ไปเยี่ยมลูกค้าที่ แจใจการเกษตร กาฬสินธุ์

ได้รับฟังข้อมูลดีๆจากพี่ เมธี อำไพพิศ วท.(เกษตรศาสตร์ ) เจ้าของฟารม์

ว่าหลังจากได้ใช้ AIRSTONE O2  ลูกปลาที่ทางฟารม์ อนุบาลน้ัน ได้ผลปลา

รอดถึง 95% จากที่ผ่านมาน้ัน อัตราการรอดจะอยู่ 70% แต่ถ้าอยู่ในช่วงที่ฝนตก อัตราการรอดแค่ 50%

หลังจากได้ฟังผมจึงรีบน่ังเครื่องบินไปขอนแก่น ทันที

พี่เมธี เล่าว่าเปิด AIRSTONE ในช่วงกลางคืน ถึงเช้ามืดเพราะเป็นช่วงที่ ออกซิเจนในน้ำต่ำ พี่เมธี ได้วัดค่า ออกซิเจน ( DO )ทุกวันในช่วงกลางคืน ปรากฏว่าค่าออกมา 5 เสมอกันทุกวัน ซึ่งถือว่ามีออกซิเจนละลายในน้ำสูง ถ้าเป็นหัวทรายท่ัวไป ค่า DO ในตอนกลางคืนจะแค่ 2 เท่าน้ัน

น้ำในบ่อที่ใช้ AIRSTONE O2 น้ันมีแรงกระเพื่อมของน้ำน้อย เนื่องจากฟองอากาศที่ออกมาน้ันเป็นฟองที่

ละเอีอดมาก ทำให้ปลาไม่เครียด ขึ้นมาว่ายเล่นอยู่ที่ผิวน้ำตลอดเวลา ต่างจาก หัวทรายท่ัวไป ที่ให้ฟองอากาศที่ใหญ่ ทำให้น้ำกระเพื่อไปท่ัวทั้งบ่อ ปลาจึงไม่ข้ึนมาว่ายน้ำให้เห็น

เมื่อปลามี สุขภาพที่ดีจึงทำให้กินเก่งเห็นได้จากในรูปลูกปลาข้ึนมา กินอาหาร

หลังจากนั้นจึงได้ถาม พี่เมธี ถึงความคุ้มค่า ที่ใช้ AIRSTONE 02 ที่มีราคาสูงกว่า ทัวทรายท่ัวไปมาก

จึงได้รับคำตอบว่า หัวทราย น้ันราคา อันละ 2.5 บาทก็จริงแต่ในหนึ่งบ่อ ต้องใช้ 48 ตัว เมื่อใช้ไปเพียงไม่กี่คร้ัง

ก็ต้องทิ้ง เนื่องจากอุดตัน และเมื่อนำมาทำความสะอาด รูของหัวทรายจะใหญ่ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้

ส่วน AIRSTONE O2 น้ันใช้มาหลายรอบการเก็บลูกปลา ยังไม่พบว่ามีการอุดตันแม้แต่น้อย สังเกตได้จาก AIRSTONE ที่อยู่ในมือ ของพี่เมธี ฝ่านการใช้งานมาหลายครั้ง ยังคงสภาพเดิมไม่อุดตัน

จึงทำให้คุ้มค่ากว่ามากในระยะยาว แถม อัตราการ รอดของลูกปลา อยู่ที่ 95% แต่หัวทรายท่ัวไปในสภาพที่สมบูรณ์ ทำได้ 70%

ถ้าลูกปลาตัวละ 1 บาท  ก็จะทำให้ได่เงินมากขึ้นคร้ังละ  25,000 บาท ต่อ บ่อ ในหนึ่งบ่อ พี่ เมธี ใช้ AIRSTONE O2 เพียง 4 แท่ง ซึ้งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

หากมีข้อสงสัยในการใช้งาน ก็สามารถโทรไปปรึกษา พี่ เมธี ได้ครับที่ เบอร์ 043-811-078