MARKETING" ของเกาหลีที่เขาใช้ละครเป็นหัวหอกกระตุ้นให้คนอยากไปเที่ยวเกาหลี

"แดจังกึม" ทำให้อาหารเกาหลีฮิตขึ้นมาทันที

หนังรักๆ ของเขาก็ทำให้คนอยากไปเห็นสถานที่ที่เป็นฉากละครโรแมนติกเรื่องนั้น

"ภูฏานฟีเวอร์" ก็เกิดจากความแรงของเจ้าชายจิกมีที่ไม่ใช่ "เจ้าชายในฝัน" ในละครโทรทัศน์

แต่เป็นเจ้าชายจริงๆ

ความแรงของเจ้าชายจิกมีทำให้คนไทยอยากไปเที่ยวภูฏาน

เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ผมชักอยากลองให้ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี

นึกดูสิครับ ไปเยือนประเทศไหน สาวๆ ประเทศนั้นก็กรี๊ด

เขาน่าจะเป็นทูตด้านการท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี

ประหยัดงบประมาณการโฆษณาการท่องเที่ยวได้หลายร้อยล้านบาททีเดียว



กระแสความแรงของเจ้าชายจิกมีแห่งภูฏานนั้นดูได้จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

คลื่นวิทยุแห่งหนึ่งเพิ่งจัดแคมเปญพาคนฟังไปเที่ยวภูฏาน

ส่วนบริษัททัวร์ก็บอกว่ามีคนโทรไปถามเรื่องทัวร์ภูฏานเยอะมาก

นิตยสารการเมืองรายสัปดาห์ทั้ง "มติชนสุดสัปดาห์-เนชั่นสุดสัปดาห์-สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์" ฉบับที่ผ่านมาก็ทนกระแส "จิกมีฟีเวอร์" ไม่ไหว

ขึ้นปกตรงกันหมด

ตามปกติเวลาสาวๆ คลั่งไคล้หนุ่มฮอตคนไหน ส่วนใหญ่พวกผู้ชายจะเกิดอาการหมั่นไส้เล็กๆ

แต่สำหรับเจ้าชายจิกมีแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีหนุ่มคนไหนหมั่นไส้เท่าไรนักแม้สาวๆ รอบข้างจะกรี๊ดแบบถล่มทลาย

อาจเป็นเพราะเจ้าชายจิกมีไม่เก๊กหล่อ แถมยังสุภาพ เรียบร้อย มีน้ำใจ ไม่ถือพระองค์

ผู้ชายส่วนใหญ่จึงพอทำใจยอมรับได้

ที่สำคัญท่านอยู่เมืองไทยไม่กี่วัน เดี๋ยวก็กลับแล้ว

ระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้พอทนไหว

เรื่องราวของเจ้าชายจิกมีในแง่มุมน่ารักมีออกมาอย่างต่อเนื่องตามสื่อต่างๆ

เจ้าหน้าที่ที่ติดตามเจ้าชายจิกมีบอกว่าทุกคืนก่อนเข้าห้องพัก ท่านจะมากุมมือเจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมขอโทษที่ทำให้ทุกคนเหนื่อย

ม.จ.ภีศเดช รัชนี เล่าว่าหลังจากทานอาหารกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ท่านจะไปส่งเจ้าชายที่โรงแรม

แต่เจ้าชายจิกมีบอกว่าเป็นเด็กต้องไปส่งผู้ใหญ่ก่อน

ฟังแต่ละเรื่องแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงเกิดกระแส "จิกมีฟีเวอร์"

คนอะไรหล่อแล้วยังน่ารักอีก

ไม่น่าเชื่อว่าโลกนี้จะมีคนแบบนี้ถึง 2 คน

คนไทยเวลาออกเสียงชื่อเจ้าชายจิกมี จะเรียกว่าเจ้าชายจิ๊กมี

หรือบางคนก็เพี้ยนสูงเพียง "จิ๊กมี่"

"อมร" ได้ยินชื่อเจ้าชายครั้งแรกก็วิพากษ์วิจารณ์เลยทั้งที่ยังไม่เห็นหน้า

"ต้องเป็นคนเจ้าชู้แน่นอน"

"ทำไมล่ะ" ผมถามแบบงงๆ

"ชื่อบอกชัดเลย จิ๊กมี...ขโมยฉันเถอะ"

มิน่า เจ้าชายจิกมีจึงเป็นคนมือไว

ท่านยกมือไหว้เร็วมากเลยครับ

"สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" ยังหลุดปากเลยว่าตอนที่เข้าเฝ้าสิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวว่าจะยกมือไหว้ไม่ทันเจ้าชาย

พูดถึงเรื่อง "ไหว้" สังเกตไหมครับว่าเจ้าชายจิกมีเป็นคนที่ไหว้สวยมาก

ไม่ใช่ท่าไหว้

แต่ทั้งหน้าตา รอยยิ้ม และการไหว้ทำให้เรารู้สึกว่าท่านไหว้ออกมาจากใจ

อย่าแปลกใจ ที่ช่วงหลังผมจะยกมือไหว้คนบ่อยขึ้น

เวลาใครถามผมก็จะตอบแบบถ่อมตัว

"ฝาแฝดครับ"